MERCEDES-AMG นั้นมีตระกูลหลากหลายรุ่นและยิ่งในปัจจุบันนั้นมีการประกอบไทยทำให้มีราคาและการจับต้องได้ง่ายขึ้นอย่างมาก รวมถึงมีการเปิดตัว AMG ที่ราคาถูกขึ้นเรื่อยๆและรองรับการใช้งานได้ดีไม่แพ้กับการประกอบนอกด้วยเช่นกัน และหลักๆนั้นจะเป็นเรื่องของพละกำลังที่จัดเต็มเช่นเดิมเลย และรุ่นที่ต้องบอกว่าได้รับความนิยมอีกตัวทั้งเรื่องของขนาดการออกแบบที่กำลังดีในการขับขี่รวมถึงราคาที่ดีเช่นกันในตระกูล C43 ต้องบอกว่าน่าสนใจและพละกำลังมันโหดอย่างมากเลยทีเดียว และอาจจะเป็นเครื่องยนต์ V6 รุ่นส่งท้ายในตระกูล C43 ต่างๆแล้วก็เป็นไปได้รวมถึงอาจจะเป็นโมเดล C Coupe รุ่นสุดท้ายก็เป็นไปได้เพราะว่ารุ่นต่อไปนั้นอาจจะ ยุบรวมกันกับตระกูล E และอาจจะปรับไปใช้งานเครื่องยนต์ 4 สูบ + ไฟฟ้าแทนทั้งหมดแล้วก็มีโอกาสสูงมากๆ จึงเป็นรุ่นส่งท้ายที่ต้องบอกว่าน่าสะสมหรือหามาใช้งานจริงๆ เพราะว่าเรื่องการขับขี่ งานออกแบบจริงๆนั้นก็ถือว่ายังสวยและดูดีอยู่เช่นกันครับ

MERCEDES-AMG C43 COUPE นั้นถือว่าเป็นตระกูล AMG ประกอบไทยตัวแรกๆที่เอาเข้ามาขายและเป็นรุ่นแรกๆเลยก็ว่าได้ที่ประกอบนอก เยอรมันครับ และเป็นรุ่นที่อยู่ในระดับที่จับต้องได้ง่ายทั้งขนาดและราคารวมถึงประสิทธิภาพของตัวรถ เครื่องยนต์ต่างๆ ตัวนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 ที่อาจจะเป็นตัวสุดท้ายของตระกูล ใช้งาน เครื่องยนต์เบนซินแบบ V6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 390 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 2,500 – 5,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ถือว่าจัดเต็มเลยทีเดียว สามารถขับ 0-100 ประมาณ 5.5 วินาที และ 80-120 ประมาณ 3.9 วินาทีครับ ถือว่าขับสนุกมากๆตัวนึงทำงานร่วมกับขับ 4 ล้อได้อย่างแม่นยำ ส่วนออฟชั่นรุ่นนี้ประกอบไทยนั้นยังรองรับออฟชั่นจัดเต็ม ไฟหน้า MULTIBEAM LED พร้อมระบบช่วยเหลือ Adaptive Highbeam Assist , Cornering Light , ALS ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ หลังคา Panoramic Sunroof ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต AMG Ride Control sport suspension และการตกแต่ง กันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง แบบ AMG Bodystyling และ ปลายท่อไอเสียโครเมียม 2 ท่อคู่ Two Round Twin Tailpipe look รวมถึงล้อ ขนาด 19 นิ้วขนาดใหญ่จัดเต็ม ส่วนภายในก็รองรับทั้งเรื่องของหน้าจอ ชุดมาตรวัด แบบดิจิทัล ขนาด 12.3 นิ้ว ปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ และ ไฟเรืองแสงห้องโดยสาร Ambient Light 64 สี รวมถึง เข็มขัดแดง และ พวงมาลัย AMG Performance แบบสปอร์ตท้ายตัด รวมถึง พวงมาลัยหุ้มหนัง Nappa Leather จัดเต็มเลยทีเดียวทั้งภายนอก และ ภายใน เสียงเครื่อง เสียงท่อเองนั้นสมกับชื่อ AMG นั้นเองแต่ก็เข้าใจกันก่อนว่าคงจะไม่สะใจเท่ากับบรรดา C63 ที่เป็นตัวเทพของตระกูลนี้อยู่แล้วนะ

MERCEDES-AMG รุ่นนี้เปิดราคาอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นรุ่นประกอบในประเทศ ทำให้ราคาดีขึ้นกว่าประกอบนอกชัดเจนครับ มาพร้อมกับราคา Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe’ Facelift  4,220,000 บาท และถ้าเทียบกับรุ่นก่อนจะ แรงม้ามากขึ้นกว่ารุ่นเดิมครับ

EXTERIOR

งานออกแบบ C43 COUPE นั้นจะอิงหน้าตาแบบ C COUPE ปกติเลยทีเดียวและจะเห็นว่าจุดแตกต่างกับ C COUPE AMG DYNAMICS แค่เล็กน้อยมากจริงๆ และรูปทรงหน้าตาความดุดันนั้นยังคงคล้ายกับ C43 Sedan บางส่วนนั้นเอง ทำให้เมื่อมองภายนอกนั้นอาจจะไม่ได้ดูรู้สึกดุดันหรือว่าว้าวอะไรมากเมื่อเทียบกับ C Coupe แต่ถ้ามองเรื่องของพละกำลัง การขับขี่ ช่วงล่าง เครื่องยนต์ นั้นแตกต่างกับแบบชัดเจนทุกๆส่วน ทำให้หลายๆคนที่มองผ่านๆ หรือคนที่ไม่ได้รู้เรื่องรถอาจจะไม่ได้มองรู้ว่าตัวแรงเท่าไรนักก็แอบน่าเสียดายในเรื่องของความดุดันอยู่บ้าง

ตัวรถนั้นต้องบอกว่ามีขนาดในการขับขี่ในเมืองกำลังดี ขับขี่มุดเลี้ยวอะไรค่อนข้างสนุก มิติตัวถัง ยาว 4,696 มิลลิเมตร กว้าง 1,877 มิลลิเมตร และสูง 1,405 มิลลิเมตร พร้อมกับ ความจุถังเชื้อเพลิง 66 ลิตร น้ำหนัก 1,735 กิโลกรัม ถือว่าเป็นขนาดที่กำลังเหมาะในการใช้งานทั่วไปได้ดี ขับขี่คนเดียว หรือใช้งานในเมืองอะไรได้ดีมากๆตัวนึง และเมื่อเทียบกับพละกำลังกับขนาดตัวแค่นี้ทำให้มันจัดจ้านมากๆในการขับขี่ จะเห็นว่าดีไซน์รูปทรงถือว่ายังคงสวยอยู่แม้จะเป็นปลายโมเดลแล้วก็ตามรวมถึง ไฟหน้าไฟท้ายอะไรก็ยังคงใส่ใช้งานเทคโนโลยีเน้นๆเหมือนเดิมเลยตัวนี้ และ รูปทรงที่มองข้างๆนั้นมีความโค้งมนมากๆ ท้ายค่อนข้างลาดตามสไตล์ Coupe แต่ก็มีพื้นที่นั่งข้างหลังได้บ้าง

ด้านหน้าและด้านหลังในมุมตรงๆบอกเลยว่าน่าสนใจในเรื่องของท้ายรถที่มีความโดดเด่นมากๆ จะเห็นว่าท่อไอเสีย 4 ท่อเด่นๆสะใจรวมถึง ชายกันชนล่างแบบ Diffuser จัดเต็ม และ Ducktail ตูดเป็ดข้างหลังที่เป็นจุดแตกต่างครับ ส่วนรูปทรงไฟท้ายอะไรนั้นก็จะเหมือนกับ C Coupe ในหลายๆส่วนเลย ส่วนด้านหน้าไฟหน้า multi-Beam เทคโนโลยีสุดเทพของค่าย และ กันชนล่างแบบ AMG ที่มีกระจังหน้าแบบ เส้นคู่ สีเงินที่จะไม่มี Diamound Grill แล้ว และมีโลโก้ AMG เสริมเข้ามาครับ แต่ถ้ากระจังแนวตั้งนั้นจะเป็นพวก C63 หรือ บรรดารุ่นใหม่หลังปี 2021 เป็นหลักครับ เมื่อมองด้านหน้าตัวนี้จะมีความดุดันแบบนิดหน่อย อาจจะออกไปทางแนวสาวๆเหมือนกันในหน้าตรง

จุดแตกต่างกับรุ่นปกติหรือจุดที่ให้เรามองแล้วรู้ว่าตัวนี้แรง อย่างไปซ่าบนถนนนั้นจะเป็นจุดข้างตัวถังรถจะเขียนว่า BI-TURBO 4 MATIC จุดนี้แหละเมื่อมองข้างรถจะรู้เลยว่าตัวนี้ AMG C43 แน่นอน รวมถึงถ้าตัวรถเป็นสีอื่นๆนั้น ตัวกระจกมองข้างตัวรถนั้นจะเป็นสีดำ ไม่ว่าตัวรถจะเป็นสีอะไร ตัวกระจกมองข้างจะเป็นสีดำเสมอ รวมถึงตัวล้อ 5 ก้านคู่ Twin Spoke ล้ออัลลอย AMG ขนาด 19 นิ้ว ยาง Runflat Tyre คู่หน้า ขนาด 225/40 R19 – คู่หลัง 255/35 R19 และ ตัวเบรกที่มาพร้อมกับสีเงินและเขียนว่า AMG และ จานเบรกขนาดใหญ่ ขนาด 360 x 36 มิลลิเมตร 4 พอต ในส่วนจานดิสก์เบรกหลังมีขนาด 320 x 24 มิลลิเมตร พร้อมคาร์ลิปเปอร์เบรกแบบ 2 พอต ถือว่าเรื่องการระบายความร้อนนั้นสบายๆ และการใช้งานเมื่อต้องรองรับกับพละกำลัง V6 3000CC นั้นสบายๆ

