SMARTWATCH ในยุคนี้กลายเป็นของที่หลายๆคนต้องมี และใช้งานกันครับ ทางด้าน HUAWEI เองก็มีการพัฒนานาฬิกามาหลากหลายรุ่น มีแบบเท่ๆ มีหูฟังในตัว มีที่วัดความดันแบบเป่าลมจริงๆได้ และอื่นๆอีกมากมายรวมถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ตอนนี้มาถึงรุ่นที่ 4 กันแล้วสำหรับตระกูล HUAWEI WATCH GT ซึ่งมีอะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนไป ดีขึ้น และ สวยขึ้น เท่ขึ้น ดูหรูขึ้น ครั้งนี้เราได้ไปสัมผัสกับถึงที่เมืองจีน ก่อนจะเปิดตัวในตลาดโลก และในไทยครับ บอกเลยว่า EXCLUSIVE มากๆแถมยังได้ลองทั้ง 4 แบบนาฬิกา ทั้งสายสเตนเลส สายยาง และสายหนัง ครบเลยทีเดียว ครั้งนี้เลยขอรีวิวแบบจัดเต็ม ฟีเจอร์การใช้งาน ทดสอบวิ่งออกกำลังจริง มีจุดไหนน่าสนใจกันบ้างเดี๋ยวไปอ่านกันครับ และ ในทริปนี้เราก็ได้นักวิ่งสาวไปร่วมทริปด้วยก็เลยได้พูดคุยสอบถามความคิดเห็นในรุ่นนี้ว่าเป็นยังไงกัน
HUAWEI WATCH GT4 จริงๆจะมี 2 รุ่นหลักๆคือ หน้าจอ 41 มม. สำหรับผู้หญิง และ 46 มม. สำหรับผู้ชายครับ ส่วนทางด้านสายเปลี่ยนสลับกันได้ไม่ว่าจะแบบไหนก็ตามถ้าเป็นขนาดเดียวกันเป็นมาตรฐานครับ แต่ครั้งนี้เราจะได้สัมผัสคือ 41มม. สายหนังสีขาว และสายสเตนเลสสีเงินผสมทอง รวมถึงตัวใหญ่ 46 มม. สายสเตนเลส และ สายยางสีดำ ซึ่งแตกต่างกันแค่เรื่องของบอดี้สีวัสดุตัวเรือน และสายครับ ส่วนฟีเจอร์อะไรเหมือนกันทั้งหมดเลยนะ
HUAWEI WATCH GT 4 ราคาเริ่มต้น 6,990 บาท
ช้อปได้ที่ Shopee: https://bit.ly/3PZsomk Lazada: https://bit.ly/48LBLNR
HUAWEI WATCH GT4 มีอะไรใหม่
ถ้าหากถามว่ารุ่นนี้มีอะไรเด่นๆบอกเลยว่าเยอะอยู่เช่นกันครับ หลักๆที่สำคัญเลยคือเรื่องของหน้าจอ ครั้งนี้คุณภาพสูงเช่นเดิม และเป็น AMOLED แต่ที่น่าสนใจคือตัวเครื่องมาพร้อมกับ AOD หรือ Always-On Display นั้นเองทำให้เวลาเราใช้งานหน้าจอจะติดตลอดเวลา และแสดงข้อมูลได้ตลอดเวลา อีกทั้งหน้าปัดออกแบบใหม่หลากหลายแบบ และในแง่ของเซนเซอร์ต่างๆ TruSeenTM 5.5+ ที่ได้รับการอัปเกรดเพิ่มคุณสมบัติการเรียนรู้เชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมการป้อนข้อมูลมากกว่า 17,000 รายการ หรือจะเป็นรองรับการจัดการรอบประจําเดือน 3.0 ที่ติดตามได้ดีขึ้น และในแง่ของตรวจจับการนอน HUAWEI TruSleepTM 3.0 ก็ทำได้ดีขึ้น และตัว HUAWEI WATCH GT ยังเปิดตัวครั้งแรกของ Sleep Breathing Awareness ซึ่งตรวจจับการหยุดชะงักในการหายใจของคุณในขณะที่คุณกําลังนอนหลับ สามารถติดตามเสียงกรน อัดเสียงกรนได้ ตรวจจับได้ว่านอนกรนตอนไหนทำงานร่วมกับมือถือ รวมถึงการติดตามดาวเทียม GNSS ที่ได้รับการพัฒนาขึ้น และแม่นยำกว่าเดิม รวมถึงจุดเด่นๆที่พัฒนาขึ้นไม่ว่าจะเป็น
- การออกแบบใหม่ทั้งหมดและ Iconic ออกแบบหน้าปัดแปดเหลี่ยม 46 มม. / การออกแบบจี้ 41 มม. รองรับการแสดงผล Always-on display
- การตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ TruSeenTM 5.5+ ที่ได้รับการอัปเกรด, การตรวจสอบการนอนหลับทางวิทยาศาสตร์, การติดตามวงจรอัจฉริยะ, การตรวจสอบ SpO2, การวิเคราะห์การหายใจขณะนอนหลับ
- หลักสูตรฟิตเนสฟรี 200+ หลักสูตร – แผนการฝึกอบรมทางวิทยาศาสตร์ส่วนบุคคล, วงแหวนกิจกรรมใหม่, การแชร์เส้นทางวิ่ง, การนําทางกลับเส้นทาง, ตรวจสอบตําแหน่งผ่าน GNSS ห้าระบบแบบ Dual-Band
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่แข็งแกร่งและการชาร์จแบบไร้สายที่รวดเร็ว HUAWEI WATCH GT 4 46 มม. สูงสุด 14 วันการใช้งาน
HUAWEI WATCH GT 4 41 มม. สูงสุด 7 วันการใช้งาน ชาร์จเร็วแบบไร้สาย
DESIGN งานออกแบบ
งานออกแบบใหม่ทั้งหมด มาพร้อมกับ 2 สไตล์ 2 ขนาด และแต่ละขนาดก็มี 3-4 แบบสายหรือสีตัวเรือนเช่นกันครับ ที่เราจะได้มาคือ 41 สีขาว , 41 สีเงิน , 46 สีเทา 46 สีดำ นั้นเองครับ ซึ่งตัวเรือนกับสายจะเปลี่ยนควบคู่กัน ซึ่งถ้ามองดีๆ บอดี้แต่ละสีของขนาดนั้นๆจะเหมือนกัน แต่ดีเทลการทำสี โทนสี งานออกแบบนั้นจะแตกต่างกันครับ ซึ่งถือว่าครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบอีกครั้งที่ก่อนหน้าตัวเรือนกรอบๆจะเป็นแบบวงกลมสีดำครับ แต่ครั้งนี้ปรับเปลี่ยนเป็นแบบ 8 เหลี่ยม มีลูกเล่นโทนสีมากขึ้น และ ดูแตกต่างกันชัดเจนในแต่ละแบบสาย และขนาด 41มม. เองนั้นก็มีความคล้ายกับพวกเครื่องประดับ หรูหรา ดูแพง และเหมาะกับสาวๆได้เช่นกัน เป็นครั้งแรกที่ออกแบบใช้งานหน้าตาแบบนี้ด้วยนะถือว่า สวยและแปลกใหม่เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆครับ สาวๆน่าจะชอบกันแน่นอนสำหรับตัวนี้
- HUAWEI WATCH GT 4 นิ้ว 46 มม. มีสี่สีที่แตกต่างกันได้แก่ สีเทา,สีเขียว,สีน้ำตาลและสีดํา
- HUAWEI WATCH GT 4 ขนาด 41mm มาพร้อมกับ 3 สี: เงิน, สีขาวและสีดํา
46mm. สายออกกำลัง
รุ่น HUAWEI WATCH GT 4 สีดํา ขนาด 46 มม. แสดงถึงความสง่างามในแบบกีฬา ตัวเรือนทําจากสเตนเลสสตีลเสริมด้วยสายรัด Fluoroelastomer สีดําตัวนี้จะเน้นไปทางออกกำลังล้วนๆ น้ำหนักกำลังดี 48 กรัมไม่รวมสาย และ บอดี้เป็นสีดำทั้งหมด ตัวกรอบเรือนมีเลขรอบๆเป็นสีขาวครับ แถมมีเม็ดมะยมมาให้กดใช้งานเหมือนเดิม
จะเห็นว่าดีไซน์ของตัวเรือน บอดี้มีการเปลี่ยนแปลงเหลี่ยมสันชัดเจน 8 เหลี่ยม และทางด้านฝาหลังมาพร้อมกับการออกแบบเซนเซอร์พื้นที่ตรวจจับทำได้ดีเช่นเดิมและที่สำคัญตัวปุ่มใช้งานมีทางด้านขวา พร้อมกับเม็ดมะยมที่มีการออกแบบให้จับง่าย และมีเขียน HUAWEI WATCH GT4 มาให้ครับ พร้อมกับลำโพง และไมค์สำหรับสั่งงาน
46mm. สายสเตนเลส หรูหรา
รุ่น HUAWEI WATCH GT สีเทาขนาด 4 นิ้ว 46 มม. ให้ความรู้สึกถึงความประณีตและความเป็นมืออาชีพ ด้วยการออกแบบที่มีทั้งความเรียบง่ายและความทันสมัย จึงเน้นความคมชัดของขอบนาฬิกาจะเป็นสีเทาดูแพงมากๆ และใช้งานออกแบบด้วยสเตนเลสสตีล 316L และ มาพร้อมกับสายรัดสเตนเลสที่ตัวสายจะหุ้มเก็บไปจนถึงตัวเรือนเนียนกว่าแบบเดิม ทำให้เหมือนเป็นบอดี้ใหม่ ทั้งที่ทรงบอดี้เหมือนกับสีอื่นๆครับ และตัวสาย และเรือนวัสดุนี้เหมาะที่จะทนต่อทุกสภาพแวดล้อมสําหรับการใช้งานประจําวันได้สบายๆ รักษาง่าย และใส่เข้างานทางการได้ดีกว่าแบบสายอื่นๆ
ส่วนเรื่องน้ำหนักแน่นอนว่าก็ต้องมีความหนักมากกว่าสายอื่นๆครับ ด้วยตัววัสดุของมันเองหรือการออกแบบเองก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้หนักจนใส่ไม่ไหวหรือเกะกะแต่อย่างใด ซึ่งถ้าผู้ชายข้อมือใหญ่หน่อยขนาดและสายตัวนี้กำลังทำได้ดีครับ
41มม. สายสเตนเลส
รุ่น HUAWEI WATCH GT 4 ขนาด 41 มม. สีเงิน ตัวนี้เรือนจะมีการเพิ่มความโดดเด่นด้วยสีทองที่มีรสนิยม Silver Edition ให้ความรู้สึกถึงความสง่างามแพง หรู คล้ายกับเครื่องประดับแถมยังมีการเล่นโทนสีทั้งตัวสายและตัวเรือนด้วยเช่นกัน ซึ่งรุ่นนี้จะเล่นขอบด้านบนสีทอง แต่ตัวเรือนเป็นสีเงินเงา และมาพร้อมกับการสั่งงานเหมือนกันกับรุ่นอื่นๆคือมีเม็ดมะยม และ ปุ่มสั่งงาน มีลำโพง และเซนเซอร์เหมือนกันทั้งหมดครับ แต่ขนาดจะเล็กกว่ามาก แต่ถ้ามองไปในแง่ของ SMARTWATCH ผมกล้าบอกเลยว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นหนึ่งที่ดูแพง และสวยโดดเด่นเหนือกว่าตัวอื่นๆ
41มม. สายหนัง
รุ่น HUAWEI WATCH GT 4 สีขาวขนาด 41 มม. จุดต่างกับสี SILVER ตัวนี้จะเป็นแบบตัวเรือนสเตนเลสสตีลสีทองทั้งหมด ไม่มีการแบ่งครึ่งแบบสายสเตนเลส และจับคู่อย่างสวยงามกับสายหนังสีขาวบริสุทธิ์ ทำให้ตัวนี้จะไปแนววัยรุ่นขึ้น แต่ก็ยังคงความแพงพรีเมียมไว้ได้ ตัวหนังสีขาวอาจจะรักษายาก แต่ก็ถือว่ามีความแข็งกำลังดีไม่ได้ใส่แล้วไม่สบายครับ รวมถึงสายทั้งหมดที่เราเห็นสามารถใช้งานสายทั่วไปมาตรฐานได้เลยแล้วแต่ขนาดตัวเรือนนั้นๆครับ
HUAWEI HEALTH รองรับ iOS และ Android
และทางด้านแอปเองก็สามารถใช้งานทั้ง iOS Android รองรับได้สบายๆครับ และ ใช้งานได้ไม่ยากรวมถึงปลายๆฟีเจอร์ใหม่เองนั้นก็จะทำงานร่วมกับทางมือถือด้วยเช่นกัน การแสดงผล แบบ real-time และ การแท็กเส้นทางวิ่งแบบ Dynamic ก็ทำได้น่าสนใจแสดงผลเป็นจุดเลยว่าเราวิ่งเร็วช้าตรงไหน หยุดตรงไหนบ้าง และไปทางไหนบ้างครับอันนี้ทำได้ดีเลยแหละ HUAWEI Health มีวิดีโอออกกําลังกายและเลือกหมวดหมู่ที่ต้องการ ฝึกอบรมมากมายให้เลือกและเริ่มออกกําลังกายและติดตามแคลอรีที่เผาผลาญได้ทั้งหมด รวมถึงมีระบบติดตามอัตราการเต้นของหัวใจของคุณสุขภาพผู้หญิงคุณภาพการนอนหลับและสถิติสุขภาพอื่น ๆ ตลอดทั้งวัน
หน้าตา WATCHFACE หลากหลายแบบทั้งแบบเสียเงิน และที่มากับระบบครับสวยๆเยอะมาก เป็นแบรนด์ที่หน้าตาเยอะจริงๆ ซึ่งมีหลากหลายแนวทั้งหรู สายเทค หรือ Wallpaper สวยๆ หรือ แบบ ดิจิทัลเท่ๆ และสายออกกำลังครับ ซึ่งถ้าซื้อก็ราคาประมาณ 30-60 บาทนั้นเอง และบางหน้าตาก็สามารถปรับแต่งได้อีกครับ แถมมี AOD
และข้อดีที่บอกคือมันสามารถแท็กการวิ่งของเราได้แบบนิ่งๆเนียนๆ เราสามารถเห็นจุดที่เราแวะพัก จุดที่เราวนไปมาได้หรือ ให้มันเล่นเป็นแอนิเมชันได้เลยว่าวิ่งประมาณไหนเริ่มจากตรงไหนบ้าง และ หน้าจอหลักเองก็เข้าใจง่าย ในหน้าตั้งค่าตัวนาฬิกา ส่วนหน้า health เองก็แบ่งเป็นวงว่าวันหนึ่งเราทำวงครบไหม วิ่งไปเท่าไร หัวใจภาพรวมเท่าไรบ้าง
ใช้งานออกกำลัง ทดสอบจริง !
แน่นอนว่าด้วยความเป็นนาฬิกาสายออกกำลังตัวนี้เราเลยขอทดสอบเอาไปวิ่งตอนเช้ามาครับ โดยจะไม่ได้พกมือถือไปด้วยนะ ใช้งาน Standalone ล้วนๆ ในแง่ของการติดตามถือว่าทำได้ดี ทั้งระยะ และอัตราการเต้นของหัวใจ และถ้ามองว่าใช้งานที่จีน และ GPS แบบใหม่ เส้นทางค่อนข้างตรง ติดตามได้ตลอดแม้จะมีอาคารเยอะส่วนนี้ถือว่าดีรวมถึง มีการแจ้งเตือนแบบเสียงตลอดเวลาว่าเราผ่านเป้าอันไหน วิ่งไปกี่นาที อัตราเต้นของหัวใจเท่าไรบ้างครับ ซึ่งลำโพงต่างๆดังชัดเจน และตัวเรือนเองก็น้ำหนักกำลังดีในการเอาไปวิ่ง และมีข้อมูล รอบขา PACE ต่างๆมาครบ
รวมถึงตัวนาฬิกาเองนั้นในแง่ของความใส่สบายถือว่าผ่านตัวสายมีความนุ่ม และไม่ระคายเคืองอีกทั้งน้ำหนักของตัวสายยางและตัวเรือนขนาดใหญ่ 46 ก็ยังใส่สบายๆทั้งผู้หญิง และผู้ชายครับ เมื่อกลับมาที่ห้องก็เอามาซิงค์ข้อมูลได้สบายๆ ที่ผมชอบคือมันแสดงผลเส้นทางแบบเป๊ะมากๆ และไล่ความเร็วตามการวิ่งของเราเลยว่าหยุดตรงไหนบ้าง ทำอะไรบ้าง วิ่งช้าตรงไหน เร็วตรงไหนบอกเป็นจุดเลยว่ากี่ครั้ง แม้จะไม่มี Google แต่แม็ปก็ถือว่าแม่นครับ
ซึ่งหลังจากที่เราวิ่งมานั้นมันจะมีสรุปมาให้บนตัวแอปเมื่อเรากลับมาซิงค์ข้อมูลนั้นเอง บอกทุกค่าที่เราควรรู้ครับจะเห็นเลยว่ากราฟละเอียดมาก เพราะว่าตัวนี้เป็น SMARTWATCH ไม่เชิงแบบ FITNESS จ๋าๆมากแต่ค่าแบบนี้ที่สามารถทำออกมาได้ก็คือโหดเลยนะ และสามารถดูแต่ละหัวข้อย่อยได้ด้วยว่ากราฟมันเป็นประมาณไหนบ้าง ตกตอนไหนบ้าง
WATCHFACE : AOD
ครั้งนี้มาแล้วกับหน้าจอติดตลอดเวลา หรือ Always-On Display นั้นเองครับเมื่อระบบทำงานหน้าจอจะปรับเข้าสู่พื้นหลังดำ และลดดีเทลหลายๆอย่างลงไปแต่ความสวยงาม มุมมองของตัวฟีเจอร์ต่างๆยังคงมาครบอยู่เช่นกัน และ ทางด้านความสว่างก็ยังคงมองได้ชัดเวลากลางวันครับซึ่งเป็นข้อดีของหน้าจอแบบใหม่ และหลายๆหน้าปัดก็รองรับทำให้มีลูกเล่นเยอะกว่าเดิม ซึ่งเมื่อเราดูเวลาเจอแสงในภาพด้านล่าง หรือเมื่อเทียบกับหน้าจอปกติเองนั้นไม่ต่างกันในแง่ของการออกแบบ แต่ฟีเจอร์นี้จะทำให้แบตลดไวกว่าแบบปกติแน่นอนครับ แต่ด้วยความสวยงามก็ต้องแลก และตัวนี้ถือว่าจัดการแบตได้ดีจากที่ทดสอบเปิดตลอดเวลาก็ไม่ได้ไหลแบบน่าเกลียดอะไรครับสำหรับใครที่ใช้เป็นประจำ
BATTERY LIFE
แบตถือว่าเป็นจุดที่หลายๆคนน่าจะชอบครับผมขออิงจากที่ใส่ในทริปทั้งวัน และทุกวันละกันใช้งานมา 3 วันเปิดแจ้งเตือนและวิ่งทุกเช้า แบตเหลือ 73% โดยประมาณซึ่งเท่ากับว่าวันละ 10% โดยประมาณขึ้นอยู่กับการใช้งาน และ การแจ้งเตือน อีกทั้งถ้ามองแค่วิ่ง 1 ชั่วโมงแบตลดไป 1% เท่านั้นแบบหน้าจอเปิดตลอดเวลาถือว่าอึดมากๆครับ แต่ถ้าเล่นบ่อยๆ แตะหน้าจอเปลี่ยนหน้าตา ซิงค์กับมือถือบ่อยๆอาจจะลดได้วันละ 10-15% ได้นั้นเองครับ แต่อยู่ในระดับที่อึดพอสมควร เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆตัวนี้ถือว่าจัดการพลังงานได้ดีเมื่อเทียบกับหน้าจอ และขนาดของมัน
NOTIFICATION
การแจ้งเตือนรองรับภาษาไทย และสามารถสั่งงานด้วยเสียงต่างๆได้แต่เป็นภาษาอังกฤษนะครับ แต่การอ่านภาษาไทยนั้นรองรับได้สบายๆ และสามารถดูคนโทรมา แชตต่างๆได้ครบครับ ส่วนการสั่นก็แรงสะใจแจ้งเตือนปลุกต่างๆ และ หน้าตา UI ในการดูข้อความ WIDGET ก็มาครบครับออกแบบได้ค่อนข้างอ่านง่าย และปรับตัวไม่เยอะนักถ้ามาจากรุ่นก่อนๆ ส่วนความไว้ใจการแจ้งเตือนนั้นทำได้ดีครับ ไม่มีหน่วงอะไร ทั้งแอปมาตรฐาน และไลน์ต่างๆโอเคมากๆ
FEELING
ฟีลลิ่งในการใส่ใช้งานจริง และตัวเรือนถือว่าดีถ้ามองกับราคาที่ไม่แรงมากนัก HUAWEI ครั้งนี้เน้นตัวนี้มากๆทั้งออกแบบ วัสดุ และหน้าตาเปลี่ยนใหม่ ความแน่นของงานประกอบ ตัวเรือน สายต่างๆโอเคอีกทั้งเวลาใส่ใช้งานจริงๆกระชับและไม่ได้หนักเกินไปในตัวสายทั่วไป แต่ถ้าสายสเตนเลสเองนั้นอาจจะมีน้ำหนักมากกว่าเล็กน้อย แต่ถ้ามองเทียบกับนาฬิกาตัวอื่นๆที่ไม่ใช่ Smartwatch ผมว่าน้ำหนักไม่ได้หนีกันเวลาใส่ดูแข็งแรงให้ฟีลความเป็นสเตนเลสได้ดี แต่ถ้าอยากเอาเราแค่เปลี่ยนสายเป็นสายออกกำลัง โดยยังคงใช้งานบอดี้เดิมได้ทันทีครับ และตัวหน้าจอสู้แสงได้ดี ปุ่มใช้งานได้ง่ายตอบสนองได้ไว ถือว่าการใช้งานยังไม่เจออะไรให้บ่นนะ แบตใช้อาทิตย์หนึ่งได้แบบสบายๆ
HUAWEI WATCH GT4 : 4 แบบ 4 สไตล์
” หน้าตาสวย ตัว 41มม. หรูมาก วัสดุดี ระบบยังคงโดดเด่น และ แบตอึดเอาเรื่อง “
เป็น SMARTWATCH ที่งานออกแบบน่าจะโดดเด่นสุดและเข้ากันได้หลายๆแนวการแต่งตัว อีกทั้งหน้าจอ ระบบการใช้งาน ฟีเจอร์การตรวจจับสุขภาพก็ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆเป็นค่ายที่มี DATA ข้อมูล และการทดสอบโหมดออกกำลังที่เยอะจัดเต็ม ทำให้ค่อนข้างมั่นใจได้เลยในเรื่องของคุณภาพ การพัฒนาต่างๆ และในรุ่น GT 4 เราจะเห็นงานออกแบบที่แตกต่างกันมากขึ้น ทั้งของ 46 มม. และ 41 มม. ที่เปลี่ยนหน้าตา SMARTWATCH ที่เรารู้จักกันได้เลยแหละ และ ของสาวๆน่าจะถูกใจครับ ดูผ่านๆเหมือนนาฬิกาทั่วไปที่พรีเมียมและแพง แต่ฟีเจอร์การออกกำลังคือมาครบ ทั้งนี้อยู่ที่ราคาที่ไม่แรงก็ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ของค่าย HUAWEI ที่มาพัฒนาด้านนี้แล้วทำได้ดีซะด้วยนะ
