สำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ตโฟนรุ่นกลางที่มีราคาเข้าถึงง่ายและสเปกคุ้มค่าคุ้มราคา วันนี้แอดขอแนะนำ Redmi Note 13 Series ที่เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นกลางระดับต้นๆ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งมีสเปกที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน เพราะ Redmi Note 13 Series มีให้เลือกถึง 4 รุ่น ได้แก่ Redmi Note 13, Redmi Note 13 5G, Redmi Note 13 5G Pro และ Redmi Note 13 Pro+ 5G โดยมีสเปกรองรับการใช้งานครอบคลุมตั้งแต่การใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันในรุ่นเริ่มต้นที่มีราคาเริ่มต้น 6,999 บาท ไปจนถึงรุ่นที่เน้นการใช้งานแบบเข้มข้นตอบโจทย์ทั้งการถ่ายรูป ตลอดจนการเล่นเกมในรุ่นท็อปสุด
UNBOXING
ดีไซน์
Redmi Note 13
Redmi Note 13 5G
Redmi Note 13 Pro 5G
Redmi Note 13 Pro+ 5G
ตัวเครื่องเกือบทุกรุ่นกันน้ำและกันฝุ่นมาตรฐาน IP54 ที่กันละอองน้ำได้ ยกเว้นรุ่น Note 13 Pro+ 5G ที่กันน้ำและกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 สามารถกันฝุ่นและกันน้ำได้แบบสมบูรณ์
หน้าจอ
สำหรับหน้าจอของทั้ง 4 รุ่นมีขนาดใหญ่แบบจุใจที่ 6.67 นิ้ว โดยในรุ่น Redmi Note 13 และ Note 13 5G ใช้หน้าจอ AMOLED ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ที่มีความคมชัดและสีดำเข้มกว่า ทำให้เสพคอนเทนต์รูปภาพและวิดิโอได้แบบจุใจ ส่วนรุ่น Note 13 Pro 5G และ Note 13 Pro+ 5G ใช้เป็นหน้าจอ CrystalRes AMOLED ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล หรือ 1.5K ที่ให้ความละเอียดคมชัดกว่า หน้าจอของทุกรุ่นมีอัตราการตอบสนองการสัมผัสอยู่ที่ 120Hz ทำให้การแสดงผลลื่นไหลทั้งการเล่นเกม หรือการเล่นโซเชียลมีเดีย มีอัตราส่วน Contrast ratio: 5,000,000:1 การแสดงผลสีในรุ่นเป็น DCI-P3 wide color gamut และในรุ่น Pro ทั้งสองรุ่นรองรับสีเพิ่มเติมที่ 12-bit รวมทั้งรองรับ Dolby Vision®
Redmi Note 13 Series ยังได้รับการรับรอง TÜV Rheinland certification ทั้ง Flicker Free, Circadian Friendly, Low Blue Light แสงสีฟ้าต่ำ ที่ทั้งหมดช่วยถนอมสุขภาพสายตาได้ และในรุ่น Pro+ 5G ยังมีโหมดอ่านหนังสือ Reading Mode ที่เป็นมิตรต่อสุขภาพสายตาสำหรับผู้ใช้งานที่ชอบเสพคอนเทนต์ข้อความ ในด้านของความทนทานหน้าจอ Redmi Note 13 ใช้กระจก Gorilla Glass 3 ส่วน Note 13 5G ใช้กระจก Gorilla Glass 5 และรุ่น Pro ทั้งสองรุ่น Gorilla Glass Victus นอกจากนี้หน้าจอรุ่น Pro ทั้งสองรุ่นมีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอที่เพียงแค่วางนิ้วบนหน้าจอก็ปลดล็อคได้เลย
กล้องและการถ่ายรูป
สำหรับด้านการถ่ายรูป Redmi Note 13 Series ก็ยังตอบโจทย์ด้านการถ่ายรูปด้วย เพราะ มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว โดยรุ่น Pro ทั้งสองรุ่นมีกล้องหลังตัวหลักที่มีความละเอียดสูงถึง 200MP ขนาดเซ็นเซอร์อยู่ที่ 1/1.4 นิ้ว มีระบบกันสั่น OIS และระบบรวมพิกเซล 16-in-1 ได้ถึง 2.24 ไมโครเมตร ช่วยให้ถ่ายในสภาพแสงน้อยได้ดีขึ้น
ส่วนกล้องหลังตัวหลักของรุ่นไม่ Pro มีความละเอียด 108MP (f/1.75) มีระบบรวมพิกเซล 9-in-1 ได้ถึง 1.92 ไมโครเมตร
กล้องหลังสองตัวที่เหลือของทุกรุ่นคือ กล้องมุมกว้าง ultra-wide 8MP (f/2.2) และกล้องมาโคร 2MP (f/2.4) สำหรับถ่ายวัตถุระยะใกล้
สำหรับกล้องหน้าทุกรุ่นมีความละเอียดอยู่ที่ 16MP ที่รองรับการปลดล็อคตัวเครื่องด้วยระบบสแกนใบหน้า AI Face Unlock
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วย Redmi Note 13 Pro+ 5G
ชิปประมวลผล
ในแง่ของการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นโซเชียลมีเดีย ดูวิดิโอ หรือการใช้งานทั่วไป Redmi Note 13 รุ่นเริ่มต้นสามารถตอบโจทย์ได้อย่างดีด้วยชิป Snapdragon 685 ส่วนรุ่นอื่นๆ ก็มีประสิทธิภาพการใช้งานที่ตอบโจทย์หลากหลายและการใช้งานที่เข้มข้นขึ้นตามไป ด้วยชิป Dimensity 6080 ใน Redmi Note 13 5G ชิป Snapdragon 7s Gen 2 ใน Redmi Note 13 Pro 5G และสุดท้ายชิป Dimensity 7200-Ultra ใน Redmi Note 13 Pro+ 5G
ผลการทดสอบประสิทธิภาพบน AnTuTu ของ Redmi Note 13 ที่ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 685
ผลการทดสอบประสิทธิภาพบน AnTuTu ของ Redmi Note 13 5G ที่ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 6080
ผลการทดสอบประสิทธิภาพบน AnTuTu ของ Redmi Note 13 Pro 5G ที่ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 7s Gen 2
ผลการทดสอบประสิทธิภาพบน AnTuTu ของ Redmi Note 13 Pro+ 5G ที่ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 7200-Ultra
สำหรับซอฟต์แวร์ของทั้ง 4 รุ่นใช้เป็น Android 13 ที่ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS นั่นเอง
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของทั้งสี่รุ่นมีความจุไม่ต่ำกว่า 5,000mAh ทำให้ใช้งานทั่วไปได้ทั้งวันแบบสบายๆ รวมทั้งมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ทำให้ชาร์จแค่ไม่กี่นาทีก็สามารถใช้งานได้หลายชั่วโมง โดยในรุ่น Redmi Note 13 และ Note 13 5G มีความจุแบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 33W ส่วน Note 13 Pro 5G มีความจุแบตเตอรี่ 5,100mAh รองรับชาร์จเร็ว 67W และ Note 13 Pro+ 5G มีความจุแบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W และที่สำคัญคือ **ในกล่องของทุกรุ่นแถมหัวชาร์จรอบความเร็วการชาร์จสูงสุดที่ตัวเครื่องรองรับมาให้ด้วย**
ข้อมูลจำเพาะ
ข้อมูลสเปกของ Redmi Note 13
- หน้าจอ AMOLED 6.67 นิ้ว Full HD+, รีเฟรชเรท 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1,800nits, ได้รับ TÜV Rheinland certification, ใช้กระจก Gorilla Glass 3
- ชิป Snapdragon 685 + การ์ดจอ Adreno GPU
- RAM LPDDR4X 8GB + ความจุ (UFS 2.2) 256GB เพิ่มความจุได้สูงสุดถึง 1TB
- Android 13 ครอบด้วย MIUI 14
- ช่องใส่ซิม + ช่องไฮบริด (ใส่ซิม หรือ microSD)
- กล้องหลัง
- ตัวหลัก 108MP (f/1.75) รวมพิกเซล 9-in-1 ได้ถึง 1.92μm
- กล้อง ultra-wide 8MP (f/2.2)
- กล้อง macro 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้า 16MP
- เซ็นเซอร์สแกนนิ้วด้านข้าง และ AI Face Unlock
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น IP54
- ลำโพงคู่ Dolby Atmos, ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm
- ขนาดตัวเครื่อง 162.24 x 75.55 x 7.97 มม. / น้ำหนัก 188.5 กรัม
- เครือข่าย 4G, Wi-Fi 2.4GHz + 5GHz, Bluetooth 5.1, NFC, IR Blaster, USB-C
- แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W **แถมหัวชาร์จ 33W มาให้ในกล่อง**
ข้อมูลสเปกของ Redmi Note 13 5G
- หน้าจอ AMOLED 6.67 นิ้ว Full HD+, รีเฟรชเรท 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1,000nits, ได้รับ TÜV Rheinland certification, ใช้กระจก Gorilla Glass 5
- ชิป Dimensity 6080 + การ์ดจอ Mali-G57
- RAM LPDDR4X 8GB/12GB + ความจุ (UFS 2.2) 256GB/512GB เพิ่มความจุได้สูงสุดถึง 1TB
- Android 13 ครอบด้วย MIUI 14
- ช่องใส่ซิม + ช่องไฮบริด (ใส่ซิม หรือ microSD)
- กล้องหลัง
- ตัวหลัก 108MP (f/1.7) รวมพิกเซล 9-in-1 ได้ถึง 1.92μm
- กล้อง ultra-wide 8MP (f/2.2)
- กล้อง macro 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้า 16MP
- เซ็นเซอร์สแกนนิ้วด้านข้าง และ AI Face Unlock
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น IP54
- ลำโพง Dolby Atmos, ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm
- ขนาดตัวเครื่อง 161.11 x 74.95 x 7.6 มม. / น้ำหนัก 174.5 กรัม
- เครือข่าย 5G, 4G, Wi-Fi 2.4GHz + 5GHz, Bluetooth 5.3, NFC, IR Blaster, USB-C
- แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W **แถมหัวชาร์จ 33W มาให้ในกล่อง**
ข้อมูลสเปกของ Redmi Note 13 Pro 5G
- หน้าจอ CrystalRes AMOLED 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K, รีเฟรชเรท 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1,800nits, รองรับ Dolby Vision, ได้รับ TÜV Rheinland certification, ใช้กระจก Gorilla Glass Victus
- ชิป Snapdragon 7s Gen 2 + การ์ดจอ Adreno GPU
- RAM LPDDR4X 12GB + ความจุ (UFS 2.2) 512GB
- Android 13 ครอบด้วย MIUI 14
- ช่องใส่ซิมคู่ (เลือกเป็น eSIM ได้ 1 ซิม)
- กล้องหลัง
- ตัวหลัก 200MP (f/1.65), ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.4 นิ้ว, เลนส์ 7P, OIS, รวมพิกเซล 16-in-1 ได้ถึง 2.24μm
- กล้อง ultra-wide 8MP (f/2.2)
- กล้อง macro 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้า 16MP
- เซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ และ AI Face Unlock
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น IP54
- ลำโพงคู่ Dolby Atmos, ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm
- ขนาดตัวเครื่อง 161.15 x 74.24 x 7.98 มม. / น้ำหนัก 187 กรัม
- เครือข่าย 5G, 4G, Wi-Fi 2.4GHz + 5GHz, Bluetooth 5.2, NFC, IR Blaster, USB-C
- แบตเตอรี่ 5,100mAh รองรับชาร์จเร็ว 67W **แถมหัวชาร์จ 67W มาให้ในกล่อง**
ข้อมูลสเปกของ Redmi Note 13 Pro+ 5G
- หน้าจอ CrystalRes AMOLED 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K, รีเฟรชเรท 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1,800nits, รองรับ Dolby Vision, ได้รับ TÜV Rheinland certification, มีโหมด Reading, ใช้กระจก Gorilla Glass Victus
- ชิป Dimensity 7200-Ultra + การ์ดจอ Mali-G610
- RAM LPDDR5 8GB/12GB + ความจุ (UFS 3.1) 256GB/512GB
- Android 13 ครอบด้วย MIUI 14
- ช่องใส่ซิมคู่ (เลือกเป็น eSIM ได้ 1 ซิม)
- กล้องหลัง
- ตัวหลัก 200MP (f/1.65), ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.4 นิ้ว, เลนส์ 7P, OIS, รวมพิกเซล 16-in-1 ได้ถึง 2.24μm
- กล้อง ultra-wide 8MP (f/2.2)
- กล้อง macro 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้า 16MP
- เซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ และ AI Face Unlock
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น IP68
- ลำโพงคู่ Dolby Atmos
- ขนาดตัวเครื่อง 161.4 x 74.2 x 8.9 มม.
- เครือข่าย 5G, 4G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, NFC, IR Blaster, USB-C
- แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W **แถมหัวชาร์จ 120W มาให้ในกล่อง**
ราคาและการวางจำหน่าย
Redmi Note 13 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Mint Green และ Ocean Sunset ในรุ่นความจุ
- 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 6,999 บาท
Redmi Note 13 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Graphite Black, Ocean Teal, และ Arctic White ในรุ่นความจุ
- 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 7,999 บาท
- 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท
Redmi Note 13 Pro 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Ocean Teal และ Aurora Purple ในรุ่นความจุ
- 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 12,990 บาท
Redmi Note 13 Pro+ 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Moonlight White และ Aurora Purple ในรุ่นความจุ
- 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท
- 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท
ทุกรุ่นพร้อมวางจำหน่ายที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม