Huawei นั้นหลายๆคนอาจจะไม่รู้ว่ามีสินค้าหลากหลายพอสมควร แน่นอนว่าเป็นอีกแบรนด์ที่ ECOSYSTEM ค่อนข้างเยอะและพยายามทำ ECOSYSTEM ของตัวเองพอสมควรและในครั้งนี้ก็มาพร้อมกับ LAPTOP ที่ใช้งาน AMD RYZEN 7 ด้วยครับแต่รุ่นนี้จะยังคงเป็น 3000 SERIES นะครับยังไม่ใช่รุ่นล่าสุด ส่วนทางด้านสเปกนั้นใช้งานเหมือนกันครับทั้ง 2 ขนาด ทั้ง D14 D15 ครับ เพราะในส่วนอื่นๆนั้นจะเหมือนกันเลยครับทั้ง CPU VGA และ SSD พวกนี้สเปกเดียวกันครับ และจะแตกต่างกันในเรื่องของหน้าจอที่แตกต่างกันครับ และในครั้งนี้เราเลยเอามารีวิวทั้ง 2 หน้าจอเลย ที่แตกต่างกันครับ ก็ถือว่ามันค่อนข้างออกมาตอบโจทย์สำหรับ HUAWEI เพราะมันจะมีฟีเจอร์รองรับ การใช้งานในการโอนย้ายข้อมูลต่างเพราะมันมี HUAWEI SHARE ทำให้โอนย้ายไฟล์ลงคอมได้ง่ายมาก และ มีระบบการแชร์หน้าจอมือถือไปลงคอมได้เลย เหมือนยกหน้าจอมือถือไปลงคอมได้เลย ซึ่งสะดวกมากๆเลยครับจุดนี้

HUAWEI MATEBOOK D14 D15 นั้นจะใช้งาน สเปกอัปเดตใหม่คือใช้งานตัว RYZEN 7 3700U พร้อมกับ AMD Radeon VEGA 10 แบบ ออนบอร์ด รวมถึงให้ RAM 8GB DDR4 และใช้งาน SSD m.2 512GB แรวมถึง สเปกอื่นๆนั้น จะใช้งาน Wireless 801.22ac 2×2 MIMO, Bluetooth 5.0 และ กล้องหน้าแบบซ่อนในตัวคีย์บอร์ด HD ครับ แน่นอนว่าสเปกทั้ง 2 ขนาดนั้นจะเหมือนกันเลยจะแตกต่างกันแค่หน้าจอที่มี 15.6 นิ้ว FHD IPS 16:9 และ ในตัวเล็กนั้นจะเป็น 14 นิ้ว FHD IPS 16:9 250 nits แต่ตัวเล็กจะกางได้แบนราบไปกับพื้นเลยครับ แต่ตัวใหญ่จอจะกางออกได้ไม่กว้างเท่าแค่นั้นครับ และในส่วนของ กำลังของลำโพง:2 W x 2 ตัวครับ และ ไมโครโฟน:2 ตัว ก็ถือว่าในเรื่องของสเปกนั้นจะไม่ได้แตกต่างกัน แต่เลือกในส่วนของหน้าจอว่าชอบขนาดไหนแค่นั้นครับก็ถือว่าเป็นการจัดสเปกที่ดีไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไร เน้นแค่หน้าจอว่าจะเน้นชอบหน้าจอเล็กหรือใหญ่  และอีกจุดคือในตัวนี้จะเป็นการชาร์จแบบ PD ผ่านพอร์ต USB-C ได้เลย  และมี HUAWEI Share ที่สามารถแชร์ไฟล์ รูปภาพ วิดีโอ และข้อมูลจากมือถือ Huawei ที่ใช้ EMUI 10  ขึ้นไปบนหน้าจอคอมได้เลยครับไวมากๆ

HUAWEI MATEBOOK D14 ราคา 21,990 บาท ประกัน 2 ปี
HUAWEI MATEBOOK D15 ราคา 19,990 บาท ประกัน 2 ปี

UNBOX

อุปกรณ์ในตัวกล่องนั้นทั้ง2 ขนาดให้มาเท่ากันครับคือมี ตัวคู่มือ ที่ชาร์จ USB-C ที่รองรับ PD รองรับการชาร์จสูงสุด 65W และ สาย USB-C ไป USB-C แน่นอนว่าสายชาร์จตัวนี้นั้นรองรับการชาร์จกับมือถือด้วยใช้งานได้เลยครับ ทำให้ข้อดีของมันคือสามารถ ชาร์จไวกับมือถือได้และการพกพานั้นไม่ยากเลยครับเหมือนที่ชาร์จมือถือทั่วไปเลยแหละ

DESIGN

งานออกแบบนั้นเน้นความเรียบง่ายครับโทนสีเงิน สีเทาเข้มสวยงามพร้อมกับฝาหลังวัสดุโลหะอลูมิเนียมทั้งเครื่อง โลโก้ HUAWEI ตรงกลางครับแน่นอนว่าดีไซน์อะไรเรียบง่ายสวยงามเลยแหละงานประกอบความรู้สึกในการใช้งานนั้นดูแน่นหนาทีเดียว ส่วนในเรื่องของน้ำหนักนั้นถือว่าไม่ได้เบาครับเมื่อเทียบกับขนาดและน้ำหนักของมันถือว่าแอบหนักกว่าที่คิดพอสมควรเลยแหละ ส่วนในเรื่องของขนาดนั้นถือว่ามีความแตกต่างกันอยู่บ้างครับในจอ 15-14 นิ้ว

ในตัวของหน้าจอ 14 นั้นจะสามารถกางจอแบบแนวราบได้ทั้งหมดไปกับพื้นแต่ในตัวขนาด 15 นิ้วนั้นจะไม่สามารถกางได้เรียบแบบแบบในภาพนะครับจะแตกต่างกันตรงนี้และด้วยขนาดของ 15 นิ้วนั้นจะมีพื้นที่รอบๆคีย์บอร์ดมาก กว่า และ มีพื้นที่วางมือใช้งานมากกว่าครับ แต่ตัวคีย์บอร์ดนั้นขนาดเท่ากันเลยทั้ง รุ่น และงานออกแบบอะไรทั้งหมดนั้นเหมือนกันเลย ตัวแป้นพิมพ์ขอบหน้าจอนั้นจะเป็นสีดำมองเห็นชัดเจนครับ แนวทางการออกแบบ จะออกไปคล้ายๆ Macbook นิดหน่อยในการวางแป้นพิมพ์และรูปทรงในภาพรวมครับ ส่วนขอบหน้าจอนั้นถือว่าบางเลยแหละในตัวนี้

ในด้านหลังการออกแบบอะไรเหมือนกันครับการวางช่องระบายอากาศความร้อนในด้านหลังแบบแนวยาวพร้อมกับลำโพงซ้ายขวา รวมถึงยางรองเครื่องแนวยาวในด้านหลังที่ยกเครื่องขึ้นมานิดหน่อย และ ด้านหน้า 2 ตำแหน่งครับ

ซูมกันให้เห็นชัดๆในส่วนของช่องระบายข้างหลังนั้นจะเป็นซ้ายขวา ยิงออกมาตรงหลังคีย์บอร์ดครับ และแน่นอนว่าตัวช่องด้านซ้ายนั้นจะใหญ่กว่าเพราะมันเป็นช่องสำหรับพัดลมที่อยู่ฝั่งนี้ครับ และฝั่งขวาเลยเป็นช่องระบายอีกแบบนึง ในด้านหลังเมื่อเราส่องทะลุผ่านช่องเหล็กนั้นจะเป็นตัวพัดลมระบายความร้อยที่เห็นชัดเจนพอสมควรในการดูดลมเข้าไปและเป่าออกด้านหลังซึ่งตรงนี้ทั้งตัวขนาด 14-15 นั้นจะเป็นการวางพัดลมแบบเดียวกันทั้งหมดเลยครับเหมือนกันเลย

ในส่วนงานออกแบบการเก็บงานในขอบต่างๆนั้นถือว่ามีความเนียนสวยและเก็บขอบได้ดีถือว่างานประกอบเมื่อเทียบกับงบนี้ทำได้ดีเลยแหละครับ มีสแกนนิ้วมาให้ตรงปุ่มเปิดปิดเครื่องรวมถึง ให้มาทั้ง 2 ขนาด และ ทัชแพดมีขนาดกำลังดีเลยครับ ในตัวข้อต่อนั้นมีความแข็งแรงระดับนึงไม่โยกเวลาจับข้างใดข้างนึงครับ และรองรับการกางได้เยอะในรุ่นเล็ก และสูงสุด ในรุ่นใหญ่จะเป็นแบบในภาพที่ 2 ครับได้แค่นั้นเลย ส่วนขอบจอบางทั้งหมด เพราะกล้องหน้าย้ายมาตรงปุ่มบนคีย์บอร์ดแล้วถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีมากในการใช้งานจริงและรักษาความเป็นส่วนตัวได้ดีมาก

ตัวกล้องหน้าทั้ง 2 รุ่นนั้นจะเป็นกล้องหน้าแบบ PopUp ขึ้นมาแบบกดนะครับซึ่งเมื่อไม่ใช้งานมันจะซ่อนลงไปตรงคีย์บอร์ดมองไม่เห็นเลยว่าจะเป็นกล้อง และการออกแบบแบบนี้นั้นทำให้เก็บเรื่องของความเป็นส่วนตัวได้ดีครับสามารถซ่อนได้แบบมิดชิดพอสมควรเลยแหละ และแน่นอนว่าช่วยในเรื่องของการออกแบบขอบหน้าจอที่ทำได้บางได้ด้วยครับ

SPEC

  • หน้าจอ ขนาด:15.6 นิ้ว IPS  1920 x 1080 อัตราส่วน 87% อัตราส่วนความคมชัด:800:1. ความสว่างสูงสุด:250 nits Viewing Angle:178° องศา อัตราส่วนภาพ:16:9
  • หน้าจอ
  • หน้าจอ ขนาด:14 นิ้ว IPS  1920 x 1080 อัตราส่วน 87% อัตราส่วนความคมชัด:800:1. ความสว่างสูงสุด:250 nits Viewing Angle:178° องศา อัตราส่วนภาพ:16:9
  • AMD Ryzen 7 3700U กราฟิก Radeon™ Vega 8 กราฟิก Radeon™ RX Vega 10
  • RAM 8 GB DDR5
  • SSD 512 GB M.2 PCIe SSD
  • ลำโพง:ลำโพง x 2. ไมโครโฟนในตัว:ไมโครโฟน x 2
  • เซนเซอร์ รองรับ Hall Sensor รองรับ Gravity Sensor รองรับสแกนลายนิ้วมือ
  • พอร์ตเชื่อมต่อ : D14 USB-A 3.0 x 1 USB-A 2.0 x 1 USB-C x 1 HDMI x 1
    ชุดหูฟังและไมโครโฟนขนาด 3.5 มม. แจ็ค 2-in-1 x 1
  • พอร์ตเชื่อมต่อ : D15 USB-A 3.0 x 1 USB-A 2.0 x 2 USB-C x 1 HDMI x 1
    ชุดหูฟังและไมโครโฟนขนาด 3.5 มม. แจ็ค 2-in-1 x 1
  • Wi-Fi:IEEE 802.11a/b/g/n/ac, 2.4 GHz และ 5 GHz, 2 x 2 MIMO

    บลูทูธ 5.0, พร้อมกับ บลูทูธ 4.2, บลูทูธ 2.1

PERFORMANCE

ทางด้านประสิทธิภาพในรุ่นนี้อัพเกรดมาใช้งาน ตัว CPU AMD RYZEN 7 3700U (2.30 GHz up to 4.00 GHz, 4 MB L3 Cache) เป็นสถาปัตยกรรม 12 nm Zen+  ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด จากเดิมที่เป็น RYZEN 5 ครับแน่นอนว่า ส่วนทางด้านการ์ดจอ นั้นมาพร้อมกับการ์ดจอในตัวคือ AMD RADEON VEGA 10 และ ให้ RAM 8GB DDR4 Bus 2400MHz  ไม่สามารถอัพเกรดได้ และในเรื่องของความจุนั้นมาพร้อมกับ SSD  512GB NVMe M.2 ครบๆเลยแหละ ครับสำหรับรุ่นนี้แน่นอนว่าในส่วนของคะแนนก็พอใช้งานได้พอสมควรครับ มาพร้อมกับ Windows 10 ให้เลย ในส่วนของสเปกทั้ง 2 รุ่นไม่ได้แตกต่างกันครับในเรื่องของประสิทธิภาพ

PCMARK คะแนนทำได้ 3204 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ แน่นอนว่าถ้าเราเทียบกับตัว 4000 ตัวนั้นอาจจะทำได้ดีกว่า ถ้าพูดกันตรงๆครับ และ ทำให้ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพกว่าแบบชัดเจนครับ ทางด้านความร้อนนั้น CPU 68 และ GPU 68  ครับสำหรับการทดสอบนี้ให้สภาพอากาศปกติ แต่ที่ชอบนั้นถือว่าในรุ่นนี้ยังคงจัดการความร้อนได้ดีมากๆไม่ถึง 80 เลยครับ

3D MARK เราทดสอบแบบพื้นฐานกันในส่วนของ Sky driver / Night Raid ถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยคะแนนในส่วนของ Night Raid ตัวนี้ทำได้ 9073 คะแนนดี การประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ทำได้ดีมากๆแม้จะไม่มีการ์ดจอแยกเข้ามาช่วยด้วยแต่ทำคะแนนได้เท่ากับพวก MX เลยครับ และ ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลายครับ ถือว่าสบายๆไม่ต้องกังวลทำให้การทำงานต่างเรนเดอร์เริ่มต้นอะไรสบาย ส่วนเรื่องคะแนน Sky Driver นั้นแตะ 8409 ได้เลยครับ  ความร้อนที่ทดสอบนั้น CPU  65 และ GPU 65 ครับสำหรับตัวนี้ สภาพอากาศปกติครับ ถือว่าเป็นการ์ดจอติด CPU ที่ทำได้ดีมากๆ และคะแนนก็แสดงให้เห็นว่าดีมากเลยแหละครับ

CINEBENCH R20 -15 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 648 ถือว่าพอๆกับรุ่นก่อนครับ และ ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 1461 cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU แอบดีกว่าตอนรุ่นที่แล้ว R5 แบบชัดเจนเลย ส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้ 3421 ส่วนเขียนที่ 2705 คะแนน ครับจากทดลองหลายๆรอบ ถือว่าการอ่านเขียนนั้นไวมากและใช้งานได้ดีจริงๆครับ และ ครั้งนี้ให้มา 512GB ครับ ถือว่าเพียงพอและความเร็วความจุนั้นสบายๆในการใช้งานทั่วไป รวมถึงทำงานโอนไฟล์ เซฟไฟล์

HUAWEI SHARE 

สำหรับฟีเจอร์นี้ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่สำหรับคนใช้งาน HUAWEI เท่านั้นในการโอนย้ายไฟล์ โอนรูปหรือจะเป็นการยกหน้าจอมือถือขึ้นไปบนคอมเหมาะสำหรับคนที่ใช้ ECOCSYSTEM แบบครบๆเลยครับมันจะคล้ายๆกับ MAC ที่สามารถโอนย้ายไปอะไรง่ายๆกับ iPhone นั้นเองและตอนนี้ทาง Huawei ก็ได้ทำออกมาเช่นกันแต่พัฒนาขึ้นให้กับ Huawei Device ด้วยกันเองทำให้เราไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาก็สามารถใช้งานมือถือบนหน้าจอคอมของเราได้เลย ดูแจ้งเตือนเข้าไลน์หรือจะเป็นการย้ายไฟล์ ลากไปมาได้เลยครับว่าจะเป็นรูป หรือ วีดีโอไฟล์งานต่างๆถือว่าดีมากๆ

ในการใช้งานนั้นจริงๆถ้ามี Huawei อยู่แล้วแค่เปิด Huawei Share และเอามือถือของเราไปแตะตรงที่มีสัญลักษณ์ Huawei Share บนตัวเครื่องจากนั้นมันจะเด้งขึ้นมาถามว่าจะต่อกับตัว Matebook หรือไม่ครับ และเมื่อเชื่อมต่อเสร็จเราก็สามารถยกมือถือออกไปได้เลยไม่ต้องวางไว้ที่ตรงที่แปะครับ ถือว่าเชื่อมต่อ อะไรได้ง่ายจริงและชอบฟีเจอร์นี้มา และยังรองรับกับมือถือ HUAWEI หลายตัวได้เลย และ MATEPAD ก็ได้เทคโนโลยีนี้ไปใช้ได้ด้วยถือว่าดีมาก

