Razer ก่อนหน้านี้ไม่นานหลายๆคนน่าจะดูรีวิวกันไปแล้วสำหรับหูฟังตัวล่าสุดไร้สายนั่นก็คือทาง NARI นั้นเองซึ่งเป็นรุ่นระดับกลางของตระกูลครับในครั้งนี้เราจะมาอยู่กับรุ่นสูงสุดของทาง NARI นั้นก็คือทาง NARI ULTIMATE เป็นรุ่นเทพสุดในตอนนี้ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี HyperSense แน่นอนว่าเป็นจุดเด่นหลักๆของมันเลยครับเป็นเทคโนโลยีที่จะทำให้ตัวหูฟังของเรานั่นสั่นได้ เหมือนมี ซัปวูฟเฟอร์มาอยู่ในหัวเราทำให้เราสั่นตามเสียงเบสเสียงต่ำ ได้แบบสะใจมากๆเหมือนไปอยู่ตาม สนามรบของจริงซึ่งเป็นระบบสั่นไม่ใช่การเปิดเสียงดังจนสั่น จึงไม่เป็นอันตรายต่อการใช้งานนะครับ เป็นรุ่นที่กล้าคิด กล้าทำมากๆในการใส่ระบบนี้เข้ามาจะเป็นยังไงนั้นไปชมรีวิวกันได้เลยครับผม
Nari Ultimate นั้นเป็นรุ่นสูงสุดของตระกูล มาพร้อมกับนวมครอบหูมีเจลเย็นภายในนอกจากนี้ยังมีช่องเว้าสำหรับขาแว่น ทำให้สวมใส่กับแว่นตาได้ดีกว่าเดิม และแน่นอนจุดเด่นๆของมันเลยก็คือระบบ HyperSense จะอาศัยตัวขับแฮปติกที่สร้างกลไกโต้ตอบการสัมผัสแบบหลายมิติ เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถใช้งานได้ทั้งกับเกม ดนตรี และภาพยนตร์ Razer Nari Ultimate ยังมาพร้อม THX Spatial Audio ที่มีอยู่ใน Kraken Tournament Edition มิติเสียงรอบทิศ 360 องศา รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวได้ก่อนใครขณะเล่มเกม แบบ 4DX กันไปเลย
สำหรับราคา Razer Nari Ultimate นั้นในไทยเปิดราคามาที่ 8,190 บาท ประกัน 1 ปี และหาซื้อกันได้เลยวันที่ 10 ตามร้านค้าทั่วไปครับ ส่วนราคาในรุ่นอื่นๆเช่น Razer Nari ตัวนี้ในไทยเปิดราคามาที่ 5,890 บาท ครับผม และตัว Nari Essential น้องเล็กนั้นเปิดราคาที่ 3,890 บาท
UNBOX
ตัวกล่องมีขนาดใหญ่ตามขนาดของหูฟังครับอุปกรณ์มีมาให้ครบเพียงพอต่อการใช้งาน มีคู่มือ สติกเกอร์ สายชาร์จแบบ Micro-USB สายเชื่อมต่อ รู 3.5 มม. เป็นสายถักทั้งหมด และ หูฟัง พร้อมกับ Wireless Adaptor ในตัว
ตัวกล่องในมุมซ้ายบนจะมีคำว่า HYPERSENSE อันนี้คือจุดแตกต่างกันระหว่าง NARI ธรรมดานั้นเองมันคือระบบสั่นที่ใส่เข้ามาเป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวในตอนนี้ จะสั่นตามจังหวะเสียงเบส ยิงปืน หรือระเบิดพวกนี้ถือว่าเป็นการพัฒนาที่ดี
DESIGN
ทางด้านการออกแบบนั้นตัวนี้เมื่อเทียบกับ NARI รุ่นปกติแทบจะไม่แตกต่างกันเลยแหละมีการใช้สีเททัลลิคเข้ามาเท่านั้นที่ทำให้รู้สึกแตกต่างเพราะการว่างปุ่ม การออกแบบทั้งหมดจะเหมือนกับตัว NARI เลยทั้งหมดครับมาอยู่ในตัวนี้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ฟองน้ำแบบใหม่ที่ผสม 2 วัสดุเข้าด้วยกัน ไฟตรงโลโก้ หรือจะเป็น ขนาดและรูปทรงทั้งหมดนั้นเอง จริงๆแอบชอบการใช้สีเทา เมทัลลิคของรุ่นนี้มากกว่าตัวอื่นๆที่เคยใช้งานมานะครับมันดูแพงและดูดีกว่าสีดำมากๆ
ด้านการออกแบบกดีไซน์อิงรุ่นก่อนหน้านั้นทั้งหมด ขยับได้ค่อนข้างอิสระเหมาะกับทรงหัวของแต่ละคนได้ดีครับ มีขนาดใหญ่พอสมควรครอบหูได้สบายและมีความหนาทำได้ดี น้ำหนักอะไรไม่แตกต่างกับรุ่นธรรมดามากนักแม้จะมีระบบสั่นเข้ามาแต่ก็ไม่ได้ทำให้น้ำหนักความใส่สบายแตกต่างกับรุ่นเดิมเลยถือว่าทำได้ดีครับ และ การสวมใส่ทำได้ดีนุ่มสบายรองรับได้ในหลายๆคนครับ โทนสีที่สวยขึ้นดูแพงขึ้นทำให้เวลาใช้งานดูดีกว่าเดิม และตัวบอดี้การรองรับกับหูเวลาใส่ทำได้ดีไม่ชนใบหู และ เก็บเสียงรอบข้างได้เงียบครับแม้จะไม่มีระบบ Noise Cancelling แต่ก็ได้ที่ครอบหูที่ค่อนข้างเห็บเสียงได้ดีมาช่วยได้นิดหน่อยครับ และเป็นวัสดุแบบผ้าผสมหนังทำให้ใส่สบายไม่ร้อนแบบวัสดุหนังครับ
ทางด้านทั้ง 2 ข้างของทางหูฟังนั้น มาเริ่มกันที่ฝั่งซ้ายของหูฟังกันก่อนครับ ด้านซ้ายนั้นจะเป็น รู 3.5 มม รูช่องชาร์จแบบ Micro-USB และ ปุ่มเปิดปิดครับ และมีแถบเลื่อนควบคุมว่าจะเน้นเสียงเกมส์หรือเสียงคุยครับ และ ปุ่ม Mute มากันที่อีกด้าน ด้านนี้จะเป็นการควบคุมเสียงหลักครับ และ มีที่เก็บตัวรับสัญญาณไร้สาย 2.4 Hz ครับ เสียบเข้าได้เนียนเลยแหละค่อนข้างสะดวกและ มีแม่เหล็กแอบดูดเข้าด้วย ทุกอย่างจะเหมือนทาง NARI ยกเว้นสีของบอดี้
ด้านการออกแบบซ้ายขวาก็ยังมีตระแกรงเช่นเดิมครับ มาพร้อมโลโก้มีไฟมาด้วย และจะเห็นว่าโทนสีนั้นจะออกไปทางสีเทาๆเมทัลลิคครับ แน่นอนว่าเป็นจุดที่แตกต่างกับตัวธรรมดาเอาจริงๆมันสวยเลยแหละครับดูพรีเมี่ยมมากๆส่วนที่แตกต่างกันอีก 1 จุดก็คือเหล็ก 2 ก้านข้างบนนั้นจะมีการเล่นลายปัดลายและโทนไปออกสีเทาๆแตกต่างกับรุ่นธรรมดาที่เป็นแค่เหล็กสีดำธรรมดาไม่มีการเล่นลวดลายครับ เป็น 2 จุดหลักๆที่แตกต่างกับตัวธรรมดาในการออกแบบ
ตัวฟองน้ำส่วนบนนั้นด้านในเป็นผ้าตาข่าย และ ส่วนด้านนอกเป็นหนังและเขียนชื่อแบรนด์ลงไปครับผม ความหนาทำได้ดีไม่ได้ฟองน้ำบางๆแล้วเวลาใส่ค่อนข้างสบายเลยแหละ และ มาที่ตัวจุดเด่นอีกอย่างคือตัว แพดที่ครอบหูตัวนี้มีขนาดใหญ่ครอบคลุมทั้งหูได้สบายเลยแหละ มีความหนาดีมาก ใบหูไม่ชนกับตัวข้างในแล้ว รวมถึงการใช้วัสดุผ้า ผสมกับหนังทำให้ระบายความร้อนได้ดีมาก และ มีเจลลดความร้อนอยู่ข้างในด้วยครับแอดมินลองใช้งานนานๆ พอใจกว่ารุ่นก่อนหน้านี้มากก แม้จะไม่เปิดแอร์ก็สบายครับนิ่มนุ่มเลยแหละ ยังทำได้ดีเหมือนตัว NARI ก่อนหน้าเลยครับ
มาที่ข้อต่อต่างๆนั้นดูแข็งแรงเป็นเหล็กและด้านข้างบนก็ยังใช้เหล็กที่มีการให้ตัวค่อนข้างดีและกระชับไปในตัวด้วยสายสลิงครับ ใช้สีโทนเทาเข้มเป็นมัลเทลิคทั้งหมดนะครับทั้งบอดี้และข้อต่อ ทำได้ดูดีเลยแหละแต่รอยต่อของพลาสติก บางช่วงเลยทำให้มันดูไม่ได้เป็นชิ้นเดียวกันเท่าไรครับจุดนี้น่าเสียดายน่าจะทำเนียนๆไปเลยไม่เห็นรอยต่อน่าจะสวยเนี้ยบเลยแหละ แต่ตัวงานสีตรงที่ครอบหูอะไรทั้งหมดก็เรียบสวยครับมีแค่จุดเล็กๆตรงข้อต่อข้อพับนิดหน่อย
NARI ULTIMATE VS NARI
ลองมาเทียบกันซักนิดสำหรับตัว NARI ทั้ง 2 รุ่นครับการออกแบบนั้นเหมือนกันทุกจุดคือใช้โมเดลเดียวกันทั้งหมดรวมถึงโลโก้มีไฟอะไรต่างๆน้ำหนักการสวมใส่ทั้งหมดนั้นให้อารมณ์เดียวกันแต่ที่แตกต่างกันคือ 1.มีระบบสั่น HAPTICS เข้ามาอันนี้จะรู้สึกได้เวลาสวมใส่ใช้งานเท่านั้น 2.การใช้โทนสีเข้าเข้มแบบเมทัลลิค ทำให้วัสดุสีของตัวหูฟังนั้นแตกต่างและเล่นกับแสงสีได้สวยงามกว่าและดูพรีเมี่ยมกว่ามากเลย 3.การเล่นลวดลายบนก้านเหล็กข้างบนในตัว Ultimate นั้นจะมีการใช้เหล็กปัดลายและโทนสีเทาเข้มแตกต่างกับรุ่นปกติเป็นแค่เหล็กธรรมดาสีดำครับผม ส่วนอุปกรณ์ กล่อง อะไรทั้งหมดนั้นมาเหมือนกันทุกประการครับ
SPEC
- Frequency response: 20 Hz – 20 kHz
- Impedance: 32Ω at 1 kHz
- Sensitivity (@1 kHz): 107 ± 3 dB
- Input power: 30 mW (Max)
- Drivers : 50 mm, with Neodymium magnets
- Inner ear ขนาดส่วนข้างใน : Width 56mm / Length 67mm
- Oval ear cushions: แพดครอบหู ใส่สบาย และมี cooling gel ภายใน
- การเชื่อมต่อ : ไร้สายผ่านทาง USB Transceiver / สาย 3.5 มม.
- Wireless frequency: 2.4 GHz
- Analog connection: 4 – pole
- การใช้งานแบต : 8 ชั่วโมงแบบเปิดไฟ Chroma+ระบบสั่น / 20 ชั่วโมง แบบไม่เปิดไฟ Chroma+ปิดสั่น
- รองรับระบบเสียง THX Spatial Audio
- มี Cooling Gel-Infused ในตัวแพกครอบหู
- ระบบปรับเสียง คุย และ เสียงเกม
- ระบบเสียง Lag-Free Wireless Performance
- มีไฟ Razer Chroma™
- Razer HyperSense ระบบสั่น Haptics
SOFTWARE
สำหรับซอฟท์แวร์ตัวนี้ยังคงใช้ Synapse 3 อยู่นะครับและต้องอัพเดทล่าสุดด้วยถึงจะหาเจอครับใครไม่ขึ้นแนะนำให้ลองหาอัพเดทกันก่อนนะครับก่อนจะเชื่อมต่อปรับแต่งอะไรพวกนี้ ถ้าไม่อัพเดทก็ฟังเพลงได้ แค่ปรับอะไรไม่ได้ครับ หน้าแรกที่เชื่อมต่อเลยมันจะบอกว่าตัวหูฟังนี้นั้น สามารถปรับเลือกได้ว่าเราจะเอาเสียง คนในทีม หรือ เสียงเกม ที่เน้นมากกว่ากันครับสามารถปรับได้ และ อีกข้างนั้นจะเป็นปรับสำหรับเสียงโดยรวม ก็เป็นอีกฟีเจอร์ที่ทำได้ดีเลยแหละ
หน้าต่อมาเป็นการปรับแต่งเสียงว่า โปรแกรมไหนจะเอาเสียงรอบทิศทาง หรือ เสียงซ้ายขวาครับสำหรับผมแนะนำว่าฟังเพลง อะไรพวกนี้ปรับเป็น Strero ไว้ดีกว่า ส่วนในเรื่องของเกม หนังนั้นแนะนำปรับ Surround ไว้ครับจะสนุกมาก และในด้านขวานั้นเป็นการปรับแต่งให้เสียงนั้นรอบทิศทางและทดสอบว่าตรงไหม ถ้าไม่ตรงก็ตั้งค่าใหม่ได้ครับ
มาที่หน้าต่อไปกันเลย อันนี้มาที่การแต่งเสียงละว่าชอบแบบ เบสหนักๆแน่น ในแถบด้านบนซ้าย หรือ เสียงคนร้อง เสียงใสแหลมมากกว่ากัน ในแถบกลางด้านบน ครับผม ก็สามารถปรับได้เลยครับ หรือตัวช่วยในการปรับเสียงให้มีความสมดุล ไม่ดังไปในทุกๆย่านเสียงของตัวเพลงหรือเกมที่เราเล่นครับในด้านบนขวา และที่เด่นๆคือ ล่างซ้าย ในการปรับระดับการตอบสนองต่อการสั่น ยิ่งปรับเยอะยิ่งสั่นแรง และ ตอบสนองได้ไวกว่าเดิมครับ
มาถึงตัวไฟตรงโลโก้กันบ้างตัวนี้ปรับแต่งความสว่างได้ ปรับว่าจะปิดตอนไหน และยังเปลี่ยนสี การกระพริบอะไรได้ครับซึ่งสามารถทำได้หลักๆคือ แบบหายใจ ไฟวนสีไปเรื่อยๆ และ กระพริบครับผม หรือจะไปเล่นใน Chroma Studio ก็ได้เช่นเดียวกันครับซิงค์กับพวก เมาส์ คียบอร์ดได้เลย
ต่อมาในเรื่องของตัวไมค์กันบ้างครับ เราสามารถปรับได้ว่ารับเสียงได้เอาดังแค่ไหนครับ ความไวเสียงที่รับเข้า ปรับเสียง Sidetone ได้ว่าจะได้ยืนเสียงตัวเองดังแค่ไหน ปรับเสียงไมค์ สมดุลเสียง ลดเสียงรบกวน และ ความใสชัดได้
หน้านี้จะเป็นการปรับแต่งในเรื่องของเสียงที่เราฟังว่าจะปรับ Equalizer ยังไงเน้นเสียงแนวไหนครับสามารถปรับได้เองหรือเลือกตามที่เค้าตั้งมาให้ได้ครับ อันนี้เลือกกันได้เลยว่าเอาย่านความถี่เสียงด้านไหนเด่น ด้อยกว่ายังไงครับ
อันสุดท้ายก็เป็นการควบคุมพลังงานครับว่าปิดตัวเองเมื่อไม่ได้ใช้นานเท่าไรก็สามารถปรับได้เลยครับ ก็เป็นประมาณนี้สำหรับตัวโปรแกรม ปรับได้ค่อนข้างเยอะแหละหลากหลายทั้งไมค์ เสียง และตัวไฟ ครับสำหรับ Synapse 3
SOUND + HAPTICS ” สั่น ทะลุสมอง ”
สำหรับระบบสั่นในรุ่นนี้เป็นอะไรที่แปลกใหม่และหลายๆคนสงสัยว่ามันจะทำงานยังไงใช้งานแล้วดีไหมสมจริงไหมครับแน่นอนว่าเราก็เลยขอลอง และมาเล่าให้ฟังกันหน่อย เล่าถึงระบบสั่นกันก่อนตัวนี้จะทำงานโดยจากการทำงานของ Razer HyperSense อาศัยตัวขับแฮปติกที่สร้างกลไกโต้ตอบการสัมผัสแบบหลายมิติ เสริมการรับรู้ด้านตำแหน่งทิศทางพร้อมคุณสมบัติสเตอริโอ เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถใช้งานได้ทั้งกับเกมมิง ดนตรี และภาพยนตร์ เป็นเทคโนโลยีที่ร่วมพัฒนากับทาง Lofelt นั้นเองครับ และในการใช้งานนั้นต้องขอบอกว่ามันดีกว่าที่คิดจริงๆ คือในตอนแรกที่คิดภาพไว้ว่ามันก็คงสั่นๆ อาจจะไม่ถูกจังหวะอะไรบ้าง หรือมั่วๆเบลอๆบ้าง แต่พอได้ลองของจริงมันทำได้ดี เพราะการสั่นของมันมีจังหวะ น้ำหนัก ตามสถานการณ์นั้นๆจริงๆ ไม่เจออาการสั่นมั่วหรือสั่นตลอดเวลา หรือมึนๆเลยแม้แต่น้อยครับ อย่างเช่นในการเล่นเกม เสียง ยิงปืน กับระเบิดมือมันก็สั่นคนละแบบ และทิศทางซ้ายขวาก็มีผลในการสั่นด้วยครับ เสียงเท้าเดินใกล้ๆก็สั่นเบาๆทำงานรวมกับ 7.1 ทำให้มันสมจริงมากๆ ถือว่าเป็นการพัฒนาที่ดีและแปลกใหม่จริงๆทำให้ ประสบการณ์ในการเล่นเกมมันแตกต่างกว่าเดิม ทำให้มันค่อนข้างดีที่จะเพิ่มมาเล่นตัวนี้มากกว่าเดิม
แน่นอนว่าในด้านของตัวเสียงของรุ่นนี้ยังคงแนวเสียงแบบเดิม เบสที่มาเยอะหน่อย เสียงแหลมมากลางๆครับ เสียงอันนี้คือปรับปกตินะครับทื่ลองจริงๆตัวเสียงเราก็พอทำใจแล้วหละว่ามันคือหูฟังสำหรับเกมครับ ใครที่หวังเรื่องเสียงมาใช้งานฟังเพลง อะไรด้วยอาจจะต้องมองตัวอื่นเลย เพราะตัวนี้เสียงมันปรับมาเน้นเกมจริงๆ เสียงรอบทิศทางทำได้ดีอันนี้คือจุดเด่นครับเสียง บอกทิศทางได้เป๊ะมากๆ และมันทำงานร่วมกับระบบสั่น HyperSense ทำให้เสียงเบสนั้นหรือเวลาอะไรที่หนักแน่นมันเหมือนตัวคุณภาพเสียงโดยรวมมันดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมแบบความรู้สึกของเรามันดีขึ้น เสียงมันหนักแน่นขึ้นเหมือนเบสมันมาดีขึ้น คือมันช่วยทำให้มันแตกต่างกับทาง NARI แบบชัดเจนทั้งในความรู้สึกและคุณภาพเสียงมันเหมือนดีขึ้นไปด้วยนั้นเองครับ ก็ต้องบอกว่าระบบสั่นช่วยได้เยอะจริงๆถ้าคนที่ชอบแบบนี้นะ แต่ถ้าใครไม่ชอบหรือฟังแล้วมึนๆหัวอาจจะต้องไปมองตัว ธรรมดาแทนนั้นเองครับ ส่วนเสียงคุยที่สามารถปรับได้ระหว่าง เกม กับ คนในทีมอันนี้ช่วยได้เยอะครับปรับได้ง่ายและไวมาก อันนี้ชอบครับ ส่วนฟีเจอร์อื่นๆก็ไม่ได้แตกต่างกับเดิมมากนัก
แม้จะมีระบบสั่นเข้ามาในตัวหูฟัง แต่เอาจริงๆคือใส่สบายเลยนะ ไม่แตกต่างกับรุ่นเดิมเลยแม้แต่น้อย ทั้งด้านบนหัว การกระชับด้านข้าง และรวมๆคือไม่ได้รู้สึกกด บีบ หรือ รัดอะไรเกินจำเป็นครับใส่นานๆใช้ได้เลย สำหรับตัวแอดมินนะครับ และ ก้านเหล็กข้างบนก็ไม่ได้รับทรงหัวอะไรเท่าไร และขนาดกำลังดีไม่เล็กเกินไปตัวครอบหูทำได้ดีเต็มใบหูและความลึกรองรับใบหูไม่ไปชนข้างในครับ โดยส่วนตัวนั้นค่อนข้างโอเคมากๆเลยครับเป็นหูฟังในไม่กี่รุ่นที่ลองแล้วใส่ค่อนข้างสบายมากๆ นุ่ม ไม่ร้อน และ ระบายได้ดี ไม่บีบ และ ไม่รัดครับผม ถือว่ายังรักษาจุดเด่นไว้ได้เหมือนเดิมครับ
RAZER Logo นั้นสว่างและปรับได้หลากหลายเป็นปกติของพวก Chroma ครับ และตัวไมค์รับเสียงกันบ้างไมค์ตัวนี้ สามารถกด Mute ได้และจะมีไฟสีแดงขึ้นมาครับ ส่วนในเรื่องคุณภาพไมค์นั้นจากที่สอบถามเพื่อนๆในทีมและลองฟังเองอัดเสียงเวลาเล่นเกม แคสเกม นั้นต้องบอกว่าเสียงออกมาดังชัด แต่ความนุ่มของเสียงไม่ได้ดีมากนักออกไปทางแข็งๆมากกว่าครับ ระบบตัดเสียงไมค์ก็ทำงานได้ดี ไม่มีปัญหาเสียงคนพูดชัด เสียงลม เสียงรบกวนค่อนข้างน้อย แต่ติดแค่ไมค์เวลาเราพูดเสียงมันไม่นุ่มเท่าไร แค่นั้นเองสำหรับไมค์ตัวนี้ครับผม แต่ถ้าไม่ซีเรียสตัวนี้ดูดเสียงพูดได้ดี
RAZER NARI ULTIMATE
” หูฟังตัวเทพไร้สาย พร้อมระบบสั่น ที่สุดของการพัฒนา “
เป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลกใหม่จริงๆสำหรับหูฟังที่ใส่ระบบสั่นเข้ามาเป็นการพัฒนาที่แปลกใหม่และทำได้ดีกว่าที่คิดครับ เรื่องของเสียงนั้นแน่นอนคุณภาพยกมากเหมือนรุ่น NARI แต่ที่แตกต่างมันคือระบบสั่นที่ตอนแรกก่อนที่จะลองมันคงสั่นไม่ดี สั่นไม่ได้ตามจังหวะอะไรมากหรอกเหมือนพวกระบบสั่นบนมือถือตามเพลงที่แอดมินลอง แต่พอมาลองจริงๆมันแบบเห้ย ทำได้ดีหวะ ไม่ได้สั่นแบบมั่วๆจนเบลอไปหมดมันสั่นตามจังหวะ ตามเกม ของเราจริงๆมันสั่นเหมือนมีเบส ซับวูฟเฟอร์ตัวโตๆมาฝังในหัวของเราสั่นจนหน้าสั่น สมองสั่นไปหมด ทำให้เวลาเล่นเกมมันสมจริงขึ้นมากอันนี้ชอบมากๆในการพัฒนามาในระบบนี้ครับ ทำงานร่วมกับเสียงรอบทิศทางได้ดีลงตัว แต่เนื่องจากมันยกมาจาก NARI เราก็ต้องบอกว่ามันก็ยังมีบางจุดที่แอบขัดใจสำหรับบางท่านก็เป็นได้เช่น มีขนาดใหญ่ และ หนักสำหรับบางคน และตัวคุณภาพเสียงมันก็ยังไม่ได้พัฒนาก้าวกระโดดจากรุ่นก่อนหน้าเท่าไรนัก แต่ระบบสั่นทำให้มันรู้สึกดีกว่า NARI ธรรมดามากพอสมควร อารมณ์ในการเล่นเกมมันแตกต่างกว่ารุ่นปกติจริงๆนะ และทำให้เสียงมันสมจริงดีกว่าเดิม
ข้อดี
- ครอบหูได้ค่อนข้างดี เก็บเสียงได้ดี และ หนาลึก เวลาใส่ไม่ชนใบหู
- ระบบสั่นตามจังหวะเสียงเบส ทำงานได้ดีกว่าที่คิดมาก
- แบตใช้งานได้ ถือว่าอึดเลยแหละ
- มีที่เก็บตัวรับสัญญาณไร้สายในตัว
- วัสดุผ้าใส่สบายกว่าเดิมมากๆ
- เจลลดความร้อนช่วยตอนใส่นานๆ
- เสียงรอบทิศทางทำได้ดี เวลาเล่นเกม FPS
ข้อสังเกต
- ราคาที่เพิ่มมาจาก Nari กับ ระบบสั่นอาจจะไม่จำเป็นสำหรับบางคน
- วัสดุผ้าอาจจะต้องดูแลกันมากกว่าเดิม ทำความสะอาดยากหน่อย
- ยังคงไม่มี noise-cancelling มาให้
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget