Lenovo Thinkpad เป็นคอมพิวเตอร์ที่หลายๆคนน่าจะรู้จักกันดีแต่จะเป็นแบรนด์ที่นิยมใช้กันในองค์กรมากกว่าครับ และมันจะมีพวก Workstation ที่เหมาะมากๆสำหรับตัวผมเองครับ สำหรับตัวผมเองนั้นเนื่องจากทำงานด้าน สถาปนิกอยู่จึงค่อนข้างสนใจในแบรนด์นี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนั้นเอง ด้วยการที่มันใช้งาน CPU GPU ที่รองรับกับการเรนเดอร์งานเป็นหลัก ในการประมวลผล 3 มิติในแง่ของการทำงานมากกว่าเล่นเกม จึงทำให้ค่อนข้างตอบโจทย์ในการ ขึ้นแบบบ้าน แปลนบ้าน เรนเดอร์โมเดลบ้าน รวมถึงการตัดต่อตกแต่งครอบคลุมไปถึงการทำหนังสั้น หรือทำคลิปได้ทั้งหมด และด้วยตัวแบรนด์นี้เน้นในเรื่องของ การรับประกันทั่วโลกก็ทำให้อิสระมากขึ้นส่วนทางด้านงานออกแบบก็ต้องบอกว่าค่ายนี้ยังคงเป็นแนวทางเดิมคือเน้นสีดำเรียบง่ายเหลี่ยมๆที่เป็นเอกลักษณ์มายาวนานและมีโลโก้พร้อมไฟจุดสีแดงตรงโลโก้ และในงานของแอดมินเองก็ต้องมีการทำงานนอกสถานที่เป็นหลักแก้แบบ แก้งานที่บ้านเยอะแยะ ในการเลือก Mobile Workstation จึงเป็นเหตุผลหลักๆที่ได้จัดเจ้า Thinkpad P1 ตัวนี้มาใช้งานเป็นคอมพิวเตอร์หลักในการทำงาน สถาปนิก ทั้งได้ CPU Intel Xeon + Nvidia Quadro T2000 พร้อมกับ RAM 16 GB จอ 4K ที่สีสันตรงถือว่าช่วยได้เยอะมากครับ
สำหรับตัว Lenovo ThinkPad P1 รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ 2 แล้วหรือ Gen 2 นั้นเองครับแน่นอนว่าอย่างที่บอกไปนั้นจะใช้งานทางด้านงานออกแบบเป็นหลัก และในตัว p1เป็นโน้ตบุ๊กในระดับ Mobile Workstation ขนาดมาตรฐาน เมื่อเทียบกับ Mobile Workstation ทั่วไปกับขนาดหน้าจอ 15.6″ แต่มีรุ่นมีความบางเบาเป็นพิเศษ โดยมีหลากหลายสเปคให้เลือกซื้อ และสามารถปรับแต่งได้ตามแบบฉบับเรา โดยตัวนี้จัดมาใน สเปค Xeon E-2276M และการ์ดจอเน้นงาน 3 มิติด้วย NVIDIA Quadro T2000 4GB ตัวล่าสุด พร้อมให้ RAM 16GB และ SSD M.2 NVMe 1 TB โดยได้ความบางที่ 18.4 มิลลิเมตร และ น้ำหนักเพียง 1.7 กิโลกรัม เท่านั้นถือว่าเป็นรุ่นที่พกพาได้ง่ายและสะดวกอย่างมากครับ ในด้านของสเปคอื่นๆ ก็มีในเรื่องของ หน้าจอ 15.6 นิ้วพร้อมกับ OLED HDR 4K รองรับ Dolby Vision ครับ และในเรื่องของลำโพงรุ่นนี้จะรองรับ Dolby Atmos ด้วยบอกเลยว่าเสียงดังเอาเรื่อง และยังคงมาพร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อ Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต และมี USB 3.1 Type-A อีก 2 พอร์ต รวมถึงพวก HDMI, Mini Ethernet, SD Card Reader และมีออฟชั่นเสริม Smart Card ก็สามารถเลือกเพิ่มเอาได้ แต่ยังไม่ค่อยจำเป็นเท่าไรนักเลยไม่ได้ใส่สเปคนั้นมาครับ และแน่นอนว่า Windows 10 ก็มีมาให้เช่นกันเลือกเวอร์ชันอะไรได้เลยครับตอนสั่งซื้อ และในเรื่องความปลอดภัยแน่นอนว่าพวกนี้จะค่อนข้างเน้น ทั้งตัวปิดกล้องหน้า การสแกนหน้า 3 มิติ รวมถึง สแกนนิ้วมือก็ให้มาครับเลยนั้นเองครับ
THINKPAD P1 สำหรับรุ่นนี้ทางเราได้ปรับสเปคจากตัวเดิม ที่มีมูลค่า 60,590.00 บาทขึ้นมาเป็น 102,890 บาทแต่หลังจากใช้ส่วนลดแค่คูปองโค้ด จะเหลือ 84,514.30 บาทเท่านั้น ครับผม และพิเศษ !!! สำหรับการสั่งซื้อในเดือนนี้ มีโปรโมชั่น ราคาตัวเครื่องลด 20% จากราคา 60,590 เหลือเพียง 48,472 บาทพร้อมและซื้อ 2Y Onsite Warranty จาก 8,224.0 บาทเหลือเพียง 100 บาท รวมถึง สามารถ อัพ RAM 32GB เพียง 50% จากราคา 12,000 บาท เหลือเพียง 6000 บาท และ พิเศษ สำหรับคนที่อ่านรีวิวนี้ ใช้โค้ด WST5000 เพื่อลด 5000 บาททันทีกับ mobile workstation ต่อไปนี้ **เฉพาะซื้อหน้าเว็บ Lenovo.com/th เท่านั้น ThinkPad P1 Gen 2 ThinkPad P43s ThinkPad P53s ThinkPad P53 ThinkPad P73
UNBOX
ตัวกล่องนั้นยังคงงานออกแบบได้เรียบหรูดูดี สีดำแดงเช่นเดิมครับ ของที่ให้มานั้นไม่มีอะไรเยอะมีแค่สายชาร์จ Adaptor 135w หัวชาร์จแบบเดียวกับ Lenovo รุ่นอื่นๆ พร้อมกับคู่มือในการใช้งานต่างๆครับ และตัวเครื่อง Lenovo Thinkpad P1 เท่านั้น
DESIGN
งานออกแบบของตระกูล ThinkPad นั้นต้องบอกกันเลยว่ามันเรียบง่ายเรียบๆสีดำเหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้มานานมากๆและอาจจะทำให้ไม่ค่อยถูกใจใครหลายๆคนก็เป็นได้ แต่เดิมแล้วมันจะเน้นในเรื่องการใช้งานในองค์กรมากกว่าเลยไม่ได้เน้นเรื่องออกแบบมากนัก และในรุ่นนี้ก็เป็น Workstation ที่เด่นในเรื่องของความบางเบามากๆเมื่อเทียบกับสเปคที่ใส่เข้ามา ส่วนวัสดุก็แข็งแรงทนทานและรองรับมาตรฐาน MILSTD เช่นเดิมครับ รวมถึงมีความอิสระในการกางหน้าจอและวัสดุเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดเป็นส่วนใหญ่ด้วย ถือว่าทำได้ดี และมีน้ำหนักที่พกพาได้ง่ายและไม่หนักจนเกินไปครับ ถือว่าในภาพรวมดีไซน์เรียบๆสีดำและเบาบางใช้ได้เลย
เมื่อเปิดฝามาข้างในจะเห็นการจัดวาง Layout แบบพื้นฐานแต่ไม่มี NumPad นะครับ วัสดุที่นำมาใช้แน่นอนว่าถ้าเน้นเรื่องของความเบาบางก็ยังคงใช้งานวัสดุพลาสติกคุณภาพสูงและแมกนีเซียมอัลลอยด์ทั้งเครื่องเลย และสีดำด้านๆก็ทำให้ดูดีขึ้น และไม่ค่อยติดรอยนิ้วมือเท่าไรด้วยนะจากที่ทดสอบใช้งาน ส่วนโลโก้ก็มีทั้งด้านนอกและด้านใน รวมถึงขอบหน้าจอก็ทำได้บางพอสมควรแต่ไม่ได้บางเท่าคอมทั่วไป แน่นอนว่ามันเน้นเอาความแข็งแรงเป็นหลักมาก่อนดีไซน์อยุ่แล้วและเน้นใช้งานล้วนๆเลยครับตัวนี้
โลโก้ Thinkpad นั้นยังคงเป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิมเลยมีการวางโลโก้ไว้มุมเครื่องทั้งด้านนอกและด้านใน และที่สำคัญคือมีไฟตรงจุดสีแดงในส่วนของฝาหลัง เวลาใช้งานก็ถือว่าเป็นลุกเล่นเล็กๆน้อยที่เราสามารถดูได้ว่าเปิดหรือปิดอยู่ในการใช้งานครับผม
