เมื่อไม่นานมานี้ GoPro ได้ทำการเปิดตัว GoPro Hero 10 Black รุ่นใหม่ ต่อยอดจากทาง GoPro 9 ซึ่งได้พัฒนาต่อยอดไปทั้งเรื่องของคุณภาพ การถ่ายภาพ วิดีโอ และตัวฟีเจอร์อีกทั้งยังใส่หน้าจออะไรเข้ามาปรับปรุงเยอะมาก และยังมีการออกฟีเจอร์ที่จะช่วยในการถ่ายวีดีโอให้สนุกมากกว่าเดิมและเอามาตัดต่อได้ง่ายและดูได้ง่ายขึ้น Gopro Hero 10 Black ยังเป็นกล้องแอคชั่นที่ถูกพัฒนาภายในมาใหม่ ในดีไซน์เดิม เหมือนรุ่นก่อนตัว Gopro Hero 9 Black แต่ความโดดเด่นในรุ่นใหม่นี้ จะเน้นตอบโจทย์คนที่ชอบกล้อง High Performance แต่ยังต้องการความเล็ก เบา พกพาสะดวก ทนทาน พอได้ชิปประมวลผลใหม่อย่าง GP2 ฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็ถูกอัปเกรดให้โหดมากกว่าเดิม ซึ่งถูกพัฒนาและออกแบบมาให้การประมวลผล การทัชสกรีน ลดอาการกระตุก หน่วง ไปได้เยอะมาก มีความเสถียรในการรับสัญญาณ และ ยังคงประหยัดพลังงานมากขึ้น
GoPro Hero 10 Black มาพร้อมความเร็วเต็มที่และความสะดวกขั้นสูงสุดใน GoPro ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์ GP2 ใหม่ บันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 5.3K/60fps, 4K/120fps และ 2.7K/240fps ดึงภาพนิ่งจากวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 19.6MP บันทึกภาพนิ่งที่ความละเอียด 23MP และปรับปรุงประสิทธิภาพถ่ายในที่แสงน้อย ระบบกันสั่นอันเหนือระดับรุ่นใหม่ HyperSmooth 4.0 ถ่ายภาพ HDR ในโหมด SuperPhoto ได้ ทัชสกรีนเร็วขึ้น หมดปัญหาการกระตุก พัฒนาฟีเจอร์ Horizon Lock ให้ฉลาดมากขึ้น และ ทำ Live streaming ได้เลยจากตัวกล้องได้ยาว ๆ เอากล้อง GoPro มาทำเป็นกล้อง Webcam ได้เลย
UNBOX
ครั้งนี้ทาง GoPro ต้องการลดจำนวนพลาสติกลง โดยกล่องบรรจุภัณฑ์ที่คราวนี้ไม่ใช่กล่องพลาสติกตามเดิม แต่กลายมาเป็นกระเป๋ากล้องที่สามารถนำมาใช้งานได้จริง
- ตัวกล้อง GoPro Hero 10 Black
- Mounting Buckle
- ฐานยึดเมาส์แบบโค้ง
- สายชาร์จ USB-C
- แบตเตอรี่
- หัวแปลงติดอุปกรณ์เสริม
- คู่มือ
DESIGN
GoPro Hero 10 เป็นกล้องที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจาก Hero 9 Black ความจริงไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ จะต่างกัน 2 จุดคือ สีโลโก้ และ ฝาปิดแบตเตอรี่แน่นกว่าเดิม ข้อดีคือกันน้ำได้ดีกว่าเดิม แต่แกะยากกว่าเดิมนิดหน่อย GoPro Hero 10 Black นั้นก็ยังคงเป็นกล้อง Action Camera เหมือนเดิม ตัวกล้องมีขนาด 7 x 3.2 x 4.7 เซนติเมตร มีน้ำหนักรวม 153 กรัม มีจอ LCD ด้านหน้าขนาด 1.4 นิ้ว สำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ และจอหลังทัชสกรีนขนาด 2.27 นิ้ว มี Folding Finger ติดไว้ใต้กล้องเหมือนกับ Hero 8 และ 9 Black หน้าเลนส์ของ GoPro Hero 10 Black นั้นยังทำออกมาให้ทนต่อการขีดข่วนและกันน้ำเข้าได้เป็นอย่างดี แถมยังถอดเปลี่ยนไปใช้หน้าเลนส์แบบอื่นก็ได้ด้วย ทำให้ประหยัดทรัพยากรตามที่ GoPro ตั้งไว้
หน้าจอไม่รองรับ Touch Screen สามารถเปลี่ยนการแสดงผลได้ แต่ที่ติดเป็นแบบ Hydrophobic ออกแบบมาเพื่อป้องกันน้ำเกาะหน้าเลนส์ มาพร้อมกับเลนส์ด้านหน้าที่มุมกว้างและสามารถถอดฝาเพี่อใส่ Mods Max ให้มุมมองกว้างมากขึ้น และด้านหน้าจะมีลำโพงตัวเครื่องและโลโก้ของ GoPro สีฟ้า
PRICE
GoPro Hero 10 Black นั้นราคาอยู่ที่ 16,500 บาท
SPEC
- จอ LCD ด้านหน้า 1.4 นิ้ว
- จอหลังทัชสกรีน 2.27 นิ้ว
- ความละเอียดกล้อง 23MP
- ถ่ายวิดีโอด้วยความละเอียดสูงถึง 5.3K /60Fps
- โปรเซสเซอร์ GP2
- ถ่าย Slow Motion ได้ถึง 4K /120FPS
- รองรับไฟล์ RAW
- กันน้ำลึกได้ถึง 10 เมตร
- โอนถ่ายและตัดต่อวีดีโอด้วยแอพพลิเคชั่น GoPro Quik
- ระบบ GPS ในตัว
- ระบบกันภาพสั่นไหว HyperSmooth 4.0
- TimeWarp 3.0
- โหมด Webcam และ Live Stream ความละเอียด 1080p
ระบบสั่งการด้วยเสียง - Super Photo ปรับการตั้งค่าให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมอัตโนมัติ
- HindSight บันทึกวิดีโอล่วงหน้าก่อนกดชัตเตอร์สูงสุด 30 วินาที
- Schedule Capture ตั้งเวลาถ่ายและปิดอัตโนมัติ
- เมาส์ Folding Fingers ติดกล้อง
- ขนาด 7 x 3.2 x 4.7 เซนติเมตร
- น้ำหนัก 153 กรัม
การสั่งงาน
ในเรื่องของการสั่งงานเจ้าตัว GoPro Hero 10 Black ยังคงใช้นิ้วปัดหน้าจอผ่าน Interface ที่ใช้ในตัว GoPro 9 เหมือนเดิมนอกจากนี้เราสามารถปรับแต่ง หน้าจอข้างนอกได้ทั้งหมด 4 แบบได้แก่ ปิดไปเลย, เปิดแค่ตัวเลขของภาพ , เปิดหน้าจอแสดงเต็ม และ เปิดหน้าจอแบบ 16:9 ได้
- ปัดซ้ายหรือขวา คือการเลือกโหมดการถ่ายภาพ
- ปัดบนลงล่างคือการตั้งค่าของกล้องที่ตั้งค่าได้หมดตั้งแต่คำสั่งเสียง, ปิดหน้าจอด้านหน้า กำหนด Grip เปลี่ยนเลนส์ Max เสียงปุ่ม และรวมถึงการเข้าไปตั้งค่า ภาษาและการเชื่อมต่อกับกล้องและมือถือ
- ปัดล่างขึ้นบน จะเป็นการดูผลงานที่เราถ่ายมาก่อนหน้านี้ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ภายในสามารถ Crop วิดีโอได้
ชิปตัวใหม่ GP2
โปรเซสเซอร์ใหม่ที่เร็วขึ้นใน GoPro Hero 10 Black ซึ่งถูกพัฒนาและออกแบบมาให้การประมวลผลที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ลดอาการกระตุกหรือเครื่องหน่วง ไปได้เยอะมาก ทำให้มีความเสถียรในการรับสัญญาณมากขึ้น การอัปเกรดตัวประมวลผลเป็น GP2 ทำให้ประสิทธิภาพหลายฟีเจอร์เพิ่มขึ้น 2 เท่า ทำให้ระบบของกล้องตอบสนองได้ไวขึ้นทั้งการถ่ายและการใช้งาน อัปเกรดการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดไปถึง 5.3K ที่ 60 fps
ถ่ายวิดีโอ 5.3K /60fps
รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงถึง 5.3K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที วิดีโอความละเอียด 4K ที่ 120 เฟรมต่อวินาที และวิดีโอ 2.7K ที่ 240 เฟรมต่อวินาที ความละเอียดเพิ่มเป็น 23 ล้านพิกเซล และถ่ายวิดีโอที่แสงน้อยดีกว่าเดิม และถ่าย Slowmotion ได้ Smooth กว่าเดิม ซึ่งเป็นข้อดีมาก ๆ สำหรับคนชอบถ่ายวิดีโอ เพราะ เราจะมีพื้นที่ในการครอปโดยสูญเสียรายละเอียดของวิดีน้อยลง ภาพก็จะคมชัด ให้ประสบการณ์รับชมกับผู้ชมได้ดีขึ้น
ระบบกันสั่น HYPERSMOOTH 4.0
ระบบกันสั่น HyperSmooth 4.0 ที่อัปเกรดรุ่นใหม่เข้าไป ทำให้ภาพที่ได้จากกล้อง GoPro Hero 10 Black มีความนิ่งลื่นไหลมากกว่ากล้องรุ่นเก่าๆ นอกจากจะนิ่งขึ้นแล้วถ้าใครได้ลองใช้ฟีเจอร์ Horizon leveling ในโกโปร 9 มาใน Hypersmooth 4.0 ช่วยเสริมประสิทธิภาพเพิ่มองศาของ Horizon leveling จาก 27 องศา เป็น 45 องศา ซึ่งจะช่วยลดการสั่นไหวให้คนชมวิดีโอ ไม่งงตาลายได้นั่นเอง
TIMEWARP 3.0
นั้นจะเป็นการถ่ายแบบเร่งความเร็ว รอบนี้ไม่ได้เพิ่มอะไรมามากมาย นอกจากการเพิ่มแท็กเสียงระหว่างถ่าย ซึ่งจะเป็น Timewarp แบบ 360 องศาข้อดีของมันคือสามารถเร่งความเร็วและหมุนไปรอบๆได้เลยทำให้เราได้มุมมองแปลกๆในการถ่ายและรองรับการ Reframe ได้ด้วยนั้นเอง ถือว่าค่อนข้างโหดมากๆเลยเพราะมันเปิดมุมมองใหม่ๆของตัวกล้องและสถานที่ที่เราไปได้ดีมากๆเลย
LIVESTREAM
การไลฟ์ในตัวกล้องโกโปรมีมาตั้งแต่รุ่น GoPro 9 แล้ว แต่ในรุ่นนี้ เราสามารถไลฟ์ไป และ ใช้ระบบไปด้วย ความคมชัดระดับ 1080p พร้อมรองรับระบบกันสั่น HyperSmooth 4.0 โหมด Webcam ความคมชัด 1080p
PHOTO
ในเรื่องของการถ่ายภาพนิ่งนั้นต้องบอกว่าในรุ่นนี้นั้นโหดมากทั้งในเรื่องของคุณภาพและฟีเจอร์ ทำได้ดีกว่าพอสมควรซึ่ง อัปเกรดความละเอียดจากเดิม 20 MP มาเป็น 23MP พร้อมโหมด SuperPhoto และ HDR เหมือนเดิม ตัวเลนส์กล้องให้มากว้างมากในการใช้งานทั่วไป
VIDEO
เจ้าตัวนี้สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 5.3K ได้ถึง 60FPS เฟรมต่อวินาที ซึ่ง GoPro HERO9 Black ถ่าย 5K ได้แค่ 30FPS ขึ้นมา 2 เท่า และยังให้ความละเอียดมากกว่าโหมด 1080p HD ถึง 665% แถมยังสามารถช่วยให้ถ่ายสโลว์โมชั่น 2X ได้ลื่นไหลมากกว่าเดิม และยังสามารถถ่ายสโลว์โมชั่น 4K ได้ที่ 120 เฟรมต่อวินาที และถ่ายวิดีโอ 2.7K ได้ที่ 240 เฟรมต่อวินาที ก็ขึ้นมา 2 เท่า
มีอัลกอริทึมสำหรับโหมดวิดีโอที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาขึ้นอีกด้วย เช่น Local Tone Mapping (LTM) และ 3D Noise reduction (3DNR) ที่จะช่วยให้ภาพที่ออกมาคมชัดแม้อยู่ในที่แสงน้อย นอกจากนี้ ยังสามารถดึงภาพนิ่งจากวิดีโอความละเอียด 5K ได้ความละเอียดสูงถึง 19.6 ล้านพิกเซล
GoPro Hero 10 Black
” ชิปตัวใหม่ เร็ว แรง พร้อมถ่ายวิดีโอ 5.3K /60fps ! ประสิทธิภาพที่พัฒนาดีขึ้นกว่าเดิมสองเท่า “
แน่นอนว่ารุ่นใหม่ก็ต้องมากับสเปกที่น่าซื้อกว่ารุ่นเก่า แม้ว่า GoPro Hero 10 Black จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาในเรื่องของดีไซน์ที่ยังคงคล้ายกับรุ่นก่อนหน้า แต่เป็น กล้องแอคชั่นที่ถูกพัฒนาภายในมาใหม่เกือบทั้งหมด แต่ยังคงความเล็ก เบา พกพาสะดวกสบาย แถมทนทานและกันน้ำได้ ซึ่ง Gopro 10 เหมาะมากกับคนที่ถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพ จุดเด่นหลักๆคือการทำงานที่ขึ้น และกันสั่นได้เยี่ยมขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพหลายฟีเจอร์เพิ่มขึ้น 2 เท่า เป็นการยกระดับคุณภาพของภาพและวิดีโอที่สูงกว่ากล้องรุ่นเดิมอย่างมาก
ข้อดี
- ความเร็วของชิปตัวใหม่ มีประสิทธิภาพมากกว่าตัวเก่าอย่างเห็นได้ชัด
- การกันสั่น HyperSmooth 4.0 มีความนิ่งมากขึ้น
ข้อสังเกต
- ดีไซน์เดิมไม่ต่างจากตัวเก่า
- แบตเตอรี่หมดไว
- ราคาสูงกว่าเดิม
