Hyper X ลุยตลาดเกมมิ่งเกียร์หนักขึ้นในครั้งนี้ได้ทำการเปิดตัว CHARGEPLAY BASE ซึ่งเป็นที่ชาร์จไร้สายรองรับมากถึง 2 อุปกรณ์แน่นอนว่าทำออกมาแบบนี้มันต้องมีอุปกรณ์ที่รองรับสำหรับชาร์จไร้สายแน่นอน และในครั้งนี้ก็ได้เปิดตัว เมาส์ไร้สาย PULSEFIRE DART  ที่รองรับชาร์จไร้สายเป็นตัวแรกของค่ายเลยทีเดียวทำให้เราสามารถใช้งานชาร์จแบตไร้สายได้ด้วยในตัวครับ และถ้าหากเราใช้งานร่วมกันกับ CHARGEPLAY BASE นั้นต้องบอกว่าลงตัวขึ้นพอสมควรเลยครับ  เพราะตัวเมาส์และที่ชาร์จทำออกมารองรับกันได้ดี และยังรองรับการชาร์จมือถือได้ด้วย ซึ่งในครั้งนี้มาขายแยกกันนะครับทั้ง 2 ชิ้นที่เรารีวิวนั้นจะไม่ได้ขายด้วยกันต้องซื้อแยกกัน แต่นอกเหนือกับการชาร์จไร้สายก็สามารถชาร์จแบบสายปกติได้ด้วยเช่นกันครับ ถือว่าเป็นคู่ที่ค่อนข้างลงตัวและน่าใช้งานพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งตัวแบตนั้นรองรับการใช้งานมากถึง 50 ชั่วโมงต่อการชาร์จ อัตราตอบสนองแค่ 1ms ถือว่าใช้งานสบายๆและอึดมากพร้อมกับมีไฟ RGB และ สามารถปรับแต่งอะไรได้พอสมควรครับ

Hyper X PULSEFIRE DART นั้นมาพร้อมกับ การใช้งานแบบไร้สายที่ใช้การเชื่อมต่อ 2.4GHz RF อัตราการตอบสนอง 1ms เท่านั้น พร้อมเทคโนโลยี RF เพื่อเพิ่มความแรงสัญญาณไร้สายเต็มที่พร้อมกับรับรองมาตรฐานการชาร์จ Qi แบบไร้สาย1 ใช้งานได้สูงสุด 50 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และยัง ติดตั้งเซนเซอร์ Pixart 3389 +สวิตช์ควบคุมจาก Omron และรูปทรงที่รับกับมือได้ดีพร้อมกับยังมีไฟ RGB มาให้ 2 ตำแหน่งรวมถึง ใช้งาน  HyperX NGENUITY การปรับแต่งทั้งเรื่องของการ จัดทำมาโคร เช็คเวลาใช้งานแบตเตอรี่ และปรับค่า DPIได้ด้วย ส่วนในเรื่องของตัว Hyper X  CHARGEPLAY BASE ที่ชาร์จไร้สายนั้น  จะเป็นมาตรฐาน Qi ทั่วไปครับ ที่ชาร์จให้มาสูงสุด 15W  และที่ชอบคือมีไฟสถานะชัดเจนสีแดงเวลาใช้งานพร้อมกับตัวขนาดของฐานที่รองรับได้ 2 เครื่องพร้อมกัน

สำหรับทางด้านราคานั้น Hyper X PULSEFIRE DART เปิดราคามาที่ 2,890 บาท และ Hyper X  CHARGEPLAY BASE  1,790 บาท

UNBOX

ตัวกล่องนั้นยังคงเป็นธีมการออกแบบขาวแดงเช่นเดิมครับ ในส่วนของอุปกรณ์ในแต่ละรุ่นนั้นถือว่าให้มาครบพร้อมใช้งานทีเดียวเลย มีทั้ง Adaptor และสายชาร์จอะไรมาให้ครบเลยครับ สำหรับตัวที่ชาร์จไร้สายตัวนี้ ส่วนตัวเมาส์ก็มีสายและ Adaptor สำหรับต่อความยาวของตัวรับไปได้ดีกว่าเดิมด้วยเช่นกันครับ

  • CHARGEPLAY BASE 
  • สาย USB – C
  • ที่ชาร์จรองรับ 15W
  • คู่มือ ใบรับประกัน
  • PULSEFIRE DART
  • สาย USB-C
  • Adaptor 2.4GHz
  • ตัวขยายสัญญาณ RF (กลมๆ)
  • คู่มือ และ ใบรับประกัน

DESIGN

งานออกแบบในทั้ง 2 รุ่นนี้ถือว่าเน้นโทนสีดำเป็นหลัก และในตัวเมาส์นั้นมีขนาดกำลังดี แต่จะออกเหมาะสำหรับคนที่มือใหญ่พอสมควรครับ เพราะขนาดออกมาทำได้ดีพอดีมือมากๆเลย ส่วนตัวที่ชาร์จไร้สายนั้นถือว่าดีไซน์อะไรเน้นใช้งานเลยแหละ มีตัวแบ่ง 2 ข้าง และมีตำแหน่งของที่ชาร์จวงกลมมาให้เลยและวัสดุกันลื่นใส่เข้ามาทั้งรอบฐานเลยครับงานประกอบวัสดุอะไรพวกนี้ถือว่าเก็บงานได้ดีทั้งเรื่องของรอยต่อ ตัวข้อต่อต่างๆรวมถึงตัวสายที่ให้มาก็แข็งแรงดีครับ

ไฟพร้อมทั้งหมด 2 ตำแหน่งครับ บนและล่างตรงโลโก้เลยตามภาพ สามารถปรับโซนสีแยกได้ด้วย ตัวเมาส์นั้นเราจะเห็นรูปทรงที่อาจจะคุ้นเคยกันดีของแบรนด์นี้ในตระกูล Dart ทรงมันจะออกบานๆนิดหน่อยในด้านขวาและอวบๆครับ วัสดุในตัวที่จับทั้ง 2 ข้างนั้นจะค่อนข้างนุ่มมากๆ และตัวรูปทรงถือว่าพอดีและรองรับได้สบายครับด้านหลังนั้นตอนแรกจะมีการบอกว่าตำแหน่งของที่ชาร์จไร้สายนั้นอยู่ตรงไหนแบบชัดๆ ช่วยในการวางชาร์จได้เยอะพร้อมกับ สวิทช์ปุ่ม เปิดปิดครับให้มาในด้านหลัง และรุ่นนี้จะไม่รองรับการเพิ่ม หรือ ลดน้ำหนักตัวเมาส์อะไรนะครับ

ด้านหน้าของเมาส์นั้้นเราจะเห็นว่ามีความโค้งรับได้ค่อนข้างดีรวมถึง ช่อง USB-C ในส่วนด้านหน้าของเมาส์ครับที่รองรับทั้งเรื่องของการใช้งานแบบมีสาย และ รองรับการใช้งานแบบชาร์จไฟเข้าด้วยเช่นกันไม่ใช่แบบไร้สายอย่างเดียวครับถือว่ายืดหยุ่นดี ส่วนด้านหลังก็จะเห็นทรงของตัวเมาส์ค่อนข้างชัดเจนว่าจะโค้งมนและมีความอวบมากๆ

เมื่อมองด้านข้างนั้นจะเห็นทรงชัดๆของรุ่นนี้ครับแน่นอนว่าชอบตรงที่วัสดุของด้านข้างทั้ง 2 คือเป็นยางแบบนุ่มๆมีความหนานุ่มมากๆเหมือนกับการใช้หนังเลย คือกดลงไปและมีระยะเยอะมากนุ่มสบายนิ้วพอสมควรเลยครับอันนี้ชอบมากๆ ส่วนตัวปุ่มในด้านซ้ายจะเป็นปุ่ม 2 ปุ่มสามารถปรับแต่งได้ ตัวเมาส์ภาพรวมถ้าคนมือใหญ่น่าจะชอบทรงนี้ครับ

ตัวขยายสัญญาณนั้นเราสามารถใช้งานได้เพื่อเพิ่มความแม่นยำและระยะได้ดีกว่าเดิมให้มาเป็นตัวกลมๆ ที่รองรับหัวแบบ USB-C และอีกด้านเป็น USB-A ในการเสียบตัว Adaptor เข้าไปครับหรือถ้าไม่อยากใช้ตัวขยายก็ใช้งานแบบทั่วไปได้ครับเสียบแค่ตัว Adaptor  ตามภาพที่ 2 แค่เล็กๆสำหรับใช้งานพกพา แต่ถ้าสายเกมเน้นๆก็ใช้ตัวขยายได้

ดีไซน์ของแท่นชาร์จนั้นรองรับทั้งหมด 2 อุปกรณ์ครับแยกซ้ายขวากันชัดเจนมีขนาดใหญ่กว่าที่ชาร์จทั่วไปเยอะอาจจะเพราะต้องรองรับการใช้งานทั้ง 2 เครื่อง และตรงกลางนั้นจะเป็นไฟสถานะตามแนวยาวด้วยครับ แต่ที่ชอบคือการใช้วัสดุของรุ่นนี่ที่เป็นยางกันลื่นทั้งหมด และยังใส่จุดกันลื่นมาอีกชั้นตรงเป็นวงกลมข้างในที่บอกตำแหน่งของชาร์จ

ตัวไฟสถานะนั้นจะเป็นสีแดงมีมาให้ทั้ง 2 ข้างนะครับถ้าข้างในชาร์จฝั่งไหน ไฟสีแดงฝั่งนั้นก็จะติดครับ อันนี้ต้องขยับๆนิดหน่อยเพราะตำแหน่งชาร์จมันไม่ได้กว้างมากนัก ต้องวางให้ตรงกับตรงวงกลมจะดีที่สุดครับ ส่วนเรื่องของวัสดุซูมให้ดูชัดๆเลยว่าใส่ยางกันลื่นมาเต็มมากๆทั้งตัววัสดุฐาน ยังมียางอีกชั้นรอบๆ และมีอีกชั้นในส่วนวงกลมเส้นประครับ

SPEC

  • HYPER X  PULSEFIRE DART
  • Pixart PMW3389
  • 16000 DPI
  • Pooling Rate 1000Hz 1MS
  • Omron Switch
  • 2.4GHz ไร้สาย / ต่อสาย
  • อายุแบต 90 ชั่วโมง – LED ปิดทำงาน // 50 ชั่วโมง – ไฟ LED เปิด
  • น้ำหนัก 110 ก.
  • USB Type-C
  • HYPER X CHARGEPLAY BASE 
  • อุปกรณ์ Qi 2 ตัว
  • รองรับ 15W
  • USB Type-C  1.8 ม.

SOFTWARE

ทางด้านระบบซอฟต์แวร์นั้นสามารถใช้งานตัว HyperX NGENUITY ได้ครับเป็นตัวโปรแกรมหลักสำหรับการปรับแต่งทั้งหมด ทั้งไฟ ปุ่ม หรือ สินค้าอื่นๆของทางค่ายนี้ แน่นอนว่าตัวนี้จะปรับได้แค่เมาส์ครับ ที่รองรับการใช้งานหลักๆในการปรับแต่งคือตัวไฟที่มีหลากหลายย Effect ให้เลือกรวมถึงการปรับความสว่างได้ ความเข้มของแสงสี รวมถึงโทนสีได้ด้วย และแน่นอนว่า ตัวโปรแกรมนั้นสามารถปรับทั้ง DPI POOLING RATE อะไรได้ทั้งหมด รวมถึงปรับในเรื่องของปุ่มมาโครได้แน่นอนว่าการใช้โปรแกรมนี้จะแจ้งสถานะแบตได้รวมถึงชาร์จไฟเต็มก็จะมีหน้าแจ้งเตือนเด้งครับ

FEELING

มาที่ด้านการใช้งานเวลาเล่นเกม การจับถือกันก่อน แน่นอนว่ากริปยางนั้นจับถนัดมือมากขึ้นครับ มีความนุ่มและสัมผัสดีกว่าตัวอื่นๆมากมันมีความหนาของเนื้อยางข้างในดีมากๆครับ และ ขนาดของรุ่นนี้อยู่ในระดับกลางไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปครับ แต่ทรงมันจะอวบๆออกด้านข้างครับ ส่วน วัสดุที่รู้สึกต่างก็เป็นผิวสัมผัสโดยรวมและตัวยางที่ทำได้ดีครับเกาะนิ้วได้ดีเลยแหละ และใช้งานตัวปุ่มต่างๆอยู่ในตำแหน่งที่พอดีกับการใช้งานรวมถึงตัว Scroll ก็เป็นจังหวะและใช้งานวัสดุในการจับดีมากๆเลย การใช้งานโดยรวมไม่ได้มีอะไรติดขัดครับ มาที่ส่วนในการใช้งานแบบไร้สายนั้น แทบไม่เจอจุดที่ผิดปกติจากแบบสายเลยครับความนิ่ง สัญญาณเวลาเล่นเกมอะไรพวกนี้เหมือนมีสายเสียบตลอดเวลาไม่เจออาการผิดปกติ หลุด หน่วง แลค อะไรแต่อย่างใดครับ และ ตัวแบตนั้นใช้งานได้ยาวนานจริงๆ ชาร์จ 1 ครั้งใช้สบายๆหลายวันได้เลยครับ ประมาณ 50 ชั่วโมงถ้าเราเปิดไฟ และ ถ้าปิดไฟใช้ได้นานถึง 90 ชั่วโมงเลย และถ้าแบตหมดก็เอาสายเสียบชาร์จได้ ใช้ไปชาร์จไปได้เป็นอีก 1 ข้อดีเลยที่สามารถชาร์จไปเล่นไปได้ครับ รวมถึงชาร์จไร้สายได้ด้วย

การจับถือทั้งหลายๆแบบ แบบเต็มมือหรือแบบจิกก็สามารถรองรับได้สบายๆครับ ตัวทรงมันทำออกมาอิสระมากๆ และเอาจริงๆแอบมินแทบไม่รู้สึกเลยว่าแบบไร้สายกับแบบสายมันต่างกันเพราะใช้ทั้ง 2 ตัวบอกได้เลยว่ามันไม่ต่างเลยถือว่าเทคโนโลยีมันมาไกลมากครับคือสัญญาณมันนิ่งจริงๆนะจากที่ใช้งานจุดนี้ยอมรับเลยครับ ด้านความสะดวกในการใช้งานไร้สายนั้นก็ตอบโจทย์ได้อย่างดี และ กริปก็จับได้ดีมากๆครับเอาจริงๆส่วนตัวก็ไม่ค่อยชินเรื่องทรงนี้เท่าไรเพราะจะแอบอวบๆแต่ปรับตัวไม่นานก็สามารถใช้งานได้ค่อนข้างถนัดครับอันนี้ถือว่าทรงไม่ได้จับยากหรือแปลกอะไร

CHARGING 

การชาร์จนั้นรองรับทั้งเรื่องของการชาร์จแบบมีสายปกติ และ การชาร์จแบบไร้สายครับในเรื่องของการชาร์จแบบมีสายก็สามารถใช้งานได้ปกติเลยเสียบชาร์จและเล่นไปชาร์จไปได้สบายๆครับ ส่วนถ้าชาร์จแบบไร้สายนั้นอาจจะเล่นไปชาร์จไปไม่ได้ถ้าแผ่นรองเมาส์เราไม่มีระบบชาร์จไร้สายและไม่ค่อยมีรุ่นไหนที่รองรับทั้งแผ่นครับเลยอาจจะเน้นในแง่ของการชาร์จเมื่อเล่นเสร็จแล้วทุกวันจะง่ายกว่า และแค่วางไปเท่านั้นให้ตัวโลโก้ Hyper X นั้นพอดีกับวงกลมครับ ระยะการชาร์จไม่ได้นานเท่าที่คิดครับเมื่อชาร์จเต็มจะมีไฟแจ้งเตือนตรงเมาส์ รวมถึง มีไอคอนแจ้งเตือนในหน้าคอม

Hyper X PULSEFIRE DART  +  CHARGEPLAY BASE

” เมาส์ไร้สายทั้งการใช้งาน และ การชาร์จไร้สาย ใช้คู่กับที่ชาร์จลงตัว เรียบง่าย “

เข้าสู่ยุคไร้สายแบบเต็มที่ในด้านของสายเกมมิ่งและแน่นอนว่าทั้งเรื่องของการชาร์จไร้สายและใช้งานแบบไร้สายทำให้ยกระดับความสะดวกสบายได้เยอะ และแม้เป็นแบบไร้สายแต่ก็ไม่ได้มีความแตกต่างกับแบบมีสายเลยครับด้วยความอัตราการส่งมีความหน่วงน้อยมากๆแค่ 1MS เท่านั้นครับและสัญญาณนิ่งเร็วมากๆอีกทั้งยังมีการออกแบบ RF เข้ามาให้เป็นตัวรับสัญญาณได้ดีขึ้นนิ่งขึ้นไปอีกและระยะไกลมากกว่าเดิม ทางด้านอายุแบตก็ทำได้อึดเอาเรื่องครับแม้จะเปิดไฟก็ตามได้ถึง 50 ชั่วโมงเลยทีเดียวและถ้าปิดไฟก็ได้นาน 90 ชั่วโมงถือว่าสเปกการใช้งาน และวัสดุทำได้ดี ส่วนตัวแท่นชาร์จนั้นรองรับการชาร์จตรงรุ่นได้อย่างดีครับ และรองรับชาร์จมือถือไร้สายได้ด้วย เป็นคู่ที่ลงตัว ถ้างบใครพอจัดได้ทั้ง 2 ตัวนี้ถือว่าครบ จบ ลงตัวครับ เตรียมเงินไป 5,000 มีทอนถ้างบถึงแน่นอนว่าคุ้มและน่าซื้อมากๆครับ

ข้อดี

  • ความหน่วงต่ำมากๆแค่ 1MS
  • สวิทช์ระยะการกดและเด้งรับทำได้ดี
  • รองรับ USB-C ใช้แบบมีสายไร้สายได้
  • รองรับการใช้งานแบตได้ค่อนข้างนานมากๆ 50 ชั่วโมง
  • รองรับการชาร์จไร้สาย สะดวกพอสมควร
  • ไฟปรับแต่งแยกโซนได้
  • วัสดุบุนุ่มกำลังดี มีพื้นผิวที่ดีไม่ลื่น
  • แท่นชาร์จรองรับได้ 2 เครื่อง ขนาดกำลังดี
  • แท่นชาร์จ มีไฟสถานะบอกชัดเจน

ข้อสังเกต 

  • ทรงเมาส์อาจจะไม่ถนัดสำหรับบางคน
  • ตัวเมาส์ มีน้ำหนักมากกว่ารุ่นทั่วไป
  • ราคาซื้อถ้ารวมทั้ง 2 อาจจะแอบสูงไปหน่อย

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review By Nineztr