นอกจาก HUAWEI จะเปิดตัวมือถือ nova 9 หูฟังไร้สาย FreeBuds Lipstick หรือทั้งแล็ปท็อปตัวใหม่ของทางค่ายแล้ว HUAWEI  ของเรายังได้ทำการเปิดตัว HUAWEI WATCH GT 3 ด้วยนั้นเอง สมาร์ทวอทช์ตัวใหม่ล่าสุด ในดีไซน์ที่ล้ำสมัย ซึ่ง HUAWEI WATCH จัดว่าเป็น Smartwatch ที่ทำออกมาได้ดีและลงตัวไม่ว่าจะเป็นรุ่น 2 ก่อนหน้าหรือรุ่นแรก จุดเด่นของมันจริงๆที่ใช้งานมาต้องบอกว่าเรื่องของฟีเจอร์ แบต และภาพรวมนั้นไม่ธรรมดาและราคาก็จับต้องได้สมกับคุณภาพที่ได้ HUAWEI Watch GT 3 เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นที่ได้รับการปรับแต่งจาก HUAWEI Watch 3 Series ที่เปิดตัวไปตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่ก็ยังคงพัฒนาสินค้า AIoT แบบเน้นๆขึ้นเรื่อยๆและมีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบ ฟีเจอร์ การควบคุมหรือว่าครั้งนี้ที่พัฒนาขึ้นในทุกๆส่วนแล้วด้วยเช่นกัน HUAWEI Watch GT 3 มีจำหน่ายด้วยกันสองรุ่นคือ 42 มม. และ 46 มม. แต่ที่แอดจะมารีวิวการใช้งานจะเป็นตัว HUAWEI Watch GT 3 ขนาด 46 มม. ค่ะ และสำหรับใครที่มีไลฟ์สไตล์ที่เน้นการออกกำลังกายและดูแลสุขภาพ เจ้าตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์มากๆ

HUAWEI WATCH GT 3 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.46 นิ้ว ครอบด้วยกระจกโค้ง 3D ความละเอียด 466 x 466 ขับเคลื่อนได้ขุมกำลัง Harmony OS และรองรับฟีเจอร์ Always On โชว์เฉพาะเวลาและข้อมูลที่เราต้องการ เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ ส่วนการเลือกเมนูต่าง ๆ บนหน้าจอจะใช้ปุ่มด้านข้างหมุนซ้าย-ขวา ซึ่งสะดวกและแม่นยำกว่า อีกทั้ง HUAWEI Watch GT 3 ยังสามารถเชื่อมต่อกับมือถือผ่าน Bluetooth เพื่อให้เราใช้รับสายและคุยโทรศัพท์ได้จากตัวนาฬิกาได้เลย สะดวกมากๆ รองรับการกันน้ำได้ในระดับ 5 ATM หรือ 50 เมตร Chipset ใช้ของ Cortex – M Ram32 และมีความจุอยู่ที่ 4GB เซอเซอร์ ประกอบไปด้วย มาตรวัดแสง , ไจโรสโคป , วัดการเต้นหัวใจ , วัดความดัน รองรับโหมดออกกำลังกายได้มากกว่า 100 แบบ ไม่ว่าจะเป็น วิ่ง เดิน ปั่น ว่าย ปีน โดด สกี ทั้งใน Indoor , Outdoor ถือว่าคุ้มค่าในการใช้งานมากๆ และในรุ่น 46 MM. มีแบตที่ขนาดใหญ่สามารถใช้ต่อเนื่องได้ถึง 14 วัน นอกจากนี้ ยังสามารถบอกเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นหรือตกได้ รองรับการดูข้างขึ้นข้างแรม และ แจ้งให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงกะแสน้ำตามจริง ตรวจสอบการกดอากาศ สภาพอากาศทั่วไป

UNBOX

  • สมาร์ทวอทช์ HUAWEI Watch GT 3
  • สาย Fluoroelastomer
  • แท่นชาร์จ พร้อมสายเคเบิลในตัว
  • คู่มือใช้งาน ข้อมูลความปลอดภัย ใบรับประกัน

DESIGN

HUAWEI Watch GT 3 รุ่น 46mm. มีขนาด 45.9 มม. x 45.9 มม. x 11 มม. น้ำหนักประมาณ 42.6 กรัม (ไม่รวมสายรัดข้อมือ) ซึ่งในเรื่องของการออกแบบรุ่นนี้ ตัวเรือนยังคงใช้ดีไซน์ในสไตล์เดิมคือมีหน้าจอเป็นวงกลม ตัวหน้าจอจะเป็นจอโค้งแบบ 3D ตัวเรือนใช้วัสดุสแตนเลสผิวสัมผัสแบบมันวาวดูดีมากๆ ส่วนด้านหลังก็ใช้เป็นพลาสติกแบบดี แต่ก็ได้ความแข็งแรง พรีเมี่ยมมากขึ้น ผิวสัมผัสใช้งานดูแพงกว่าชัดเจน

ด้านหน้าปัดนาฬิกาเป็นแบบทรงกลม ในรูปคือขนาด 46mm. มีขนาด 45.9 มม. x 45.9 มม. x 11 มม. มีน้ำหนักประมาณ 42.6 กรัม (ไม่รวมสาย) คลุมด้วยกระจกขอบโค้ง 3D Curved Glass มีความเงางามอย่าลงตัว

ด้านหลังเครื่องจะมีเซ็นเซอร์วัดค่าต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพ และแม่เหล็กสำหรับชาร์จไร้สาย ทำจากพลาสติก ซึ่งยังคงความพรีเมี่ยมไว้ได้ดี

ตัวนี้ที่ได้มาคือสายแบบ Fluoroelastomer สีดำ ขนาด 22มม แถมยังมีการสลักชื่อรุ่น HUAWEI WATCH GT 3 ทันสมัยมากๆ ใส่เข้าได้กับในทุกสถานการณ์เลย

ด้านซ้ายเป็นไมโครโฟนรองรับแค่การสนทนาเท่านั้น แต่ไม่รองรับ eSIM นะคะ สามารถกดโทรออกหรือรับสายผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth ได้เท่านั้น

ทางด้านฝั่งขวาของตัวเรือนจะมีมา 2 ปุ่มให้ใช้งาน โดนปุ่มกลมๆด้านบนนั้นโดยสามารถหมุนได้เพื่อปรับการเลื่อนขึ้น-ลง หรือซูมเข้า-ออกต่างๆ ถัดลงมาอีกปุ่มคือใช้เพื่อเรียกเมนูต่างๆ หรือเข้าสู่โหมดออกกำลังกาย สำหรับด้านล่างจะมีช่องลำโพงเสียงอยู่ด้วย

SPEC

  • หน้าจอแสดงผลจอสีแบบ AMOLED ขนาด 46 mm.
  • ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล
  • โปรเซสเซอร์ ARM Cortex-M
  • ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0
  • RAM 32MB / ROM 4GB
  • กันน้ำได้ 5ATM
  • รองรับฟีเจอร์ Always On
  • ชาร์จแบบไร้สาย
  • รองรับไมโครโฟน / ลำโพง
  • ขนาด 140-120 mm. หนัก 42.6 กรัม (ไม่รวมสายรัดข้อมือ)
  • แบตที่ขนาดใหญ่สามารถใช้ต่อเนื่องได้ถึง 14 วัน
  • รองรับโหมดออกกำลังกายได้มากกว่า 100 แบบ
  • สามารถบอกเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นหรือตกได้
  • รองรับการวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในกระแสเลือด
  • รองรับการใช้งานทั้งกับ Android และ iOS

SOFTWARE 

Huawei Watch GT 3 ทำงานบน HarmonyOS ของ Huawei และระบบปฏิบัติการใหม่ทำงานบนนาฬิกาได้อย่างราบรื่นเลยทีเดียว  UI ที่ใช้งานนั้นดูสะอาดตาและใช้งานง่ายอีกด้วย ทางด้านระบบที่ใช้ในมือถือนั้นต้องใช้แอป Huawei Health  สามารถโหลดจาก Playstore ได้เลยไม่ต้องไปสแกนบนตัวนาฬิกาให้ยุ่งยาก เหมือนโหลดมาแล้วก็เชื่อมต่อปกติได้เลย เปิด Bluetooth บนมือถือแล้วมันก็จะจับหามาให้ ไม่มีอะไรยากค่ะ ใช้งานง่าย รองรับภาษาไทย

SCREEN 

หน้าจอของรุ่นนี้มาพร้อมหน้าปัดทรงกลมโดยมีหน้าจอแสดงผลจอสีแบบ AMOLED ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล ขนาด 1.43 นิ้ว สำหรับรุ่น 46 มม. ครอบด้วยกระจกโค้งแบบ 3D ในแง่ของการออกแบบนั้นดูทันสมัย ใส่ได้ทั่วไป สามารถควบคุมได้ด้วยการสัมผัสหน้าจอ และยังให้ความว่างสูงสุดได้ถึง 1000 nits ช่วยให้เวลาใช้งานกลางแดดแรงๆ อาจจะเกิดการสะท้อนเล็กน้อยก็ยังพอเห็นได้ชัดเจนค่ะ

FEATURE 

ต้องบอกว่าตัวนี้การพัฒนาหลักๆคือฟีเจอร์ที่ครั้งนี้ให้มาเยอะกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพ หรือ โหมดการออกกำลังกายที่ถือว่าเยอะจัดเต็มมากๆอีกทั้งการรองรับภาษาไทย แจ้งเตือน ต่างๆ การกันน้ำระดับ 5ATM หรือสำหรับใครใครที่เป็นสายวิ่งโดยเฉพาะ เจ้าตัว HUAWEI WATCH GT 3 นี้ก็มีการติดตั้งระบบตรวจจับตำแหน่งแบบ Dual-Band L1 และ L5 โดยจับได้ทั้ง GPS, GLONASS, Galileo, Beidou และ QZSS รวมถึงมีฟีเจอร์ Running Courses คอร์สสำหรับฝึกวิ่งในรูปแบบต่างๆ และแน่นอนว่า ยังสามารถควบคุมการรับสายโทรศัพท์หรือปิดเสียงเรียกเข้าได้ และใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟน สำหรับใครที่ใช้สมาร์ตโฟนของหัวเว่ย สามารถเข้าไปโหลดได้ที่ AppGallery ได้เลย ส่วนคนที่ใช้ Android หรือ iOS โดยเข้าไปโหลดได้ที่ Google Play Store และ Apple App Store ถือว่าสะดวกสบายมากๆพอสมควร แต่รุ่นนี้จะไม่มีเวอร์ชั่น eSIM เหมือนกับตัว HUAWEI WATCH 3 ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ให้เราได้ที่ใช้งานกับสมาร์ทโฟนคือการสั่งงานกดชัตเตอร์จากระยะใกล้ด้วยสมาร์ทวอทช์ ถือว่าทันสมัยมากๆ

WORKOUT

ทางด้านการออกกำลังกายนั้น รุ่นนี้ยังคงพัฒนาโหมดการออกกำลังกายที่เยอะมากๆไม่ว่าจะเป็นตัวนาฬิกาเอง หรือว่าบนตัวมือถือเองก็ตาม ซึ่งโหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด ไม่ว่าจะเป็น วิ่ง เดิน ปั่น ว่าย ปีน โดด สกี ทั้งใน Indoor , Outdoor หรือแม้กระทั่งใส่ว่ายน้ำ เพราะรุ่นนี้สามารถรองรับการกันน้ำได้ในระดับ 5 ATM หรือ 50 เมตรแถมยังมีระบบ Personal AI Running Coach ที่จะช่วยแนะนำการวิ่งที่ถูกต้อง โดยใช้ข้อมูลร่างกายที่ตัวนาฬิกาเก็บเอาไว้มาปรับแต่งวิธีการวิ่งให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานแต่ละคน ซึ่งโหมดออกกำลังต่างๆนั้นสามารถปรับแต่งได้ทั้งหมด รวมถึงปรับเป้าหมายของเราได้ด้วยเช่นกันว่าจะเป็นกี่กิโล กี่ก้าวต่างๆ และ จะติดตามเส้นทางได้ด้วยถ้าหากมีการใช้งาน eSIM และ เชื่อมต่อมือถือไว้ เพราะว่ารุ่นนี้มี GPS ในตัวจริงๆก็สามารถ Stand alone ได้เลยเช่นกัน และเมื่อใช้งานก็จะติดหน้าจอบอกข้อมูลไว้ตลอดว่าเท่าไรยังไงบ้าง

NOTIFICATION

แน่นอนว่ารองรับภาษาไทยแล้วและสามารถอ่านได้เลยทั้งพวก LINE – MASSENGER แต่ก็ได้แค่อ่านเท่านั้นนะ จะแตกต่างกับพวก Smartwatch บางตัวที่เราสามารถ พิมพ์ตอบ หรือพูดตอบได้ แสดงผลภาษาไทยได้ 100%  ส่วนการแจ้งเตือนโทรศัพท์ก็เด้งมาบอกว่าใครโทรมา กดรับสายวางสาย และสามารถคุยผ่านตัวนาฬิกาได้เลย ฟีเจอร์นี้มีมาตั้งแต่ HUAWEI WATCH 3 ถือว่ายังอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้ดีอยู่ ในเรื่องของการการติดตามสมรรถภาพทางกายของนาฬิกาไม่ว่าจะเป็นการนับก้าวหรืออัตราการเต้นของหัวใจ ก็ยังแสดงตัวเลขที่คล้ายกับ Apple Watch 6 หรือ Fitbit Sense ได้ด้วย ใช้งานแบบเต็มๆได้เลย ถือว่าดีขึ้นเยอะมาก

CALLING 

อย่างที่บอกเจ้าตัวนี้ไม่มีใช้งาน eSIM ใส่เข้ามาให้ แต่ในเรื่องของการรับสาย หรือว่าการโทรเข้า/ออก นั้นก็ยังสามารถเชื่อมใช้งานได้ปกติ การแจ้งเตือนรับสาย วางสายสามารถผ่านตัวนาฬิกาได้เลย หรือแม้ท่าทางขยับ บีบมือ แบบมือเพื่อรับสายได้ด้วยเช่นกันและในการโทร หรือ ว่าคุยโทรศัพท์เองนั้นก็สามารถคุยผ่านตัวนาฬิกาได้เลย เพราะว่ามีทั้ง ไมค์ ลำโพงพร้อมใช้งาน และในการโทรออกเองนั้นสามารถกด เบอร์โทรออก หรือว่า หารายชื่อผ่านตัวนาฬิกาได้ทันที

SpO2 – HEART RATE 

ทางด้านการวัดสุขภาพไม่ว่าจะเป็น ชีพจร , SpO2 และ การตรวจจับการนอนต่างๆนั้นตัวนี้สามารถรองรับได้ทั้งหมดและอ่านค่าได้แม่นยำกว่าเดิมเพราะว่ารุ่นนี้มีการพัฒนาเซนเซอร์ใหม่ทั้งหมด การตรวจจับอุณหภูมิผิวหนัง, เซนเซอร์วัดการเต้นหัวใจ TruSeen 4.5 ที่ใช้ไฟ LED แบบ 6-in-1 และ 4 photodiodes รวมทั้งเทคโนโลยี HUAWEI TruSeen 5.0+ ที่สามารถตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมงเลย และมาพร้อมเซนเซอร์ SpO2 และตัวนี้สามารถอ่านชีพจนตลอดเวลาได้ และ สามารถกดวัดได้ด้วยเช่นกันและจะคอยสรุปประจำวันให้ในตัวมือถือว่ามีค่าอย่างไร มากน้อยแค่ไหน รวมถึงจะเป็นการทำงานร่วมกันและประมวลผลความเครียดด้วยนั้นเอง HUAWEI Watch GT 3 นั้นสามารถวัดค่า SpO2 ได้แบบเรียลไทม์ตลอดเวลา แต่ฟีเจอร์มันช่วยบอกเราได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้นนะ

WIRELESS CHARGING 

ในด้านของอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ HUAWEI Watch GT 3 รุ่น 46mm. มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด  455mAh ที่สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 14 วันเลยทีเดียว ! และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย ให้เราสามารถชาร์จแบบย้อนกลับผ่านสมาร์ตโฟนได้อีกด้วยแม้ลืมพกที่ชาร์จติดตัวมาก็ตาม

PRICE

  • 42มม. Active Edition   =  7,990 บาท
  • 42มม. Elegant Edition =  9,490 บาท
  • 46มม. Active Edition   =  7,990 บาท
  • 46มม. Classic Edition  =  8,490 บาท

HUAWEI WATCH GT 3

” รีวิว HUAWEI WATCH GT 3 หน้าจอ AMOLED พร้อมวัด SpO2 และโหมดกีฬามากกว่า 100 โหมด “

Huawei ยังคงโดดเด่นในเรื่องของการทำ บรรดา Gadget ออกมาใช้งานและต้องบอกเลยว่าทำได้ดีมากๆด้วยนะและในตัวนาฬิกานี้ไม่ผิดหวังอีกแล้ว ทั้งเรื่องของฟีเจอร์ คุณภาพ วัสดุการใช้งาน และการออกมาแก้ไขจุดด้อยในเรื่องการใช้งานในรุ่นก่อนๆได้แบบลงตัวทั้งหมด ประทับใจตั้งแต่ในเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่องทำออกมาได้ลงตัวเหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันมากๆ ส่วนในเรื่องของสเปกการใช้งานก็ไม่แพ้กัน ทำออกมาได้ดีเหมือนเคย แบตเตอรี่ที่ทนทาน สามารถใช้งานได้ยาวๆ การออกกำลังกายต่างๆเยอะขึ้นรวมถึง การใช้งานเรื่องของสุขภาพทั้ง วัดชีพจร วัดออกซิเจนในเลือด หรือแม้แต่ตัวใหม่ที่รองรับการวัดอุณหภูมิบนผิวหนังของเรา และ การวัดความเครียด การนอนหลับ และอีกมากมายครับบอกเลยว่าทำได้น่าสนใจทั้งหมด

ข้อดี

  • การออกแบบทันสมัย สวยงามลงตัว
  • ฟีเจอร์ให้เลือกใช้งานเยอะ
  • หน้าจอ AMOLED สวย สู้แสงได้ดี
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน

ข้อสังเกต

  • ไม่มีเวอร์ชั่น eSIM
  • ไม่มีวิธีการชำระเงินตามข้อมือ
  • สามารถอ่านการแจ้งเตือนได้เท่านั้น พิมพ์โต้ตอบไม่ได้

สำหรับรีวิวนี้ก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ เพื่อนๆสนใจอยากให้รีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะคะ >>>>>>>>> TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget

Review by Aum