ก่อนที่จะไปส่วนรีวิวจริงๆทางแอดมินเองนั้นได้รับเชิญไปร่วมงานเปิดตัวที่ สิงคโปร์และได้ไปร่วมงานเปิดตัว Gadgets Ecosystem ของค่ายนี้แบบจัดเต็มเหมือนกับที่จัดที่ไทยเลยแต่เป็นการเปิดตัวที่ประเทศ สิงคโปร์ครับ แน่นอนว่ามาครบจัดเต็มเช่นกันแต่ที่น่าสนใจคืองานเปิดตัวนั้นจัดได้ดีมากๆคือมันมาในธีม TECH MEETS FASION แน่นอนว่าด้วยคำนี้ทำให้มันเป็นมากกว่าอุปกรณ์แต่สื่อถึงความสวยงามและ FASION ด้วยนั้นเอง จึงจัดมาในธีมที่คล้ายๆกับเดินแบบเลย และมีการแสดงเต้น เดินแบบที่แปลกแหวกแนวและรวมถึงการจัดงานไม่ใหญ่ทำให้ ดูเข้าถึงได้ง่ายด้วย

โดยในงานนั้นจะเปิดตัวทั้ง FreeBuds 3 พร้อมกับ Huawei Band 4 และ รวมถึง Watch GT2 ครับ และยังเอาแว่นตาตัวเทพมาโชว์ในงานตัว Huawei Gentle Monster นั้นเองที่ล้ำมากๆ และจากที่ได้มีการพูดคุยกับทางค่ายและทีมงานของสิงคโปรนั้นต้องบอกว่า แบรนด์แว่นตาอันนี้มีชื่อเสียงและนิยมกันมากๆในประเทศนี้ครับถือว่าน่าสนใจ

ในการเดินแบบนั้นก็จะเป็นส่วนๆกันไปแล้วแต่สินค้า ก็จะเด่นแสดงแตกต่างกันไปครับ เต้นท่าแปลกๆเท่ๆและสนุกพอสมควร และ เป็นช่วงๆไปสื่อถึงการใช้งานหรือฟังเพลงเต้นอะไรยังไงก็ไม่หลุดเลย รวมถึงใส่ตัวแว่น และ นาฬิกา Watch GT2 ด้วยเช่นกันครับเป็นธีมงานที่แปลกใหม่และน่าสนใจเหมือนกัน ในไทยไม่ค่อยเห็นมีใครจัดแบบนี้ซักเท่าไรครับ ก็ถือว่าเป็นอะไรที่น่าลองมากๆในประเทศไทย และ เข้ากับชื่อธีม TECH MEETS FASHION มากๆเลย

Huawei Watch GT 2 นั้นได้เปิดตัวในไทยไปไม่นานครับและต้องบอกว่าเข้าก่อนหลายๆประเทศพอสมควรและทางประเทศไทยนั้นก็เอาเข้ามาครบทุกรุ่น กันเลยทีเดียว แน่นอนว่าในรุ่น 2 นั้นหลังจากเปิดตัวก็ได้เห็นการพัฒนาอะไรหลายๆอย่างจากรุ่นแรกที่เราเคยรีวิวไปทั้งเรื่องของหน้าจอ ดีไซน์ รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆและแน่นอนว่าจะเป็นการพัฒนาในเรื่องของการใส่ ไมค์รองรับเสียง โทรศัพท์ต่างๆได้เลยผ่านตัวนาฬิกา รวมถึงมีลำโพงในตัวแล้วด้วย ทำให้เปิดเพลงฟังเพลง ควบคุมเพลงอะไรได้เลย หรือจะฟังจากตัวนาฬกาก็ทำได้ครับ และ ยังพัฒนาเรื่องของแบตให้อึดกว่าเดิมด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นการพัฒนาต่อยอดได้ดีมากๆจากรุ่นเดิม และใช้งาน Kirin A1 ลงน้ำได้ 50 เมตร รวมถึงการ Traking ที่หลากหลายขึ้นครับถือว่าตอบโจทย์และเรียกว่า Smartwatch ได้เต็มขึ้นกว่ารุ่นแรกแบบชัดเจน

สำหรับ Huawei Watch GT2 นั้นจะเปิดราคาขายในประเทศไทยที่ ขนาด 46 มม. นั้นจะมีราคาที่ 6,990 บาทสำหรับรุ่น Classic และ ราคา 6,490 สำหรับรุ่น Sport ในตัวรีวิวนั้นเองครับ จะมาพร้อมกับสายสีส้ม และ สายสีดำนั้นเอง และ ยังมีรุ่น 46 มม. แบบ Elite สายเหล็กจะราคา 7,990 บาทไทย  และ ยังมีขนาด 42 มม. ให้เลือกใช้งานกันสำหรับสาวๆครับ ก็จะมีราคาตั้งแต่ 5,990 ถึง 6,990 แล้วแต่รุ่นนั้นเอง

DESIGN

ในด้านของการออกแบบตัวนี้ต้องบอกว่าตอนเห็นคือสวยและพัฒนาต่อจากรุ่นแรกด้วยการที่ปรับขอบให้บางขึ้นใช้กระจกเต็มพื้นที่มากกว่าเดิมและขอบไม่ได้นูนออกมาเยอะ แต่ก็ปกป้องได้น้อยลงครับ จริงๆดีไซน์ดูดีมากๆ และด้วยการที่ใส่ฟีเจอร์ต่างๆเข้ามา ทำให้มันใส่ได้ทุกวันออกไปแนวทางหรูหราซะมากกว่าเดิม ซึ่งไม่ได้เน้นออกกำลังกายอย่างเดียวแบบรุ่นแรกแล้ว ส่วนวัสดุน้ำหนักอะไร กลางๆครับเป็นพลาสติก +สแตนเลส ผสมกันไป ไม่ได้ดูเบาเกินไป และไม่ได้หนักเกินไป ทั้ง ชาย และ หญิง แต่ถ้ามองผ่านๆนั้นอาจจะไม่ได้แตกต่างแบบชัดเจนจากรุ่นแรกแต่รายละเอียดนั้นแตกต่างกันพอสมควรเลย ทางด้านปุ่มต่างๆนั้นในด้านขวาก็ยังมีมาให้เหมือนกันแบบเดิมเลยครับ

ในการออกแบบด้านหน้ามาในโทนสีดำล้วนหน้าจอวงกลมเต็ม สู้แดดได้ดีและคมชัด ส่วนรอบๆหน้าปัดก็เป็นฝาครอบเซรามิก, Shell สแตนเลสและเคลือบ DLC ประกบกันได้เนียนดี รวมถึงน้ำหนักไม่ได้เบาเกินไป ขายึดสายทั้ง 2 ข้างก็ทำได้ดี มีความแข็งแรงและรองรับการเปลี่ยนสายได้ง่าย ส่วนด้านหลังเป็นพลาสติกด้าน พร้อมเซนเซอร์ ทั้ง 4 จุดและ แม่เหล็กสำหรับชาร์จไฟเข้าครับ ตัวน็อตยึดอะไรมีมาให้ 4 มุมตรงตัวเรือนแบบเดียวกับรุ่นแรกทั้งหมดเลย

ด้านข้างตัวเรือนของนาฬิกาทั้ง 2 ข้างนั้นจะเห็นถึงความหนาที่ไม่ได้แตกต่างกับรุ่นแรกเท่าไรรวมถึงทางด้านวัสดุเองก็เช่นกัน วัสดุ พลาสติก เซรามิค และ สแตนแลส ซึ่งบอดี้หลักๆจะเป็นสแตนเลสนั้นเอง ส่วนปุ่มทั้งหมด มี 2 ปุ่มคือด้านขวาครับกดสั่งงานอะไรได้ แต่ไม่สามารถหมุนอะไรได้ครับเป็นปุ่มกดปกติ และจะเห็นว่าในด้านขวานั้นจะเป็น ลำโพงหลักๆ และในด้านซ้ายนั้นใส่ไมค์สำหรับรองรับเสียงมาให้แล้ว และใส่มาในด้านที่คุยได้ค่อนข้างชัดเจนเลย

สายตัวนี้เป็นสายแบบ ซิลิโคนทั้งเส้น สามารถเปลี่ยนสายทั่วไปได้ตามร้านนาฬิกา ใช้สายขนาด 22 มม.สามารถเปลี่ยนได้เลย และสายเดิมก็ค่อนข้างถอดได้ง่าย เป็นสลักแบบในภาพด้านบนเลยครับ และตัวสายนั้นมีตัวช่องล็อคสำหรับใส่ข้อมือรองรับขนาดใหญ่ๆหรือคนข้อมือเล็กได้ดีมาก เจาะรูยาวและเยอะมากเลยแหละ สาวๆใช้ได้สบายครับ

SPEC

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 2 สัปดาห์ หรือ 14 วัน
  • ชิปประมวลผล Kirin A1
  • ความจุในตัวเรือน 2GB
  • รันด้วยระบบปฏิบัติการ LiteOS
  • รองรับ GPS, อัตราการเต้นหัวใจ
  • กันน้ำมาตรฐาน 5 ATM
  • RAM 32 MB  // STORAGE 4 GB
  • GPS, GLONASS, GALILEO
  • Accelerometer sensor / Gyroscope sensor / Geomagnetic sensor / Optical heart rate sensor / Ambient light sensor / Air pressure sensor / Capacitive sensor\
  • กันน้ำได้ที่ความลึก 50 เมตร หรือ 5 ATM
  • แบตเตอรี่ ใช้งานได้ 14 วัน
  • ชาร์จไฟเข้า 5V 0.5 A / 1 A / 1.5 A / 2 A
  • รองรับ  Android OS 4.4 ขึ้นไป หรือ iOS 9.0 ขึ้นไป
  • สายมีขนาด 22 m.m
  • ขนาด 46.5 x 46.5 x 10.6 มม
  • น้ำหนักทั้งหมด  46 กรัม ไม่รวมสาย
  • Bluetooth 5.1

SOFTWARE

ทางด้านระบบที่ใช้ในมือถือนั้นต้องใช้แอพ Huawei Health นะครับ โหลดจาก Playstore ได้เลยไม่ต้องไปสแกนบนตัวนาฬฺกาให้ยุ่งยากนะครับ เหมือนโหลดมาแล้วก็เชื่อมต่อปกติได้เลยไม่มีอะไรยากครับ เปิด Bluetooth บนมือถือแล้วมันก็จะจับหามาให้ แอปนั้นใช้งานง่ายครับ มีภาษาไทยอะไรเรียบร้อย และ หน้าตาใช้งานไม่ยุ่งยากครับผม และ ยังรองรับการใช้งานกับ Android , iOS ทั่วไปได้ครับ และ สามารถใช้งานกับ Mate 30 Pro ได้ปกติเลย

หน้าตาในการใช้งานแอปนั้นจะมี 4 หน้าหลักๆคือ หน้าหลักภาพซ้ายสุด คอยสรุปทั้งหมดในเรื่องของการออกกำลัง หน้าถัดมานั้นคือการเข้าโหมด ออกกำลังที่สามารถเข้าผ่านมือถือหรือ นาฬิกาก็ได้ และยังมี ครูฝึกให้เราด้วย ส่วนขวานั้นจะเป็นข้อมูลนาฬิกาของเรา และ บอกสถานะล่าสุดต่างๆของนาฬิกา และตัวขวาสุดนั้นเป็นข้อมูลส่วนตัว การตั้งค่าเป้าหมายและน้ำหนักอะไรพวกนี้ไปตั้งค่าได้เลยครับ

เมื่อเข้ามาในส่วนนาฬิกานั้นก็จะเป็นรายละเอียดว่าจะให้ตั้งแจ้งเตือนอะไรบ้างแอปไหนบ้าง รวมถึง ข้อมูลการแจ้งเตือนต่าง เรื่องของชีพจรจับตลอดเวลาไหม แจ้งเตือนนั่งนานเกินไป เพลง อะไรพวกนี้ ความเครียด หรือ สภาพอากาศพวกนี้ครับตั้งค่าได้หมด รวมถึงการกู้ข้อมูลทั้งเรื่อง ระยะทาง แคลที่เผาพลาญไป พวกนี้ครับ และอัปเดตซอฟท์แวร์ในหน้านี้ได้เลยบรรทัดล่างๆ

ในส่วนของการตั้งค่าการจับชีพจรก็สามารถตั้งได้ว่าจะเอาแบบไหนยังไง ตั้งเรทของเราหรือว่าจะให้วัดอะไรตอนไหนได้ทั้งหมดเลย และ ยังมีฟีเจอร์การวัดความเครียดของเราด้วยว่าตอนนี้เป็นยังไงกันบ้าง และที่น่าสนใจคือรุ่นนี้ใส่การเก็บเพลงเข้ามาแล้วทำให้เราฟังเพลงผ่านตัวนาฬิกาได้ และเปิดตัวผ่านหูฟังไร้สายได้ และควบคุมเพลงในมือถือได้ แล้ว เพราะในรุ่นแรกเราบ่นไปและในรุ่นนี้ก็ใส่เข้ามาให้แล้วนั้นเองครับ

ทางด้านหน้าตา Watchface ต่างๆนั้นมีให้เลือกทั้งหมดตามภาพเลยครับถือว่าเยอะพอสมควรทั้งหน้าตาแบบหรูๆหรือว่าจะเป็นสายออกกำลังต่างๆและแน่นอนว่าตอบโจทย์ได้พอสมควร แต่ยังไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้เยอะมากนักและ ยังไม่สามารถใช้งานหน้าตาอื่นๆนอกเหนือจากที่ให้โหลดที่นี้ได้ครับ แต่ก็เปลี่ยนสีอะไรได้บ้างนิดหน่อยบางตัว

FEATURE

ฟีเจอร์ในการใช้งานนั้นต้องบอกว่า ให้มาเยอะมากกว่าเดิมในแง่ของการควบคุมเพลง การรับสาย คุยโทรศัพท์ แต่ในบางส่วนเช่นการโหลดแอพเพิ่ม หรือจะเป็นการตอบกลับข้อความ หรือหน้าตา Watchface ก็ยังจำกัดอยู่ครับไม่ได้เป็นระบบเปิดเท่าไร แต่ในส่วนฟีเจอร์ที่มันน่าสนใจที่มันทำได้ก็มีเช่น การวัดชีพจร / มี GPS ในตัว / การจับการนอนหลับ /  Tracking การออกกำลังต่างๆ / แจ้งเตือนเวลามีคนโทรมา ส่งข้อความ รับสายได้ คุยได้เลย / ตั้งนาฬิกาปลุก / เข็มทิศ / สภาพอากาศ / วัดความดันบรรยากาศ ความสูงต่างๆ / จะเห็นว่ามันจะเน้นไปทางสายออกกำลัง หรือ สายลุยซะมากกว่าแต่ก็มีการ ควบคุมเพลง ใส่เพลงในตัว มาให้เพิ่มแล้ว และ รับสาย คุยได้เลยครับ

หน้าปัดนั้นสามารถกดค้างและเปลี่ยนหน้าตาเลื่อนได้นิดหน่อยครับผม และ ถ้าไม่พอก็สามารถโหลดในแอพได้เช่นกัน ส่วนเมื่อเลื่อนลงมานั้นจะคล้ายๆตัว Quick Setting ตั้งค่าเลือกตั้งอะไรได้แบบด่วนๆครับผมทั้งเรื่อง ปลุก หรือ หาโทรศัพท์ และ เลื่อนซ้ายขวาก็จะใช้งานโหมดต่างๆทั้งการจับชีพจร และ การวัดความเครียดครับ

ยังมีในส่วนของการบอกสภาพอากาศ และ วงแหวนการเดิน การก้าวต่างๆและการออกกำลังคร่าวๆครับ และในครั้งนี้สามารถควบคุมเพลงได้แล้วทั้งเรื่องของเพลง บนตัวนาฬิกาที่จะเล่นผ่านลำโพงนาฬิกา หรือจะเป็นเพลงบนมือถือที่รองรับ Spotify นั้นเอง หรือแอพอื่นๆก็สามารถรองรับได้เลยครับ

การออกกำลังนั้นสามารถกดเริ่มได้เลยผ่านตัวนาฬิกา โดยที่ไม่ได้พกมือถือออกไป Stand Alone ล้วนๆครับเพราะมี GPS ในตัว  ส่วนในเรื่องการจับชีพจรอะไรพวกนี้ก็ทำได้ดี แต่เสียดายหน้าปัดติดตลอดเวลาไม่ได้ครับ แต่มันก็จะแจ้งเตือนเวลาถึงระยะทางที่กำหนด ไว้หรือเกินครึ่งทางก็จะบอกว่าใกล้ถึงระยะที่กำหนดแล้วนะ เมื่อขี่เสร็จก็จะมาสรุปการใช้งาน และมาซิงค์กับมือถือตอนกลับมาที่บ้าน ก็จะมีบอกครบๆทั้งแผนที่และรายละเอียดทั้งหมด

ส่วนการใช้งานอื่นๆนั้นเรามาดูเมนูกันก่อนครับคร่าวๆเมื่อกดปุ่มมะยมด้านบนจะเป็นการเข้าหน้าเมนู แต่ถ้ากดค้างจะเป็นการล็อคหน้าจอนะครับไม่ให้ไปโดน ส่วนเมนูในการใช้งานก็ตามภาพเลยมีมาให้เพียงพอใช้งานทั่วไปครับสบายๆเลยทั้งตัวเพลง เข็มทิศ หรือจะเป็น การวัดสภาพอากาศ ความกดอากาศต่างๆ และ ความเครียดด้วยนั้นเอง

ในการใช้งานพื้นฐานยังมีในเรื่องของ ไฟฉาย หามือถือของเรา นาฬิกาปลุก และการตั้งค่านั้นสามารถตั้งค่าหน้าจอได้ ปุ่มได้ว่าจะกดแล้วเป็นอะไร การเชื่อมต่อหูฟัง หน้าจอ Always ON หรือจะเป็น ความสั่นแรง และการเชื่อมต่อครับ

NOTIFICATION รองรับภาษาไทยทั้งหมด 

แน่นอนว่ารองรับภาษาไทยแล้วและสามารถอ่านได้เลยทั้งพวก LINE – MASSENGER แต่ก็ได้แค่อ่านเท่านั้นครับ จะแตกต่างกับพวก Smartwatch บางตัวที่เราสามารถตอบได้ กดไลค์ตอบอะไรได้ หรือ คำสั่งเสียงอะไรแบบนั้นครับ แอบเสียดายว่ามีไมค์แล้วแต่ไม่สามารถตอบกลับได้เลย ส่วนการแจ้งเตือนโทรศัพท์ก็เด้งมาบอกว่าใครโทรมา และกดรับสายวางสาย และคุยผ่านตัว นาฬิกาได้แล้วครับ แต่เสียดายน่าจะทำอะไรได้มากกว่านั้นนิดหน่อย ในด้านของข้อความต่างๆ  และการควบคุมเพลงอะไรต่างๆนั้นก็ใส่เข้ามาแล้ว เรียกได้ว่าปรับปรุงจากรุ่นแรกเยอะพอสมควร

FEELING

ในการใช้งานแบตกันก่อนเลยถ้าแบบไม่ชาร์จแบตก็ต้องยอมรับว่า อึดจริงครับแต่ถ้าแทรกเยอะๆหรือเล่นเยอะๆอาจจะไม่ถึง 14 วันแต่ก็อึดกว่าหลายๆตัวที่ฟีเจอร์พอๆกันครับ ทางด้าน Kirin นั้นยังคงเด่นเรื่องนี้จริงๆ และการใส่ไม่เกะกะเกินไป การออกแบบทำได้ลงตัวใส่ได้ทั้งวัน ทั้งออกงาน หรือ ออกกำลังกายตัวสายเป็นซิลิโคนแข็งไปนิดหน่อย ไม่ได้นุ่มแบบบางตัว แต่ก็หาเปลี่ยนได้ไม่ยากครับ สายยังไม่เจออาการแพ้อะไรแม้จะใส่ทั้งตอนนอนหรือตอนตื่น ถอดแค่ตอนอาบน้ำเท่านั้นครับ ก็ยังไม่แพ้อะไรนะในจุดนี้ ส่วนตัวระบบที่ใช้งานกับนาฬิกาก็ทำได้ดีครับไม่หน่วงไม่เอ๋ออะไร เรื่องการใช้งานกันน้ำตัวนี้ทำได้ดีรองรับมากถึง 5ATM แน่นอนว่าใส่ว่ายน้ำสบายๆครับ และใช้งานทั่วไปก็สบายๆชอบตรงที่มันใส่ได้ไม่ต้องกังวลเลยแหละ และ ยัง Stand Alone ได้จริงๆไม่ต้องพกมือถือเวลาออกกำลังกายด้วย และการออกแบบรุ่นนี้มาพร้อมกับ 42/46 ที่การออกแบบแตกต่างกันไปทำให้ สาวๆก็ใช้รุ่น 42 กันได้ลงตัวเลยครับ

SCREEN

หน้าจอของรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบ AMOLED กระจกแบบ 3D ที่แตกต่างกับรุ่นแรกครับ และเป็นหน้าจอที่สว่างชัดเจน เต็มวงกลม 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454, PPI 326 ที่รองรับการปรับแสงแบบ Auto ได้ด้วยครับไม่มีจอแหว่งแบบบางรุ่น รวมถึงความคมชัดอะไรทำได้ดีมากๆเป็นจอไม่กี่รุ่นที่ทำได้สูเแสงได้ดีทั้งความดำสนิทและสีสัน จอสู้แสงได้ดี ตามภาพเลยถ่ายกลางแจ้งมุมสะท้อนๆก็ยังพอเห็นได้ชัดเจนครับสำหรับใครชอบใช้ข้างนอก กลางแจ้ง ส่วนการสัมผัสด้วยตัวระบบที่ไม่ได้มีอะไรเยอะทำให้มันไม่หน่วงเลย และติดนิ้วใช้งานได้ลื่นไหลดีเหมือนกับรุ่นแรกเลย และการออกแบบขอบมันเต็มจอมากขึ้นก็สวยขึ้น

HUAWEI WATCH GT2

” พัฒนาขึ้น ใช้งานได้ครอบคลุมมากกว่าเดิมแบบชัดเจน ตอบโจทย์ได้ดีกว่าเดิม “

แทรกฟีเจอร์ให้มาสมกับเป็น Smartwatch มากกว่าเดิมและใช้งานได้ครอบคลุมมากกว่าเดิม แต่ก็ยังมีบางส่วนที่แอบจัดใจ เช่นในการตอบกลับข้อความเพราะยังไงก็ใส่ไมค์เข้ามาแล้วแต่ก็ยังตอบกลับข้อความด่วนไม่ได้อันนี้เสียดายจริงๆ และในเรื่องของการรองรับแอปโหลดเพิ่มเติมนั้นยังไม่สามารถทำได้ เช่นพวกแอปภายนอกทั้งหมด ถ้าใครติดพวก Starbucks อะไรแบบนั้นก็ไม่มีเลย หรือจะเป็นแอพออกกำลังของที่อื่นก็ไม่สามารถใช้งานหรือซิงค์ได้เลย แอบเสียดายจริงๆ และในตัวภาพรวมนั้นต้องบอกว่าใช้งานได้ดี ทั้ง การออกกำลัง ใช้งานทั่วไป ฟังเพลง ติดตามต่างๆนั้นทำได้ดี ลงตัวกว่ารุ่นแรกเยอะครับ และชอบที่คุยผ่านนาฬิกาได้เลย ลำโพงดังใช้ได้และกันน้ำได้ดีครับ  และที่สำคัญคือแบตอึดมากๆใช้งานได้สบายๆ อาทิตย์นึงชาร์จทีนึงยังได้เลย ถือว่าเป็นจุดเด่นที่สุดของรุ่นนี้ก็ว่าได้เลย

ข้อดี

  • ดีไซน์การออกแบบ และ วัสดุทำได้ดี
  • แบตใช้งานได้อึด ใช้งานทั้งอาทิตย์สบายๆ
  • สายถอดเปลี่ยนได้ง่าย
  • รองรับฟีเจอร์การใช้งานหลากหลายมากขึ้น
  • รับสาย และคุยผ่านนาฬิกาได้เลย
  • รองรับภาษาไทย
  • สามารถควบคุมเพลง ใส่เพลงบนนาฬิกาได้แล้ว
  • น้ำหนักเบา ใส่สบาย
  • หน้าจอสู้แสงได้ดีและสวยงาม

ข้อสังเกต

  • ระบบยังคงปิด ไม่รองรับการโหลดแอพเพิ่ม เช่น STARBUCKS และอื่นๆในการใช้งานเสริม หรือ ซิงค์
  • หน้าตาหน้าปัดยังมีจำกัด
  • ไม่รองรับการตอบกลับข้อความ แม้จะมีไมค์
  • Always ON ยังคงมีแค่ 2 แบบ
  • การใช้งานยังมีหน่วงนิดนึง

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr