สมาร์ทโฟน Redmi Note Series ภายใต้แบรนด์เสียวหมี่ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ทั้งในตลาดประเทศไทยและตลาดโลก เพราะนอกจากระดับราคาที่เข้าถึงได้ง่ายแล้ว ยังมีจุดเด่น คือ หน้าจอดี กล้องสวย แบตฯอึด ประสิทธิภาพในการใช้งานที่ลื่นไหล รวมถึงเล่นเกมได้ดี  ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานฟีเจอร์สำคัญๆ ของผู้บริโภคโดยทั่วไปได้อย่างครบถ้วน

Redmi Note 11 เป็นสมาร์ทโฟนน้องเล็กในตระกูลของ Redmi Note 11 Series ที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีความโดดเด่นด้วยเรื่องหน้าจอ FHD+ AMOLED DotDisplay รีเฟชรเรท 90Hz ในราคาไม่ถึง 7,000 บาท!

เพลิดเพลินไปกับความบันเทิงด้วยหน้าจออันโดดเด่นและแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน

Redmi Note 11 มอบประสบการณ์ใช้งานหน้าจอแบบลื่นไหลสะดวกสบายด้วยหน้าจอขนาด 6.43 นิ้ว FHD+ AMOLED DotDisplay ที่มีอัตราค่ารีเฟรชเรทสูงถึง 180 Hz ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับระบบสัมผัสที่แม่นยำมากยิ่งขึ้นพร้อมด้วยฟีเจอร์ DCI-P3 Wide Color Gamut ที่ให้ภาพและสีคมชัด ที่มีค่าความสว่างมากถึง 1000 nits เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าหน้าจอยังคงมองเห็นชัดแม้อยู่ท่ามกลางแสงแดด นอกจากนี้ ยังมีลำโพงทรงพลัง ตัวติดตั้งอยู่ที่ด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่องที่จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานได้ดื่มด่ำไปกับการเล่นเกมหรือดูหนังแบบไม่ติดขัด

นอกจากนี้ Redmi Note 11 มาพร้อมด้วยชิปเซ็ตแฟลกชิป Snapdragon® 680 ที่มีระบบประมวลผลระดับ 6nm ซึ่งทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและยังประหยัดพลังงานได้ในขณะเดียวกัน ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแบตเตอร์รี่ขนาดใหญ่จุใจ 5,000 mAh และรองรับ 33W Pro fast charging ที่สามารถชาร์จไฟได้รวดเร็ว เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีอิสระเพิ่มขึ้น

กล้อง AI ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล

 ต่อเนื่องกันที่ความสามารถของกล้องที่มาพร้อมกับ AI ใน Redmi Note 11 ที่ให้กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8 มาช่วยให้สามารถเก็บบันทึกความทรงจำได้อย่างมีคุณภาพ พร้อมกับเลนส์มุมกว้าง (Ultra-Wide) 8 ล้านพิกเซล เก็บมุมมองได้ถึง 118 องศา เลนส์มาโคร (Macro) 2 ล้านพิกเซล และเลนส์วัดระยะ 2 ล้านพิกเซล ที่ทำงานร่วมกับ AI เพื่อประมวลผลภาพบุคคลให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ยังมีกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่คมชัดในทุกมุมมองอีกด้วย

ดีไซน์ล้ำสมัยรูปแบบใหม่

 Redmi Note 11 มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ทันสมัยให้สัมผัสที่พอดีมือ และเพื่อให้มั่นใจได้ว่าขนาดตัวเครื่องมีความสะดวกต่อการหยิบจับ จึงมีน้ำหนักบางเบาเพียง 179 กรัม ตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมดสามสี Graphite Gray และ Twilight Blue ซึ่งทั้งสองสีให้สัมผัสของความด้าน ซึ่งไม่เพียงแค่กันรอยนิ้วมือเท่านั้น แต่ยังให้ความรู้สึกสัมผัสที่ละมุนและเพิ่มความหรูหราเข้าไปอีกด้วย ในขณะเดียวกันสี Star Blue จะมีความวาววับราวกับแสงดาว เพิ่มความโดดเด่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง พร้อมปลดล็อกด้วยใบหน้า AI Face Unlock รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ MIUI 13 บนพื้นฐานของ Android 11 อีกด้วย

Redmi Note 11 จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป โดยมีให้เลือก ความจุ ได้แก่ความจุ 4GB+128GB จำหน่ายในราคา 6,299 บาท และความจุ 6GB+128GB จำหน่ายในราคา 6,999 บาท

พิเศษ!เมื่อซื้อ Redmi Note 11 ระหว่างวันที่ 5-28 กุมภาพันธ์ 2565 รับฟรี Canvas Tote Bag สุดพรีเมี่ยมมูลค่า 590 บาทไปอีกด้วย