ในส่วนของงานออกแบบข้างในนั้นจะเห็นว่าตรงส่วนของคีย์บอร์ดนั้นจะเว้าลงไปนิดหน่อยครับในการออกแบบทำให้เวลาพิมพ์อะไรจะสะดวกกว่าเดิมด้วย และปุ่ม Power นั้นจะมีไฟสถานะสีขาวตรงกลางปุ่มเลย และใช้วัสดุสีดำเงามีลวดลายนิดหน่อย และจะสังเกตเห็นที่สแกนนิ้วมือสี่เหลี่ยมด้านล่างครับและชื่อรุ่น P1 จะซ่อนเนียนๆตรงมุมขอบหน้าจอ ขอบหน้าจอด้านข้างถือว่าบางมากๆ แต่ส่วนบนและล่างก็ยังมีความหนาอยู่นิดหน่อยครับ
ตรงด้านหลังโซนคีย์บอร์ดจะเป็นช่องระบายความร้อนทั้งแถบครับถือว่าเป็นตำแหน่งปกติในการออกแบบหลายๆรุ่นและยิงลมออกไปข้างหลังและมีช่องระบายความร้อนข้างล่างด่วยเช่นกัน ส่วนตัวข้อพับนั้นต้องบอกว่ามีความแข็งแรงพอสมควรเลยและที่เด่นๆของแบรนด์นี้คือตัวจอนั้นสามารถกางราบไปกับพื้นได้ตามภาพ
ด้านหลังเครื่องนั้นมีงานออกแบบที่เรียบๆครับ วัสดุแบบด้านแบบเดียวกับข้างหน้าทั้งหมดเลยและจะเห็นตัวน็อตที่สามารถถอดมาเซอร์วิส หรืออัพเกรดได้ด้วยเช่นกัน ในรุ่นนี้จะรองรับ การอัพเกรด RAM SSD ได้ และจะเห็นมีช่องดูดลมเย็นเข้าตรงกลางเครื่อง พร้อมยางรองทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และลำโพงทั้งขอบซ้ายและขวา
SPEC
– Intel® Xeon® E-2276M with vPro™ (2.80GHz, up to 4.70GHz with Turbo Boost, 6 Cores, 12MB Cache)
– Windows 10 Pro for Workstations 64 (Xeon Processor only)
– 15.6″ UHD (3840 x 2160) IPS 500 nits, anti-glare with Dolby Vision™ HDR 400
– NVIDIA® Quadro® T2000 4GB
– Integrated Intel® UHD Graphics 630
– HD 720p with ThinkShutter privacy cover
– Optional:IR & 720p HD Camera with with ThinkShutter
– 16GB DDR4 2666 MHZ ECC (Xeon Processor only)
– 1TB PCIe SSD
– Up to 13 hours* on 80Wh, includes Rapid Charge technology**
– Up to 10 hours on a single one-hour charge
– Dolby Atmos® Sound System
– Discrete Trusted Platform Module (dTPM) 2.0
– Fast Identity Online (FIDO) authentication capabilities
– ThinkShutter webcam privacy cover
– Match-on-Chip Touch fingerprint reader
– Optional IR camera for Windows Hello
– Kensington lock slot
– Intel® AX200 Wi-Fi 6 802.11AX (2 x 2)
– Bluetooth® 5.0
– 2 x USB 3.1 Gen 1** (1 always on)
– 2 x USB 3.1 Gen 2 Type-C / Intel Thunderbolt™ 3 (DisplayPort, Data transfer)
– HDMI 2.0
– Mini Gigabit Ethernet
– Audio combo jack
– 4-in-1 media card reader (MMC, SD, SDHC, SDXC)
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพของรุ่นนี้ต้องบอกว่าเป็นสเปคที่จัดเต็มอย่างมากในแง่ของ CPU GPU ที่ค่อนข้างสูงสุดในการจัดสเปคของตระกูลนี้แล้วครับ ในรุ่นนี้จะใช้งานชิปประมวลผล Intel® Xeon® E-2276M with vPro™ (2.80GHz, up to 4.70GHz with Turbo Boost, 6 Cores, 12MB Cache) ตัวสูงสุดที่เน้นในเรื่องของการประมวลผล 6 คอร์ 12 เทรด และ มี RAM 16GB DDR4 2666 และ SSD M.2 NVMe 1TB ครับ และในเรื่องของการ์ดจอในตัวนี้เป็นรุ่นใหม่ แต่จะเป็นตัวที่จัด Ray Tracing ออก เป็นชื่อ T2000 4GB ครับ แน่นอนว่าตระกูล Quadro จะมีตัว RTX 3000-5000 ด้วยชื่อเดียวกับสาย เกมมิ่งนั้นเองครับ หลายๆคนอาจจะสับสนหรือไม่ทราบ ทางด้านสเปคเท่าที่ได้ลองต้องบอกว่ามันน่าจะรองรับได้ดีที่สุดในบรรดาคอมพิวเตอร์สายทำงานแล้วทั้งในเรื่องของ เรนเดอร์ กราฟิก ตัดต่อ ทำหนัง หรือจะเป็นสร้างสรรค์งานในทุกรูปแบบ แต่สเปคมันสามารถสุดได้กว่านี้ทั้ง RAM 64GB และ 4TB SSD
PC MARK นั้นทำคะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆแน่นอนว่าตัว Xeon ถือว่าเป็นสายงานนี้อยู่แล้วครับทำ 4356 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบครับ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้านทุกอย่าง และ รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้ง CPU -GPU ที่รองรับกันอย่างดีและระบายความร้อนได้ดีระดับนึงครับ จากการทดสอบเสร็จแล้วนั้น ความร้อนตัวเครื่องวัดได้ที่ CPU – 89 GPU 62 องศาครับผม
3DMARK นั้น ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงแต่ต้องเข้าใจกันก่อนว่าตัวการ์ดจอ Quadro นั้นจะเน้นทำงานมากกว่าเล่นเกม แต่คะแนนก็ถือว่าสูงครับ แต่จะเป็นในแง่ของการเรนเดอร์งานมากกว่า แต่เล่นเกมก็พอไหวแต่ไม่โหดเท่า RTX ในคะแนนเดียวกันนะครับ การทดสอบรวมถึงการทดสอบทั้ง 4 แบบนะครับ ตัว TIMESPY ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 3001 ถือว่าดี และในคะแนน Firestrike 7034 ส่วนแบบโหด Time SpyExtream นั้นทำได้ 1286 และ 1641 คะแนนครับ ต้องบอกว่าผ่านการทดสอบใช้งานระดับสูงๆของ 3D Mark สบายๆ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 4 แบบและวัดความร้อนนั้นประมาณ CPU 84 และ GPU 69 ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิด
CINEBENCH R20 R15 นั้น ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง ในตัว R20 นั้นที่ประมวลผลหนักหน่วงกว่าเดิม ทำคะแนน 2305 CB เลยครับ R15 นั้นทำได้ 1053 /137 FPS ประมวลผลหนักๆได้แบบสบาย มากๆและดีกว่าพวกรุ่นปกติเยอะเลยแหละ และ วัดความร้อนนั้นประมาณ CPU 89 และ GPU 70 ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วยครับผม และในแง่ของการอ่านเขียนของ SSD 1TB แบบ M.2 NVMe การอ่านที่ 3451 MB/s และเขียนที่ 3012MB/s ถือว่าอยู่ในระดับที่ไวที่สุดแล้วและสามารถรองรับการทำงานได้แบบลื่นไหลสุดๆทั้งอ่านและเขียนข้อมูล
SCREEN
ทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ 15.6 นิ้วขนาดกำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปพกพาได้ง่ายครับในการทำงาน ทางด้านสเปคนั้นจัดเต็มมากๆมาพร้อมกับหน้าจอ 4K OLED HDR IPS ที่รองรับ Dolby Vision รวมถึง มีความสว่างการสู้แสงที่ดีมากๆพร้อมกับหน้าจอแบบด้านความสว่างสูงสุด 500Nits และรองรับ HDR 400 สำหรับทางด้านสเปคต้องบอกว่าจัดเต็มครับทั้งการรองรับและความสว่างในแง่ของคอมพิวเตอร์สายทำงาน Hz อาจจะไม่ได้สูงเวอร์แบบสายเกมมิ่งครับแต่ในรุ่นนี้ก็ดีขึ้นอย่างมากในการทำงานของแอดมินเอง จากที่ได้ลองใช้งานนั้นในเรื่องของสีที่ทดสอบโดยทั้งการแต่งรูปทั้งหมด หรือทำงานด้านกราฟิกที่แอดมินเทียบกับหน้าจออีกตัวที่ทำงานประจำที่ผ่านการคาริเบรทมาแล้วก็บอกว่าสีสันมีความใกล้เคียงกันอย่างมากสามารถเอามาทำงานได้เลย ทั้งการแต่งรูปหรือทำงานกราฟิกครับและการรองรับมุมมองของหน้าจอนั้นทำได้ดีและอิสระมาก
ด้วยการที่หน้าจอนั้นรองรับการใช้งานกางได้สูงสุดเลยทำให้การรองรับมุมมองเป็นสิ่งสำคัญ หรือการใช้งานหน้าจอให้รองรับสีที่ดีก็สามารถเอางานให้ลูกค้าดูได้เลย และมีความแม่นยำของสีที่ดีไม่เพี้ยนไม่ดรอปแม้จะมีมุมมองในแนบราบก็ตามครับถือว่าเป็นข้อดีของหน้าจอตัวนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งหน้าจอรุ่นนี้จะมีตัวเลือกที่มีหน้าจอแบบสัมผัสเป็นหน้าจอแบบสูงสุดครับ แต่จริงๆถ้าไม่ได้ใช้งานระบบสัมผัสตัวหน้าจอตัวนี้ก็ถือว่าครอบคลุมในการใช้งานทั้งความละเอียด ความคมชัดและความแม่นยำครับ ส่วนการดูหนังก็รองรับ HDR DOLBY VISION 4K ได้เต็มที่เลยสำหรับ NETFLIX พวกนี้ครับทางด้านหน้าจอเลยเหมาะสำหรับสายงานนี้โดยตรงเลยแหละ
SPEAKER DOLBY ATMOS
ในส่วนของลำโพงบอกเลยว่าเป็นลำโพงที่จัดเต็มสมราคาครับลำโพงมีมาให้ 2 ตัวยิงลงข้างๆพร้อมกับรองรับระบบเสียง Dolby Atmos สามารถจำลองเสียงรอบทิศทางได้เลยและมีพลังกำลังขับเยอะครับและในส่วนของลำโพงแม้จะมีแค่ 2 ตัวหลักๆก็ตาม เสียงทำได้ดังชัดเจนรวมถึงมีน้ำหนักมีมิติของตัวเสียงดีครับเสียงเบสอะไรพวกนี้จัดเต็มแต่ที่ชอบเลยคือระบบเสียง Dolby Atmos มันทำได้ดีเลยแหละรอบทิศทางได้จริงและสมจริง ในการดูหนังทั้ง Netflix ก็รองรับรวมถึงการฟังเพลงทั่วไป หรือจะเป็นการเล่นเกมก็ตามครับเสียงทำได้สะใจสุดๆ
KEYBOARD
สำหรับแป้นพิมพ์แน่นอนว่าเป็นแบบเต็มทั้งหมดแต่น่าเสียดายว่าไม่มี Numpad เข้ามาครับอาจจะเป็นเพราะการวาง Layout ที่ต้องการให้มันวางไว้ตรงกลางแบบนี้ แน่นอนว่าแป้นพิมพ์ตัวนี้ยังคงเด่นเป็นเอกลักษณ์ของค่ายคือแบบ Accu Type ที่ทรงของแป้นนั้นจะไม่ได้เหลี่ยมๆทั้งหมดแต่จะมีเว้าคล้ายๆโค้งตรงฐานครับทำให้มันพิมพ์ได้ง่ายขึ้น และพิมพ์ผิดได้ง่ายขึ้นถือว่าเป็นข้อดีของแป้นพิมพ์แบบนี้เลยแหละ และแน่นอนว่ายังคงมีจุดแดงๆหรือ TrackPoint มาให้เหมือนเดิมที่จะทำให้ใช้งานลากเมาส์อะไรได้สะดวกขึ้นและเนียนตาขึ้นเยอะ
ในส่วนตัวระยะกดอะไรรู้สึกว่ามันลึกมากๆและความรู้สึกการเด้งรับของตัวแป้นแต่ละตัวคือทำได้ดีครับทำให้เรากดลงได้และมีระยะลึกกำลังดี แน่นพอสมควรด้วยการออกแบบของมันทำให้ใช้งานได้สะดวกและยังตอบสนองต่อการพิมพ์งานหรือเขียนอะไรได้เยอะและดีเลยแหละอันนี้ชอบๆครับคือระยะมันลึกกว่าทั่วไปชัดเจนเลยแหละ ส่วนตัวไฟ Backlit นั้นมีมาให้เป็นสีขาวปรับความสว่างได้ 3 ระดับปกติเลยนั้นเองครับ
TOUCHPAD
ตัว ทัชแพดนั้นต้องบอกว่ามีขนาดใหญ่พอประมาณครับพร้อมกับปุ่ม 3 ปุ่มที่สามารถปรับตั้งค่าได้แน่นอนว่ามันสามารถกดลงไปได้ทั้งปุ่มข้างบน และ ตัวทัชแพดด้านล่าง เลยทำให้ใช้งานได้สะดวกครับและถ้าใครยังไม่พอใจนั้นสามารถใช้งาน Trackpoint ด้านบนควบคู่กันไปได้ด้วยครับ ส่วนการสัมผัสใช้งานค่อนข้างลื่นไหล และรองรับการใช้งานหลายๆนิ้วได้อยู่เหมือนกัน จากภาพจะเห็นว่ารองรับการใช้งาน 4 นิ้ววางได้สบายๆครับ
ตัวเครื่อง รองรับการทัชได้หลายๆจุดทั้งใช้งานแบบ Multi touch หรือพวก Smart Gesture ที่สามารถใช้งานควบคู่กับ Windows 10 สามนิ้วก็รองรับได้สบายเวลาเลื่อนสลับแอปก็รองรับการทำงานได้ดีครับผม และ เลื่อนนิ้วปกติตอบสนองได้ดี ลื่นไม่หนืดนิ้วครับ ส่วนทางด้านน้ำหนักการกดปุ่มก็ไม่เจอปัญหาในการใช้งานอะไรครับทั้งซ้ายและขวา ด้านบน
CONNECTOR
พอร์ตในรุ่นนี้ต้องบอกว่าจัดเต็มสุดครับมาที่ด้านซ้ายกันก่อนเลยในด้านนี้จะเป็นพอร์ตชาร์จหลักพร้อมไฟสถานะ รวมถึงมี ThunderBolt 3 มาให้ถึง 2 พอร์ตและยังมี HDMI 2.0 และ Mini Gigabit Ethernet รวมถึงรู 3.5 อีกด้วย ครับถือว่ารองรับการตอบโจทย์ได้อิสระมากๆครับ ทั้งในการใช้งานทั่วไปและทำงานหนักด้วยเช่นกัน
ในด้านขวานั้นจะเป็นที่อยู่ของ 4-in-1 media card reader (MMC, SD, SDHC, SDXC) และ ด้านซ้ายสุดจะเป็นที่ใส่ Card พวก Credit Card ครับ แต่ทางเราไม่ได้เลือกใส่เข้ามาเลยไม่มีช่องให้ใส่นั้นเอง ส่วนช่อง USB-A 3.1 นั้น มีมาให้ 2 ช่องเลยทีเดียว และยังคงมี Kensington Lock มาให้ด้วยเช่นกัน ส่วนทางด้านไร้สายรองรับ Wifi 6 และ Bluetooth 5 ถือว่ารองรับมาตรฐานล่าสุดของการเชื่อมต่อ ณ ตอนนี้เลยครับ
WORKING PERFORMANCE
Work Station แน่นอนเราต้องเน้นเรื่องนี้นิดหน่อนเลยขอโอกาสเอางานที่ทำงานบ่อยๆคือ ในโปรแกรมที่ผมใช้งานกันจริงๆมาทดสอบกันเลยครับคือลองกันเลยว่าปกติงานพวกนี้ผมทำในตัว Desktop แต่ครั้งนี้มาลองเรนเดอร์ตัดต่อแต่งภาพในนี้เลยว่าจะเป็นยังไงครับ โดยเป็น Project ตึกสูง และ เป็นคอนโดด้วยแน่นอนว่าเป็นงานที่มีสเกลใหญ่พอสมควรครับและงานแบบนี้ในการเขียนแบบแปลน งานออกแบบค่อนข้างละเอียดพอสมควรครับเลยทำให้ในการทำงานก็ต้องพึ่งคอมที่รองรับการทำงานหลากหลายงานพร้อมกันได้ แน่นอนว่าหลักๆที่จะทดสอบคือใช้งานโปรแกรมทั้ง AUTOCAD – SKETCHUP 