OnePlus เปิดตัว OnePlus 13 ในประเทศจีน มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite ใหม่ หน้าจอ BOE ระดับเรือธง การป้องกันระดับ IP69 และยังมีปุ่มสไลด์ปรับการแจ้งเตือน 3 ระดับที่ด้านข้างตัวเครื่อง
ตัวเครื่องมีหน้าจอ BOE X2 OLED (8T LTPO) ขนาด 6.82 นิ้ว ความละเอียด 1440p และรีเฟรชเรทปรับได้ 1-120Hz ความสว่างทั่วไป 800 nits ในขณะที่ความสว่างสูงสุดสูง 4,500 nits หน้าจอเป็นแบบโค้ง 2.5D แบบ 4 ด้าน หน้าจอดูแบน แต่มีขอบโค้งเล็กน้อยทั้งสี่ด้าน หน้าจอได้รับการจัดระดับโดย DisplayMate ในระดับ A++ นอกจากนี้ หน้าจอยังรองรับ Dolby Vision และใช้กระจก Crystal Shield super ceramic รวมทั้งมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออัลตร้าโซนิค
ชิปใช้เป็น Snapdragon 8 Elite ที่ทำคะแนนบน AnTuTu ได้ 3.18 ล้านคะแนน มาพร้อม RAM LPDDR5X สูงสุด 24GB และความจุ UFS 4.0 สูงสุด 1TB
OnePlus 13 กันน้ำและกันฝุ่น IP69 ซึ่งกำลังกลายเป็นเทรนด์ของเรือธงจีน มันเหนือกว่าการจัดอันดับ IP68 โดยรวมถึงการรองรับของเหลวแรงดันสูงและการทำความสะอาดด้วยไอน้ำ
ตัวเครื่องยังมาพร้อมมอเตอร์สั่นแบบใหม่พร้อม “ฟีดแบ็คระดับคอนโทรลเลอร์เกม” ด้วยปริมาตร 602 ลบ.มม. OnePlus เคลมว่านี่เป็นมอเตอร์สั่นขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยใส่ในโทรศัพท์ Android นอกจากนี้ มาพร้อมลำโพง Stereo รองรับ Dolby Atmos และมีไมโครโฟน 4 ตัว
ด้านหลังของ OnePlus 13 มีกล้อง 3 ตัวแบรนด์ Hasselblad ความละเอียด 50MP กล้องหลักเทียบเท่า 23 มม. ใช้เซ็นเซอร์ Sony LYT-808 พร้อม OIS + กล้องเพอริสโคป 3x (LYT-600) ช่วงโฟกัสเทียบเท่า 73 มม. + กล้อง ultra-wide มุมกว้าง 120 องศา เทียบเท่า 15 มม. ใช้เซ็นเซอร์ Samsung S5KJN5 ซึ่งทำหน้าที่เป็นเลนส์มาโครด้วย
ระบบปฏิบัติการใช้เป็น ColorOS 15 บนพื้นฐาน Android 15 สำหรับตลาดจีน ในขณะที่ตัวเครื่องในตลาดสากลคาดว่าจะเปิดตัวพร้อม OxygenOS 15
แบตเตอรี่ใช้เป็นแบบซิลิคอน-คาร์บอนขนาด 6,000mAh พร้อมการชาร์จเร็ว 100W ที่ชาร์จแบตจาก 0-100% ในเวลา 36 นาที และชาร์จไร้สาย 50W
OnePlus 13 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว ที่มีบอดี้กระจก silk glass, สีดำ ที่มีบอดี้กระจก ebony wood grain และสีน้ำเงิน ที่ใช้บอดี้หนัง velvet ที่เป็นมิตรต่อผิวหนัง ราคาในจีนเริ่มต้นที่
- 4,499 หยวน (ประมาณ 21,300 บาท) ในรุ่น 12/256GB
- 4,899 หยวน (ประมาณ 23,300 บาท) ในรุ่น 12GB/512GB
- 5,299 หยวน (ประมาณ 25,100 บาท) ในรุ่น 16GB/512GB
- 5,999 หยวน (ประมาณ 28,500 บาท) ในรุ่น 24GB/1TB
การวางขายในจีนเริ่มในวันที่ 1 พฤศจิกายน ในขณะที่รายละเอียดการวางจำหน่ายในต่างประเทศจะเปิดเผยในภายหลัง