ผลประกอบการ Nvidia ในไตรมาสที่ 3 (สิ้นสุดในเดือนตุลาคม) ของปีนี้ มีรายได้ 5.93 พันล้าน$ (ราว2.1แสนล้านบาท) ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 17%

อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ลดลงเหลือ 53.6% ซึ่งสาเหตุหลักมาจากค่าจัดการสินค้าคงคลัง เนื่องจากความต้องการชิปสำหรับศูนย์เก็บข้อมูลในประเทศจีนลดลง

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Nvidia เตรียมพร้อมรับมือปัญหาออเดอร์หดหาย และปัญหาชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ล้นตลาด โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาทางบริษัทเผยว่าจะลดการจ้างพนักงานลง เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจ

ตลาดคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกมนั้นหดตัวลงหลังจากช่วงวิกฤตโรคระบาด จากที่การ์ดจอขาดตลาดในปี 2020 และ 2021 พอมาในปีนี้การ์ดจอถูกวางขายมากจนมีโปรโมชั่นลดราคาเลยทีเดียว

รายได้จากฝ่ายเกมมิ่งของ Nvidia ในไตรมาสที่ 3 มียอดขายอยู่ที่ 1.57พันล้าน$ (ราว5.6หมื่นล้านบาท) ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 51% เนื่องจากบริษัทมีสินค้าในสต็อกมากกว่าความต้องการของตลาด

ทั้งนี้รายได้จากธุรกิจศูนย์เก็บข้อมูล (data center) เติบโตขึ้น 31% โดยมีรายได้อยู่ที่ 3.83 พันล้าน$ (ราว1.37แสนล้านบาท) ซึ่งได้อานิสงส์จากธุรกิจคลาวน์ในสหรัฐฯ ที่เติบโตขึ้น

นอกจากนี้สืบเนื่องจากนโยบายแบนการส่งออกชิปขั้นสูงให้แก่บริษัทจีน ทำให้บริษัทสูญเสียรายได้ไป อย่างไรก็ดีทาง Nvidia เผยว่ายอดขายชิปที่ลดลงในประเทศจีนสามารถชดเชยได้ด้วยผลิตภัณฑ์อื่น

ได้แก่

ชิปสำหรับผลิตภาพเคลื่อนไหว (visualization) ที่สร้างรายได้ 200 ล้าน$ (ราว7.1พันล้านบาท)

ชิปรถยนต์ที่สร้างรายได้ 251 ล้าน$ (ราว9พันล้านบาท)

ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ที่มีรายได้ 73 ล้าน$ (ราว2.6พันล้านบาท) ที่รวมไปถึงชิปสำหรับขุดคริปโทเคอเรนซี่

SOURCE