AKG เป็นแบรนด์ ที่ต้องบอกว่ามีชื่อเสียงในตลาดทั่วโลกพอสมควรที่เป็นแบรนด์ในมือของ Harman ที่ Samsung พึ่งซื้อไปไม่นานครับเลยทำให้ มีการรวมแบรนด์ที่มีระดับทั้งนั้นเลยก็ว่าได้และเรื่องของคุณภาพเสียงอะไรพวกนี้เราคงไม่ต้องพูดถึงแบรนด์นี้กันมากนัก ทางด้าน AKG เอง เป็นแบรนด์เก่าแก่มากๆตั้งแต่ทำไมค์ตัวแรกๆออกมา และพัฒนามาจนถึงหูฟังและระบบเสียงทั้งหมดครับ ต้องบอกว่าทาง AKG นั้นเป็นแบรนด์ที่เคยได้รับ Grammy award เด่นๆคือเสียงที่นุ่มนวล, โทนเสียงหลายมิติ, และรายละเอียดเสียง ทุ้มลึก, เสียงกลางที่หลากหลาย, สัมผัสได้ในทุกระดับชั้นเสียงเอาง่ายๆคือมันตอบโจทย์ในการฟังเพลง ทำงานค่อนข้างครอบคลุมทั้งหมดนั้นเองเลยทำให้แบรนด์นี้เป็นที่รู้จักและทำตลาดได้ดีอย่างมาก และในรุ่นนี้จะเป็นรุ่นเริ่มต้นที่มีฟีเจอร์อะไรให้ใช้งานพอสมควร ทั้งแบตอึด ใส่สบาย พกพาง่าย และมีระบบฟังเสียงรอบข้างได้ด้วย ในรุ่น AKG Y500 นั้นเองครับในงบ 4,000 มีทอนด้วยนะ
ทางด้านหูฟัง AKG Y500 Wireless นั้นเป็นรุ่นที่เน้นในเรื่องของการใช้งานง่าย พกพาง่าย ใส่สบาย กันน้ำอะไรได้ครับ ในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับ เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Ambient Technology ที่ให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงได้อย่างเต็มอรรถรสและรับรู้สิ่งรอบตัวไปพร้อมกัน ด้วยปุ่มมัลติฟังก์ชันบนหูฟัง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเพลง ได้อย่างง่ายดาย และเพลงจะสามารถเล่นและหยุดเล่นโดยอัตโนมัติเมื่อถอดหรือใส่หูฟัง อีกทั้งยังสามารถหมุนพับเก็บได้ ช่วยให้พกพาไปฟังเพลงได้ทุกที่ทุกเวลา และสามารถฟังเพลงได้ต่อเนื่อง ยาวนานถึง 33 ชั่วโมง และในเรื่องของการสวมใส่ก็เน้นใส่สบายแบบเล็กๆ On-Ear ครับ และใช้งาน Bluetooth 4.2 และรองรับ Micro-USB และ 3.5 มม. ก็ยังมีเป็นตัวเลือกให้ใช้งานกันสำหรับแบบสาย มาพร้อม ไดรเวอร์ในขนาด 40 มม. และฟีเจอร์ Ambient Aware กดปุ่มแล้วจะเป็นการเปิดฟังเสียงรอบๆแทนครับ ในส่วนของ
AKG Y500 Wireless มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ, น้ำเงิน, เขียว และชมพู พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ รวมถึงซัมซุงแบรนด์ช็อป และ ซัมซุงออนไลน์ช็อป
UNBOX
- หูฟัง AKG Y500
- ถุงผ้าใส่ เวลาพกพาพร้อมโลโก้ AKG – Y
- สาย 3.5 มม. สำหรับใช้งานแบบสาย พร้อมปุ่มควบคุม
- สายชาร์จแบบ Micro-USB
- คู่มือ
ตัวถุงผ้านั้นให้มาพอดีสวยงามครับ โทนสีเป็นน้ำเงินเข้มพร้อมมีโลโก้อะไรสวยงามมีความหนาระดับนึง เน้นพกพาแต่อาจจะปกป้องอะไรไม่ได้มากนักเวลาตกอะไรพวกนี้ ส่วนสายนั้นจะมีมาให้ 2 สายคือ MICRO-USB สำหรับชาร์จ และ สาย 3.5 มม. พร้อมปุ่มควบคุมเวลาใช้งานแบบสายครับ มีความยาวพอประมาณเป็นสายสีดำ ไม่ใช่สายถัก
DESIGN
งานออกแบบในรุ่นนี้จะเน้นความเรียบง่ายครับและเนื่องจากมันเป็น On-Ear เลยมีความเบาบางและพกพาง่ายไปในตัว รวมถึงวัสดุของมันก็ทำได้ดีเลยแหละตัวฝาเป็นวัสดุคล้ายๆโลหะ พร้อมมีการตัดขอบเงินสวยงามทำให้มันไม่เรียบเกินไปครับ แต่ยังคงทำให้น้ำหนักค่อนข้างเบาได้อยู่ แต่ส่วนตรงก้านอะไรนั้นจะเป็นพลาสติกทั้งหมด และมีก้านข้างในเป็นโลหะเพื่อความแข็งแรงและสามารถปรับระดับได้รวมถึงมีความรัดกำลังดี ครับถือว่าเบาแต่แข็งแรงได้อยู่นะ
รูปทรงของหูฟังนั้นตามภาพเลยดูค่อนข้างเบาๆบางๆครับ แต่เท่าที่ลองยังมีความแข็งแรงอยู่เหมือนกัน ตรงฝาครอบทั้ง 2 ข้างดีไซน์แบบเดียวกันหมด เป็นโลหะปัดแบบด้านๆพร้อมมีการตัดขอบเงินล้อมรอบด้วย จากที่ลองนั้นเป็นรอยได้ยากกว่าพลาสติกและมีความแข็งแรงอันนี้ถือว่าดีครับไม่ใช้เป็นพลาสติก ส่วนด้านในนั้นจะเป็นหนังพร้อมเจาะรู และมีการเล่นลวดลายตัว Y ข้างใน ขนาดเล็กเอาเรื่องใส่แบบ OnEar เอาครับเลยจะเน้นเล็กๆและไม่ครอบใบหูเลยทรงนี้
ด้านข้างบนนั้นจะเป็นพลาสติกด้านเอาจริงๆดีไซน์มันยังไม่ลงตัวมากนักดูธรรมดาไปหน่อย พร้อมโลโก้ข้างบนครับสามารถปรับระดับได้ 10 ระดับตามภาพเลยเป็นก้านโลหะข้างในมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นได้กำลังดี ไม่บีบหัวเกินไปและไม่หลวมเกินไปครับมีระดับล็อคกำลังดีเลยมีเขียน Y-Series ด้วยในด้านนี้และก้านมีความยืดหยุ่นบิดได้เยอะ
ในส่วนของวัสดุส่วนที่รองรับกับใบหูและหัวของเรานั้น มาดูที่ด้านบนกันก่อนจะเป็นวัสดุแบบยางนิ่มสีฟ้าพร้อมเขียนชื่อรุ่นข้างใน แต่ความหนานุ่มนั้นจะไม่ค่อยมีเท่าไรครับเน้นบางๆเลยนิ่มนิดหน่อยให้ไม่เจ็บหัวแต่ไม่ได้หนามาก ส่วนตรง Ear Cup ข้างในนั้นจะเป็นแบบเรียบทั้งหมดไม่ได้มีส่วนเว้าแบบพวกครอบหู ทรงแบบนี้ทำให้วางบนใบหูได้พอดีและไม่อึดอัดครับ มีความนุ่มหนาเอาเรื่อง ระยะกดลงไปได้เยอะครับและไม่เจ็บหู ตรงนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีและใส่สบาย
ขนาดเมื่อพับเข้ามาแล้วจะให้เทียบกับมือของผู้หญิงตัวเล็กหน่อยก็พอดีเลยครับคือเน้นการพกพาแบบสุดๆ ทั้งขนาดและน้ำหนักของมัน ส่วนตัวปุ่มควบคุมทั้งหมดจะเป็นแบบตามภาพเลย คือมีในทั้ง 2 ฝั่ง มีปุ่มเพิ่มลดเสียงแบบ ก้านปรับเลื่อนขึ้นลง และปุ่ม Play Pause ที่สามารถกดเรียก Google Assistant ได้ รวมถึงมีรู 3.5 มม. ครับ ส่วนอีกฝั่งนั้นจะเป็น ปุ่มเปิดปิด และ ปุ่ม Ambient Wave ที่กดแล้วจะได้ยินเสียงเวลามีคนมาคุยด้วย และมีไฟสถานะ และ Micro USB สำหรับการชาร์จไปเข้าครับ แอบเสียดายว่ารุ่นนี้เปิดตัวมาซักพักแล้วเลยยังไม่ได้เป็นแบบ USB-C
SPEC
- Driver Sensitivity : 117 dBSPL/V @1kHz
- Dynamic Frequency Response Range : 10Hz – 20kHz
- Impedance : 32 ohms
- Driver 40 มม.
- Bluetooth เวอร์ชัน 4.2
- Bluetooth Profiles :HFP v1.7, A2DP V1.3, AVRCP V1.5
- แบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 900 mAh, 3.7V
- รองรับการใช้งานสูงสุด 33 ชั่วโมง
- ใช้เวลาในการชาร์จจาก 0% จนเต็ม 100% ในเวลา 2.5 ชั่วโมง
- การชาร์จ 5 นาที ใช้งานด้านฟังเพลงได้ต่อ 1 ชั่วโมง
- ฟีเจอร์ Ambient Aware ซึ่งผู้ใช้จะได้ยินเสียงรอบข้างชัดเจนมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายจากการไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง
- สั่งการด้วยเสียง (Voice Assistant) ทั้ง Bixby, Google Assistant และ Siri
- Multi-Point Connectivity สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 ตัว
- ฟีเจอร์ Auto Play/Pause หยุดเล่นเพลงอัตโนมัติเมื่อถอดหูฟังออก และเล่นต่อเมื่อสวมใส่โดยไม่ต้องกดปุ่มเปิด-ปิด
- น้ำหนัก 230 กรัม
FEELING
ในการใส่ใช้งานจริงๆนั้นในรุ่นนี้จะรองรับการใช้งานทั้งหมดผ่านตัวหูฟังได้เลยครับ ทั้งควบคุมฟังเพลง เรียกคำสั่งเสียง หรือจะเป็น เพิ่ม ลดเสียงได้ในตัว และมีตัวช่วยในส่วนของ Ambiet Aware ทำให้ฟังเสียงรอบข้างได้เลยไม่ต้องถอดหูฟังออกนั้นเอง และที่ชอบอีกจุดคือมันรองรับการใช้งานที่สามารถถอดหูฟังแล้วเพลงมันจะหยุดเอง เป็นฟีเจอร์ที่ต้องบอกว่า ตัวแพงๆค่ายอื่นยังไม่มีมาให้เลยอันนี้ชอบมากครับ ส่วนในการใส่นั้นต้องบอกว่ามันเน้นในเรื่องของใส่สบาย ด้วยความที่มันเป็น OnEar เลยทำให้มันเล็กและไม่ได้ครอบใบหูหรือคลุมทั้งหมด เลยทำให้เรื่องของเสียงมีหลุดรอดออกไปหรือเสียงรอบข้างยังมีเข้ามาอยู่บ้างเป็นเรื่องปกติครับด้วยทรง EARCUP แบบนี้ แต่ทรงแบบนี้มันมีข้อดีคือใส่แล้วจะไม่ร้อนใบหูทั้งหมด และยังใส่นานๆได้สบายไม่มีกดใบหูหรือดูทรงใบหูของแต่ละคนเท่าไรครับ
ทำให้ในการใช้งานอันนี้ใช้เองจริงๆมาซักพักแล้วและใส่ไปที่อื่นๆก็ถือว่าต้องยอมข้อนึงคือในเรื่องของการใส่ที่ใส่ประมาณ 3-4 ชั่วโมงในสภาพอากาศเมืองไทยได้แบบสบายโดยที่ไม่ได้มีเหงื่อล้นออกมาจากโซนหูฟังครับ ถ้าเป็นแบบ Over Ear บอกเลยว่าถ้าไม่เปิดแอร์ยากที่จะใส่ได้นานๆครับส่วนตัวของแอดมินเอง และด้วยน้ำหนักของหูฟังและรูปทรงของมันทำได้บางและเบาเลยไม่ได้มีความรู้สึก กดดันหัว หรือบีบตรงหูเลยครับ เลยทำให้มันเป็นจุดหลักๆที่ใส่สบาย แต่ก็ต้องยอมรับว่าการเก็บเสียงเลยสู้พวกแบบใส่แน่นๆ ครอบหูได้นั้นเองแต่ถ้ามองในเรทราคาและชนิดของมันต้องบอกว่าสบายๆครับ รับได้เลยแลกกับเน้นใส่สบายและออกไปข้างนอกได้ พกพาได้ง่ายในหูตัวนี้ แต่ในเรื่องของการเกาะกับหัวของเรานั้นเมื่อใส่วิ่งหรือเดินปกติไม่เจอปัญหาอะไรแต่ถ้าเรา ก้มเก็บของ หรือโยกหัวหน้าหลัง หูฟังมันจะเริ่มเกาะไม่อยู่แล้วครับจะเริ่มไหลเอียงมาด้านหน้าเล็กน้อย อันนี้ต้องระวังเวลาก้ม หรือ เงย ด้วยครับ
ในส่วนของฟีเจอร์อย่างที่แจ้งไปครับ ในรุ่นนี้รองรับการใช้งานคำสั่งเสียงด้วย โดยการใช้งานนั้นจะกดปุ่ม 2 ครั้งเพื่อเข้าสู่การสั่งงานด้วยเสียง รองรับทั้ง Bixby, Google Assistant หรือ Siri ได้ทั้งหมด ทั้งคอมพิวเตอร์ หรือ มือถือ ส่วนในการคุยโทรศัพท์ กด 1 ครั้งคือรับสาย กดอีกครั้งเพื่อวางสาย และ ตัดสายไม่อยากรับ กดค้าง 3 ครั้งครับ ทั้งหมดคือ ปุ่ม กลางคือปุ่ม เล่นเพลง หยุดเพลงนั้นเอง ส่วนการเพิ่มเสียงก็ สไลด์บน หรือ หรี่เสียงก็ลงล่าง กดเลื่อนข้างไว้คือการเปลี่ยนเพลง ทั้ง ก่อนหน้า และย้อนกลับนั้นเองครับ การควบคุมออกแบบมาใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากครับ
SOUND
ในเรื่องของเสียงกันบ้างในแนวเสียงตัวนี้ต้องเข้าใจกันก่อนว่าด้วยความเป็น On-Ear เลยทำให้อาจจะไม่สามารถเก็บเสียงอะไรได้เต็มที่มากนักด้วยการออกแบบของมันและขนาดของมัน แต่ถ้าเรามองในเรทราคาและด้วยทรงของมันจากที่ลองเสียงต้องบอกว่าใช้ได้เลยแหละฟังสนุก เบสมากำลังดีฟังเพลงได้หลากหลายไม่เรื่องมาก และฟีเจอร์อะไรช่วยได้เยอะในการใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้เน้นเสียงจัดมากนั้นเองครับ ต้องบอกว่าเสียงในภาพรวมน่าพอใจครับสำหรับในการฟังเพลงที่รองรับได้หลากหลาย ฟังแนวสนุกๆก็ได้ หรือเสียงเพลงดนตรีหนักๆได้สบายและเสียงร้องยังเด่น และที่ชอบคือรายละเอียดเสียง ดีเทลมันใสเคลียร์ตามสไตล์ AKG เลยครับแต่ด้วยแนวของมันเบสอาจจะไม่สะใจมากนัก
คุณภาพเสียงในภาพรวม ฟังง่าย เสียงร้องชัดเจนใสๆ เสียงดนตรีมาชัดเคลียร์ดีครับ เสียงเบสย่านต่ำมาดีไม่หนักหรือเบาเกินไป แต่จะไม่สะใจไม่กระแทกหนักๆแบบสายเบสที่ชอบนั้นเองครับ แต่ฟังได้ทุกแนวรองรับได้ง่ายไม่เรื่องมาก ไม่เลือกเพลง เสียง ย่านแหลมนั้นมาได้ชัดใส เสียงคนร้อง เสียงดนตรีในย่านนี้มาชัด ดีเทลดี เสียงกลางกำลังดีพอมีบ้าง ไม่โดนกลบครับ แทรกตัวอยู่ในย่านของมันได้ดีและเด่นๆขึ้นมานิดนึงแต่ไม่เยอะ ส่วนเสียงย่านต่ำนั้นมาแบบกำลังดี แต่อาจจะเบาไปสำหรับบางคนที่ชอบเบส หรือฟังเพลงแนวนี้อาจจะไม่สะใจเท่าไรครับ แต่ถ้าฟังทั่วไปก็บอกว่ากำลังดีแล้ว เสียงดนตรีมาครบชัดเจน เวทีเสียงกลางๆไม่ได้กว้างมากนัก แต่ยังดีที่เสียงร้องเสียงดนตรีมันไม่จม แยกแยะกำลังดี คือด้วยแนวเสียงของค่ายนี้หลายๆคนอาจจะพอทราบครับ จะเน้นเรื่องรายละเอียดเสียง ชัด เคลียร์กำลังดีเลยแหละ ส่วนทางด้านไมค์แน่นอนว่าด้วยความที่มันทำไมค์มาก่อน เลยทำให้เสียงไมค์ไว้ใจได้ครับ เสียงคุยชัดเจน ฟังรู้เรื่อง แต่ถ้าเจอลมหรือเสียงเข้ามาเยอะๆอาจจะต้อง ระวังนิดนึงเพราะมันไม่ได้มีระบบตัดเสียงรบกวนเข้ามาเท่าในตัวนี้
AKG Y500
” เป็นหูฟังที่เน้นในเรื่องของความเบา พกพาง่าย ใส่สบาย เสียงฟังสนุก “
หูฟัง On-Ear ที่ใส่สบายฟังเพลงสนุก เสียงมิติอะไรกำลังดีครับคือไม่ได้เด่นไปด้านใดด้านหนึ่งเยอะเกินไปทำให้มันครอบคลุมในการฟังเพลง ไม่เรื่องมาก ขับง่ายฟังง่ายนั้นเอง กำลังขับเสียงดีฟังได้ดีครับ เบสมาพอเหมาะแต่อาจจะไม่ได้สะใจ กระแทกเน้นๆอะไรมาก ด้วยขนาดของมันเสียงมีมิติ เวทีเสียงกลางๆกำลังดีด้วยแต่ที่เด่นคงไม่พ้นในเรื่องของรายละเอียดเสียง เสียงร้องมาได้ชัดเจน รายละเอียดใสดีส่วนเรื่องของแบตนั้นอึดมาก และใส่ได้ทั้งวันสบายๆครับน้ำหนักเบาพกพาได้ง่ายเป็นตัวเลือกอีกตัวในงบไม่เยอะมากแต่เน้นเสียงฟังสนุกและแบตอึด แต่ที่น่าเสียดายมากๆคือใช้พอร์ต Micro-USB และ ยังใช้งาน Bluetooth 4.2 เท่านั้นในรุ่นนี้แต่ถ้ารับได้ก็ไม่มีปัญหาเลยครับ
ข้อดี
- ใส่ง่าย ไม่อึดอัด
- พกพาสะดวก เล็ก และ เบา
- มีระบบฟังเสียงรอบข้างไม่ต้องถอดหูฟังออก
- แบตอึดของจริง ใช้ได้นานมาก
- รองรับ 3.5มม. พร้อมปุ่มควบคุม
- เสียงทำได้ดี ฟังสนุก เบสมีพอประมาณ
- เสียงยังเป็นแนวของแบรนด์ AKG อยู่
ข้อสังเกต
- เป็น Micro-USB
- Bluetooth 4.2
- เสียงรอบข้างยังมีเข้ามาบ้าง
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr