realme นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่เติบโตค่อนข้างไวมากทั้งในตลาดต่างประเทศและในไทยแน่นอนว่าด้วยทั้งเรื่องของราคาและความคุ้มค่าที่ให้มานั้นค่อนข้างน่าสนใจ และ ดึงดูดลูกค้าได้ค่อนข้างดีในรุ่นแรกๆนั้นก็เปิดตัวมาในการที่จัดเต็มสเปคมากกว่าในรุ่นๆคู่แข่งเดียวกันครับ ส่วนในประเทศไทยก็นำเข้ามาเรื่อยๆตั้งแต่รุ่น 2 รุ่น 3 และมารุ่นที่ 4 คือรุ่น realme 5 และ 5 Pro แน่นอนว่าแบรนด์จีนส่วนใหญ่นั้นจะไม่ใช้เลข 4 กันเท่าไรครับเลยข้ามมาที่ 5 กันเลยเพราะเลข 4 นั้นจะมีชื่อที่มีความหมายและออกเสียงอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไรนั้นแหละครับ ส่วนในไทยก็เอาเข้ามา ทั้ง 2 รุ่นคือรุ่น realme 5 และ realme 5 Pro นั้นเองเป็นรุ่นที่สเปคจัดเต็มอีกแล้ว และครั้งนี้มาพร้อมกับ 4 กล้องทั้งคู่ แต่แตกต่างกันเรื่องของสเปค และ หน้าจออะไรหลายๆอย่างครับ เราจะมาดูความแตกต่างกันดีกว่าและชมพรีวิวในรุ่น realme 5 Pro กันเลยครับ ส่วน พรีวิวของตัว realme 5 นั้นไปตามชมกันได้ในอีกลิงค์เลยนะ realme 5

realme 5 Pro นั้นเป็นรุ่นพี่ที่จัดเต็มกว่าแน่นอนครับว่าทั้งในเรื่องของสเปค และ ฟังก์ชันกล้องที่มากกว่านิดหน่อย มาที่สเปคกันก่อนเลย ตัวนี้มาพร้อมกับ  CPU Snapdragon 712 มาพร้อมด้วย RAM 8 GB STORAGE 128 GB เป็นแบบ UFS 2.1 ครับ ส่วนในเรื่องของตัวกล้องนั้น มาพร้อมกับ กล้องตัวหลัก 48MP ใช้เซนเซอร์ Sony IMX586 F1.79 , กล้อง 8MP ultrawide กว้าง 119° , กล้องจับความลึก 2MP และ กล้อง 2 MP Macro สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้ 4CM  . และ ตัวเครื่องนั้น มี Splash Resistant มาให้ด้วย กันน้ำกระเด็นเบาๆได้ รวมถึง เรื่องแบตนั้นจัดเต็มมาให้ 4,035mAh รองรับ 20W ระบบ VOOC 3.0 นั้นเองครับ และ เป็นหัวแบบ USB-C แล้วด้วย ส่วนฝาหลังก็มีการออกแบบใหม่เล่นลวดลายสวยงามครับ และ หน้าจอเป็นติ่งหยดน้ำแบบเดิมขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ครับ เรื่องการสัมผัสอะไรนั้นทำได้ดีขึ้นนะจากที่ได้ลอง ส่วนราคาในไทยนั้นเปิดตัวมาที่ พร้อมกับสเปค 8GB/128GB และ มาพร้อมกัน 2 สีครับ

UNBOX

มาแกะกล่องกันก่อนเลยตัวกล่องนั้นมาในแบบเรียบๆโทนสีขาว พร้อมกับ รูปตัวเครื่อง ชัดเจนหน้าหลัง รวมถึงบอกชื่อรุ่นด้วยครับ จริงๆตัวกล่องแอบชอบแบบรุ่นก่อนหน้ามากกว่าเป็นแค่เลขสีเหลืองสวยงามครับ อันนี้แอบดูธรรมดาไปนิดนึง ส่วนด้านข้างก็บอกชื่อรุ่นครับ และ ด้านหลังก็ไม่มีอะไรเรียบๆครับไม่ได้บอกฟีเจอร์เด่นๆอะไรในส่วนนี้ครับ