3D – PHOTOSHOP -PREMIERE PRO และจริงๆจะมี ILLUSTRATOR ด้วยครับ เป็นโปรแกรมพื้นฐานอาจจะไม่ได้ลึกมากแต่ก็เป็นโปรแกรมที่ใช้งานจริงๆในการทำงานส่งลูกค้าครับ เลยลองใช้งานกันเลย หลังจากที่ได้ลองต้องบอกว่าประทับใจในการซัพพอร์ตทำงานจริงๆคือทางผมสามารถ เรนเดอร์งานโดยที่สลับไป ใช้งาน AUTOCAD ได้ในการแก้ไขแบบแต่อีกโปรแกรมนั้นยังเรนเดอร์อยู่โดยที่ไม่กระตุกหรือหน่วงจนเด้งเลย ถ้าใช้งานพวกคอมพิวเตอร์ทั่วไป หรือแม้แต่ Gaming ก็ตามล้วนเจอปัญหานี้แน่นอนแต่ตัวนี้ไม่เจอ
AUTOCAD + PHOTOSHOP + SKETCHUP
อันนี้ก็เป็นตัวอย่างคร่าวๆในการทำงาน 3 โปรแกรมพร้อมกันครับแต่ยังไม่ได้เรนเดอร์ไปนะครับเปิดเช็ค 3 โปรแกรมพร้อมกันเป็นสิ่งที่เจอได้บ่อยมากในการทำงานเพราะ เมื่อเราแก้แปลนในภาพซ้ายมือแล้วนั้นจะอยากกลับไปเช็คว่ามุมไหนในโมเดลก็สามารถเลื่อนดูได้ ว่าตรงชั้นไหนมุมไหนโมเดลเป็นอย่างไร และเทียบกับภาพที่แต่งเรนเดอร์แล้วว่ามุมนั้นเมื่ออยู่ใน ซีนจริงๆเจออาคารไหนบ้าง เป็นยังไงวางลงตัวหรือไม่เป็นต้น และ Thinkpad ก็รองรับได้ดีไม่มีปัญหาครับ ส่วนในเรื่องความร้อนถ้าเปิด 3 โปรแกรมแบบนี้ยังเอาอยู่คือ CPU 76 และ GPU 59 ครับถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้และเครื่องยังไหวได้สบายๆครับสำหรับงานนี้
SKETCHUP 3D RENDER VRAY
ในงานนี้ก็เป็นการทดสอบแบบจัดเต็มเลยคือเรนเดอร์ไฟล์ความละเอียดสูงพร้อมกับใส่ Texture ที่อิงกับแสงและทั้งตัวกระจกเองรวมถึงดีเทลในอาคารก็ถือว่าเป็นการทดสอบได้ดีครับแต่ถ้าอยากหนักกว่านี้แนะนำเลยว่าใส่ต้นไม้และท้องฟ้าอาคารข้างหลังจะรู้เลยว่ามันทำงานไหวไหม ซึ่งจริงๆก็ลองอยู่ต้องบอกว่าไหวสบายครับแต่ความร้อนจะมีขึ้นมากกว่าปกตินิดหน่อย แต่ที่เรนเดอร์ในภาพตัวอย่างนั้นจะทดสอบเทียบกับคอม RTX ทั่วไปครับ เลยได้คร่าวๆว่าตัว GAMING จะเรนเดอร์พวกนี้คือ 110 นาที แต่ถ้าตัวนี้เอามาทำจะได้ภายใน 50-75 นาทีเท่านั้นเท่ากับประหยัดเวลาไปเยอะมากในการทำงานแต่ละชิ้นงานบอกเลยว่าเอาเรื่องเลยแหละครับ
PREMIRE PRO 4K 60FPS
แน่นอนว่าใครสายครีเอเตอร์ก็น่าใช้เหมือนกันเพราะว่ารุ่นนี้รองรับการเรนเดอร์ได้ดีครับในตัว CPU ทางผมเองก็ทำช่องอยู่แล้วก็ทดสอบกันง่ายๆเทียบกับคอมทั่วไปและเทียบกับ Notebook ที่ใช้ตัว CPU แบบปกติครับในการเทียบคร่าวๆในคลิปเดียวกันทั้งหมดความละเอียดเดียวกันทั้งหมด เทียบได้คร่าวๆคือถ้าใช้งาน ตัว Thinkpad จะเรนเดอร์ได้ภายใน 18 นาที แต่ถ้าใช้งาน คอมพื้นฐานไม่ใช่สายเกมจะเรนเดอร์ 40นาที และ ทั่วไปที่ใช้งานแต่สเปคแรง จะใช้เวลาประมาณ 34 นาทีครับในการเรนเดอร์คลิปต้องบอกว่ามันมีผลแบบชัดเจนถ้าเราเอาคลิปแต่ละเครื่องมาเทียบกันกับระยะเวลาในการเรนเดอร์ครับบอกเลยว่า ถ้าทำงานด้านนี้แนะนำ Workstation ตัวเดียวจบและไปได้ไกลกว่าแน่นอน
GAMING
Quadro เป็นการ์ดจอสายทำงานแต่หลายๆคนคงอยากจะทราบกันว่ามันสามารถรองรับการเล่นเกมได้บ้างไหมหรือว่าถ้าเล่นได้แล้วจะต้องปรับภาพแบบไหนอะไรยังไงจะดัน FPS ไหวไหมครับแน่นอนทางเราเลยของมาลองใช้งานเล่นเกมกันซักนิดนึง ใน 2 เกมหลักๆที่กินสเปคเอาเรื่องกับเกมพื้นฐานทั่วไปครับ หลังจากที่ลองนั้นเจ้าตัวการ์ดจอ QUADRO T2000 ถือว่าเล่นได้สบายเอาอยู่แต่ถ้าจะเน้นภาพสวยโหดๆอาจจะไม่ได้ดีมากนักแน่นอนว่ามันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเล่นเกมแต่ก็เล่นได้ภาพ Medium ได้สบายๆสามารถรัน FPS สูงได้อยู่รวมถึงในตัวเกม Overwatch ที่ปรับภาพ Medium นั้นก็รองรับได้สบายครับ FPS 70 นิ่งๆเลยแหละ และความร้อนก็มีพอประมาณ ส่วนอีกเกมนั้นทดสอบ COD MW ในภาคล่าสุดก็ปรับภาพกลาง เล่นได้ลื่นไหลพอสมควรครับ แต่ถ้าอยากลื่นๆปรับ LOW สามารถดัน FPS ได้หลักร้อยเลยเอาเป็นว่ามันเล่นได้แหละสบายๆแต่ภาพความสวยเมื่อเทียบในเรทราคาเดียวกับกันสายเกมมันสู้ไม่ได้แน่นอนครับ ก็ตามแนวทางของการ์ดจอมัน
LENOVO THINKPAD P1 GEN2
“ Mobile Workstation ตัวเทพ จอสวยตรง และ สเปคจัดเต็ม รองรับการทำงานได้ทั้งหมด “
ทุกครั้งที่เพื่อนๆที่ทำงานในสายงานมาถามว่า แนะนำคอมพิวเตอร์ให้หน่อยในงบนู้นนี่ หรือ แนะนำว่ารุ่นไหนดี ทุกครั้งเลยผมจะแนะนำ Workstation ให้เอาไปใช้งาน ทั้ง Mobile Workstation ทั่วไป หรือ Workstation แบบ Desktop ครับเพราะว่ามันสามารถรองรับการทำงานเต็มรูปแบบ แม้ราคาที่แลกมาอาจจะสูงหน่อยแต่แค่ทำงานไม่กี่ชิ้นแล้วมันออกมาดีมันก็สามารถคืนทุนได้ไม่ยาก และการอัพเกรดมันไปต่อได้ไกลกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปพอสมควรครับและเมื่อเทียบกับระยะเวลาการทำงานที่ไวขึ้น งานเรนเดอร์ไวขึ้นผมเลยแนะนำทุกครั้ง จนครั้งนี้หามาใช้งานเองแล้วก็ตามก็หนีไม่พ้นกับตัว Mobile Workstation เช่นเดิมเพราะมันช่วยงานได้ดีจริงๆครับ ทั้งคุณภาพ ความแม่นยำของสี ความไวในการทำงาน ความเร็วแรง และแข็งแรงของตัวเครื่องล้วนตอบโจทย์ทั้งหมด ถ้ามีงบถึงหรือลงทุนแนะนำว่าทีเดียวจบดีกว่าเช่นตัวนี้
ข้อดี
– ตัวเครื่องงานประกอบแข็งแรง ทนทานได้มาตรฐาน
– หน้าจอ 4K OLED HDR สีแม่นยำและสวยงามมาก
– CPU INTEL XEON + QUADRO ทำงานได้เต็มที่อย่างมาก
– ควบคุมความร้อนในการทำงานได้ดี เสียงพัดลมเงียบ
– ความปลอดภัยสูง ทั้งสแกนนิ้ว และ สแกนใบหน้า
– มาพร้อม ThunderBolt 3 พร้อมใช้งาน 2 ช่อง
– ลำโพงเสียงมีมิติ ทิศทางดีอย่างมาก เสียงดังสะใจ
– คีย์บอร์ดระยะกดทำได้ดี พิมพ์งานและใช้งานสะดวก
– ปรับสเปคได้ยืดหยุ่นตามงบของเรา
– ประกันรองรับ Worldwide ทั่วโลก
ข้อสังเกต
– ราคาอาจจะยังสูง เป็นปกติของ Workstation
– แบตใช้งานไม่อึดมากนัก
– ไม่มี Number Pad
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr