Motorola นั้นเป็นแบรนด์ที่เป็นตำนานในหลายๆอย่างที่ทำออกมาเป็นแบรนด์ที่คุ้นหูกันทุกท่านแน่นอนและหลายๆคนอาจจะลืมกันไปเลยว่าเค้ากลับมาทำมือถือแล้วหลังจากเงียบไปนานตั้งแต่ยุคก่อนๆด้วยชื่อชั้นของแบรนด์ที่มีมานานทำให้การกลับมานั้นไม่ได้ยากเย็นนักและก็ได้พัฒนามาเรื่อยๆ โดยเป็นบริษัท Lenovo จากจีนเข้าซื้อไปทำธุรกิจต่อนั้นเองและในครั้งนี้ก็ได้ออกรุ่นใหม่มาในชื่อ Motorola One Vision เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่ออกมาในแนวคิดแบบใหม่ การออกแบบแบบใหม่ในอัตราส่วน 21:9 ยาวๆหน่อยและใช้กล้องหลัง 48MP รองรับการถ่าย Night Vision ด้วยถือว่าเป็นการพัฒนากล้องหลังขึ้นมามากพอสมควรและส่วนอื่นๆจะเป็นยังไงมาชมกันเลย
Motorola One Vision เปิดตัวมาด้วยราคา 9,990 บาทมาด้วย RAM 4GB STORAGE 128GB
UNBOX
ตัวกล่องมาในธีมสีม่วงพร้อมกับเขียนชื่อรุ่นอะไรชัดเจนเมื่อพลิกมาด้านหลังก็จะเป็นรูปเครื่องทั้งหน้าหลังและบอกสเปคแบบคร่าวๆจุดเด่นต่างๆให้ครบทั้งหมด เป็นไม่กี่ค่ายที่มีเขียนอุปกรณ์ในกล่องมาให้เลยด้านหน้าว่ามีอะไรบ้างทั้งเรื่องของเคส ฟิลม์หน้าจอ และหูฟัง ค่อนข้างครบเลยไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม สามารถเอาไปใช้งานกันได้เลยสบายๆครับ
- ตัวเครื่อง
- เคสใสนิ่ม TPU
- ฟิล์มกันรอยหน้าจอแบบธรรมดา ต้องติดเอง
- หูฟัง In-Ear
- สายชาร์จ
- ที่ชาร์จ Turbo 15W
- คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
ตัวเคสนั้นแถมมาให้ด้วยมีความหนาพอสมควรในเรื่องของปกป้องตัวเครื่องนั้นทำได้ดีครับส่วนเรื่องของการใช้งานจับถือค่อนข้างกระชับมือขึ้นมาก ตัวเคสนั้นมีเขียนชื่อแบรนด์ไว้ตรงขอบด้วยอีกทั้งยังปกป้องหน้าจอได้เวลาวางคว่ำและปกป้องตัวเลนส์ได้นิดหน่อยแต่ก็ควรระวังเวลาวางคว่ำหรืองายได้ครับ ส่วนปุ่มกดต่างๆนั้นกดได้ง่ายและสบายไม่มีปัญหาอะไรเคสค่อนข้างกระชับกับตัวเครื่องมากๆแน่นๆและไม่หลวม แต่อาจจะมีน้ำหนักเพิ่มเข้ามาบ้างเล็กน้อยครับ
DESIGN
การออกแบบตัวเครื่องนั้นต้องบอกว่าน่าสนใจทั้งหน้าและหลังเพราะเป็นงานออกแบบวัสดุต่างๆที่มันมีคุณภาพและเนี้ยบมากๆในงบ 1 หมื่นบาทนั้นค่ายนี้ทำงานออกแบบงานประกอบและวัสดุได้ดีอันดับต้นๆของตลาดเลยแหละ การเล่นกับแสงแม้จะไม่มีการไล่เฉดสีอะไรแต่การทำมุมเครื่องโค้งทั้ง 4 ด้านและสีน้ำเงินเล่นกับแสงได้ค่อนข้างดีเลยครับ ส่วนการจับถือยาวๆแบบรีโมทนั้นเอาเข้าจริงแอบใช้งานได้ง่ายและจับถนัดกว่าที่คิดมากเริ่มติดใจทรงนี้แล้วหละ หน้าจอขอบบางมาพร้อมกับการเจาะรูกล้องมุมซ้าย ซึ่งเอาจริงๆใหญ่พอสมควรเลยนะในตัวรูกล้องแอบขัดใจตรงนี้นี่แหละ
ตัวหน้าจอนั้นมาในอัตราส่วนแบบใหม่ยาวๆ ซึ่งค่อนข้างแปลกตาแต่จริงๆมันยาวเท่าๆกับรุ่นอื่นๆเลยแหละ แค่แคบลงแค่นั้น หน้าจอมาพร้อมกับขนาด 6.3 นิ้ว อัตราส่วน 21:9 FHD+ 2520 x 1080 พิกเซล 432 ppi ครอบทับด้วย Gorilla Glass 4
ขอบด้านบนหน้าจอนั้นต้องบอกว่าทำได้บางมากๆเหมือนกับขอบข้างๆแต่ ไม่มีติ่งจะเป็นรูบนหน้าจอแทนซึ่งเอาจริงๆมันใหญ่มากๆดูใหญ่เกินไปหน่อยเพราะกล้องก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นด้วย ส่วนลำโพงเซนเซอร์ต่างๆฝังไว้ขอบด้านบน
ขอบด้านล่างเครื่องนั้นจะมีความหนาพอสมควรและปุ่มทั้งหมดจะไปอยู่ข้างในหน้าจอ สามารถปรับเปลี่ยนใช้แบบปุ่ม 3 แบบในภาพ หรือจะเป็นแบบ แถบเดียว หรือจะเป็นแบบ Android 9 แบบปกติได้ทั้งหมดครับ
ด้านขอบล่างเครื่องนั้นมี รูลำโพง รู Type-C และ รูไมค์สำหรับสนทนาอยู่ในด้านล่างทั้งหมด จะเห็นว่าขอบโค้งรับมือได้ค่อนข้างดีในข้างซ้ายและขวาของตัวเครื่องครับ
ขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นเป็นที่อยู่ของ ถาดซิม แบบ Triple Slot รองรับ Dual Stanby นะครับ และวัสดุเป็นแบบเงาเหมือนกันด้านอื่นๆทั้งหมดค่อนข้างเก็บงานได้ดีและเนียนพอสมควรเลย
ส่วนเรื่องของเครื่องด้านขวานั้นจะเป็นที่อยู่ของปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power เปิดปิด ที่มีพื้นผิวแตกต่างกันเล็กน้อยเวลาจับใช้งานนั้นก็ช่วยให้กดได้ถูกและง่ายกว่าเดิมครับ ตัวปุ่มค่อนข้างแข็งแรงและไม่โยกเยกถือว่าทำได้ดี
มากันที่ขอบเครื่องด้านบนกัน ตัวนี้จะยังคงมี รู3.5มม.มาให้อยู่รวมถึง รูไมค์ข้างบนนั้นก็ใส่เข้ามาให้อีก 1 ตัวครับ
ฝาหลังนั้นเล่นไล่สีค่อนข้างสวยขอบโค้งทั้งหมดทำให้จับถือได้ง่ายและกระชับมือมาก เล่นกับแสงไล่สีสวยงาม พร้อมกับโลโก้ด้านหลังที่เป็นสแกนนิ้วได้ในตัว และ กล้อง 48MP ไว้มุมซ้ายบน ขนาดใหญ่พอสมควร พร้อมไฟแฟลช 2 สี
SPEC
- Android 9 (Android One)
- CinemaVision ขนาด 6.3 นิ้ว อัตราส่วน 21:9 ความละเอียด FHD+ 2520 x 1080 พิกเซล 432 ppi
- Exynos 9609 Octa Core ความเร็ว 2.2 GHz
- RAM 4 GB
- STORAGE UFS2.1 128 GB
- Bluetooth 5.0, NFC, USB-C , Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, 2.4GHz + 5GHz
- ระบบสแกนนิ้วมือด้านหลังตรงโลโก้
- วัสดุกระจก ทำมุมโค้ง 4 ด้าน
- กล้องหน้า ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล F 2.0
- กล้องหลังคู่ ความละเอียด 48 F 1.7, + OIS ใช้เซนเซอร์ Samsung ISOCELL GM1 + 5 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ 3,500 mAh พร้อมระบบชาร์จไว TurboPower Fast Charging ขนาด 15W
- สีที่จำหน่าย สีน้ำเงิน (Saphire Gradient) สีทองแดง (Bronze Gradient)
- ราคา 9,990 บาท
PERFORMANCE
ในส่วนประสิทธิภาพของตัวเครื่องนั้นตัวนี้ใช้ CPU Exynos 9609 มาพร้อมกับ RAM 4 GB และใช้ UFS 2.1 128GB ในด้านของความจุ ส่วนในการทดสอบคะแนนต่างๆนั้นทำไปได้ที่ Geekbench 1516/4996 คะแนนใกล้ๆกับ 9610 ในตัว Smasung A50 แต่ลดลงมานิดหน่อย หน่วยความจำนั้นเป็น UFS2.1 วิ่งไป 422 MB/s ครับ และ Antutu ทำได้ไป 140000 ไม่เกินนี้ครับเป็นปกติตามระดับของ CPU ตัวนี้ และในด้านความปลอดภัยนั้นทำได้ DRM L1 ไปครับรองรับ Netflix HD อะไรได้ปกติเลยสำหรับค่ายนี้
SYSTEM UI
ในเรื่องของหน้าตาเครื่องนั้นใช้ Android 9.0 พร้อมกับระบบ Android One มาให้เรียบๆง่ายครับ ส่วนเรื่องการอัพเดทก็รองรับปกติ 2 ปี และความปลอดภัย 3 ปี ครับ ส่วนเรื่องของหน้าตาก็เรียบๆมีนาฬิกาของ Moto ที่เสริมเข้ามา การแจ้งเตือนอะไรปกติ แจ้งเตือนได้ไวทั้งหลายๆแอพ ส่วนเรื่องคีย์บอร์ดนั้นเป็นทาง Google ปกติใช้งานได้ดี
ทางด้าน RAM 4GB นั้นสบายๆสำหรับ Android One เหลือๆการใช้งานที่ 1.2GB ครับส่วนในเรื่องของความจุตัวเครื่อง 128GB หักระบบไปที่ 12GB จะเหลือ 116GB สบายๆครับสำหรับเรื่องนี้ ส่วนพวก Moto Action มีมาให้เหมือนกัน เช่นในเรื่องของ 3 นิ้วถ่ายหน้าจอ เข้ากล้องด่วนอะไรพวกนี้ หรือจะเป็นหน้าจอแจ้งเตือนและไม่ดับเวลามองหน้าจอก็มีมาให้เหมือนเดิมสำหรับพวก Moto Action Moto Display ครับ
SCREEN
หน้าจอตัวนี้เป็นหน้าจอแบบใหม่ทั้งเรื่องของอัตราส่วนแบบใหม่และก็การออกแบบเจาะรูแบบใหม่ของกล้องนั้นเอง ตัวหน้าจอนั้นจะเป็นหน้าจอเรียกกันว่า CinemaVision ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2520×1080 พิกเซล) มีอัตราส่วน 21:9 ซึ่งจะยาวและแคบกว่าทั่วไปครับเหมือนจอโรงภาพยนต์พวกนั้น และเป็นจอ IPS LCD แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดำสนิทเท่าไรแต่ก็ถือว่าทำได้ดีสวยงามพอสมควรครับ หน้าจอนั้นสู้แสงได้สบายเลยแหละจากที่ได้ลองใช้งานและอีกอย่างที่ชอบมากกว่าคู่แข่งหลายๆตัวคือเรื่องของการสัมผัส การทัชคุณภาพหน้าจอนั้นติดนิ้วและลื่นไหลมากๆดีกว่าตัวอื่นชัดเจน ทัชไม่รวนแต่อย่างใดเลย ส่วนสีสันก็สวยแต่อาจจะไมไ่ด้สดมากครับ หน้าจอเจาะรูนั้นเอาจริงๆถือว่าใหญ่ไปหน่อยและแอบเกะกะเวลาเล่นเกมหรือดูหนังต่างๆในบางครั้ง ถ้าเล็กลงจะดีมากๆครับ
SOUND
ระบบเสียงตัวนี้มีรู 3.5มม.มาให้ไม่ได้ทิ้งไปไหน ส่วนในเรื่องของหูฟังก็มีแถมมาแบบ IN-EAR มาให้ด้วยมาที่เรื่องของเสียงของมันกันก่อนเลยครับตัวเสียงนั้นจากที่ได้ลองอย่างแรกคือกำลังขับมาน้อยมากๆเลยถ้าเสียบหูฟังที่ห้องการกำลังขับเยอะๆนั้นจะรู้สึกชัดเจนครับ แต่ก็ยังดีที่มี Software เข้ามาช่วยบ้างนิดหน่อยกดเพิ่มแรงขับได้ปรับเสียงอะไรได้ผ่านทางแอพ Dolby ครับ เสียงที่ได้นั้นออกไปทางเบสแน่นนิดหน่อย เสียงร้องชัดเจนแต่แอบแหลมไปนิดๆแม้จะปรับช่วยแล้วก็ตามเสียงนั้นอาจจะไม่ใช่จุดเด่นเท่าไรถ้าเอามาฟังเพลงต่างๆแต่ดูหนังอะไรก็ทำได้ดีเหมือนกันนะ แต่เรื่องแรงขับบางทีจากที่ได้ลองนั้นพวก Realme 3 Pro /Redmi Note 7 จะขับได้ดีกว่าแต่คุณภาพไม่ต่างกันครับ
หูฟังแถมนั้นเป็นแบรนด์ที่ยังคงแถมมาให้เรื่อยๆและคุณภาพใช้ได้เลยนะดีกว่าหลายๆตัวที่เป็นคู่แข่งหรือบางแบรนด์นั้นไม่ได้แถมมาให้เลย ตัวหูฟังนั้นเป็นวัสดุสีเงินสวยงามพร้อมโลโก้ Moto มีไมค์และปุ่มกดมาให้ตรงสวย คุณภาพเสียงนั้นต้องบอกว่าดีกว่าที่คิดเอามาฟังเพลงได้ เบสมาแน่นหน่อยเสียงย่านอื่นออกกลางๆครับ ฟังได้ไม่แย่และไม่ต้องซื้อใหม่ก็ได้เลยนะ เพราะดีกว่าหูแถมของมือถือในเรทราคานี้หลายๆตัวพอสมควรและออกแบบสวยเลยแหละ
SPEAKER
ทางด้านลำโพงในรุ่นนี้ถือว่าใช้งานได้ดีเลยแหละแต่เรื่องของความดังนั้นอาจจะไม่ได้ดีมากนักเมื่อเทียบกับทาง realme 3 pro เพราะความดังและชัดเจนนั้นอาจจะแพ้ทางนั้นไปแต่เมื่อมาดูเสียงย่านต่ำเบสหรือเสียงปืนพวกนี้ทาง Moto แอบทำได้ดีกว่าเล็กน้อยครับถือว่าใช้ได้เลยแต่จะเสียในเรื่องของความดังชัดเจนเวลาใช้งานภายนอกอาจจะไม่ได้ดังมากนักนั้นเองครับไม่กังวาลเท่าไร แต่ถ้าเปิดเล่นเกมอะไรพวกนี้เสียงปืนของ Moto นั้นจะสมจริงและสะใจกว่า
GPS
ในเรื่องของ GPS นั้นต้องบอกว่ายังไม่ค่อยดีเท่าไรในการใช้งานจริงหลายๆครั้งมันไม่ค่อยอัพเดทและไม่ค่อยไวเท่าไรนักถ้านับจากเปิดแอพแรกๆและกว่าจะมา การจับได้นั้นทดสอบกลางแจ้งได้ 23 จับได้ 7 และ ในร่มนั้นเจอ 19 ดวงจับได้ 5 ดวงถือว่าค่อนข้างน้อยและแอบน้อยกว่าตัวอื่นๆแบบชัดเจนรวมถึงการใช้งานจริงบางทีก็ไม่ได้มีหมุนตามเท่าไรเวลาขับรถครับ ซึ่งไม่แน่ใจกว่าการปรับเปลี่ยนมาใช้พวก Exynos อาจจะมีผลเล็กน้อยเพราะจากที่ลองพวก A Series รุ่นใหม่บางตัวที่ใช้ Exynos ก็เจออาการแบบนี้บ้างครับในการทดสอบ
BATTERY 15W
จากการทดสอบการใช้งานนั้นตัวนี้ให้ความจุแบตมาที่ 3500 mAh รองรับระบบชาร์จไว TurboPower Fast Charging 15W ถือว่าชาร์จได้ไวแต่ก็ยังสู้พวก VOOC อะไรพวกนั้นได้ยากครับแต่ก็ถือว่าไวกว่าทั่วไป แน่นอนว่าในการใช้งานจริงๆนั้นพบว่าแบตก็ใช้งานได้ทั้งวันสบายๆ แต่ไม่ได้อึดครับ แบตใช้ได้ 11 ชั่วโมงเหลือ 15% หน้าจอเปิดไป 4 ชั่วโมงเท่านั้น โดยใช้งานหลักๆคือ Social – Spotify -Maps และถ่ายรูปครับผมถือว่ากลางๆไมไ่ด้อึดมาก และในเรื่องของการชาร์จไวนั้นจาก 0% ใช้เวลา 30นาทีแบตขึ้นมา 35% และ แบตเต็มตอน 2 ชั่วโมงนิดๆครับถือว่ากลางๆไม่ได้ไวมาก
GAMING MOTOROLA ONE VISION
CAMERA
กล้องหลังในรุ่นนี้มาพร้อมกับความละเอียดที่ 48MP ซึ่งรายละเอียดของเซนเซอร์ตัวนี้ใช้ของ Samsung ISOCELL GM1 นั้นเองครับ ซึ่งจุดเด่นหลักๆของมันคงหนีไม่พ้น รูรับแสง F1.7 และเป็นไม่กี่ตัวที่มาพร้อมกับกันสั่น OIS ในส่วนของกล้องหลังนั้นเอง ส่วนกล้องอีกตัวนั้นเป็นกล้อง 5MP สำหรับจับระยะในการถ่ายภาพหรือทำหน้าชัดหลังเบลอนั้นเองครับ กล้องนั้นก็มีโหมดต่างๆถ่ายมากมายทั้งเรื่องของ CINEMAGRAPH ดูดสี ถ่ายละลายหลัง พาโนรามา หรือจะเป็นโหมดโปรก็มีมาให้ครับ สามารถปรับชัตเตอร์ได้มากถึง 32 วิ กล้องหลังนั้นรวมๆถือว่าทำได้ดีในแง่ของคุณภาพรายละเอียด แต่มีเรื่องของสีสันที่อาจจะมีเพี้ยนบ้างเล็กน้อยและภาพนั้นอาจจะไม่ได้สีสดมากจะค่อนข้างตุุ่นๆในบางสภาพแสง แต่รวมๆนั้นก็ถือว่าภาพให้โทนแบบธรรมชาติไม่ได้เร่งสีอะไรมากนัก แต่มีอมแดงม่วงเล็กน้อยครับ
NightVision
Portrait
SELFIES
กล้องหน้าในรุ่นนี้มาพร้อมกับความละเอียด 25 ล้านพิกเซลพร้อมกับรูรับแสง F2.0 ในส่วนของกล้องหน้านั้นต้องบอกว่าทาง Motorola นั้นไม่ค่อยเก่งหรือไม่ได้เด่นเท่าไรครับเมื่อเทียบกับคู่แข่งจะดรอปลงเยอะมากทั้งในเรื่องการจัดการโทนสีผิว หรือความคมชัด ความสว่างของหน้าของเราเวลาถ่ายภาพจะไม่ค่อยสวยและติดมืด อมแดงบ้างเล็กน้อยครับ และการปรับแต่งหน้าอะไรอาจจะไม่เนียนเท่าไรรวมถึงเบลอได้ง่ายถ้าแสงน้อย แต่การละลายหลังนั้นทำออกมาได้ค่อนข้างดี และมี Effect แสงให้ใช้งานกันทั่งปรับฉากหลังดำ ฉากหลังขาวดำ หรือแสงแฟลซต่างๆครับสำหรับกล้องหน้าตัวนี้ มุมมองกว้างพอๆกับคู่แข่งหลายๆตัว
