Samsung Galaxy S20 นั้นเปิดตัวไปในไทยไม่นานครับมาพร้อมกันทั้งหมด 3 รุ่นย่อยซึ่งก็เข้ามาในไทยทั้งหมดเลยครับคือ S20 / S20+/S20 Ultra 5G แน่นอนว่าก็มีจำนวนกล้อง ดีไซน์ ขนาดที่แตกต่างกันไปด้วยรวมถึงสเปคในหลายๆจุดคือตัวกล้องและความละเอียดครับ ในรุ่นของ 20/20+ นั้นจะคล้ายกันทั้งหมด แต่จะแตกต่างกันที่เลนส์ TOF นั้นเองกับหน้าจอและแบต ส่วนทางด้าน Ultra นั้นจะพิเศษกว่าทั้งกล้องหน้าหลัง และการรองรับ 5G รวมถึงดีไซน์และขนาดใหญ่หนักกว่าเช่นกัน ครั้งนี้เราจะมาอยู่กับ S20+ กันก่อนตัวกลางกำลังดี ทั้งขนาดและราคาครับ เด่นๆคือกล้องที่พัฒนาขึ้น และงานวีดีโอที่ดีมาก และลำโพง หน้าจอก็ใช้งาน 120Hz เทพๆเลยแหละครั้งนี้ เราเลยมาดูกันคร่าวๆก่อนไปชมรีวิวจริงกันครับว่า ในภาพรวมนั้น คะแนนต่างๆหน้าจอ ตัวอย่างภาพถ่ายจะเป็นอย่างไรกัน
Samsung Galaxy S20+ นั้นมาพร้อมกับหน้าจอ หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X Infinity-O ขนาด 6.7 นิ้ว Quad HD+ (3200 × 1440 pixels), HDR10+, รีเฟรชเรท 120Hz และทางด้าน CPU นั้นแน่นอนว่าในไทยยังคงใช้งาน ชิปเซต Exynos 990 7nm EUV ที่มาพร้อมการ์ดจอ ARM Mali-G77MP11 และทำงานร่วมกันกับ RAM LPDDR5 8GB รวมถึงความจุ storage (UFS 3.0) 128GB ทางด้านกล้องหลังจัดเต็มใช้งาน 4 ตัว 64MP Dual Pixel 12MP (f/1.8), OIS + เลนส์เทเล 64MP (f/2.0) , OIS, ซูมแบบ Hybrid Optic ได้ 3X, ซูมแบบ Super Resolution ได้ 30X + เลนส์กว้าง 120องศา 12MP (f/2.2) + เลนส์ตรวจจับความลึก Depth Vision ใน S20+ ซึ่งสามารถถ่ายวิดิโอได้ที่ความละเอียด 8K และ ลำโพงยังคงเป็นลำโพงคู่ และดีกว่าเดิมด้วยนะครับ ทางด้านแบตให้มาที่ 4,500mAh ที่รองรับชาร์จไว 25W ทั้งแบบมีสายและไร้สาย มาพร้อมฟีเจอร์ Wireless PowerShare และแน่นอนว่ากล้องหน้ายังคงเป็น Dual Pixel 10MP ที่ถ่ายได้กว้าง 80องศา, (f/2.2) แบบเดียวกับ Note 10+ นั้นเองครับ ส่วนทางด้านราคานั้นเปิดมา 1 รุ่นในตัว 20+ คือ RAM 8GB STORAGE 128 GB // 31,900 บาทครับผมรุ่นนี้
UNBOX
ตัวอุปกรณ์ในกล่องทางเรานั้นไม่ได้กล่องแบบขายจริงมานะครับ ซึ่งขายจริงจะมีเคส และ กล่องสวยๆมาให้แต่พวก สายชาร์จหูฟัง ทั้งหลายเป็นแบบเดียวกับในภาพข้างบนเลยนั้นเอง ที่ชาร์จนั้นให้ 25W มาในกล่องนะครับจะแตกต่างกับตัว Ultra นั้นเอง ส่วนทางด้านสายยังคงเป็น C-C อยู่นะครับ และหูฟังนั้นจะเป็นแบบ Type-C ตัวเดียวกับ Note 10+ ก่อนหน้านี้เลยนั้นเอง ทั้งรูปทรงวัสดุ รวมถึงคุณภาพเสียงนั้นไม่ได้แตกต่างกันซักเท่าไรครับตรงนี้
DESIGN
งานออกแบบของรุ่นนี้เปลี่ยนไปจากรุ่นเดิมๆแบบชัดเจนเลยคือรุ่นก่อนๆนั้นจะเน้นกล้องไว้ตรงกลาง แต่จะเป็นแนวนอนบ้างแนวตั้งบ้าง แต่พอมารุ่นนี้กลับใช้งานออกแบบ แบบเดียวกับ A71 A51 S10LITE พวกนี้ทั้งหมดเอาจริงๆไม่ค่อยชอบเท่าไรเพราะมันค่อนข้างธรรมดาไม่พรีเมี่ยม และไม่มีความโดดเด่นครับ แต่พอเครื่องจริงสีเทาก็พอสวยอยู่คล้ายๆสีเทาแบบ Lambo ที่ฮิตกันในช่วงนี้แต่ก็ยังยืนยันว่า ฝาหลังควรมีการเล่นแสงอะไรให้มีมิติมากกว่านี้หน่อยครับ ไม่ค่อยพรีเมี่ยมเท่าไร ส่วนการวางกล้องไว้มุมซ้าย 4 ตัวครับ และหน้าจอไม่โค้งแล้ว รวมถึงน้ำหนักความเบากำลังดีเลยแหละ และยังคงใช้งานวัสดุกระจกทั้งหมด และกันน้ำเหมือนเดิมเลย ขอบเครื่องก็มีความเงาโครเมี่ยมทั้งหมดครับ
ทางด้านหน้าจอนั้นใช้งานหน้าจอแบบเจาะรูตรงกลางมาในชื่อใหม่ Dynamic AMOLED 2X Infinity-O ขนาด 6.7 นิ้ว Quad HD+ (3200 × 1440 pixels), HDR10+, รีเฟรชเรท 120Hz และ กระจก Gorilla 6 ขอบเครื่องบางมากขึ้นกว่าเดิมและจอไม่โค้งแล้ว !! โค้งแค่ 2.5D แบบ iPhone นั้นเองครับไม่กินไปข้างๆ
ทางด้านขอบบนหน้าจอนั้นจะเป็นที่ซ่อนของรูลำโพงทั้งหลาย เซนเซอร์แบบเนียนๆและ กล้องหน้าเจาะรู 10MP F2.2 ครับส่วนขอบรอบๆนั้นบางขึ้นจริง และจอไม่โค้งแบบตัว S10+ พวกนั้นแล้วครับสบายใจได้เลยแหละแต่ก็ยังไม่ได้เป็นแบบเรียบซะทีเดียวครับโค้งนิดๆ 2.5D ประมาณนั้นแต่เรื่องฟิล์มก็น่าจะยังมีปัญหาอยู่แน่นอนครับ
ขอบล่างอันนี้น่าสนใจใช้งานหน้าจอขอบบางมาก ใกล้เคียงกับด้านอื่นๆไปอีกครับ การใช้งานเต็มหน้าจอ หรือแบบปุ่มก็สามารถเลือกใช้งานได้เลย อันนี้ขอชมเลยว่าทำขอบในภาพรวมได้บางขึ้นเรื่อยๆเลยสำหรับค่ายนี้ครับ
มาในส่วนของขอบล่างกันบ่างในตรงนี้จะเป็น รูไมค์ รู USB-C และลำโพงตัวหลักในด้านล่างครับพร้อมจะเห็นชัดเลยว่าหน้าจอไม่โค้งแบบรุ่นก่อนแล้วครับ แต่ก็มีนิดๆอยู่ ส่วนฝาหลังจะโค้งรับมือแบบชัดเจนเลยแหละ
ด้านข้างนี้จะเรียบๆไม่มีอะไรเลยครับแต่จะเห็นว่าฝาหลังและขอบเครื่องมันบางมากๆ และหน้าจอก็ไม่ได้โค้งเยอะมาก
ด้านบนนั้นจะเป็นที่อยู่ของถาดซิมแบบ Hybrid Slot และสามารถเพิ่มความจุได้ รวมถึงมีรูไมค์ตัดเสียงตัวที่ 2ให้มา
ทางด้านขวานั้นจะเป็นปุ่ม Power+เพิ่ม ลดเสียงครับและแน่นอนว่าพวกปุ่ม Bixby อะไรก็หายไปซะทีครับไม่มีแล้วทำให้ทั้งเครื่องมีแค่ 3 ปุ่มนี้เท่านั้น และอยู่ในตำแหน่งที่ดีแล้วไม่สูงไม่ต่ำเกินไปนั้นเองครับในจุดนี้
ฝาหลังนั้นเป็นสีเทาแบบธรรมดาๆเลย ไม่มีการเล่นเลเยอร์สีแสงอะไรทั้งนั้น ไม่มีสีรุ้งแบบรุ่น A71 A51 หรือลวดลายอะไรเลยมันคือความเรียบง่ายมากๆ จนบางทีมันเรียบไปหน่อยครับอาจจะเน้นความพรีเมี่ยมในแบบ Minimal ก็เป็นได้แต่ส่วนตัวอยากให้มันพรีเมี่ยมหรือแตกต่างกับรุ่นเล็กมากกว่านี้ในแง่ของการออกแบบกล้องครับ ส่วนฝาหลังโค้งลงทั้ง 4 มุมเลยจับถนัดและมีความบางกำลังดีครับ
มาที่กล้องหลังกันบ้างจะเห็นว่านอกจากกล้องแล้วยังมี มีรูไมค์สำหรับอัดเสียงตัดเสียงพิเศษเข้ามาด้วยครับ และในรุ่นนี้ยังคงมีฟีเจอร์ ซูมเสียง อยู่นะครับไม่ได้ตัดไปไหนแต่ตีบวกด้วย โหมดโปรในการถ่ายวีดีโอ การถ่าย HDR10+ การถ่ายแบบละลายหลัง และ 8K 24FPS ก็แทรกเข้ามาในรุ่นนี้ด้วยถือว่าโหดมาก ส่วนภาพนิ่งนั้นสเปคกล้องหลักเป็น Dual Pixel 12MP (f/1.8), OIS + เลนส์เทเล 64MP (f/2.0) , OIS, ซูมแบบ Hybrid Optic ได้ 3X, ซูมแบบ Super Resolution ได้ 30X + เลนส์กว้าง 120องศา 12MP (f/2.2) + เลนส์ตรวจจับความลึก Depth Vision ครับ ถือว่าจัดเต็มมากขึ้นและมีฟีเจอร์การถ่ายเข้ามาเยอะเช่นกันทั้ง Single Take และตัว Custom Filter
SPEC
- S20+ : หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X Infinity-O ขนาด 6.7 นิ้ว Quad HD+ (3200 × 1440 pixels), HDR10+, รีเฟรชเรท 120Hz
- ชิปเซต Exynos 990 7nm EUV + GPU Mali-G77MP11
- RAM LPDDR5 8GB + ROM 128GB (UFS 3.0 ) ใส่ microSD การ์ดเพิ่มได้ถึง 1T
- Android 10 ที่ครอบด้วย OneUI 2.0
- กล้องหลัง Dual Pixel 12MP (f/1.8), OIS + เลนส์เทเล 64MP (f/2.0) , OIS, ซูมแบบ Hybrid Optic ได้ 3X, ซูมแบบ Super Resolution ได้ 30X + เลนส์กว้าง 120องศา 12MP (f/2.2) + เลนส์ตรวจจับความลึก Depth Vision ใน ซึ่งรุ่นสามารถถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียด 8K
- กล้องหน้า Dual Pixel 10MP ที่ถ่ายได้กว้าง 80องศา, (f/2.2)
- กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP68
- ลำโพง Stereo โดย AKG, Dolby Atmos
- เซนเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอแบบ Ultrasonic
- ขนาดตัวเครื่อง 161.9 x 73.7 x 7.8mm; น้ำหนัก: 186g
- แบตเตอรี่ 4,500mAh ที่รองรับชาร์จไว 25W ทั้งแบบมีสายและไร้สาย มาพร้อมฟีเจอร์ Wireless PowerShare
SCREEN
ทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ แบบใหม่ในชื่อหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ที่ใช้ชื่อใหม่ต้อนรับหน้าจอแบบใหม่ในหน้าจอแบบเจาะรูวงกลมตรงกลาง ชื่อInfinity-O ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2K หรือ Quad HD+ (3200 × 1440 pixels) 525ppi , รองรับ HDR10+และจุดเด่นคือในรุ่นนี้มาพร้อมกับ รีเฟรชเรท 120Hz ในตัว FHD+ !! คือโหดมากจริงๆมันลื่นไหลและติดนิ้วอย่างมากในการใช้งาน และเวลาเลื่อนพวกแอป หรือ Facebook มันแตกต่างกว่าเดิมเยอะเลยครับแค่เลื่อนใช้งานก็แตกต่างกันแล้ว ในแง่ของคุณภาพหน้าจอนั้นไม่มีที่ติเช่นเดิม มิติแสงสีหน้าจอทำได้อิ่มสวยและสู้แสงได้เยอะมาก และเรื่องความแม่นยำสีนั้นได้ 100% ของ DCI-P3 และ รองรับความสว่างสูงสุด 1200Nits และ อัตราคอนทราสต์ที่ 2,000,000:1 ถือว่าเป็นจอที่สวยและดีมากๆตัวนึงของมือถือตอนนี้ครับ และค่าเริ่มต้นมันจะเป็น 60Hz 2K นะครับและสามารถปรับเป็น 120Hz FHD+ ได้ในการตั้งค่าหน้าจอ แต่จะใช้งาน 120Hz ได้ในความละเอียด FHD+เท่านั้นนะครับ
ANTUTU
ทางด้านประสิทธิภาพของตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับ Exynos 990 7nm EUV มี 8 คอร์ประมวลผล + GPU Mali-G77MP11 รองรับการถอดรหัสไฟล์วิดีโอ 8K 30fps ทำให้มันทำงานเร็วขึ้น 20% และประหยัดพลังงานกว่าตัวก่อนหน้าโดยทำงานร่วมกันกับ UFS 3.0 128GB ของทางค่ายถือว่าเต็มที่สุดๆครับ ทำงานร่วมกันสบายโดยสามารถทำคะแนนไปได้ คะแนน เลยทีเดียวและ เรื่องความร้อนก็ไม่ได้ร้อนไวเลยครับถือว่าครั้งนี้มาได้ดีกว่าเดิม
ANDROBENCH
ทางด้านคะแนนแน่นอนว่าตัวนี้ยังคงโดดเด่นในแง่ของการใช้งาน UFS3.0 ครับทำการอ่านเขียนไปได้ 1400 MB/s และ 671 MB/s ถือว่ายังคงเร็วแรงเช่นเดิมครับ เลยทำให้การอ่านเขียนมันสอดคล้องกับตัว CPU และหน้าจอทำให้มันทำงานร่วมกันได้เต็มที่และลื่นไหลครับแน่นอนว่าเป็นจุดที่ทำให้การใช้งานดูรูป ลงแอปอะไรไวขึ้นแบบชัดเจนครับ
SPEAKER
เอาจริงๆเรื่องของลำโพงมันทำได้ดีขึ้นแบบชัดเจนเลยนะดีกว่า Note 10 Plus ด้วยแหละเป็นจุดที่น่าสนใจเหมือนกันเพราะนอกจากกล้องแล้วรุ่นนี้ด้านลำโพงถือว่าพัฒนาขึ้นแต่น้อยคนนั้นจะทราบกันครับ ลำโพงเสียงดังมีมิติมากขึ้น และสะใจกว่าเดิมเช่นกัน เป็นบรรดาเรือธงที่ลำโพงดีที่สุดอีกตัว ล้ม Note 10 / 11 Pro ไปได้เลยแหละแต่ยังคงสู้ ROG Phone 2 ไม่ได้ตัวนั้นโหดที่สุดในบรรดามือถือทั้งหมดแล้ว ส่วนใครอยากรอติดตาม ทดสอบลำโพง เร็วๆนี้ที่ TECHHANGOUT BATTLE ไปกดติดตามกันได้เลยนะ
!! จิ้มไปเลย — TECHHANGOUT BATTLE YOUTUBE !!!
CAMERA
ทางด้านกล้องหลังนั้นถือว่าอาจจะไม่ได้โหดเวอร์แบบรุ่นพี่แต่ในรุ่นนี้ก็ไม่ได้แย่เลยนะ มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว กล้องหลัง Dual Pixel 12MP (f/1.8), OIS + เลนส์เทเล 64MP (f/2.0) , OIS, ซูมแบบ Hybrid Optic ได้ 3X, ซูมแบบ Super Resolution ได้ 30X + เลนส์กว้าง 120องศา 12MP (f/2.2) + เลนส์ตรวจจับความลึก Depth Vision ใน S20+ ซึ่งรุ่นสามารถถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียด 8K เป็นการพัฒนาอีกขึ้นในแง่ของการถ่ายรูป วีดีโอจริงๆ รองรับฟีเจอร์เยอะมาก ทั้งวีดีโอแบบ โปรโหมดต่างๆ หรือจะเป็นการถ่ายครั้งเดียวได้ทุกโหมดแบบนั้น Single Take นั้นเองอันนี้ฉลาดเลยแหละ ถ่ายทีเดียวได้ทั้ง วีดีโอ ภาพนิ่ง หรือจะเป็น ครอปภาพให้เลยครับ ส่วนภาพถ่ายก็ถือว่าดีนะ แต่กลางคืนและซูมยังไม่ได้ดีเท่าไรอาจจะต้องรออัปเดตกันอีกรอบตอนขายจริงนั้นเองครับผม ส่วนทางกล้องหน้านั้นมาพร้อมกับ 10MP ตัวเดิม ที่ถ่ายได้กว้าง 80องศา, (f/2.2) รองรับ มุมกว้าง มุมปกติ มีโหมดกลางคืน ตัวกล้องหน้านั้นไม่ได้แตกต่างกับรุ่น Note 10 Plus เท่าไรเพราะเป็นตัวเดียวกันเลยนั้นเองครับ
Custom Filter เจอโทนภาพไหนชอบ ก็อปได้เลย !!
เป็นฟีเจอร์ที่ค่อนข้างโกงเหมือนกันครับว่าชอบโทนภาพของใครก็แค่เซฟรูปเค้ามา และ เอามาดึงโทนภาพจากนั้นก็จะสามารถใช้งานได้เลย ในชื่อ Custom Filter ครับแต่จะใช้ได้แค่ตอนถ่ายนะ ถ่ายเสร็จแล้วค่อยมาใส่โทนไม่ได้ครับ หลักการง่ายๆคือ 1.ไปเซฟภาพที่เราชอบ โทนที่ชอบมา 2.เข้าแอพกล้อง เลือกตรงมุมขวาบน และเข้าไปที่ฟิลเตอร์ส่วนตัว 3.กด + 4.เลือกรูปที่เราจะทำการ ก็อปโทนภาพ 5.จากนั้นก็กดบันทึก และพร้อมใช้งานถ่ายได้เลย ง่ายมาก
5X-10X-30X ZOOM
SAMSUNG GALAXY S20 PLUS
ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าจับตาแน่นอนว่ามันเป็นเรือธงที่ขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่ไม่หนักแบบรุ่นพี่ ราคาอะไรก็กำลังดีรวมถึงกล้องหลังถือว่าดีงามมากแม้จะไม่ได้ซูมเยอะหรือ ได้108MP แบบรุ่นพี่แต่ถ้าเอาจริงๆการใช้งานมันก็เพียงพอแล้วนั้นเองครับ ส่วนตัวนั้นถือว่าเบาบางถนัดมือกว่า Ultra พอสมควรเลยแหละและสีที่สวยสุดคงไม่พ้นสีเทาครับ ส่วนทางด้านหน้าจอนั้นจัดเต็มสะใจจริงๆนะ คือลื่นไหลและสวยงามแม้จะได้ FHD+ เท่านั้นในตัว 120Hz แต่ก็ถือว่าไม่ได้เลวร้ายครับแต่เรื่องแบตนั้นเหมือนจะลดไวพอสมควรนะเท่าที่ลองๆเดี๋ยวยังไงลองดูรีวิวเต็มกันอีกทีครับ
สำหรับพรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Preview by Nineztr