Asus TUF ถือว่าเป็นรุ่นที่ทำได้คุ้มราคาสำหรับแบรนด์ Asus ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่สนใจด้านสเปคแต่ไม่ได้เน้นเรื่องของไฟ RGB อะไรมากนักแตกต่างกับ ROG นั้นเอง สำหรับ Asus TUF ตัวใหม่นี้ได้มีการปรับปรุงมาหลากหลายและหลักๆคือส่วนของตัว หน้าจอ ไฟ และ ดีไซน์ ขอบจอทำได้บางมาก ดูดีขึ้นเยอะ และตัวนี้มาพร้อมจอที่ 144Hz และ 100 sRGB เลยนั้นเองครับ นั้นก็คือรุ่น ASUS TUF Gaming FX505 15.6 นิ้ว และ FX705 17.3 นิ้ว
TUF Gaming FX505/FX705 SPEC
- CPU 8th Gen Intel® Core™ i7-8750H 8th Gen Intel® Core™ i5-8300H
- FX505: 15.6″ FHD NanoEdge wide-view display up to 144Hz and 100% sRGB FX705: 17.3″ FHD NanoEdge wide-view display up to 144Hz and 100% sRGB
- Operating system Windows 10
- Graphics Up to NVIDIA® GeForce® GTX 1060
- Main memory Up to 32GB DDR4 2666MHz
- Storage Up to 512GB PCIe® SSD Up to 1TB FireCuda™ SSHD
- Connectivity Intel® 2×2 MIMO 802.11ac Wave 2 Wi-Fi Bluetooth® 5.0
- Camera HD webcam
- I/O ports 2 x USB 3.1 Gen1 1 x USB 2.0 1 x HDMI 2.0
- Keyboard and touchpad 1.8mm key travel Customizable RGB or red backlighting
- Audio DTS Headphone:X™
- Battery 48Wh Lithium-polymer battery (FX505) 64Wh Lithium-polymer battery (FX705)
- AC adapter 120W Power adaptor (GD/GE) 180W Power adaptor (GM)
- Weight 2.2 kg (FX505); 2.6kg (FX705)
ASUS TUF Gaming โดยปกติแล้วมันจะมีราคาที่คุ้มค่า สเปคดีแรง แต่ไม่เน้นการออกแบบที่หวือหวามากนักครับ แต่มันก็ยังเหมาะกับสายเกมเมอร์ที่เน้นสเปคมากๆอยู่ดี แน่นอนว่าตัวนี้มีการพัฒนาขึ้นมากในเรื่องของการออกแบบครับ ส่วนเรื่องของสเปคแน่นอนว่า พัฒนาแน่ๆเช่นการใช้ เริ่มต้นจะเป็น i5-8300H พร้อมด้วย GTX 1060 แต่ถ้าตัวรุ่นสูงสุดจะเป็น i7-8750H พร้อมด้วย GTX 1060 เช่นเดียวกันครับ รวมถึง 32GB DDR4 RAM และ 512GB PCIe NVMe SSD ซึ่งหน้าจอได้อัพเกรดมาทั้งคู่เป็นจอ FULL-HD IPS 144HZ และ ขอบจอบางพิเศษแบบ NanoEdge ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยกันดีในหลายๆรุ่นครับ ต้องบอกว่าทำให้ตัวเครื่องมันดูดีขึ้นเยอะเลยจริงๆ
สำหรับตัว รุ่นย่อยแต่ละรุ่นนั้นจะมีเช่น FX505 3 แบบคือ Red Matter, Gold Steel และ Red Fusion สีและการตกแต่งจะแตกต่างกันครับ ส่วนรุ่นพิเศษที่สวยสุดน่าจะเป็น Gold เพราะว่า ปุ่ม WSAD เป็นแบบใสคล้ายรุ่นพี่ SCAR เลยแหละและยังมาพร้อมไฟ RGB ด้วยครับ ซึ่งรุ่นอื่นๆจะเป็นแค่สีเดียวสีแดงดังภาพ และปุ่มไม่ใสครับ ส่วนวัสดุทั้งหมดจะเป็นพลาสติกเกรดดีที่ได้การรับรอง MIL-STD-810G มาตรฐานทางการทหารที่มีความเข้มงวด สำหรับความมีเสถียรภาพและความทนทานที่เหนือกว่ามาตรฐานทั่วไปในอุตสาหกรรมเลยทีเดียวไว้ใจได้ครับ
ในเรื่องของคียบอร์ด นั้นมี ระยะการกดที่สูงถึง 1.8 มม. และ Overstroke เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของ ASUS ที่ทำให้ระยะทำการของการกดอยู่สูงขึ้นเพื่อให้มีการตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งการออกแบบทั้งหมด ทำให้หน้าสัมผัสของปุ่มมีความโค้งเว้า, ปุ่มลูกศรวางแยกตำแหน่งจากปุ่มอื่นๆ และในรุ่น GOLD ไฟส่องสว่างนั้นมาในรูปแบบของสี RGB แบบเลือกปรับได้หรือสีแดงสว่างที่เข้ากับลวดลายบนตัวเครื่อง เลยนั้นเองครับต้องบอกว่าตัวระยะปุ่มทำได้ดีกว่าเดิมแบบรู้สึกได้เลยแหละ แต่ถ้าอยากได้ไฟสวยๆและปุ่มใสนั้นจะต้องจัดรุ่น Gold เท่านั้นเลย
ในรุ่น Gold steel ไฟสามารถปรับสีได้ และเห็นปุ่มใสถือว่าสวยงามมากครับ และในเรื่องของพอร์ทเชื่อมต่อนั้น ต้องบอว่าใกล้เคียงกับรุ่นเดิมครับจะเป็น 2 X USB 3.0 / 1 X USB 2.0 / HDMI / Lan / 3.5 มม ไมค์และหูฟัง แต่ที่น่าสนใจคือ ไม่มี Type-C หรือ SD Card reader มาให้นะครับสำหรับรุ่น FX505 ส่วนเรื่องระบายความร้อนก็ยังไว้ใจได้ เพราะว่ามี พัดลมและชุดฮีทซิ้งค์แบบแยกอิสระ อีกทั้งช่องระบายฝุ่นรุ่นนี้ก็ยังใส่ Anti-Dust Cooling มาให้นะครับทำงานอยุ่ข้างๆช่องระบายความร้อนหลักของตัวเครื่องนั้นเอง ฝุ่นไม่เกาะในส่วน ซิงค์แน่นอน
สำหรับ รุ่นใหญ๋ FX 705 ตัวใหญ่จัดเต็มรุ่นนี้ ที่จริงนั้นอาจจะบอกได้เลยว่า ฟีเจอร์ระบายความร้อน จอภาพสวยๆ 144 Hz และ อื่นๆอีกมากมายคล้ายกับตัว FX505 อย่างมากแต่ได้จอใหญ่กว่าเดิมขอบก็บางเช่นกัน และที่น่าสนใจถ้าเรามองจากภาพด้านบน นี้ก็คือดีไซน์ คียบอร์ด สีไฟ และปุ่มใสมาครบมากสวยงามอีกทั้งยังมีการใช้วัสดุอลูมิเนียมในส่วนของฝาหลังตัวนี้และ มีไฟบนโลโก้ ASUS ในฝาหลังสีแดงซะด้วยครับ ส่วนวัสดุตรงแป้นข้างในยังคงเป็นพลาสติกนะ ส่วนการเชื่อมต่อ ทั้งรุ่น FX505 / 705 ก็ได้พัฒนาขึ้น เพราะมีพอร์ท gigabit Ethernet สำหรับเกมเมอส์ที่ต้องการความเป็นที่สุด, และแน่นอน สำหรับไร้สายก็จัดเต็มให้ มาพร้อมกับ Intel’s 2×2 MIMO 802.11ac Wave 2 Wi-Fi, ที่สามารถให้ความเร็วในการเชื่อมต่อสูงสุดถึง 1.73Gbps ถือว่าไม่กั๊กสเปคเลย
อีกจุดนึงที่ทั้ง 2 รุ่นมีความน่าสนใจก็คือเรื่องของเสียงลำโพง และ หูฟังนั้น ก็ยังใส่ เทคโนโลยี DTS Headphone:X® จัดมาให้สำหรับเสียงที่จะมีมิติและ เสียงที่ดีกว่าเดิม ตัวลำโพงถือว่าทำได้ดีครับ ส่วนเรื่องระบายความร้อนพอร์ทต่างๆตัวนี้เหมือนกับ FX505 แทบจะทุกจุดครับเพราะหลักๆมันคือการขยายหน้าจอมาให้มากกว่าเดิม ส่วนเรื่องของขนาดและน้ำหนัก 2 ตัวนี้จะหนักต่างกัน 0.4 Kg นะครับ รุ่นเล็กหนัก 2.2 รุ่นใหญ่หนัก 2.6 ก็ถือว่าปกติได้สำหรับ Notebook gaming ที่ไม่ได้เน้นพกพาครับ แต่ขนาดก็ถือว่าทำได้ดีกว่าเดิมเพราะขอบจอมันบางลง
และแน่นอนครับการ Preview ครั้งนี้ต้องขอขอบคุณทาง ASUS อย่างมากที่เชิญทาง Techhangout ไปร่วมงานและนำภาพมาฝากแพนเพจกันนะครับ ยังไงสำหรับรุ่นนี้ นั้นยังไม่มีกำหนดการ ราคา และ วันวางจำหน่ายชัดเจนนะครับ แต่ก็สามารถติดตาม Techhangout ได้เลยเราจะมาอัพเดททันทีที่วางขายกัน