สำหรับ OPPO เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของกล้องหน้ามาโดยตลอด ใครก็ยอมรับว่ากล้องหน้านั้นเรียกได้ว่าเป็นที่ชอบของหลายๆคนเลยแหละ แต่ในเรื่องของกล้องหลังทาง OPPO นั้นไม่ได้เด่นมากเท่าไรมากซักพักแล้วแต่ดูเหมือนทาง OPPO นั้นไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ครับ แม้ว่าเจ้าตัว FINDX เรือธงประจำปีกล้องหลังก็ยังทำได้ไม่ว้าวเท่าไรนักจนหลายๆคนแอบผิดหวังกันไปนั้นเอง แต่ครั้งนี้ต้องบอกว่าเป็นการพัฒนาที่จับต้องได้ และ พัฒนาที่ก้าวกระโดดจนเรือธงต้องหันมามองครับ ครั้งนี้ OPPO ได้เน้นกล้องหลังมากขึ้นในรุ่น R17 PRO ที่กล้าท้าชนเรือธงด้วยกล้องหลัง 3 ตัวพร้อมระบบ TOF 3D Camera และ กล้องหลังปรับรูรับแสงได้ รวมถึงโหมดชูโรงคือ NIGHT MODE ครับ แล้วมันจะคุณภาพเป็นยังไง ส่วนอื่นๆจะยังน่าสนใจไหม การชาร์จไว หน้าจอ สแกนนิ้ว เสียงจะเป็นยังไงไปรับชมกัน
OPPO R17 PRO เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นที่ค่อนข้างจัดเต็มมากมายครับ ทั้งในด้านการออกแบบที่ใช้สีไล่สีแบบ 2 ข้าง Radiant Mist หรือจะเป็น ระบบกล้องหลัง 3 ตัวพร้อม รูรับแสงปรับได้ F1.5/F2.4 และยังมีกล้องวัดระยะ 3มิติ TOF 3D Camera อีกด้วย รวมถึงการใส่ฟีเจอร์ถ่ายกลางคืนแบบไม่ต้องมีขาตั้งมาให้เป็นรุ่นแรกของทางค่ายครับ และ ระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ รวมถึงการออกแบบหน้าจอแบบเต็มจอพร้อมติ่งหยดน้ำ และมาด้วย CPU Snap 710 RAM 8 GB STORAGE 128 GB ครับผม ค่อนข้างครบเลยแหละ
OPPO เปิดราคาในไทย มาด้วย 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Radiant Mist และ สีเขียว Emerald Green ราคา 24,990 บาท แต่ก็มีโปรผูกกับเครือข่ายเหลือเพียง 9990 บาทก็ไปลองติดตามกันครับว่ามีข้อกำหนดยังไงบ้างสำหรับรุ่นนี้
UNBOX
ในตัวกล้องนั้นก็ต้องบอกว่ามีการเล่นสีสันสวยงามพอสมควรเลยครับตัวกล่องเปิดแบบด้านข้างรวมถึงบอกชื่อรุ่นอะไรชัดเจนครับ อุปกรณ์ในตัวกล่องมีมาให้ค่อนข้างครบและเพียงพอต่อการใช้งานทั้งเคสฟิลม์ สายต่างๆ
- ตัวเครื่อง OPPO R17 PRO
- ฟิลม์แปะมาให้บนตัวเครื่อง
- ที่จิ้มซิม คู่มือ
- เคสใส สีอมเขียว
- หูฟังแบบ TYPE-C
- สายชาร์จ SUPER VOOC
- SuperVOOC Adapter 50W
- ไม่มีตัวแปลง TYPE-C – 3.5มม. มาให้นะครับ
DESIGN
ในด้านการออกแบบตัวเครื่องนั้นแน่นอนว่าด้านหน้าจริงๆก็เหมือนกับรุ่นอื่นๆของทางแบรนด์ครับ แต่ทางด้านหลังแน่นอนว่ามีการเปลี่ยนแปลงพอสมควรเลยแหละการใช้บอดี้กระจกเหมือนเดิมในด้านหลังแต่มีการเล่นกับแสงเป็นรูป ตัว S สวยงามครับและทีเด่นๆเลยคือฝาหลังในอีกสีนั้นจะเป็นการเล่นสี 2 สีครับผม และ ขนาดน้ำหนักตัวเครื่องเบาและไม่ได้หนาเลย งานประกอบวัสดุทำได้ดีเช่นเคยครับอารมณ์แบบ FIND X รุ่นพี่เลย กล้องหลังวางแนวตรงกลาง ค่อนข้างแปลกตา และดีที่กล้าออกแบบไม่ต้องไปเหมือนรุ่นก่อนๆหรือเหมือนค่ายอื่นๆแล้วครับจุดนี้แอดมินโอเคเลย
ด้านหน้าของตัวเครื่องนั้น ยังเป็นหน้าจอแบบมีติ่งหยดน้ำอยู่เช่นเคยครับหน้าจอเป็น FULLHD+ ใช้กระจก GORILLA GLASS 6 รุ่นล่าสุดจอเรียบไม่โค้งนะครับ ขอบด้านข้างบางพอสมควรเลย มีพล้องหน้า เซนเซอร์อะไรมาให้ครบครับสำหรับรุ่นนี้ หน้าจอเป็นแบบ AMOLED สวยและสู้แดดได้ดี
ด้านบนของหน้าจอ เป็นติ่งหยดน้ำอยู่เช่นกันครับ พร้อมกับช่องลำโพงที่แทรกอยู่ระหว่างขอบเครื่อง และ เซนเซอร์ต่างๆข้างตัวกล้องครับ การที่มีติ่งนั้นทำให้ขอบจอนั้นบางมากๆในส่วนขอบบน และ ขอบด้านข้างครับ
มากันที่ขอบหน้าจอส่วนล่างแน่นอนว่ายังคงทำได้ไม่บางเท่ากับขอบด้านบน หรือ ขอบด้านข้างครับด้วยปัญหาด้านต้นทุน หรือ เทคโนโลยีการที่ทำให้มันบางนั้นต้องมีค่าใช้จ่ายและปัญหาตามมาจึงออกมาไม่ได้บางมากนักครับ และปุ่มควบคุม ก็ย้ายไปบนจอทั้งหมด หรือจะเป็นการควบคุมแบบปัดไปมาแบบในภาพทำให้เต็มจอมากกว่าเดิมครับผม
ด้านขอบเครื่องด้านล่าง จะเป็นรูลำโพงหลักของตัวเครื่อง รูไมค์ ช่องชาร์จไฟ TYPE-C และ ถาดซิม Dual-Sim
ด้านขอบซ้ายนั้นจะเป็นที่อยู่ของ ปุ่ม เพิ่ม ลดเสียงครับ และตัวขอบปัดเงาสวยงามเลยเป็นโทนสีเดียวกับฝาหลังครับ
มาที่ด้านขวากันบ้าง จะเป็นปุ่ม POWER เท่านั้นในด้านนี้ จะเห็นว่าหน้าจอนั้นเรียบและพอดีขอบ แต่ฝาหลังมีการโค้งเข้ามาเล็กน้อยครับทำให้เวลาจับถือนั้นทำได้พอดี และ รับกับมือได้นิดหน่อยไม่ได้เรียบแบบด้านหน้านั้นเอง
ในส่วนของขอบด้านบนนั้นตัวนี้ไม่มีรู 3.5มม. แล้ว และมีเพียงแค่รูไมค์เท่านั้น มีการออกแบบที่คล้ายกับรุ่นก่อนคือเว้าลงไปเล็กน้อยครับเป็นเอกลักษณ์การออกแบบดีไซน์ของแบรนด์นี้เค้าแหละ
ด้านหลัง ตัวนี้จะเป็นกล้องทั้งหมด 3 ตัวอยู่ในช่องเดียวกัน และ ไฟแฟลชแยกออกมาครับ ตรงตัวกล้องนั้นอัดแน่นไปด้วยเซนเซอร์ต่างๆทั้ง การวัด 3 มิติ กล้องหลัก กล้องเทเล และ ครั้งนี้จัดเต็มมากจริงๆ
ฝาหลังโดยรวมในรุ่นนี้ถ้าเป็นสีเขียวจะเป็นฝาหลังแบบเงา และ การออกแบบจะเห็นตัวโค้ง S แบบในภาพเลยครับเป็นการออกแบบที่หลายขั้นตอนในการวางเลเยอร์สี แต่ถ้าเป็นอีกสีจะเป็นฝาหลังด้านที่สลับ 2 สีกันนะครับก็สวยคนละแบบกันไป แต่แอบชอบแบบ เงาๆมากกว่านะดูเรียบหรู และ เล่นกับแสงได้สวยงามเลย
SPEC OPPO R17 PRO
- Android 8.1 Oreo ครอบด้วย ColorOS5.2
- ตัวเครื่องขนาด 157.6 × 74.6 × 7.9 มิลลิเมตร หนัก 183 กรัม
- หน้าจอ AMOLED 6.4 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ อัตราส่วน 19.5:9
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 710
- Qualcomm® Kryo™ 360 CPU (ชิปประมวลผลงานที่เน้นประสิทธิภาพ)
- Qualcomm Spectra™ 250 ISP (การประมวลผลสัญญาณภาพ)
- Qualcomm® Hexagon™ 685 DSP (ชิปประมวลผลสัญญาณดิจิทัล)
- เทคโนโลยีใหม่ TOF 3D
- RAM 8GB STORAGE 128GB
- กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้องหลัง 3 ตัว 12 ล้านพิกเซล + 20 ล้านพิกเซล + TOF 3D Camera ค่ารูรับแสง f/1.5, f/2.4 + f/2.6 OIS
- รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
- การเชื่อมต่อ : USB Type-C
- การเชื่อมต่อ BlueTooth 5.0 รองรับ ชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth Stereo)
- รองรับระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า
- รองรับ 2 ซิม (4G ได้ทั้ง 2 ซิม)
- รองรับระบบชาร์จไว SuperVOOC ชาร์จเร็ว 10 นาที แบตฯ เพิ่มขึ้น 40% แบตเตอรี่ 3,700mAh
- 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Radiant Mist และ สีเขียว Emerald Green ราคา 24,990 บาท
PERFORMANCE
Snapdragon 710 RAM 8 GB ROM 128 GB สเปคหลายๆคนคงบ่นกันว่ามันไม่สุดเท่าไร จริงๆแอดมินก็อยากให้มันจัดเต็มมาเหมือนกันนะตรงๆเลย แต่ไหนก็ทำไรไม่ได้เรามาดูคะแนนกันก่อนครับ ด้วยจอ FULLHD ทำให้มันรีดประสิทธิภาพได้ดีพอสมควร หน่วยความจำแบบ UFS2.0 ยังไม่เท่ารุ่นพี่ FindX นะตัวนั้น 2.1 ส่วนคะแนน Antutu 3DMARK GEEKBENCH อยู่ในระดับกลางๆไปทางสูงครับ คะแนนได้ 155388 และ 3D CPU ตามระดับของ 710 ไม่ได้โดนลดความเร็วหรือ มีจุดมาดึงคะแนนลงแต่อย่างใดครับ แต่ในเรื่องใช้งานจริงจะเป็นยังไงต้องรอดูกัน
SOFTWARE UI
ระบบหน้าตาครั้งนี้ทำได้สวยงามจริงๆ Color OS 5.2 หน้าตามาค่อนข้างสวยแบบเรียบง่าย และใช้งานลื่นและไม่รกครับ การแจ้งเตือนทำงานได้ดีปกติเลย หน้าตา ล็อคสามารถดูข้อความได้หรือจะซ่อนก็ได้ หน้าหลักมีนาฬิกาบอกมุมซ้าย และ หน้า Appdrawer ไม่มีนะครับเลื่อนใช้งานปกติได้เลย สามารถเปลี่ยน Effect การสลับหน้าได้ด้วยนะ
การตั้งค่าแบบ Quicksetting นั้นก็มีปรับแสงหน้าจอ ปุ่มเคีลย์อยู่ด้านล่าง และ ลากลงมาอีกครั้งเข้าแบบเต็มครับมีปรับให้ต่างๆมากมายรวมถึงการอัดหน้าจอ และเข้า Google Assistant และแบ่งหน้าจอได้เหมือนกันครับผม
ตัวเครื่องมาพร้อม ROM 128 GB ใช้ได้ 108 หลังจากหักพื้นที่ระบบ และ RAM ทั้งหมด 8 GB เหลือ 4 GB ให้ใช้งาน รวมถึง คียบอร์ดนั้นก็มาจากของ Google สบายใจได้ สวยเรียบใช้งานง่ายครับและแอดมินถนัดตัวนี้อยู่แล้วนะ
GESTURE การเปลี่ยนปุ่มนำทางเป็นแบบปัดๆไปมาได้ สลับตำแหน่งได้ครับ หรือจะเป็นแบบอื่นๆสามารถเลือกได้เลย และแอพขอบข้างนั้นก็สามารถเลือกมาใส่ได้หรือจะอิงจากที่ใช้บ่อย หรือจะเป็นตั้งค่าด่วนก็ได้เช่นเดียวกันครับ
GESTURE เพิ่มเติมในส่วนของ การโทร ยกขึ้นมารับเอง หรือคว่ำเพื่อเงียบ และ สามารถ ใช้ 3 นิ้วแคปจอหรือจะยกจอและจอติดได้เลยก็สะดวกมากครับ เวลาหน้าจอปิดก็สามารถสั่งงานได้วาดรูปต่างๆยังมีมาให้ครบครับผม ส่วนเรื่องตัวช่วยในการขับรถก็มีมาเช่น เปิดลำโพงให้เอง ต่อ Bluetooth ให้อะไรพวกนี้ครับผม
APP CLONE – GAME SPACE ก็มีมาให้ครับจะปรับความแรง ไม่รบกวนการเล่นเกม ต่างๆเพื่อให้เล่นเกมได้ดีสุดๆหน้าจอไม่ปรับแสงเองอะไรแบบนี้ครับ รวมถึง ตั้งค่าหน้าจอแบ่งจอได้ว่าจะใช้ 3นิ้วแบ่งจอได้ด้วยครับ
THEME
สำหรับหน้าตาตัว UI สามารถปรับเปลี่ยนได้นิดหน่อยครับซึ่งมีให้เลือกในแอพธีม และสามารถปรับเปลี่ยนได้หลักๆคือหน้าต้า ICON หน้าตาหน้า Lockscreen และ Wallpaper รวมๆครับซึ่งหน้าโทร หน้าส่งข้อความจะไม่เปลี่ยนตาม
SCREEN
หน้าจอตัว OPPO R17 PRO ตัวนี้มาพร้อมหน้าจอแบบ FULLHD+ ใช้จอแบบ AMOLED แน่นอนครับว่าเรื่องของหน้าจอจากที่ได้ลองใช้งานนั้นมีความคมชัดพอสมควรสู้แดดได้ดีตัวจอนั้นสู้แสงได้แม้จะใช้งานเวลากลางวัน แม้จะเป็นแค่จอ FULLHDแต่ทำความสวยงามได้ดีเลยแหละ สีค่อนข้างสวยไม่ได้สดเวอร์เกินไปครับ จอเป็นกระจก Gorilla Glass 6 รุ่นล่าสุดครับไว้ใจได้ในเรื่องของความแข็งแรงเวลามีอะไรมาขูดขีดได้สบาย จอเป็นการออกแบบแบบไร้ขอบแต่แบบมีติ่งหยดน้ำตามสมัยนิยมนั้นเอง ขอบทั้ง 3 ด้านนั้นค่อนข้างบาง แต่ก็ยังมีขอบล่างอยู่นิดหน่อยครับผม ด้วยการที่เป็นจอ LED ทำให้แสดงสีดำนั้นดำสนิทและใช้งานกลางคืนลดแสงลงได้ค่อนข้างต่ำครับผม เรื่องจอโดยรวมไม่เจอปัญหา ในการใช้งานถือว่าค่อนข้างพอใจเลยครับ
Hidden Fingerprint screen
การแสกนนิ้วใต้หน้าจอของ OPPO R17 PRO เป็นการพัฒนาทำให้เราไม่ต้องมีตัวสแกนลายนิ้วมือบนฝาหลังอีกต่อไปครับ แนวคิดนี้ได้รับความนิยมอย่างมากและพัฒนามาได้ดีขึ้นเรื่อยๆเลยส่วนในด้านความสวยงามแน่นอนว่าสวยงามมากครับ ทำให้เราไปสแกนนิ้วบนหน้าจอได้เลยไม่ต้องเสียพื้นที่การออกแบบฝาหลังหรือด้านหน้าครับ และการใช้งานแทบไม่ต่างอะไรกับสแกนนิ้วปกติสามารถสแกนนได้หลายนิ้วเช่นเดียวกันและจดจำการตั้งค่าต่างๆไม่ต่างกันเลยครับ
ในด้านการใช้งานจริงๆแน่นอนว่าสแกนนิ้วบนจอยังคงไม่สามารถทำได้เร็วแบบสแกนนิ้วปกติได้แน่นอน การสแกนนิ้วต้องวางน้ำหนักลงไปนิดหน่อยและแตะไว้ประมาณ 1 วิถึงจะเข้าได้ และต้องทำให้จอติดก่อนถึงสแกนนิ้วได้ครับ จริงๆสแกนนิ้วถือว่าไวกว่ายุคแรกๆที่ออกมานะ อันนี้ก็ไม่ได้ช้าอะไรมาก แต่ถ้าใครยังชินสแกนแบบเดิมจะพบว่าแอบช้ากว่า
SOUND
ในด้านของเสียงผ่านหูฟังตัวนี้ไม่มีรู 3.5มม. แล้วได้ตัดออกตามรุ่นพี่ไปแล้วนั้นเองซึ่งแน่นอนว่าการที่ตัดออกไปทำให้หูฟังนั้นที่ให้มาในกล่องเป็นพอร์ทแบบ TYPE-C แต่ในด้านการออกแบบตัวหูฟังยังคงคล้ายเดิม
มาใน.โทนสีขาวและครับ ในเรื่องของเสียงผ่านทางหูฟังแถมนั้นยังคงให้ความรู้สึกคล้ายของเดิมไม่ได้เด่นมากนัก กำลังขับ เบส หรือ เสียงนั้นค่อนข้างธรรมดา เสียงที่ได้ออกมา จะค่อนข้างออกไปทางโทนแหลมสูง ส่วนใน
เรื่องของมิติ เวที เสียงมากลางๆครับผม สำหรับหูฟังที่แถมมาน่าจะเน้นเหมาะสำหรับใช้งานโทรศัพท์ หรือเวลาออกกำลังนั้นน่าจะเหมาะกว่าเวลาฟังเสียงเพลงครับ แต่ด้วยที่มันเป็น TYPE-C ทำให้เราสามารถหา
ตัวแปลง ไป 3.5มม. ที่จะสามารถเสริมเรื่องของเสียงเพลงให้มันดีขึ้นไปได้ครับ และในตัวกล่องก็ไม่ได้แถมตัวแปลงมาให้แล้วด้วย จึงเป็นการเปิดให้คนที่เน้นเสียงเพลงหา ตัวแปลงในแนวเพลงที่เราชอบนั้นมาใส่ได้นั้นเอง
SPEAKER
ทางด้านของลำโพงครับตัวนี้มาแค่ลำโพงตัวเดียวในด้านล่างแน่นอนว่าเสียงก็ได้มีการปรับปรุงมามากขึ้นครับในด้านคุณภาพและความดัง จากในคลิปจริงๆมันเทียบค่อนข้างยากเพราะอีกรุ่นนั้นมาด้วยลำโพง บนล่างและมีขนาดใหญ่กว่านั้นเอง แต่ทาง OPPO R17 PRO กลับสู้ได้ดีมากๆ เพราะว่าความแตกต่างเมื่อเทียบกับกลับพบว่าน้อยกว่าที่คาดไว้ครับ ทั้งความดังและคุณภาพ เป็นลำโพงตัวเดียวที่ความดังไม่เป็นรองและไม่ได้ด้อยเลยสำหรับ R17 PRO ตัวนี้
GAMING
Oppo R17 Pro กันในรุ่นนี้มาพร้อมกับชิปเซ็ท S710 RAM 8GB + ROM 128GB เเบตเตอรี่ 3700 mAh หลังจากที่ได้ทดสอบถือว่าในรุ่นนี้เล่นเกมปรับภาพกราฟฟิคระดับกลางได้อย่างลื่นไหลไม่มีกระตุก อีกทั้งเล่นเกมส์ต่อเนื่องมีความร้อนสูงได้เเค่ 40 องศาเท่านั้น เล่นต่อเนื่อง 1 ชม เเบตเตอรี่ลดไปประมาณ 20% สำหรับในหลายๆเกมที่ทดสอบปรับภาพแบบ HD ได้และเฟรมเรทค่อนข้างนิ่งเลยแหละจริงๆ SNAP 710 มันไม่ได้แย่เลยครับในด้านการใช้งานทั่วไป หรือใครจะสายเกมก็ถือว่าไม่ด้อยเลยและการใช้ CPU ตัวนี้ทำให้แบตมันลดช้ากว่าเรือธง 845 และ ความร้อนที่ 845 เป็นปัญหากัน แต่ในตัว 710 นั้นพบได้น้อยและไม่ค่อยเจอความร้อนกันเลยครับ แต่เมื่อมองราคาหลายๆคนนั้นอาจจะอยากได้ 845 ให้มันสมราคาอันนี้ก็แล้วแต่ความต้องการเลย แต่มาดูกันก่อนว่า 710 ทำออกมาได้ประมาณนี้นั้น ทางผู้อ่านจะรับได้ไหม
BATTERY SUPER VOOC FLASH Charge
ทางด้านแบตเตอร์รี่ รุ่นนี้มาพร้อมกับความจุแบต แบตเตอรี่ 3,700mAh และ มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทาง OPPO เครมว่า ไวสุดๆด้วยการชาร์จ ชาร์จเร็ว 10 นาที แบตฯ เพิ่มขึ้น 40% หรือเรียกว่า SUPER VOOC FLASH CHARGE นั้นเองจริงๆเป็นเทคโนโลยีที่ทาง OPPO พัฒนามาอย่างต่อเนื่องที่จะชาร์จไว ไม่ร้อน และ ปลอดภัยครับ และรุ่นก่อนหน้าก็มี VOOC แน่นอนก็ไวแล้วนะ แต่รุ่นนี้ไวกว่าเดิมไปอีกแบตเตอรี่ขนาด 3700 mAh นั้นถูกจับแยกเป็น 1850mAh 2 ก้อน ทำให้สามารถรับไฟเพื่อชาร์จแบตได้ถึงเกือบๆ 50W จริงๆก็ไม่เชือหรอกจนแอดมินได้มาลองถ่ายเทียบ 10 นาที แบตมันจะขึ้นได้ขนาดไหนกับ 20 เปอร์เซนต์ และ ใช้เวลาจาก 20-100 จะกี่นาทีกันเชียว และไปดูตามภาพด้านบนกันได้เลย คือ ใช้เวลาชาร์จ 20-100 ไม่ถึง 40 นาที !! แค่ 31 นาทีเท่านั้นเห้ยไวไปไหนน
ส่วนเรื่องที่เครมกันว่า 10 นาทีแบต 40% อันนี้ก็ได้ผลตามที่เค้าบอกเลยจริงๆ จาก 22 ขึ้นมา 65 หรือขึ้นมา 43% เห้ยโคตรเป๊ะ 555 อันนี้เป็นเทคโนโลยีที่ได้ใช้ประโยชน์จริงๆ สะดวกจริงๆ แต่ก็ต้องใช้สายของมัน หัวของมันด้วยนะครับ ขนาดจริงๆแอบใหญ่ไปนิดในการพกพาไปนอกสถานที่ มาดูเรื่องความอึดของแบตกันบ้าง รอบนี้แอดมินใช้งานตอน 10 โมงเช้า กลับบ้านมา 5 ทุ่ม แบตเหลือ 15% นำทาง เปิดกล้องถ่ายวีดีโอเยอะมาก แบตรุ่นนี้ตอบโจทย์ในเรื่องของความอึดได้ดีครับ ทั้งวันได้สบายแบบไม่ต้องกังวล น่าจะด้วย Snap 710 นั้นทำออกมาได้ดีเลยแหละ
GPS
ส่วนของการนำทางตัวนี้แอดมินทดสอบนำทางจริงๆ และ ใช้แอพทดสอบเช่นเคยครับตัวนี้จากที่ทดสอบจริงๆพบว่านำทางได้ แต่ไม่ได้ดีมาก คือตัวการนำทางอัพเดทยังไม่ค่อยเป๊ะมากนักเมื่ออยู่ในเมืองมีการหันหัวผิดทิศไปบ้างและอัพเดทแอบช้าไปเวลาขับรถในบางจังหวะ ซึ่งก็เป็นอีกจุดที่ใครเน้นเรื่องนี้อาจจะต้องลองกันดีๆหน่อย มันเจอบ้างบางครั้งครับ ไม่ได้เจอทุกครั้งนะ ส่วนในการใช้แอพทดสอบนั้นก็จับได้ทั้งหมด ดวง จากทั้งหมด ดวงครับทั้งบนรถ และ ทางเดินเท้าปกติ กลางแจ้งนะครับ
CAMERA WITH ULTRA NIGHT MODE
กล้องหลัง 3 ตัว 12 + 20 ล้านพิกเซล + กล้อง TOF, f/1.5,f/2.4 + f/2.6, Dual-Pixel PDAF, OIS, ช่วงเลนส์ 26 มม. แน่นอนว่าการที่กล้องหลังจัดเต็มแบบนี้ต้องมีเรื่องของระบบที่เข้ามาช่วยเยอะครับเช่น AI Ultra-Clear Engine ที่จะเข้ามาช่วยให้การถ่ายภาพกลางคืนหรือที่แสงน้อยทำให้ภาพคมชัดมากขึ้น และ กล้องอีกตัวนั้นเป็นกล้อง 3 มิติ ที่ใช้ในการตรวจจับความลึก ซึ่งจะนำมาใช้ในการถ่ายภาพหรือขึ้นโมเดล 3 มิติได้ และใช้ร่วมกับระบบ AR หรือ VR ของ Google
สำหรับกล้อง 3 ตัวหลายคนอาจจะสงสัยว่าการทำงานมันเป็นยังไงเริ่มที่กล้องตัวเเรกความละเอียด 12 ล้านพิกเซลจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่สามารถช่วยสลับค่ารูรับแสงของกล้อง f/1.5 เป็น f/2.4 ให้แบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยในการถ่ายภาพตอนกลางวัน และกลางคืนให้ดีมากยิ่งขึ้น ส่วนกล้องตัวที่สาม ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับรูรับแสง f/2.6 จะมีเอาไว้ใช้สำหรับช่วยจับระยะในโหมด Portrait เท่านั้นเองครับนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ OIS อีกด้วยนะครับ
AUTO
NIGHTMODE
PORTRAIT
SELFIES
กล้องความละเอียดสูง 25MP + ระบบ AI Beauty จะทำให้ภาพเซลฟี่ นั้นเนียนสวยและ คงความเป็น OPPO ได้อย่างดีครับกล้องหน้ามีมุมที่ค่อนข้างกว้างครับ เก็บได้หมด ความเนียนสวยมีปรับได้หลากหลายระดับ รวมถึง ละลายหลังได้ด้วยครับ กล้องหน้าไม่มี AF แต่ก็ตั้งค่าระยะมาได้ค่อนข้างดีถ่ายง่ายไว และไม่ค่อยเบลอครับผม นอกจากนั้นยังเรียกได้ว่าในส่วนของกล้องหน้าในรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันใหม่ที่จัดเต็มกว่าเดิมเรียกได้ว่ามาเอาใจสายเซลฟี่โดยเฉพาะ มีสติกเกอร์ AR Sticker น่ารักๆให้เราได้ถ่ายตามที่เราต้องการ
ฟีเจอร์ใหม่ 3D Omoji ที่มีอยู่บนรุ่นเรือธงอย่าง Oppo Find X ที่สามารถเเสดงสีหน้าผ่านตัวการตูนสุดน่ารัก หรือจะเป็นการสร้างตัวละครที่เราสามารถกำหนดได้ทั้งภาพนิ่งหรือไฟล์ GIF ก็สามารถใช้งานได้ด้วยเช่นเดียวกันบนรุ่นนี้
นอกจากนี้เราสามารถปรับแต่งในส่วนต่างๆบนใบหน้าของเราได้ตามต้องการเช่น พวกดวงตา , กราม , คาง , หรือ จมูก , ปรับหน้าเรียว ก็สามารถปรับเปลี่ยนในรุ่นนี้ยังคงมีฟีเจอร์การจัดแสงที่สามารถปรับเปลี่ยนตามต้องการได้ทั้งหมด 6 โทนสี ได้แก่ Natural Light , Film Light , Mono-Tone Light , Bi-Color Light, Canvas Light , Shake Light คล้ายๆที่มีอยู่บน Oppo R15 Pro รุ่นก่อนเป็นไงละจัดเต็มเลยใช่ไหม
OPPO R17 PRO
” การพัฒนากล้องหลังที่ก้าวกระโดด และ ระบบที่ชาร์จโคตรไว “
เป็นสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวมาด้วยฟีเจอร์หลายๆอย่างนั้นน่าสนใจ ทั้งกล้องหลัง การชาร์จแบต ฟีเจอร์ ระบบต่างๆ แต่ด้วย ราคา กับ CPU มันแอบขัดแย้งกัน จึงทำให้หลายๆคนพลาดของดีกันไปแน่นอนว่าหลายๆคนจ่ายเงินราคา 24-25 นั้นต้องหวังจะได้ CPU ตัวเทพสุดแรงสุดๆจึงทำให้หลายคนมองข้ามมันไปเลย แต่ก็ลืมมองกันไปว่า กล้องหลังที่ได้ ฟีเจอร์ต่างๆ การชาร์จแบต วัสดุ ระบบต่างๆนั้นมันก็มีดีเหมือนกันนะ แต่พวกกลุ่มคนเหล่านั้นก็อาจจะเน้นแรง แต่ไม่สนกล้องก็เป็นได้ มือถือรุ่นนี้จึงไม่ได้อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย แต่ใครจะเหมาะกับรุ่นนี้ ก็คงเป็น สายถ่ายภาพ ถ่ายเซลฟี่ เน้นใช้งานทั่วไป เล่นเกมได้แต่ไม่ได้หนักหน่วง เน้นแบตอึดตลอดวัน ชาร์จไวๆ ตัวเครื่องสวย อะไรแบบนี้แทนนั้นเอง ก็ต้องดูกันครับว่า เราจะเลือกแบบไหน เน้นอะไรให้เหมาะกับตัวเราครับ สำหรับรุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ครบเครื่อง และการพัฒนาด้านกล้องหลังที่ค่อนข้างน่าพอใจเลยสำหรับ OPPO
ข้อดี
- การออกแบบตัวเครื่องสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ขึ้น
- หน้าจอทำได้สวย สู้แดดได้ดี รวมถึงสีสัน
- Snap 710 ใช้งานทั่วไป รวมถึงเล่นเกมได้สบาย
- ระบบชาร์จไว SUPER VOOC Flash โคตรไว !
- กล้องหลังพัฒนาขึ้นแบบชัดเจน และ NIGHT MODE โหดมาก
- กล้องหน้ายังคงไว้ใจได้และสวยงามสมชื่อ OPPO
- แบตเตอร์รี่ อึดใช้งานได้ทั้งวันสบาย
ข้อสังเกต
- Snap 710 อาจจะไม่ได้เหมาะสำหรับเน้นแรงๆ
- ยังไม่มีชาร์จไรสาย
- การอัพเดทระบบ ยังคงเป็นคำถามสำหรับ OPPO
- ไม่มีตัวแปลง 3.5มม และ ไม่มีรู 3.5มม.
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review By Nineztr