รีวิว HP PAVILION AERO 13 พร้อม RYZEN 5600U จอ 13.3 นิ้ว บอดี้บางเบาต่ำกว่า 1 กิโล !

HP ในตระกูล Pavilion นั้นแน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะรู้จักกันในสาย Gaming และ ใช้งานทั่วไป ซึ่งแน่นอนว่าชื่อซีรีส์นี้ จะมีการแยกย่อยไปอีกหลากหลายรุ่นครับ และในรุ่นที่เน้นความเบา และถือว่าเป็นโน้ตบุ๊กสำหรับผู้บริโภคที่เบาที่สุด ในตลาดของ HP ด้วยเช่นกันถือว่าไม่ธรรมดา และมาในชื่อรุ่น Pavilion Aero นั้นเอง ซึ่งตัวนี้ ไม่ธรรมดาทั้งเรื่องของ สเปก การใช้งานวัสดุ รวมถึงมีวัสดุอะลูมิเนียมแมกนีเซียม และ วัสดุชิ้นส่วนภายในต่างๆที่ล้วนใช้พลาสติกที่เป็นวัสดุที่รักษ์โลกเข้ามาเสริมในหลายๆส่วนข้างใน อีกทั้งมาพร้อมกับหน้าจอ 13.3 นิ้ว ซึ่งถือว่าเป็น เครื่องแรกของบริษัทที่มีอัตราส่วนภาพ 16:10 และความละเอียด 2.5k ความสว่าง 400 นิต และ sRGB 100%  ถือว่าอัดแน่นทั้งเรื่องของ คุณภาพ ค่าสี และ อัตราส่วนแบบใหม่ที่ทำให้ใช้งานได้เต็มที่มากขึ้นถ้ามองในแง่สายทำงานต่างๆ รวมถึง การใช้งาน AMD Ryzen 5 5600U ตัวล่าสุด ที่เปิดตัวในงาน CES 2021 ที่ใช้งานเทคโนโลยี Zen 3 พร้อม 6Core/ 12Thread  รวมถึงมีการ์ดจอ ออนบอร์ด Radeon RX Vega 7 จัดเต็มใช้งานเทคโนโลยีล่าสุด และเป็นการร่วมมือกับ AMD HP ที่น่าสนใจ และ ตัวเครื่องบางเบามากๆถือว่าเป็น Consumer Laptop ที่เบาที่สุดในตอนนี้เลยเช่นกัน และ ประสิทธิภาพของ RYZEN ตัวนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวครับ

HP Pavilion Aero 13 มาพร้อมกับ AMD Ryzen 5 เทคโนโลยี Zen 3 บน 7nm  ในรหัส Ryzen 5 5600U ใช้งาน 6Core/12Thread  Base Clock 2.30 GHz และ Boost Clock 4.20 GHz พร้อม Cache 19MB ส่วนทางด้าน การ์ดจอเป็นแบบ ออนบอร์ด Radeon RX Vega 7 เพียงพอต่อการใช้งาน ให้ RAM 8 GB DDR4 On Board 3200 MHz และ ทางด้าน SSD 512 GB SSD PCIe M.2 พร้อม กับการใช้งานหน้าจอ 13.3 นิ้วเครื่องแรกของบริษัทที่มีอัตราส่วนภาพ 16:10 และความละเอียด WUXGA 2.5k ความสว่าง 400 นิต และ sRGB 100%  แบบ IPS LCD และใช้งานหน้าจอแบบด้าน ส่วนทางด้านลำโพงเองนั้น ไม่ธรรมดาได้รับการพัฒนาเสียงร่วมกับ Bang&Olufsen เทพเรื่องเสียงค่ายนึงในตลาดลำโพง และ HP เองก็ร่วมกันมานานมากๆเช่นกันครับ และ ทางด้านวัสดุ เครื่องอะลูมิเนียมแมกนีเซียมเต็มรูปแบบเช่นกัน ทำให้เครื่องบาง และ เบาไม่ถึง 1 กิโลถือว่าเป็นรุ่นที่เบาที่สุดในตลาดตอนนี้ของค่ายเช่นกัน พร้อมกับอายุการใช้งานแบต สูงสุด 10.5 ชั่วโมง และ พอร์ตเชื่อมต่อที่ครบทั้ง USB-A และ USB-C รวมถึง HDMI ให้มาครบๆแม้จะเป็นรุ่นที่บางเบาแบบนี้ก็ตาม

HP Pavilion Aero 13 เปิดราคา 27,990 บาท ในสเปก Ryzen 5 5600U + RAM 8GB +SSD 512GB พร้อมหน้าจอ 13.3 นิ้ว 2.5K และ มาพร้อม ประกัน On Site 2 ปี และ Windows 10 Home

UNBOX

• ตัวเครื่อง  HP PAVILION AERO 13
• Adaptor ที่ชาร์จ 65W
• คู่มือการใช้งาน

DESIGN

งานออกแบบนั้นถือว่ายังคงมีความบาง เบา ตัวเครื่องวัสดุแมกนีเซียม อลูมิเนียมทั้งหมด และมีการใช้งานวัสดุ post-consumer recycled and ocean-bound plastics และใช้การพ่นสีแบบ water-based paint หรือ วัสดุที่ช่วยโลก และ รีไซเคิลเยอะมากๆทั้งวัสดุตัวเครื่อง และ หน้าจอเป็นพลาสติกที่ใช้งานรีไซเคิลและพัฒนาให้ทนทานขึ้นไปอีก ด้านในเป็นโครงสร้างอลูมิเนียมเช่นกันทำให้เรื่องของงานออกแบบ วัสดุนั้นไม่มีปัญหารวมถึงทำได้เบามากจริงๆไม่ถึง 1 กิโล ส่วนในแง่ของการออกแบบเองยังคงพัฒนากันมาต่อเนื่องทำให้เครื่องเล็กลง บางเบามากขึ้นในขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้วที่สัดส่วนเต็มตัวเครื่องมากขึ้น ในหน้าจออัตราส่วนแบบใหม่ 16:10 และขอบบางขึ้นกว่าเดิม ถือว่าเป็นตัวแรกของค่ายที่ทำหน้าจออัตราส่วนแบบนี้ในความละเอียด 2.5K และ ถือว่าเป็นรุ่นที่เบาที่สุดในบรรดาคอมพิวเตอร์ใช้งานทั่วไปของค่ายด้วยเช่นกันถือว่าไม่ธรรมดายังเป็น Notebook ที่เบาที่สุด และ สัดส่วนหน้าจอเยอะที่สุดในบรรดา HP Pavilion เลยทีเดียว 

เราจะเห็นว่าได้หน้าจอที่ขอบเต็มตัวเครื่อง และ บางทั้งด้านบน และด้านล่าง รวมถึงขอบข้างเพราะว่าอัตราส่วนแบบ 16:10 ทำให่มันได้เต็มตามากขึ้น ส่วนแป้นพิมพ์เองก็จะขยายไปจนสุดตัวเครื่องทำให้พื้นที่การใช้งานนั้นเต็มตัวเครื่องแต่มาใบขนาดเล็กลง ในบอดี้ 13.3 นิ้วเท่านั้นเรียกได้ว่าใช้งานเต็มที่มากขึ้น และบอดี้แบบเดียวกับทั้งตัวเครื่องสีเงินเดียวกัน ส่วนในด้านหลังเองนั้นยังคงเป็นโลโก้แบบที่คุ้นเคยกันและโดดเด่นตัดสีเงินโครเมี่ยม กับฝาหลังแบบด้านวัสดุพรีเมี่ยม และมีการออกแบบขอบขีดข้างบนเล็กๆใส่เข้ามาซึ่งเราจะเห็นประจำในค่ายนี้ ถือว่าเรียบๆไม่ได้มีสีสัน หรือ เส้นสายอะไรพิเศษครับ แต่สามารถถือเปิดมือเดียวและพกพาได้ง่ายน้ำหนักเบาไม่ถึง 1 กิโลแบบนี้ครับ

และข้อพับอะไรนั้นแข็งแรงพอสมควร และทำหน้าที่เป็นการยกตัวเครื่องขึ้นไปอีกด้วยเช่นกันทำให้องศาการพิมพ์ต่างๆนั้นดีมากขึ้นรวมถึงระบายความร้อนได้มากกว่าเดิม ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างชอบในค่ายไหนที่ใส่แบบนี้เข้ามาเช่นกัน และมียางรองอะไรเรียบร้อย ส่วนด้านหลังเราจะเห็นโลโก้ Pavilion ใส่เข้ามาเรียบๆหรูหรา และข้อพับด้านในก็เก็บงานอะไรได้เนียนตาและแข็งรง พร้อมกับ หน้าจอจะเป็นสีดำ และ บอดี้สีเงินแตกต่างกัน ตัดสีกันสวยลงตัวเลย

เนื่องจากโลโก้เองนั้นอยู่ด้านในและหน้าจอแบบ 16:10 ทำให้ขอบล่างนั้นบางมากกว่าเดิมและเต็มตามากกว่าเดิมชัดเจน ส่วนช่องระบายอากาศนั้นขอบเครื่องด้านหลังยิงมาตรงหน้าจอเช่นเดิมยาวๆเรียงกันไปครับ ส่วนการออกแบบแป้นพิมพ์บอกเลยว่าเต็มสัดส่วนตัวเครื่องแน่นๆ และใช้งานปุ่มสีเดียวกับตัวเครื่อง แต่ที่ไม่ชอบคือเรื่องของฟอนต์สีขาวทำให้มองได้ยากมากๆ แม้จะเปิด หรือ ปิดแสง เวลาใช้งานตามข้างนอกต้องปิดไฟและมองยากพอสมควรเลย แต่รุ่นนี้ถือว่า ใส่สแกนนิ้วเข้ามาให้ด้วยเช่นกัน รองรับความปลอดภัยที่มากขึ้นและทำงานร่วมกับ Windows Hello ได้

หน้าจอนั้นถือว่าเป็นอัตราส่วนที่น่าสนใจเป็นการปรับมาใช้งาน อัตราส่วน 16:10 เป็นตัวแรกๆของค่ายและทำให้ขอบทั้ง 4 มุมนั้นเต็มตามากกว่าเดิม ขอบล่างไม่หนาแบบรุ่นก่อนๆอีกทั้งยังคงใส่กล้องหน้า HD เข้ามาได้อยู่รวมถึงไมค์ และหน้าจอนั้นเป็นหน้าจอแบบด้าน 13.3 นิ้ว ค่าสีที่ตรงถือว่าเน้นใช้งานทำงานได้แบบไม่มีปัญหาทั้งค่าสีและขนาด และทำให้มันเป็นคอมพิวเตอร์พกพา ในตระกูล Pavilion ที่สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90% เยอะที่สุดของค่าย

ด้านหลังเองนั้นรุ่นนี้จะไม่สามารถแกะมาอัปเกรดอะไรได้ เพราะว่าไม่มีน็อตหรือตัวอะไรมาให้เราแกะได้เอง จึงต้องเป็นทาง HP เท่านั้นครับงานออกแบบเรียบๆ เหลี่ยมๆสวยงามและโดดเด่นบอดี้สีเงินเดียวกันทั้งเครื่องพร้อมกับลำโพง หลังซ้าย ขวา ในด้านหน้ายิงลงข้างๆจาก B&O พร้อมกับยางร้องแนวยาว 2 ฝั่งบนและล่าง รวมถึง ช่องระบายขนาดใหญ่ตรงด้านหลัง และรายละเอียดตัวเครื่องทั้งหมด ถือว่าเน้นความเบา และ พกพาทำให้การแกะแงะอะไรไม่ได้รองรับมากนัก รวมถึงการระบายความร้อนก็ถือว่าเพียงพอต่อสเปกของรุ่นนี้และมีการยกตัวเครื่องเข้ามาช่วยได้เช่นกัน

SPEC

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพตัวนี้ใช้งาน AMD Ryzen 5 5600U และจริงๆจะมีสเปก Ryzen 7 5800U ด้วยนะ แต่ทางที่เรารีวิวจะเป็นตัว Ryzen 5 5600U ซึ่งจะมาพร้อมกับ  AMD Ryzen 5 เทคโนโลยี Zen 3 บน 7nm  ในรหัส Ryzen 5 5600U ใช้งาน 6Core/12Thread  Base Clock 2.30 GHz และ Boost Clock 4.20 GHz พร้อม Cache 19MB ส่วนทางด้าน การ์ดจอเป็นแบบ ออนบอร์ด Radeon RX Vega 7 เพียงพอต่อการใช้งาน ให้ RAM 8 GB DDR4 On Board 3200 MHz และ ทางด้าน SSD 512 GB SSD PCIe M.2  พร้อมกับ Windows 10 Home ใช้งานได้ทันที + ได้ซอฟต์แวร์การทำงาน Office Home & Student 2019 (Word / Excel / Power Point) มูลค่า 4,299 บาท ครบๆเรียกได้ว่าสายทำงานไม่ต้องไปซื้อหรือลงอะไรเพิ่มแล้วนั้นเอง แต่ส่วนตัวมองว่า RAM 8GB แอบน้อยไปถ้าเอามาทำงานจริงจัง แนะนำตัว Ryzen 7 + RAM16GB เหลือๆกว่า

PCMARK คะแนนทำได้  5331  ถือว่าตามระดับของ CPU Ryzen 5 ระดับกลาง ดีกว่าเจนก่อนหน้า 1 พันว่าคะแนนเลยทีเดียว เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้แน่นอนว่าดีกว่า CPU รุ่นก่อนเยอะ ทำให้ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพกว่าแบบชัดเจนครับ ทางด้านความร้อนนั้น CPU 70 และ GPU 71 ครับสำหรับการทดสอบนี้ครับ

3D MARK เราทดสอบแบบพื้นฐานกันในส่วนของ Wild Life /Night Raid ถือว่าทำคะแนนได้ดีเลย คะแนนในส่วนของ Night Raid ตัวนี้ทำได้ 12446 คะแนน ดีกว่าเจนก่อนหน้า 3 พันกว่าคะแนน การประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ทำได้ดีมากๆแม้จะไม่มีการ์ดจอแยกเข้ามาช่วยด้วยแต่ทำคะแนนได้สูสีเท่ากับพวกการ์ดจอแยกตัวเล็กๆตัวก่อนๆเลยครับ และ ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลายครับ ถือว่าสบายๆไม่ต้องกังวลทำให้การทำงานต่างเรนเดอร์เริ่มต้นอะไรสบาย ส่วนเรื่องคะแนน  Wild Life นั้น 6168 ได้เลยครับ ความร้อนที่ทดสอบนั้น CPU 77 และ GPU 78 ครับสำหรับตัวนี้ สภาพอากาศปกติครับ ถือว่าเป็นการ์ดจอติด CPU ที่ทำได้ดี และคุมความร้อนยังไม่เจอแตะ 80 เลยนะครับในการทดสอบทั้งหมดนี้แม้ตัวเครื่องจะเบาและบาง

CINEBENCH R20 -15 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU เลยแหละทำไปได้ใน R15 1161 ทำได้ดีและมากกว่าเจนก่อนเยอะมากๆ อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้คือมาแรงมาก และพัฒนาดีขึ้นถ้าเทียบเจนก่อน ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 2646 จากรุ่นก่อนแค่ 1500 คะแนนในตัว 4500U ถือว่าคะแนนใช้ได้แหละในแง่การประมวลผลของ CPU แอบดีกว่าตอนรุ่นที่แล้วพอสมควร ส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้ 1826 ส่วนเขียนที่ 964 ครับจากทดลองหลายๆรอบ และอ่านเขียนนั้นถือว่าเร็วแรงใช้งานได้ดี และเป็นของ INTEL เท่าที่ขึ้นในสเปกนะครับ ก็นี้ให้มา 512GB ครับ ถือว่าเพียงพอในการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงการตัดต่อหรือว่าแต่งภาพก็เหลือๆเลยครับ

SCREEN 

หน้าจอ 13.3 นิ้วเครื่องแรกของบริษัทที่มีอัตราส่วนภาพ 16:10 และความละเอียด WUXGA 2.5K ความสว่าง 400 นิต และ sRGB 100%  แบบ IPS LCD และใช้งานหน้าจอแบบด้าน และค่าสี ในการทดสอบใช้งานจริงนั้นจะได้ sRGB 92% ถือว่าสูงมากๆและเป็นตัวที่ค่าสีตรง ครับ recycled ocean-bound plastics พลาสติกที่ทำมาจากขยะพลาสติกในทะเล และเราจะเห็นการออกแบบขอบหน้าจอที่บางมากกว่ารุ่นก่อนๆ อัตราสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องเองนั้น 90% ถือว่าเป็นตัวแรกที่ทำได้ค่าสูงขนาดนี้ด้วยทำให้มันเต็มที่ของหน้าจอ 13.3 นิ้วแต่เครื่องเล็กเท่าเดิมได้มากขึ้น และความสว่างในการใช้งานจริง 400 นิตถือว่าสูงรองรับการสู้แสงแดดการใช้งานภายนอกได้สบาย

เรื่องของมุมมองเองนั้นตัวนี้ถือว่าทำได้ดีและถ้ามองเทียบกับราคาถือว่าน่าสนใจเพราะทั้ง อัตราส่วน ความสว่าง คุณภาพต่างๆนั้นไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย และมุมมองในการใช้งานจริงๆหน้าจอแบบด้านแบบนี้ทำงานได้ดีมากๆ เราจะเห็นว่าสามารถรองรับการมองได้หลากหลายองศา รวมถึงสะท้อนแสงก็ถือว่าน้อย หน้าจอไม่ได้มีอาการผิดเพี้ยนแต่อย่างใด และครั้งนี้ในการใช้งานวัสดุผลิตหน้าจอ รีไซเคิลต่างๆถือว่าเป็นหน้าจอที่ดีตัวนึงของตระกูล Pavilion Aero และ แสดงผลงได้สว่าง รวมถึงมุุมมองและความละเอียด และ อัตราส่วนแบบ 16:10 ทำได้เต็มตามากกว่ารุ่นก่อนๆ

KEYBOARD 

ทางด้านคีย์บอร์ดก็ถือว่าน่าสนใจ เพราะว่าใช้งานวัสดุพลาสติกจากการรีไซเคิลเน้นๆเช่นกันซึ่งเป็น เม็ดพลาสติกที่แปรรูปมาจากวัสดุพลาสติกที่ผู้ใช้งาน ไม่ได้ใช้แล้ว โดยการนำมาแปรรูปให้เพื่อสามารถนำกลับมาใช้ได้ ถือว่ารักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน ทางด้านงานออกแบบนั้นยังคงพัฒนาขึ้นจะเห็นว่าดีไซน์แบบสุดขอบทั้งซ้ายและขวาทำให้ปุ่มใหญ่มาตรฐาน แต่ไม่ทำให้เครื่องใหญ่เรื่องนี้ถือว่าทำได้ดีและทำให้เครื่องเล็กเบาได้มากขึ้นเช่นกัน ส่วนการวางปุ่มต่างๆนั้นเป็นแบบมาตรฐานยังไม่ได้ตัดปุุ่มอะไรออกไปด้านขวายังคงมีปุ่มหลักในการทำงานไว้ครบทั้งหมด รวมถึงปุ่ม F1-12 มาตรฐาน แต่ปุ่มเปิดปิดจะอยู่ก่อน Delete บอกเลยว่าตำแหน่งนี้ไม่ถนัดเท่าไรและเผลอกดได้ง่ายแน่นอน ส่วนระยะปุ่มทำได้ดีมาตรฐาน ไม่ได้ลึกมากตามขนาดตัวเครื่อง แต่ปุ่มใหญ่ ระยะห่างทำได้ดี แต่ส่วนที่ยังคงไม่ชอบในหลายๆยี่ห้อที่ทำสีแบบนี้คือมองได้ยากถ้าเราเปิดไฟหรือใช้งานเวลากลางวันเองก็ตามในสีขาวกับเงินนั้นต้องตั้งใจมอง

ตัวนี้มีไฟ Backlit มาให้ด้วยครับสามารถปรับได้ 3 ระดับไฟสีขาวค่อนข้างสว่างชัดเจนพอสมควรตัวอักษรมองง่ายในที่แสงน้อย แต่ถ้าออกกลางแจ้งนั้นต้องบอกว่าโทนสีเงิน และตัวอักษรขาวนั้นไม่ได้เหมาะเท่าไรนัก เพราะมองยาก ถ้าไม่ปิดไฟ เจอปัญหานี้ในหลายๆรุ่น ส่วนระยะห่างของแต่ละปุ่มและระยะการกดนั้นทำได้ดี แต่ระยะการกดเมื่อเทียบกับบางตัวนั้น ตัวนี้เหมือนจะรู้สึกตื้นกว่านิดหน่อย และพิมพ์รัวๆอาจจะไม่สะใจมากนัก แต่ผมชอบของ HP มากกว่าของ Macbook ตัวใหม่นะ ในแง่ของระยะการพิมพ์ที่กดลงไป และความรู้สึกเมื่อต้องพิมพ์บทความนานๆตัวนี้ทำระยะมาดี

TOUCHPAD 

ทัชแพดตัวนี้มีขนาดใหญ่พอสมควร ซึ่งชอบเลยแหละทัชแพดตัวไหนที่มีขนาดใหญ่ และใช้งานได้อิสระแบบนี้เพราะทัชแพดนั้นสำคัญ และจำเป็นในการใช้งานข้างนอก ในบางรุ่นนั้นจะมีขนาดเล็กทำให้ใช้งานลำบากไปหน่อย แต่จริงๆแล้วรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสอาจจะทำให้ทัชแพดไม่ได้จำเป็นอะไรมากนัก แต่มีขนาดใหญ่แบบนี้ก็ตอบโจทย์ในการใช้งานได้ดีระดับนึง และไม่มีปุ่มแยกซ้ายขวา ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องและลื่นไหลดีเลยแหละ ทัชแพดในแง่ของการใช้งานหลายๆนิ้วหรือ Multitouch ตัวนี้ทดสอบแบบในหลายๆรุ่นคือวางนิ้วได้ทั้งหมดกี่นิ้วในการใช้งาน และขนาดที่รองรับตัวนี้มาในแนวยาวทำให้รองรับได้ดีเลย รวมถึงการเลื่อนนิ้วไปมาทำได้ลื่นและตามนิ้วได้ดี ทั้งการย่อแอป สลับแอป ปัดซ้ายขวาไม่เจออาการเอ๋ออะไรในการใช้งานตัวนี้ และเทียบกับขนาด 13.3 นิ้วบอกเลยว่าใหญ่มากๆเลยครับ

SPEAKER 

ทางด้านลำโพงตัวนี้มาพร้อมกับลำโพงจากทางแบรนด์ Bang&Olufsen ครับเช่นเคยทางค่ายนี้จับมือกับแบรนด์ลำโพงแบรนด์นี้มาซักพักเลยแหละและร่วมกับพัฒนา เรื่อยๆสำหรับตัวนี้แน่นอนว่าแบรนด์นี้ถ้าใครคุ้นเคยเสียงนั้นจะเป็นเอกลักษณ์และออกไปทางแนวใสๆเคลียร์ๆ เบสจะไม่หนักแน่นกระแทกมากนักแต่จะมาแบบนุ่มๆ เน้นเสียงที่ใส่ชัด ฟังเพลง Audiophile ได้ดี ถือว่าแบรนด์นี้ยังคงเป็นแบรนด์ที่ไว้ใจได้สำหรับเสียงแม้จะเป็น ตระกูล Pavilion Aera

เสียงจะออกไปในแนวทางนั้นเป๊ะๆเลย เบสไม่ได้เยอะอะไรมากแต่มิติเสียง ความใส แหลม เคลียร์ของมันมาดีมาก ฟังเพลง ดนตรี บรรเลงได้ดีเลย รวมถึงเสียงร้องชัดเจน แต่ถ้าเบสหรือเสียงต่ำ เวลาดูหนังเล่นเกม อาจจะไม่สะใจเท่าไร แต่แน่นคุณภาพดีแน่นอน มาพร้อมกับ Software การปรับจูนเสียงได้ด้วยในตัว รวมถึง การตัดเสียงไมค์เวลาคุยใช้งาน หรือว่าจะเป็น การปรับระดับเสียง แต่งเสียงต่างๆทำให้ลำโพงนั้นคุณภาพสูงขึ้นไปมากกว่าเดิมด้วยเช่นกัน และ มาพร้อม Dual Array Microphone และ ระบบตัดเสียง AI-Noise Removal สำหรับการประชุม ออนไลน์ในช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี และทำงานร่วมกันกับกล้อง HD 720P ได้ลงตัวเลยครับ

CONNECTOR

พอร์ตเชื่อมต่อให้มาเพียงพอต่อการใช้งานในด้านขวาแอบเสียดายเรื่องพอร์ตชาร์จเพราะว่าการชาร์จไฟเข้าเองนั้นสามารถใช้งาน USB-C น่าจะทำให้การใช้งานอิสระมากขึ้น แต่ตัวนี้มาพร้อมกับหัว กลมมาตรฐานทั่วไปเท่านั้น และมาพร้อมกับ  USB 3.2 Type A ที่เป็นการออกแบบทำให้บางมากขึ้นเวลาจะใช้งานจะสามารถขยายได้ถือว่าโอเค

ทางด้านซ้ายนั้นมาพร้อมกับ HDMI 2.0 ถือว่ายังใส่เข้ามาให้ไม่ได้ตัดออกแม้จะบาง และ เบา และมาพร้อม  USB 3.2 Type A อีก 1 ช่อง รวมถึง  USB 3.2 Type C อีกช่องเช่นเดียวกันที่รองรับการชาร์จไฟ PD และ รู3.5มม. ส่วนทางเชื่อมต่อไร้สายเองนั้นจัดเต็มให้ 802.11ax (Wi-Fi 6) + Bluetooth 5.2 ครบๆรองรับการใช้งานสบาย

MY HP

สำหรับ MY HP เองนั้นต้องบอกว่ารองรับการใช้งานต่างๆนั้นรองรับได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือออนไลน์ หรือ ว่าจะเป็นแอปต่างๆที่ออกมารองรับ รวมถึงข้อมูลการใช้งานทั่วไปว่าตัวเครื่องนี้สามารถโหลดเข้ามาทั้ง การโอนย้ายไฟล์ผ่านมือถือแบบง่ายๆ และ การเช็กระบบตัวเครื่องในภาพรวม เป็นแอปตัวเดียวจบครบๆ

WORKING 

ทางด้านการทำงานตัวนี้แน่นอนว่า CPU นั้นรองรับได้สบายใช้งาน AMD RYZEN 5 5600U มาพร้อมกับ   6Core/12Thread  Base Clock 2.30 GHz และ Boost Clock 4.20 GHz พร้อม Cache 19MB ส่วนทางด้าน การ์ดจอเป็นแบบ ออนบอร์ด Radeon RX Vega 7 เพียงพอต่อการใช้งาน ให้ RAM 8 GB DDR4 On Board 3200 MHz และ ทางด้าน SSD 512 GB SSD PCIe M.2 ภาพรวมเองนั้นถือว่าประสิทธิภาพสูง แต่มีแค่ RAM 8GB ที่อาจจะไม่เพียงพอถ้าใครที่เอาไปใช้งานหนักๆก็เป็นไปได้เพราะว่าค่อนข้างแน่นมากๆแล้วถ้าทำงานในบรรดาตระกูล ADOBE พวกนี้  บรรดา Photoshop – Lightroom – Premire Pro พวกนี้ครับ แต่ก็มีตัวเลือกสเปกสูงกว่านี้ให้เลือกซื้อเช่นกัน ส่วนทางด้าน SSD เองนั้นอ่านเขียนไวเอาเรื่องทำให้รองรับได้ดีกว่ามาตรฐานทั่วไป แต่ถ้าใช้งานทั่วไปในการทำ งานเอกสาร Word – Excel และอื่นๆนั้นสบายๆหรือว่าจะเป็นการดูหนัง เก็บไฟล์ ทำงานทั่วไปเข้าเว็บ ประชุมออนไลน์ต้องบอกว่าตัวนี้เหลือๆสบายๆครับ หรือแม้แต่ Photoshop Premire Pro ก็ไหว แต่ถ้าหลายๆเลเยอร์หรือเปิดหลายโปรแกรมอาจจะแน่นๆไปนิดหน่อยสำหรับตัว RAM 8GB ครับเพราะเท่าที่ทดสอบก็จะใช้งานไป  7GB กันเลยทีเดียวตัวนี้ครับ

จากที่ได้ทดสอบทั้ง Lightroom และ  Photoshop ถือว่ารองรับไฟล์ขนาดใหญ่ได้แบบไม่มีปัญหาโดยที่ใช้งาน CPU ไปแค่ 2% เรียกได้ว่าน้อยมากๆ แต่เราจะเห็นว่า RAM 8GB ค่อนข้างแน่นมากๆแล้วจุดนี้อาจจะต้องดูกันอีกทีว่าเราใช้งานโปรแกรมแบบไหนยังไงกันบ้างครับ ถ้าเอามาตัดต่อ แต่งภาพแนะนำตัว Ryzen 7 จะโหดกว่าได้ RAM 16GB จัดเต็ม แต่จริงๆ CPU นั้นสามารถรองรับได้แบบโหดๆอยู่แล้วแม้จะเป็น Ryzen 5 ก็ตาม

ทางด้าน Premire Pro เองนั้นรองรับการตัดต่อได้สบายๆ สามารถเลื่อนพรีวิว ตัดต่ออะไรได้ลื่นไหลครับ ส่วนการทดสอบเองนั้น ทำเวลาไป 1 ชั่วโมง 15 นาที ถือว่ารับได้ตามระดับของตระกูล U และเร็วกว่าเจนก่อนๆเยอะมากเช่นกันในตระกูล U  ครับ และถ้าใครเอามาตัดต่อชั่วคราวเองนั้นบอกเลยว่าสบายๆ แต่ถ้าเน้นทำงานจริงจังก็ยังแนะนำตัว RAM 16GB มากกว่า แต่ถ้าไม่ได้ทำงานประจำ แค่ใช้บ้างบางครั้งตัวนี้ก็สามารถรองรับได้

GAMING 

การเล่นเกมตั้วนี้อาจจะต้องบอกว่าไม่ได้เน้นเพราะว่า ทั้งการออกแบบ ขนาดตัวเครื่องหน้าจอ การระบายอากาศต่างๆนั้นเป็นสายพกพา ทำงานข้างนอก แต่ด้วยพลัง AMD RYZEN 5 ตัวใหม่พร้อมกับการ์ดจอ OnBoard ของมันบอกเลยว่าสบายๆครับ ในการเล่นเกมออนไลน์เบาๆทั่วไปรองรับได้ไม่มีปัญหา เท่าที่ลอง Overwatch ในการปรับภาพ Medium นั้นรองรับได้สบาย หรือ APEX ที่ปรับภาพต่ำหน่อยก็พอเล่นแก้ขัดได้ แต่อาจจะไม่ลื่นไหลเท่าไรนัก สามารถเล่นได้ต่อเนื่องระยะเวลายาวๆทดสอบ 2 ชั่วโมงในการเล่นนั้นถือว่าจุดที่ต้องชมคือในเรื่องของการระบายความร้อนนั้นไม่เจอแตะ 80 นะครับทั้ง GPU CPU อยู่ที่ 70 ประมาณนี้ และ ทางด้าน FPS  สามารถขับได้สบายๆที่ 67FPS-70FPS เลยนั้นเอง ในตัว Overwatch แต่ APEX เองนั้นจะได้ 25-30 เท่านั้นเพราะกินสเปกมากกว่านั้นเอง ทำให้การเล่นเกมเบื้องต้นรองรับได้ แก้ขัดได้แบบไม่มีปัญหา และความร้อน นั้นก็จัดการได้ดีกว่าที่คิดถ้ามองว่าเป็นเครื่องขนาดบางครับ ไม่เจออาการคอขวดหรือหน่วงด้วยเช่นกัน

HP PAVILION AERO 13 

” ตัวเครื่องเบา ต่ำกว่า 1 กิโลกรัม พร้อม ขุมพลังประสิทธิภาพสูงจาก AMD  “

แม้ว่าจะเป็นตัวเล็กที่บางละเบาแต่การใช้งานขุมพลัง AMD Ryzen5 ในเทคโนโล Zen3 ตัวใหม่เป็นการยกระดับตัวเครื่องที่เล็กและบางลง แต่ความแรงนั้นไม่ธรรมดาขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งทาง HP ก็ยังพัฒนาทั้งหน้าจอแบบใหม่ การใช้งานวัสดุ รวมถึง ลำโพงที่มาพร้อมกับคุณภาพสูงจัดเต็มทำให้เป็นอีกรุ่นของค่ายที่ทำงานได้ลงตัวไม่ว่าจะเป็นการพกพาทำงานข้างนอก หรือ แม้แต่การทำงานระดับกลางหรือสูง ทั้ง Microsoft Office ที่ให้ฟรีๆ หรือจะเป็นการทำงาน ADOBE หลายๆตัวก็รองรับได้แบบไม่มีปัญหา ส่วนการเล่นเกมออนไลน์เองนั้นรองรับได้แก้ขัด ในหลายๆเกมที่ไม่ได้กินสเปกก็สามารถขับได้ 60-70 ได้เนียนๆ แต่ถ้าเกมที่แมพใหญ่แบบ APEX พวกนี้อาจจะโหดไปนิดกับ RAM เท่านี้ครับแต่แอดเชื่อว่าถ้าตัว Ryzen 7 เองนั้นบอกเลยว่าสบายๆในเรื่องนี้ ซึ่งถ้าใครนั้นเน้นทำงานแบบหนักหน่วงมากๆ ก็มีตัวเลือกให้ใช้งาน แต่ในการใช้งานทั่วไป กลางๆไปสูงตัวนี้ก็ถือว่าเหลือๆแล้ว รวมถึงน้ำหนักที่เบากว่า 1 กิโลก็สามารถพกพาและหิ้วไปไหนมาไหนได้แบบไม่ต้องเกะกะหรือหนัก

ข้อดี

• AMD Ryzen 5 5600U ประสิทธิภาพไม่ธรรมดา แรง เหลือในการทำงาน
• รองรับการเล่นเกม ทำงานได้ดี แม้จะเป็น การ์ดจอ ออนบอร์ด
• ตัวเครื่องเบา ต่ำกว่า 1 กิโลกรัม พกพาได้ง่ายและบางมากๆ
• หน้าจอ 13.3 นิ้ว ค่าสีตรง สู้แสงได้ดี หน้าจอแบบด้านใช้งานได้ดี
• อัตราส่วน 16:10 สัดส่วนเต็มตัวเครื่องมากที่สุดถึง 90%
• มีการใช้วัสดุพลาสติก รักษ์โลกในทุกๆส่วน และ มีความแข็งแรง สวยงาม
• วัสดุทำจาก แมกนีเซียมอลูมิเนียม เบา และ แข็งแรง
• ลำโพงคุณภาพสูงจาก B&0
• มาพร้อมพอร์ตครบทั้ง USB-C USB-A และ HDMI
• รองรับการสแกนนิ้วใช้งาน
• ประกัน  2 ปี Onsite Service

ข้อสังเกต

• พอร์ตชาร์จน่าจะเป็น USB-C เสริมเข้ามาอีกช่อง
• คียบอร์ดสีเงิน ตัวหนังสือแสงขาวมองยากในการใช้งานหลายๆสภาพแสง
• ตัวเครื่องบาง อาจจะไม่ได้เน้นการเล่นเกม หรือ ทำงานระดับสูง

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review By Nineztr