กระจังหน้า AMG ในยุคก่อนที่จะปรับเป็นแบบซี่แนวตั้งที่เราเห็นกันใน AMG GLA35 เป็นต้นซึ่งจะเป็นทรงปากคว่ำนั้นเอง ซึ่งปกติกระจังหน้าซี่แนวตั้งจะให้เฉพาะกับ AMG C63 เท่านั้นแต่ปลายปี 2020 ก็เริ่มใช้งานกระจังหน้าแนวตั้งหมดทุกตัวไม่เว้นแต่ตัวเล็กแล้วนั้นเองครับ ทำให้กระจังหน้าแบบแนวนอนคู่แบบในรีวิวตัวนี้นั้นจะไม่มีอีกแล้วครับ และจะมีโลโก้ AMG อยู่ในด้านขวา และ ช่องระบายในด้านซ้าย และ ขวา นั้นจะเป็นช่องรีดอากาศจริงๆที่มีการตกแต่ง โครเมียม 2 แถบ ซึ่งถ้ารุ่นปกตินั้นจะเป็นสีดำ เป็นอีกจุดเล็กๆที่แตกต่างแต่ก็สังเกตได้ยากเลยทีเดียวครับ

ในด้านหลังนั้นจุดแตกต่างกันเราจะเห็นว่าชุดชายกันชนล่างนั้นจะเป็นจุกแตกต่างหลักๆคือเรื่องของ ท่อไอเสีย 4 ท่อ และ Diffuser ขนาดใหญ่ที่ใส่เข้ามาใช้งานจัดเต็ม และเป็นสีดำเงา ซึ่งตรงนี้จะเป็นสีดำในทุกสีของตัวรถครับทำให้เด่นสวยงามเลย ส่วนทางด้านไฟท้าย รายละเอียดการออกแบบกันชนต่างๆนั้นจะคล้ายกับรุ่นปกติ และ จุดเปลี่ยนอีกส่วนคือ โลโก้ AMG  C43 ที่ใส่เข้ามาพร้อมกับ Duck Tail ด้านบนที่เสริมเข้ามาแค่นั้นในส่วนของตัวท้ายรถครับ

ด้านข้างชายกันชนอะไรไม่ได้มีจุดเปลี่ยนหรืองานออกแบบอะไรที่ดูดุดันเท่าไรและต้องบอกว่าเป็นรถที่ไม่ได้เตี้ยเลยทำให้ความสูงในการขับขี่เท่ากับบรรดารถทั่วไป รถ Sedan ต่างๆ เจอกับถนนเมืองไทยได้สบายๆครับ แต่ก็จะเสียเรื่องของความสวยและเตี้ยสปอร์ตไปเหมือนกัน และ ชุดแต่งรอบคันก็ไม่ได้เตี้ยมากด้วยแม้จะเป็น C43 ส่วนหลังคานั้นเปิดได้กว้างและเยอะมากๆครับเมื่อเปิดออกมาแล้วจะยิงออกไปข้างหลังเด่นชัดและกว้างขวางเหมือนกัน

ห้องสัมภาระในการใช้งานต้องบอกว่าพื้นที่เหลือเยอะมากๆในการขนของ 400 ลิตร ซึ่งฝาท้ายไฟฟ้ารองรับ การเตะเปิดปกติ รวมถึงสามารถกดล็อกได้ทั้งหมด และสามารถกดพับเบาะได้ซ้ายและขวา รวมถึงที่แขวนถุงพลาสติกต่างๆจะเห็นว่าความลึกสามารถวางกระเป๋าเป้ในแนวลึกได้ต่อกัน 2 ใบขนาดกลางครับ และกว้างเหลือพื้นที่ใส่ได้อีกสบายแต่จุดที่ขอบ่นคือ ฝาท้ายไฟฟ้า ไม่มีปุ่มเปิดตัวตัวรถ ทำให้ต้องเตะเปิด หรือ กดรีโมท หรือกดภายในเท่านั้นครับ !

ยามค่ำคืนไฟท้ายและไฟหน้ามีความสวยงามมากๆและเรื่องของลำแสงนั้นไม่ธรรมดาเลยครับ เส้นสายไฟหน้าสวยงามพร้อมกับไฟ DRL แบบใหม่ทั้งไฟเลี้ยวในตัว และไฟใหญ่ที่เป็น MULTI BEAM รองรับการใช้งานแบบจัดเต็ม พร้อมกับปรับโคมไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS รวถมึง ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง Cornering Light และ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist และทางไฟท้ายแบบ LED แบบเดียวกับรุ่นปกติ และรุ่นก่อนหน้า มาพร้อมไฟตัดหมอกหลังในด้านขวาใส่เข้ามาให้ครบ ในรูปทรงแบบเดิมทั้งหมด

ยามค่ำคืนนั้นแสงสีอาจจะไม่ได้เยอะมากในฝั่งด้านท้ายและด้านหน้าครับ ไฟเบรกดวงที่ 3 ด้านบนขนาดกลางๆไม่ได้ยาวมากนัก ส่วนด้านหน้าโคมสว่างแสงเข้มสวยงามพร้อมกับไฟทุกอย่างเป็น LED ทั้งหมดรวมถึงไฟส่องป้ายทะเบียน

เมื่อกดปลดล็อกนั้นตัวรถจะมีไฟส่องสว่างเข้ามาช่วยต่างๆไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้าติดแบบไฟหรี่เสริมเข้ามา ส่วนไฟท้ายนั้นก็จะติดพร้อมกับไฟป้ายทะเบียนครับ และที่สำคัญไฟช่วยเวลาขึ้นรถส่องลงพื้นเสริมเข้ามาให้บริเวณพื้นทั้งหมดรวมถึงตัวไฟตรงมือจับประตูก็ใส่เข้ามาให้ครบครันถือว่ารองรับการใช้งานเวลารถจอดที่มืดๆได้เป็นอย่างดีและปลอดภัย

INTERIOR

ทางด้านกุญแจ AMG ยังคงใช้โมเดลและโทนสีแบบทั่วไปในตัวนี้ครับซึ่งถ้าเรามองกุญแจในรุ่นใหม่จะเป็นสีดำและเขียน AMG แล้ว ซึ่งต้องบอกว่ารุ่นใหม่ๆแอบสวยกว่า ส่วนการใช้งานยังคงเหมือนเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรครับมาพร้อมกับ ระบบกุญแจ KEYLESS GO ที่รองรับการใช้งานในการเปิดประตูได้โดยที่ไม่ต้องกดอะไร สามารถพกไว้และเปิดได้เลยครับรวมถึงสั่งงานมาตรฐานทั่วไปได้เช่นกันเป็นอีกกุญแจที่เป็นมาตรฐานเหมือนกับตัวอื่นๆของค่าย ส่วนการเปิดฝาท้ายก็สามารถกดเปิดได้หรือว่าจะพกไว้และเตะเปิด 1 ครั้งได้ด้วยเพราะว่าตัวนี้ไม่มีปุ่มตรงฝาให้

งานออกแบบภายในนั้นยังคงเป็นดีไซน์แบบเจนเก่า เพราะว่าตัวนี้ยังคงเป็นโมเดลแบบเก่ายังไม่ได้ปรับเป็นแบบใหม่แบบตัวซีดานหรือว่าเจนใหม่ของค่าย เพราะว่ารุ่นนี้ถือว่าออกมานานแล้วทำให้งานภายในนั้นไม่ได้เปลี่ยนเยอะครับ จะไม่ได้มีหน้าจอยาวๆแบบบรรดา c s ตัวใหม่ เลยอาจจะดูเก่าไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ตกยุคซะทีเดียวครับ มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ตรงหลาง ช่องแอร์กลม และ หน้าปัดแบบดิจิทัล ถ้ามองภาพรวมต้องบอกว่าเปลี่ยนจากรุ่นก่อนเยอะมากๆทั้งหน้าจอ พวงมาลัย พื้นผิวสีเงินลายคาร์บอนหรือว่าจะเป็นการตกแต่ง เรือนไมล์ทั้งหมดเปลี่ยนไปชัดเจนครับ รวมถึงหลังคากระจกก็ใส่เข้ามาให้เต็มๆทำให้คนนั่งข้างหลังโปร่งไม่อึดอัด และสามารถเปิดใช้งานได้ดีด้วยเช่นกัน

จุดดีเทลในหลายๆส่วนนั้นเป็น AMG ได้ดีทั้งเรื่องของเข็มขัดแดง และมาพร้อมกับระบบที่ลากมาให้เองเวลานั่งทำให้ดึงเข็มขัดได้สะดวกมากๆจุดนี้บอกเลยว่าสะดวกและทำได้ดีกว่า Coupe ตัวอื่นๆบางรุ่นที่ไม่มีระบบนี้ ส่วนพวงมาลัยหุ่มหนัง Nappa พร้อมกับทรง AMG สวยงามและสปอร์ตมากๆมาพร้อมกับโลโก้ AMG ด้านล่างและปุ่มควบคุมจัดเต็มและ Paddle Shift ใส่เข้ามาพร้อมใช้งานครับเป็นพวงมาลัยที่สวยกว่ารุ่นก่อนเปลี่ยนหน้าเยอะมากๆและกระชับหน้าปัดเรือนไมล์รุ่นก่อนนั้นจะเป็นแบบเข็มแต่รุ่นนี้เปลี่ยไปชัดเจน แต่ยังไม่ใช่ MBUX นะครับเป็นดิจิทัลปกติก่อนเป็นชุดมาตรวัด แบบดิจิทัล ขนาด 12.3 นิ้ว ปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ และ มีหน้าตา AMG แท้ๆใส่เข้ามาให้เป็นจุดที่เด่นกว่ารุ่นปกติ และปรับแต่งได้เยอะรวมถึงรองรับภาษาไทยได้แบบเต็มรูปแบบเลยนั้นเอง จอสวยคมชัดเจนเลย

คอนโซลกลางสวยงามพร้อมกับงานออกแบบแบบที่คุ้นเคยกันในรุ่น C ปกติครับแต่จะมีการตกแต่งวัสดุลวดลายสวยงามแบบใหม่ที่จากรุ่นก่อนนั้นจะเป็นสีดำเงา แต่รุ่นนี้จะเป็นสีเงินด้านลวดลายคาร์บอน พร้อมกับช่องแอร์ 3 ช่องวงกลม และปุ่มควบคุมเครื่องปรับอากาศ และ ยังคงมีนาฬิกาแบบ แอนะล็อกใส่เข้ามาให้ยังไม่ได้ตัดออกไปครับ ส่วนการควบคุมยังคงเป็น Touchpad แบบเก่าและจอก็สัมผัสไม่ได้นะครับเพราะยังไม่ใช่ MBUX ทำให้อาจจะไม่ทันสมัยเท่าตัวใหม่ๆแต่ก็ใช้งานได้ดีเหมือนกัน พร้อมปุ่มปรับเกียร์ Manual ก็ให้มาตรงส่วนนี้ด้วยเช่นกัน และทางด้านหน้าจอกลางรองรับ รองรับ Apple Car Play / Android Auto ในระบบความบันเทิง และ ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester แต่ยังไม่รองรับระบบสัมผัสครับ ส่วนตัวที่ทดลองนั้นเสียบ Android auto ไม่ขึ้นอาจจะต้องไปอัปเดต

เบาะคู่หน้ามาพร้อมรูปทรงแบบสปอร์ตอาจจะไม่ใช่ Bucket Seat แบบรุ่นพี่ C63 พวกนั้นครับและจะไม่มีโลโก้ AMG แบบพวก CLS53 ด้วยแอบเสียดายเล็กน้อยครับรวมถึงในตัวเบาะเองนั้น จะเน้นไปทางนั่งสบายซะมากกว่าเลยทำให้เหมาะแก่การใช้งานทั่วไปได้ด้วยไม่สปอร์ตจ๋ามากเกินไป สามารถปรับไฟฟ้าทั้งหมดได้ ทั้งคู่หน้าพร้อมกับ จดจำตำแหน่งเบาะ รวมถึง เมื่อพับเบาะจะเลื่อนไฟข้างหน้าและยกขึ้นไปให้อัตโนมัติเลย ทำให้ขึ้นลงได้สะดวกเหมือนกัน พร้อมกับ เดินด้ายสีแดง เข็มขัดแดงเป็นเอกลักษณ์ของ AMG อีกทั้งการนั่งจริงๆถือว่าสบายและไม่ปวดหลังเช่นกันรวมถึงเป็นเบาะที่นั่งได้สบายระดับนึงในการขับขี่ทางไกลไม่ปวดหลังและสามารถรองรับคนนั่งเวลาเข้าโค้งได้ดี

เบาะหลังในส่วนนี้เป็นเบาะที่ต้องบอกว่าไว้สำหรับเด็กเล็กหรือวัยรุ่นตัวเล็กจะดีกว่าแต่หลักๆเวลาขับจริงแอดจะไว้ใส่ของใส่กระเป๋าเป็นหลักครับ หรือไว้ใช้ฉุกเฉินต่างๆเวลาขนเพื่อนกลับซึ่งพื้นที่จริงๆแอดก็ลองไปนั่งข้างหลังก็ถือว่าพอไหวนะแต่หัวจะเริ่มติดแล้วสำหรับความสูง 180 ครับและจะต้องนั่งเอียงๆหน่อย แต่แม้จะเป็นข้างหลังในเรื่องของตัวเบาะเองนั้นก็มีคุณภาพวัสดุ เข็มขัดต่างๆทำได้ดีเช่นกันรวมถึงมีที่วางแก้วน้ำ ที่วางของซ้ายขวา รวมถึงมีแอร์หลังใส่เข้ามาให้ด้วยแม้จะเป็น Coupe ครับ ส่วนมุมมองอะไรก็โปร่งในส่วนหน้าและข้างไม่ได้อึดอัดแบบที่คิดเท่าไรครับ

ในด้านหลังแม้ตำแหน่งที่นั่งหรือว่าตัวเบาะจะไม่ได้เน้นแต่ก็ใส่ลำโพงมาให้เต็มๆฝั่งละ 2 ที่พร้อมกับโลโก้ต่างๆจัดเต็มครับ รวมถึงมีการวางแก้วน้ำมาให้ตรงกลางแต่จะไม่มีที่วางแขนอะไรมาให้ตรงกลางนะครับแน่นอนว่ามันไม่ได้เน้นเท่าไรอยู่แล้ว ส่วนเข็มขัดแดงให้มาทั้งหมด 2 ตำแหน่งยังคงเอกลักษณ์เหมือนเดิมพร้อมกับม่านแอร์แบคข้าง

ยามค่ำคืนนั้นจะเห็นว่าตัวไฟ Ambient Light จะไม่ได้หวือหวาหรือเยอะมากนักเมื่อเทียบกับยุคใหม่ๆรวมถึงในรุ่นนี้จะมีแค่ 1 Zone เท่านั้นไม่ได้มีการแยกชั้นหรือแยกสีได้ครับแต่ก็สามารถปรับได้ 64 สีพร้อมกับมีตามประตู ตามคอนโซลต่างๆให้มา รวมถึงไฟส่องเท้าสีขาว พร้อมกับไฟตามประตูเวลาเปิดประตูครับ รวมถึงที่บังแดดนั้นเป็น LED ทั้งหมดเลยถือว่าสว่างและแสงออกโทนขาว แต่ไฟคอนโซลถ้ามองตรงๆอาจจะไม่เห็นแสงรอบๆเท่าไรแอบเสียดาย

ถ้าเรามองมาด้านข้างจะเห็นว่าไฟคอนโซลนั้นสวยชัดเจนขึ้นมาทันที รวมถึงยาวตลอดตามขอบคอนโซลกลางครับสามารถปรับสีได้และเราจะเห็นไฟตรงขอบประตูตามที่เปิดประตู หรือว่าจะเป็นตรงที่ปรับตำแหน่งที่นั่งก็ใส่เข้ามาให้ และจะเห็นไฟ AMG ตรงขอบประตูใส่เข้ามาให้โดดเด่นจะคล้ายๆเพิ่มความสว่างเวลาเปิดประตูแรกๆเป็นไฟต้อนรับ

ENGINE

เมื่อเปิดห้อเครื่องมานั้นเราจะเห็นเครื่องยนต์ AMG ฝาครอบเครื่องสีแดงขนาดใหญ่รูปทรงตัว V เด่นชัดเจนพร้อมกับโลโก้ AMG แต่ในรุ่นนี้จะไม่มีสัญลักษณ์ One Man One Engine นะครับเพราะจะมีในเครื่องแค่ รหัส 45-63 พวกนั้นเท่านั้นครับ ตัวนี้จะมาพร้อมกับ เครื่องยนต์เบนซินแบบ V6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 390 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 2,500 – 5,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ถือว่าจัดเต็มเลยทีเดียว สามารถขับ 0-100 ประมาณ 5.5 วินาที และ 80-120 ประมาณ 3.9 วินาทีครับ ถือว่าขับสนุกมากๆตัวนึงทำงานร่วมกับขับ 4 ล้อได้อย่างแม่นยำถือว่าเป็นเครื่องยนต์ขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับตัวรถ ทำให้มันขับสนุกอย่างมาก และมีการปรับช่วงล่างใหม่แข็งมากขึ้นกว่าเดิม

ทางด้านเครื่องยนต์ถ้าเด่นๆนั้นคงจะหนีไม่พ้นการปรับเพิ่มแรงม้ามากกว่าเดิม แต่แรงบิดเท่าเดิมต้องบอกว่ามีผลมาจากการเปลี่ยน ทั้งเทอร์โบ และ จูนเครื่องใหม่ทำให้มันแรงม้ามากขึ้นครับ และมีบูสท์เข้ามาช่วยได้เยอะจริงๆ อัตราเร่งดีขึ้น 0-100 ไวขึ้นต่างๆทำได้ดีมากจริงๆ และรอบกวาดได้ไวและสนุกขึ้นจริงจังมากๆบอกเลยว่าเป็นรุ่นที่แรงมากและที่ชอบมากๆคือเรื่องขอเสียงเครื่อง V6 และ เสียงท่อให้ความสะใจได้ดีมากๆจนแอบเสียดายถ้ารุ่นต่อไปจะไม่ใช้ V6 แล้วเสียงเวลาเร่งแซงหรือสตาร์ทก็พอสนุกได้ครับ ไม่ได้ลั่นมากนักแต่พอหอมปากหอมคอในการขับขี่เร่งแซง

DRIVING

การขับขี่ต้องบอกเลยว่ามีการเปลี่ยนแปลงเยอะแบบจับได้ชัดเจนมากๆเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน Facelift ครับเอาจริงๆไม่ทคิดว่าจะเปลี่ยนเยอะแบบรู้สึกได้ นอกเหนือจากแรงม้าที่เยอะขึ้นแล้วส่วนที่ปรับชัดเจนมากๆคือเรื่องของช่วงล่างตัวนี้ช่วงล่างมีความแข็งกระด้างมากขึ้นเยอะ แม้จะเป็น Comfort ก็ตามทำให้มันอาจจะไม่ได้สบายเท่าไรนัก และบางทีมันแอบแข็งมากไปทำให้ขับขี่อาจจะไม่ได้สบายหรือสนุกแบบที่คิดไว้ครับ แต่มันก็กลายเป็นรถที่โหดมากขึ้นในการขับขี่มีความก้าวร้าวมากขึ้น ดุดันมากขึ้น เหมาะกับคนที่มีทักษะ หรือ ชอบการขับขี่มากๆอยู่แล้ว มากกว่ารุ่นก่อนที่จะเน้นขับสบายแต่ก็มีความดุดันได้บ้าง เน้นใช้งานทั่วไปได้บ้าง แต่รุ่นใหม่นี้จะตีเข็มไปทางรถแข่งมากขึ้น ดุดันแบบ90%เลย แน่นอนว่าอัตราเร่งไม่ใช่ปัญหา ทำได้สบายเหลือๆและเกินพอในถนนเมืองไทยแล้วจุดนี้ถือว่าทำได้ประทับใจอย่างมากเลยครับ รวมถึงการเร่งแซงในช่วงความเร็วกลางๆก็ไม่มีปัญหาพร้อมจะทะยานได้ทุกจังหวะเวลาแบบสบายๆ

ทางด้านช่วงล่างนั้นมีความสั่นสะเทือนมากขึ้นเยอะจน Comfort ก็แข็งเป็น Sport ได้เลยครับไม่มีความนุ่มเหลืออยู่เลยในช่วงล่างคันนี้ แม้จะปรับความแข็งอ่อนได้ก็ตามมันสะเทือนจนนั่งไม่สบาย และไม่เหมาะกับใครหลายๆคนแน่นอน สำหรับถนนเมืองไทยแบบนี้ และขรุขระแบบนี้ครับ และส่งผลในเรื่องของการเข้าโค้งถ้าช่วงล่างแบบแข็งๆนั้นอาจจะต้องคุมรถดีๆกว่าเดิมครับ ในการเข้าโค้งต้องใส่ใจมันมากขึ้นนั้นเองซึ่งถ้าถามว่าตัวรถ ดูดติดเกาะถนนมากขึ้นไหม อาจจะไม่ได้มากขึ้น ส่วนตัวแอบชอบความหนึบแบบอีกค่ายมากกว่าแต่ไม่ต้องแข็งมากแบบนี้เท่าไรครับจุดนี้ และส่งผลถึงพวงมาลัยเองนั้นก็ไม่สามารถปรับระดับความหนืดได้แล้วนะครับ เป็นจุดที่แอบน่าบ่นและเสียดายจริงๆ ทำให้พวงมาลัยมันคม และควบคุมได้แม่นยำแม้จะปรับ Sport หรือ Comfort ก็ตามครับทำให้เรื่องนี้ต้องปรับตัว

ส่วนเรื่องการเก็บเสียงรุ่นนี้ถือว่าเก็บเสียงได้ดีทั้งจากถนนหรือเสียงลมต่างๆครับในความเร็ว 120 ไม่เกินนี้จะทำได้ดีมากๆ ทั้งถนนหรือเสียงจากลมต่างๆจุดนี้เก็บได้ดีครับ แต่เสียงลมตามขอบประตูอาจจะเริ่มชัดมากขึ้นเพราะการใช้งานกระจกแบบ Frameless ทำให้เสียงจุดนี้อาจจะเข้ามาได้ง่ายกว่าแบบทั่วไปครับ รวมถึงเสียงจากเครื่องยนต์จุดนี้บอกเลยว่าสะใจและแน่นสมกับ AMG รวมถึงเสียงจากท่อก็ดังเร้าใจมากขึ้นเมื่อเปิด Sport+ ทำให้ขับขี่ได้เร้าใจ ส่วนตำแหน่งการนั่งต่างๆนั้นไม่ได้แตกต่างกับ C Coupe ปกติหรือแม้แต่จะเทียบกับบรรดา C Sedan เลยทำให้มุมมองการขับขี่สบายและไม่ต้องปรับตัวจากรถยนต์ Sedan มากเท่าไรนักเป็นจุดที่ทำให้ใครๆก็สามารถขับได้ใช้ทั่วไปได้สบายเลย ขึ้นลงได้ง่าย และมีแตกต่างกับพวก รถสปอร์ตในแนวที่เตี้ย และอาจจะมุมมองไม่ได้ดีเท่าไรนักนั้นเอง

CONSUMTION

ทางด้านอัตราสิ้นเปลืองในการขับขี่รุ่นนี้แน่นอนว่าเป็นตัว C43 COUPE เรื่องความแรงไม่ต้องสงสัย แต่การกินน้ำมันก็ตามความแรงครับบอกเลยว่า ด้วยพละกำลัง 6 สูบ ด้วยเช่นกันทำให้อัตราเร่ง 0-100 ภายใน 5 วิกว่าๆในโหมด Sport+ บอกเลยว่าสบายๆครับ แต่แน่นอนการขับขี่ จริงๆก็ทดสอบมาหลากหลายแบบนะครับ แบบขับโหดสุดๆเลยในโหมด Sport+ ในเมืองและต่างจังหวัดนั้นจะได้ประมาณ 7-8 กิโล ลิตร เลยทีเดียว ขับแบบเหยียบสุดๆนะครับอันนี้คือโหดที่สุดแล้ว แต่ถ้าขับแบบทั่วไปในโหมด Sport ขับแบบไม่โหดมากนักก็จะได้ 9กิโล ลิตรไม่แตะ 10.5 ครับ แต่ถ้า ขับโหมด Comfort ในการขับขี่พื้นฐาน ในเมือง นอกเมืองจะทำได้ 11-12 กิโล ลิตร เลยครับถือว่ายังพอประหยัดได้อยู่นะซึ่งถ้าถามว่า ต่างกับตัว C ปกติไหมบอกเลยว่ากินกว่าแบบเยอะมากๆ รู้สึกได้เลยว่าแอดเติมน้ำมันบ่อยมากๆทั้งเรื่องของการขับขี่ และใช้งานทั่วไปต้องทำใจไว้ก่อนเลยในเรื่องการกินน้ำมันแบบดุๆจากคันนี้

VIDEO REVIEW !

AMG C43 COUPE 

” สู่งานสุดท้าย  AMG V6 3.0 พละกำลังเหลือๆ ขับสนุก ช่วงล่างแข็งดุดัน ก้าวร้าว มากขึ้น “

เป็นรุ่นที่น่าสนใจถ้ารุ่นต่อไปจะไม่มีรหัสนี้แล้ว ทั้งโมเดล และ เครื่องยนต์ V6 แบบนี้ในยุคที่หลายๆค่ายและเทรนด์โลกเริ่มที่จะปรับตัดไป รถไฟฟ้าหรือมีไฟฟ้าเข้ามาเสริมแบบหนักมากขึ้นทำให้เครื่องยนต์ล้วนๆ โหดๆเหลือน้อยลงเต็มทีครับ และมีข่าวว่า V6 แบบนี้อาจจะไม่สานต่อในตัวนี้แล้วด้วยเช่นกัน ทำให้เป็นรถที่น่าสนใจและน่าสะสมอีกตัวส่งท้ายโมเดล C Coupe ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าพละกำลังของมันเหลือๆในการซิ่ง ในการขับมุดสนุกๆรวมถึงเร่งแซง ทั้งตีนต้น ตีนปลายต่างๆจัดเต็ม รวมถึงการขับเคลื่อน 4 ล้อทำให้มันเป็นรถที่ขับสนุกอย่างมาก แต่ก็จะมีความก้าวร้าวมากขึ้น ดุดันมากขึ้นทำให้การขับขี่อาจจะไม่ได้นุ่มนวลเท่าตัวก่อนหน้าเท่าไร แต่ความดุดัน สปอร์ตมากขึ้นเยอะครับ แต่อาจจะกระด้างเกินไปสำหรับบางคนก็ต้องไปลองขับกันอีกทีนะ แม้ว่าจะเป็น Comfort ก็ตามครับ แต่ถ้าชอบขับรถ รับได้ก็ต้องบอกว่าจะได้สัมผัสความแรง ความสปอร์ตแบบเน้นๆมากกว่าเดิม ดุดันขึ้นหลายเท่าตัวทั้งเครื่อง ช่วงล่าง หรือว่าจะเป็นการควบคุมพวงมาลัยต่างๆทำให้มันตอบสนองคนรักการขับขี่มากขึ้นเยอะเลยทีเดียว

สำหรับรีวิวนี้เป็นการทำบทความเกี่ยวกับรถยนต์ หรือ สายยานยนต์ของเรา และถ้าหาก มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ มีข้อเสนอแนะ หรือข้อนำแนะอะไร ยังไงสามารถแจ้งเราได้เสมอเพื่อการปรับปรุงที่ดีขึ้นครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรถรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ จะพยายามจัดหามาให้อ่านกันเยอะๆ ขึ้นเรื่อยๆ ครับ … สำหรับ Techhangout Auto !

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget