ASUS EXPERTBOOK B7 FLIP เปิดตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่ารุ่นนี้นั้นได้ทำการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งานในการทำงานมาอย่างจัดเต็ม โหดขึ้นมากๆ โดยในรุ่นนี้มีการออกแบบดีไซน์พับได้ 360 องศาออกแบบมาเพื่อสายธุรกิจเน้นๆเลยแหละ ซึ่งทำให้เป็นที่น่าสนใจมากขึ้น สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบ ออกมาแบบจัดเต็มทั้งเรื่องดีไซน์และสเปกการใช้งาน ทำออกมาได้ตอบโจทย์สายทำงานอย่างครบจบจริงๆ อีกทั้งยังมาพร้อมปากกามาให้ใช้งานอีกด้วย รองรับการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับความจุแบตเตอรี่ที่อัดแน่นอึดทนนาน แบตเตอรี่ให้มาอยู่ที่ 63WHrs สามารถใช้งานได้แบบยาวๆเลย ถึงแม้จะให้แบตมาแบบจุกๆแต่น้ำหนักตัวเครื่องในรุ่นนี้หนักเพียง 1.44 กิโลกรัมเท่านั้น พกพาสะดวกสบายแน่นอน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์พิเศษ ASUS Private View ที่ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน เป็นตัวเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำงานแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ครบจบสำหรับสายทำงาน

มาพร้อมกับหน้าจอ 16:10 หน้าจอ Anti-glare รองรับ touch screen ขนาด 14 นิ้ว WQXGA (2560 x 1600), Wide view, sRGB: 100% ให้ภาพที่มีสีสันสดใส แสดงผลภาพได้แม่นยำ อีกทั้งยังรองรับปากกา stylus ในการใช้งานอีกด้วย ความทนทานมาตรฐาน US MIL-STD 810H military-grade มาพร้อมชิปประมวลผล Intel® Core™ i5-1155G7 Processor 2.5 GHz เร็วแรง มอบประสบการณ์การใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รองรับอุปกรณ์หลากหลาย ชาร์จไฟได้อย่างสะดวก และ RAM DDR4 SO-DIMM 16GB, ใส่ได้สูงสุด 64GB รองรับ Wi-Fi 6(802.11ax)+Bluetooth 5.2 (Dual band), 5G นอกจากนี้ยังมีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้แบบครบครัน ต้องบอกว่าประสิทธิภาพการใช้งานให้มาแน่นๆ รองรับการใช้งานได้หลากหลายจริงๆ สายทำงานถือว่าตอบโจทย์ ไม่ว่าจะทำงานแนวไหน ตัดต่อ ออกแบบ เรนเดอร์งานก็สามารถทำได้สบายๆ

UNBOX

  • EXPERTBOOK B7 FLIP
  • ปากกา
  • เม้าส์
  • ที่ชาร์จ USB-C
  • ตัวแปลง  micro HDMI port
  • คู่มือ

DESIGN

งานออกแบบถือว่าเบาบาง ดีไซน์ที่เก๋ตอบโจทย์ต่อการใช้งานได้ดีด้วยการที่สามารถกางได้มากสุดถึง 360 องศาเลย มาพร้อมกับหน้าจอ Anti-glare รองรับ touch screen ขนาด 14 นิ้ว WQXGA (2560 x 1600), Wide view, sRGB: 100% ให้ภาพที่มีสีสันสดใส สีสวยแม่นยำ วัสดุคุณภาพงานประกอบที่ยกระดับขึ้นพรีเมียมดูดี ความแข็งแรงทนทาน ออกแบบให้มีน้ำหนักที่เบาสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก นำออกไปใช้งานนอกสถานที่ได้สบายๆ ตัวหน้าจอเคลือบด้วยกระจก Gorilla Glass แบบ Anti-Glare ช่วยลดในเรื่องของรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ตัวนี้รองรับ 5G อีกทั้งมีปุ่มลัด ASUS en Stylus และ ASUS NumberPed มาให้ด้วยเพื่อให้เราสร้างสรรค์ผลงานได้เป็นอย่างดี น้ำหนักรุ่นนี้จะอยู่ที่ 1.44 กก. เท่านั้นเรียกได้ว่าเบามากๆ ออกแบบมาเอื้อต่อสายธุรกิจจริงๆ

นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชันป้าย LED ที่อยู่ด้านหลังของเครื่อง การทำงานของฟังก์ชันนี้จะสามารถระบุสถานะการทำงานให้ทราบได้อีกด้วย ถือว่าตอบโจทย์ในปัจจุบันมากๆ เพราะในการทำงานในยุคปัจจุบันนี้จะเน้นไปทาง WFH ประชุมออนไลน์กันเป็นส่วนใหญ่ โดยเจ้าตัวนี้ก็ได้ออกแบบมาได้อย่างตอบโจทย์ด้วยฟังก์ชันที่ล้ำสมัย ทำให้เอื้อประโยชน์ต่อการใช้งานได้จริงๆ

ตัวเครื่องนั้นมีขนาดที่บางเบา มีขอบเครื่องที่ค่อนข้างบางมากๆ วัสดุก็ดูดีพรีเมียม เมื่อสัมผัสแล้วดูน่าใช้เกินราคามาก อีกทั้งในเรื่องของการป้องกันรอยนิ้วมือนั้นทางค่ายทำออกมาได้ดีเหมือนเดิม ด้านหลังจะเป็นโลโก้ ASUS ตรงกลางเช่นเดิม ในส่วนของการเก็บรายละเอียดข้อต่อต่างๆ ทำได้เนียน ละเอียดสุดๆ มีรอยต่อที่น้อยมากๆแน่นอนอยู่แล้วว่าค่ายนี้จะออกแบบมาในรูปของสิ้นงานเดียวกันเป็นส่วนมาก ทำให้การเก็บงานละเอียดเรียบร้อย โดยส่วนตัวชอบมากๆเลยในการออกแบบดีไซน์ ดูเรียบหรูแต่ให้ความรู้สึกเท่และล้ำสมัยมากๆ อีกทั้งรุ่นนี้ยังมาพร้อมความทนทานมาตรฐาน US MIL-STD 810H military-grade อีกด้วย

ทางด้านของตัวเครื่องนั้นจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆที่มีมาให้อย่างครบครันมากๆ พร้อมปุ่มสั่งงาน Power ที่มีมาให้กดด้านข้างเครื่อง ซึ่งตรงจุดนี้ทำออกมาได้ดีเลยนะ ไม่ไปอยู่บริเวณแป้นพิมพ์ให้เต็มพื้นที่เหมือนรุ่นทั่วไปแต่ย้ายไปไว้ข้างเครื่องแทน ตรงส่วนนี้ไม่มีผลกระทบต่อการใช้งานเลย ยังคงใช้งานได้อย่างง่ายดายเช่นเดิม

ในรุ่นนี้อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าสามารถกางได้สูงสุดถึง 360 องศาเลย ซึ่งในส่วนนี้สามารถช่วยให้เราใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบมากๆ รอยต่อขณะกางนั้นแข็งแรงทนทาน ไม่ต้องกังวลเรื่องหักเรื่องพังเลย ทำออกมาได้สมบูรณ์สมูทมากๆ ใช้งานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงตอบโจทย์สายทำงานทำงาน แต่ยังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นวาดรูป ออกแบบ ดูหนังหรือเล่นเกม ก็สามารถทำได้เป็นอย่างดีเลย

หน้าจอในรุ่นนี้ให้มา 14 นิ้ว เป็นขนาดที่กำลังพอดีเลยนะ เพียงพอต่อการใช้งานทุกๆรูปแบบ สังเกตได้ว่าขอบของหน้าจอนั้นมีความบางมากๆ ทำให้เาใช้งานพื้นที่หน้าจอได้อย่างจัดเต็ม จะมีเพียงขอบด้านล่างเท่านั้นที่จะมีขนาดใหญ่กว่าขอบด้านอื่นๆ และขอบด้านบนจะมีกล้อง Webcam 720P HD ที่อยู่ตรงกลางของขับหน้าจอด้านบนและมีช่องไว้สำหรับให้เรา เปิด – ปิด เมื่อไม่ได้ใช้งานด้วย

แน่นอนว่าในรุ่นนี้จะแถมปากกา ASUS Pen มาให้ด้วยภายในกล่อง ในส่วนของการทดลองใช้งานปากกานั้น ตัวปากกาสามารถรองรับแรงกดมากถึง 4096 ระดับ อีกทั้งตัวปากกานั้นมีแม่เหล็กไว้สำหรับเกาะติดกับหน้าจอเหมือนปากกาไอแพดทั่วๆไปเลย ต้องยอมรับว่าพัฒนาขึ้นได้ดีมากๆ ซึ่งสามารถช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ วาดภาพต่างๆ ตัวนี้ทำได้ลื่นไหลไม่น้อยหน้าเลย ยังคงยืนยันว่าตอบโจทย์ในทุกๆการทำงานจริงๆ มอบประสิทธิภาพดีๆให้แบบจัดเต็มสำหรับ EXPERTBOOK B7 FLIP สายทำงานห้ามพลาดเลย

ในรุ่นนี้มาพร้อมการระบายความร้อนแบบ Advanced Hybrid Cooling System และในเรื่องของช่องระบายอากาศนั้นทางค่ายออกแบบมาให้มีช่องระบายอากาศที่หลากหลายมากรอบๆเครื่อง ทั้งตรงบริเวณรอยพับและด้านหลังเครื่อง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นๆในส่วนด้านหลังมากกว่า และเมื่องมองทะลุไปเราจะเห็น Heatpipe 1 เส้นในการระบายพร้อมกับ พัดลม 1 ตัว จากการใช้งานนั้นสามารถระบายความร้อนได้ดีในระดับนึงเลยนะ ใช้งานเป็นเวลานานๆ เครื่องก็ไม่ได้ร้อนอะไร ถือว่าในส่วนนี้ให้ผ่าน ทางค่ายยังคงรักษาปรสิทธิภาพการระบายอากาศได้ดีเช่นเคย

SPEC

  • Expertbook B7 Flip (B7402F, 11th Gen Intel)
  • Intel® Core™ i5-1155G7 Processor 2.5 GHz
  • การ์ดจอ Intel Iris Xᵉ Graphics
  • หน้าจอ Anti-glare รองรับ touch screen ขนาด 14 นิ้ว WQXGA (2560 x 1600), Wide view, อัตราส่วน 16:10, sRGB: 100%, รองรับปากกา stylus
  • RAM DDR4 SO-DIMM 16GB, ใส่ได้สูงสุด 64GB
  • SSD M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 512GB
  • Windows  Windows 11
  • กล้อง webcam HD 720p ที่มีฝาปิดได้
  • ลำโพง Built-in ระบบเสียงโดย DTS และ harman/kardon (รุ่น Premium)
  • ไมโครโฟนแบบ Built-in, รองรับ Cortana
  • คีย์บอร์ด Backlit Chiclet 1.5 มม.
  • พอร์ตการเชื่อมต่อ USB 3.2 Gen 2 Type-A x 2 Thunderbolt™ 4 supports display / power delivery x 2 HDMI 2.0b x 1 micro HDMI (RJ45 lan) x 1 3.5mm Combo Audio Jack x 1 ช่องใส่ซิม Smart card reader
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 1.44 กิโลกรัม;
  • ขนาดตัวเครื่อง 32.00 x 23.42 x 1.80 ~ 1.89 เซนติเมตร
  • ความทนทานมาตรฐาน US MIL-STD 810H military-grade
  • Wi-Fi 6(802.11ax)+BT5.2 (Dual band) 2*2, 5G
  • แบตเตอรี่ 63WHrs ชาร์จด้วยสาย TYPE-C, AC Adapter 65W

PERFORMANCE

ASUS EXPERTBOOK B7 FILP ตัวใหม่นี้มาพร้อมกับการใช้งาน Intel® Core™ i5-1155G7 Processor 2.5 GHz มีค่า TDP  28W และใช้งานออกแบบ 10nm  Tiger Lake-U รวมถึงมี SuperFin + AI ช่วยทำงาน มาพร้อมกับ RAM  16GB ใช้งานได้สูงสุดถึง 64GB ถือว่าเรื่องสเปกนั้นพัฒนาโหดขึ้นจากเดิมและแรงเร็วเพียงพอต่อการทำงานสุดๆ ภาพรวมนั้นการประมวลผลสามารถทำได้ดีในระดับนึง สามารถทำงานได้อย่างลื่นไหล ไม่เอ๋อไม่ค้างอะไร สามารถเรนเดอร์ไฟล์ใหญ่ๆได้ดี พื้นที่ใช้งานเหลือๆเลย

ในเรื่องของคะแนน 3D MARK นั้นตัวนี้ต้องบอกก่อนว่าคะแนนออกมาอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้สูงมาก แต่คะแนนก็ยังพอรับได้อยู่ไม่ได้น้อยมาก และในส่วนของ CPU ตัวนี้จะใช้งานตัวการ์ดจอเป็นตัว Intel Iris Xᵉ Graphics นั้นเอง โดยคะแนน PC MARK ทำคะแนนอยู่ที่ 4,332 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนที่รับได้สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพขั้นพื้นฐานโดยทั่วไป

ในส่วนคะแนน Night Rail ทำไปได้ 9,732 คะแนน Wild Life ทำคะแนนไปได้ที่ 5,430 คะแนน และ Wild Life Extream ที่ 1,928 คะแนน จากการใช้งานและทดสอบมาส่วนตัวคิดว่าคะแนนที่ออกมาก็เหมาะสมกับตัว CPU ที่ให้มาอยู่นะ สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอยู่ แต่ก็ไม่เน้นโหดขนาดนั้น ยังคงทำงานออกแบบ กราฟิกต่างๆได้แบบไม่เอ๋อไม่ค้าง

ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 864 คะแนนทำได้ดีมาก ในตัว R15 และในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 2013 คะแนน ถือว่าโดยรวมนั้นคะแนนทำออกมาได้ดีเลย ในแง่การประมวลผลของ CPU แอบทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด และส่วนคะแนนการอ่านไปได้  3531คะแนน ส่วนการเขียนทำไปได้ที่ 3417 คะแนน จากทดสอบการอ่านการเขียนนั้นถือว่าแรงเอาเรื่องเลยนะ สามารถตอบสนองการอ่านเขียนได้อย่างรวดเร็วว่องไวทันใจเลย ใช้งานได้แบบสบายๆ

SCREEN

ในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว WQXGA (2560 x 1600) แบบ Anti-glare, Wide view, sRGB: 100% แสดงสีได้อย่างดี แม่นยำมากๆจากการได้ทดลองใช้ สำหรับใครที่จะนำไปตัดต่อตัวนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกได้เลยนะ การออกแบบดีไซน์หน้าจอนั้นบางเบามาก มีขอบหน้าจอที่เล็ก สามารถใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่เลย คุณภาพการสู้แสงของจอในรุ่นนี้สามารถสู้แสงได้ดีเลย สามารถใช้งานกลางแจ้งได้แบบสบายๆ หน้าจอมีสีสันมีมิติมากขึ้น และที่พิเศษเลยสำหรับรุ่นนี้คือสามารถกางได้สูงถึง 360 องศา ซึ่งสามารถทำให้เรามองมุมภาพได้อย่างหลากหลาย รวมไปถึงสนองการใช้งานได้หลายรูปแบบอีกด้วย วัสดุของหน้าจอแข็งแรงทนทานเคลือบด้วยกระจก Gorilla Glass แบบ Anti-Glare หมดปัญหาเรื่องลายนิ้วมือไปได้จริงๆ

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์พิเศษสำหรับรุ่นนี้อีกด้วยนั้นคือ ASUS Private View เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวในการใช้งานของเรา เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำงานของแต่ละบุคคล อีกทั้งยังรองรับ touch screen อีกด้วย ในเรื่องการ touch screen ก็ทำออกมาได้ดี สัมผัสรวดเร็ว ตอบสนองตามการสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ใช้งานได้อย่างลื่นไหลและเพลินๆ เหมาะมากๆสำหรับนักออกแบบ หรือทำงานเกี่ยวกับการวาดภาพ ต้องยอมรับจริงๆว่าตัวนี้ออกมาเพื่อสนองสายทำงานจริงๆ

KEYBOARD

การวางระยะห่างในส่วนของคีย์บอร์ดนั้นแน่นอนว่ายังคงทำได้ดีมากๆ การวางระยะองศาสามารถพิมพ์ได้แบบไม่เมื่อยมือแม้จะใช้เวลาพิมพ์นานหรือพิมพ์เยอะๆและนี้ยังคงเป็นจุดเด่นของค่ายนี้เลย การกดก็เด้งสู้นิ้วได้ดี ใช้งานพิมพ์ได้ง่ายสะดวก ไม่ต้องใช้น้ำหนักแรงในการกดเลย ส่วนปุ่มต่างๆใช้โทนสีเดียวกับตัวเครื่องและมีไฟ Blacklit สีขาวมาให้เช่นเคย ในเรื่องของตัวอักษรนั้นจะใช้เป็นสีขาวที่ตัดกับสีพื้นของเครื่องอย่างชัดเจน ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจน และในตัวนี้นั้นปุ่ม Power จะเปลี่ยนตำแหน่งไปอยู่บริเวณข้างเครื่องแทน ไม่ได้มาปนอยู่กับพวกแป้นพิมพ์แล้ว ถือว่าเก๋ไปอีกแบบ โดยรวมนั้นในความรู้สึกของตัวปุ่มรวมๆนั้นกดได้ง่าย ใครที่ใช้ค่ายนี้มาบ่อยๆคงไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก

TOUCHPAD / NUMBERPAD 

ExpertBook B7 Flip TouchPad นั้นออกแบบมาให้มีขนาดกำลังดีเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง รองรับการใช้งานได้ดี ในส่วนของการใช้งานสามารถตอบสนองรวดเร็ว ตามการสัมผัสได้ดี ไม่พบเจอปัญหาอะไรเลย รองรับการสั่งงานแบบ Gesture ครบถ้วน และในส่วนของ NumberPad ที่สามารถใช้งานร่วมกันกับ Touchpad ได้ทำให้สามารถแตะใช้งาน Number Pad และกดเลขอะไรได้ทันทีเหมือนรุ่นก่อนๆที่ใส่มาให้ การสัมผัสใช้งานนั้นไม่มีปัญหาเลย ใช้งานได้ตามปกติ ส่วนตัวชอบมากๆกับค่ายนี้ ซึ่งการออกแบบนั้นก็คงออกแบบมาลักษณะคล้ายเครื่องคิดเลข มีสัญลักษณ์ต่างๆมาให้ด้วย ก็ยังเอื้อต่อสายการทำงานจริงๆ

SPEAKER 

ในเรื่องของเสียงแน่นอนว่าเสียงที่ได้ต้องผ่านมาตรฐานของแบรนด์ เสียงตัวนี้มาพร้อมกับลำโพงหลักๆ 2 ตัวซ้ายขวายิงลงพื้นที่มุมเครื่องทั้ง 2 เสียงที่ได้นั้นดังพอประมาณ มีเสียงที่ชัดเจน เสียงแน่น มิติดี คุณภาพดีมาก กังวานพอสมควรเลย ในส่วนของเบสนั้นให้เสียงนุ่มลึก ถือว่าในเรื่องของเสียงมีการปรับพัฒนาได้ดีขึ้น เสียงแยกซ้ายขวาได้ดี ทำออกมาได้โดดเด่นดีกว่าเดิม ไม่ว่าเราจะทำกิจกรรมอะไรก็มอบเสียงดีๆ ให้เราลื่นหูแน่นอน ยิ่งถ้าในเรื่องของเสียง Effect นั้นก็รู้สึกถึงความแน่นขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอื่นๆ ให้ความตื่นเต้นเล้าใจได้ดีเลย ภาพรวมในเรื่องของเสียงไม่มีที่ติเลยแหละ

CONNECTOR

พอร์ตเชื่อมต่อตัวนี้มีมาให้อย่างครบครันถึงแม้จะมีความบางเบา แต่ก็ยังคงให้พอร์ตเชื่อมต่อมาครบทั้ง 2 ด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่อง เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ โดยจะมี USB 3.2 Gen 2 Type-A x 2 Thunderbolt™ 4 supports display / power delivery x 2 HDMI 2.0b x 1 micro HDMI (RJ45 lan) x 1 3.5mm Combo Audio Jack x 1 ช่องใส่ซิม Smart card reader รวมถึงให้ตัวแปลงมาด้วยในกล่อง ส่วนในด้านหน้านั้นจะเป็นไฟสถานะที่รองรับการแสดงเวลาชาร์จ หรือว่าจะเป็นสถานะตัวเครื่องหรือใช้งาเช่นเดิม อีกทั้งยังมีป้าย LED ที่แสดงสถานะการใช้งานเพิ่มมาให้อีกด้วย

WORKING 

ในการทำงานรุ่นนี้แน่นอนว่าพัฒนามาเพื่อสายทำงาน สายธุรกิจจริงๆ รองรับการทำงานทั่วไปเช่น Microsoft ทั้งหมด อันนี้รองรับได้สบาย รวมถึง Adobe ก็สามารถทำงานใช้งานได้แบบไม่มีปัญหา แน่นอนว่าการใช้งาน Intel® Core™ i5-1155G7 Processor 2.5 GHz มีค่า TDP  28W และใช้งานออกแบบ 10nm  Tiger Lake-U รวมถึงมี SuperFin + AI ช่วยทำงาน มาพร้อมกับ RAM  16GB ใช้งานสูงสุดได้ถึง 64GB ใช้งาน Window 11 รองรับได้สบาย ในส่วนของ Photoshop  CPU นั้นไม่ต้องห่วงเลย ทำงานได้แบบไม่มีปัญหาเพราะว่าในตัว RAM 16GB มองในมุมทำงานได้ค่อนข้างดีเลยแหละ ยิ่งสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 64Gb แล้วละก็บอกเลยว่าเหลือๆ จากการได้ทดลองใช้งานนั้นรู้สึกแรงขึ้นโหดขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ทำให้มั่นใจว่าไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อไฟล์วิดีโอหรือเรนเดอร์ไฟล์นั้นจะทำได้ดีตอบโจทย์สายทำงานแน่นอน ในเรื่องของสีก็แม่นยำชัดเจน ความสว่างไม่ดรอป ส่วนการดูหนังฟังเพลงทั่วไปสบาย มีพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ และ USB มาให้อย่างครบครัน รองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดีเลยแหละตัวนี้ สายทำงาน สายออกแบบ หรือจะสายได้ก็ไม่ควรพลาดเลย ครบจบมากๆสำหรับ Expertbook B7 Filp

GAMING 

แน่นนอนว่าตัวนี้มาพร้อมการ์ดจอ Intel Iris Xᵉ Graphics รวมกับเทคโนโลยี 10nm Tiger Lake-U นั้นถือว่าพัฒนาขึ้นพร้อมกับ IRIS Xe Graphic จากการทดสอบเล่นเกม  Overwatch นั้นทำได้ค่อนข้างลื่น FPS 40+ ความร้อนนั้นประมาณ 70+องศา และ CPU แตะไป 85 องศา ครับถือว่าปกติอยู่แล้วในส่วนนี้ จากการทดสอบเล่นนั้นทดสอบในสภาพอากาศไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลมครับ และจากที่ทดสอบนั้นเลยของลองตัว PUBG นั้นได้ FPS 40+ ส่วนความร้อนนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่ในการเล่นเกม และ COD MW ก็พอไหว ถือว่าน่าสนใจเลยในตัว การ์ดจอในตัวแบบนี้ ความร้อนระบายได้กลางๆจะเน้นจะทางสายทำงานมากกว่าไม่ได้เน้นสายเกม เลยทำให้ในเรื่องของการระบายความร้อนในรุ่นนี้ไม่ค่อยเอื้อกับการเล่นเกมเท่าไหร่

ASUS EXPERTBOOK 

” ULTRABOOK สายธุรกิจ 14 นิ้ว ดีไซน์สุดล้ำกางได้ 360 องศา “

สำหรับเจ้าตัวนี้เหมาะมากสำหรับสายงานธุรกิจ เพราะมีฟีเจอร์เด่นๆในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยในการใช้งาน และยังมีการปกกันตัวเครื่องอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นการเปียกน้ำหรือการตกหล่นต่างๆ ตัวนี้มีความเซฟตี้พอสมควรเลย ความแข็งแรงทนทานต้องยกนิ้วให้เลย การออกแบบดีไซน์ก็สวยหรูพรีเมียม แถมรุ่นนี้สามารถกางหน้าจอได้สูงถึง 360 องศาเลย เรียกได้ว่ามองมุมมองการใช้งานใหม่ๆได้ดีเลยทีเดียว ทางด้านสเปกเองก็จัดเต็มไม่แพ้กันทั้งเรื่องของชิปประมวลผล รวมถึงพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ การใช้งานในการทำงานนั้นตอบสนองได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม สะดวกลื่นไหลไม่พบปัญหาอะไรเลย อีกทั้งจอภาพให้สีสันที่สดใส คมชัด แม่นยำ ทำให้การออกแบบต่างๆนั้นชิวๆเลย พร้อมทั้งมีปากกามาให้ยิ่งช่วยให้เราทำงานได้อย่างเพลิดเพลินสุดๆ  จากการทดลองใช้งานจริงกับตัวนี้ถือว่าโอเคเลยนะ รองรับการใช้งานได้ดีจริงๆ แถมพกพาได้สะดวก ใช้งานนอกสถานที่ได้แบบสบายๆเลย พัฒนาจากรุ่นก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด อย่างนี้ใครจะอดใจไหวล่ะ

ข้อดี

  • งานออกแบบกางได้สูงถึง 360 องศา
  • หน้าจอสวย สีสันตรง ขอบจอบาง
  • Touchpad + Number ในตัว
  • พอร์ตเชื่อมต่อครบ ทั้ง USB-A และ HDMI
  • มีปากกามาให้ในตัว
  • การรับประกันทำได้ดี  ให้มาเต็มๆที่ การรับประกัน 3 Year Onsite Service: บริการตรวจซ่อมฟรีถึงที่ 3 ปี และ ประกัน 3 Year Global Warranty: ครอบคลุมการรับประกัน 3 ปีทั่วโลก  และ 1 Year Perfect Warranty: เพิ่มการรับประกันอุบัติเหตุให้ใน 1 ปีแรก
  • Windows 11 พร้อมใช้งาน
  • วัสดุแข็งแรงทนทาน พรีเมียม
  • มีฟังก์ชันป้องกันความปลอดภัยแก่ผู้ใช้
  • มีป้าย LED แสดงสถานะการใช้งานแก่ผู้ใช้

ข้อสังเกต

  • ดีไซน์บอดี้ ไม่เปลี่ยนจากรุ่นก่อนๆเท่าไรนัก
  • การระบายความร้อนยังคงทำได้ในระดับกลางๆ

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr