AUDI เป็นแบรนด์ที่ลุยตลาดในไทยกันอย่างหนักหน่วงจริงๆ แม้จะเป็นแบรนด์ที่ต้องสู้กับบรรดารถยุโรปประกอบไทยที่ทำราคาได้ แล้วยังต้องสู้กับความติดแบรนด์ของคนไทยด้วยเช่นกันถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทางค่ายเองก็ถือว่าใจกล้าและลุยตลาดแบบจัดเต็มทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรุ่นย่อยที่มาเกือบครบในไลน์ของแบรนด์ หรือ แม้กระทั่ง RS ที่เป็นตัวแรงก็เอามาครบมากๆ ขาดแค่ไม่กี่รุ่นเท่านั้น อีกทั้ง ทำราคาได้ดีกว่าเดิมเยอะมาก และ ยังจับต้องได้ง่ายขึ้นกว่ายุคก่อนๆชัดเจน เพราะว่าตัวรถค่ายนี้เค้าไม่ต้องบรรยายเยอะ คุณภาพการประกอบ การขับขี่ ช่วงล่าง อัตราเร่ง เป็นรถที่ขับแล้วสนุก มีคุณภาพอันดับต้นๆของรถยุโรปแบบไม่ต้องสงสัย และ ครั้งนี้เรามาอยู่กับ RS Q3 ที่เป็นน้องเล็ก RS ที่ราคาถูกที่สุดในตระกูล RS และ เครื่องเอามาจาก TT RS เลยทีเดียว ทำให้พละกำลังไม่ธรรมดา และ ดีไซน์ดุดันสวยงามเลยนั้นเอง
AUDI RS Q3 มาพร้อมกับ เครื่องยนต์เบนซิน TFSI 5 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบ พละกำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ Dual-Clutch 7 จังหวะ (S Tronic) ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro เช่นเดิม และตัวเครื่องนี้เป็นเครื่องเดียวกับ AUDI TT RS เลยนั้นเอง พร้อมกับพละกำลังที่สามารถ 0-100 km/h ภายใน 4.5 วินาที บอกเลยว่าไม่ธรรมดา และ เสียงท่อที่ลั่นกว่าที่คิดแต่มาแบบผู้ดีนั้นเอง ทางด้านออฟชั่นอื่นๆนั้นจัดเต็มสมกับ RS ที่ใส่เข้ามา การตกแต่งดีไซน์มาพร้อมกับ ล้ออัลลอย ขนาด 21 นิ้ว และ เบรกแบบ RS พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ช่วงล่างแบบ RS Sports ระบบท่อไอเสียแบบ RS Sports รวมถึง ดีไซน์ชุดแต่ง RS รอบคันเน้นๆทำให้มันดุดันและแตกต่างกับรุ่นปกติ รวมถึง หลังคา Panoramic Sunroof เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า และไฟหน้าแบบ Matrix LED แบบจัดเต็มแน่นๆออฟชั่นครบ ชุดตกแต่งภายในแบบ RS และ วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร ลาย Carbon Twill รวมถึงดีไซน์เบาะ วัสดุที่พรีเมียมขึ้นทั้งหมด รวมถึง มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control มาให้ และเครื่องเสียงได้เปลี่ยนมาใช้งาน SONOS แล้ว แทน B&O ในปีก่อนๆครับ แนวเสียงแตกต่างกันนิดหน่อย แต่คุณภาพไม่ธรรมดาเช่นกัน และ ทางด้านการใช้งานส่วนอื่นๆยังคงทำได้ดีตามสไตล์ Q3
- AUDI RS Q3 Sportback 4,850,000 บาท ราคาใหม่ ปรับมาใช้ SONOS Audio แทนครับ
EXTERIOR
งานออกแบบ RS Q3 เองมีความดุดันขึ้นเท่าตัวจนหลายๆคนมองว่าเป็น URUS MINI ได้เลย ถ้ามองเทียบกับ Q3 Sportback เดิมๆแน่นอนว่าเปลี่ยนแปลงหลายๆจุด ดุดัน เข้มขึ้น และ แรงขึ้นในการใช้งานเส้นสายหลายๆส่วนเป็นรถที่ดีไซน์ งานออกแบบลงตัวและดูดีมากๆเช่นกันครับ ไม่แปลกใจว่าทำไมค่ายนี้ถึงโดดเด่นบนท้องถนน ส่วนตัวรถเองสัดส่วน ดีไซน์หลักยังคงเป็นการเอา Q3 Sportback มานั้นเองทำให้การใช้งานทั่วไปก็ยังคงตอบโจทย์ได้ดี สัดส่วนตัวรถยาว 4,500 มิลลิเมตร กว้าง 1,843 มิลลิเมตร สูง 1,567 มิลลิเมตร กำลังดีในการใช้งานทั่วไป
ดีไซน์ภาพรวมตัวรถจะมาในแนวหลังคาลาดเท่ๆซึ่งบอดี้นี้จะเน้นความสปอร์ตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การที่ได้ชุดแต่งและความเป็น RS เข้ามาก็เสริมภาพรวมได้ดีมากเป็นรถที่ระยะความสูง ขนาดล้อ ลงตัวไม่ต้องไปเปลี่ยนอะไรมากมาย รวมถึงบรรดาช่องดักลม ช่องระบายเป็นช่องจริงกันทั้งหมดด้วยเพราะว่าต้องใช้ระบายเครื่องยนต์ตัวเองในรถนั้นเองและในด้านข้างเองนั้นจะเห็นเลยว่าหลังคาลาดเยอะมากๆ และหลังคารุ่นนี้สามารถเปิดได้ เป็นจุดแตกต่างกับรุ่นปกติชัดเจนและความสูงกำลังดีในการใช้งานใน ประเทศไทย ขับได้ง่าย ลุยน้ำได้ดี และ ยังคงความแรงได้ส่วนด้านหลังเราจะเห็นว่าเส้นสายดุดัน มีท่อไอเสียขนาดใหญ่เสริมเข้ามา รวมถึงมีการติด Duck tail ในส่วนบนสปอยเลอร์
ไฟท้าย และ ไฟหน้า FULL LED ทั้งหมด และ เอกลักษณ์ไฟ 3 ส่วนใส่เข้ามาให้ทั้งหน้าและหลัง และ ในด้านหน้าเป็นไฟเลี้ยววิ่งไล่ระดับด้วยครับ รวมถึงด้านหลังก็เช่นกัน ดีไซน์สวยมากจริงๆในเรื่องดีเทลไฟหน้าท้ายของค่ายนี้ และ ในด้านหน้ามี MATRIX LED หลบหลีกคันข้างหน้าแบบแบ่งช่องได้เลย รวมถึงความสว่างใช้งานได้จริง แสงแรง พุ่งแต่อาจจะไม่ได้คมเท่ากับเทคโนโลยีล่าสุดของค่าย ส่วนกระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวในตัว แต่ไม่มีระบบกล้องรอบคันอะไรมาให้เลยแม้แต่น้อย หรือแม้แต่ BLIND SPOT ก็ไม่มีใส่เข้ามาเป็นจุดที่ค่ายนี้อาจจะไม่ค่อยใส่เข้ามาเท่าไรนัก
ท้ายจริงๆเราจะเห็นว่าตัวรถสมส่วนลงตัว และใส่โลโก้ดำทั้งหมดสำหรับตระกูล RS ซึ่งเมื่อเบรกไฟท้ายจะติดทั้งหมดแบบในภาพส่วนกันชนหลังเราจะเห็นท่อจริงขนาดใหญ่โตมากๆทั้งซ้ายและขวา พร้อม วาว์ลเปิด/ปิดได้ ทำให้เสียงท่อเงียบ และ ดังได้ ถ้าต้องบอกว่า SPORTBACK คันไหนสวยสุด ต้องยอมให้ค่ายนี้จริงๆครับ ส่วนในด้านหน้าลงตัว ทั้งเอกลักษณ์ช่องเหนือกระจังหน้าแบบคลาสสิก ผสมกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ ลายรังผึ้งสีดำล้วนทั้งหมด โลโก้ดำต่างๆ เนื่องจากเป็นรถนำเข้าก็ยังมีที่ล้างกระจกมาให้อยู่ มีประโยชน์เวลาลุยเลอะๆครับ ส่วนทางด้านล้อให้มาขนาดใหญ่มาก 21 นิ้ว ลาย 2 สี และสวยงาม พร้อมเบรก 6 Pot และ จานเบรกใหญ่มากๆ ส่วนช่วงล่างแบบ RS ไม่สามารถปรับระดับอะไรได้ครับ และ เซ็ทค่ามาแบบเดียวเลย ส่วนระยะความสูงกำลังดี
INTERIOR
งานออกแบบภายในเองมีกลิ่นของรุ่น ETRON มาเยอะมากๆเช่นกัน แต่ด้วยราคาและขนาดตัวรถก็มีหลายๆส่วนที่แตกต่างกัน ถ้ามองกันเรื่องภายในความหวือหวาสวยงาม AUDI เองน่าจะอยู่อันดับต้นๆทั้งความสวย และใช้งานได้ดี รวมถึงแสงสีก็ให้มาเช่นกัน แต่อาจจะไม่ได้สีเยอะแบบบางค่าย แต่ก็ยังดูมีอะไรกว่าหลายๆค่ายทำให่ส่วนตัวรู้สึกชอบงานออกแบบแบบนี้มากกว่าเอาจอยาวๆ แบนๆมาแปะ หรือคล้ายๆกับเอา TABLET มาแปะกันนั้นเองครับ ทำให้เรื่องนี้ค่ายนี้ทำได้น่าสนใจ มีการปรับปรุงวัสดุให้ดีขึ้นสำหรับ RS ทั้งคาร์บอน หนังกลับ และ เดินด้ายสีแดง
คอนโซลหน้าเองนั้นเราจะมีคำว่า QUATTRO พร้อมไฟเปลี่ยนสีได้เข้ามาเป็นแสงสีที่สวยและลูกเล่นเล็กๆน้อยๆในตัวนี้ บนพื้นหลัง Carbon Fibre ที่เป็นจุดแตกต่างกัน ในด้านบนเราจะเห็นเป็นหนังกลับที่เราจะเห็นแตกต่างกับรุ่น Q3 ปกติ และ ทางด้านพวงมาลัยเองก็เป็นแบบขอบตัดทรงคล้ายๆกับรุ่นธรรมดา แต่ใส่ใจวัสดุแบบหนังกลับเข้ามาทั้งหมด เดินด้ายสีแดง พร้อมกับปุ่ม RS Mode ที่แตกต่างกับรุ่นปกติ และ สัญลักษณ์ RS ขอบล่างพวงมาลัยและ Paddle Shift เข้ามาเช่นกันเหมาะสมกับตัวแรง แต่ส่วนที่ขัดใจจริงๆคือหัวเกียร์ที่ค่อนข้างไม่เหมาะกับ RS เท่าไรนัก ไม่มีสัญลักษณ์ต่างๆ แต่ยังดีที่ได้หนังกลับและเดินด้ายแดงเข้ามา แต่ไม่เท่แบบรุ่น RS4 พวกนั้นครับ ส่วนที่ชาร์จไร้สายไม่มีมาให้ แต่ยังดีที่มีพอร์ต USB-A USB-C มาให้ พร้อมกับ เบรกไฟฟ้า และ ที่วางแก้วมีไฟขอบข้างๆ Ambient มาให้ตามขอบด้วยเช่นกัน ส่วนการควบคุมแอร์เองยังเป็นแบบปุ่มหมุนแยก 2 โซนมาตรฐานนั้นเองครับ
หน้าปัดมาพร้อมกับ Virtual Cockpit เช่นเดิม 12.3 นิ้ว และรูปทรงสวยงามทำจอตามโค้งเว้าของเรือนไมล์ไม่ดูเยอะเกินไปออกแบบ RS UI ได้สวย เห็นวัดรอบชัดเจนสำหรับการเปลี่ยนเกียร์ แรงบิด และ พละกำลังต่างๆ แรง G และ โหมดการจัดเวลาต่างๆที่ปรับเปลี่ยนหน้าตาได้แบบคลาสสิกก็ทำได้เช่นกัน ส่วนหน้าจอกลาง MMI Touchscreen ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple Carplay ไร้สาย และ Android Auto แบบเสียบสาย สัมผัสต่างๆถือว่าติดนิ้ว และ คมชัดมากๆในการใช้งานทั่วไป จุดนี้ถือว่าทำได้ดีและ UI สวยเรียบง่ายมากๆครับ ส่วนทางด้านเบาะเองมาพร้อมกับทรง Bucket Seat ที่เป็น RS และ ลายรังผึ้งสวยงาม พร้อมหนังกลับแทรกเข้ามาตามขอบรวมถึง เข็มขัดขอบแดง และ แสงสีไฟ Ambient Light ทั้งด้านหน้าและหลังตามขอบประตูก็ใส่เข้ามาให้ครับ
TECHNOLOGY
เทคโนโลยีในรถแต่ละคันเริ่มมีมากมายขึ้นทุกๆปีไม่าว่าจะเป็น หน้าจอต่างๆตามเรือนไมล์ หรือ หน้าจอการควบคุมทำงาน รวมถึงระบบช่วยเหลือความปลอดภัยหรือการขับขี่ แต่ทั้งนี้ด้วยข้อจำกัดของราคา การนำเข้าทำให้ค่าย AUDI เองนั้นถือว่าจะไม่ค่อยมีระบบพวกนี้ใส่เข้ามาในไทยเท่าไรนัก จึงมีแค่ Cruise Control เท่านั้นในคันนี้ เป็นจุดที่น่าเสียดายมากครับ แต่ทั้งนี้เรื่องของเทคโนโลยีหน้าจอ UI ของตัวหน้าเรือนไมล์ที่เป็นค่ายที่ออกแบบได้ดี หน้าแผนที่แบบเต็มๆจอ นวมถึง การปรับแต่งหน้าตาที่ใช้งานได้จริงตัวนี้ถือว่าโหดและสวยลงตัวครับ รวมถึงตามหน้าจอกลางเป็นค่ายที่มี UI UX ใช้งานได้ดี เข้าใจง่ายและไม่ซับซ้อน รวมถึงขนาดการใช้งานหน้าจอก็ทำได้ลงตัวเช่นกัน
DRIVING
เมื่อขับขี่แล้วรู้สึกเลยว่ามันคือ RS จริงๆ ไม่รู้สึกถึงความเป็น SUV เลยแม้แต่น้อย ทั้งอัตราเร่ง ช่วงล่าง การขับขี่ เป็นค่ายที่ทำช่วงล่างได้ดีแบบน่าตกใจ แม้ตัวรถจะสูงแต่สามารถเข้าโค้งแบบโหดๆได้แบบสบายใจ อาจจะต้องยกความดีให้ QUATTRO ด้วยเช่นกันครับ และ ทางตรงยาวๆเป็นค่ายที่จะกล้าเหยียบเกิน 200 ได้แน่นอน เวลาขับเหมือนมีแม่เหล็กมาดูดตัวรถไว้จริงๆอันนี้โหดมาก ส่วนอัตราเร่งนั้นทำได้ดี อาจจะด้วยเทอร์โบ ทำให้ช่วงเร่งบางจังหวะมีรอนิดนึง และ การเปลี่ยนเกียร์มันไม่ดุดันเท่ากับ TT RS แน่นอนว่าอาจจะมีการเซ็ทมาต่างกันนั้นเองครับ ด้วยขนาดตัวรถต่างๆ และ ทดสอบจริง 0-100 ภายใน 5.4 วิ 80-120 ภายใน 3.7 วิ ซึ่งมีคนนั่ง และ มีของสัมภาระเช่นเดิมครับ ตัวเลขถือว่าแอบแปลกใจในช่วง 0-100 เพราะตามสเปก 4.5 วินั้นเองอาจจะด้วยคนนั่ง และ การออกตัวทำให้มันช้าไปนิดหน่อยครับ แต่แรงดึง ความแรงการแซง 80-120 ถือว่าโหดและทำได้ดี ส่วนเก็บเสียงต่างๆนั้นไว้ใจได้ ทั้งลม และ ยาง แม้จะความเร็วสูง และ พวงมาลัยเองเซ็ทมาคมนิ่ง ควบคุมได้ง่ายมุดสนุกเช่นกัน เสียดายว่าเสียงท่อนั้นไม่ได้ลั่นกว่านี้ไม่งั้นจะเพิ่มความเร้าใจได้มาก เพราะเสียง After Firing เองนั้นน้อยมากๆ ส่วนทางด้านอัตราการกินน้ำมันนั้น เฉลี่ย 8km/L และ ในต่างจังหวัดอาจจะไปเลข 9km/L ได้เช่นกันครับ
AUDI RS Q3
” ขับดีจนลืมไปเลยว่ามันคือ SUV ที่สูงกว่ารุ่นอื่น เกาะถนน อัตราเร่งโหด และ ดีไซน์ลงตัว “
ถ้าเป็นคนที่อยากได้รถ SUV ขนาดเล็กใช้งานในเมือง ต่างจังหวัด ขนของได้ดี และไม่ใหญ่เกินไปขับ 2 คนสบายๆและ ยังคงเป็นคนที่ชอบความแรง การขับขี่ที่โหด และเป็นสาวกรถสันดาปแบบนี้ RS Q3 ตอบโจทย์แน่นอน เพราะคู่แข่งระดับนี้จริงๆราคาพุ่งไปเยอะมาก ทำให้คันนี้สามารถตอบโจทย์ในงบ 5 ล้านได้เป็นอย่างดีและสัมผัสความแรงแบบ Supercar ได้ทันที อีกทั้งช่วงล่างคือจุดเด่นที่สุด และสามารถเป็นรถ Daily Use ได้แบบสบายๆ แต่วันไหนอยากซิ่งก็พร้อมเสมอครับ อีกทั้งยังลุยน้ำ ดิน ขึ้นลงเขาได้สบายๆเช่นกันทำให้มันเป็นรถที่ลงตัวและน่าสนใจมากๆคันนึงในตลาดตอนนี้ แม้ออฟชั่นช่วยเหลือจะน้อย แต่คนที่ซื้อรถ RS คงอยากจะขับเองมากกว่า และรับได้กับค่าน้ำมัน
สำหรับรีวิวนี้เป็นการทำบทความเกี่ยวกับรถยนต์ หรือ สายยานยนต์ของเรา และถ้าหาก มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ มีข้อเสนอแนะ หรือข้อนำแนะอะไร ยังไงสามารถแจ้งเราได้เสมอเพื่อการปรับปรุงที่ดีขึ้นครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรถรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ จะพยายามจัดหามาให้อ่านกันเยอะๆ ขึ้นเรื่อยๆ ครับ … สำหรับ Techhangout Auto !
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
