realme C21 นั้นเปิดตัวมาพร้อมกับเป็นตัวเริ่มต้นของทางค่ายในตระกูล C และ ล่าสุดนั้นภายในเดือนนี้ได้มีการจัดโปรใหม่สำหรับเครือข่ายที่จะรองรับการใช้งานได้ดีขึ้นและที่สำคัญคือเรื่องของราคาที่ติดโปรและทำราคาได้ดีมากขึ้นเช่นกัน เหมาะสำหรับใครที่ใช้งานโปรตามราคาอยู่แล้วแต่จะได้ซื้อเครื่องในราคาที่ถูกขึ้น ไว้เป็นเครื่องสำรอง หรือว่าใช้งานให้ที่บ้านใช้งานได้โดยที่จ่ายไม่ถึง 1000 บาทนั้นเองก็ถือว่าจัดโปรออกมาน่าสนใจและถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้นนะ
realme C21 เปิดตัวมาพร้อมกับสเปกเรื่องของ CPU นั้นมาพร้อมกับ MTK HELIO G35 ตัวเดียวกับ C12 และใช้งาน GPU Mali-GE8320 RAM LPDDR4X ในส่วนของ RAM 3 GB STORAGE 32 GB เพิ่มหน่วยความจำได้ ส่วนทางด้านหน้าจอนั้นยังคงเป็นดีไซน์แบบเดิมหน้าจอแบบติ่งหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ( 720 x 1600 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 กระจก 2.5D Corning Gorilla Glass ส่วนในเรื่องของกล้องนั้น ใช้ 3 เลนส์พร้อมรองรับโหมดกลางคืน กล้องหลัง ความละเอียด 13MP f/2.2 PDAF กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 Portrait กล้องตัวที่ 3 Super Macro 2MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร // Super Nightscape + Portraitmode +Chroma Boost ส่วนทางด้านกล้องหน้านั้นมาพร้อมกับ 5 MP f/2.4 ความละเอียดเลนส์เท่าเดิมครับ ส่วน แบตเตอรี่ที่ให้มามากถึง 5,000 mAh รองรับชาร์จ 10W เช่นเดิม
BATTERY 5,000 MAH
มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ทำให้คุณเพลิดเพลินกับการใช้งานแบบ non-stop ใช้งานได้ทุกเมืตามต้องการ จากการทดสอบของ realme Lab สามารถอยู่ได้นานกว่า 47 วันในโหมดสแตนด์บาย เป็นแบตเตอรี่ 5,000 mAh แต่ก็ยังอึดอยู่นะเพราะว่าการใช้หน้าจอแค่ HD+ รวมถึง CPU MTK แน่นอนว่าขึ้นชื่อในเรื่องของการจัดการพลังงานอยู่เเล้ว ทางเราก็ได้ลองกันจริงๆถือว่าอึดมาก แบตนั้นใช้งานทั้งหมด 23 ชั่วโมง 29 นาที หน้าจอเปิดไป 6 ชั่วโมงครับบอกเลยว่าทำได้ดีมากๆใครที่เน้นเรื่องแบตนั้นต้องใช้งานรุ่นนี้เท่านั้นน่าจะเยอะและอึดที่สุดในบรรดามือถือในเรทนี้ ส่วนการเล่นเกมส์ต่อเนื่อง 1 ชั่วโมงแบตลดไปเพียงแค่ 10% เท่านั้นถือว่าอึดมากๆเลยแหละ
DESIGN GEOMETRIC
ฝาหลังแบบ GEOMETRIC ออกแบบการจัดวางตัวกล้องนั้นมีการใช้งาน กรอบสี่เหลี่ยม สานต่อกล้องหลังจากรุ่นก่อนหน้ามาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับฝาหลังเล่นลวดลายสวยงาม รวมถึงทำได้ดีในแง่ของการออกแบบที่ลดรอยนิ้วมือ และทนทานมากขึ้นครับ แน่นอนว่าไม่ต่างกันมากกับรุ่นก่อนแต่ดีไซน์ดูมีอะไรมากขึ้น เท่มากขึ้นเส้นสาย พริ้วไหว ผสมกับเส้นสายแข็งๆทำให้มันดูเด่นขึ้นกับลวดลาย Hatch ตัดขวาง พร้อมกับสแกนนิ้วในด้านหลัง และ ลำโพงเป็นจุดหลักๆที่ย้ายมาในด้านฝาหลังระบบเสียงทำให้ยิงออกมาได้ดีกว่าเดิมเล็กน้อยครับ บาง 8.9 มม. หนัก 190 กรัม
พื้นผิวของฝาหลังเกิดจากการใช้เครื่องแกะสลักเรเดียมที่มีความแม่นยำสูงจากประเทศเยอรมนี พร้อมการขัดอีก 300 นาที แกะสลักมาเป็นเส้นโค้งกว่า 450 เส้นที่ด้านหลังเพื่อสร้างเอฟเฟกต์แสงสะท้อนพิเศษ แต่มีความเท่มากขึ้นครับ ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงเรขาคณิตของนาฬิกาทราย ออกแบบโดยใช้เทคนิค bold cross-hatch ช่วยสร้างมิติภาพเงาที่มีความทันสมัยและ เกิดความรู้สึกที่แข็งแกร่ง และสามารถป้องกันรอยนิ้วมือได้อีกด้วย มีให้เลือกถึง 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Cross Bule และสีดำ Cross Black ถือว่าเป็นโทนสีที่สวยแตกต่างชัดเจนครับ
SCREEN 6.5 INCH
หน้าจอในรุ่นนี้นั้นใช้งานหน้าจอแบบ 6.5 นิ้ว IPS LCD เช่นเดิม มาในส่วนของสเปก ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ( 720 x 1600 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 ติ่งหยดน้ำเล็กกว่าเดิม และใช้งานวัสดุกระจก Gorilla Glass รองรับโหมดถนอมสายตา ปรับระดับแสงหน้าจอ และ Dark Mode เช่นกันครับในภาพรวมหน้าจอโอเคเลยถ้ามองตรงๆ ตัวหน้าจอจะลดการรบกวนทางสายตาพร้อมดีไซน์หน้าจอMini-Drop เพิ่มพื้นที่หน้าจอถึง 89.5% !
TUV RHEINLAND
สมาร์ทโฟนของ realme มุ่งมั่นปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับองค์กรที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง TÜV Rheinland ซึ่งเป็นองค์กรอิสระด้านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งเข้าตัว TÜV Rheinland จะเป็น การรับรองคุณภาพ TÜV Rheinland Smartphone High Reliability ประกอบไปด้วยการทดสอบ 23 รูปแบบ รวมถึงการใช้งานในชีวิตประจำวัน 12 รูปแบบ เช่น การตกหล่น การสึกหรอ และการทดสอบในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง 7 สถาการณ์ เช่น อุณภูมิสูง-ต่ำ ความชื้นสูง-ต่ำ ความผันผวนของแรงดันไฟฟ้า อายุการใช้งาน ไฟฟ้าสถิต ความกดอากาศ และ 4 สถานการณ์การทดสอบความน่าเชื่อถือของส่วนประกอบ ซึ่งโดยรวมแล้วการทดสอบคุณภาพของ TUV Smartphone High Reliability จะขึ้นอยู่กับวงจรชีวิต 3 ปีของสมาร์ทโฟนนั้นเองถือว่าหายห่วงเลย !
3 CAMERA
กล้องหลังในรุ่นนี้เป็น 3 ตัว ส่วนตัวกล้องหลักนั้นยังคงให้มาที่ ความละเอียด 13MP f/2.2 PDAF กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 Portrait กล้องตัวที่ 3 Super Macro 2MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร uper Nightscape + Portraitmode +Chroma Boost ส่วนตัวคุณภาพนั้นถือว่าทำได้ดีในหลายๆสภาพแสงครับ และมาพร้อมกับโหมดกลางคืนช่วยให้การถ่ายกลางคืนมีคุณภาพความสว่างที่ดีขึ้นครับ ถือว่าทำได้ดีตามเรทราคาของรุ่นนี้ มาพร้อมกับการถ่ายละลายหลังด้วยถือว่าค่อนข้างดีทีเดียว จากที่ทดสอบหลายๆสภาพแสงนั้นทำได้ดีเลยและสีค่อนข้างตรงอยู่สำหรับกล้องหลังตัวนี้ เน้นการถ่ายถ้าหากเจอสภาพแสงกลางวันบอกเลยว่าทำได้ดีพอสมควรเลยครับ
PRICE PROMOTION
สำหรับโปรโมชั่นในรอบนี้ทางค่ายได้จัดโปรทั้ง 3 เครือข่ายเลยทีเดียวครับทั้งทางด้าน AIS DTAC TRUE แน่นอนว่าราคาใกล้เคียงกันเลยแหละเมื่อต้องเทียบกับราคาโปร และ ราคาทั้งหมดที่ต้องจ่ายล่วงหน้านั้นเองทำให้มีความแตกต่างกันเล็กๆน้อยๆในเรื่องของโปร และ การจ่ายล่วงหน้าที่แตกต่างกัน รวมถึงโปรที่จะใช้งานทั้ง 3 เครือข่ายจะอยู่ในเรทราคาไม่หนีกันมากที่ 599-699 บาทครับ แต่ AIS จะเด่นๆกว่าตรงที่ได้ส่วนลดอีก 800 บาทเมื่อเอาค่าไฟมาโชว์ ถือว่าทำให้ราคาถูกลงกว่าค่ายอื่นๆชัดเจน แต่ถ้าไฟต้อง 300 หน่วยขึ้นไปและใช้งานชื่อเดียวกับคนที่จะซื้อนะ
REALME C21
ตัวเล็กสุด ราคาจับต้องได้ง่ายที่สุด และแน่นอนว่ามาพร้อมกับกล้องหลัง 13MP AI 3 ตัวรองรับการถ่ายกลางคืน รองรับการถ่าย มาโคร และ จับระยะถือว่าทำได้ดีครับ ส่วนกล้องหน้าก็ใช้งานได้ดีในสภาพแสงจัดๆ รวมถึงเรื่องของแบตและการใช้งานนั้นยังคงจัดเต็ม อึดพร้อมกับรองรับการใช้งานทั้งวันได้สบายๆ และทำเรื่องของราคาโปรได้ดี เหมาะสำหรับใครที่หาเครื่องไว้ใช้งาน สำหรับ พ่อแม่ที่บ้าน หรือว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปสำรองอีกเครื่องได้เป็นอย่างดี เป็นรุ่นที่เหมาะกับโปรจริงๆครับ เพราะว่าถ้ามองราคาเดิมอาจจะแอบแรงไปหน่อย แต่การที่จัดโปรแบบนี้บอกเลยว่าใครที่ใช้ 599+ อยู่แล้วในแต่ละเดือนก็ถือว่าได้มือถืออีกเครื่องในงบ 1000 บาทได้แบบสบายๆใช้งานได้ดี