VIVO BOOK เป็นตระกูลราคาสบายกระเป๋าที่ลุยตลาดเน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก มาครั้งนี้มีสีสวยงามและหลากหลายมากๆครับ และเข้าไทยทั้ง 14 15 นิ้วในเรทราคาที่เท่ากันทำให้เลือกตามความเหมาะสมได้เลยครับว่าชอบแนวไหน ในยุคสมัยนี้ที่คนทำงานนอกบ้านเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆคนนิยมพกคอมพิวเตอร์ไปไหนทำงานด้วย และ Ultrabook ก็ทำออกมาตอบโจทย์ได้ดีมากแต่ก็ยังแอบมีราคาสูงไปสำหรับบางคน รุ่นนี้จึงออกมาเพื่อตอบโจทย์คนที่งบไม่เยอะมากแต่อยากได้สเปคที่ทำงานได้ บางและเบาพอสมควรแต่อาจจะไม่เท่า Ultrabook ตระกูล Zenbook เท่าไรนักครับ

สำหรับ VIVO BOOK S 15 ตัวนี้มีขนาดหน้าจอ 15 นิ้ว ซึ่งมาพร้อมกับจอภาพ NanoEdge ขอบบางเช่นเดิมพร้อมบานพับ ErgoLift ที่จะยกตัวเครื่องด้านหลังขึ้นทำให้การพิมพ์นั้นสะดวกขึ้นและรุ่นนี้มาพร้อมกับ 5 สีหลักๆถือว่ามีความน่าสนใจและแปลกใหม่พอสมควรครับ และยังมาพร้อม GPU NVIDIA MX150พร้อม i7 Gen 8 ด้วย

VIVO BOOK S15  i7-8550U + HDD 1TB/SSD 256GB ราคา 29,990 บาทเท่านั้นได้ทั้ง SSD และ HDD เลยคุ้มมากครับ ส่วนตัว i5 นั้นจะอยู่ที่  i5-8250U + HDD 1TB/SSD 128GB ราคา 24,990 บาท

UNBOX ASUS VIVO BOOK S15

  • ตัวเครื่อง VIVOBOOK S 15
  • Adaptor ชาร์จไฟ
  • คู่มือ

DESIGN 

สำหรับการออกแบบตัวนี้จะแตกต่างกับตระกูล Zen หลากหลายส่วนอย่างแรกคือแนวคิดของการออกแบบตัวนี้จะเน้นไปที่ความเป็นวัยรุ่นมากกว่าใช้งานหรูแบบตระกูลพวกนั้นอย่างที่เห็นได้ชัดคือพวกการใช้สีที่โดดเด่นสะดุดตามากขึ้นลายTexture ของตัวฝาหลังก็ไม่ใช่วงขดแบบ Zen ครับเป็นการปัดลายตรงๆปกติรวมถึงโทนสีก็มีให้เลือกเยอะมากตัวน้ำหนักและความเบา ตัวนี้มีความหนักและบางกว่ารุ่นก่อนหน้าแต่ก็ไม่ได้เท่า Ultrabook ตระกูล Zen ครับแน่นอนจุดที่แตกต่างนี้ก็แยกได้ชัดเจนในแต่ละกลุ่มลูกค้าที่ตามงบและตามความต้องการไม่มาแย่งกันแต่อย่างใด

ในด้านของฝาหลังรุ่นนี้เป็นวัสดุอลูมิเนียมปัดลายตรงสีเทาครับ มีการเล่นขอบสีแดงบริวเณรอบเครื่องเป็นพลาสติกสีแดงและใน่ส่วนของตัว Logo Asus นั้นเป็นชิ้นสแตนเลส ปัดเงาทำลายวนแบบ Zen เช่นกันครับสวยเงาดีเลยแหละ

ด้านหลังของเครื่องเป็นอลูมิเนียมทั้งชิ้นมาในโทนสีเดียวกับบริวเณฝาหลังแต่ไม่มีการเล่นลวดลายอะไรทั้งนั้นครับจะเห็นรูน็อตมากมายแต่ไม่มีช่องเปิดอะไรสำหรับใส่ของเพิ่มถ้าจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้โดยการถอดทั้งฝาหลังปกติครับจะเห็นว่ามีการเล่นขอบสีแดงทั้งส่วนของฝาหลังและฝาฐานรองใต้เครื่องครับโดนเด่นและสีสวยมากๆตัวข้อต่อก็ทำออกมาแข็งแรงและมียางรองฐานทั้ง 4 มุมครับ รูระบายอากาศจะเน้นไปที่ขอบด้านในและ มุมซ้ายส่วนล่างนิดหน่อย

ด้านหน้าจอมาในแนวคิด Nanoedge เช่นเดิมขอบจะบางลงมากๆครับพร้อมกับจอที่เต็มตามากขึ้นรวมถึงมีโลโก้ กล้องหน้าต่างๆยังอยู่ในตำแหน่งปกติครับกล้องหน้าซ่อนในด้านบนได้และขอบบางลงมากเมื่อปิดฝาลงมาก็จะเห็นความหนาทของตัวเครื่องที่มีพอสมควรและโทนสีแดงที่หนาในทั้งส่วนของฝาและฐานเครื่องสวยงามดีมากครับผม

วัสดุขอบเครื่องสีแดงเป็นพลาสติกด้านมีลวดลายเล็กน้อยครับไม่ใช่เรียบๆเป็นผิวแบบเวลาสัมผัสและไม่ลื่นมือมากนักและเป็นชิ้นเดียวกันหมดรวมถึงรูระบายอากาศนั้นหลักๆของตัวเครื่องจะอยู่ตำแหน่งท้ายคียบอร์ดดังภาพครับเป็นปกติของแบรนด์นี้แล้วที่จะทำรูระบายอากาศมาไว้ส่วนนี้ของตัวเครื่องเป็นของใหญ่ในการระบายความร้อนออกมานั้นเอง

แนวคิด Ergolift ได้ถูกนำมาใส่ในตระกูล VivoBook แล้วทำให้ใช้งานได้ดีขึ้นสะดวกขึ้นและถนัดมากขึ้นแอดมินเคยบอกแล้วว่าชอบแนวคิดนี้มานานมากจากที่รองหลายๆรุ่นจากทางแบรนด์นี้ถือมันพิมพ์ได้สะดวกดีขึ้น และยังเพิ่มช่องระบายกาศเข้าไปในตัวเครื่องได้ดีงามมากกว่าแบบเรียบไปกับพื้นถือว่าเป็นแนวคิดที่โดดเด่นและแตกต่างของแบรนด์นี้

SPEC

  • Windows 10 Home
  • Intel® Core™ i7-8550U processor   1.8GHz quad-core  (up to 4.0GHz) and 8MB cache  NVIDIA® GeForce® MX1502GB GDDR5 VRAM
  • หน้าจอ 15.6” LED-backlit Full HD (1920 x 1080) 16:9 matte display   86% screen-to-body ratio  178° wide-view technology
  • RAM 8GB 2400MHz DDR4
  • Dual Storage: 256GB / 128GB SATA SSD + 1TB HDD
  • Full-size backlit คียบอร์ด
  • สแกนนิ้วมีในรุ่น i7 เท่านั้น
  • ASUS SonicMaster stereo audio system
  • Fast charging to 60% in 49 minutes
  •  1 x Type-C™ USB 3.1 Gen 1  // 1 x Type-A USB 3.1 Gen 1 // 2 x USB 2.0 // 1 x HDMI // 1 x Combo audio jack // 1 x MicroSD card reader
  •  สีทั้งหมด 5 สี Icicle Gold, Gun Metal, Silver Blue, Star Grey, Firmament Green

PERFORMANCE 

ประสิทธิภาพในการทำงานตัวนี้มีทั้ง i7 และ i5 โดยของเราคือ CPU i5 Skylake 8250U และ Integrated Intel UHD Graphics 620 รวมถึงมี กราฟิกแบบแยกของทาง NVIDIA รุ่น GeForce MX150 พร้อมหน่วยความจำ 2GB ด้านของหน่วยความจำใช้ SSD 128GB  + HDD 1TB แน่นอนได้ทั้งความจุที่เยอะ + การใช้งาน บูทเครื่องเข้าโปรแกรมได้ความไวจาก SSD ครับผมถือว่าลงตัวเลย ไม่ต้องไปหาซื้ออะไรเพิ่มเติมเลยพร้อมใช้งาน

SSD ทำให้บูตเครื่อง เปิดโปรแกรม และทำงานทั่วไป รุ่นนี้ก็ได้ความเร็วในระดับพอใช้ได้เลยแหละ ซึ่งแน่นอนว่า เร็วกว่าฮาร์ดดิสก์จานหมุนปกติมาก การอ่านได้ 558.6 MB/s และเขียน 355.6 MB/s นะครับในค่าของการต่อเนื่องชุดละ 128 KB ทำงานพร้อมกันหลายหน่วยประมวลผล แต่รุ่นนี้มันมี HDD 1TB มาให้ด้วยจะความเร็วแตกต่างกันอย่างชัดเจนครับคือ  การอ่านได้ 144.4 MB/s และเขียน 153.5 MB/s ไว้สำหรับเก็บข้อมูลทั่วไปครับซึ่งถือว่าราคานี้ดีเลยที่ได้ทั้ง SSD+HDD ครับช่วยเรื่องความไวได้เยอะเลย ส่วนคะแนนของ Cinebench นั้นทำได้ 85 Fps และ 709 cb ครับถือว่าแรงพอสมควรเลยในตระกูล i5 8250U ครับ

กราฟิกการ์ดออนบอร์ด Intel UHD Graphics 620 นั้นต้องบอกว่าตัวนี้รองรับการทำงาน 2 มิติสบายครับและ 3มิตินิดหน่อยมีติดเครื่องไว้ใช้ทำงานได้ แต่ยังไม่พอตัวนี้ใส่ กราฟฟิกการ์ดแยกมาด้วยคือตัว Nvidia MX150 2GB ครับแน่นอนตัวนี้มาช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน 2-3มิติให้ดียิ่งขึ้นและลื่นไหลมากขึ้นแบบชัดเจนครับทั้งการเล่นเกมส์และทำงานที่ใช้ 3 มิติจะเห็นแบบชัดเจนเลยว่าการมี การ์ดจอแยกนั้นช่วยให้ชีวิตสบายขึ้นแน่นอน

3D Mark สำหรับสายเกมส์เห็นคะแนนแบบนี้ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดาครับ ทดสอบหลายๆแบบนั้นจะอิงแตกต่างกันไปในประสิทธิภาพครับซึ่งพวก Cloudgate จะเป็นการทดสอบเกมส์ที่ไม่หนักมากคอมธรรมดาทั่วไปเล่นได้สบายครับก็ทำคะแนนได้สูงมากๆสูงกว่า แบรนด์อื่นที่ไม่มีการ์ดจอแยกแบบชัดเจนครับ รวมถึง Skydriver และ Time Spy ทำคะแนนได้ออกมาน่าพอใจและหลังจากการทดสอบความร้อนก็มีพอสมควรแต่ไม่ได้ร้อนจนใช้งานไม่ได้ครับ

ในคะแนนส่วนของ PCMARK 10 นั้นต้องบอกว่าทำได้ดีมากครับในคะแนนของการทำงานเป็นหลัก ประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องนะครับ  ที่จำลองการใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ก็ได้มา 3720 คะแนน ถือว่าใช้งานทั่วไปได้ชิวๆ แม้จะเป็น i5 แต่คะแนนที่ได้บอกเลยว่าเกินคาดครับดีกว่าตัว i7 ในบางรุ่นซะอีก หรือแบบใกล้เคียงกันเลยแหละ

SCREEN 

สำหรับหน้าจอตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอ 15.6นิ้ว เป็น LED FULL HD อัตราส่วนหน้าจอ 16:9 และเป็นจอแบบด้านนะครับจอด้านยังคงมีจุดเด่นเวลาใช้งานนอกสถานที่นั้นสบายตา ถนอมสายตาและไม่สะท้อนจนใช้งานยากอันนี้แอดมินยังคงชอบอยู่ครับ  ส่วนเรื่องของสี ความสดใสอาจจะสู้จอแบบกระจกเงาไม่ได้แต่ภาพที่ได้ในตัวนี้ต้องบอกว่าไม่ธรรมกาแม้จะเป็นตระกูลเน้นราคาคุ้มค่าแต่สีความชัดที่ได้แทบไม่ต่างกับรุ่นZenbookปกติเลย อีกทั้งยังมีมุมกว้างมากถึง 178 องศาครับ สำหรับตัวขอภาพแอดมินไม่ติดขัดอะไรนะ สบายตาสวยคมชัด สู้แสงได้ดีครับโอเคเลยแหละ

ตัวขอบหน้าจอยังคงใช้แนวคิด Nano Edge อีกเหมือนกัน แต่ไม่ได้บางมากเท่าไรนักแต่ถ้าเราเอาไปเทียบกับรุ่นก่อนจะพอว่าเห้ยมันบาง แต่ถ้ามาเทียบรุ่นใหม่ๆสูงๆในแบรนด์เดียวกันอาจจะรู้สึกว่าก็พอๆกันนั้นเองครับแต่เห็นแบบนี้อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้มากถึง 83% เลยทีเดียวถือว่าค่อนข้างเต็มตาพอสมควรเลยแหละ

TOUCHPAD

สำหรับ Touchpad รุ่นนี้แม้จะจอ 15.6นิ้วแต่ตัว Touchpad ไม่ได้ใหญ่สะใจอะไรมากขนาดถือว่ากลางๆไปทางเล็กครับเป็นผิวแบบเรียบทั้งหมดและไม่มีปุ่มแยกตัวใช้งานการสัมผัสนั้นทำได้ลื่นดีติดตามนิ้วได้ดีครับแต่บางจังหวะเจอหนืดๆบ้างอันนี้เป็นบางช่วงนิดหน่อยเวลาไม่ได้เสียบแบตครับแต่เจอแค่ครั้งเดียวและก็หายไป ส่วนเรื่องการใช้งานนิ้วทั้ง 4 นิ้วของแอดมินนั้นสามารถใช้งานสั่งงาน Multitouch ได้สบายพื้นที่พอดีๆแต่น่าจะใหญ่กว่านี้จะดีมากๆ

KEYBOARD

คียบอร์ดในรุ่นนี้มาในลักษณะที่คล้ายเดิมระยะห่างค่อนข้างมากแต่ตัวปุ่มนั้นมีความโค้งมนมากขึ้นจากรุ่นก่อนขอบทั้ง 4 มุมนั้น โค้งเยอะกว่าเดิมทำให้ตัวแป้นอักษรมีความมนไปทั้งหมดระยะห่างแต่ละปุ่มคล้ายๆเดิมครับ ระยะการกด 1.4มม.เท่ารุ่นก่อนหน้าครับเป็นระยะที่ค่อนข้างดีเวลาพิมพ์แต่รุ่นที่ที่บอกคือการยกตัวเครื่องขึ้นมาทำให้มันพิมพ์ได้ง่ายขึ้น และยังมีไฟ Blacklit มาให้เช่นเดียวกันครับตัวไฟเจอบอดี้สีแดงแอบมีจังหวะเห็นคล้ายๆไฟสีแดงสวยเลย

จากที่แอดมินใช้งานปุ่มนั้นต้องบอกว่ารุ่น Zenbook ปุ่มค่อนข้างชิดกันกว่านี้มากๆเลยอาจจะต้องปรับตัวนิดหน่อยครับเลยทำให้รู้สึกว่าปุ่มระยะมันห่างกันแต่เมื่อใช้มาซักพักมันก็โอเคเลยปุ่มระยะประมาณนี้พิมพ์ได้ง่ายกว่าและสะดวกกว่าครับรองรับกันนิ้วได้ดีและระยะการกดแอดมินไม่ติดขัดอะไรในจุดนี้มีแค่ปุ่ม Numpad นั้นเหมือนพยายามใส่เข้ามาบีบขนาดมันและเล็กไปหน่อยกดค่อนข้างยากและแอบผิดบ่อยครับในด้านขวาของตัวเครื่องแต่ก็เป็นการพยายามใส่เข้ามาให้ใช้งานก็เป็นอีกจุดที่อาจจะยอมๆกันไปครับดีกว่าไม่มีใช้

SPEAKER

ลำโพงตัวนี้แม้จะไม่ได้ชื่อชั้น Harman Kardon แบบรุ่นพี่แต่แน่นอนลำโพง Sonicmaster จากทาง Asus ก็ไม่ได้เลวร้ายเสียงดังสะใจดีซะด้วยครับลำโพงมาพร้อมกับลำโพงคู่ ยิงลงพื้นรวมถึงมีเสียงเบสมาให้หน่อยๆครับลำโพงไม่ได้แน่ในรุ่นนี้ เน้าเสียงดังฟังชัด มิติมากลางๆครับเบสมาบ้างนิดหน่อยใช้งานฟังเพลงและดูหนังสบายครับเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนก็ไม่ได้แตกต่างกันมากน่าจะใกล้เคียงกันเลยแต่ด้วยการย้ายตำแหน่งมาด้านซ้ายขวามากขึ้นริมมากขึ้นทำให้เสียงแยกซ้ายขวาได้ดีขึ้นครับถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างดีเลย

CONNECTOR

พอร์ทเชื่อมต่อตัวนี้มีมาให้ครบเพียงพอต่อการใช้งานครับทั้ง2ข้าง ทั้งพอร์ท 3.5 Type C HDMI USB-A ทั้งหมดครบเลยไม่ต้องไปหาตัวแปลงอันนี้จัดว่าดีครับส่วนการชาร์จไฟเข้าเป็นหัวกลมปกติครับและช่องใส่ Micro-SD ก็มีมา

ด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นพอร์ท USB 2.0 ทั้ง 2 ช่อง และ Micro SD ก็ถูกนำมาใช้งานแทนที่ SD CARD แล้วรวมถึงไฟสถานะของตัวเครื่องทั้ง 2 จุดก็มาอยุ่ด้านซ้ายครับผม แต่จริงๆก็แอบชอบช๋อง SD Card มากกว่าแหะ 

ด้านขวาด้านนี้มีแต่ของแรงๆครับคือ พอร์ท 3.5 มม. USB-C 3.1 USB-A 3.1 HDMI และ ช่องชาร์จไฟเข้าครับยังดีครับที่มีการใส่ USB-C มาให้แล้วตั้งแต่รุ่นก่อนถึงแม้จะไม่ใช่ Thuderbolt อะไรแต่ก็ดีกว่าไม่มีมาให้ในยุคนี้

BATTERY

อายุการใช้งานด้วยจอ 15.6 นิ้วแน่นอนอาจจะต้องกินแบตซักหน่อยและยังมาด้วยการ์ดจอแยก MX150 ก็ถือว่าแรงพอตัวครับแบตจากที่แอดมินใช้งานถ้าในโหมดประหยัดแบตนั้นอยู๋ได้ 5-6ชั่วโมงในการใช้งานจริง ส่วนเปิดแบบสุดเต็มที่การใช้ทรัพยากรของเครื่องนั้นอยู่ได้ 2.5-3.5 ชั่วโมงครับต่อการใช้งานแบบไม่เสียบชาร์จเลย ส่วนเรื่องของการใช้งานแบตเวลาหมดและชาร์จไฟเข้า ถือว่าทำได้ไวนะครับแบบใครรีบๆลืมชาร์จและต้องใช้งานก็เกินครึ่งมาได้เลยในเวลาไม่นานครับ เค้าเครมว่า 50 นาทีชาร์จได้ 60 ขึ้นก็คงจะประมาณนั้นครับจากที่ทดสอบก็ไวตามตำกล่าวเลย

GAMING 

การทดสอบเกมส์ จากที่ลองแน่นอนการ์ดจอแยกก็เล่นได้สบายครับในพวกเกมไม่หนักมากเช่น Fifa Online 4 / Overwatch พวกนี้สบายหรือ PUBG Project Thai Beta ก็ลื่นๆเลยครับส่วนเรื่องของภาพในเกมก็ปรับตามความเหมาะสมในเรื่องของการเล่นเกมใช้งานได้ดีครับเล่นได้ลื่นสบายและไม่เจออาการกระตุกอะไรในเกมเหล่านี้แต่ถ้าเกมหนักๆอาจจะต้องปรับภาพลดลงมาหน่อยตามความแรงเป็นปกติครับแต่ก็เล่นได้สบายแน่นอนส่วนเรื่องความร้อนก็ไม่ได้ร้อนจัดและไม่สะสมครับตรงตัวแป้นพิมพ์ที่วางมือไม่ร้อนเลยครับถือว่าจัดการในส่วนนี้ได้ดีในการใช้งานจริง 

เช่นแอดมินทดสอบ Overwatch ปรับภาพ high และจะได้ FPS อยู่ที่ 60-69 และ ความร้อนที่ 70-75 องศาครับส่วนภาพที่ได้สวยงามเลยทีเดียวไม่เลวครับสำหรับใครที่หามาเล่นเกมบ้างแต่ไม่ได้สายเกมคือเล่นทั่วไปได้สบายเลย

WORKING 

ด้านการทำงานหายห่วงแม้จะเป็น i5 แต่ก็ทำงานได้สบายครับเป็น I5 GEN 8 ที่ใช้ทำงานทั่วไปได้สบายหรือจะสาย กราฟฟิคที่แอดมินลองทั้ง Photoshop Illustrator ก็รับได้สบายครับตัดต่อแต่งภาพทำกราฟฟิคทั้งหมดแต่ถ้าเน้นไปทางด้าน 3D ก็อาจจะไหวอยู่ครับแต่ในเรื่องอะไรที่มันมีรายละเอียดเยอะๆนั้นอาจจะใช้เวลานิดหน่อยไม่ได้ไวอะไรมากแต่ทำงานทั่วไปแน่นอนว่ารองรับได้หมดครับรวมถึงใช้งาน Auto CAD Sketch Up ก็ใช้ได้ดีและไม่มีปัญหา

VIVO BOOK S15 ราคาสบายกระเป๋า สเปคจัดว่าดี 

ใครงบไม่มากแต่อยากได้อะไรที่สวยทั้งด้านการออกแบบ  ดีงามในเรื่องของสเปคใช้งานตัวนี้ทำออกมาตอบโจทย์หลายๆอย่างด้วยราคามันออกมาคุ้มค่าเมื่อมองดูสเปคก็ใช้ได้เลยไม่ว่าจะเป็น CPU GPU HDD SSD มาครบจัดเต็มสีสันของตัวเครื่องเป็นอะไรที่โดดเด่นและแตกต่างอย่างมากทุกอย่างดูปรับปรุงขึ้นแบบชัดเจนครับในรุ่นนี้ เป็นตระกูล Vivo ที่ฉีกแนวจากรุ่นเดิมและแยกออกจาก Zenbook อย่างชัดเจนทั้งเรื่องของการออกแบบ การวางตำแหน่งราคาและ การขายมุ่งเน้นคนละตลาดไปเลย ใครงบไม่มากมามองตัวนี้ และข้อที่ขัดใจก็ไม่ได้มากมายเลยคือโอเคเลยแหละ

ข้อดี

  • ตัวเครื่องบางเบากว่ารุ่นเดิม พกพาง่ายกว่าเดิม
  • ได้ทั้ง HDD+ SSD ในตัว
  • ตัวเครื่องมีหลากหลายสี
  • คียบอร์ด และ Touchpad ทำออกมาค่อนข้างดี
  • ตัวเครื่องเงียบและค่อนข้างระบายความร้อนได้ไว
  • ราคาออกมาคุ้มค่าต่อสิ่งที่ได้
  • การยกตัวเครื่อง Ergo Lift ยังคงเป็นจุดขายที่ดี

ข้อสังเกต

  • แบตไม่ได้อึดมากมายนัก แต่ได้ชาร์จไวมาชดเชย
  • มีแค่ รองรับ Micro SD Card เท่านั้น
  • ลำโพงเสียงดังแต่ขาดมิติไปนิดหน่อย
  • Numpad ด้านขวาโดยรวมขนาดเล็กไปนิด

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

Review By Nineztr