สวัสดีครับเพื่อนๆ User ที่ติดตามแฟนเพจของพวกเรา TechHangOut ทุกคนสำหรับกระทู้นี้ผมจะมากับอีกหนึ่งรีวิว สมาร์ทโฟนที่มีความน่าสนใจและถือว่ามันมีลูกเล่นที่ครบครันและคุ้มค่ามากที่สุดในทุกการใช้งานและยังสามารถอัพเดทข่าวสารบ้านเมืองต่างๆหรือติดตามละครสดๆใหม่ได้ทุกที่แค่เพียงปลายนิ้วสัมผัสของ User เท่านั้นและยังมีความจำภายในที่จัดว่าจัดนักจัดเต็มมาให้ผู้ใช้กันจนลืมความจำตัวเครื่องเต็มกันเลยทีเดียวแหน่อยากรู้กันเเล้วใช่ไหมหล่ะว่าผมพูดถึงสมาร์ทโฟนมือถือรุ่นไหนแน่นอนครับมือถือที่สามารถโดยทีวีได้โดยไม่แคร์เน็ตที่พึงออกมาใหม่ในตอนนี้จะเป็นอะไรไปไมได้นอกจากจะเป็น Asus Zenfone Go Tv นั้นเองโดยเขายังมีสโลแกนที่ว่า ดูทีวีฟรี .. ดูฟรี ..ไม่แคร์เน็ต นี้มันสุดยอดมากเลยใช่หล่ะ เอาละเรามาชม รีวิวเล็กที่ผมจะเอามาฝากเพื่อนที่ติดตามเพจของผมกันดีกว่าเราไปชมกันเลยยยยย !!
Review : Asus Zenfone Go TV
โดยในเรื่องจุดเด่นสำหรับรุ่นนี้จะมีทั้งในเรื่องราคาที่มีจำหน่ายอยู่ 5,990 บาทและยังมีดีเรื่องความจำภายในที่ Asus ใส่ให้มาสำหรับรุ่นนี้ถึง 32 GB และยังสามารถเพิ่มความจำภายนอกได้สูงสุดถึง 64 GB เลยทีเดียว ส่วนในเรื่องของหน่วยประมวลผลหรือชีพียูก็ยังใชัชิฟเช็ทของ บริษัท Qual Comm อย่าง Snapdragon 400 MSM8928 วิ่งแบบ Quad Core 1.4GHz และยังมาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิัวยังใช้กระจกกันรอยแบบ Gorilla® Glass 3 ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 720 x 1280 หรือ HD และมีความเร็วประมวลผลหรือ RAM อยู่ที่ 2GB เลยทีเดียว และยังสามารถรองรับระบบทีวีแบบดิจิตอลทีวี และยังเลือกใช้ชิปดิจิตอลทีวีอย่าง SONY SMT-EW100 ที่สามารถรับสัญญาณได้แบบ DVB-T, DVB-T2, DVB-T2 Lite, ISDB-T, ISDB-Tmm ตอนนี้ยังรับช่องทีวีได้สูงสุดถึง 33 ช่องเลยทีเดียว ยังสามารถรับชมทีวีได้อีกหลายๆประเทศอย่างใน ประเทศบราซิล,อินเดีย,อินโดนีเซีย,ญี่ปุ่น,มาเลเซีย,พม่า,ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์,ไต้หวันและเวียดนาม คือถ้าเราบินไปไหนก็เสียบเสาร์อากาศดูทีวีได้เลยคือมันดีอ่ะ
แกะกล่องของ Asus Zenfone Go TV
การจัดเรียงภายในกล่องของ Asus Zenfone GO TV นั้นก็จะคล้ายๆของ Asus Zenfone 2 ทั่วไปที่ทำการจัดเรียงมาให้อย่างมีระเบียบและมีการแยกหูฟังสายชาร์ USB และอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างมีระเบียบมากๆสำหรับรุ่นนี้แถมหูฟังมาด้วยนะครับ
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- สาย Micro USB
- สายเพื่อเป็นเสาร์รับสัญญาณดิจิตอลทีวี
- ชุดหูฟัง small talk แบบ in-ear
- จุกหูฟัง
- คู่มือ
- ใบอีมี่เครื่อง
- หัวหม้อแปลงจ่ายไฟแบบ 5V 1A
( แต่สำหรับรุ่นนี้จะไม่รองรับการชาร์ไวนะครับ )
การรองรับชม TV ผ่านมือถือ
แต่สิ่งที่มันจำเป็นสุดๆที่ขาดไม่ได้เเละอย่าให้หายโดยเด็ดขาดและควรพกทุกครั้งเวลาที่ออกไปมาไหนด้านนอกเวลาที่ต้องการจะดูทีวีก็คือสายที่รับสัญญาณทีวีหรือเสาร์อากาศที่เอาไว้สำหรับเปิดดูทีวีข้างนอกบ้านนั้นเองนะครับเเต่เมื่อเสียบเเล้วให้เรากดเข้าไปใน App solo tv ที่มีมาให้ในตัวเครื่อง และให้เราทำการเลือกประเทศให้เป็นประเทศไทย และก็กดสแกนได้เลย
สำหรับการที่เราจะดูทีวีได้นั้นเราก็แค่นำสายที่แถมมาตัวอย่างจะอยู่ในรูปด้านบนทำการเสียบเข้าไปในรูเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม แต่ถ้าเราไม่เสียบมันก็ดูจะไม่ได้นะครับ
ส่วนเรื่องเมนูทางด้านซ้ายทั้งสามเมนูถ้าเราสัมผัสหน้าจอหนึ่งครั้งก็จะขึ้นหน้าเมนูทางด้านซ้ายเเละสำหรับด้านซ้ายเมนูแรกด้านบนสุดจะคล้ายๆเอาไว้บันทึกภาพส่วนอันกลางที่เขียนตัวอักษรคล้ายๆ CH ถ้าเรากดมันก็จะขึ้นช่องต่างๆให้เราเลือกเหมือนด้านขวาหน้าจอในรูปนั้นเองสำหรับรูปนาฬิกานั้นจะเป็นเมนูที่เอาไว้สำหรับการบันทึกความทรงจำแต่ทั้งหมดนี้ยังไม่เคยได้ใช้เลยนะ 555 นอกจากเลือกช่อง
แต่ถ้าเรากดลงไปบนหน้าจอขนาดที่ทีวียังเล่นอยู่เราก็จะเห็นปุ่มสามปุ่มด้านขวาด้านล่างโดยปุ่มแรกนั้นจะมีเอาไว้เพื่ออัดรายการเพื่อที่จะเอามาชมย้อนหลังได้โดยสำหรับรุ่นนี้เราไม่ต้องกลัวรายการเพื่อดูย้อนหลังเเละความจำเครื่องจะเต็มเพราะเขาใส่ความจำเครื่องมาให้สูงถึง 32GB เลยทีเดียวส่วนเมนูรูปหัวใจคล้ายๆกับบันทึกช่องที่เราถูกใจ และเรายังสามารถกดเปลี่ยนได้เลยทันทีโดยไม่ต้องเลือกช่องตรงเมนู CH อีกต่อไปสำหรับรูปลำโพงก็เอาไว้เพื่อกดปิดเสียง/เพิ่มเสียงนั้นเองครับ
ส่วนด้านบนก็จะมีบอกเวลาและบอกสัญญาณของทีวีที่เราดูส่วนไข่ปลาสามจุดนั้นก็เอาไว้สำหรับ ตั้งค่า ,สแกนช่องสัญญาณ ,ดูขอมูลจูเนอร์ , เช็คอัปเดท , ข้อมูลซอฟ์แวร์ ได้อีกด้วย
ลักษณะการออกแบบของตัวเครื่อง
สำหรับตอนที่ได้จับสัมผัสตัวเครื่องของ Asus Zenfone Go tv นั้นมีความรู้สึกว่ามีตัวเครื่องที่เบาและมีน้ำหนักอยู่ที่ 160 g หรือประมาณ 5.64 oz
สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Metal มีมิติตัวเครื่องกว้าง 7.6.9 มิลลิเมตร สูง 151 มิลลิเมตร หนา 10.7 มิลลิเมตร
ด้านหน้าของตัวเครื่อง : มีหน้าจอแสดงผล IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 720×1280 พิกเซล (HD, 267 ppi) ใช้กระจกกันรอยแบบ Gorilla® Glass 3
ขยับลงมาที่ด้านล่างของหน้าจอ มีแถบปุ่มนำทางแบบสัมผัส 3 ปุ่มและจะไม่มีไฟเวลาที่เราสัมผัสอยู่ในที่มืด ปุ่มทั้งสามปุ่มได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่มเคลียแอพ หรือกดค้างไว้เพื่อถ่ายภาพหน้าจอ
ขยับขึ้นมาด้านบนจะมี Logo Asus สีเงินด้านบนจะเป็นลำโพงเพื่อฟังในการสนทนาด้านขวาลำโพงจะเป็นกล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเชลด้านซ้ายของลำโพงจะเป็นไฟเเจ้งเตือน สถานะและการชาร์แบตเตอร์รี่ สำหรับรุ่นนี้มีระบบตัดไฟนะครับหายห่วง
ด้านบนของตัวเครื่อง : มีพอร์ตเสียบรูหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร มีปุ่มพาวเวอร์ และไมค์ตัดเสียง
ด้านล่างของตัวเครื่อง : มีพอร์ตการเชื่อมต่อ MicroUSB สำหรับรุ่นนี้ รองรับ OTG นะครับ
ด้านขวาของตัวเครื่อง : จะมีรูไว้สำหรับถอดฝาหลังและไม่มีที่กดสำหรับเพิ่มเสียงเหมือนยี่ห้ออื่นๆนะครับ
ด้านซ้ายของตัวเครื่อง : ก็จะไม่มีอะไรเลยครับ
ด้านหลังของตัวเครื่อง : ของตัวเครื่องจะเป็นฝาหลังเป็นพลาสติกที่สามารถแกะออกได้และมีดีไซแบบหลังเต่า
พร้อมช่องใส่ซิม (Microsim)ได้สองช่องและช่องใส่ Micro SDCard ที่ได้ใส่ได้สูงสุดถึง 64 และยังรองรับการใช้งาน แบบ Netcom 2.0 (4G+3G / 2G) อีกด้วย
มาพร้อมแบตเตอร์รี่ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ขนาดความจุ 3010 mAh ที่รับรองว่าเวลาดูทีวีนี้ไม่ต้องกลัวเเบตหมดเร็วเลย
ด้านหลังด้านบนจะมีเลนส์กล้องถ่ายรูปหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (Autofocus) และพร้อมไฟแฟลชคู่ LED ด้านซ้าย ด้านล่างเลนส์กล้องจะเป็นปุ่มสำหรับ เพิ่มเสียง และ ลดเสียง
ขยับลงมาด้านล่างของตัวเครื่องด้านหลังก็จะมีคำว่า Zenfone และถัดลงมาก็จะเป็นลำโพงนั้นเอง
หน้าตา UI การใช้งาน ประสิทธิภาพ
สำหรับรุ่นนี้จะมาพร้อม Zen UI 2.0 และ แอนดรอย์ 5.0.1 พร้อมความจำตัวเครื่องขนาด 32 GB และเหลือใช้โดยประมาณ 25 GB กว่าๆ
สำหรับ Zenfone Go TV ยังมาพร้อมกับ gesture ต่างๆ อย่างเช่นการเคาะหน้าสองครั้งเพื่อปลุกให้หน้าจอเปิด
มีโปรแกรมการย่อหน้าจอลงมาโดยใช้งานแบบมือเดียวทำให้สะดวกยิ่งขึ้นเวลาที่เราขับรถหรือถือของเต็มมือ
มีฟิกเจอร์ Zenmotion เจสเจอร์สัมผัส ที่เราสามารถกำหนดค่าการเปิดแอพต่างๆในการวาดตัวอักษรลงไปเวลาหน้าจอมืดหรือยกหน้าจอขึ้นมาอย่างเช่นในรูปตั้งค่า W เพื่อที่จะทำการเปิด โปรแกรม Youtube เราก็แค่วาด W ตอนที่หน้าจอดำ ตัวเครื่องก็จะสามารถเข้า Youtube หรือแอพอื่นๆให้เลยนี้มันสะดวกสบายๆมาก
หน้าตา Zen ui 2.0 โดยรวม
และ ยังมีร้านค้าธีมมีให้โหลดฟรีและเสียเงินมาให้เราปรับเเต่งไม่มีเบื่ออีกด้วยสามารถปรับเปลี่ยนฟ้อนขนาดตัวหนังสือหรือสีตัวหนังสือได้อีกด้วย
ทดสอบ โปรแกรม Aututu และ Cpu Z
เรื่องกล้องและภาพถ่ายของ Zenfone Go TV
สำหรับกล้องหลังของ Zenfone Go Tv นั้นจะมาพร้อมความละเอียดภาพสูงสุด 13 ล้านพิกเซล แบบ Autofocus มีค่า F/2.0 สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียด Full HD แบบ 1080p@30fps
มีฟิกเจอร์ Geo-tagging, touch focus, face detection, HDR, panorama และโปรแกรมอื่นๆอีกหลายโปรแกรม แต่สำหรับรุ่นนี้จะตัด ฟิกเจอร์ การปรับเเต่งเอง ออกนะครับรุ่นนี้ไม่มี
สำหรับกล้องหน้าของ Zenfone Go tv นั้นมาพร้อมความละเอียดขนาด 5 ล้านพิกเซล และมีค่า F/2.0
สำหรับกล้องหน้าของรุ่นนี้จะมาพร้อมโหมดต่างๆอย่างเช่น ถ่ายเเบบ HDR, Beauty, Panorama, Low Light และโหมดต่างๆ ถึง 10 โหมดเลยทีเดียว
ตัวอย่างภาพ
รูปแสงน้อย
ตัวอย่างกล้องหน้า
เรื่องของการเล่นเกม
สำหรับ Zenfone Go Tv นั้นจะมาพร้อมสเปค เเละใช้ Snapdragon 400 แบบ Quad-core 1.6 GHz Cortex-A7 และใช้กราฟฟิคประมวลผลเกมส์อย่าง Adreno 305 อีกทั้งยังมี Ram มาถึง 2GB เลยทีเดียว
ตัวอย่างเกม
Game : BrownFarm
Game : League of Defenders
แต่สำหรับเกมส์ที่ทีกราฟฟิคเกมส์สูงๆสำหรับรุ่นนี้อาจจะไม่ไหวนะครับ แต่เกมส์ที่ยกตัวอย่างมาให้สบายๆเลย
สรุปข้อดีของ Asus Zenfone Go tv : สำหรับรุ่นนี้นั้นก็ตอบโจทย์ในหลายๆด้านอย่างเช่นในการดูหนังดีทีวีเพราะมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่แบตเตอร์รี่ใช้งานได้อย่างหายห่วงมีความจำเครื่องที่จัดเต็มถึง 32 GB เลยทีเดียว อีกทั้งเรื่องการถ่ายภาพก็ให้มาแบบเรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มเลยทีเดียวสรุปข้อเสียของ Asus Zenfone Go tv : สำหรับคนที่เน้นเล่นเกมส์อาจจะผิดหวังกันซะหน่อยนะครับสำหรับรุ่นนี้มีความละเอียดหน้าจอที่ต่ำกว่า Zenfone 2 Laser จอ HD เท่ากัน แต่สีจะจืดกว่ารุ่นนั้น ไม่มีโหมดถ่ายภาพแบบปรับเเต่งเอง
ก็จบไปเเล้วนะครับสำหรับรีวิว Asus zenfone Go tv จากเรา TechHangout สำหรับคนที่สนใจรุ่นนี้ก็หาซื้อกันได้เเล้วนะครับ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 5,990 บาทเท่านั้น แต่สำหรับมีข้อผิดพลาดอะไรต้องขออภัย ณ ทีนี้ด้วยนะครับและฝากติดตามข่าวสารและรีวิวใหม่ๆของพวกเราด้วยสำหรับรีวิวนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนพบกันใหม่รีวิวหน้าขอบคุณเเละสวัสดีครับ