สำหรับคนที่มองหามือถือราคาประหยัดที่เน้นใช้งานยาวๆ แถมยังได้ฟีเจอร์ระดับเรือธง แอดขอแนะนำ realme C63 ที่เน้นความคุ้มค่าของราคาและประสิทธิภาพที่ราบรื่นที่สุดในช่วงราคานี้ ทั้งความเร็วการชาร์จและการใช้งาน รูปลักษณ์ดูหรูหรา ด้วยฝาหลังที่ทำด้วยหนังวีแกนระดับพรีเมียม ตัวเครื่องทนทานกันน้ำกันฝุ่น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมฟีเจอร์ AI อีกมาก

UNBOXING

ดีไซน์

หน้าจอมีติ่งหยดน้ำสำหรับกล้องหน้า และมีขอบด้านข้างซ้าย-ขวาที่ค่อนข้างบาง

ตัวเครื่องด้านหลังมาพร้อมกล้อง 2 ตัว + แฟลช 1 ดวงในรังกล้องทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส และกรอบกล้องหลังทำจากอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรง

ตัวเครื่องหนาแค่เพียง 7.74 มิลลิเมตร ซึ่งบางกว่าคู่แข่งในระดับนี้ถึง 5%

ปุ่มไดนามิกที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่อง ซึ่งสามารถตั้งค่าให้ใช้งานกับฟีเจอร์ที่ต้องการได้ เพื่อความสะดวกและลดขั้นตอนในการใช้ฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อย

ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น IP54 ที่กันฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง และป้องกันละอองน้ำได้ทุกทิศทาง รวมทั้งได้มีความทนทานจากการตกหล่นจากการทดสอบของ realme ที่ได้มาตรฐาน

ฝาหลัง

หนังวีแกนระดับพรีเมียม โดยเจ้า C63 ในเฉดสี Leather Blue ใช้แผงด้านหลังเป็นหนังวีแกน ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้กับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงเท่านั้น วัสดุนี้ให้ความทนทานต่อรอยเปื้อนและความคงทน ส่วน realme C63 ในเฉดสี Jade Green มีฝาหลังที่มีความแวววาวด้วยอนุภาคนับล้านด้านหลังที่ผ่านกระบวนการเคลือบด้วยหมึกแม่เหล็ก

หน้าจอ

หน้าจอเป็นแบบรอยบากทรงหยดน้ำ ขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.74 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรทอยู่ที่ 90Hz ความสว่างสูงสุด 560nit และความสว่างต่ำสุดแค่ 1nit ทำให้สบายตา แม้เล่นในที่มืด อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์วัดแสงคู่ที่ด้านหน้าและด้านหลังเพื่อการหรี่แสงที่ดีขึ้น

หน่วยประมวลผลและซอฟต์แวร์

ชิปประมวลผลของ realme C63 ใช้เป็น UNISOC T612 และมาพร้อม RAM 16GB แบ่งเป็น RAM ปกติ 8GB และ RAM เสมือนอีก 8GB โดยใช้เทคโนโลยี DRE ส่วนความจุภายในสูงสุดอยู่ที่ 256GB

อีกหนึ่งจุดเด่นของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้คือ สามารถใช้งานได้ยาวๆ เพราะทาง realme รับประกันความลื่นไหลในการใช้งานได้ยาวนานถึง 48 เดือน ในการใช้งานทั่วไป เช่น การเปิดแอป สลับแอป หรือการเล่นเกม ภายใต้สภาพแวดล้อมที่หลากหลาย จากการทดลองในห้องแล็ปของ realme ที่มีมาตรฐานเดียวกับ TÜV SÜD

ตัวเครื่องยังมาพร้อม AI Boost ที่ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทั้ง Smooth Boost ที่ช่วยให้การใช้งานทั่วไปลื่นไหลขึ้นผ่านการจัดการประสิทธิภาพหน่วยความจำ และ Game Boost ที่ช่วยด้านการเล่นเกม

ในแง่การใช้งานทั่วไป เจ้า realme C63 มาพร้อมโหมดขับขี่ที่อำนวยความสะดวกในการใช้สมาร์ตโฟนขณะขี่จักรยาน ไม่ว่าจะเป็น UI อินเทอร์เฟสแยกต่างหากขณะขับขี่ และใช้ Google Map, Music และ Google Dialer ฯลฯ ได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งฟีเจอร์อื่นๆ ทั้งโหมดห้ามรบกวนขณะขับขี่ การปฏิเสธสายโทรเข้าเมื่อความเร็วเกินขีดจำกัด

ฟีเจอร์ด้าน AI

realme C63 มาพร้อมฟีเจอร์ AI ระดับเรือธง ไม่ว่าจะเป็น Air Gesture หนึ่งเดียวในมือถือระดับราคานี้ โดยสามารถทำท่าทางของผู้ใช้แบบไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ ตัวอย่างเช่น

  • การปัดขึ้นด้านหน้ากล้องหน้าราว 20-40 ซม. เพื่อรับสาย
  • การวางฝ่ามือเหนือกล้องหน้าค้างไว้ 1.5 วินาทีเพื่อปิดเสียงการโทร
  • การปัดมือขึ้นลงเพื่อสลับวิดิโอขณะใช้แอปอย่าง TikTok, YouTube, Instagram, Facebook

อีกหนึ่งฟีเจอร์น่าสนใจคือ Rainwater Smart Touch ที่ทำให้การสัมผัสหน้าจอเป็นไปอย่างแม่นยำในขณะที่หน้าจอมีละอองน้ำและหยดน้ำขนาดเล็กอยู่

และยังมีฟีเจอร์ Mini Capsule 2.0 ที่เพิ่มลูกเล่นอื่นๆ เช่น ภาพเคลื่อนไหวขยับตามจังหวะขณะเล่นเพลง แถบสีเปลี่ยนตามเพลง การอัปเดตสภาพอากาศอัตโนมัติ การนับก้าวขณะเปิดหน้าจอ

นอกจากนี้ ตัวเครื่องมีฟีเจอร์ AI ลดเสียงรบกวน ที่ออกแบบมาเพื่อลดเสียงรบกวนเบื้องหลังระหว่างการโทร มอบประสบการณ์การสื่อสารที่ชัดเจนขึ้น

ลำโพงยังสามารถปรับระดับความดังได้ถึง 200%

กล้องและการถ่ายรูป

กล้อง AI 50MP ซึ่งถือว่าความละเอียดสูงที่สุดในช่วงราคา โดยสามารถถ่ายภาพพิกเซลขนาดใหญ่สุดที่ 6144×8192 และมีฟิลเตอร์ใหม่สองตัวที่เป็นภาพยนตร์และคมชัด เพิ่มความสนุกสนานและความคิดสร้างสรรค์ในการถ่ายภาพ

อัลกอริธึมโหมดแนวตั้งได้รับการอัปเดต ให้เอฟเฟกต์เบลอที่สมจริงยิ่งขึ้น และปรับปรุงการปรับโทนสีผิวให้เป็นธรรมชาติ สำหรับฟังก์ชันการถ่ายภาพอื่นๆ ได้แก่ ภาพถ่าย/วิดีโอกลางคืน ความละเอียดสูง มืออาชีพ ภาพบุคคล ไทม์แลปส์สโลว์โมชั่น พาโนรามา Google Lens

ภาพที่ถ่ายด้วย realme C63

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่รองรับชาร์จเร็ว 45W พร้อมแบตเตอรี่ 5000mAh ที่รับประกันการใช้งานที่ราบรื่นเป็นเวลา 4 ปี และโดดเด่นด้วยความเร็วในการชาร์จโดยสามารถ

  • ชาร์จ 0~20% ใน 10 นาที
  • ชาร์จ 0~50% ใน 30 นาที
  • ชาร์จ 100% ใน 79 นาที
  • ชาร์จ 60 วินาทีโทรได้ 60 นาที

แบตเตอรี่มีความทนทาน ด้วยวงจรชีวิตการชาร์จและการคายประจุสูงสุด 1,600 ครั้ง โดยคิดจากการชาร์จหนึ่งครั้งต่อวัน เทียบกับผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งเสนอได้เพียง 1,200 รอบ

อัลกอริธึมการปรับแต่งอัจฉริยะ VCVT สามารถปรับแรงดันและกระแสได้ รับประกันประสิทธิภาพการชาร์จและลดการสูญเสีย นอกจากนี้ ยังปรับปรุงประสิทธิภาพของช่วงการชาร์จ 90%-100% ทำให้การชาร์จนาทีสุดท้ายเต็มเร็วขึ้น

สเปกของ realme C63

  • หน้าจอ waterdrop notch ขนาด 6.74 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz, ความสว่างสูงสุด 560nit, ความสว่างต่ำสุด 1nit
  • ชิปประมวลผล UNISOC T612
  • RAM 8GB + Dynamic RAM 8GB, ความจุภายใน 256GB
  • Android 14 ครอบด้วย realme UI 5.0
  • กล้องหลัง 50MP + กล้อง 8MP
  • กล้องหน้า 32MP
  • ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น IP54
  • ขนาดตัวเครื่องบาง 7.74มม.
  • ลำโพง Ultra-linear + UltraBoom 200% (ดังขึ้น 50% และเพิ่มระดับเสียงเป็น 2 เท่า)
  • รองรับซิมคู่, เครือข่าย 4G Dual Standby
  • แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว SUPERVOOC 45W
  • ตัวเครื่องมีให้เลือกในสี Leather Blue และ Jade Green

ราคาและการวางจำหน่าย

realme C63 (8+128GB) ราคาเพียง 5,499 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย AIS DTAC TRUE และ ช่องทางออนไลน์ LAZADA Shopee และ Tiktok