SCREEN

หน้าจอของทั้ง 2 รุ่นนั้นในเรื่องของคุณภาพความสวยคมชัดนั้นไม่ได้แตกต่างกันครับ ทางด้านหน้าจอนั้นจะเป็นแบบจอด้านลดแสงสะท้อนขนาด 14 และ 15.6 นิ้ว ในความละเอียด Full HD หรือ 1920 x 1080 พิกเซล พร้อมรองรับการใช้งานได้ดีครับ ขนาด:14 นิ้ว หน้าจอแบบ IPS อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง:84% อัตราส่วนความคมชัด:800:1 และให้ ความสว่าง:250 nits รองรับ มุมมอง:178° องศาก็ถือว่าเป็นหน้าจอที่อยู่ในระดับกลางๆครับในการทดสอบใช้งานจริงถ้าไม่ได้เน้นทำงานเรื่องของสีตรงอะไรมากก็พอไหวอยู่ แต่ถ้าเน้นความสวยของหน้าจอ เน้นสีสวยๆตรงๆนั้นตัวนี้ยังไม่ได้เด่นเรื่องของหน้าจอเท่าไรนัก สียังธรรมดาครับและความแม่นยำได้แค่ 60% โดยประมาณ แต่ก็ไม่แปลกใจในงบนี้ครับ แต่จริงๆถ้าใส่จอเทพๆเข้ามาก็น่าจะตัวเดียวจบได้เลยสำหรับรุ่นนี้ ส่วนเรื่องของความสวย มิติของภาพก็ทำได้กลางๆไม่ได้เด่นสวยมาก แต่ถ้าเน้นทำงานทั่วไปก็ถือว่าเหลือๆแล้วครับตัวนี้

แน่นอนว่าเป็นหน้าจอแบบ IPS ทำให้เรื่องของสีสันหน้าจอเวลาใช้งานนั้นรองรับมิติของภาพได้หลากหลายมุมพอสมควร ส่วนการใช้งานข้างนอกแบบหน้าจอด้านทำให้มุมมองของตัวภาพนั้นโอเคอยู่ แต่ก็จะมีดรอปๆอยู่บ้างครับในเรื่องของความสว่างและสี ในการใช้งานจริงนั้นถือว่าใช้ทำงานนั่งทำงานข้างนอกได้อยู่สู้แสงได้ระดับนึงครับ และสามารถหรี่แสงได้ดี ส่วนมุมมองอยู่ในระดับดีแต่ถ้าถามเรื่องของสีสันสวยงามและความแม่นยำ สวยงามต้องบอกกันตรงๆว่ายังไม่ใช่จุดเด่นเท่าไรนักสำหรับทั้ง 2 รุ่นของ HUAWEI MATE D14 D15 ในจุดนี้นั้นเองครับ

KEYBOARD

สำหรับคีย์บอร์ดนั้นในรุ่นทั้ง 2 รุ่นนี้ต้องบอกว่าคียบอร์ดนั้นเป็นชุดเดียวกันทั้งเรื่องของขนาดและการออกแบบทั้งหมดครับเป็น แบบ Chiclet Keyboard สีดำตัดกับตัวเครื่อง เว้นระยะห่างกันได้ดีทั้ง 2 รุ่นแต่ตัว 14 นิ้วจะมีไฟ Backlit สีขาวมาให้ด้วยครับ ส่วนระยะการกดนั้นถือว่าทำได้ดีระดับนึงในการออกแบบเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่องครับ และโทนสีดำนั้นทำให้เห็นค่อนข้างชัดเจนแม้จะเป็นกลางวันกลางคืน ถือว่าเป็นการเลือกสีที่ดีไม่ใช้สีโทนอ่อนแบบตัวอื่น

ตัวปุ่มอะไรนั้นจัดวางแบบคีย์บอร์ดทั่วไปเลยครับ แต่จะมีปุ่มตรงกลางที่เป็นกล้องเพิ่มแทรกเข้ามานั้นเองชอบที่ตัวปุ่มนั้นมีความใหญ่และมีพื้นที่ในการใช้งานได้ดีแต่เรื่องของระยะของตัวปุ่มเวลากดลงไปนั้นไม่ได้ลึกมากเท่าไร หลายๆคนอาจจะไม่ชินครับ แต่ถ้ามองเทียบกับพวก Ultrabook ก็จะอยู่ในระดับนี้ทั้งหมด ส่วนวัสดุเป็นแบบด้านสีดำมีพื้นผิวนิดหน่อยไม่ได้เรียบทำให้เวลากดนั้นมีความเกาะกับตัวนิ้วได้ดีครับ ส่วนตัวปุ่มนั้นไม่ได้มีความโค้งเว้าอะไรครับและที่ชอบคือตัวปุ่ม Power นั้นมีมาให้ทั้ง 2 รุ่นและรองรับการสแกนนิ้วได้เลยเวลากดลงไปครับไวและใช้งานได้จริง

TOUCHPAD 

ทัชแพดทั้ง 2 รุ่นนี้เหมือนจะใช้งานทัชแพดรุ่นเดียวกันในเรื่องของขนาดที่แม้จะเป็น 14-15 นิ้วยังไงก็เหมือนกันในเรื่องของขนาดตัวทัชแพดครับ ส่วนในการใช้งานจริงนั้นก็ถือว่าตัว 14 นิ้วขนาดเต็มๆใช้งานได้ดีเลยแหละแต่ 15 นิ้วน่าจะใหญ่กว่านี้ได้นะ ส่วนความลื่นไหลของตัวทัชแพดนั้นก็ถือว่าทำได้ดีแต่ที่ชอบคือความแน่นเวลากดลงไปนั้นระยะเสียงอะไรรู้สึกถึงความแน่นแข็งแรงของตัวเครื่องพอสมควรเลย และรองรับการใช้งานหลายๆนิ้วได้ดีไม่ติดปัญหาอะไร

SPEAKER

ลำโพงในรุ่นนี้นั้นจะเป็นลำโพงคู่วางอยู่ข้างล่างพร้อมกับยิงลงล่างครับซ้ายขวา ตัวลำโพงนั้นให้กำลังขับข้างละ 2W ก็ถือว่ามีความดังพอประมาณระดับนึง เพียงพอต่อการใช้งานอยู่บ้างแต่ถ้าเน้นเรื่องของมิติเสียง ความดังมากๆนั้นยังไม่ตอบโจทย์เท่าไรครับ แต่ก็พอเล่นเกม ดูหนังอะไรได้อยู่บ้าง กลางๆไม่ได้เด่นและไม่ได้แย่เกินไปครับ แต่จะเน้นเรื่องของความกังวานซ้ายขวา ได้ดี แต่ความแน่น หรือคุณภาพของเสียงนั้นยังไม่ค่อยจะเด่นกว่าตัวอื่นๆเท่าไรนักนั้นเอง

CONNECTOR

ทางด้านช่องเชื่อมต่อนั้นถือว่าเพียงพอในการใช้งานครับ ส่วนในด้านหน้าจะเป็นที่อยู่ของไมค์ 2 ตัวครับจะเห็นในด้านหน้านั้นเอง ซึ่งทั้ง 2 รุ่นเหมือนกันทั้งหมดแต่จะแตกต่างกันอีกคือ USB-A ที่ในรุ่น D15 จะมากกว่าเท่านั้นแต่ส่วนอื่นๆนั้นเหมือนกันทั้งหมด รวมถึงการชาร์จผ่าน PD ด้วยเช่นกันครับรองรับทั้งคู่เลยในจุดนี้ถือว่าตอบโจทย์มาก

ในฝั่งขวานั้นจะเป็นจุดแตกต่างหลักๆเลยคือในเรื่องของ USB-A ที่ทางด้านรุ่นใหญ่ D15 นั้นจะให้มา 2 ช่อง แต่รุ่น D14 นั้นจะให้มาแค่ช่องเดียว ส่วนรู 3.5 มม. นั้นให้มาเหมือนกันทั้งคู่ครับในฝั่งนี้ถือว่าใช้งานอะไรได้เพียงพออยู่

ในส่วนของด้านซ้ายนั้นจะเป็นตัว USB-C ที่รองรับ PD ในการชาร์จไฟเข้าด้วยและมีไฟสถานะของตัวชาร์จสีขาวมาให้ ส่วนในตัว USB-A 3.0 ก็ให้มาในฝั่งนี้ และ HDMI ก็ให้มาด้วยถือว่ายังเพียงพอต่อการใช้งาน และ นำเสนองานได้ด้วยไม่ต้องเสียบอะไรเพิ่มเติมครับ และด้วยขนาดของมันก็ถือว่าเทียบกับพอร์ตแล้วยังคงจัดการได้ดีเลยแหละ

WORKING 

Ryzen 7 3700U นั้นแน่นอนว่ารองรับการทำงานทั่วไปเช่น Microsoft ทั้งหมด อันนี้รองรับได้สบาย Excel Word สบายครับพวกนี้ไม่มีปัญหา และ RAM 8 GB ก็เพียงพอ อยู่ถ้าทำงานแค่ 1 โปรแกรมแต่ถ้าทำ 3 โปรแกรมแล้วต้องบอกว่าไม่ไหวครับแบบในภาพถ้าเปิดเยอะๆก็ไม่แนะนำครับ เพราะ RAM จะเต็ม และ ส่วนของ ADOBE รองรับได้สบายอยู่ครับในส่วนของ Photoshop แบบเบาๆ ไม่ได้หลายเลเยอร์เยอะหรือไฟล์ไม่หนัก จริงๆ CPU มันไหวสบายๆ ทำงานหลายๆอย่างพร้อมกันอาจะต้องไม่เยอะมากครับเพราะ RAM 8GB เท่านั้น ไม่สามารถเพิ่มได้ แต่ถ้ามองในมุมทำงานได้ค่อนข้างดีเลยแหละ รองรับการทำงาน 3 มิติระดับเริ่มต้น การตัดต่อไฟล์วิดีโอ หรือ เรนเดอร์ได้แบบไฟล์ไม่หนักมาก ส่วนการดูหนังฟังเพลงทั่วไปสบาย โปรแกรมดูหนัง อื่นๆที่รองรับได้สบายไม่มีปัญหา หลักๆจะเน้นทำงานเบาๆจะดีกว่าครับในรุ่นนี้ หรือต่อภาพออกพรีเซนต์งานอะไรก็ทำได้สบาย มีพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ และ USB มาให้ค่อนข้างครบเลยแหละ แต่งานหนักๆแนะนำว่าเน้นทำงานแบบด่วน หรือ ฉุกเฉินจะเหมาะกว่า

จากที่ได้ทดสอบจริงๆครับในการทำงานพวก ADOBE ทั้งแต่งภาพ ตัดต่อ หรือ เรนเดอร์ เท่าที่ทดลองการทำงานถ้าใช้งานแค่โปรแกรมเดียวมันสามารถตัดต่อวิดีโอ 4K ได้ด้วยในความยาวไม่เยอะมากนักอันนี้ถือว่าดี แต่เวลาเรนเดอร์จะนานพอสมควรครับถ้าเทียบกับรุ่นใหม่ หรือตัวอื่นๆ และเช่นในตัวนี้เลยกินเวลาไป 1 ชั่วโมงกว่าๆเลย แต่ช่วงการตัดต่อพวกนี้คือรับไหวสบายๆครับ ส่วนตัว Photoshop – Illustrator  พวกนี้รองรับได้สบายๆเท่าที่ลองไม่เจอหน่วงเลยครับถือว่าตัว CPU ประสิทธิภาพมันรองรับพวกนี้ได้ แต่ RAM แอบน้อยไปหน่อย แต่ก็อย่างว่ามันไม่ได้เน้นทำงานหนักมากครับและเพิ่มไม่ได้ด้วย ถ้าทำงานแค่โปรแกรมเดียวจะดีกว่า หลากหลายโปรแกรมพร้อมกันครับ

GAMING 

RYZEN 7 3700U + VEGA 10 เดิมๆ Onboard ครับใน การทดสอบเล่นเกม Overwatch ได้ค่อนข้างลื่นและ FPS  60+ สบายๆ ความร้อนนั้นประมาณ  65 องศา และ CPU แตะไป  65 องศาเท่ากัน ครับถือว่าปกติของพวก Ultrabook เล่นในสภาพอากาศไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลมครับ และจากที่ทดสอบนั้นเลยของลองตัว PUBG นั้นได้ FPS 20+ เท่านั้นยังไม่เด่นเท่าไรครับ  ส่วนความร้อนนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากครับในการเล่นเกม อาจจะไม่ได้เหมาะมากครับ เพราะ คุณภาพนั้นปรับภาพระดับต่ำนะครับทุกเกม และ ที่แอดมินทดสอบคือเล่นในสภาพอากาศปกติ ไม่ได้เปิดแอร์ และ ไม่ได้มีพัดลมช่วยครับ ก็ถือว่าเล่นเกมได้ลื่นพอสมควร แต่บางทีก็มีหน่วงๆนิดหน่อยถ้าเล่นนานๆ 

HUAWEI MATEBOOK D14 D15 

” เติมเต็ม ECOSYSTEM HUAWEI และ มาพร้อม RYZEN 7 ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น “

เป็น Ultrabook ที่ทำได้ดีในเรื่องของการใช้งานทั่วไป งานประกอบเนียนสวยและดูดี พร้อมกับฟีเจอร์ที่ทำออกมารองรับกับคนใช้งาน HUAWEI ได้ดีมากๆ อีกทั้งในเรื่องของกล้องหน้ายังคงทำได้ดีและซ่อนงานออกแบบได้ดีครับ รวมถึงยังมีสแกนนิ้วตรงปุ่ม Power ได้ด้วย ส่วนเรื่องของประสิทธิภาพนั้นใช้งาน RYZEN 7 ทำได้ดีขึ้นแน่นอนในการใช้งาน แต่น่าเสียดายถ้าทำงานหนัก RAM 8GB อาจจะไม่พอเท่าไรนักและไม่สามารถอัพเกรดได้ครับ แต่ขึ้นอยู่กับการใช้งานแต่ละคนเพราะว่ามันทำงานทั่วไปทั้ง ตัดต่อรูปแบบไม่หนักมากอะไรพวกนี้ก็พอไหวอยู่ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเริ่มทำงานใหญ่ หลายโปรแกรมพร้อมกันนั้นอาจจะไม่แนะนำเท่าไรนักครับ ส่วนการระบายความร้อนทำได้ดี และแบตอึดมากๆเป็นจุดเด่นของตัวนี้เลยครับ ก็ถือว่าเหมาะกับคนถือ HUAWEI และอยากได้คอมมาใช้งานคู่กันได้ลงตัว

ข้อดี

  • ในเรื่องของงานออกแบบสวยดูดี และ วัสดุทำได้ดี  Unibody ทั้งตัว
  • ขอบหน้าจอทำได้ดี เพราะไม่ต้องมีส่วนของกล้องหน้ามาด้านบน
  • ปรับมาใช้งาน AMD RYZEN 7 3700U เร็วแรงขึ้น
  • ได้ SSD มาพร้อมในตัวไม่ต้องอัพอะไรและใช้งานได้ไวมาก
  • หน้าจอสู้แสงได้ดี และเป็นหน้าจอแบบด้าน
  • กล้องหน้าออกแบบได้ดีมากๆ ซ่อนได้เนียนและมีความส่วนตัวสูง
  • ระบายความร้อนทำได้ค่อนข้างดีในการใช้งานทั่วไป
  • มาพร้อม USB-C รองรับ PD
  • แบตทำได้ดีและมีความอึดพอสมควรในการใช้งานทั้งวัน
  • ADAPTOR 65W ให้มาในกล่อง รองรับทั้งมือถือ และ คอมพิวเตอร์ในตัวเดียว
  • รองรับการแสกนนิ้วผ่านปุ่ม Power บนเครื่อง
  • ใครใช้ Huawei มือถือจะเพิ่มความสามารถไปได้อีกเท่าตัว ในการโอนย้ายไฟล์ รูป
  • ประกัน 2 ปีในการใช้งาน

ข้อสังเกต 

  • ไม่สามารถอัพเกรด RAM ได้เต็มที่แค่ 8GB แบบ Onboard
  • หน้าจอสียังไม่ค่อยดีเท่าไรนักได้แค่ 60%+
  • สเปกในบางส่วนน่าจะจัดเต็มได้กว่านี้เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr