ด้านหน้ามาพร้อมกับหน้าจอแบบ Ultra Fullview ที่มีขนาด 6.39 นิ้ว ไม่มีรอยบาก ไม่มีติ่ง ไม่มีจุดอะไรทั้งนั้นจอเป็นแบบ Super AMOLED อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080×2340 พิกเซล) ครอบทับด้วยกระจก 2.5D ครับถือว่าทำได้สวยเลยแหละเต็มตาแบบไม่มีอะไรมาปิดด้านขอบบนVivo V15 ตัวธรรมดา ได้ทำการเปิดตัวไปแล้วเหมือนกันซึ่งมีอะไรหลายๆอย่างที่แตกต่างกับตัว Pro อยู่นะหลายๆคนอาจจะมองว่ามันเพิ่มเงินไปตัว Pro เลยดีกว่าแต่ 4พันสำหรับบางคนมันอาจจะเป็นจำนวนไม่น้อยเลยนะ เลยมาพรีวิวให้ชมกันก่อนเปิดจองเร็วๆนี้แล้ว ว่าตัวนี้ในงบ 10990 บาทนั้นจะเป็นยังไงและอุปกรณ์อะไรแตกต่างกับรุ่นพี่มากน้อยแค่ไหนกันซึ่งเอาจริงๆแล้วดีไซน์แถบจะเหมือนกันเลยนั้นเองครับในด้านหน้าและหลัง รวมถึงได้กล้อง PopUp
UNBOX
ตัวกล่องนั้นมาพร้อมการออกแบบที่เหมือนกับรุ่น Pro เลยแหละ และของที่ให้มาทุกอย่างนั้นก็เหมือนกันครับรวมถึงมุมขวาบนมีการเขียนแจ้งไว้ด้วยว่า RAM 6 GB ROM 128GB ครับ เห็นรูปเครื่องทั้งหน้าและหลังชัดเจนรวมถึงสี
- ตัวเครื่อง Vivo V15
- สายชาร์จแบบ Micro USB
- Adaptor ชาร์จไฟ
- หูฟัง 3.5 มม.
- คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
- เคสใสวัสดุแข็ง พร้อมขอบสีดำ แบบเดียวกับรุ่น V15 Pro
หูฟังที่ให้มาเป็นทรงเดียวกับรุ่นอื่นๆที่เคยแถมครับ เป็นหูที่ทรงคล้ายๆของ Earpods นั้นเองทรงนี้ใส่สบายและไม่หนักหู รวมถึงใส่วิ่งได้สบายครับดีกว่า InEar ด้วยนะ สายเป็นแบบ 3.5มม.ครับสีขาวทั้งหมด พร้อมปุ่มควบคุมอะไรมีมาให้ครบ ส่วนที่ชาร์จนั้นให้มาแบบขาแบน รองรับชาร์จไวด้วยครับ:ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเรียกว่า Dual Engine Fast Charge 9V 2A หรือ 18W นั้นเองครับ ชาร์จได้ไวพอสมควรแต่เสียดายที่พอร์ทมันเป็น Micro-USB ย้อนยุคไปนิด
เคสแบบเดียวกับตัว Pro ครับเป็นเคสแถมที่ดูดีกว่าทุกค่ายที่เจอมาในเรทราคานี้เลยนะ ส่วนที่เป็นวัสดุแบบฝาหลังใสแข็งและขอบเครื่องนั้นเป็นสีดำค่อนข้างดูดีพรีเมี่ยมมากๆครับรวมถึงแข็งแรงและปกป้องตัวเครื่องได้ดี ดีกว่าเคสใสนิ่มแบบแต่ก่อนที่แถมกัน ข้างหลังเป็นพลาสติกแข็งและมีจุดๆป้องกันการติดกับวัสดุฝาหลังครับ ส่วนการปกป้องหน้าจอก็หุ่มขึ้นมาได้สูงและ เคสแบบนี้จะมีการเว้นช่องเปิดไว้ สำหรับกล้องหน้าเวลาเลื่อนขึ้นลงนั้นเองครับ แต่เคสส่วนพลาสติกใสนั้นต้องบอกว่าเป็นรอยได้ง่ายมากๆครับ ส่วนด้านหลังก็ต้องทำใจกันไว้เพราะพลาสติกแข็งแบบนี้ปกติครับ
DESIGN
การออกแบบจริงๆก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากเลยครับเพราะหลักๆจะเป็น CPU ภายในที่แตกต่างกัน แต่อย่างว่าด้านหลังก็มีจุดแตกต่างกันเล็กน้อยถ้าใครมองไม่ออกจริงๆมันคือตรงสแกนนิ้วนั้นเองครับตัวนี้จะไม่มีสแกนนิ้วใต้หน้าจอแล้วแต่เป็นสแกนนิ้วด้านหลังแทน อันนี้แหละคือจุดที่จะแยกกันว่ารุ่นไหนคือตัว Pro ส่วนในด้านของงานประกอบวัสดุ การออกแบบรวมๆก็มีความแตกต่างและเป็นตัวเองมากขึ้นครับในด้านหลังกล้อง 3 ตัววางตำแหน่งเรียงกันพร้อมกับการออกแบบให้มันเชื่อมต่อกับกล้อง Popup ด้านบน และฝาหลังสีน้ำเงินที่เล่นแสงและวัสดุเงาพร้อมกับมีพื้นผิวข้างในสะท้อนแสงได้สวยเหมือนกัน การไล่สีอะไรทั้งหลายคงความสวยงามได้ดีครับ
ด้านหน้ามาพร้อมกับหน้าจอแบบ Ultra Fullview ที่มีขนาด 6.53 นิ้ว ไม่มีรอยบาก ไม่มีติ่ง ขนาดใหญ่กว่าตัว V15 Pro นิดหน่อยครับ หน้าจอเป็นแบบ Super AMOLED อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080×2340 พิกเซล) ครอบทับด้วยกระจก 2.5D
ขอบด้านบนตัวนี้ทำได้บางมากๆบางเทียบเท่ากับขอบด้านอื่นๆเลยแหละและแน่นอนว่า ลำโพง เซนเซอร์ต่างๆก็ซ่อนตามขอบได้อย่างเนียนๆแบางๆกันไปจะเห็นแถบช่องลำโพงยาวๆ และแน่นอนไฮไลท์อีกจุดคือ กล้องหน้าแบบ Popup โผล่ขึ้นมาเลื่อนโดยอัตโนมัตินั้นเองครับมีความละเอียด 32MP ซึ่งกล้องนั้นมีความละเอียดเท่ากับรุ่น Pro
ขอบด้านล่างทำได้บางกว่าเดิมแต่ก็ยังแตกต่างกว่าด้านอื่นๆอยู่ครับ ส่วนการควบคุมนั้นก็เป็นในหน้าจอทั้งหมด 3 ปุ่มแต่ก็สามารถปรับแต่งหรือใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้ในการปัดไปมาครับแล้วแต่เราจะปรับเลย
ขอบด้านบนนั้นจะเป็น ไมค์ และ รูหูฟังนั้นจะไปอยู่ด้านล่างแทนแล้วครับ แตกต่างกับตัว Pro อยู่นะ และ ตัวเหลี่ยมๆนั้นคือกล้องหน้าที่จะเลื่อนขึ้นมาอัตโนมัติเวลาใช้งานครับกินพื้นที่นิดหน่อยเลยทำให้ส่วนนั้นอาจจะต้องนูนออกมา
ด้านขวาตัวเครื่องจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่ม Power จะอยู่ฝั่งนี้ทั้งหมดครับ ส่วนด้านขอบบนนั้นจะเห็นว่าถ้ากล้องหน้าใช้งานมันก็จะโผล่ออกมาประมาณนี้ และกล้องหลังก็จะนูนขึ้นมานิดหน่อยครับเวลาวางคว่ำจะไม่ค่อยเรียบ
ด้านซ้าย นี้เราจะเห็นปุ่มที่หลายๆค่ายนั้นจะใส่เข้ามากันเพิ่มคือปุ่มสำหรับเรียก AI หรือพวกคำสั่งเสียงนั้นเองครับ และก็สามารถปรับตั้งค่าได้ว่าจะให้สั่งงานตัวไหนยังไงครับ Google Search หรือ Assistant ครับ และเห็นในส่วนถาดซิมรุ่นนี้จะเป็น Triple Slot สามารถรองรับใส่ซิม 2 ซิม และก็เพิ่มเม็มได้ ซึ่งของ Pro จะแยกจากกันครับ
ด้านขอบล่างนั้นเป็นที่อยู่ของลำโพงหลัก รูชาร์จแบบ Micro-USB ซึ่งน่าเสียดายมากๆในปีนี้ยังเจอพอร์ตแบบนี้ครับ และ รูหูฟังมาอยู่ด้านล่างแล้วครับ ก็เป็นจุดแตกต่างเล็กๆน้อยสำหรับทั้ง 2 รุ่นทั้งตัว รูหูฟัง ตัวถาดซิมเป็นต้นครับ
ด้านหลังดีไซน์อะไรเหมือนกันไปหมดยกเว้นสแกนนิ้วครับ และ ตัวกล้องก็แตกต่างกันด้วยนะ แม้จะมี 3 กล้องเหมือนกันแต่ตัว Pro นั้นได้ตัวกล้องหลักที่ 48MP แต่ของ V15 นั้นได้มาเป็นตัว 24 MP + 8 MP + 5 MP นะครับเป็นจุดแตกต่างกันหลักๆเลยแหละสำหรับ 2 รุ่นนี้
SPEC
- Android 9.0+ Funtouch OS 9.0
- หน้าจอ 6.53 นิ้ว FHD+ (2340×1080)อัตราส่วน 19.5:9
- CPU MediaTek Helio P70
- GPU Mali-G72
- RAM 6 GB
- STORAGE 128 GB + microSD สูงสุด 256GB
- กล้องหลัง 3 ตัว – 24 ล้านพิกเซล f1.78 + 8 ล้านพิกเซล f2.2 + 5 ล้านพิกเซล f2.4
- กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f2.0
- 2 ซิม Dual-Stand by
- Wi-Fi, Bluetooth 4.2
- Micro-USB 2.0
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh Dual-Engine Fast Charging 18W
- ราคา 10,990 บาท
SCREEN
Vivo V15 หน้าจอมีขนาดใหญ่กว่าตัว Pro เล็กน้อยครับ แต่ในส่วนของคุณภาพอะไรนั้นแทบไม่แตกต่างกันเลย หน้าจอนั้นนั้นเป็นหน้าจอแบบไร้รายบาก แบบ Super AMOLED Ultra FullView Display โดยเป็นขนาด 6.53 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 Full HD+ ครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D แน่นอนว่าคุณภาพจอมันใช้ได้เลยแหละ ดูวีดีโอทำได้เต็มตามากๆเลย แน่นอนว่าทำให้เวลาดู Youtube ต่างๆสามารถขยายได้เต็มจอแบบภาพด้านบนและไม่มีอะไรมาบดบังเลย และใช้งานเล่นเกมอะไรได้สบายครับจอใหญ่กว่าตัว Pro ด้วยสำหรับใครชอบจอใหญ่ๆครับ
SOUND
ตัวนี้ก็ยังคงเหมือนเดิมคือ ไม่มีชิพเสียงมาให้นะครับ เลยทำให้มันค่อนข้างธรรมดา และ เสียงที่ได้ค่อนข้างธรรมดาครับไม่ได้เด่นอะไร เสียงกำลังขับอะไรมากลางๆครับ ฟังเพลงรายละเอียดเสียงนั้นจะมาในเสียงนุ่มๆ รายละเอียด มิติเสียงมาดีนะ แต่ก็ไม่ได้เด่นกว่าตัวอื่นๆเท่าไรครับในเรื่องของเสียง ส่วนตัวหูฟังนั้นให้เสียงที่ใช้ได้ครับไม่แย่เอามาฟังอะไรได้เลย รวมถึงการใส่สบายและมีรู 3.5 มม.ก็ใช้ทั่วไปแบบไม่ได้จริงจังอะไรมากได้ครับ Software มีปรับเล็กน้อยเผื่อใครอยากปรับเสียงต่างๆ
FINGERPRINT
การสแกนนิ้วต่างๆในรุ่นนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงครับจากสแกนนิ้วใต้หน้าจอ มาเป็นด้านหลังสแกนนิ้วแบบนี้ข้อดีคือสแกนได้ไวกว่าแบบบนหน้าจอนะเอาจากที่ใช้งานกันจริงๆแต่มันอาจจะไม่สวยในด้านหลังเท่านั้นเองครับ การตอบสนองอะไรทำได้ดีและอยู่ในตำแหน่งที่พอดีกับนิ้วชี้เวลาถือได้ครับทำให้ไม่ต้องขยับนิ้วอะไรเยอะแยะเวลาจะใช้งานครับ
VIVO V15
ก็เป็นรุ่นสำหรับคนที่งบไม่เยอะและอยากใช้งานหน้าจอแบบเต็มๆ กล้องหน้าโหดๆ ตัวนี้ออกมาตอบโจทย์ครับกล้องหน้าได้ตัวเดียวกับ V15 Pro ที่มากถึง 32MP ในแบบ PopUp ด้วย ส่วนในเรื่องอื่นๆ ความจุ การออกแบบ RAM พวกนั้นมาให้เหมือนๆกัน ที่แตกต่างกันหลักๆนั้นจะเป็น CPU ที่รุ่นนี้มาใช้ MTK P70 และ ปรับลดกล้องหลังเหลือ 24MP และ สแกนนิ้วมาอยู่ด้านหลังแล้ว แต่ในด้านการใช้งาน ระบบหน้าตา ความลื่นไหลทั่วไปไม่แตกต่างกันมากครับถือว่าเป็นอีกตัวเลือกได้ดีเลย ยังไงภาพถ่ายทั้งหลาย การเล่นเกม รอติดตามรีวิวเต็มๆได้เลยนะครับ
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Preview by Nineztr