VIDEO
สำหรับวีดีโอนั้นต้องบอกว่าอาจจะเป็นจุดเด่นของตัวนี้ที่มาพร้อมกับ OIS+EIS ทำงานควบคู่กันได้อย่างดีทำให้ภาพนั้นนิ่งมากๆและสั่นน้อยลงมากครับ รองรับการถ่ายที่ 4K-FHD 60FPS – FHD30FPS – รวมถึงการถ่ายกล้องหน้าก็รองรับที่ FHD ครับ ภาพรวมนั้นทำได้ดีแต่เวลาแพนกล้องนั้นจะไม่ค่อนสมูทเท่าไรรวมถึงไมค์อัดเสียงนั้นเวลาเงียบๆทำได้ดีแต่ถ้าเจอเสียงลม เสียงรบกวนเข้ามานั้นเสียงคนพูดจะดรอปลงชัดเจน ตัดเสียงได้ค่อนข้างแย่ครับ ถ้าเรื่องไมค์นั้นทาง Realme 3 Pro จะทำได้ดีกว่าพอสมควร ลองไปดูคลิปเทียบกันได้เลยครับ
คลิก — >> เทียบกล้อง REALME 3 PRO VS MOTOROLA ONE VISION บทความภาพนิ่ง
MOTOROLA ONE VISION
Motorola ทำให้ตลาดคึกคักขึ้น แต่มีบางจุดที่ปรับอีดนิดจะลงตัวมาก !
การมาในครั้งนี้ทำให้ตลาดในเรทต่ำกว่า 1 หมื่นบาทนั้นน่าสนใจขึ้นเยอะถ้าใครที่เน้นหามือถือที่ฟีเจอร์ไม่เยอะมากเน้นใช้งานทั่วไปลื่นไหล บอดี้งานประกอบแน่นๆสวยๆ พร้อมกับการอัพเดทไว ตัวนี้มันตอบโจทย์มากๆและในครั้งนี้กล้องหลังก็ทำมาดีมากลบล้างภาพเก่าๆไปได้เลย คุณภาพความสวยงามพัฒนาขึ้นเยอะมากครับแม้จะมีบางจุดที่อาจจะต้องรออัพเดทหรือปรับปรุงนิดหน่อยแต่ก็ถือว่าเป็นการพัฒนาที่ก้าวกระโดดขึ้นกว่าเดิม และการใช้อัตราส่วนหน้าจอแบบใหม่ทำให้แปลกใหม่และน่าสนใจมากขึ้นหน้าจอแบบมีรูบนจอ แม้จะใหญ่ไปหน่อยแอบขัดใจนิดๆ แต่ส่วนการสัมผัสหน้าจอทัชนั้นดีกว่าหลายๆตัวเยอะมากครับ และ CPU Exynos นั้นอาจจะเป็นจุดที่หลายๆคนไม่ชอบหลักๆเลย ซึ่งจริงๆถ้าใครเน้นสายเกมมากๆ ภาพสวยๆ ตัวนี้ยังทำได้ไม่ดีเท่าไรครับถ้าพูดกันตรงๆ แต่เรื่องอื่นๆก็รับได้ไม่มีปัญหา
ข้อดี
- Android One อัพเดทไว และ ยาวนาน 2 ปี
- หน้าจอสวย ทัชดี สัมผัสลื่น
- อัตราส่วน 21:9 ทำได้จับถนัดและลงตัว
- วัสดุงานประกอบคือเนี้ยบและแข็งแรง
- กล้องหลัง NightVision ทำได้ดี
- ทำราคาค่อนข้างดีและใช้งานได้ลื่นไหล
ข้อสังเกต
- กล้องหน้ายังไม่ค่อยดีเท่าไร
- Ai กล้องหลังยังแปลกๆอยู่
- Exynos อาจจะเล่นเกมสู้ Snap ไม่ได้
- ระบบโฟกัส และ WB ยังไม่ดี
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr
*รูปถ่ายจากกล้องมือถือทุกรูป ไม่มีการปรับแต่ง และ สามารถกดดูไฟล์เต็มแบบต้นฉบับได้นะครับ