CONVERTIBLE Laptop นั้นเป็นอีกตระกูลที่มีความโดดเด่นในแง่ของการใช้งานที่หลากหลายและมีประโยชน์ในหลายๆด้านครับซึ่งส่วนใหญ่จะพกพาได้ง่ายและมีความบางเบา อีกทั้งหน้าจอนั้นก็เป็นระบบสัมผัสที่ทำให้ใช้งานหน้าจอล้วนๆได้ดียิ่งขึ้น หรือบางรุ่นอาจจะมีปากกาการรองรับที่ใช้งานวาดเขียนได้ดีมากครับ และแน่นอนว่าแบรนด์ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาอีกแบรนด์นั้นก็คือทาง HP ที่ก็มีตระกูลที่สามารถใช้งานพับหน้าจอได้ 360 องศาแบบนี้มาเรื่อยๆครับ ในชื่อว่า X360 และในรุ่นก่อนหน้านั้นก็มีทำออกมาเหมือนกันแต่ก็ยังมีบางจุดที่อาจจะยังไม่ลงตัวทั้งอายุแบตต่างๆ และความร้อนแต่ในรุ่นนี้ก็ได้มีการปรับปรุงขึ้นในทุกๆด้านด้วยเราจะมาดูกันว่าครั้งนี้จะทำได้ดีและพัฒนาอะไรที่ดีกว่าเดิมบ้างนั้นเองครับในรุ่น HP Spectre 13 X360 ที่ดีไซน์ค่อนข้างดูดีกว่าเดิมและความพรีเมี่ยมที่จัดเต็มขึ้นมาก

HP SPECTRE 13 x360 เปิดตัวมาไม่นานนี้มาเป็นตัวแทนรุ่นเก่าที่ปรับเปลี่ยนค่อนข้างเยอะและดีไซน์ที่พัฒนาดูดีแข็งแรงกว่าเดิมมากเลย  รุ่นนี้จะใช้หน้าจอ 13.3″ FHD WLED ที่มีคุณภาพรองรับ ความละเอียดแบบ HDR  (contrast 100,000:1) พร้อมกระจก Gorilla Glass 4,รองรับปากกา และ มีปากกาให้ด้วยครับ , กล้อง IR และตัวสแกนนิ้วมือรองรับ Windows Hello, ระบบชาร์จเร็ว Fast Charge USB-C ใช้เวลาแค่ 90 นาที่เท่านั้นในการชาร์จเต็ม และ ยังมีฟีเจอร์หน้าจอที่ป้องกันคนมอง HP Sureview และ ลำโพงจากทาง Bang&Olufsen

สำหรับราคา HP SPECTRE 13 X360 นั้นจะมีรุ่นย่อย ทั้งหมด 3 ตัวซึ่งในตัวรีวิวนั้นจะเป็นตัวราคา 56,990 บาท

  • HP Spectre x360 Convertible  – 13-ap0028tu( i5 gen8 ราคา 49,990 บาท )
  • HP Spectre x360 Convertible  – 13-ap0027tu ( i7 gen8 ราคา 56,990 บาท )
  • HP Spectre x360 Convertible  – 13-ap0026tu( i7 gen8 โดยตัวนี้จะต่างกับรุ่นกลางตรงที่มี Window 10 pro มีการเพิ่ม PCIe M.2  และเป็นระบบ Bluetooth 5.0 ราคา 62,990 บาท)

UNBOX 

กล่องในรุ่นนี้มาพร้อมกับธีมสีดำเป็นหลักทั้งตัวกล่องใหญ่ และ ตัวกล่องเล็ก ตัวกล่องเล็กนั้นจะเขียนชื่อรุ่นว่า SPECTRE เรียบๆครับ ดูดีเลยแหละ ส่วนเมื่อเปิดข้างในก็จะเจอ HP Spectre วางอยู่ พร้อมกับของที่อยู่ข่างล่างเครื่องก็มีมาให้ใช้งานครบเลยแหละครับ รวมถึงตัวแปลงต่างๆ

  • HP Spectre 13 X360
  • ซองหนังแท้สำหรับใส่เครื่อง
  • Adaptor สำหรับชาร์จไฟ สายถัก พร้อมหัว USB-C
  • ปากกา HP Tilt Pen
  • ตัว Adaptor สำหรับเพิ่มหัวต่อ HDMI – USB-A USB-C

ตัว Adptor ก็มีมาให้เลยครับไม่ต้องไปซื้อเพิ่มรองรับการเสียบใช้งาน HDMI- USBA-USBC ครบเลยสายต่อจากช่อง USB-C ได้เลยครับจากตัวเครื่อง ส่วนตัวซองหนังนั้นทำมาขนาดพอดีเครื่องมากๆเป็นซองหนังสีดำ พร้อมมีสลักเขียนว่า HP อะไรมาให้รวมถึงช่องสำหรับใส่ปากกา สำหรับพกพาข้างนอกครับวัสดุรวมๆทำได้ดีเลยแหละสำหรับตัวนี้

DESIGN

การออกแบบตัวเครื่องรุ่นนี้เปลี่ยนแปลงจากเดิมขึ้นในหลายๆจุดทั้งตัวข้อต่อ การออกแบบขอบตัวเครื่องทั้งหลายได้เปลี่ยนแปลงไปพอสมควรครับ ตัวเครื่องงานออกแบบต้องยอมรับว่าสวยและดูพรีเมี่ยมมากๆ การใช้โทนสีทอง สลับกับตัวเครื่องสีน้ำเงินก็ทำให้มันเด่น รวมทั้งการตัดขอบรอบเครื่องแบบทำมุม Gem Cut Design ทั้งหมดแปลกตาและทำได้สวยเลยแหละความบางรวมถึงน้ำหนักโดยรวมนั้น หนักแค่ 1.32 กิโลกรัม และบางเพียง 14.5 มิลลิเมตร

ตัวเครื่องดีไซน์มีความเหลี่ยมคมในหลายๆมุมสอดคล้องกับการออกแบบ Gem Cut ที่เหมือนเพชรตัดขอบด้วย การใช้โทนสีอะไรต่างๆนั้นจะเป็นสี Poseldon Blue สีน้ำเงินผมเขียวนิดนึง จัดกับสีทองได้ดีครับบริวเณรอบๆเครื่อง รวมถึงการใช้สีทองในการทำเป็นพวกข้อต่อ ข้อพับนั้นทำให้มีความโดดเด่นขึ้น ส่วนทางด้านหน้าจอนั้นมีขอบข้างๆบางแต่ขอบบนล่างยังคงหนาอยู่ และ แอบหนาไปนิดหน่อย แป้นพิมพ์ ลำโพงการออกแบบนั้นยังคงทำได้สวยในด้านใน ส่วนฝาหลังนั้นใช้เป็นวัสดุด้าน และ มีโลโก้ HP แบบใหม่ซึ่งส่วนตัวชอบโลโก้ HP แบบใหม่นี้มากมันสวยดูดีกว่าเดิมเยอะ

ฝาหลังและส่วนฐานนั้นเป็นการใช้โทนสีเดียวกัน แต่จะเห็นว่าถ้าเราถ่ายกันคนละมุมแสงนั้นสีเครื่องที่ได้ก็จะแตกต่างกันไปถือว่าเป็นการเล่นกับแสงได้ดีครับบางมุมจะน้ำเงิน และ บางมุมนั้นจะเป็นน้ำเงินอมเขียวเล็กน้อย ส่วนถ้าเจอแสงกลางคืนหรือเจอหลอดไฟก็จะเป็นน้ำเงินเข้มๆไม่ได้สดใสแบบตอนกลางวันครับ ฐานด้านหลังจะเห็นช่องระบายอากาศตามแนวขอบข้าง และ ตัวแนวยาวด้านหลัง รวมถึงตัวยางรองฐานเครื่องที่แนวยาว ทั้งหน้า แลัง แต่ยังใส่ใจดีไซน์ให้มันเป็น 3 เหลี่ยมคงแนวทาง Gem Cut ได้รวมถึงตัวช่องลำโพงซ้ายขวาก็ยังเล่นรูปราง 3 เหลี่ยมวางติดกันด้วยครับ

การใช้งานแน่นอนว่ามันเป็น 2in1 Convertible ทำให้รองรับการทำงานได้หลักๆ 4 แบบตามภาพครับไม่ว่าจะใช้งานแบบปกติ วางสำหรับดูหนัง หรือ พรีเซนต์งาย หรือจะวางแหง่นจอให้ใช้งานกล้องหน้าได้ และสามารถพับเป็น Tablet เรียบๆไปได้เลยรวมถึงการใช้ปากกาในการวาดใช้งานต่างๆตอบโจทย์การทำงานครบทุกรูปแบบเลยแหละ

ตัวข้อต่อ ข้อพับ และการเล่นขอบเครื่องมันคือส่วนที่สวยที่สุดของรุ่นนี้แล้ว และมันคือการออกแบบที่มองว่าทำให้เครื่องรุ่นนี้มันแตกต่างและเด่นกว่ารุ่นอื่นๆรวมถึงงานเนี๊ยบมากในการตัดขอบแบบ GEM Cut ตามรอบเครื่องทำให้มันมีมุมที่แตกต่างเวลาเล่นกับแสงรวมถึงการใช้โทนสีที่ตัดกับตัวเครื่องด้วย และในตัวสีทองนั้นก็มีการเล่นลวดลาย Brush ที่เป็นเส้นๆเลยดูมีอะไรมากกว่าการใช้วัสดุแบบเรียบๆครับ การเล่นลวดลายต่างๆและการตัดขอบทำได้ดีจริงๆนะ และการปาดมุมนั้นก็ไม่ได้ปาดมั่วๆทำมุมได้ดีและเป็นที่อยู่ของปุ่มเปิดปิด และช่องชาร์จที่ใช่งานได้ แม้จะพับจอ เอียงจออะไรก็แล้วแต่ก็ยังสามารถเสียบชาร์จ และกดปุ่มเปิดปิดได้เสมอครับถือว่าคิดมาแล้วว่าปาดมุมเอียงแบบนี้มันทำให้ใช้งานได้ดีขึ้นครับ

ตัวฐานด้านล่างถ้าดูดีๆก็จะเกิดแสงเงาที่ทำมุมองศาได้สวยงามครับ  คือทุกอย่างมันเข้ากับดีไซน์ GemCut ได้ดีเลยคือสัมผัสและดูแต่ละจุดมันรู้สึกถึงการใส่ใจในการออกแบบทุกๆมุม เป็นจุดที่ค่อนข้างชอบครับ ส่วนในช่องระบายความร้อนนั้นนอกจากข้างล่างแล้วก็ยังมีส่วนตรงด้านหลังของตัวแป้นพิมพ์ตรงขอบจอที่จะเป็นช่องระบายออกมาครับ ในหลายๆตัวก็เน้นระบายออกทางด้านนี้กัน และทำให้ความร้อยนั้นส่งออกไปข้างหลัง และด้านล่างได้ดีครับ

หน้าจอตัวนี้เป็นหน้าจอแบบ WLED  ทำได้สวยงามในภาพรวมขอบหน้าจอด้านข้างต้องบอกว่าทำได้บางครับแต่ที่น่าเสียดายคือขอบด้านบนนั้นยังแอบหนาและด้านล่างด้วยเช่นกัน จริงๆถ้าทำออกมาบางกว่านี้ก็จะสวยเลยแม้จะมี IR และ กล้องหน้าก็ตามครับ ส่วนหน้าจอนั้นก็รองรับสัมผัสเต็มรูปแบบครับ ด้านวัสดุตรงที่วางมือก็เป็นวัสดุแบบเดียวกันกับตัวเครื่องทั้งหมด วัสดุด้านจะแอบติดความมันได้ง่ายนิดหน่อยถ้าใช้งานและมียางรองนิดๆเวลาพับหน้าจอลงมาครับ เพราะไม่ได้ไปติดตั้งบนจอ เลยเอามาไว้ที่คีย์บอร์ดแทนนั้นเอง และมีเขียนชื่อรุ่นเล็กๆในภาพครับ

ความหนาเมื่อพับฝาลงทั้งหมดก็ง่ายต่อการพกพาไม่ได้หนาเท่าไรนัก และการออกแบบสีทองเวลาโดนกับแสงนั้นก็ทำให้มันเล่นกับแสงได้สวยและโดดเด่นพอสมควรครับ เป็นการใช้โทนสีที่สวยทั้งด้านนอกเมื่อพับและด้านใน การวางตำแหน่งของปุ่มอะไรต่างๆก็ทำได้ดี จะเห็นว่าขอบด้านข้างคียอบร์ดนั้นบางมากๆทำให้ขนาดโดยรวมนั้นเล็กและพกพาง่ายขึ้นตรับ รอบๆตัว Touchpad ก็ยังมีการเล่นขอบสีเช่นเดียวกันแต่เสียดายที่คียบอร์ดนั้นตัวอักษรยังเป็นสีขาว

SPEC 

  • Windows 10 Home 64
  • Intel® Core™ i7-8565U
  • Intel® UHD Graphics 620
  • หน้าจอ 13.3″ diagonal FHD IPS micro-edge WLED-backlit touch screen with Corning® Gorilla® Glass NBT™ (1920 x 1080)
  • 8 GB LPDDR3-2133 SDRAM (onboard)
  • 512 GB PCIe® NVMe™ M.2 SSD
  • 3-cell, 60 Wh Li-ion polymer
  • Full-size island-style backlit keyboard
  • HP TrueVision FHD IR Camera with Dual array digital microphone (dark ash silver)
  • Intel® 802.11b/g/n/ac (2×2) Wi-Fi® and Bluetooth® 4.2 Combo
  • Bang & Olufsen, quad speakers, HP Audio Boost
  • 1 microSD media card reader
  • 2 Thunderbolt™ 3 (Data Transfer up to 40 Gb/s, Power Delivery, DP1.2, HP Sleep andCharge); 1 USB 3.1 Gen 1 (HP Sleep and Charge); 1 headphone/microphone combo
  • 65 W AC power adapter
  • Fingerprint reader; Trusted Platform Module (TPM) support

PERFORMANCE

ทางด่านประสิทธิภาพของตัวเครื่องรุ่นนี้มาพร้อมกับ i7-8565U ตระกูลประหยัดไปพร้อมกับการ์ดจอในตัว  Intel® UHD Graphics 620 ไม่มีการ์ดจอแยกนะ มาพร้อมกับ RAM 8GB LPDDR3 ฝังบนบอร์ด และ SSD 512GB NVMe M.2 SSD ครับ ก็พอไหวแต่เสียดาย RAM น่าจะจัดมาให้ 16GB ไปเลยสุดๆครับ การใช้งานคงเน้นใช้งานทั่วไปแต่ก็ รองรับการใช้งาน 3 มิติได้นิดหน่อยครับในแง่ของประสิทธิภาพของมันในแบบไม่มีการ์ดจอแยกนั้นเอง

ทางด้านคะแนน PC MARK เป็นคะแนนที่จะนับในส่วนของการทำงานทั่วไปเน้นทำงานของ CPU เป็นหลักทำคะแนนได้ไป 3886 คะแนน ออกไปทางกลางๆตามประสิทธิภาพของมันครับตระกูล U และไม่มีการ์ดจอแยก แต่ได้ SSD มาช่วยในแง่ของการเซฟไฟล์ ย้าย โยนไปมาได้ไวและรวมถึงเปิดโปรแกรมของมันด้วย  CPU 75 องศา และ GPU 63 องศา ถือว่าทำคะแนนได้ดีกว่า Matebook X Pro รวมถึงคุมความร้อนดีกว่าด้วยนะ

3D Mark นั้นเป็นการทดสอบในการประมวลผลแบบ 3 มิติหนักในหลายระดับ ในคะแนนพวกนี้ตัว 3 มิติ เล่นเกม ทำงานเรนเดอร์ภาพ ด้วยการที่มันไม่มี การ์ดจอแยกเลยทำให้มัน ไม่ได้แรงอะไรมากนักใช้งานกลางๆพอได้เล่นเกมนิดหน่อย แอดมินทดสอบ 4 แบบตามภาพข้างบนเสร็จแล้วได้อุณหภูมิสูงสุดที่ CPU 78 องศา และ GPU 69 องศาครับผม เอาจริงๆถือว่าระบายได้ดีนะ ด้วยพัดลม 2 ตัวในความบางแบบนี้ถือว่าดีกว่าที่คิดเลยแหละ

Cinebench R15 นั้นที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู ทำไปได้ 77 FPS และ 747 cb ซึ่งอยู่ในระดับกลางๆของพวกตระกูล ประหยัดไป U ทั้งหลายของพวก CPU Gen 8 i7 ตัวนี้ครับ ส่วนในเรื่องของ SSD 512GB มาเลยครับในการใช้งานทั้งการเปิดโปรแกรม และทำงานทั่วๆ ไปได้เร็วมาก อ่านได้ 3456 MB/s และเขียน 1904 MB/s นะครับในค่าของการต่อเนื่องชุดละ 128 KB ทำงานพร้อมกันหลายหน่วยประมวลผล ทำได้ดีเลยนะตรงนี้

SCREEN

หน้าจอในรุ่นนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงมาใช้หน้าจอแบบ WLED ในความละเอียดFullHD HDR ครับหน้าจอในรุ่นนี้รองรับการใช้งานตัดต่อ แต่งภาพ รวมถึงดูหนังอะไรได้คมชัดเลยแหละ อีกทั้งยงเป็นหน้าจอระบบสัมผัส และรองรับการใช้งานปากกาอีกด้วย จากที่ใช้งานหน้าจอของมันในแง่ของสีสันต่างๆทำออกมาได้ดีครับ และหน้าจอแบบเงาแน่นอนว่าภาพจะสวยกว่าปกติทำให้เวลาทำงานอะไรต่างๆนั้นรองรับได้ดีครับ แต่ข้อเสียมันคือเวลาใช้งานข้างนอกและแสงรบกวนค่อนข้างเยอะนั้นทำให้หน้าจอมันมองได้ยากกว่าที่คิดครับ เหมือนจะไม่ค่อยสู้แสงเท่าไรนักในตัวจอนี้ หน้าจอเป็นจอแบบ 13.3″  FHD IPS micro-edge WLED-backlit รองรับระบบสัมผัส พร้อมด้วยกระจกหน้าจอจากทาง Corning® Gorilla® Glass NBT™ (1920 x 1080) ถือว่าปกป้องรอยได้ดีระดับนึงครับในการใช้งาน

เรื่องของมุมมองเอาจริงๆในตัวนี้แอบติดนิดนึงว่าเมื่อเปลี่ยนมุมมองนั้นภาพแอบดรอปลงชัดเจนกว่าตัวอื่นๆที่ลองมาในเรทราคานี้ หรือ IPS ตัวอื่นๆครับเช่นของ XPS /MATEBOOK พวกนั้นจอแอบทำได้ดีกว่านะในแง่ของมุมมองอื่นๆ ซึ่งตัวของ HP นั้นเหมือนจะดรอปลงและมองยากไปหน่อยในมุมที่ไม่ใช่ตรงๆ แต่ก็ไม่ได้แย่ครับในการใช้งานทั่วไป และอาจจะด้วยความสว่างที่ไม่ได้สูงมากนักเลยทำให้มองยากนิดหน่อยถ้าเอาเอียงๆในการใช้งานหรือมุมเงย แหงน

HP Sure View อีก 1 จุดเด่นที่ตระกูล Spectre เน้นเรื่องความปลอดภัยครับง่ายๆคือหน้าจอกันคนอื่นมาดู เวลาคนมองจากมุมมองอื่นๆที่ไม่ใช่มุมมองตรงๆนั้นทำให้มองได้ยากมากๆหรือไม่เห็นเลยนั้นเองครับ โดยทำการเปิดโดยการกด F1 ที่คียบอร์ด เมื่อเปิดแล้วจะเราจะเหมือนมีฝ้าบนจอครับเมื่อมองจากด้านข้างแบบในรูปที่แอดมินเทียบจะชัดเจนเลยว่ามองได้ยากกว่าเดิมมาก แต่ถ้ามองตรงๆก็ยังเห็นปกติ แม้จะไม่ได้ดีเท่ากับแบบปิด แต่ก็มองเห็นทำงานอะไรได้สามารถดูรูปเทียบได้เลยครับว่าเปิดปิดมันแตกต่างกันขนาดไหน และ มุมมองตรงๆนั้นต่างกันมากไหม ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ปกป้องความเป็นส่วนตัวได้ดีเลยครับ ยังมีพวกกดปิดกล้อง สแกนนิ้ว สแกนใบหน้าอีกครบเลย Security

TOUCH+PEN

การสัมผัสตัวนี้รองรับการสัมผัสในการใช้งานปกติ เหมือน Ultrabook ตัวอื่นๆที่ใช้งานระบบสัมผัสได้ การสัมผัสนั้นทำได้ดีนะในความลื่นไหลติดนิ้วหน้าจอนั้นไม่ได้หนืดเกินไปใช้งานรองรับได้ปกติตามภาษา Windows ครับสามารถใช้หลายๆนิ้วรองรับ Multitouch ได้ปกติดี ส่วนในเรื่องการสัมผัสและใช้งานปากกานั้นสามารถวางมือวาดรูปอะไรได้ปกติครับไม่มีปัญหา ตัวนี้นั้นให้ปากกามาด้วยจากทาง HP เองเลย Tilt Pen รองรับปุ่มบนปากกา และวาดรูปลงน้ำหนักได้ ในเรื่องการสัมผัสนั้นไม่มีปัญหาทั้งตัวนิ้วมือและปากกาของเราครับ เอียงเขียนอะไรได้ปกติรวมถึงลงน้ำหนัก

ปากกา HP Tilt Pen นั้นมีขนาดใหญ่กว่าปากกาตัวอื่นๆเล็กน้อย แต่ก็ยังดีที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้โดยการเหน็บเสื้อได้ครับมีตัวเหน็บมาให้แต่เสียดายตัวเครื่องไม่มีแม่เหล็กหรืออะไรมาสำหรับพกพาแบบไม่มีซองหนังครับ ในการจับวาด ปุ่มกดอะไรต่างๆนั้นวางตำแหน่งมาได้ดี ไม่โดนง่าย และก็สามารถจับวาดได้ค่อนข้างง่ายและ รองรับมุมเอียงอะไรได้ดีครับ ส่วนเรื่องน้ำหนักในการลงน้ำหนักเส้นปากกาก็จะหนาตามน้ำหนักเรา เหมาะแก่การ จด หรือ วาดรูป เขียนอธิบายได้ดีครับ จะติดแค่อาจจะลื่นไปนิดนึงเป็นปกติของปากกาที่ใช้กับจอพวกนี้ครับ สามารถวางมือลงไปได้ในการวาดหรือเขียน และ รองรับในการใช้แอปวาดภาพต่างๆ รวมถึง Skecth ก็ปรับแต่งน้ำหนักรองรับทำได้ดี

ในภาพอาจจะมี การวาดรูป

KEYBOARD

สำหรับตัวคียบอร์ดในรุ่นนี้เป็นคียบอร์ดโทนสีเข้มแป้นพิมพ์มีขนาดใหญ่พอสมควรและไม่มี Numpad มาให้นะครับตัวแป้นมีขนาดพอดีกับตัวเครื่องในด้านขอบซ้ายและขวา พร้อมกับปุ่มเปิดปิดเครื่องที่ย้ายไป ขอบมุมซ้ายที่ตัดเหลี่ยมของตัวเครื่องครับไม่ต้องกังวลว่าจะเผลอไปโดนปุ่มปิดแบบรุ่นอื่นๆ ตัว Arrow Key นั้นจะแอบกดยากไปนิดนึงในตัวขึ้นลงแต่ก็ถือว่าเป็นปกติในพวก Ultrabook นะครับเพราะต้องใช้พื้นที่ให้คุ้มค่ามากที่สุดในการจัดวางต่างๆ

ตัวนี้มีไฟ Blacklit มาให้ด้วยครับสามารถปรับได้ 3 ระดับไฟสีขาวค่อนข้างสว่างชัดเจนพอสมควรตัวอักษรมองง่ายในที่แสงน้อย และ กลางแจ้ง ส่วนระยะห่างของแต่ละปุ่มและระยะการกดนั้นทำได้ดี แต่ระยะการกดเมื่อเทียบกับบางตัวนั้นตัวนี้เหมือนจะรู้สึกตื้นกว่านิดหน่อยและพิมพ์รัวๆอาจจะไม่สะใจมากนัก แต่ผมชอบของ HP มากกว่าของ Macbook ตัวใหม่นะในแง่ของระยะการพิมพ์ที่กดลงไป และความรู้สึกเมื่อต้องพิมพ์บทความนานๆครับ

TOUCHPAD

ทัชแพดตัวนี้มีขนาดใหญ่และยาวพอสมควรครับ ซึ่งชอบเลยแหละทัชแพดตัวไหนที่มีขนาดใหญ่ และใช้งานได้อิสระแบบนี้เพราะทัชแพดนั้นสำคัญและจำเป็นในการใช้งานข้างนอก ในบางรุ่นนั้นจะมีขนาดเล็กทำให้ใช้งานลำบากไปหน่อย แต่จริงๆแล้วรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสอาจจะทำให้ทัชแพดไม่ได้จำเป็นอะไรมากนักแต่มีขนาดใหญ้แบบนี้ก็ตอบโจทย์ในการใช้งานได้ดีระดับนึงครับ และไม่มีปุ่มแยกซ็ายขวาทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องและลื่นไหลดีเลยแหละ

ทัชแพดในแง่ของการใช้งานหลายๆนิ้วหรือ Multitouch ตัวนี้ทดสอบแบบในหลายๆรุ่นคือวางนิ้วได้ทั้งหมดกี่นิ้วในการใช้งานและขนาดที่รองรับตัวนี้มาในแนวยาวทำให้รองรับได้ดีเลย รวมถึงการเลื่อนนิ้วไปมาทำได้ลื่นและตามนิ้วได้ดีครับ ทั้งการย่อแอป สลับแอป ปัดซ้ายขวาไม่เจออาการเอ๋ออะไรในการใช้งานตัวนี้ แต่เมื่อมีจอสัมผัสแล้วบางที ทัชแพดก็ไม่ค่อยได้ใช้ซักเท่าไรครับ

SPEAKER

ทางด้านลำโพงตัวนี้มาพร้อมกับลำโพงจากทางแบรนด์ Bang&Olufsen ครับเช่นเคยทางค่ายนี้จับมือกับแบรนด์ลำโพงแบรนด์นี้มาซักพักเลยแหละและร่วมกับพัฒนา เรื่อยๆสำหรับตัวนี้แน่นอนว่าแบรนด์นี้ถ้าใครคุ้นเคยเสียงนั้นจะเป็นเอกลักษณ์และออกไปทางแนวใสๆเคลียร์ๆครับ เบสจะไม่หนักแน่นมาก เน้นเสียงที่ใส่ชัด ฟังเพลง Audiophile ได้ดี และเช่นกันเมื่อมาอยู่ในตัว Spectre นั้นเสียงจะออกไปในแนยวทางนั้นเป๊ะๆเลยครับ เบสไม่ได้เยอะอะไรมากแต่มิติเสียง ความใส แหลม เคลียร์ของมันมาดีมาก ฟังเพลง ดนตรี บรรเลงได้ดีเลย รวมถึงเสียงร้องชัดเจน แต่ถ้าเบสหรือเสียงต่ำ เวลาดูหนังเล่นเกม อาจจะไม่สะใจเท่าไร แต่ได้ข้อดีคือลำโพง 4 ตัวที่วางไว้ข้างบน และ ข้างล่างซ้ายขวาทำให้มิติเสียง ซ้ายขวาชัดเจน และขับออกมาได้ดีเลยแหละรวมถึงมีโปรแกรมที่สามารถปรับแนวเสียงได้ครับ

CONNECTOR

ตัวพอร์ตเชื่อมต่อในรุ่นนี้มีมาให้พอถ้าเรามองในแง่ของพวก Ultrabook ที่เน้นความบางเบาเป็นหลักโดยช่องเชื่อมต่อนั้นแม้จะให้มาน้อยแต่ก็ยังมีตัวแปลงมาให้สำหรับเพิ่มช่องเชื่อมต่อ ในการต่อภาพออกจอทีวี หรือจะเพิ่มช่องเชื่อมต่อ USB-C หรือจะเป็น  USB-A ก็ได้ครับโดยแถมมาในกล่องเลยไม่ต้องไปซื้อแยก ส่วนการตัดมุมนั้นก็ใส่ปุ่ม Power เข้ามาตามขอบเครื่องพร้อมกับมีไฟแจ้งเตือนได้ดีครับว่าเปิดหรือปืดเครื่องอบู่ในขณะนั้น

มาที่ด้านซ้ายก่อนเลยครับด้านนี้จะเป็นที่อยู่ของปุ่มเปิดปิด ที่จะมีไฟแจ้งเตือนตรงปุ่มเป็นไฟสีขาว และ ช่อง USB-A แบบ 3.0 มาให้ในด้านนี้ และก็เรียบๆเลยไม่มีอะไรครับในด้านนี้ แต่จะเห็นการตัดขอบที่คมและสวย แต่ไม่บาดมือนะ

ในด้านขวาตัวเครื่องจะมีเยอะหน่อย USB-C Thunderbolt ทั้ง 2 ช่อง โดยช่องชาร์จไฟเข้าจะอยู่มุมเครื่อง และมีไฟสถานะสีขาวเล็กๆครับ จากนั้นจะเป็น รู 3.5มม. ต่อไปเป็น USB-C Thunderbolt  และจะเห็นสวิทช์เปิดปิด เหมือนกับปุ่ม ปิดเสียงบน iPhone อันนั้นคือปิดกล้องไม่ให้ทำงาน แม้เราจะกดเปิดใน Software แต่ถ้าอันนี้ปิดอยู่ก็จะไม่ทำงาน รักษาความปลอดภัยขั้นสุดเลย และ มีช่อง MicroSD ใส่มาให้ด้วย แต่เสียดายน่าจะเป็น SD Card นะ

BATTERY

อายุการใช้งานแบตนั้นหลังจากที่ได้ใช้งาน ก่อนอื่นต้องบอกว่าในรุ่นก่อนหน้า อายุแบตไม่น่าประทับใจเท่าไรหมดไวกว่าที่บอกและกินพลังงานไปไวครับ รุ่นนี้เลยต้องขอลองกันหน่อยและหลังจากที่ใช่งานหลายๆวันลองดูระยะอายุในการใช้งานได้เต็มที่ ทาง HP บอกได้ประมาณ 22 ชั่วโมง แต่เรามาดูในแง่การใช้งานจริงๆนั้นจะได้ประมาณ 12-14 ชั่วโมง หรือครึ่งวันแบบสบายๆถ้าใช้งานทั่วไปไม่ได้ทำงานเล่นเกมหนักๆนะครับ แต่ถ้าปิดอะไรหลายๆอย่างก็จะประมาณ 16+  ชั่วโมง ซึ่งดีกว่าตัวที่แล้วเยอะมากเลย และใกล้เคียงที่เครมครับ ส่วนระบบ Fast Charge ที่ให้มานั้น สามารถชาร์จไฟ 50% นั้นภาพใน 30 นาที แต่ถ้าเต็มๆนั้นใช้เวลา 90 นาทีโดยประมาณครับ และที่ชอบคือมันเป็นพอร์ตแบบ TYPE-C ทำให้สามารถชาร์จมือถือได้ที่รองรับ PD และ ยังมีขนาดที่เล็กมากกกในการพกพาไป ดูได้จากภาพด้านบนครับ และเป็นสายถักด้วยสวยงามเลยทีเดียวในด้านของการพกพาตัวชาร์จนั้นทำได้ดีไม่เกะกะเลย

GAMING

ในการใช้งานเล่นเกมตัวนี้ไม่มีการ์ดจอแยกแน่นอนว่า สงสารมันนิดนึงงถ้าจะเอามาเล่นแต่ถ้าไม่ไหวอยากเล่นจริงๆมันก็พอรองรับได้แก้ขัดแบบขำๆครับด้วยการที่ไม่มีการ์ดจอแยกทำให้มันต้องใช้ INTELUHD 620 ในการประมวลผล 3 มิติ ซึ่งจริงๆมันรองรับได้นะในระดับเริ่มต้น-ปานกลาง แต่ถ้ามี  MX150 จะสุดกว่านี้ แต่เราก็ขอลองหน่อยละกัน ในการเล่นเกมทั้ง APEX / OVERWATCH เกมที่รองรับได้ในระดับเริ่มต้น มันก็เล่นได้นะแบบเล่นได้จริงๆแต่ภาพเข้าขั้นธรรมดาได้ครับ FPS 20-30 ถ้าเอาลื่นๆจริงๆ แต่เราปรับภาพสวยได้แต่กระตุกแน่นอน ปรับต่ำสุดพอเล่นได้ครับจะได้ภาพตามภาพตัวอย่างด้านล่างเลย เรื่องความร้อนมีบ้าง 65-75 แต่มีพัดลมถึง 2 ตัวซึ่งจัดว่าดีกว่าที่คิด ด้วยตัวเครื่องที่บางและไม่ได้ออกแบบมาสำหรับเกม เลยอาจจะทำให้มันสะสมได้ง่าย เอาเป็นว่าเล่นได้แต่ไม่แนะนำมากนัก

WORKING 

ในด้านการทำงานของรุ่นนี้แน่นอนว่า Ultrabook รองรับการทำงานได้ดีระดับนึงและทำงานพื้นฐานได้ดีครับทั้งพวกตระกูล Microsoft Office ที่มีมาให้ไม่ต้องไปซื้อทำงานสลับแอพได้อย่างไร้ปัญหา รวมถึงการทำงานตัดต่อ แต่งรูปก็ทำได้ดีไม่เจอปัญหา หรือความร้อนที่เยอะอะไรครับใช้ได้สบายๆ รวมถึงการใช้หน้าจอสัมผัสก็รองรับการทำงานแอปบางอย่างที่ทำงานร่วมกับปากกาได้ดี เช่นสายทำงาน สถาปนิคก็วาดภาพ แก้แบบแปลนผ่านปากกาได้ด้วย  Autocad Mobile ที่ทำให้เราใช้ปากกา และ อะไรได้ง่ายเวลาออกนอกสถานที่ รวมถึงการวาดแก้ไขแบบรวดเร็วครับ มันเลยเหมาะอย่างมากในการทำงานจริงๆจัง ที่แก้ไขงาน หรือจะเป็นการวาดอะไรต่างๆก็ทำได้ดีครับ เหมาะสำหรับสายงานกราฟฟิค สถาปนิค ทั้งหลาย หรือจะเป็นสายแต่งภาพอะไรก็ทำได้ดีครับ ทั้งหน้าจอที่รองรับดี และ แบตที่ยาวนานมากๆ หรือใครจะขอแค่เอามาทำงานทั่วไปก็ไม่มีปัญหาเลย ทั้งเรื่องความร้อน แบต หน้าจอ อะไรนั้นตอบโจทย์ได้ดีมากครับ

HP SPECTRE 13 X360 

“พกพาง่าย ตอบโจทย์สายทำงาน วาดรูป แบตอึด แต่เสียดายไม่มีการ์ดจอแยก “

มันลงตัวในหลายๆอย่างลองและโอเคชอบแต่ด้วยราคานี้เราอาจจะหวังให้ใส่การ์ดจอแยกมาซักนิดนึงก็ยังดี ส่วนในแง่ของการออกแบบมันกิดขาดเลยแหละ ชอบตั้งแต่ที่เห็นการตัดมุม การใช้โครงสีทองเงา ขึ้นรูปได้สวยงามรองรับการใช้งานได้หลากหลายแค่นี้ก็โดนเลย รวมถึงรองรับปากกา วาดภาพอะไรได้สบายพับจอได้ ลำโพงดังเสียงใส แต่ก็แอบขาดเสียงเบสไปหน่อย วัสดุงานประกอบทำได้ดีแข็งแรงครับ แต่ก็มีบางส่วนที่ติดๆเช่นจอไม่สูแสงมากนัก และ มุมมองอาจจะยังไม่โหดมาก แต่สีทำได้ตรงอยู่นะ ลำโพงที่ขาดเสียงเบสไปพอสมควร และ เรื่องของการ์ดจอไม่มีแยกมาให้ขอพวก MX150 ก็ยังดี ส่วนเรื่องอื่นๆก็ยังไม่ติดปัญหาอะไรครับในการใช้งานมาหลายๆวัน มันตอยโจทย์เฉพาะกลุ่มที่ต้องการความสวย แพงดูดี รองรับปากกาและใช้งานได้อิสระ แต่ไม่ได้เน้นความแรงอะไรมากเน้นแบตอึดตัวนี้ก็ตอยโจทย์สำหรับท่านๆทั้งหลายที่กำลังหา ความพรีเมี่ยม และ การใช้งานทั่วไปครับ

ข้อดี

  • หน้าจอสวย คม มีโหมดป้องกันคนอ่านด้านข้าง
  • การออกแบบสวย พรีเมี่ยมมาก ตัดขอบสวยมาก
  • ลำโพงเสียงดี มิติเสียง เสียงใส แต่เบสน้อย
  • บางเบา พับได้หลากหลายการใช้งาน ข้อพับแข็งแรงกว่าเดิม
  • รองรับปากกา และ สัมผัสได้ลื่นไหลติดนิ้ว
  • ระบบความปลอดภัยครบทั้ง สวิทปิดกล้อง ป้องกันหน้าจอ สแกนนิ้วมือ
  • Touchpad ขนากใหญ่ใช้งานง่าย
  • แบตอึดกว่ารุ่นเดิม ใช้งานได้ 14+ ชั่วโมง

ข้อสังเกต 

  • ไม่มีช่องใส่ SD Card
  • ขาดการใช้งานในด้านของ Numpad
  • หน้าจอ เงาใช้นอกสถานที่แสงกระทบเยอะมองยาก
  • ขอบหน้าจอ บนและล่างยังมีความหนาไปหน่อย

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr