ASUS ROG Mothership ต้องว่าเป็นรุ่นที่น่าสนใจและเป็นรุ่นที่โดดเด่นที่สุดในงานเมื่อต้นปี CES2019 ครับมันคือที่สุดของการออกแบบและนวัตกรรมเลยก็ว่าได้ซึ่งตัวมันเองเป็น Gaming Laptop ที่สเปคแรงที่สุดในตอนนี้พร้อมกับการออกแบบที่แปลกใหม่ที่สุดเพราะว่ามันสามารถถอดคียบอร์ดออกมาเล่นได้แยกกับหน้าจอรวมถึง สเปคที่จัดเต็มแบบ i9-9980HK + RTX 2080 และหน้าจอ 17.3″ ความละเอียด FHD พาเนล IPS 144 Hz 3 ms 100% sRGB Gsync และพ่วงด้วย RAM 64GB จัดเต็มและยังสนับสนุนการ Overclock ได้เลยจากในตัวเครื่องครับเหมาะสมกับชื่อ Mothership หรือ ยานแม่ เลยเพราะมันคือ นวัตกรรมที่แปลกใหม่และน่าสนใจอย่างมากครับ
ในส่วนของสเปคมันต้องบอกว่าน่าจะแรงที่สุดแล้วในตอนนี้ครับเพราะจัดเต็มมาให้จริงๆ เริ่มที่ CPU กันก่อนเลย Intel ® Core™ i9-9980HK รองรับการ Overclock 4.9Ghz พร้อมกับ NVDIA GeForce RTX 2080 ที่ให้ 8GB GDDR6 VRAM และรองรับการ Overclock 1880MHz ด้วยครับรวมถึงในตัว RAM 64 GB จัดเต็ม DDR4 2666MHz และ ใช้งาน 3 x M.2 NVMe PCIE 3.0 x4 512GB SSD พร้อมเทคโนโลยี RAID 0 เลยทีเดียวครับ แน่นอนว่าจัดเต็มสุด สำหรับหน้าจอ ตัวนี้เป็นแบบ FHD 17.3-inch Full HD (1920×1080) IPS-level panel, 144Hz, 3ms, 100% sRGB, G-SYNC แน่นอนว่าตัวเทพพอสมควรในขนาดหน้าจอนี้แต่ถ้าตัว 4K นั้นหน้าจะได้แค่ 60Hz ครับ ส่วนลำโพงจัดเต็มมาให้ 4x4W 4 ตัวด้านหน้าพร้อมใช้งาน ESS DAC + รองรับ Hires ด้วยครับ และตัวคียบอร์ดก็สามารถถอดได้และระยะกดลึกมากๆที่ 2.5 มม. กันเลยครับโหดจริงๆต้องบอกว่ามันเป็น HIGH-END Gaming กันเลยทีเดียว ทั้งเรื่องของสเปค ดีไซน์ และ
ราคาตัวนี้เปิดมาที่ 249,990 บาท
UNBOX
ในครั้งนี้เราจะมาเน้นแบบ UNBOX ล้วนๆกันเลยก็ว่าได้เพราะทำมันเป็นกล่องที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเจอมาเลยสำหรับ Gaming Notebook ครับขนาดมันใหญ่กว่าพวกเคสคอมอีกนะ แน่นอนว่าตัวเครื่องมันไม่ได้ใหญ่อะไรหรอกแต่ของที่มันให้มาเรียกได้ว่ามันครบๆเลยพร้อมใช้งานเลยครับทั้ง กระเป๋า ทั้งเมาส์ หูฟัง ครบแบบไม่ต้องซื้ออะไรเสริมครับแน่นอนว่าในเรทราคานี้ของที่ให้มาก็ไม่ใช่เล่นๆทั้งเมาส์และกระเป๋าครับ ซึ่งก็แพ็คมาให้อย่างดีเลยในตัวกล่องครับ
กระเป๋า ROG RANGER 2 in 1
เป็นกระเป๋าที่ให้มาสำหรับใครเครื่องนี้เลยแน่นอนว่ากระเป๋ารุ่นนี้มีขายทั่วไปก็เกือบ 4,000 บาทเลยครับ เป็นกระเป๋าตัวเทพสุดที่เน้นในเรื่องการใส่ของที่ค่อนข้างครบและใบใหญ่มากกกครับ แน่นอนว่าตัวนี้สามารถใส่ 17 นิ้วได้สบายครับและชื่อของมันคือ 2 in 1 นั้นจะเน้นไปที่การแยกกระเป๋าออกไป 2 ใบได้และรวมกันได้ถือว่าออกแบบมาได้ดีครับตัวกระเป๋านั้นสามารถใส่ทั้ง คียบอร์ดแยก หูฟัง เมาส์ หน้าจอ ค่อนข้างครบๆ หรือใครมี Tablet หรือจะเป็นพวก คียบอร์ดแยกก็สามารถใช้งานได้สบายๆพกพาไปในใบเดียวเรียบร้อย และการออกแบบทำให้มีการระบายเวลาสะพายได้ดีไม่ร้อนและไม่หนักครับ งานประกอบต่างๆทำได้เนียนและมีที่หิ้วข้างๆได้สามารถหิ้วแนวนอนได้ด้วยครับ
อย่างที่บอกกันไปว่ากระเป๋าสามารถแยกออกมาได้เผื่อว่าวันไหนไม่ได้พกพาไปเยอะแค่ตัวคอมอย่างเดียวก็สามารถใส่ใบแบนๆได้ครับมีที่กันกระแทกอะไรมาให้ครบๆ ส่วนอีกใบก็ไว้ใส่อย่างอื่นหรือวางไวที่ก้องสลับกันได้ด้วย และเมื่อต้องการรวมเป็นใบเดียวก็รูปซิปเข้าด้วยกันและล็อคตัวล็อคด้านบนแค่นี้ง่ายๆเลยครับถือว่าการออกแบบฉลาดมากๆ
หูฟัง ASUS ROG CERBERUS
ก็ให้มาในกล่องแน่นอนว่ารุ่นนี้ถือว่าใช้งานทั่วไปได้แต่อาจจะไม่ใช่ตัวรุ่นสูงมากนักเป็นรุ่นกลางๆครับตัวนี้นั้นขายกันประมาณ 2000 ไม่เกินนี้ครับและเด่นๆคือเรื่องของไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 60 มม. และรองรับการใช้งานค่อนข้างยืนหยุ่นและตัวหูฟังมีน้ำหนักเบา รวมถึงขนาดตัวครอบหูนั้นค่อนข้างใหญ่มากจะเน้นให้ใส่สบายใส่ได้ทุกคนมากกว่าครับเพราะถ้าบางรุ่นที่รุ่นสูงๆนั้นอาจจะใหญ่ หรือ หนัก รวมถึงทรงที่แตกต่างกันอาจจะไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคนมากนักแต่ในรุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ใส่สบายและใส่ได้ทุกคนแน่นอนทั้งความใหญ่ ความเบาของตัวหูฟังในภาพรวมครับ
UNBOX ตัวกล่อง ROG MOTHERSHIP
มาถึงตัวกล่องจริงๆกันซะทีครับแน่นอนว่าตัวนี้คือตัวกล่องจริงๆที่จะใส่ตัว Gaming ตัวนี้เข้ามาครับตัวกล่องก็มีลูกเล่นเยอะมากครับใส่ครอบกันมาอีกชั้นและตัวกล่องข้างในนั้นไม่ได้เปิดแบบธรรมดาเปิดแบบแบ่งครึ่งทั้ง 2 ข้างและเมื่อเปิดแล้วนั้นต้องบอกว่าน่าสนใจเพราะว่า เมื่อเปิดออกทั้ง 2 ข้างเราสามารถทำให้มันตั้งแนวตั้งได้แบบในภาพเลยครับสามารถตั้งโชว์ได้เลยเป็นการออกแบบที่มีประโยชน์อย่างมากและน่าสนใจครับ และเมื่อเปิดมาแล้วยังมีกล่องอีกรอบ กล่องเล็กน้อยเยอะมากครับครั้งนี้ ซึ่งอันบางๆนั้นจะเป็นตัวเครื่องหุ้มพลาสติกมา ส่วนตัวกล่องใหญ่ขวามือจะเป็นที่อยู่ของพวก เมาส์ ที่ชาร์จ คู่มือต่างๆครับเดี๋ยวเรามาดูกันต่อเลยว่าข้างในทั้งหมดจะมีอะไรมาให้กันบ้าง
เมื่อเราเปิดออกมาแล้วก็จะแยกออกมาได้เป็น 3 ชิ้นหลักๆครับซึ่งตัวเครื่องสามารถแยกออกมาเป็น 2 ส่วนได้และตัวกล่องใหญ่นั้นเมื่อเราเปิดมาจะเห็นใบพร้อมกับลายเซ็นที่จะเขียนแนะนำ ต้อนรับที่เราซื้อครับพร้อมกับสามารถเป็นที่ตั้งในตัวได้เลยเผื่ออยากจะตั้งโชว์ครับและตัวใบนั้นข้างในจะเป็นแผ่นๆที่จะบอกแนวคิด การผลิต คอนเซปต่างๆของ Mothership ครับถือว่าเป็นจุดที่น่าสนใจและให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมมากสำหรับใครที่จ่ายตังซื้อไปให้รู้สึกดีเหมือนกัน
ROG GLADIUS 2
ตัวเมาส์เทพของ ROG นั้นต้องบอกว่าให้มาด้วยในกล่องข้างในครับเป็นรุ่นที่มีราคา 2,590 บาทกันเลยทีเดียวที่ขายๆกันรุ่นนี้ถือว่าสวยมีไฟรอบตัวและใช้งานได้ดีมากๆอีกตัวครับแน่นอนว่าตัวนี้ค่อนข้างดีมากๆในการใช้งานและสวยงามถือว่าดีมากๆที่ให้มาในกล่องทำให้ใครที่ซื้อไปก็สามารถเอาไปใช้งานได้สบายยาวๆเลยสำหรับเมาส์ตัวนี้
ตัวกล่องที่ให้มาอุปกรณ์ค่อนข้างเยอะครับเมื่อเรามาเปิดรวมกันทั้งหมดแล้วจะเห็นว่ามีทั้งเมาส์ และที่ชาร์จ 2 ตัวเพราะรุ่นนี้ใช้กำลังไฟสูงมากๆรวมถึง คู่มือ ตัวแผ่นเหล็กรูปโลโก้ พร้อมกับใบรับรองอะไรทั้งหลายครับ และเมื่อเอามารวมกับของในกล่องใหญ่ทั้งหมดจะเห็นว่าให้มาเยอะมากจริงๆและพร้อมใช้งานกันเลยครับ ซึ่งจะให้มาทั้งหมด
- ตัวเครื่อง ROG MOTHERSHIP
- คียบอร์ดของ ROG MOTHERSHIP
- ที่ชาร์จไฟ 280W Power Adaptor x 2 ตัว
- เมาส์ ROG GLADIUS II
- ใบต้อนรับพร้อมกับลายเซ็น รวมถึง แนวคิดการออกแบบต่างๆ
- คู่มือ
- แผ่นเหล็ก ROG METAL EARTH ประกอบเป็นโลโก้
- หูฟัง ROG CERBERUS
- กระเป๋า ROG RANGER 2 IN 1
DESIGN
มาถึงส่วนการออกแบบกันต่อเลยครับแน่นอนว่าในรุ่น ROG MOTHERSHIP เป็นการเปลี่ยนแปลงการออกแบบที่น่าสนใจและแทรกนวัตกรรมมาเยอะมากๆในตัวนี้เป็นแนวคิดที่ค่อนข้างแปลกใหม่จริงๆเป็นการใช้ Gaming Notebook ออกแบบมาผสมร่วมกับแนวคิดพวก 2in1 แต่มาในขนาดที่พกพาได้ง่ายเหมือนพวก Tablet เลยแต่อันนี้ไม่มีจอสัมผัสซึ่งสายเกมไม่น่าจะได้ใช้ประโยชน์จากจอสัมผัสเท่าไร ในเรื่องงานประกอบคุณภาพวันดุค่ายนี้ไว้ใจได้สบายครับแน่นหนาและเนี้ยบมากๆยิ่งตัวนี้พวกการออกแบบดูใส่ใจทุกจุดครับทั้งการระบายความร้อน การเล่นแสงสีต่างๆรวมถึง น้ำหนักที่ต้องบอกว่าหนักมากๆเลยครับเห็นพกพาง่ายแบบนี้หนักมากถึง 4.8 KG เลยครับทั้งหมดรวมตัวเครื่อง คียบอร์ดครับ ถือว่าหนักพอสมควรและไม่น่าจะพกพาไปไหนได้ง่ายๆครับ แต่ก็พกพายามจำเป็นพอไหว
มากันที่ตัวคียบอร์ดกันก่อนเลยครับ ตัวคียบอร์ดในรุ่นนี้สามารถถอดออกมาและใช้งานแบบไร้สายได้ด้วยครับแน่นอนว่ามีวัสดุเป็นอลูมิเนียมทั้งชิ้นเลยและสามารถพับอะไรได้ครับแน่นอนว่าสายเกมมิ่งแล้วนั้นตัวคียบอร์ดต้องไม่พธรรมดามาพร้อมกับปุ่มที่มีไฟ RGB Perkey เลยครับและรองรับการกดที่ลึกมากๆให้ความรู้สึกคล้ายๆ Mechanical นิดๆครับและมีทัชแพดพร้อมกับ Numpad ในตัวเลยคล้ายๆในพวกรุ่น Zenbook นั้นเอง และในตัวคีย์บอร์ดด้านบนก็มีตัวโลโก้สวยงามครับ โดยโทนสีนั้นจะเน้นไปทางสีดำทองแดง สวยงามและออกหรูๆไปในตัวเลย
ตัวคียบอร์ดด้านหลังนั้นจะเป็นโลโก้เช่นเดียวกันครับแต่เป็นแบบเงาๆพร้อมกับลวดลายวัสดุดำด้านแบบปัดลายคล้ายกับด้านหน้า พวกข้อต่ออะไรดูดีครับสามารถพับได้เวลาใช้งานแบบแยกชิ้นรวมถึงมีความแข็งแรงและก็มีน้ำหนักนิดหน่อยส่วนในการใช้งานนั้นทำได้ดีคือตัวปุ่มนั้นมีระยะกดที่ดีมากๆและวางตำแหน่งอะไรที่คุนเคยกันดีมากๆครับ
ในส่วนของตัวหน้าจอหรือตัวเครื่องหลักๆนั้นจะเป็นหน้าจอที่มีขาตั้งในตัวครับหน้าจอมาพร้อมกับขนาด 17.3 นิ้วเป็นหน้าจอ 144GHz และ 3MS รวมถึงรองรับ G-Sync ด้วย แน่นอนว่าด้วยความที่ยัดอะไรมาเยอะมากทำให้มันไม่ได้มีขอบบางหรือตัวเครื่องบางได้แน่นอนครับ และขอบแบบนี้ทำให้มีที่จับได้เวลาถือไม่ไปโดนหน้าจอส่วนตัวไฟ RGB นั้นจัดเต็มมาให้เลยในด้านล่างของหน้าจอครับและมีการเล่นแสงสีรวมถึงไม่ใช่ไฟเส้นๆปกติพร้อมกับแทรกอยู่ตรงช่องลำโพงพร้อมกับตระแกรงสีทองแดงนั้นเองครับไฟก็สามารถปรับได้เยอะตามแบบไฟ AURA SYNC ทั่วไปเลย
ตัวด้านหน้าจะเห็นว่ามีตัวล็อคกับคียบอร์ดอยู่เป็นร่องครับและตรงกลางนั้นก็จะเป็นแถบทองแดงสำหรับการเชื่อมต่ออีกทีนึงตรงนี้จะเป็นแม่เหล็กดูดติดหนึบเลยคล้ายๆพวก Surface อะไรแบบนั้นครับแน่นหนาและแข็งรงพอสมควรใช้งานพิมพ์อะไรต่างๆสบายครับไม่ต้องห่วงเลย และในตัวหน้าจอนั้นมาพร้อมกับกล้อง IR ข้างบนสำหรับแสกนหน้าแทนการใช้ลายนิ้วมือครับถือว่าล้ำเลยแหละ และมีกล้องหน้าพร้อมกับไมค์มาให้เรียบร้อยครบๆเลยครับรุ่นนี้ กล้องหน้าให้มาที่ FULLHD30FPS เลยด้วยนะครับถือว่าสมราคา
ตัวขาตั้งนั้นค่อนข้างชอบเลยครับเพราะว่ามันสามารถกางออกมาได้เองเมื่อเราเอาตัวคอมนั้นวางลงไปที่โต๊ะในแนวตั้งและขามันจะเด้งออกมาเลยเพราะมันมีสวิทช์อยู่ข้างล่างครับเป็นเหมือนตัวล็อค และในส่วนของขาตั้งนั้นต้องบอกว่าทำได้แข็งแรงและมีไฟแทรกเข้ามาส่องลงพื้นและไปที่โลโก้ด้วยนั้นเองและปรับแสงสีตามไฟที่สามารถปรับได้ใน Aura Sync เลย ส่วนขาตั้งนั้นจะปรับได้ คือมันจะล็อคที่เห็นในภาพแต่ถ้าเรากดให้มันเอนมันจะสามารถเอนได้อีกครับแต่ก็ไม่ได้มากนัก แต่ก็มีความแข็งแรงอยู่มากในการรับน้ำหนักของตัวเครื่องทั้งหมดเลยครับ และข้อพับแน่นหนา
ขอบเครื่องทางด้านขวานั้นจะเห็นตัวช่องระบายความร้อนด้านบนครับ จะเห็นว่าช่องเชื่อมต่อในด้านนี้นั้นด้านล่างสุดจะเห็นช่องจ่ายไฟเข้ามากถึง 2 ช่องและมี HDMI / USB-A 3.1/ USB-C 3.1/และ SD Card Reader ครับ และในตัวปุ่มนั้นจะอยู่บนเครื่องครับไม่ใช่ตัวปุ่ม Keyboard ครับแน่นอนว่าการควบคุมหลักๆต้องอยู่บนหน้าจอนี้
มีการพิมพ์สลักเลขด้วยว่า เครื่องที่เท่าไรที่ออกมาสู่ตลาด ในเครื่องรีวิวเรานั้นได้เครื่องลำดับที่ 198 เขียนอยู่ครับผม ในด้านขวานั้นจะเห็นว่าพอร์ตก็ยังจัดเต็มมากๆ เริ่มจากด้านล่างก่อนเลยจะเป็น USB-A 3.1 ทั้งหมด 2 ช่อง ช่องสำหรับเสียบ LAN และ รู ไมค์ รูหูฟังแยกกัน รวมถึงยังมี USB-A อีก 1 ช่อง และ USB-C อีกช่องครับ ในส่วนขอบเครื่องด้านบนนั้นเราจะเห็นไฟแสดงสถานะของตัวเครื่องมีทั้งหมด 3 ไฟหลักๆครับ และเห็นตระแกรงระบายความร้อนที่ถี่และบางมากๆทำให้มันระบายได้ดีมากๆเล่นเกมแบบสุดพร้อมสตรีมยังไม่แตะ 85 เลยครับสุดจริงง
เมื่อมองมาด้านบนนั้นจะเห็นความหนาของตัวเครื่องจริงๆนั้นไม่ได้หนามากนะแต่ถ้าเทียบกับสมัยนี้มันเลยดูหนาไปหมดเลยครับ แน่นอนว่าการยัดอะไรมาให้เต็มที่แบบนี้ทำให้มันต้องมีพื้นที่พอสมควรและต้องคิดเรื่องระบายความร้อนด้วยนั้นเองส่วนช่องระบายนั้นจะออกมาทั้งหมด 4 ทิศทางครับและรวมถึงด้านล่างตรงฝาขาตั้งด้วยนั้นเอง ในด้านหลังนั้นจะเป็นดีไซน์ที่เป็นกราฟฟิคสวยงามพร้อมกับเส้นขอบเฉียงที่คุ้นเคยรวมถึงไฟตรงโลโก้ด้วยครับส่องจากข้างใน
ตัวฐานนั้นวางได้ค่อนข้างแข็งแรงพอสมควรจากที่ลองไม่มีขยับเลยวางได้แข็งแรงและมั่นคงมากๆครับตัวฐานที่รองรับคียบอร์ดนั้นต้องบอกว่าทำได้ดีมีรอยหยักขึ้นมาเล็กน้อยครับและรับน้ำหนักตอนพิมพ์ได้สบายแต่แน่นอนว่าตอนพิมพ์ถ้าลงน้ำหนักเยอะอาจจะมีแอ่นๆเบาๆตามจังหวะมือครับ ส่วนด้านหลังนั้นเราจะเห็นส่วนลมเข้าเมื่อเราเปิดขาตั้งขึ้นมาและทำให้ช่องระบายได้ทั้งเครื่องดีกว่าเดิม และจะสังเกตเห็นปุ่มตรงฐานเครื่องอันนั้นจะเป็นปุ่มที่จะกางขาตั้งเองถ้าเราวางกับโต๊ะครับถือว่าออกแบบมาฉลาดทำให้เราไม่ต้องกางขาตั้งเองแค่วางและขาก็จะออกมาเองเลยอันนี้ดีมากๆ
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมนั้นในภาพข้างบนคือเมื่อเราเอาตัวคียบอร์ดปิดฝาพับหน้าจอลงไปแล้วนั้นก็จะไปคล้ายๆตัวคอมพิวเตอร์ทั่วไป ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ในภาพแรกนั้นจะเป็นด้านหลังจะเป็นโลโก้ด้านล่างเครื่องและมีการเล่นลวดลายพร้อมกับช่องระบายบางช่วงที่เป็นช่องๆครับก็สามารถรับลมเข้าไปได้อีก ส่วนในด้านหน้านั้นเมื่อพักฝาคียบอร์ดลงไปนั้นจะเป็นโลโก้มุมขวาบนพร้อมกับตัวไฟตรงโลโก้ครับ แน่นอนว่าเมื่อ Sleep นั้นไฟสีแดงจะวิ่งวนเป็นเหมือนตัว ROG รุ่นอื่นๆครับ และพับแบบนี้ก็แน่นแข็งแรงทำให้พกพาได้ค่อนข้างง่ายเหมือนรุ่นอื่นๆทั่วไปเลยนันเอง
ลองเทียบขนาดนั้นลองเทียบกับ Zenbook Flip ตัวใหม่ต้องบอกว่าเหมือนเอา 2 เครื่องมาวางกันได้เลยครับแน่นอนว่าด้วยขนาดหน้าจอ 17 นิ้วพร้อมกับสเปคมหาศาลของมันเลยทำให้มันมีความหนามากกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปเมื่อเราพับและถ้าดูใน Gaming สมัยนี้ก็ต้องบอกว่าบางขึ้นเรื่อยๆเลย และตัว ROG Mothership นั้นมีความหนา 29.9 มม. ครับ และหนักประมาณ 4.5กก ทั้งหมดครับ และ ไม่ได้รวมตัว Adaptor 2 ตัวที่ต้องพกพาไปอีกนั้นเอง
เมื่อเรารวมร่างกันก็จะได้ออกมาประมาณนี้ครับมองๆดูก็จะคล้ายๆกับพวก Tablet และ Surface พวกนี้ครับแน่นอนว่าเสียดายที่มันใช้แต่จอไม่ได้แต่ก็ทำให้มันใช้งานแยกคียบอร์ดได้สามารถวางหน้าจอและ แยกคียบอร์ดออกมาใช้ได้ด้วยครับ สำหรับองศาในการพิมพ์นั้นทำได้ดีมากๆเพราะมันเอียงรับได้พอดีเลยในตัวคียบอร์ด และ หน้าจอองศานั้นสามารถเอียงไปได้อีกครับเล็กน้อย ส่วนตัวคียบอร์ดนั้นเวลาพิมพ์มีโยกๆตรงกลางบ้างครับถ้าลงน้ำหนักเยอะๆลงไป แต่ชอบในการเชื่อมต่อของมันแค่วางลงไปแม่เหล็กก็จะดูดลงไปเลยและไม่ต้องกดอะไรเลยมันเชื่อมต่อเองได้เลยครับ
สำหรับตัวคียบอร์ดนั้นจะใช้งานได้หลักๆ 2 แบบตามภาพครับคือในส่วนแบบแยกใช้ไปเลยเหมือนกับพวกใช้งาน PC ครับสามารถวางตามตำแหน่งที่เราเหมาะหรือถนัดเลยครับและในส่วนความหน่วงหรือแลคนั้นจากที่ลองใช้งานเล่นเกมนั้นบอกเลยว่าน่าสนใจเพราะไม่หน่วงอะไรครับสามารถเล่นได้สบายเหมือนคียบอร์ดแบบสายทั่วไปครับ และตำแหน่งการกดปุ่มอะไรพวกนี้ทำได้ดีเลยแหละ แต่การวางมือต่างๆนั้นอาจจะไม่ได้ถนัดอะไรมากครับเพราะมันพับมาสูงขึ้นหน่อย แต่ถ้าเราเอาไปแปะกับหน้าจอ นั้นก็สามารถวางไปได้เลยและมันจะเชื่อมเองครับและชาร์จไฟไปในตัวส่วนในเรื่องของความถนัดก็ไม่มีปัญหาครับแต่ตรงข้อพับอาจจะยวบๆบ้างเล็กน้อยเวลาพิมพ์อะไรที่ลงน้ำหนักครับ
SPEC
- Intel ® Core™ i9-9980HK Boost 4.5 GHz
- Graphics NVIDIA® GeForce RTX™ 2080 (Boost Clock: 1880MHz, 200W)
8GB GDDR6 VRAM - Memory DDR4 2666MHz SDRAM (Dual channel) . 64 GB
- SSD 3 x M.2 NVMe PCIE 3.0 x4 512GB SSD RAID 0
- Display 17.3-inch Full HD (1920×1080) IPS-level panel, 144Hz, 3ms, 100% sRGB, G-SYNC®
- Detachable keyboard stays wired or goes wireless / Backlit Chiclet Keyboard
N-key rollover / Per key RGB /Aura Sync / 2.5mm travel distance /0.3mm keycap curve - ลำโพง 4x4W speakers with Smart AMP technology ไมค์แบบ Array Microphone
- I/O Ports
1 x USB3.1 Gen2 Type-C / Thunderbolt 3
1 x USB3.1 Gen2 Type-C with DisplayPort™ 1.4
3 x USB3.1 Gen2 Type-A
1 x USB3.1 Gen1 Type A / USB charger +
1x HDMI 2.0
1x 3.5mm headphone and microphone combo jack
1x 3.5mm microphone jack
1 x RJ-45 jack
1 x SD card reader
1 x Kensington lock - Power 280W Power Adaptor x 2
- Wi-Fi / Bluetooth Intel ® Wi-Fi 6 with Gig+ performance (802.11ax) Bluetooth 5.0
- ขนาดตัวเครื่อง 410 (W) x 320 (D) x 29.9 (H) mm
- น้ำหนัก 4.8 KG
ROG MOTHERSHIP
” ความพรีเมี่ยม ผสมเข้ากับนวัตกรรมและความแรง สมกับชื่อ ยานแม่ของ ROG “
มันคือนวัตกรรมของจริงอันนี้กล้าพูดเลยครับหลังจากที่ได้ลองแน่นอนว่าคนที่คิดออกแบบนั้นเก่งมากๆที่ใส่แนวคิดการแยกหน้าจออะไรแบบนี้เข้ามาพร้อมกับการระบายความร้อนและความแรงที่จัดเต็มรวมถึงคุณภาพที่จัดเต็มเช่นกันและแน่นอนว่าราคาด้วย ในรุ่นนี้ทำออกมาจำนวนจำกัดและมีเลขบอกเครื่องที่ผลิตด้วยเช่นกันครับเป็นอะไรที่น่าสะสมอย่างมาก ในการใช้งานไม่ต้องห่วงอยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไรเลยทำมาได้ลงตัวทั่งเสียง หน้าจอ และ สเปคในการเล่นเกมต่างๆครับ และในเรื่องของการใส่ใจในการออกแบบต่างๆนั้นทำออกมาได้ดีเลยคิดออกมาเยอะและน่าจะใช้เวลาพัฒนาพอสมควรในการที่จะทำตัวนี้ออกมาจนถึงเวอร์ชั่นขายจริงครับ เป็นอะไรที่ค่อนข้างสุดและน่าลองอย่างมากจริงๆสาวก ROG นั้นน่าจะรู้จักกันครับสำหรับยานแม่ตัวนี้และในตอนนี้มันก็เข้าไทยเรียบร้อยแล้วนั้นเอง
สำหรับพรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Preview by Nineztr