การขึ้นจอฉายโรงภาพยนตร์เป็นเรื่องแรกของอนิเมะที่กำลังมาแรงมากๆ อย่าง มหาเวทย์ผนึกมาร หรือ Jujutsu Kaisen ที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนชื่อดังโดยอาจารย์ Gege Akutami มียอดขายอันดับ 1 กว่า 30 ล้านเล่ม ตัวภาพยนตร์ที่ถูกสร้างจากหนังสือการ์ตูนที่เป็นเรื่องราวภาคต้นก่อนจะเกิดเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องหลักนี้สามารถทำรายได้มากกว่า 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 5,997 ล้านบาทหลังจากเข้าโรงภาพยนตร์เป็นครั้งแรก โดยในบ้านก็ได้เข้าฉายในทุกระบบรวมถึงระบบ IMAX ด้วยถือว่าถูกใจแฟนๆ ที่ชื่นชอบอนิเมะมากๆ
มหาเวทย์ผนึกมารเป็นการ์ตูนเกี่ยวกับการต่อสู้ของกลุ่มผู้ใช้คาถาเหนือธรรมชาติด้วยคำสาปจากคุณไสยต่างๆ มีเนื้อหาที่เข้มข้นจากการเอาตำนานพื้นบ้านญี่ปุ่นอย่างคำสาป มนต์คาถาและปีศาจ มาใช้ในการต่อสู้และการออกแบบตัวละครทั้งฝ่ายพระเอกและตัวร้ายที่มีคาแรกเตอร์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ดึงดูดใจแฟนๆ โดยในฉบับอนิเมะได้สตูดิโอชื่อดังอย่าง MAPPA ขึ้นชื่อเรื่องเป็นผู้สร้างอนิเมะที่ทำงานอนิเมะชื่อดังมากมาย มารับหน้าที่นำอนิเมะชื่อดังขึ้นจอใหญ่พร้อมงานแอนิเมชันที่รับประกันได้ถึงคุณภาพที่สวยงามลื่นไหลทั้งงานภาพและเสียงดนตรีประกอบที่สนุก เร้าใจ
มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ เล่าเรื่องย้อนอดีตดราม่าเข้มข้นผสมฉากแอ็กชันการต่อสู้ไสยเวทย์ คำสาป มากมาย และ คาแรกเตอร์ที่มีเอกลักษณ์ โดยฉบับภาพยนตร์นี้ มีพระเอกคนใหม่ ยูตะ หนุ่มขี้อายผู้มีปัญหาในการเข้าสังคมเนื่องจากถูกกลั่นแกล้งเป็นประจำและยังวิญญาณของเด็กสาว ริกะ เพื่อนสมัยเด็กที่เคยสัญญาว่าจะแต่งงานกันตายจากอุบัติเหตุรถชน จนกลายเป็นวิญญาณต้องสาปทรงพลังที่คอยติดตามและทำร้ายคนที่เข้ามาใกล้ยูตะ จนโรงเรียนไสยเวทย์ต้องเข้ามาพายูตะไปเป็นนักเรียนเพื่อหวังช่วยแก้คำสาปให้โดยได้เข้าไปเรียนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ โทเกะ ผู้ใช้คำพูดต้องสาป แพนด้า ศพทดลองในรูปลักษณ์หมีแพนด้า มากิ หญิงสาวผู้มาจากตระกูลไสยเวทย์ชื่อดัง ยูตะต้องไปพัวพันกับความขัดแย้งของกลุ่มไสยเวทย์ 2 ฝ่าย เพราะเกโตะ อดีตเพื่อนร่วมรุ่นของโกะโจ ผู้ต้องการดูดซึมพลังคำสาปอันทรงพลังของริกะมาใช้งานในการทำลายล้าง
ในด้านตัวละครมีคาแรกเตอร์ที่แฟนๆ ชื่นชอบจากภาคซีรีส์มาครบชุด พร้อมพระเอกคนใหม่ ยูตะ มีบทโดดเด่นในด้านซีนอารมณ์ดราม่า เพราะต้องแบกรับเนื้อเรื่องทั้งหมดทั้งในด้านความกดดันจากวิญญาณของเพื่อนสมัยเด็ก และการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมรุ่นทั้ง 3 ในโรงเรียนระหว่างฝึกวิชาเพื่อหาทางล้างคำสาป โดยมีพล็อตรองคือความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์โกะโจและเกโทอดีตเพื่อนสนิทที่ต้องมาต่อสู้กันเพราะอุดมการณ์ต่างกัน สำหรับการเดินเรื่องต้องบอกว่าโดดเด่นด้วย การเล่าแนวแฟนตาซีสยองขวัญที่สอดแทรกความเป็นดราม่าและมุกตลกได้อย่างลงตัว รวมถึงการเล่าเรื่องที่รวดเร็วฉับไว จนอาจทำให้การพัฒนาตัวละครดูก้าวกระโดดไปนิด สำหรับยูตะที่พัฒนาตัวเองทั้งในด้านความสัมพันธ์กับคนรอบข้างและค้นพบวิธีจัดการกับคำสาปริกะในตัวจนกลายเป็นผู้ใช้ไสยเวทย์ระดับแนวหน้าในที่สุด
ส่วนประสบการณ์การรับชมใน IMAX ต้องบอกว่างานอนิเมะปัจจุบันได้ขึ้นมาฉายบนจอ IMAX เยอะขึ้นมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Sword Art Online: Progressive – Aria of a Starless Night หรือ ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ซึ่งการนำภาพยนตร์อนิเมะขึ้นจอขนาดใหญ่เป็นความท้าทายด้านงานภาพอย่างมาก เพราะถ้าคุณภาพไม่ดีพอ หรือ ไม่มีฉากที่โชว์เทคนิคพิเศษด้านภาพให้สมกับการดูในจอใหญ่ๆ โดยในเรื่องนี้ก็ต้องบอกว่าทำได้สมมาตรฐานทั้งงานภาพถึงแม้จะไม่โดดเด่นเท่าอนิเมะเรื่องก่อนๆ แต่ก็มีการใช้งานภาพที่สวยงาม ลายเส้นคมชัด รวมฉากต่อสู้ที่มีเทคนิคด้านภาพที่น่าตื่นตา แอนิเมชันการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล อีกทั้ง เสียงเอฟเฟ็กต์ประกอบการต่อสู้ด้วยไสยเวทย์และคำสาปต่างๆ ที่น่าตื่นเต้น และ ในส่วนของดนตรีประกอบก็มีบทเพลง 途 (Ichizu) โดยวงดนตรีที่กำลังมาแรงในวงการเพลงร็อกญี่ปุ่นอย่าง King Gnu ก็ไพเราะมากๆ เมื่อฟังในลำโพง IMAX
กล่าวโดยสรุป มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันคุณภาพในด้านเนื้อหา เล่าเรื่องฉับไว ตัวละครมีเสน่ห์ฉากต่อสู้จัดเต็ม งานด้านภาพได้มาตรฐานสตูดิโอชื่อดัง มีเพลงประกอบที่ไพเราะ คนทั่วไปสามารถดูได้โดยไม่ต้องเคยดูภาคซีรีส์มาก่อน ส่วนประสบการณ์การชมภาพยนตร์จอใหญ่สำหรับแฟนๆ อนิเมะที่ไม่ควรพลาดครับ
BY GARNOKK
