BMW ในตระกูล X5 นั้นถือว่าเป็น SAV หรือ SUV ตัวแรกของค่ายพร้อมกับการลุยตลาดที่กล้าที่จะแหวกแนวออกมาจากค่ายที่เน้นเรื่องของการขับขี่ จากรถเก๋งนั้นเอง และเรียกได้ว่าเป็นแนวคิดที่ทำออกมาแล้วประสบความสำเร็จเลยทีเดียว เพราะเราจะได้ SUV ที่ขับสนุกไม่ต่างกับตัวอื่นๆในค่ายหรือว่ารถเก๋งในค่ายนี้เลยแม้แต่น้อยครับ ทางด้านตระกูล X นั้นในปัจจุบันต้องบอกว่ามีหลากหลายรุ่นเยอะแยะมากมายทั้ง รุ่นเริ่มต้น ไปจนถึงรุ่นเรือธงที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ออกมาตอบโจทย์กระแส SUV ในตลาดโลกที่มากขึ้นเรื่อยๆและแน่นอนว่า BMW X5 45E ตัวนี้ถือว่าเป็นรุ่นนึงที่น่าสนใจในการใช้งาน ทั้งการขับขี่ การนั่งความใหญ่ และยังคงมีความขับสนุกพร้อมกับ Plug-In Hybrid ครับทำให้มันมีความน่าสนใจมากขึ้น เข้ากับยุคสมัยที่เริ่มเข้าสู่รถยนต์ไฟฟ้าและใช้พลังงานส่วนนี้เข้ามาเรื่อยๆด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังคงใส่เทคโนโลยีการขับขี่ รวมถึงการใช้งานในตัวรถเข้ามาเยอะและน่าสนใจอย่างมากในรุ่นนี้ เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ SUV ที่น่าสนใจมากๆในตลาดตอนนี้ และแน่นอนว่าอัตราเร่ง ไม่ธรรมดาแม้จะเป็นรถขนาดใหญ่แบบนี้
BMW X5 45E นั้นเป็นรุ่นที่ปรับอะไรหลายๆอย่างเพิ่มจากตัวก่อนหน้าในรหัส 40E แน่นอนว่าลงตัวและจัดเต็มขึ้นเยอะมากๆ เรียกได้ว่าเป็นโมเดลใหม่หมดทั้งคัน เครื่องยนต์ใหญ่ขึ้น แบตใหญ่ขึ้น พัฒนาขึ้นทุกอย่างสมกับการเปลี่ยนโมเดลใหม่ด้วยเช่นกันครับ แน่นอนว่าตัวนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง 3.0 Twin Power Turbo พละกำลังสูงสุด 286 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร และ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive และที่สำคัญนั้นมาพร้อมกับแบตขนาดใหญ่ที่ 24 kWh ทำให้วิ่งได้แบตเพียวๆที่ 80 กิโลเมตรเลยทีเดียวครับ และ เมื่อทำงานร่วมกับเครื่องจะได้ จะให้พละกำลังสูงสุด 394 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร เลยทีเดียวครับ และทำให้อัตราเร่งนั้นไม่ธรรมดา 0-100 แค่ 6 วิประมาณ และเร่งแซงได้โหดมากๆครับในช่วง 80-120 ถือว่าเอาเรื่อง และการใช้งานไฟฟ้าทำให้ส่งผลเรื่องการประหยัดน้ำมันด้วยเช่นกัน อีกทั้งในรุ่นนี้เป็นการตกแต่งแบบ M-Sport ทำให้ตัวรถมีออฟชั่นการตกแต่งอะไรจัดเต็มรอบคันที่ใส่เข้ามา รวมถึงภายในที่ระบบเสียง Harman Kardon , BMW Gesture Control , BMW Live Cockpit Professional , กล้องรอบคัน , ระบบเตือนมุมบอด และ ออกนอกเลนพร้อมดึงกลับ , หลังคา Panoramic และ งานออกแบบภายในตามยุคสมัยที่มาพร้อมกับแสงสี Ambient Light สวยงามครับ อีกทั้งยังได้ กุญแจล้ำๆ Display Key และ ที่รองรับการชาร์จไร้สายในรถครับ อีกทั้งพวงมาลัยและชุดแต่ง M Sport รอบคันทั้งหมดครับ พร้อมกับไฟหน้า Adaptive LED แต่น่าเสียดายว่าไม่ใช่ Laser Light และ ดวงไฟข้างในนั้นเป็นตัวออกแบบหลอกไว้เฉยๆจะทำงานแค่ไฟโคมนอกครับ เลยเป็น DRL แบบไม่เต็มทรง ส่วน Adaptive Cruise นั้นไม่ได้ใส่เข้ามาให้
BMW X5 xDrive45e M Sport 4,999,000 บาท และยังคง มาพร้อม BSI Standard รับประกันตัวรถ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ฟรีค่าบำรุงรักษา BSI นาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร แต่ก็สามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้ครับ
EXTERIOR
งานออกแบบภายนอกนั้นจะเห็นว่าตัวรถมีงานออกแบบที่อิงสมัยนิยมมากขึ้นในกระจังหน้าขนาดใหญ่กว่าเดิมพร้อมกับรูปทรงใหม่ทั้งหมด อีกทั้งงานออกแบบตัวรถมีความใหญ่ขึ้นทุกสัดส่วนของตัวรถเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าครับ แต่การออกแบบส่วน Overhang ในด้านหน้าแบบสั้นทำให้ตัวรถมันดูกระชับมากขึ้นถือว่าเป็นจุดดีของการออกแบบแนวนี้ ตัวรถนั้นมีขนาดความยาว 4,922 x กว้าง 2,004 x สูง 1,745 มิลลิเมตร และ ระยะฐานล้อ 2,975 มิลลิเมตร ถือว่าขนาดใหญ่พอสมควรครับสำหรับรถยนต์ไซส์นี้ ส่วนเส้นสายภายนอกจะมีความดุดัน แต่เสริมความโค้งมนมากขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว เรียกได้ว่าไม่ได้แข็งแบบรุ่นที่แล้วและตกแต่ง M Sport สวยงามสปอร์ตขึ้น
งานออกแบบภาพรวมทั้งคันส่วนตัวต้องบอกว่าสวยและลงตัว ส่วนตัวเมื่อเห็นบนท้องถนนนั้นถือว่ามีความเป็น BMW มากๆทั้งคัน ค่ายนี้จะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบเยอะมากนักในแต่ละรุ่นแต่จะเป็นการพัฒนาให้ลงตัวขึ้นเรื่อยๆซะมากกว่า ในด้านหน้าเราจะเห็นกระจังหน้าขนาดใหญ่ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นขนาดที่ลงตัวที่สุดในทุกรุ่นของค่ายนี้แล้วครับ ไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป พร้อมกับไปหน้าแนวยาวสวยงาม ส่วนด้านหลังนั้นไฟท้ายเปลี่ยนใหม่ทำให้เป็นแนวยาว เรียวๆดูสปอร์ตมากขึ้นและมีความเป็นสมัยใหม่มากขึ้นไม่แข็งเกินไปแบบรุ่นก่อน อีกทั้งท่อไอเสียขนาดใหญ่ทำให้ตัวรถดูลงตัวมากไปกว่าเดิมครับ ส่วนด้านข้างจะเห็นว่าส่วนหน้ารถสั้นมากๆทำให้การลุยหรือว่าเจอเนินก็ทำให้ขึ้นลงได้ง่าย พร้อมกับ ตัวรถดูไม่ยาวหรือเกะกะเกินไปครับ แม้จะใหญ่ขึ้นแต่มองภาพรวมดูกระชับดูทะมัดทะแมงขึ้น
ท้ายรถเมื่อมองตรงๆนั้นจะเห็นว่าสัดส่วนไฟท้ายการที่ปรับมาให้เป็นแนวยาวแบบนี้ตัวรถจะไม่ได้ดูสูงหรืออ้วนมากไปนัก แต่ด้วยสัดส่วนของตัวรถจริงๆก็มีความใหญ่อยู่เช่นเดิมพร้อมกับไฟ LED ทั้งหมดในส่วนไฟเลี้ยว ไฟเบรก และไฟถอย ในด้านหลังนั้นส่วนล่างจะเป็นท่อไอเสียขนาดใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมซึ่งเป็นท่อจริงข้างใน แต่ปลายท่อจะไม่ได้เชื่อมติดครับ แต่ออกจริงทั้งคู่ ทำให้ดูดุดันและขนาดใหญ่พอดีกับตัวรถได้ดี แต่เนื่องจากคันนี้เป็นสีดำทำให้เราไม่เห็นส่วนการตกแต่ง m-sport ของตัวรถทั้ง ทริมสีดำ ชายล่างสีเทาเข้ม หรือแม้แต่ด้านหน้า ที่เล่นสีดำเท่าไรนักครับ ซึ่งถ้าเป็นรถสีขาวจะเสริมสีดำตามช่องดักลม ชายล่างให้เด่นขึ้นกว่านี้นะ และฝาท้ายยังคงแยก 2 ส่วน บนล่างเช่นเดิมครับ ในด้านหน้ากระจังหน้าขนาดใหญ่ ทริมเงาสวยงามพร้อมกับ ไฟหน้า พร้อมไฟตัดหมอก LED และช่องดักลม ตรงกลาง และ ข้างสีดำสวยงาม แต่เนื่องจากรถเป็นสีดำเลยอาจจะไม่ได้แตกต่างกันมากนักครับ พร้อมกับเส้นสายบนฝากระโปรงเสริม ให้ตัวรถดูดุดันมากขึ้นดูแข็งแกร่งมากขึ้นถือว่าภาพรวมตัวรถทำออกมาได้ลงตัวมากขึ้นเยอะครับ
กระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมกับกล้องในด้านหน้าซ่อนออกมาได้อย่างลงตัวรวมถึงเมื่อมองไปด้านในจะมีระบบปิดช่องลมเพื่อส่งผลเรื่องการไหลเวียนอากาศเวลาขับรถในบางครั้ง และ ส่งผลในเรื่องของการเก็บความร้อนในเมืองหนาวด้วยเวลาจอดหรือ อุ่นเครื่องครับ ส่วนช่องดักลมข้างๆเป็นช่องจริงขนาดใหญ่ใช้งานได้จริงรวมถึงมีไฟตัดหมอก LED ใส่เข้ามาให้ครับ ถือว่าสวย และเป็นสีดำทั้งหมดไม่ว่าตัวรถจะสีอะไรนะครับ ทำให้ดูดุดันกว่าเดิมเยอะมาก ส่วนไฟหน้านั้นเป็นจุดที่แอบเสียดายแน่นอนว่าไม่ได้ใช้งานไฟแบบรุ่นเมืองนอกที่เป็น Laser Light ครับจึงได้เป็นไฟ Adaptive LED เท่านั้นพร้อมกับไฟ DRL ขอบตาล่าง และไฟเลี้ยว LED ส่วนไฟหลักจะติดแค่ข้างนอกนะครับ ส่วนโคมข้างในสุดในภาพนั้นเป็นแค่งานออกแบบหลอกไว้เท่านั้นไม่ได้ใช้งานเป็นไฟจริงๆเลยเมื่อเปิดเต็มที่จะได้แค่นี้
ในด้านข้างยังคงมีสัญลักษณ์ M Sport เข้ามาให้เช่นเดิมแต่ในฝั่งขวานั้นจะเป็นที่ชาร์จไฟเข้าตัวรถเปิดปิดได้เป็นแบบกดครับหัวชาร์จเป็นแบบ type 2 รองรับการชาร์จไฟมาตรฐาน เป็นหัวที่ใช้งานได้ง่ายและแพร่หลาย โดยชาร์จได้สูงสุด กำลังชาร์จ 3.7kW ชาร์จได้เต็มจาก 0% ภายใน 6.35 ชั่วโมง และ สามารถปรับตั้งค่าไฟได้ในตัวรถสูงสุด 16A ครับ ถือว่ากำลังดีเมื่อเทียบกับตัวแบตขนาดใหญ่แบบนี้ครับ ส่วนไฟเลี้ยวพร้อมกล้องรอบคันก็ใส่เข้ามาในตรงกระจกหูช้างครับพร้อมกับแจ้งเตือน Blind spot จะสั่นที่พวงมาลัยมาให้พร้อมกับไฟแจ้งเตือนเสริมมาครับ ส่วนช่องระบายอากาศที่เห็นในด้านข้างนั้นจะเป็นช่องเพื่อการตกแต่งเท่านั้นไม่ได้ใช้งานได้จริงไม่ได้ทะลุออกมาครับ
ล้อขนาดใหญ่ลวดลายสวยงามตัวนี้ถือว่าสวยและลงตัว มาพร้อมกับ ล้ออัลลอย M ขนาด 21 นิ้ว ลาย Y-Spoke แบบสลับสีเงินและดำโดยในขนาดล้อตัวหลังจะกว้างกว่าเล็กน้อยครับ ใช้งานยาง Runflat คู่หน้า ขนาด 275/40 R21 และในคู่หลัง 315/35 R21 จะเป็นขนาดเดียวกันแต่กว้างและขอบยางต่างกันนิดหน่อยครับในเรื่องนี้ พร้อมกับคาลิปเปอร์เบรกสีน้ำเงินเด่นสวยงามพร้อมกับ M ใส่เข้ามาให้ ถือว่าเป็น SUV ที่ล้อใหญ่มากๆตัวนึงและสวยงามมากครับ ในด้านหลังนั้นท่อไอเสียนั้นจะเห็นเลยว่าปลายท่อ ออกจริงขนาดใหญ่ แต่จะไม่ได้เชื่อมติดกับท่อจริงนะครับแต่ก็ดีกว่าท่อหลอกในหลายๆค่ายที่ชอบใส่เข้ามา จุดนี้ถือว่ารับได้ พร้อมกับการตกแต่งสีเทาเข้มในส่วนชายล่างแน่นอนว่าไฟท้ายเมื่อมองดีๆนั้นเราจะเห็นว่าเส้นสายสวย สว่าง และไฟ LED ทั้งหมดพร้อมกับไฟตัดหมอกส่วนล่าง แค่ข้างขวานะครับ เป็นปกติของบรรดาไฟตัดหมอกค่ายยุโรป ส่วนไฟเลี้ยวก็ไม่ได้ใช้งานไฟเลี้ยววิ่งอะไรในตัวนี้ครับ
หลังคากระจกได้ใส่เข้ามาให้เต็มๆและบอกเลยว่ามีขนาดใหญ่มากๆคันนึงครับแน่นอนว่าเหมาะสมกับรถยนต์ขนาดใหญ่ SUV แบบนี้ทางด้านกระจกสามารถเปิดออกมาได้ในส่วนหน้าเท่านั้นเป็นมาตรฐานครับพร้อมกับตัวกันลมฝุ่นเล็กๆเข้ามาให้ปกติในด้านหน้าพื้นที่การเปิดนั้นกว้างขวางระดับนึง แต่ก็ไม่ได้สุดไปด้านหลังเพราะว่าด้วยพื้นที่และระบบที่ต้องมีกระจกด้านหลังด้วยนั้นเอง สามารถเปิดยกระดับ และเปิดระบายอากาศได้ด้วยเช่นเดียวกันในหลังคาตัวนี้ครับ
เนื่องจาก X5 45e ตัวนี้จะใช้งานช่วงล่างแบบถุงลมทำให้สามารถปรับระดับความสูงต่ำเวลาจะใช้ความเร็วสูง หรือว่าจะเวลาลุยก็ได้ครับทางเราเลยขอไปลุยนิดๆเทียบกันนิดนึงเมื่อปรับสูงที่สุดในด้านซ้าย และต่ำที่สุดในด้านขวาก็ถือว่าต่างกันแบบรู้สึกได้เลย และส่งผลเวลาจะลงเนินหรือว่าลงถนนดินพวกนี้ปลอดภัยขึ้นเยอะมากๆในระยะนี้ครับ
อีกจุดเด่นเมื่อปลดล็อกรถนั้นคือไฟส่องสว่างนำทาง angel wing bmw ที่จะทำให้เห็นสภาพพื้นก่อนขึ้นตัวรถแถมยังได้ความสวยงามและโดดเด่นมากขึ้น ตัวไฟสว่างและแรงมากยิงจากข้างนอกรถส่วนชายล่างของตัวรถไปเลยนั้นเองเส้นสายคม และสว่างไปถึงท้ายรถได้เลยครับเมื่อกดปลดล็อกก็จะติดทันทีทำให้มีความสวยคล้ายกับปีกและสว่างมาก
ยามค่ำคืนเมื่อปลดล็อกแล้วนั้นตัวไฟหน้าจะติด ไฟท้ายจะติดรวมถึงไฟปีกทั้ง 2 ข้าง และแน่นอนว่ามีไปยิงตรงมือขับประตูเพื่อความปลอดภัยเสริมเข้ามาให้ด้วย เวลาใช้งานปลดล็อกที่มืดมากๆนั้นจะทำให้เห็นอะไรได้ชัดเจนมากขึ้น
ไฟหน้าไฟท้ายเมื่อเปิดใช้งานเต็มอัตราทั้งหมด ไฟท้ายสว่างคม เข้มสวยงามพร้อมกับไฟตัดหมอกด้านขวาเสริมเข้ามาให้ รวมถึงไฟเบรกดวงที่ 3 จัดเสริมมาให้ด้านบนสุดครับ พร้อมกับไฟถอยยิงลงข้างล่างเน้นความสว่างลงพื้นให้ชัดเจนขึ้น เรียกได้ว่าเมื่อเปิดไฟยามค่ำคืนตัวไฟท้ายแอบสวยขึ้นเยอะครับ ส่วนไฟหน้านั้นเป็นไฟ Adaptive แน่นอนว่า LED ทั้งโคม แต่ส่วนไฟโคมในสุดไม่ได้มีโคมจริงๆไม่ได้มีหลอดไฟมาให้นะครับเป็นตัวไฟหลอกเฉยๆในส่วนนี้
INTERIOR
ภายในการนั่งการขับขี่ตัวนี้ไม่ธรรมดายังคงมีความเป็น SUV ขนาดใหญ่ที่นั่งสบาย มุมมองโปร่งโล่งและวัสดุงานประกอบเนียนมือเวลาสัมผัส ทุกส่วนนั้นบุนุ่มไปทั้งหมดพร้อมกับโทนสีเบาะที่สวยมากๆคันนึงเลยทีเดียว แต่งานออกแบบใน่สวนกลางหน้าจอ ช่องแอร์ต่างๆนั้นต้องบอกว่าค่ายนี้ ภายในยังดูตามค่ายอื่นไม่ทันเท่าไรทั้งเรื่องของแสงสี เส้นสายหรือว่าแปลกใหม่ ค่าย BMW ยังคงอิงแนวทางเดิมเอกลักษณ์เดิมทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องปรับตัวจากรุ่นก่อนเยอะ แต่ก็เป็นข้อเสียที่งานออกแบบยังคงต้องยึดติดกับอะไรเดิมๆไปมากเกินไปไม่เปลี่ยนแบบชัดเจนเท่าที่ควรนั้นเอง
ก่อนจะไปภายในอยากให้มาส่องตัวกุญแจกันก่อนครับ กุญแจคันนี้เป็น BMW Display Key ที่มีขนาดใหญ่มากๆพร้อมกับหน้าจอในตัวที่คล้ายกับเราถือ สมาร์ตโฟนใช้งานเลยทีเดียวแน่นอนว่ามีความเท่มากๆตัวนึง และกุญแจ BMW ก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และในรุ่นอื่นๆล่าสุดใช้ iPhone แทนกุญแจได้ด้วยครับล้ำอย่างมากเลยทีเดียว แน่นอนว่าการที่มีหน้าจอนั้นการชาร์จไฟเข้าจะเป็นชาร์จไร้สายในตัวรถ กับ เสียบ Micro-USB เข้าตัวกุญแจครับ แต่จริงๆแบตก็อึดสบายๆหลายวันได้ไม่ต้องห่วงอะไรครับ อยู่บนรถก็วางชาร์จไฟได้เลยง่ายๆ การทำงานนั้นแน่นอนว่านอกจากปุ่มที่ปรับแต่งได้นั้น ยังมีหน้าจอที่สามารถ สั่งงานปรับความสูง ต่ำ เปิดแอร์ในรถก่อนจะเข้ารถได้ หรือจะเป็นเช็กสถานะตัวรถทั้ง สถานะประตู ซันรูฟ การเปิดไฟ สถานะการชาร์จไฟ และ ระยะทางการขับขี่ทั้งหมด ถือว่าล้ำมากๆครับ และเมื่อเสียบชาร์จไฟก็จะบอกระยะเวลาที่ไฟจะเต็มด้วยเช่นกัน แต่นอกเหนือจากกุญแจ ถ้าใช้งานผ่าน BMW แอปในตัวมือถือของเราจะสั่งงานได้หลากหลายกว่านี้ ทั้งเปิดกระจก ดูกล้องรอบคันเวลาจอดได้ และปลดล็อกได้ด้วย
BMW GESTURE CONTROL นั้นเป็นฟีเจอร์ที่ล้ำมากๆคันนึงในตลาดรถยนต์ตอนนี้ครับ มันคือการควบคุมผ่านท่าทางบนอากาศ โดยที่เราไม่ต้องเอามือไปแตะหน้าจอเลยแม้แต่น้อย หลักการคล้ายๆกับพวก IR บนมือถือ HUAWEI ที่จะยิง IR 3D เข้ามาและจับท่าทางการใช้งานครับบอกเลยว่าทันสมัยจริงๆ และใช้งานได้ง่ายมากๆ สามารถเปลี่ยนเพลง เพิ่ม / ลด เสียง รวมถึง การหมุนกล้องรอบคันได้โดยเป็นท่าทางได้ทั้งหมดครับ เช่นในภาพข้างบนนั้นจะเป็นการเพิ่ม / ลด เสียง โดยทำนิ้วชี้ และควงเป็นวงกลม หรือจะ Mute เสียงโดยทำชี้ 2 นิ้ว และ การเปลี่ยนแปลงไป ซ้าย และ ขวา นั้นทำท่าทางนิ้วโป้งชี้ไปด้านขวา หรือ ซ้าย ได้ง่ายๆเลยสะดวกมากๆเลยทีเดียวครับ
พื้นที่การนั่งในห้องโดยสาร และความโปร่งของตัวรถต่างๆจะเห็นว่าหลังคากระจกนั้นเยอะ และยาวมากๆเลยทีเดียวส่งผลทำให้ตัวรถนั้นดูโปร่งโล่ง กว้างไม่อึดอัดครับ มุมมองจากคนนั่งแถว 2 ก็โปร่งโล่งอีกทั้ง ยังมีม่านบังแดดด้านข้าง พร้อมกับ แอร์ในส่วนตอนหลังมาให้ครบ ตัวเบาะสีน้ำตาลสวยงาม เข้มและดูหรูหรากำลังดี ส่วนพื้นที่ภายในส่วนหน้านั้นจะเห็นว่ามีความคล้ายกับรุ่นอื่นๆแบบชัดเจนในค่ายนี้ ช่องแอร์กลางพร้อมกับ ตัวควบคุมอุณหภูมิ พร้อมกับหน้าจอยาว และ ส่วนเกียร์รวมถึงที่วางแก้วน้ำ ที่ปรับความร้อน เย็นได้ในตัวครับ แต่พวงมาลัยยังเป็นแบบไม่ปาดขอบ
เมื่อมาดูดีเทลในส่วนกลางนั้นต้องบอกว่าพวกชิ้นงาน วัสดุงานต่างๆหรือแม้แต่ลวดลายของเส้นสายพื้นผิวค่าย BMW ทำออกมาได้เนียน คุณภาพดีมากๆครับแต่เรื่องของงานออกแบบหรือการใช้งานมันไม่ได้หวือหวาเท่าไรนักยิ่งไปเทียบกับค่ายอื่นๆใน ยุโรปด้วยกันดีไซน์มันไม่ได้หนีจากรุ่นก่อนๆเท่าไรยังคงมีความยึดติดเดิมๆอยู่นั้นเองครับ ช่องแอร์มาพร้อมปุ่มควบคุม ระบบ Active Safety และ หน้าจอบอก อุณหภูมิทั้ง 2 ข้าง และปุ่มควบคุมเล็กๆใต้ช่องแอร์ซึ่งส่วนนี้แอบใช้งานยากไปนิด น่าจะเป็นหน้าจอหรือระบบสัมผัสก็น่าจะลงตัวขึ้น และยังคงมีตัวเลข 1-8 แบบระบบสัมผัสใช้งาน และปุ่มควบคุม Media ซึ่งต้องบอกว่างานออกแบบปุ่มตรงนี้แอบดูย้อนยุคและเก่าไปนิดหน่อยเมื่อเทียบกับสมัยนี้ที่เราจะไม่เห็นตัวเลขแบบนี้ในบรรดารถยนต์รุ่นใหม่ๆเท่าไรนัก ส่วนหน้าจอกลางขนาดใหญ่รองรับสัมผัส ใช้งานได้ง่าย เอียงเข้าหาคนขับนิดๆครับ ส่วนฐานเกียร์ด้านล่างเป็น I Drive รุ่นใหม่พร้อมรองรับการสั่งงานผ่านแป้นหมุนเช่นเดิม และ การควบคุมส่วนการยกระดับรถ ระบบขับขี่ต่างๆอยู่ข้างล่างทั้งหมด แต่แอบขัดใจทรงหัวเกียร์ไปนิดๆดูธรรมดามากเกินไปครับ แต่ใช้งานอะไรนั้นไม่มีปัญหาพร้อมกับ ที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่งปรับความเย็น ร้อนได้ รวมถึงชาร์จไร้สาย แบบ USB-A สำหรับการเสียบใช้งานระบบมือถือ ต่างๆรวมถึง Carplay แบบ ไร้สาย
พวงมาลัยนั้นยังคงเป็นแบบทรงกลมทั้งหมด ไม่ได้มีการปาดขอบอะไรนักแน่นอนว่าตัวนี้มี Welcome Seat ทำให้ขึ้นลงไม่มีปัญหาอยู่แล้ว และ SUV ค่ายนี้จะไม่เห็นการปาดขอบครับแม้แต่ตัว X5M ก็ตาม ซึ่งไม่เห็นเลยแม้กระทั่ง M3 M4 M8 ตัวแรงของค่าย ก็ต้องบอกว่ายึดมั่นแนวทางตัวเองได้ดีครับ ส่วนการใช้งานนั้นเป็นปุ่มธรรมดาใช้งานง่ายพร้อมกับ Paddle Shift ไว้เล่นในการขับขี่ขึ้นลงเขาต่างๆให้สนุกมากขึ้น ลำโพงมาพร้อมกับ Harman Kardon รอบคันเสียงแน่นใช้งานได้ดีครับ แต่ถ้าสุดกว่านี้จะเป็น B&O ตัวนั้นจะเทพกว่านี้ไปอีก พร้อมกระจกมองข้างขนาดใหญ่สะใจส่วน งานดีเทลต่างๆของตัวประตูขึ้นลวดลายเย็บตะเข็บงานดีมากๆพร้อมกับโทนสีต้องบอกว่าสวย
ตัวเบาะคู่หน้าในเรื่องของงานออกแบบนั้นดูดีสวยงามนั่งแล้วมีความกระชับและตัวเบาะนั่งสบายมาก จุดนี้ขอชมทางค่ายที่ทำออกแบบมาได้ดีครับอีกทั้งยังสมารถปรับบีบด้านข้างได้ หรือว่าจะเป็นดันหลังและยืดส่วนรองขาได้ด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากงานออกแบบแล้วนั้น สีของเบาะและรูปทรงในการใช้งานทำออกมารองรับการขับขี่ทางไกลได้ดีมาก พร้อมกับปรับไฟฟ้า และ Memmory มาให้ทั้ง 2 ข้างเลยทีเดียว พื้นที่การขึ้นลงง่ายและสะดวกครับ ชายขากางเกงไม่เลอะอีกทั้ง ยังหุ่มด้วยหนัง Vernesca มีความนุ่มกำลังดีและกระชับแต่ไม่ได้ย้วยมากจนเกินไปครับในเรื่องนี้
เบาะหลังนั้นถือว่าเป็นจุดที่ทำอออกมากว้างขวางและรองรับคนตัวใหญ่ได้สบายๆด้วยเช่นกันเหมาะสำหรับผู้บริหารต่างๆ ทั้งความนุ่ม การขึ้นลง หรือแม้แต่การเสริมช่องแอร์มาให้ทั้ง 2 ข้าง และตรงกลางอีกทั้งตัวเบาก็เอนกำลังดีแม้จะปรับไม่ได้แต่ก็นั่งได้สบาย พร้อมกับม่านบังแดดหลังทั้ง 2 ข้างครับ พื้นที่ Leg room Head room เหลือๆสบายสำหรับคนสูง 180 และมีที่วางแก้วน้ำ ที่วางแขนตรงกลางมาให้พร้อมใช้งานและปรับขนาดตัวที่วางได้ด้วยนั้นเอง
จะเห็นว่าหลังเบาะหน้านั้นจะเป็นที่ชาร์จ USB-C รองรับการชาร์จไฟเข้ามือถือแอบทำให้นึกถึงการนั่งบนเครื่องบิน แต่แค่นั้นยังคงไม่พอกับผู้บริหาร ตัวนี้จะมีช่องสำหรับต่ออุปกรณ์เสริมด้านข้างเป็นตัวล็อกสำหรับเสริม ตัวที่วางคอมพิวเตอร์ต่างๆทำให้จะมีเหมือนโต๊ะแยก ให้อารมณ์แบบเครื่องบินเป๊ะๆบอกเลยว่าคิดมาดีและให้มาทั้ง 2 ฝั่ง เป็นที่แขวนเสื้อ ที่แขวนของต่างๆ ได้ทั้งหมดครับหรือจะเสริมติดหน้าจอหลังก็ได้ด้วยเช่นกัน ส่วนแอร์หลังแยก 2 โซนซ้ายขวาครับ พร้อมกับที่เสียบจุดบุหรี่ และที่วางมือถือเล็กๆในส่วนล้างของตัวช่องแอร์ครับ รวมถึงมีที่วางแก้วน้ำที่ปรับระดับได้ว่าจะแก้วใหญ่หรือเล็ก และที่วางของส่วนที่วางแขนสามารถเปิดออกมาใช้งานได้ด้วยเช่นกันในส่วนนี้
ม่านบังแดดหลังใส่เข้ามาให้เป็นระบบมือปกติครับทั้ง 2 ฝั่งประตูพร้อมกับแอร์ตอนหลังที่เสากลางทำให้แต่ละฝั่งมีแอร์ 2 ส่วนรองรับกับสภาพอากาศเมืองไทยได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว และการใช้งานก็ตอบโจทย์ได้แอร์ยิงมาถึงครับ
ฝาท้ายการที่ค่ายนี้ออกแบบมาให้รองรับการเปิด 2 ส่วนแบบนี้แน่นอนว่าทำให้ตัวรถนั้นไม่ต้องใช้พื้นที่ในการเปิดฝาบนสูงมากนัก รวมถึงทำให้แยกส่วนเปิดได้ถ้าไม่ได้ใช้งานเยอะไม่ต้องกินพื้นที่มากครับ ส่วนล่างยังกางออกมาทำให้การยกของขึ้นลงได้ง่ายขึ้น คล้ายกับท้ายรถกระบะที่สามารถใส่ได้ง่ายขึ้นและสามารถเอาไปนั่งเวลาไปเที่ยวได้ดีมากพร้อมกับระบบไฟฟ้าทั้งหมด Kicks Sensor ต่างๆมาครบแถมยังปรับระดับความสูงของท้ายรถได้จากปุ่มครับ พร้อมกับม่านบังแดดหลัง และเบาะปรับได้ 3 ส่วนอิสระเป็นความจุห้องสัมภาระทั้งหมด 650 – 1,870 ลิตร (เมื่อพับเบาะ) นั้นเองแยกพับ 40:20:40 ครับและสามารถพับได้จากท้ายรถได้เลยมีปุ่มที่สามารถพับเบาะได้ด้วยเช่นกัน
ฝาท้ายจะเห็นว่าเป็นไฟฟ้าทั้งส่วนบนและล่าง และมีปุ่มกดที่จะทำให้ท้ายรถยนต์นั้นลงมาต่ำที่สุดด้วยเช่นกันครับสามารถกดให้ลงมาได้ด้วยถือว่าสะดวกมากๆเลยทีเดียว และเมื่อเปิดส่วนล่างออกมาไม่ได้มีล้ออะไหล่มาให้แต่ก็มีที่เก็บชุดอุปกรณ์ต่างๆพร้อมกับที่ชาร์จกับไฟบ้านเสริมเข้ามาให้ในส่วนนี้พร้อมกับฝาปิดมีโช๊คใส่เข้ามาให้พรีเมี่ยมมาก
แสงสียามค่ำคืนภายในจริงๆรุ่นนี้ปรับแสงสีได้เยอะกว่าเดิมแล้วนะ แต่ก็ยังน้อยไปเมื่อเทียบกับค่ายอื่นครับแสงสีไม่สามารถเลือกปรับโทนสีอะไรเองได้เลย จะปรับได้โทนหลักๆที่ให้มา 6 โทนสีแค่นั้นถือว่าน้อยที่สุดแล้วก็ว่าได้ถ้านับเทียบกับ BENZ – AUDI แต่ก็จะปรับได้มากกว่า VOLVO อยู่เยอะ ตัวนั้นจะแสงสีน้อยที่สุดเน้นสีขาวมากกว่าส่วนไฟตามปุ่มนั้นเป็นสีแดง และตัดขอบสีเส้นสายไฟสวยงามพร้อมไฟยิงสีๆจากหลังคาลงมาครับ ส่วนไฟห้องโดยสารเป็นสีขาวส้ม ไม่ได้ขาวซะทีเดียว ส่วนไฟขอบประตูมีตัว M มาให้ครบทั้ง 4 บานในด้านหน้าและด้านหลัง
ภายในห้องโดยสารนั้นจะเห็นว่าเส้นสายไฟ Ambient Light เยอะขึ้นจากเดิมแต่ถ้ามองเทียบกับรุ่นอื่นก็ถือว่าไม่หวือหวาเท่าไรนัก เป็นเส้น 2 ส่วนหลักๆ ให้มาทั้งหน้าและหลัง รวมถึงหลังเบาะคู่หน้าก็มีไฟเสริมเข้ามาเป็นเส้นๆครับสวยงามเลยแหละ รวมถึงไฟส่องเท้าให้มาทั้ง หน้าและหลังและขอบประตูด้วยเช่นกัน แสงสีไฟสวยงาม ไฟกระจกแต่งหน้าให้มาครบ พร้อมกับไฟหลักขนาดใหญ่สว่างชัดเจนครับโดยรวมสว่างสวย แต่อาจจะปรับแต่งได้ไม่มากนัก
หน้าปัดเรือนไมล์จริงๆในการใช้งานหน้าปัดแบบดิจิทัลนั้นขนาดใหญ่แบบนี้ แต่ค่ายนี้กลับปรับได้ค่อนข้างน้อยในเรื่องของหน้าตาหรือว่าสวยงามเป็นแค่การเปลี่ยนโทนสีเท่านั้น และหน้าจอหลักจะปรับได้ในส่วนด้านขวาเท่านั้น เลยแอบเสียดายในเรื่องของการแสดงข้อมูล การปรับแต่งจุดนี้ยังไม่เด่นสำหรับค่ายนี้ ในเรื่องหน้าตาการใช้งานต่างๆ แต่คุณภาพหน้าจอก็ถือว่าสวยคมสมราคา และเมื่อชาร์จไฟก็จะมี ระยะทาง ระยะเวลาที่จะเต็มขึ้นมาให้ตอนก่อนลงจากรถครับ ส่วนจอหลักนั้นแสดงผลได้ดีนะ กล้องรอบคัน พร้อมกับระบบจอดอัตโนมัติ และ ระบบถอยอัตโนมัติเวลาขับรถเข้าไปแล้วเจอทางตัน กลัวถอยไม่ถูก ก็สามารถกด Reversing Assistant ได้เลย รถจะถอยให้ตามระยะทางที่เข้ามาทันทีถือว่าล้ำเลยแหละจุดนี้ และ จะเห็นว่าใช้งานท่าทางจีบมือ เพื่อหมุนตัวรถได้ไม่ต้องสัมผัสหน้าจอเลยครับ
ENGINE
ทางด้านเครื่องยนต์แน่นอนว่าในรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ เบนซิน 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร 2,998 ซีซี. Twin Power Turbo พละกำลังสูงสุด 286 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 3,500 รอบ/นาที และจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive ส่วนทางด้านระบบไฟฟ้า มอเตอร์นั้นจะมาพร้อมกับ Synchronous Electric Motor ให้กำลังสูงสุด 113 แรงม้า ที่ 3,170 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 265 นิวตันเมตร ที่ 0-3,170 รอบ/นาที ทำให้เมื่อใช้งานร่วมกันตัวรถจะจะให้พละกำลังสูงสุด 394 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร และ แบตเตอรี่ Lithium-ion 24.0 kWh ระยะทางการขับขี่ได้ประมาณ 80 กิโลเมตรครับในสเปก แต่ที่ใช้งานจริงจะได้ 60 กิโลเมตรประมาณ ขึ้นอยู่กับการขับขี่ของแต่ละคนอีกที
ถือว่าเป็นเครื่องที่พละกำลังการขับขี่นั้นเหลือๆในการใช้งานจริง รวมถึงอัตราเร่ง นั้นไม่ธรรมดา และเสียงเครื่องยนต์บอกเลยว่าโหดเกินบอดี้ หน้าตาของตัวมันเยอะมากๆครับเวลาเร่งแซง เร้าใจและสนุกมากๆเลยทีเดียวเมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกันไฟฟ้า ทำให้เร่ง 0-100 แค่ 6.3 วินาทีเท่านั้น และ 80-120 แค่ 3.9 วินาทีบอกเลยว่าไม่ธรรมดากับรถยนต์พ่อบ้านสายซิ่งแบบนี้ รวมถึงการใช้งานไฟฟ้าทำให้มันเงียบถ้าขับในเมืองบอกเลยว่าเป็น SUV ที่ขับสนุกมากๆคันนึงในระบบ PHEV ตัวนี้ครับ และ โหมดการขับขี่นั้น มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 รูปแบบ ทั้ง SPORT , ELECTRIC , ADAPTIVE , BATTERY CONTROL สำหรับการดึงไฟฟ้าเข้าสู่แบต ขณะวิ่งนั้นเองครับในโหมดนี้ และ การใช้งานเกียร์ 8 จังหวะแบบ Steptronic ก็ทำออกมาได้เนียนและดีมากๆถือว่าพัฒนาและทำออกมาลงตัว
CONSUMPTION
แน่นอนว่าการใช้งาน PHEV นั้นตัวรถการที่เสริมแบตเข้ามาทำให้ในเรื่องของการประหยัดพลังงานนั้นดีขึ้นแน่นอน แต่เรื่องของพละการขับขี่ก็ส่งผลทำให้มันสนุกมากขึ้นด้วยเช่นกันครับ แต่หลักๆที่เน้นกันน่าจะเป็นเรื่องชองอัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้นหลายเท่าเลยทีเดียวเมื่อมีพลังงานไฟฟ้าอยู่ในรถและในแบตทำให้ เมื่อแบตหมดก็จะมีความแตกต่างกันแบบรู้สึกได้ทั้งเรื่องของ อัตราเร่ง และ การกินน้ำมันครับ ทางเราเลยทดสอบกันสำหรับเรื่องการกินน้ำมันในตอนที่มีแบต มีไฟเหลือ และ เมื่อไฟหมดนั้นจะมีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนครับ ซึ่งช่วงแรกจะทดสอบโดยการขับขี่ทั่วไป ในการใช้งานในเมือง ขับในเมืองไม่ไกลมากนัก เร่งแซงบ้างตามจังหวะ มีไฟเหลือๆบอกเลยว่าทั้งประหยัด และ ขับขี่สนุก สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองไปได้ที่ 20 กม/ ลิตร แต่ถ้าเมื่อไรเปิด Sport ขึ้นมานั้นทำให้ได้ประมาณ 13 กม/ลิตร แต่ถ้าไปต่างจังหวัด แล้วไม่มีแบตเหลือ อัตราสิ้นเปลืองของตัวรถจะไปอยู่ที่ 10.4 กม/ลิตร แบบเหยียบหนักๆอาจจะไปถึง 9 ได้ครับ ต้องบอกว่าแตกต่างกันแบบรู้สึกได้ครับ แต่ถ้าใช้งานในเมืองขับไปทำงาน ที่มีที่ชาร์จบอกเลยว่า น้ำมันแทบจะไม่ลดเลยในการใช้งาน 1 วันไปกลับครับซึ่งจุดนี้ PHEV จะมีประโยชน์ขึ้นมาทันทีเลยนั้นเอง
การที่ตัวรถมีการใช้งาน PHEV กับแบตขนาดใหญ่ที่ทำให้สามารถชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้ 80 กิโลเมตร บอกเลยว่าทำให้ตัวรถนั้นขับไปทางไกลได้โดยที่ไม่ได้ใช้งานน้ำมัน และทำให้มีพลังงานเหลือๆในการใช้งานหลายๆช่วงเลยทีเดียวครับ ในการชาร์จไฟเข้านั้นแน่นอนว่าค่าไฟนั้นแล้วแต่การชาร์จหรือว่าสถานที่ แต่ถ้าไฟบ้านนั้นอาจจะตกประมาณหน่วยละ 4 บาท แล้วแต่การใช้งานครับ แต่ถ้าไปที่ทำงาน หรือ ห้างก็จะช่วยในเรื่องค่าไฟได้เยอะมากเลยทีเดียว และเมื่อระบบไฟฟ้าทำงานร่วมกับน้ำมันก็จะสามารถทำให้ตัวรถประหยัดขึ้นไปหลายเท่า อัตราเร่งดีขึ้น จึงไม่แปลกที่ในยุคนี้หลายๆค่ายก็มีรถยนต์ที่ใช้ PHEV เสริมเข้ามาทุกตลาดรวมถึง BMW e-Drive เองก็ลุยเยอะขึ้นมากๆครับ
DRIVING
การขับขี่นั้นในเรื่องของอัตราเร่งไม่ธรรมดาอย่างที่เห็นแม้ตัวบอดี้จะมีความอ้วน ดูใหญ่แต่อัตราเร่งนั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว การขับขี่มันมีความเป็น BMW มากที่สุดแล้วในบรรดา X หลายๆรุ่นในตัวล่าง ทั้งความสนุกในการขับขี่ ช่วงล่าง ความหนึบเกาะถนนจนบางครั้งลืมไปเลยว่านี่เรากำลังนั่งอยู่บน SUV ขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องของอัตราเร่ง การควบคุมที่กระชับและแม่นจนบางทีแอบซิ่งไปเองโดยไม่ทันตั้งตัว บอกเลยว่าคนที่ชอบการขับขี่น่าจะชอบในคันนี้ครับ ตัวรถนั้นเหมือนจะทำออกมารองรับได้ทั้ง แนวขับนุ่มๆสบาย และ แนวพ่อบ้านขาซิ่ง แต่ข้างหลังยังคงนั่งสบายอยู่นั้นเอง สามารถทำความเร็วได้แบบมั่นใจ แต่ก็ยังนุ่มไม่แข็งกระด้างมากเกินไปในทางไกลความเร็วสูงครับ แต่อาจจะด้วยล้อขนาดใหญ่ 21 นิ้วทำให้อาจจะแต่งพวงมาลัยบ้างถ้าถนนไม่ดีนักครับ แต่บอกเลยว่ามันนิ่ง มั่นใจหนึบจริงๆ
ช่วงล่างของตัวรถเองนั้น จริงๆ BMW ขึ้นชื่อเรื่องของความหนึบอยู่แล้วแต่ก็ยั่งนั่งสบายซึ่งเท่าที่ทดสอบในตัวคู่แข่งก่อนหน้าจะเป็นทั้ง XC90 และ Q7 ตัวล่าสุดทั้งคู่นั้นเหมือนกับทาง BMW ออกมาเติมเต็มระหว่าง 2 ตัวนี้ได้ดี ไม่ได้ย้วยมากเกินไปแบบ XC90 และไม่ได้แข็งมากเกินไปแบบ Q7 ครับทำให้มันตอบโจทย์ในการใช้งานได้ครอบคลุมมากกว่าทั้งนุ่มก็ได้ หรือ ขับทำความเร็วก็ดีด้วยเช่นกัน เหมาะสำหรับคนสูงอายุนั่งในด้านหลังได้แบบไม่มีเสียงบ่น แม้จะปรับ Sport ก็ตามครับอันนี้ พ่อแม่ที่บ้านชอบกันแน่นอนในช่วงล่างแบบนี้ รวมถึงคนขับก็มีความสุขได้ด้วยเช่นกัน
การเข้าโค้งต่างๆนั้นตัวรถสามารถเอาอยู่ได้สบายทดสอบโดยการขับขึ้นเขาใหญ่ในความเร็วระดับนึงไม่ได้เกินตามกำหนดเข้าโค้งเทโค้งในช่วงล่างแบบ Sport เอาอยู่ได้สบายมากๆไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องฝืนในการเข้าและเกร็งมากครับ ตัวเอาสามารถคุมในการเข้าโค้ง จิกโค้งได้ดีแม้จะเป็น SUV ตัวใหญ่ครับตัวรถไม่ได้โยนน่ากลัวอะไรหรือแม้จะปรับระดับความสูงกลางๆก็ตาม แน่นอนว่าการที่ใช้งานแบตขนาดใหญ่วางไว้ต่ำสุดทำให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำมากขึ้นด้วยและซับแรงพื้นถนนได้ดีในช่วงล่างแบบนี้ครับ ส่วนตัวถือว่าการเข้าโค้ง การเทโค้งเอาอยู่และหนึบไม่โยนน่ากลัวเลย
พวงมาลัยน้ำหนักดีคุมได้แม่นยำ ไม่เบาไม่หนักเกินไปในการขับขี่ขึ้นลงเขาหรือแม้แต่การขับในเมืองก็ตามเซ็ทออกมาได้ดีครับ ยิ่งในช่วงใช้งานพลังงานไฟฟ้ายิ่งตอบสนองได้เนียนและเบากำลังดีในการขับขี่ในเมืองเปลี่ยนเลนหรือมุดต่างๆ ส่วนเรื่องของการเก็บเสียงถือว่าดีมากทั้งเสียงจากถนน หรือแม้แต่เสียงจากลมในความเร็ว 120 แต่ถ้าเริ่มไป 150 อาจจะมีเสียงเข้ามาตามกระจกบ้าง ก็พอเข้าใจได้ว่ารถ SUV สูงๆมีเสียงเข้ามาได้ง่ายกว่ารถเก๋งเยอะอยู่แล้ว แต่ที่ชอบคือเสียงของเครื่องยนต์เข้ามาให้มีความเร้าใจมากขึ้นเวลาขับขี่ใช้งานเครื่องยนต์ล้วนๆตัวนี้ทำได้ดีมากครับ
BMW X5 45E M SPORT
” SAV ระบบ PHEV ที่ขับขี่สนุก ช่วงล่างเด่น ออฟชั่นครบ และ หน้าตาดี ดุดัน “
SAV ในชื่อที่ทางค่ายเรียกนั้นต้องบอกว่าสมกับชื่อที่ตั้งใจจริงๆ การขับขี่สนุก และ อัตราเร่ง ช่วงล่าง การควบคุมทุกอย่างมันสนุกเกินความเป็น SUV มากๆ รวมถึงออฟชั่นที่จัดเต็มที่สุดจริงๆทั้งเรื่องของการตกแต่ง ฟีเจอร์การใช้งาน หลังคากระจกหรือแม้แต่ระบบช่วยเหลือความปลอดภัยหลายๆอย่าง และได้งานออกแบบที่กระจังหน้าไม่ได้ใหญ่เกินไป ถือว่ากำลังลงตัว อีกทั้งการใช้งานตอบโจทย์สำหรับคนที่มีครอบครัว ชอบขับไปเที่ยวหรือแม้แต่ขับในเมืองก็มีระบบชาร์จไฟฟ้าเข้ามาให้ด้วย ทำให้เรื่องของการใช้พลังงาน อัตราสิ้นเปลืองถ้าขับไปในเมืองทำงานบอกเลยว่าประหยัดมากๆ ส่งผลทั้งเรื่องของอัตราเร่งที่สนุกสนานมากเลยทีเดียว อีกทั้งค่ายนี้ยังคงขึ้นชื่อ BSI ที่อุ่นใจเวลามีปัญหาได้และเป็นจุดที่หลายๆคนนั้นน่าจะเอามาตัดสินใจในการใช้งานรถยนต์คันนึงในระยะยาว ส่วนตัวถือว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าเล่น ถ้ามองภาพรวมทั้ง ราคา ออฟชั่น การขับขี่ และ ประกันในตัวรถ ไม่แปลกที่จะเห็นบนถนนค่อนข้างเยอะ และ หลากหลายมากขึ้น อีกทั้งระบบขับ 4 ก็ทำได้ดีในการขับขี่ขึ้นลงเขาทางไกลต่างๆมีความมั่นใจขึ้น
สำหรับรีวิวนี้เป็นการทำบทความเกี่ยวกับรถยนต์ หรือ สายยานยนต์ของเรา และถ้าหาก มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ มีข้อเสนอแนะ หรือข้อนำแนะอะไร ยังไงสามารถแจ้งเราได้เสมอเพื่อการปรับปรุงที่ดีขึ้นครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรถรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ จะพยายามจัดหามาให้อ่านกันเยอะๆ ขึ้นเรื่อยๆ ครับ … สำหรับ Techhangout Auto !
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
By Nineztr