realme ประเทศไทยนั้นเรียกได้ว่าลุยตลาดกันอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดโลก และ ตลาดไทยทางด้านเรือธง realme GT 5G เองนั้นเปิดตัวในตลาดเมืองจีนไปก่อนหน้านี้ และ เปิดตัวในตลาดโลกไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา อีกทั้งยังเดินหน้าลุยตลาดอื่นๆจัดเต็มเช่นกัน และ ในประเทศไทยเองก็ไม่น้อยหน้าเตรียมจะเปิดตัว realme GT 5G และ เข้ามาขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแน่นอน ตามตลาดโลกมาติดๆเลยนั้นเองต้องบอกว่าลุยตลาดแบบจัดเต็มอีกทั้งรุ่นนี้จะเป็นเรือธงที่โหดมากๆตัวนึงของทาง realme ทั้งเรื่องของสเปกและการใช้งานภาพรวมทั้งหมดในรุ่นนี้ ก่อนที่จะเปิดตัวในไทยนั้นเรามาแกะกล่องพรีวิวกันก่อนเปิดตัว ว่าดีไซน์งานออกแบบ และสเปกตัวนี้จะเป็นยังไงกัน !

realme GT 5G เรือธงตัวล่าสุดนั้นจะมาพร้อมกับ หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว Full HD+ รีเฟรชเรท 120Hz มีความถี่การตอบสนอง 360Hz สามารถปรับความสว่างได้ 4,096 ระดับ ภายในตัวเครื่องใช้ชิป Snapdragon 888 ที่รองรับเครือข่าย 5G ทั้งแบบ SA/NSA ระบบระบายความร้อนใช้สแตนเลส + แผ่น heat sink ทองแดง VC แผ่กว้างภายในตัวเครื่องทำให้ลดอุณหภูมิลงได้ถึง 15 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ภายในตัวเครื่องยังมาพร้อมมอเตอร์สั่นแบบ Linear และ 4D กล้องหลังของ realme GT 5G มีจำนวน ตัวที่ประกอบด้วย กล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซลที่ใช้เซนเซอร์ IMX682 + กล้องมุมกว้าง ultra-wide 8 ล้านพิกเซล + กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าแบบเจาะรูพร้อมกับความละเอียด 16 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่มีความจุให้มาที่  4,500mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว Super Dart 65W ชาร์จ 100% ได้ในเวลา 35 นาที นอกจากนี้ตัวสมาร์ตโฟนมาพร้อมกับโหมด GT สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ, เอฟเฟค dynamic + เสียงเอฟเฟค + การสั่น ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว realme GT จะมีรุ่นที่บอดี้ด้านหลังทำจากกระจกแล้ว ยังมีรุ่นที่บอดี้ด้านหลังทำมาจากหนังที่ทำจากพืชแบบ dual tone ซึ่งทั้งสองสีนะใช้วัสดุที่แตกต่างกัน realme GT จะมีรุ่นที่บอดี้ด้านหลังทำจากกระจกแล้ว ยังมีรุ่นที่บอดี้ด้านหลังทำมาจากหนังที่ทำจากพืชแบบ dual tone ซึ่งทั้งสองสีนะใช้วัสดุที่แตกต่างกัน พร้อม ลำโพงคู่  รองรับ Dolby Atmos, คุณภาพเสียง Hi-Res จัดเต็ม ส่วนวันวางขายในไทย และ ราคานั้นต้องรอติดตามเร็วๆนี้นะครับ

UNBOX

ตัวกล่องต้องบอกว่าครั้งนี้เราได้เครื่องเป็นสเปกเมืองจีนมาก่อนเพราะว่าเป็นตัวก่อนจะเปิดตัวในตลาดโลก ไม่แน่ใจว่าตลาดโลกนั้นจะมีการออกแบบเปลี่ยนแปลงกล่องหน้าตาอะไรไหมนะครับ แต่การใช้งานหรือของที่ให้มานั้นจะเหมือนกัน ตัวกล่องเขียนชื่อรุ่นชัดเจน พร้อมกับ ชื่อแบรนด์ที่ครั้งนี้กล่องกลายเป็นสีดำ และออกแบบแตกต่างกว่ารุ่นอื่นๆทั้งหมดถือว่าแปลกตาและสมกับเป็นเรือธงมากขึ้นส่วนอุปกรณ์นั้นมาครบเช่นเดิม ทั้งตัวเครื่อง ที่ชาร์จ 65W SuperDart และ ตัวเคสใส TPU พร้อมกับ คู่มือ และ ที่จิ้มซิม ส่วนทางด้านหูฟังนั้นจริงๆค่ายนี้ไม่มีให้ปกตินะครับ

ตัวเคสนั้นเป็นเคสใสที่คล้ายกับรุ่นอื่นๆของค่ายนี้ไม่ได้มีการออกแบบพิเศษอะไรแม้จะเป็นเรือธงรองรับการใช้งานได้ดีทั้งเรื่องของความเบาและการปกป้องครับ แม้อาจจะดูธรรมดาไปนิดหน่อยแต่ถือว่าป้องกันเลนส์กล้องได้ดีและไม่หนักการปกป้องนั้นในทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอ และมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบายคล้ายๆกับเคสรุ่นก่อน และ ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดรวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดี มีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป ไม่ได้ปิดฝาหลังทึบทำให้เห็นดีไซน์สีดำเหลืองชัดเจนแม้จะใส่เคส

จะเห็นได้ว่าตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีก และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำ ซึ่งเคสปกติทั้วไปจะไม่มีมุมพิเศษขึ้นมาแบบนี้อันนี้ถือว่าออกแบบมาได้ดีมากๆ เหมือนเคสแถมเรือธงค่ายอื่นๆเลยแหละ และเป็นการออกแบบเดียวกันกับ realme ตัวอื่นๆครับแต่ทำให้มันบางและนิ่มมากขึ้นดูไม่หนามากนักเวลาใส่ใช้งานครับ สำหรับเคสตัวนี้รองรับได้สบายตัวนี้

DESIGN

งานออกแบบตัวนี้การวางกล้องอะไรไม่ได้หนีจากซีรีย์ตัวอื่นๆมากนัก แต่จะเด่นๆด้วยการออกแบบฝาหลังที่แปลกตาและโดดเด่น รวมถึงความแน่น ความพรีเมี่ยมของงานประกอบเองนั้นรู้สึกเลยว่าแตกต่างกับรุ่นอื่นๆ และการใช้งานสีเหลือง ดำนั้นถือว่าแปลกตา และเป็นสีประจำค่ายด้วยเช่นกัน พร้อมกับตัวเครื่องเบาเพียง 186g และบางเพียง 8.4mm และ ด้านหลังนั้นโดดเด่นด้วยการออกแบบที่เป็นการประกอบหนังกับฝาหลัง ด้วยเทคโนโลยีพิเศษ Dual-tone Leather Design เพิ่มความหรู หรา และทนต่อรอยนิ้วมือ แทรกด้วยกระจกหลังสีดำแนวยาวพร้อมกับมีเล่นลวดลายด้านหลัง ส่วนหน้าจอเป็นหน้าจอแบบเจาะรูมุมซ้ายบนไม่ได้แตกต่างกับรุ่นอื่นๆ แต่ขอบจอนั้นบางพอสมควร

หน้าจอนั้นเป็นการออกแบบหน้าจอแบบเจาะรูมุมซ้ายบนใช้งาน หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว (2400×1080 พิกเซล) Full HD+, อัตราส่วน 20:9 รองรับ HDR10+, รีเฟรชเรท 120Hz,สัมผัส 360Hz

ขอบหน้าจอส่วนล่างนั้นมีความบางระดับนึงพร้อมกับปุ่มควบคุมมาตรฐาน และ สามารถปรับไปใช้งานได้แบบเต็มหน้าจอ ส่วนหน้าจอนั้นเป็นการออกแบบหน้าจอแบบเรียบๆไม่ได้มีส่วนขอบโค้งหรือกระจกโค้งอะไรแต่อย่างใดในรุ่นนี้

ขอบหน้าจอส่วนบนนั้นตัวนี้ถือว่าทำได้ดีเพราะว่าเป็นลำโพงคู่ให้มาจัดเต็ม พร้อมกับกล้องหน้า 16MP F2.5 รองรับการถ่ายมาตรฐาน แต่น่าเสียดายว่ารูรับแสงนั้นแคบไปนิดหน่อยครับ พร้อมกับแทรกเซนเซอร์ต่างๆไว้ขอบบนทั้งหมด

ขอบเครื่องส่วนล่างนั้นเราจะเห็นว่ารุ่นนี้เป็นลำโพงหลัก และ มาพร้อมกับ USB-C และ รูไมค์หลักในด้านล่าง พร้อมกับรู 3.5 มม. ให้มาไม่ได้ตัดออกไปไหนครับ ส่วนลำโพงอีกตัวนั้นจะไว้ขอบบนหน้าจอนั้นเอง ส่วนการออกแบบนั้นจะเป็นขอบสีเงินโครเมี่ยมสวยงามมากๆ ดูพรีเมี่ยมสวยงาม และมีการขึ้นรูปปาดเล็กน้อยในส่วนฐานเครื่องด้านล่าง

ขอบเครื่องด้านบนนั้นเรียบๆไม่ได้มีอะไรมากนัก แต่เราจะเห็นรูไมค์ด้านบนสำหรับการตัดเสียงหรือว่าอัดเสียงใส่มาพร้อมกับฝาหลังที่เราเห็นนั้นจะมีการโค้งลงมาทำให้การจับถืออะไรนั้นรองรับได้ง่ายและถือได้ถนัดมือมากขึ้นด้วย

ขอบเครื่องด้านขวาเราจะเห็นว่ามีแค่ปุ่ม Power เท่านั้นที่มีการเล่นสีเหลืองเป็นแถบขึ้นมาทำให้โดดเด่นกว่าปุ่มอื่นๆ ส่วนฝาหลังหนังนั้นมีการเข้าขอบเครื่องมากขึ้น ทำให้ตัวขอบเครื่องนั้นดูบางมากกว่าเดิมและจับถือได้สะดวกเช่นกัน

ขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นจะเป็นปุ่ม เพิ่ม / ลด เสียงครับ จะเห็นว่ามีสีเงินโครเมี่ยมทั้งขอบเครื่องดูหรูหราสวยงามจริงๆ พร้อมกับถาดซิมที่รองรับการใช้งานแบบ Dual-Sim แต่จะไม่รองรับการเพิ่ม Micro-SD นะครับตัวนี้

งานออกแบบฝาหลังตัวนี้ในรุ่น realme GT 5G นั้นจะมีฝาหลังสองแบบให้เลือกคือแบบ กระจกด้านหลัง และแบบฝาหลังหนัง ซึ่งในรุ่นที่รีวิวจะเป็นฝาหลังหนังครับ พร้อมกับหนัง vegetal เจเนอเรชันใหม่ที่ให้สัมผัสที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น เมทริกซ์ของกล้องขยายออกไปด้านล่างอย่างไม่สิ้นสุด แสดงถึงการออกแบบไบโอนิคของไฟหน้า มาในสีที่เรียกว่า ‘speedy yellow’ หมายถึง “รุ่งอรุณ” ของอนาคตที่สดใสในยามเช้า ตัดกับสีดำแบบกระจกพร้อมกับวางพาดไปจนถึงกล้องสวยงาม ส่วนทางด้านโลโก้ไว้ในแนวนอนด้านล่างถือว่าเป็นคู่สี ดำ เหลือง ที่ออกมาได้ลงตัว โดดเด่น

ทางด้านกล้องหลังนั้นจะมาพร้อมกับ 3 ตัววางเรียงกันและพร้อมกับไฟแฟลช 2 ดวง ส่วนกล้องหลังนั้นไม่ได้นูนออกมามากนักครับ มาพร้อมกับ มุมกว้าง และ เลนส์หลัก แต่ตัวนี้น่าเสียดายว่าไม่มีเลนส์เทเลอะไรใส่เข้ามา แต่ด้วยความเที่เป็นมือถือ เน้นการเล่นเกม เน้นสเปก เรื่องกล้องอาจจะไม่ได้เด่นมากนักครับ และใช้กล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซลที่ใช้เซนเซอร์ IMX682 + กล้องมุมกว้าง ultra-wide 8 ล้านพิกเซล + กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล

SPEC

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว (2400×1080 พิกเซล) Full HD+, อัตราส่วน 20:9 รองรับ HDR10+, รีเฟรชเรท 120Hz, NTSC color gamut 98%, DCI-P3 colour gamut 100%
  • ชิปประมวลผล Snapdragon 888 5nm ใช้การ์ดจอ Adreno 660
  • RAM LPDDR5 8GB + ความจำ (UFS 3.1) 128GB / RAM LPDDR5 12GB + ความจำ (UFS 3.1) 256GB
  • Android 11 ที่ครอบด้วย realme UI 2.0
  • ซิมคู่ (nano + nano)
  • กล้องหลัง
    • กล้องตัวหลัก 64MP (f/1.8) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX682
    • กล้อง ultra-wide 119° 8MP (f/2.3)
    • กล้องมาโคร 2MP (f/2.4)
    • LED flash
  • กล้องหน้า 16MP (f/2.5)
  • เซนเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
  • ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm, ลำโพง Stereo, รองรับ Dolby Atmos, คุณภาพเสียง Hi-Res
  • ขนาดตัวเครื่อง: 158.5 x 73.3x 8.4 มม. (กระจก) / 9.1 มม. (หนัง) ; น้ำหนัก:186 กรัม (กระจก) / 186.5 กรัม (หนัง)
  • รองรับเครือข่าย 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6e 802.11 ax, Bluetooth 5.2,GPS/GLONASS
  • พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 4,500mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว Super Dart 65W

SCREEN 120HZ – TOUCH 360HZ

หน้าจอตัวนี้ถือว่าน่าสนใจเพราะว่าเป็นหน้าจอที่เทพมากๆตัวนึงครับในแบรนด์นี้ไม่ใช่แค่ 120Hz แต่รอรับการสัมผัสมากถึง 360Hz เลยทีเดียว และใช้งาน SuperAMOLED ด้วยเช่นกันเพราะว่ารุ่นก่อนๆเราอาจจะเป็นแต่พวก IPS นั้นเองครับ แต่การปรับมาใช้งาน SuperAMOLED ต้องบอกว่าน่าสนใจขึ้นเยอะมากๆ และทาง realme GT 5G มีฟังก์ชันการปรับ touch sampling rate แบบอัตโนมัติ ซึ่งทำให้การใช้พลังงานและประสิทธิภาพสมดุลกันอย่างมาก แม้ในโหมดเกมก็สามารถรองรับ touch sampling rate ถึง 360Hz พร้อมกับสเปกหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว (2400×1080 พิกเซล) Full HD+, อัตราส่วน 20:9 รองรับ HDR10+, รีเฟรชเรท 120Hz, NTSC color gamut 98%, DCI-P3 colour gamut 100% และ รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอด้วยเช่นกัน

ANTUTU SNAPDRAGON 888 5G 

แน่นอนว่าเรื่องระบายความร้อน realme ได้นำโครงสร้างคอมโพสิตเหล็กและทองแดงเจเนอเรชันใหม่ให้กับ realme GT 5G โดยใช้ทองแดงนำความร้อนได้ดีเยี่ยมและหุ้มด้วยเปลือกสแตนเลสเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ซึ่งจะให้ความแข็งแรงสูงกว่าระบบทำความเย็นทองแดง VC แบบเดิมถึง 42% และมีการนำความร้อนกราไฟท์ 3 มิติแบบหลายชั้นและการครอบคลุม 100% จึงทำให้ realme GT 5G มีคุณสมบัติการระบายความร้อนที่ดีขึ้นอย่างมาก และทำงานร่วมกันกับ Snapdragon 888 5G + RAM 12GB ทำให้รีดคะแนนออกมาได้มากถึง 814K ทีเดียว

ANDROBENCH UFS 3.1

หน่วยความจำนั้นใช้งาน UFS 3.1 แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับเรทราคาของมันนั้นถือว่าทำได้ไวมากๆในตอนนี้สำหรับเรื่องของเซฟภาพอะไรก็ไวขึ้นแน่นอน รวมถึงการเปิดปิดแอปต่างๆก็ทำได้ดีถือว่าเป็นจุดเด่นๆ ทำคะแนนได้ 1887 ในการอ่าน และเขียนไปที่ 766 ถือว่าเร็วแรงตามสเปกของตัวเครื่องใช้งานดูรูปภาพ หรือ เรียกดูข้อมูลและบันทึกอะไรได้ไวด้วย ถือว่าในเรทราคาถือว่าค่อนข้างคุ้มพอสมควรในการใช้งาน หรือแม้แต่การเล่นเกมก็อ่านเขียนได้ไวขึ้นด้วยถือว่าสมสเปกเรือธง ของค่ายนี้ และมาให้ 256GB รองรับการใช้งานได้เหลือๆทั้งลงแอปและรูปภาพ

65W SUPERDART

แน่นอนว่าตัวนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge ชาร์จเต็ม 100% ภายใน 35 นาที ที่ระบบนั้นสามารถทำงานได้แม้กระทั่งในขณะเล่นเกมอย่างหนักหน่วง 65W SuperDart Charge  จะแบ่งเซลล์หลักเป็น 2 ส่วน ส่วนละ 2250 mAh ผ่านการชาร์จแบตเตอรี่โดยตรงด้วยอะแดปเตอร์ 10V 6.5A ภายใต้การควบคุมด้วย อัลกอริทึมการชาร์จเร็ว SuperDart ใช้วงจรอัดประจุเพื่อลดแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่สองเซลล์ลงครึ่งหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจถึงความเร็วในการชาร์จและการควบคุมอุณภูมิ + 10 เซนเซอร์ ในการตรวจจับอุณหภูมิ + มาพร้อมการป้องกัน 5 ชั้น ตั้งแต่อะแดปเตอร์ไปยังตัวเครื่อง ถือว่าเป็นระบบชาร์จไวที่ปลอดภัยที่สุด และไวมากเมื่อนับเป็นมือถือในเรทราคานี้ทำให้เกินหน้าเกินตารุ่นอื่นๆแบบชัดเจน และทดสอบจริงนั้นก็ทำได้เร็วจริงมากๆในตัว GT 5G ตัวนี้

REALME GT 5G

realme ในบรรดาเรือธงถือว่าสเปกนั้นจัดเต็มพอสมควรไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ การชาร์จไว และแน่นอนว่าสเปก Snapdragon 888 ที่รองรับการใช้งานได้เต็มที่และแรงมากๆตัวนึง รวมถึงทางด้านราคาที่ทำออกมาได้ดีในต่างประเทศนั้นคุ้มค่ามากๆ และในไทยต้องมาลุ้นว่าจะทำราคาได้เท่าไรกันครับ ในสเปกเรือธงเทพๆแบบนี้ รวมถึงในเรื่องของคุณภาพในการใช้งานหน้าจอต่างๆนั้นทำได้ดี SuperAMOLED 120Hz ที่รองรับการสัมผัส 360Hz ทำให้การใช้งานต่างๆนั้นติดนิ้วและตอบสนองต่อการเล่นเกมได้ดีมากๆ รวมถึงใช้งาน ลำโพงคู่ Dolby Atmos และรองรับระบบเสียง Hi-res คุณภาพสูง รวมถึงยังคงมีรู 3.5 มม. มาให้ถือว่าจัดเต็ม ส่วนชาร์จไว 65W รองรับการใช้งานได้ไวมากๆ 35 นาทีเต็ม และควบคุมความร้อน การใช้งานได้ดีเช่นกันในชื่อ SuperDart แต่ทั้งนี้ในการเปิดตัวในไทย รวมถึงทางด้านราคาในไทยเองนั้นต้องรอลุ้นกันว่าจะเปิดตัวมาที่เรทเท่าไร และ จะมาเมื่อไรกันอีกทีนะครับ

สำหรับพรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Preview by Nineztr 

Comments กันได้เลย !