iPhone 16e ของ Apple ถือเป็นอุปกรณ์ที่แปลก เพราะมันอยู่ในสถานะก้ำกึ่งระหว่าง iPhone SE และ iPhone 16 โดยนำเสนอการผสมผสานที่ไม่ลงตัวของฟีเจอร์ใหม่และเก่าในราคาที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผล
แม้ว่า Apple วางตำแหน่ง 16e อย่างชัดเจนว่าเป็น iPhone ระดับเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการคุณสมบัติทั้งหมดในราคาสูง แต่ด้วยราคาของมันที่ถูกกว่า iPhone 15 หรือแม้แต่ iPhone 16 ไม่มากนัก ทำให้มีเหตุผลอย่างน้อย 5 ข้อที่ควรมองหาสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นมากกว่าการตัดสินใจซื้อ iPhone 16e โดยเหตุผล ได้แก่
1. ราคาแพงเกินไปเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของ iPhone 16e คือราคา เริ่มต้นที่ 22,900 บาท ซึ่งเพิ่มเงินอีก 4 พันบาทก็สามารถซื้อ iPhone 15 ได้แล้ว สำหรับเงินส่วนต่างทำให้ได้รับ จอแสดงผลที่สว่างกว่า กล้องตัวที่สอง การชาร์จ MagSafe และการออกแบบที่ประณีตยิ่งขึ้น
ในอดีต iPhone SE เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อกระเป๋าตังสำหรับรุ่นเรือธงของ Apple อย่างไรก็ตาม 16e ไม่ได้มีราคาที่เอื้อมถึงได้ ในขณะที่สมาร์ตโฟน Android หลายรุ่นให้จอแสดงผลอัตราการรีเฟรชสูง กล้องหลายตัว และความคุ้มค่าที่ดีกว่าในราคาเดียวกัน
2. ไม่มี MagSafe
ในปี 2025 MagSafe ได้กลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของ iPhone และะระบบนิเวศทั้งหมดของ Apple สร้างขึ้นจากระบบแม่เหล็กที่เปิดตัวพร้อมกับ iPhone 12 ฟีเจอร์นี้ทำได้ตั้งแต่การชาร์จไปจนถึงอุปกรณ์เสริมอย่างชุดแบตเตอรี่ไร้สาย แท่นวางในรถ หรืออุปกรณ์เสริมกระเป๋าสตางค์แบบแม่เหล็ก ซึ่ง iPhone 16e ไม่รองรับสิ่งเหล่านี้
แต่จะรองรับเฉพาะการชาร์จไร้สาย Qi มาตรฐาน ซึ่งทั้งช้ากว่าและขาดความสะดวกสบายที่ MagSafe มอบให้ด้วย จึงทำให้ 16e ล้าสมัยตั้งแต่เริ่มแกะกล่อง

3. หน้าจอมีรอยบากแทนที่จะเป็น Dynamic Island
Apple เปิดตัว Dynamic Island พร้อมกับ iPhone 14 Pro และตอนนี้ iPhone ส่วนใหญ่ได้นำมาใช้แล้ว ยกเว้น iPhone 16e ที่ยังคงรอยบากแบบล้าสมัยไว้ แทนที่จะใช้ Dynamic Island ที่ใช้งานได้จริงและโต้ตอบได้มากขึ้น
เปรียบเทียบกับสมาร์ตโฟน Android ระดับกลางก็กำลังนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่ามาใช้ อย่างเช่น จอแสดงผลแบบเจาะรูสำหรับกล้องหน้า และเทคโนโลยีกล้องใต้หน้าจอ ดังนั้น การอัปเกรดจาก iPhone รุ่นเก่า มาเป็น 16e ที่ไม่ได้รับการปรับปรุง UI ล่าสุดของ Apple จึงเป็นข้อเสียที่สำคัญ
4. มีกล้องหลังแค่ตัวเดียว
กล้องหลัก 48MP ของ 16e ยังขาดความอเนกประสงค์แบบกล้องคู่บน iPhone 15 และ 16 เพราะไม่มีเลนส์อัลตร้าไวด์ ไม่มีโหมดมาโคร และไม่มีระบบกันสั่นแบบ sensor-shift
แน่นอนว่า 16e มีการซูม 2x โดยใช้การครอบตัดเซ็นเซอร์ แต่นั่นไม่เหมือนกับการมีตัวเลือกเทเลโฟโต้หรืออัลตร้าไวด์โดยเฉพาะ หากคุณเป็นผู้ใช้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะซีเรียสหรือถ่ายแบบชิวๆ iPhone 15 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในด้านนี้ เพราะมีฟีเจอร์การถ่ายรูปที่หลากหลายและประสิทธิภาพกล้องโดยรวมที่ดีกว่า
5. แบตเตอรี่อึดขึ้นแต่ยังดีไม่พอ
Apple อ้างว่า iPhone 16e มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยม ด้วยโมเด็ม C1 โดยเล่นวิดีโอได้นานถึง 26 ชั่วโมง แต่แบตเตอรี่ก็ดีกว่า iPhone 15 แค่เล็กน้อย ซึ่งใช้งานได้ประมาณ 24 ชั่วโมง
หากเน้นที่อายุการใช้งานแบตเตอรี่จริงๆ เจ้า iPhone 15 Plus หรือ iPhone 16 Plus เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า หรือแม้กระทั่งสมาร์ตโฟน Android บางรุ่นยังมีแบตเตอรี่ซิลิคอน-คาร์บอน ซึ่งมีความจุขนาดใหญ่และการชาร์จที่เร็วกว่า

iPhone 16e เหมาะสำหรับใคร?
เป็นคำถามที่ตอบยากมาก เพราะ iPhone 16e ดูเหมือนจะไม่มุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้ iPhone รุ่นเก่าที่มองหาการอัปเกรด เพราะมันขาดคุณสมบัติหลักอย่าง MagSafe กล้องอัลตร้าไวด์ และ Dynamic Island รวมทั้งราคาก็ไม่ถูกเท่าไรนักโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้
หากคุณใช้งาน iPhone SE 3 หรือ iPhone 11 อยู่ การเปลี่ยนเป็น 16e อาจให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการอัปเกรด แต่ก็มี iPhone 15 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่ามากๆ หรือหากคุณกำลังเปลี่ยนจากสมาร์ตโฟน Android ก็มีตัวเลือกที่ดีกว่าในช่วงราคานี้ ที่มาพร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติมและข้อจำกัดน้อยกว่า
สรุป
iPhone 16e เป็นตัวอย่างที่ดีของการที่ Apple ที่พยายามสร้างผลิตภัณฑ์ระดับกลางที่หาที่ลงในไลน์อัพไม่ค่อยได้ มันไม่ได้มีราคาถูกจนเป็น iPhone ราคาประหยัดที่แท้จริง แต่มันก็ไม่พรีเมียมพอที่จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ iPhone 15 หรือ 16
ดังนั้น นอกจากว่า iPhone 16e จะมีโปรโมชั่นลดราคา คุณควรจะเก็บเงินเพิ่มอีกหน่อยสำหรับ iPhone 16 หรือดู iPhone 15 ที่ลดราคา
ในปี 2025 การพอใจกับ iPhone 16e ก็ดูจะเป็นการลดมาตรฐานของตัวเองลงไปหน่อย