  • ตัวเครื่อง realme 5 Pro
  • เคสใสนิ่ม TPU สีเทาดำ
  • ฟิล์มกันรอย ติดมาให้แล้วบนหน้าจอ
  • สายชาร์จแบบ USB-C รองรับ VOOC 3.0 จ่ายไฟ 20W ชารจ์เต็มภายใน 80 นาที
  • หัวชาร์จ รองรับ VOOC 3.0 ขาแบน
  • ตัวคู่มือ และ ที่จิ้มซิม

ตัวเคสนั้นทำออกมาได้กระชับและมีความหนาเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าแต่ครั้งนี้เหมือนจะทำวัสดุออกมาได้ดีกว่าเดิมนิดนึงครับตัวเคสเป็นสีเทาๆเข้มๆเล็กน้อยใส่แล้วฝาหลังสะท้อนน้อยลงไปแบบชัดเจน แต่ชอบที่มันปกป้องเครื่องได้ดีมากๆทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอและมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดครับรวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวาง

จากภาพด้านบนนั้นจะเห็นได้ว่าตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีกครับ และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำครับ ซึ่งเคสปกติทั้วไปจะไม่มีมุมพิเศษขึ้นมาแบบนี้อันนี้ถือว่าออกแบบมาได้ดีมากๆ เหมือนเคสแถมเรือธงค่ายอื่นๆเลยแหละ และ ของ realme 5 นั้นจะไม่มีตรงขอบมุสูงขึ้นมาขนาดนี้ครับ เคสแถมตัว realme 5 Pro นั้นจะทำได้ดีกว่าในภาพรวม

^^^^ ภาพเคสด้านหน้าของ realme 5 ^^^^

DESIGN

ในแง่ของการออกแบบนั้นในรุ่นนี้มาพร้อมกับฝาหลังดีไซน์ใหม่หมดทั้งตัวสีและกราฟิกบนฝาหลังครับ ในสีที่รีวิวนั้นจะเป็น Sparkling Blue แต่วัสดุนั้นไม่ใช่กระจกนะครับเป็นแบบเดียวกับรุ่นก่อนหน้านั้นเลยแต่มีการออกแบบใหม่ทั้งหมด เรียกกันว่า Nano Holographic Colour นั้นเอง จริงๆสวยกว่ารุ่นก่อนหน้านะครับเป็นเหมือนการพัฒนาต่อเนื่องมาจาก Diamond cut ที่เป็นเอกลักษณ์ในรุ่นแรกๆ ส่วนงานประกอบ วัสดุนั้นทำได้พอๆกับตัว 3 Pro ครับผมรวมถึงน้ำหนักในภาพรวมนั้นไม่ได้หนักมาก และความบางอะไรนั้นก็ใกล้เคียงกับของเดิมพอสมควรเลยแหละ

หน้าจอนั้นมาพร้อมกับหน้าจอแบบติ่งหยดน้ำเหมือนเดิมครับ 6.3 นิ้ว IPS LCD ความละเอียดที่ FHD+ อัตราส่วน 19.5:9 พร้อมกับ สัดส่วนหน้าจอ ต่อตัวเครื่องที่ 90.6% ใช้ Gorilla Glass 3+ นะครับ

หน้าจอขอบบนนั้นเป็นแบบเดิมครับมาพร้อมกล้องหน้า พร้อมติ่งหยดน้ำ และมีการแทรกเซนเซอร์ไว้ข้างๆกล้อง รวมถึงขอบลำโพงอยู่เหนือกล้องหน้า กล้องหน้าให้มาที่ 16 MP Sony IMX471 1/3.1″, 1.0µm รูรับแสง f/2.0

ในส่วนขอบล่างหน้าจอนั้นจุดนี้จะทำได้บางกว่าตัว realme 5 พอสมควร รวมถึงปุ่มควบคุมนั้นจะอยู่ในหน้าจอ สามารถใช้งานเต็มหน้าจอได้แบบไม่มีปุ่มนะครับ ส่วนขอบข้างๆนั้นก็ทำได้บางพอๆกับรุ่นก่อนหน้านี้เลยครับ

ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเป็น ลำโพงหลัก ช่อง USB-C 2.0 และ รูไมค์ รวมถึงรูหูฟัง 3.5 มม. นั้นยังอยู่นะครับ จะมีการเล่นลวดลายเส้นสายที่ทำให้ตัวเครื่องดูบางขึ้น และ เป็นวัสดุอลูมิเนียมนะครับในส่วนของกรอบเครื่องทั้งหมด

ตัวขอบเครื่องด้านบนนั้นจะเห็นว่าเป็นอีกสีนึงครับเนื่องจากตัวเครื่องนั้นจะเป็นการไล่เฉดสี น้ำเงินมาม่วงนั้นเองทำให้ขอบแต่ละข้างนั้นไม่เหมือนกัน ส่วนด้านบนนั้นจะมีรูไมค์ตัดเสียงมาให้ด้วยครับ ยังไม่ได้ตัดออกไปเหมือนบางตัว

ในขอบเครื่องด้านข้างขวานั้นจะเป็นที่อยู่ของปุ่ม Power อย่างเดียวนะครับและจะเห็นว่าตัวกล้องนั้นนูนออกมาพอสมควร แต่ตัวเครื่องก็ทำได้บางเช่นกัน ส่วนการไล่เฉดสีนั้นก็จะเห็นได้ชัดเมื่อเรามองที่ด้านข้างแบบนี้ครับ

ในส่วนของด้านซ้ายนั้นจะเห็นว่าตัวเครื่องมี ปุ่มเพิ่มลดเสียง และ ช่องใส่ถาดซิมครับเป็นแบบ Triple Slot กระจกฝาหลังนั้นจะโค้งลงมาตรงขอบข้างๆเล็กน้อยครับเหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ทำให้จับถือได้ง่ายและเข้ากับมือได้มากกว่า

ตัวถาดซิมนั้นจะเป็นแบบ Triple Slot รองรับการใส่ซิมคู่และ Micro-SD พร้อมกันครับไม่ต้องเลือกใช้งาน และจะเป็น Dual Stanby นะครับผมไม่สามารถ Active 2 ซิมพร้อมกันได้ครับแบบเดียวกับรุ่น 3 Pro ก่อนหน้านี้เลย

ฝาหลังนั้นจะเป็นการออกแบบใหม่ในชื่อ Holographic diamond พร้อมความเป็นประกายของสีสันที่สดใสในระดับนาโน มีการเคลือบกว่า 133 ครั้งเพื่อให้ได้สีที่สวยงามนั้นเองรวมถึงเป็นการพัฒนาการสะท้อนเหลี่ยมๆมาจากรุ่นก่อนหน้า และ ยังเป็นการออกแบบที่เนี้ยบกว่าเดิมด้วยครับเพราะสามารถป้องกันละอองน้ำได้เวลาน้ำกระเด็นใส่ สแกนนิ้วนั้นอยู่ในด้านหลังเหมือนเดิมครับ และมีวงแหวนสีเงินล้อมรอบ ส่วนโลโก้นั้นวางแนวนอนมุมเครื่องเช่นเดิม

กล้องหลังจัดเต็มมาให้ทั้งหมด 4 เลนส์ กล้องหลังนั้น 48 ล้านพิกเซล Ultra HD  Sony IMX 586 flagship sensor พร้อมกล้องพิเศษที่เพิ่มถึง 3 ตัว Portrait สำหรับการจับระยะ , super wind-angle ที่รองรับมุมกว้าง 119 องศา และเทคโนโลยีล่าสุด macro เลนส์  ที่รองรับระยะใกล้สุดๆ 4CM นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Ultra clear nightscape ที่ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนคมชัด และ ภาพไฟล์ Raw และโหมดChroma Boost ก็มีมาให้เช่นกัน การออกแบบเลนส์หลักยังคงมีวงแหวน realme ring และ เขียนบอก 48MP ครับ และไฟแฟลชออกมาด้านขวา

SPEC

  • Android Pie 9.0  ครอบทับด้วย ColorOS  6.0
  • จอ IPS LCD ติ่งหยดน้ำ ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2340 พิกเซล), อัตราส่วน 19.5:9 อัตราส่วนหน้าจอ 90.6% ใช้กระจก Gorilla Glass 3+
  • CPU Snapdragon 712 AIE Octa Core 2.3 GHz + GPU Adreno 616
  • RAM 8 GB
  • STORAGE 128GB UFS 2.1 รองรับ microSD card เพิ่มได้ถึง 256 GB
  • กล้องหน้า 16 MP ใช้เซนเซอร์ Sony IMX471 f/2.0
  • กล้องหลัง  4 ตัว ตัวหลัก 48MP ใช้เซนเซอร์ Sony IMX586 f/1.79 + กล้องมุมกว้าง 8MP 119° f/2.25 +กล้อง จับระยะ 2MP f/2.4 + กล้องถ่ายระยะใกล้ 2MP 4cm,f/2.4
  • แบตเตอรี่ 4,035mAh รองรับ VOOC 3.0 สามารถชาร์จเต็ม 100% ภายใน 80 นาที
  • Bluetooth 5.0  และ รองรับ Wifi 2.4Ghz 5Ghz
  • พอร์ต USB-C  และ มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • ตัวเครื่อง 74.2 x 157 x 8.9 มม. หนัก 184 กรัม

ANTUTU

ในส่วนของคะแนน Antutu นั้นในรุ่นนี้ใช้งาน Snapdragon 712 และ RAM 8 GB  รวมถึงใช้งาน UFS 2.1 ในความจุขนาด 128GB แน่นอนว่าช่วยในเรื่องของการเรียกแอพ รวมถึงการดูรูปต่างๆทำงานได้ไวขึ้นแน่นอนครับ ส่วนคะแนนจากที่ทดสอบนั้นทำไปได้ที่ 180K  ก็ถือว่าแรงกว่าตัว realme 3Pro นิดหน่อยเกือบๆ 1 หมื่นคะแนนครับ

ANDROBENCH  UFS 2.1

ในด้านของหน่วยความจำตัวเครื่องนั้นเป็นการพัฒนาขึ้นมาใช้งาน UFS 2.1 ทำให้การอ่านเขียนนั้นไวกว่าเดิมทำไปได้เกือบ 500 และ เขียนไปเกือบ 200 ครับถือว่าเป็นมือถือในเรทต่ำกว่าหมื่นที่จัดว่าน่าสนใจที่ใส่เข้ามา UFS 2.1 แน่นอนว่าเรือธงหลายๆค่ายยังใช้แบบนี้กันอยู่แล้วครับ แต่แน่นอนว่าอนาคตก็มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ไม่แน่เราอาจจะได้เห็นUFS 3.0 ในเรทราคาต่ำกว่าหมื่นจากค่ายนี้ก็เป็นได้นะ ส่วนตัวนี้จากที่ทดสอบนั้นก็ดูรูปอะไรโหลดไวขึ้นการเซฟภาพอะไรก็ไวขึ้นแน่นอนครับ รวมถึงการเปิดปิดแอพต่างๆก็ทำได้ดีถือว่าเป็นจุดเด่นๆที่มีการเปลี่ยนแปลงเลยครับ

SCREEN

หน้าจอนั้นถือว่าเป็นอีกจุดที่มีการพัฒนาขึ้นแน่นอนว่าเรื่องของการสัมผัสทำได้ดีกว่าเดิมแบบรู้สึกได้ครับส่วนสเปคหน้าจอนั้นในภาพรวมไม่ได้แตกต่างกันมากนักแต่มีการใช้งานกระจก Gorilaa Glass 3+ ถือว่าน่าสนใจครับ ส่วนหน้าจอยังเป็น IPS LCD อยุ่ ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ และรองรับความสว่างสูงสุด 400Nits จากที่ลองมุมมองภาพนั้นทำได้ดี ความสีสันสดใสยังคงไม่เป็นปัญหา แต่ด้วยจอ LCD นั้นส่วนสีดำอาจจะไม่สนิทเท่าไรและสู้แสงไม่โหดมากนักครับจากที่ได้ลองกลางแจ้ง แต่ถ้าใช้งานในสภาพแสงทั่วไป ในห้องพวกนี้ถือว่าทำได้ดีไม่มีปัญหาครับ

CAMERA

ในส่วนของกล้องนั้นเป็นจุดเด่นหลักๆที่พัฒนาขึ้นมาครับแน่นอนว่ากล้องหลังตัวนี้จัดเต็มมาให้ทั้งเรื่องของ มุมกว้าง มุมปกติ ระยะมาโคร และ จับระยะลึกครับ ถ้าให้เทเลมานี่คือครบๆเลยนะขาดอีกตัวเท่านั้นจะครอบคลุมทั้งหมดแล้ว แต่ต้องบอกก่อนว่าตัวกล้องหลักนั้นโหดเอาเรื่องใช้งาน SONY IMX 586 48MP F.18 ครับ ส่วนกล้องตัวรองนั้นเป็นเลนส์มุมกว้าง 119 องศา ความละเอียด 8MP F2.2 ส่วนกล้องจับระยะ และ มาโครนั้น 2MP เท่ากันครับ ในโหมดกล้องนั้นมาให้ครบๆทั้งหมดคือ NightScape – Portrait – Super Macro – และ Ultra Wide และที่ชอบคือมุมกว้างนั้นรองรับ Nightscape ด้วยสวยมากๆเลยครับ ส่วนรุ่นนี้จะเพิ่ม 48MP เข้ามาที่ realme 5 นั้นไม่มีครับ ส่วนกล้องหน้านั้น มุมจะแคบกว่า realme 5 แต่ได้คุณภาพที่ดีกว่าครับ ตัวนี้กล้องหน้าให้ความละเอียด 16 MP ใช้เซนเซอร์ Sony IMX471 รูรับแสง f/2.0 มาพร้อมโหมด Portrait และ AI Beauty เช่นเดิมครับ

Wideangle 

NightScape 

PORTRAIT

super Macro 

กล้องหน้า 

realme 5 Pro 

ถือว่าเป็นรุ่นที่ทำออกมาดีอีกแล้วหลักๆเลยคือเรื่องกล้องและดีไซน์ รวมถึง สเปคที่จัดเต็มเหมือนเดิม และครั้งนี้มาพร้อมกับกล้อง 4 ตัว พร้อมกับกล้องหลังมุมกว้างมาให้ด้วย และ เลนส์ มาโคร เลนส์จับระยะมาครบๆเลยทำให้มันน่าสนใจอย่างมาก และเป็นรุ่นที่ทำออกมาได้เหนือคู่แข่งทั้งจำนวนกล้อง สเปค และ คุณภาพในภาพรวมความแรงที่ได้นั้นในแบรนด์นี้ถือว่าน่าสนใจ และยังมีการอัพเกรด USB-C มาให้ใช้งานแล้วรวมถึงหน่วยความจำ UFS 2.1 และ แบต 4,035 และ ชาร์จไว VOOC 3.0 ครบๆครับทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีงาม แต่เรื่องการสัมผัสหน้าจอต่างๆ และคุณภาพการใช้งานในภาพรวม ลำโพง เสียง ต้องขอลองใช้งานจริงๆกันอีกทีว่าจะทำได้ดีกว่าเดิมแค่ไหนกันครับ

REALME 5 PRO VS REALME 5 

realme 5 ในเครื่องขวามือ จะมีขนาดใหญ่กว่า และขอบหน้าจอจะหนากว่าครับ รวมถึงตัวฝาหลังนั้นจะแตกต่างกันในการสะท้องแสงสีที่ realme 5 pro นั้นจะสว่างและสะท้อนได้ดีกว่า แต่การเล่นกราฟิกเป็นลายเดียวกันแต่จะไม่มีการเล่นไล่เฉดสีแบบตัว Pro ครับ ส่วนตัว Pro นั้นกล้องหลังจะมีเขียนว่า 48MP ส่วนของ realme 5 นั้นจะเป็นเขียนว่ารูรับแสง f1.8 แต่มีจำนวนกล้องเท่ากันแต่แตกต่างกันที่ เซนเซอร์ภายในครับ และทั้ง 2 รุ่นมีสแกนนิ้วด้านหลังเหมือนกัน และ ความหนาไม่ได้แตกต่างกันมากครับ รวมถึง วัสดุข้างหลังก็คล้ายกันพอสมควร รวมถึงขอบโค้ง

PREVIEW REALME 5 —- >> realme 5

สำหรับพรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Preview by Nineztr