AUDI ประเทศไทยโดย Meister Technik ผู้แทนจำหน่ายที่ต้องบอกว่าเป็นปีที่ AUDI ลุยตลาดกันอย่างต่อเนื่องจริงๆครับทั้งเรื่องของ ตระกูลแรง RS หรือแม้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหลาย และทำราคารวมถึงขยายศูนย์อะไรได้เรื่อยๆเลยเป็นการเปลี่ยนแปรงที่ชัดเจนจริงๆ และในครั้งนี้ AUDI เองก็ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ 3 รุ่นเน้นๆในตระกูล Q3 ทั้งหมด ออกมาตอบโจทย์ที่ลงตัวมากขึ้น ทั้งรหัส 40 ที่มาพร้อมกับพละกำลังที่ดีขึ้น การขับเคลื่อนที่ไวมากขึ้น และแน่นอนว่า ฟีเจอร์ งานออกแบบที่จัดเต็มมากขึ้นกว่าเดิมชัดเจน และ ยังคงเอา RS รุ่นใหม่ล่าสุด RS Q3 ที่เป็น RS รุ่นที่ 4 ในไทยแล้วและเป็นรุ่นที่ราคาถูกที่สุดในตระกูล RS ในตอนนี้ ต่อเนื่องจาก TT RS – RS4 – RS Q8 นั้นเองส่วนในรุ่นปกติ 40 TFSI นั้นก็มีการใส่ Black Edition เข้ามาทำให้การตกแต่ง ออกแบบนั้นเปลี่ยนจากเดิมเช่นกัน
ในเรื่องของความแตกต่างที่มองจากรุ่น 35 นั้นจะมีอะไรหลักๆจริงนั้นจะเป็นเรื่องของกำลัง พละกำลังที่แรงขึ้น ไวมากขึ้นและ ตอบสนองได้ดีมากขึ้นนั้นเองใช้งาน เครื่องยนต์เป็น EA888 ขนาด 2.0 เทอร์โบ 180 แรงม้า 320 นิวตันเมตร และได้ปรับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ เป็น 7 จังหวะ S Tronic ที่ตอบสนองได้ดีมากขึ้น กระชับมากขึ้น และแน่นอนว่า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ใส่เข้ามาให้ทำให้มันออกมาแก้จุดด้อยในรุ่น 35 ทั้งหมด ตัวรถไวขึ้น ขับขี่ดีมากขึ้น และ ช่วงล่างระบบขับขี่ที่ดีขึ้น และยังเพิ่ม ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control +Start/Stop System เข้ามา ส่วนในเรื่องของงานออกแบบนั้นได้ Black Edition เสริมเข้ามาพร้อมกับ ล้อลายใหม่ ขนาดใหม่ รวมถึงการตกแต่งใหม่ในหลายๆส่วน แต่ทางด้านภายใน ฟีเจอร์อะไรนั้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาก
ส่วนตัว RS นั้นแน่นอนว่าตัวแรง 0-100 แค่ 4.5 วินาที เท่านั้นมาพร้อมกับการออกแบบใหม่ทั้งหมด และฟีเจอร์อะไรใส่เข้ามาแน่นมากขึ้นครับ เครื่องยนต์เบนซิน TFSI 5 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบพละกำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ Dual-Clutch 7 จังหวะ (S Tronic) ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro และ การตกแต่งล้อ 21 นิ้ว คาลิปเปอร์เบรก สีแดง รวมถึง หลังคา Panoramic Sunroof และ ไฟหน้าแบบ Matrix LED ที่แตกต่างกว่าเดิม รวมถึงภายในทั้งการตกแต่งคาร์บอน และ รูปทรงเบาะ วัสดุ Alcantara ต่างๆมากมาย อีกทั้งการตกแต่งด้ายแดงในหลายๆส่วน และแน่นอนว่าเรื่องของเสียงท่อ เครื่องนั้นมีความดังสะใจมากขึ้น
EXTERIOR
งานออกแบบภายนอกจริงๆถ้าหากมองแค่ดีไซน์เส้นสายจะยังคงเหมือนกับทาง 35 TFSI S-Line แต่จะแตกต่างกับรุ่นไม่มี S-Line ชัดเจนครับ แต่ในรุ่นนี้จะเป็นการเสริม แทรกสีดำแทนสีเงินทั้งหมด แต่โลโก้ยังคงเป็นสีเงินเช่นเดิมเพราะว่าทางโลโก้ดำนั้นไว้ให้กับ RS เท่านั้นครับ แน่นอนว่าการตกแต่งสีดำทำให้มันดูดุดันกว่าเดิมแบบชัดเจนและอยู่กับตัวรถสีเทาหรือสีสว่างก็ยิ่งเด่นชัดมากขึ้นครับ ส่วนรูปทรงไฟหน้า ช่องดักลมอะไรนั้นยังคงดีไซน์เดิมทั้งหมด
ล้อขนาด 19 นิ้วยังคงเป็นขนาดเดิมแต่มาพร้อมกับลายใหม่และมีการเล่น 2 พื้นผิวมาให้แล้วครับหลังจากที่รุ่นก่อนๆยังคงเป็นสีเงินธรรมดา แต่ในรอบนี้มีการปัดเงามามากขึ้นสวยมากขึ้น พื้นหลังโลโก้สีดำ พร้อมกับเขียน Audi Sport เสริมเข้ามา อีกทั้งยังคงเป็น 5 ก้าน ยางขนาด 255/45 R19 แต่ดีไซน์ใหม่สวยกว่าเดิมเยอะครับในรุ่น ปกติ ส่วนดีไซน์ภาพรวมก็เปลี่ยนในเรื่องของสีราวหลังคาเป็นสีดำ รวมถึงช่องด้านล่างชองกันชนหลังก็เปลี่ยนโทนสีทั้งหมด แต่ไฟท้ายอะไรนั้นทั้ง 2 รุ่น และ รวมถึงในรหัส 35 ยังเป็นแบบเดิมทั้งหมด LED สวยงามพร้อมกับไฟแบบ Dynamic
ในรุ่น Sportback แน่นอนว่าดีไซน์ของเดิมก็สวยแล้วแต่ในรุ่นนี้การที่ได้กระจังหน้าเล่นโทนสีดำทำให้ดูดุดันมากขึ้นตัดกับโทนสีใหม่ของตัวรถได้ดีเป็นสีใหม่เฉพาะรุ่น Sportback เท่านั้นครับ และมีความแตกต่างกับรุ่นปกติในด้านบนก่อนหน้าชัดเจนครับในเรื่องของเส้นสายกระจังหน้า แต่ทางด้านไฟหน้า ช่องดักลมในด้านซ้ายขวานั้นจะเหมือนกันครับ รวมถึงเส้นสายไฟในด้านใน ไฟหน้าแบบ LED แต่จะไม่มี MATRIX LED มาให้นะครับในทั้ง 2 รุ่น 40 ตัวนี้
ล้อลายใหม่ และปรับขนาดใหม่จากเดิม 19 นิ้วเป็น 20นิ้วพร้อมกับเปลี่ยนเส้นสายงานออกแบบใหม่ เล่น 2 โทนสีโดดเด่นมากขึ้นพร้อมกับ 5 Twin Spoke เปลี่ยนยางให้หน้าสัมผัสมากขึ้นด้วยเช่นกันครับ ถือว่าทำให้ตัวรถนั้นดูดุดันกว่าเดิมแบบชัดเจนมากๆ แม้จะเป็น 5 ก้านเหมือนเดิมแต่ดีไซน์สวยขึ้นชัดเจนครับ ส่วนตัวยางมาพร้อมกับ255/40/20 นั้นเอง ส่วนการตกแต่ง Black Edition นั้นกระจกมองข้างต่างๆก็ได้รับการทำสีดำใหม่ทั้งหมด
ไฟหน้าไฟท้ายยังคงใช้งานตัวเดียวกันทั้งหมด รองรับ LED และไฟเลี้ยวแบบวิ่ง Dynamic ดีไซน์สวยงามเป็นเอกลักษณ์เช่นเดิมครับ รวมถึงการตกแต่งในชายกันชนล่าง ขอบด้านข้าง ขอบกระจกทั้งหมดจะเป็นสีดำทั้งหมดครับ
ในรุ่น 40 TFSI ทั้ง 2 ตัวนั้นจะมาพร้อมกับ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ EA888 ขนาด 2.0 ลิตร 1,984 ซีซี. พละกำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,900 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 1,400 – 3,940 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ S Tronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ที่พละกำลังนั้นดีกว่าเดิม และ 0-100 ใช้เวลาประมาณ 7.8 วินาทีครับ และ ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. มากขึ้นกว่าเดิมชัดเจน และ จะเห็นว่าแรงม้าดีขึ้นในรอบเครื่องที่ต่ำกว่าเดิม แรงบิดก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน
RS Q3
The New Audi RS Q3 Sportback quattro เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัด (Sport Compact SUV Coupé) ที่มีสมรรถนะสูง หล่อเข้มดุดัน ด้วยชุดตกแต่งภายนอกแบบ Glossy Black RS ตกแต่ง Audi Ring และชื่อรุ่นด้วยสี Glossy Black คาลิปเปอร์เบรกสีแดง กระจังหน้าลายรังผึ้งขนาดใหญ่สีดำเงา กันชนรูปทรงบูมเมอแรงที่ออกแบบมาพิเศษเฉพาะ สำหรับ The New Audi RS Q3 Sportback quattro นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่สะท้อนความสำเร็จของ Audi Sport GmbH ด้วยการออกแบบที่แตกต่าง ถ่ายทอดประสบการณ์การขับขี่เสมือนอยู่ในสนามแข่ง ขณะที่เมื่อใช้ในชีวิตประจำวันก็ขับสนุกไม่แพ้รถสปอร์ต ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 5 สูบ แถวเรียงในตำนาน พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (direct injection) เทอร์โบชาร์จ ซึ่งได้แรงบันดาลใจอันแรงกล้ามาจากสนามแข่งมอเตอร์สปอร์ต เทอร์โบ (2.5 ลิตร 20 วาล์ว) ที่ได้รับรางวัล International Engine of the Year Award ติดต่อกันถึง 9 ครั้ง ให้กำลัง 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุดของเครื่องยนต์ 480 นิวตันเมตร 1,950 – 5,850 รอบต่อนาที อัตราเร่งที่เหลือร้าย 0 ถึง 100 กม. / ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง เกียร์ S tronic 7 จังหวะ ผสมผสานระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ quattro เพิ่มแรงดึง แรงฉุดกระชาก ผ่านล้อทั้ง 4 ล้อโดยอิสระ ทำให้เสถียรภาพในการขับขี่ยึดเกาะถนนมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมรถแบบไดนามิก เสริมสร้างความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น (อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 10.8 กิโลเมตร/ลิตร การปล่อย CO2 214 g/km*) มีสีให้เลือกถึง 8 สี คือ Glacier white, Mythos black, Daytona grey, Nardo grey, Pulse orange, Turbo blue, Kyalami green และTango red สำหรับราคาที่เหนือความคาดหมาย คือ 4,750,000 บาท
งานตกแต่งรอบคันทั้งหมดนั้นเปลี่ยนแปลงชุดกันชนใหม่ในสไตล์แบบ RS รวมถึงล้อแบบใหม่ ท่อไอเสีย หลังคากระจกที่เสริมเข้ามา หรือจะเป็นสปอยเลอร์หลังสีดำที่เสริมเข้ามาครับ แน่นอนว่าเส้นสายในด้านหน้าส่วนตัวค่อนข้างชอบงานออกแบบของ RS ทุกรุ่นมันมีความดุดัน คมชัดสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองชัดเจน และยังคงใส่ช่องเหนือกระจังหน้าที่เป็นการออกแบบอิงจากรุ่น Supercar ที่จะเป็นช่องดักอากาศ 3 ช่องนั้นเองยังคงใส่เข้ามาให้ครับ ซึ่งรุ่นปกตินั้นจะไม่มีจะมีให้แค่ RS และตัวแรงๆเท่านั้น รวมถึงโลโก้ สี่ห่วงนั้นจะเป็นสีดำทั้งหมดเลยเช่นกันครับ และมี โลโก้ RS Q3 ในด้านหน้า และช่องดักลมขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้จริงครับ ส่วนไฟหน้านั้นจะเป็นทรงเดิม แต่เสริมความดำเข้ามาในโคม และระบบ MATRIX LED ใส่เข้ามาให้แล้วในด้านหน้า ส่วนในด้านข้างนั้นเส้นสายไม่ได้ต่างกับรุ่นปกติครับ แค่จะเป็นการเล่นสีดำขอบล่างและขอบกระจก รวมถึงกระจกมองข้างเช่นกัน ส่วนในด้านท้ายนั้นเปลี่ยนกันชมล่างใหม่ทั้งหมด ท่อไอเสียขนาดใหญ่ 2 ข้าง และข้างใน ออก ข้างละ 2พร้อมกับ ครีบรัดอากาศด้านหลังขนาดใหญ่ รวมถึงการตกแต่งสีดำ แต่ที่น่าเสียดายที่สุดคือ สปอยเลอร์สีดำแบบเล็กๆ คล้ายกับ Ducktail ที่ใส่เข้ามาแอบดูแตกต่างน้อยกับตัวเดิม รวมถึงในเรื่องของขนาดอะไรนั้นไม่ได้เด่นเท่าไรน่าจะทำให้ชัดมากกว่านี้จริงๆ
ล้อในรุ่นนี้จะเป็นขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล ให้มาเต็มๆที่ 21 นิ้วลาย 5V Spoke Polygon พร้อมกับ คาลิปเปอร์เบรคสีแดง RS ในด้านหน้า และ ด้านหลังสีแดง พร้อมกับยางขนาด 255/35/21 แน่นอนว่าเป็นล้อที่สวยและยังคงความเป็น RS ได้ดีการเล่นสีดำเงาตัดกับเงินสวยงามเห็นเบรคขนาดใหญ่พร้อมรูระบายความร้อนจัดเต็มครับ ส่วนในด้านในนั้นก็จะเป็นการเล่นตกแต่ง Carbon สวยงามมากขึ้นจากรุ่นปกติ แต่ฟีเจอร์นั้นยังคงคล้ายๆกับรุ่นปกติครับ แต่ก็ยังมีส่วนที่แตกต่างชัดเจนในหลายเรื่องเช่นกันในแง่ของ ระบบเสียง การตกแต่งทั้งหมด และ การแสดงผลรอบRS
งานออกแบบภายในตัว RS นั้นจะเพิ่มความดุดันเข้าไปในหลายๆส่วนทั้ง การเดินด้ายสีแดงในหลายๆส่วนทั้งพวงมาลัย เข็มขัด หรือจะเป็น หัวเกียร์ต่างๆเช่นกัน อีกทั้งการเสริมวัสดุหนัง Alcantara ทำให้เป็นหนังกลับทั้งหมดตรงพวงมาลัย ส่วนเบาะ และ ขอบประตูทั้งหลายเช่นกันครับอีกทั้งตัวเบาะหน้าเป็นแบบ Bucket Seat ในคู่หน้าทรงสปอร์ตชัดเจน และลวดลายเบาะแบบรังผึ้งเสริมเข้ามา และ บนพวงมาลัย ยังคงมีโลโก้ RS เข้ามาให้ในขอบล่าง และหลังคากระจกในด้านบน และจุดเด่นในเรื่องของ RS จะเป็นทั้งการปรับแสงสีได้รวมถึง เครื่องเสียง B&O ที่รองรับการทำงาน 3 มิติ 15 ตำแหน่งลำโพง 580 วัตต์ ส่วนตัวระบบปรับอากาศนั้นมาพร้อมกับ 3 Zone ในรุ่นนี้ครับ
เครื่องยนต์เบนซิน TFSI 5 สูบ 20 วาล์ว แถวเรียง Direct Injection ขนาด 2.5 ลิตร 2,480 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 82.5 x 92.8 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 พละกำลังสูงสุด 400 แรงม้า (PS) ที่ 5,850 – 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 5,850 รอบ/นาที จับคู่เกียร์ Dual-Clutch 7 จังหวะ (S Tronic) ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro และมีการใช้งานระบบช่วงล่าง RS Sports ตัวถังเตี้ยลง และ Mcpherson ในด้านหน้า และในด้านหลังเป็น Four-Link รวมถึงท่อไอเสียแบบ RS เสียงดังสะใจครับ
INTERIOR
ภายในห้องโดยสารถูกอัพเกรดด้วยวัสดุและการจัดวางที่ทันสมัย เบาะหนังคู่หน้าเป็นแบบ Sports พร้อมสัญลักษณ์ S line จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ Virtual cockpit ขนาด10.25 นิ้ว ระบบ MMI Radio plus พร้อมหน้าจอแบบสัมผัส (MMI touch) ขนาด 8.8 นิ้ว เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ผ่านระบบ Audi smartphone interface สามารถใช้ระบบนำทาง ผ่าน Google Maps จาก Apple CarPlay ได้ เบาะที่นั่งด้านหลังทั้ง 3 ตำแหน่ง สามารถเลื่อนไปด้านหน้าได้ หรือพับพนักพิงลง เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ โดยมีความจุสูงถึง 1,525 ลิตร ในรุ่น SUV และ 1,400 ลิตร ในรุ่น Sportback ซึ่งในงานออกแบบข้างในนั้นจะเหมือนกับรุ่น 35 ทั้งหมด แต่จะเสริมฟีเจอร์ พร้อมระบบความคุมความเร็วคงที่ Cruise Control ในการใช้งานมาให้ตรงพวงมาลัย
ในเรื่องของพื้นที่ภายในแน่นอนว่าขอเทียบให้ชมกันระหว่างตัว Sportback และ รุ่นปกติครับ ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าในภาพแรก นั้นเป็นรุ่นปกติพื้นที่ Headroom นั้นแอบสบายกว่าตัว Sportback เล็กน้อย แต่ทางด้านพื้นที่วางขาอะไรนั้นจะใกล้เคียงกันครับ แต่ถ้ามองในเรื่องตัวผมเองสูง 180 ก็ถือว่าไม่ได้อึดอัดอะไรนักนั่งได้เหลือประมาณ 1 กำปั้นได้อยู่ครับ แต่ถ้าเน้นสบายมากๆอาจจะมองตัวธรรมดาอาจจะโล่งกว่า แต่ถ้ามุมมอง ความอึดอัดอะไรนั้นไม่หนีกันมาก
AUDI Q3 40 TFSI QUATTRO S LINE BLACK EDITION
ราคาในประเทศไทย 2,750,000 บาท รับประกัน Warranty 5 ปี หรือ 150,000 km. พร้อม 24hr Road-side Assistant บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 ปี
AUDI Q3 SPORTBACK 40 TFSI QUATTRO BLACK EDITION
ราคาในประเทศไทย 2,990,000 บาท รับประกัน Warranty 5 ปี หรือ 150,000 km. พร้อม 24hr Road-side Assistant บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 ปี
RS Q3
ราคาในประเทศไทย 4,750,000 บาทรับประกัน Warranty 5 ปี หรือ 150,000 km. พร้อม 24hr Road-side Assistant บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 ปี