realme แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ประกาศความสำเร็จกับยอดขายสมาร์ทโฟน จำนวน 100 ล้านเครื่องทั่วโลก ทั้งนี้ realme มีแผนการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งตั้งแต่ในปี 2563 และ 2564 เนื่องจากต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของ COVID-19  จนสามารถขึ้นแท่นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกในระยะเวลา 3 ปี จากข้อมูลสถิติของ Strategy Analytics บริษัทที่ปรึกษาด้านการวิจัยตลาด นอกจากนี้ realme ยังเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 โดยมีการเติบโตของธุรกิจ 149% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลบริษัทวิจัย International Data Corporation (IDC)

ความสำเร็จในครั้งนี้ realme ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจและการจัดจำหน่ายของบริษัทได้เป็นอย่างดี โดยนับตั้งแต่การก่อตั้งในปี 2562 ปัจจุบัน realme เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 7 ของโลก ทำตลาดใน 61 แห่งทั่วโลก และยังติดอันดับ ในตลาดอีก 13 แห่ง ยกตัวอย่างเช่น ครองอันดับ ในตลาดฟิลิปปินส์และบังคลาเทศ  ครองอันดับ ในตลาดอินเดียและรัสเซีย รวมทั้งครองอันดับ ในตลาดภูมิภาคยุโรป  ดังนั้น ความสำเร็จในครั้งนี้ จึงนับเป็นการเติบโตในระดับโลกของ realme และในขณะเดียวกัน บริษัทยังได้มุ่งหวังที่จะเป็นแบรนด์ “แรก” ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของโลกด้วย เช่น ที่ผ่านมา realme เป็นหนึ่งในแบรนด์แรกๆ ที่เปิดตัวเทคโนโลยีการชาร์จ UltraDart 125และเป็นหนึ่งในรุ่นแรกๆ ที่ติดตั้ง Qualcomm Snapdragon 888 รวมทั้งยังเปิดตัวสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มีความละเอียดกล้องสูงถึง 64 ล้านพิกเซล และที่พิเศษไปกว่านั้น ยังเป็นแบรนด์แรกที่เปิดตัวสมาร์ทโฟน 5ในราคาไม่เกิน 200 ดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย

ด้วยกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ ทำให้ realme กลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่างก้าวกระโดด โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ของเรา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ใช้งาน รวมถึงพนักงานในบริษัท ล้วนสอนให้เรากล้าที่จะเป็นผู้นำเทรนด์ กล้าที่จะก้าวไปสู่ในโลกอนาคต และกล้าที่จะเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง” Sky Li CEO realme กล่าว

“ ตลอดสามปีที่ผ่านมาของการดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง เราต้องขอขอบคุณกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้การตอบรับและสนับสนุนเราเป็นอย่างดี ส่งผลให้เราประสบความสำเร็จในการส่งมอบสมาร์ทโฟนได้สูงถึง 100 ล้านเครื่องทั่วโลก และถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในตลาดสมาร์ตโฟนด้วย ในอนาคตเราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้มีความพรีเมี่ยม มีการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ มีการออกแบบที่ล้ำสมัย และราคาที่คุ้มค่า เพื่อตอบโจทย์กลุ่มใช้ผู้งานคนรุ่นใหม่ทั่วโลกต่อไป” Sky Li ซีอีโอ realme กล่าว

Li กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายต่อไปของ realme คือ การประสบความสำเร็จเป็นสองเท่าจากการส่งมอบสามาร์ทโฟน 100 ล้านเครื่องในปีนี้ โดยจะส่งมอบสมาร์ตโฟนอีก 100 ล้านเครื่องภายในปี 2565 และ 100 ล้านเครื่องในปี 2566 ตามลำดับ

และเพื่อให้เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ realme ได้วางกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความครอบคลุมไว้  แนวทาง คือ  การทำตลาดสมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงอย่างในรุ่น GT Series ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ และได้รับการขนานนามว่า เป็นสมาร์ตโฟน นักฆ่าระดับเรือธง‘ (flagship-killer) ทำให้ realme สามารถแข่งขันทางธุรกิจในตลาดระดับกลาง-บนได้ เช่น ตลาดในยุโรปฝั่งตะวันตกและจีน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้พัฒนาวิสัยทัศน์ในการสร้างระบบนิเวศ AIoT (Artificial Intelligence Internet of Things) ให้มีการใช้งานอย่างเต็มรูปแบบภายในอีก 5 ปี โดยมีกลยุทธ์หลัก คือ 1+5+T โดย “1” คือ สมาร์ตโฟน และ “ 5” คือ ประเภทผลิตภัณฑ์ AIoT ทั้ง ประเภท ได้แก่  True Wireless Stereo (TWS), อุปกรณ์สวมใส่ทีวีลำโพงอัจฉริยะ และแล็ปท็อป และ “T” คือ TechLife เป็นการใช้งานร่วมกันของผลิตภัณฑ์ AIoT โดย realme มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่ง จะช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วโลกสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในราคาที่คุ้มค่าได้อย่างยั่งยืน  และด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นนี้ realme จะสามารถทำลายอุปสรรคต่างๆ ในการแข่งขันทางธุรกิจนี้ให้สามารถเติบโตได้อย่างแน่นอน