รถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ BEV ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าหลายๆค่ายลุยตลาดกันแบบจัดเต็มขึ้นทุกวันรวมถึงในไทยเองก็มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมากขึ้น ทั้งการรองรับ และ สถานีการชาร์จต่างๆ ทำให้เป็นจุดที่อนาคตเราน่าจะเห็นอะไรหลายๆอย่างมากขึ้นและพร้อมยิ่งขึ้นไปอีกจนลูกค้า หรือคนใช้งานหลายๆคนเริ่มหันมามองรถยนต์ไฟฟ้ากันเยอะขึ้น และทาง BMW ก็เป็นอีกค่ายที่ลุยตลาดตรงนี้และได้นำรถยนต์ไฟฟ้าล้วนๆ เข้ามาขายในไทยแบบทางการเริ่มด้วย SAV ของค่ายกันก่อนคือ BMW IX3 และ BMW IX นั้นเองครับ และ เป็นการนำเข้าทั้งคัน ครั้งนี้เราจะมาอยู่กับ BMW IX3 ซึ่งเปิดราคามาค่อนข้างดีและเข้าถึงได้ง่ายที่ 3.39 ล้านบาท พร้อมกับได้หน้าตาแบบใหม่ ออฟชันเต็มๆ และ การขับขี่ต่างๆยังคงทำด้ดีสมกับ BMW เราจึงลองขับไปเขาค้อ ภูทับเบิก ด้วยไฟฟ้าแบบนี้ และจะมาเล่าในรีวิวนี้กันซักเล็กน้อยครับการขับ BMW IX3 ลุยเขาค้อ ภูทับเบิก รถยนต์ไฟฟ้า 100% แบบนี้ไปได้ไหมชาร์จยังไงกันบ้าง
BMW IX3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทำจากพื้นฐาน SAV ในตระกูล X3 นั้นเองทำให้ทั้งเรื่องดีไซน์ งานออกแบบ ฟีเจอร์ ออพชั่นหลายๆส่วนคือเหมือนกันทั้งหมดแต่เราจะได้หน้าตาแบบ FACELIFT มาแล้วเช่นกัน และตัวรถยนต์จะมาพร้อมกับ BMW eDrive ให้กำลังสูงสุด 286 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 180 กม./ชม. พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนขนาด 80 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุด 460 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนล้อหลัง เกียร์อัตโนมัติ Single Speed with fixed ratio ซึ่งน่าเสียดายว่าไม่ได้ขับเคลื่อน 4 ล้อ XDrive เพราะเป็นมอเตอร์เดียว แต่ถ้ามองในแง่การใช้งานทั่วไปเหลือๆสำหรับคันนี้ และ ได้ออฟชันที่ครบๆทั้งระบบช่วงล่างแบบ Adaptive Suspension เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมกับ ไฟหน้าแบบ Adaptive LED พร้อมไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบปลดล็อกประตู Comfort Access, เบาะนั่งหุ้มหนัง Vernasca แบบสปอร์ต, เบาะนั่งปรับพับแยกแบบ 40:20:40, ระบบ BMW Live Cockpit Professional, ระบบ BMW Intelligent Personal Assistant, ระบบสั่งงานด้วยท่าทางมือ BMW Gesture Control, หน้าจอ BMW Head-up Display, ระบบเสียง Harman Kardon และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติรุ่น Plus เป็นต้น ระบบเสียง BMW IconicSounds Electric เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเสียงจากฝีมือของ Hans Zimmer เรวมถึงติดตั้งล้อ M Aerodynamic ขนาด 20 นิ้ว และ ดีไซน์ใหม่ในด้านหน้า และ ด้านหลัง ซึ่งจะเป็นแบบ Facelift แล้วนั้นเองครับ ถือว่าเป็นรุ่นที่ออฟชันครบมากๆ และ มีระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่หลายๆคนชอบใช้งานกันด้วยนั้นเอง และ คันนี้จะเป็นการนำเข้าจากประเทศจีนทำให้ทำราคาได้ดีมากและจัดต้องได้
ราคาจำหน่าย BMW iX3 M Sport 2022 ใหม่ อยู่ที่ 3,399,000 บาท
(ราคารวมแพ็กเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
EXTERIOR
งานออกแบบตัว BMW IX3 ต้องบอกว่าทางด้านหน้าตาได้ยกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นกันชน ไฟหน้า ชุดแต่งรอบคันและรวมถึงภายในและตัวล้อ เป็น Facelift ที่สวยและลงตัวมากขึ้นเยอะ เส้นสายคมสวยชัดเจน และดูทันสมัยกว่าเดิมเยอะมากจุดนี้เป็นจุดหลักๆที่ทำให้หลายๆคนชอบมากกว่าเดิม และ กระจังหน้าเองก็มีความเรียบมากขึ้นเพราะเป็นรถไฟฟ้า ทำให้ไม่ต้องมีช่องดักลมอะไรเยอะ แค่มีส่วนระบายเล็กๆสำหรับ ระบบแอร์ต่างๆเท่านั้นซึ่งไม่ต้องมีช่องอะไรเยอะครับ และส่งผลเรื่องระบบอากาศพลศาสตร์ทำได้ดีขึ้นพร้อมกับรุ่นนี้จะได้สีฟ้าๆรอบโลโก้ BMW ด้วย
ดีไซน์ภาพรวมตัวรถแม้จะเป็นทรงเดิมแต่การที่ได้ล้อลายใหม่ กันชนหน้าหลังใหม่รู้สึกว่าลงตัวและทันสมัยขึ้นทันที ขนาดตัวรถในตระกูล X3 เองนั้นจะไม่ได้ใหญ่มาก เหมาะกับการขับในเมืองได้ ลุยต่างจังหวัดก็สบายนั่งข้างหลังต่างๆกำลังดีเป็นรถครอบครัวที่เป็นรถไฟฟ้าที่น่าใช้งานมากๆคันนึง และจากที่ทดสอบในการขับขึ้นลงเขาต่างๆมีความคล่องตัวและด้วยที่เป็นรถไฟฟ้า 100% ทำให้เรื่องจุดศูนย์ถ่วงและการขับขี่เองนั้นทำได้ดีกว่ารุ่นปกติเหมือนกันครับ และคันนี้มีสี น้ำเงิน Phytonic Blue เมื่อเจอแสงเงาทำให้ดูสวยมีมิติแสงที่สวย แต่ถ้ามองเทียบกับรุ่นก่อนหน้าส่วนที่โดดเด่นที่สุดคงจะเป็นด้านท้ายที่เส้นสายไฟท้ายและการออกแบบดูแปลี่ยนแปลงเยอะที่สุด และ แปลกตากว่ารุ่นอื่นๆ
ชุดกันชนหน้าและหลังเราจะเห็นว่าเมื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจะไม่ต้องมีท่อไอเสียด้านหลังและมีการเสริม Diffuser ที่เป็นการตกแต่ง สีเงินเสริมเข้ามา และกันชนล่างจะเป็นสีดำทั้งหมด อะไรแต่ส่วนอื่นๆนั้นจะเป็นแบบ Facelift ทำให้รุ่นธรรมดาก็จะได้กันชนหน้าหลังแบบนี้เช่นกัน รวมถึงในด้านหน้าจะเห็นเส้นสายช่องดักลมด้านข้าง และ ตรงกลางที่มีความคมอะไรมากขึ้นกว่าเดิม ดูดุดันสปอร์ต และมองเข้าไปจะเห็นส่วน เรดาร์ ข้างล่างช่วงตรงกลางซึ่งใช้งานได้จริง
กระจังหน้าจะเป็นจุดแตกต่างกับรุ่นปกติเพราะจะไม่มีช่องดักลมอะไรแบบรุ่นปกติจะได้ความทึบปิดเข้ามาในส่วนบนและสีเงินด้าน รวมถึงโลโก้ i มุมขวาบน และมีช่องรับลมเข้าเล็กๆส่วนล่างสำหรับระบายอากาศเล็กๆ พวกระบบแอร์ต่างๆที่มีลมเข้ามาเสริมได้คร่าวๆแต่จะไม่ได้เน้นแบบรุ่นปกติแล้วนั้นเอง และจะเห็นกล้องหน้าที่มีกล้องรอบคันใช้งานด้วยเช่นกันในคันนี้ และไฟท้ายเราจะเห็นว่าเป็นการออกแบบใหม่หมด เส้นสายสวย และมีไฟเสริมด้านข้าง และเป็น LED ทั้งหมดส่วนตัวเป็นจุดที่สวยและลงตัวกว่าเดิมมาก รวมถึงไฟหน้าเองนั้นออกแบบทรงเรียลมากๆพร้อมมาแบบโคมเต็มๆใช้งานจริงได้ทั้ง 2 ส่วนจะไม่เหมือน Series 3 ที่ดวงข้างในจะไม่ติดนั้นเองครับ และคันนี้ Adaptive LED ใส่เข้ามา รองรับไฟสูงแบบแหวกรถได้ และ DRL แบบเต็มและสวยลงตัวจุดนี่ทำให้ดูเพรียวบางมากขึ้น
ตัวล้อแม้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแต่รุ่นนี้ถือว่าสวยและดูสปอร์ตเกินหน้าตามากและดีกว่ารุ่นก่อน Facelift ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะได้ล้อ M aerodynamic ขนาด 20 นิ้วใช้งานแบบสลับสี และมีการทำให้ทับเพราะจะเน้นด้านแอโรไดนามิกส์เข้ามาเป็นส่วนคล้ายๆพลาสติกนิดหน่อยแต่ไม่แน่ใจว่าจะสามารถแกะได้แบบรุ่นอื่นๆไหมนะครับเพราะทำได้แน่นแข็งแรง และในด้านข้าง เราจะมี Logo M เข้ามาและช่องดักลมที่เป็นการออกแบบสีดำซึ่งจะเป็นช่องตกแต่งสวยๆเท่านั้นครับรวมถึงที่ชาร์จจะอยู่ที่เติมน้ำมันทั่วไป เปิดปกติ และรองรับ AC/DC มีไฟสถานะและเรื่องกันน้ำต่างๆใช้งานได้สบายซึ่งเวลาจอดจะต้องเอาท้ายเข้าเพราะหลายๆตู้สายจะไม่ถึงแน่นอนครับถ้าเอาหน้าเข้าเวลาเสียบสายชาร์จต่างๆนั้นเองและกระจกมองข้างรองรับการใช้งานได้ดีรูปทรงเดิม และ มาพร้อมกล้องรอบคัน ระบบ Blind Spot และ ไฟเลี้ยว
INTERIOR
ภายใน BMW ยังคงเป็นจุดที่ว่าไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนๆเราก็จะได้การออกแบบที่เป็นเหมือนกันไม่ว่าจะตัวหน้าจอ เรือนไมล์ พวงมาลัย ช่องแอร์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนเราก็จะได้หน้าตาดีไซน์เหมือนกันซึ่งอาจจะเป็นจุดที่หลายๆคนชอบ หรือ หลายๆคนอาจจะไม่ชอบกันเพราะว่ามันอาจจะดูซ้ำและน่าเบื่อก็มองได้อีกมุม ส่วนในแง่ของความโปร่งก็จะได้หลังคากระจกเต็มๆบาน และยิ่งมองเทียบกับรุ่นก่อนเปลี่ยนหน้าตา เราจะได้ทั้ง พวงมาลัยใหม่ หน้าจอกลางใหญ่ขึ้น ช่องแอร์แบบใหม่ และการควบคุมที่ดีขึ้น อีกทั้งแสงสีก็จะเยอะมากขึ้นตามคอนโซล และ ประตูทั้งหมดในตัวรถอันนี้ถือว่าดีกว่าเดิมเยอะมาก แม้จะยังไม่ได้หน้าจอยาวแบบ I4 ก็ตามแต่ก็เป็นจุดที่ทำได้ดีถ้ามองในแง่ของการอัปเกรด
หน้าจอกลางได้รับการอัปเกรดมากขึ้นใหญ่มากขึ้นรองรับระบบสัมผัส และ รองรับการควบคุมแบบท่าทาง และใช้งานได้ทั้ง Apple Carplay ไร้สายได้สบาย หน้าจอเรือนไมล์ BMW Live Cockpit Professional แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และ คันนี้มีระบบช่วยขับขี่ (Driving Assistant Professional) ที่จะรักษารถอยู่ในเลนอีกทั้งโค้งตามและชะลอต่างๆ ทั้งในเมืองและต่างจังหวัดทางไกลได้ และตรงพวงมาลัยจะมีความพิเศษที่มีไฟสถานะตรงพวงมาลัยสีเหลือง เขียว แดง บอกสถานะต่างๆในตัวรถเวลาใช้งานระบบ แม้ว่าจะเป็นพวงมาลัยทรงๆเดิมจากรุ่นอื่นๆก็ตาม ที่ไม่มีการปาดขอบ หรือ เปลี่ยนงานออกแบบ อันนี้จริงๆอยากให้เปลี่ยนให้สวยและทันสมัยมากขึ้นกว่านี้แต่ถ้ามองในแง่ของการใช้งานรู้สึกว่าโอเค แค่การออกแบบยังจำเจไปนิดหน่อย และด้วยรถไฟฟ้า จะได้โลโก้ BMW สีฟ้ารอบๆ และ ตรงปุ่มสตาร์ท และ หัวเกียร์ที่จะแตกต่างกับรุ่นปกติ รวมถึงการเขียน iX3 บนคอนโซลกลาง และ มีรองรับการชาร์จไร้สาย และ พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C ทั้งหมดในตัวรถ ถือว่าทันสมัยพอสมควรเลยครับในการเสียบชาร์จต่างๆ
ส่วนยามค่ำคืนแน่นอนว่าทาง BMW ยังคงใส่ไฟมาให้ตรงมือจับทั้ง 4 บาน อีกทั้งมีไฟยิงตรงพื้นเป็นเส้นสายโค้งสวยงามทั้ง ซ้าย และ ขวา และมีความสว่างและสวยมาก จะยิงมาจากขอบชายล่างตัวรถส่วนหน้ายิงออกไปด้านหลังช่วยให้ส่องพื้นและเพิ่มความปลอดภัย และ สวยมากขึ้น อีกทั้งตามขอบประตูมีไฟ M SPORT แบบใหม่ขีดเส้นหน้าขึ้นและสว่างพอสมควรครับ ถือว่าเรื่องของออฟชันอะไรรุ่นนี้ทำได้ดีและจัดเต็มรวมถึงมีความสวยและลงตัวขึ้นกว่าเดิม
TECHNOLOGY
เทคโนโลยีในตัวรถคันนี้ BMW ใส่เข้ามาเยอะพอสมควรถ้ามองเทียบในตระกูล X3 แบบนี้ ซึ่งจะเป็น ระบบช่วยขับแบบ Pro (Driving Assistant Professional) พร้อมกับ Parking Assistant Plus ระบบช่วยจอด และ Active cruise control with Stop&Go ถือว่าครบมากๆ แม้รุ่นนี้จะไม่มีระบบช่วยเปลี่ยนเลนให้เองก็ตามแต่ก็สามารถช่วยในการขับขี่ได้สบายมากๆ ในหลายๆเส้นทางถนน พร้อมกับระบบ BMW Head-up Display และ หน้าจอแบบเต็มๆ ทำให้แสดงผล เลนถนน 3 เลนและบอกตัวรถได้ว่า อยู่ตรงไหน และ รถข้างหน้าเป็นอะไร รถเก๋ง ระบรรทุก มอเตอร์ไซค์ อันนี้ทำได้ดีมากๆเลยทีเดียว แม้จะยังไม่ใช่แบบ Full แต่ก็ช่วยให้หายเหนื่อยได้สบายๆครับแต่ในการใช้งานจะมีหลายๆถนนที่ต้องระวังกันพอสมควร ต้องใช้งานบนทางด่วน หรือ เส้นถนนที่ชัดเจนจะทำได้ดี
ทางด้าน MY BMW ตัวแอปอันนี้ต้องบอกว่าการเปลี่ยนหน้าตาใหม่ ระบบใหม่สั่งงานได้มากขึ้นและเข้าใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้านั้น ตัวแอปพวกนี้สำคัญมากเพราะว่าจะไว้คอยเช็กระบบตัวรถทั้งการใช้งาน ตัวสถานะตัวแบตความจุ กำลังไฟที่เข้าอยู่ตอนนี้เท่าไรยังไง และ จะเต็มตอนช่วงเวลาเท่าไร และจะรวบรวมทั้งหมดว่าเราชาร์จไปกี่ครั้งบ้าง ได้ไฟเท่าไร กี่ % และ สามารถใช้งานวิ่งได้กี่กิโลเมื่อชาร์จ อีกทั้งยังดู ภาพรอบๆตัวรถแบบ real time และสั่งงานล็อกรถ ปลดล็อก เปิดกระจก ไฟหน้า รวมถึงใช้มือถือเป็นกุญแจรถได้เลยอันนี้น่าสนใจและสะดวกมากๆ
กล้องรอบคันมีมาให้ใช้งานและแน่นอนว่าดูแบบ 3 มิติได้ รวมถึงมีระบบช่วยจอดต่างๆแต่จุดเด่นนึงที่แตกต่างคือเราสามารถสั่งงานแบบไม่ต้องสัมผัสหน้าจอได้ ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มลดเสียง หรือ เปลี่ยนเพลง หรือแม้แต่ Muted นั้นเองอีกทั้งถ้าเราเข้ามุมมองแบบ 3 มิติ เราสามารถใช้ท่าทางนิ้วมือจีบและทำการหมุนรอบๆตัวรถได้ทันที โดยไม่ต้องกดปุ่มบนหน้าจอ สัมผัสหน้าจออะไรเลยครับ เพียงแค่ทำท่าทางและเลื่อนซ้ายขวา ตัวรถเองก็จะหมุนตามทิศทางที่เราเลือก
และเมื่อเราชาร์จไฟเข้าตัวรถก็จะบอกเลยว่าไฟเข้าแรงเท่าไร กี่ kW และ สามารถวิ่งได้อีกเท่าไร และ ชาร์จเต็ม 100% เท่าไรด้วยเช่นกันจะแสดงผลเมื่อเราเสียบชาร์จอยู่ไม่จำเป็นต้องสตาร์ทรถนั้นเองครับ และใช้งานหน้าจอได้เต็มๆเลย อีกทั้งเมื่อชาร์จไฟเราก็สามารถ นั่งในรถ เปิดแอร์อะไรได้สบายๆครับและไฟเองก็ยังเข้าอยู่ด้วยเช่นกัน
DRIVING
การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้านั้นเป็นจุดที่หลายๆคนถ้าหากได้ลองต้องติดใจและมันจะแตกต่างกับบรรดารถยนต์ทั่วไปเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นกำลัง ความเงียบ และความแรงที่มาตั้งแต่เหยียบไม่ต้องมาเปลี่ยนเกียร์ รอรอบเครื่องยนต์อะไรทำให้มันได้ทั้ง แรง และ เงียบ ในทีเดียวกัน ซึ่งหลายๆคนอาจจะสงสัยกันว่ามันขึ้นเขาเป็นยังไง เดินทางไกลยังไงบ้างทางผมเลยขอมาทดสอบขับขึ้นเขาค้อ ภูทับเบิกว่ามันต้องชาร์จอะไรยังไงกี่ครั้งบ้าง ค่าใช้จ่ายเท่าไร ชาร์จนานไหม และ แนะนำสถานที่ชาร์ตต่างๆครับ ซึ่งบอกเลยว่าคลิปอาจจะยาวนิดหน่อย แต่เป็นข้อมูลกันครับ และ เท่าที่ลองขับแน่นอนว่าตัวนี้ มอเตอร์เดียวแรงกำลังดีพอใช้งานในถนนเมืองไทย และ สามารถขับได้จริงๆ 350-400 กม ต่อการชาร์จ และ ช่วงล่างแบบ Adaptive แข็งอ่อนตามการขับขี่ทำให้ใช้งานถนนได้นุ่มและหนึบไม่ได้ย้วยแบบที่คิดในความเร็งสูง แต่ถ้าถามว่าหนึบแบบพวก M Sport แบบนั้นไหมก็ยังคงไมถึงขนาดนั้นแต่ไม่ได้โยนเยอะมากครับ จุดนี้รับได้และใช้งานได้สบายกับความเร็ว 180 สุงสุดช่วงล่างถือว่าพอแล้ว และ อัตราเร่ง การขับขี้ส่วนตัวประทับใจและทำได้ดีมากๆอยู่แล้วครับ เวลาเร่งแซง ออกตัว รถไฟฟ้าทำได้ดี รวมถึงขึ้นเขา และ ลงเขาก็สามารถเจนพลังงานได้ดี
BMW iX3 M SPORT
” BMW รถยนต์ไฟฟ้า 100% ลงตัวในการใช้งาน นั่งสบาย ออฟชันครบ อัตราเร่งสบาย “
ถ้าหากมองตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายุโรปนั้นมีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้นและ BMW เข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีเพราะถ้ามองรถครอบครัวขนาดกลางจะมีแค่ IX3 คันนี้ที่อยู่ในระดับราคาที่จับต้องได้ไม่แพงและได้ขนาดกำลังดี ขนของไปเที่ยวต่างๆเพราะ XC40 นั้นจะอยู่ในระดับที่เล็กกว่า และ IX ETRON SUV ก็จะอยู่ในระดับที่ใหญ่กว่าชัดเจนครับทำให้จุดนี้แหละมันตอบโจทย์ในระดับราคา 3 ล้านกว่าบาทได้ดี และ คุ้มค่า ประหยัดกว่า X3 ปกติชัดเจนเลยทีเดียวทั้งเรื่องของค่าบำรุงรักษา การใช้งาน เดินทาง และ ไม่มีบรรดาน้ำมันเครื่อง หรือ ห่วงกับบรรดาน้ำมันรถที่แพงขึ้นเรื่อยๆด้วยเช่นกัน อีกทั้งที่ชาร์จในไทยก็พัฒนาขึ้น เยอะขึ้นรองรับได้ดีขึ้นจนเดินทางไกลได้บ้างจนไม่มีปัญหาอะไรแล้วเช่นกัน และยิ่งใช้งานในเมืองมันจะประหยัดแบบมากๆเลยทีเดียวถ้าชาร์จไฟบ้านหรือแม้แต่ชาร์จนอกสถานที่ด้วย ส่วนตัวมองว่า รถยนต์ไฟฟ้า มีอะไรหลายๆส่วนที่น่าใช้งาน และ เป็นอนาคตจริงๆของบรรดาตลาดรถยนต์ และ ในไทยก็เริ่มมีสถานที่ชาร์จไฟมากขึ้น และ สามารถรองรับได้ดีกว่ายุคก่อนๆเยอะมากจนหลายๆคนเริ่มใช้งานกันเยอะ
สำหรับรีวิวนี้เป็นการทำบทความเกี่ยวกับรถยนต์ หรือ สายยานยนต์ของเรา และถ้าหาก มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ มีข้อเสนอแนะ หรือข้อนำแนะอะไร ยังไงสามารถแจ้งเราได้เสมอเพื่อการปรับปรุงที่ดีขึ้นครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรถรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ จะพยายามจัดหามาให้อ่านกันเยอะๆ ขึ้นเรื่อยๆ ครับ … สำหรับ Techhangout Auto !
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget