หลังจากที่ OPPO ได้ทำการเปิดตัว Reno2 Series นั้นเราได้รีวิวรุ่นน้องไปก่อนหน้านี้ครับ ตอนนี้มาเจอกันสำหรับรุ่นพี่ที่จัดเต็มขึ้นในหลายๆด้านกันบ้าง มาพร้อมกล้อง 4 ตัว 48MP ใช้เซนเซอร์ IMX586 และรองรับการซูมโหดๆที่ 20X และ มี Hybrid Zoom ด้วยนะ ส่วนฟีเจอร์กล้องนั้นจัดเต็มมากทั้งภาพนิ่งและวีดีโอครับงานประกอบวัสดุทำออกมาได้สวยและพรีเมี่ยมอีกรุ่นนะ การวางกล้องรวมถึงวัสดุใช้งาน Gorilla Glass 6 ด้วยในด้านหน้าจอครับ ทางด้านสเปคก็ให้มาดีพอสมควร ใช้งาน Snapdragon 730G และเอาจริงๆรุ่นนี้นั้นส่วนเด่นจริงๆคงจะเป็นกล้องหน้าหลัง และ หน้าจอแบบเต็มตาไม่มีติ่งหน้าจอด้วยครับ ถือว่าสายถ่ายภาพวีดีโอนั้นต้องไม่พลาดเลยจริงๆในรุ่นนี้
OPPO Reno2 ได้ความพรีเมี่ยมและกล้องโหดๆแบบจัดเต็ม และยังคงใช้งานวัสดุสวย งานประกอบเนียนเป็นจุดเด่นเลย อีกทั้งเรื่องกล้องหน้า 16MP เป็นกล้องหน้าแบบ Pivot Rising Camera พร้อมกับมี Soft Front Light กล้องหลังก็จัดเต็มมาให้ครับ SONY IMX586 48MP (f/1.7) + 8MP (f/2.2) + 13MP (f/2.4) + 2MP (f/2.4), Ultra Night Mode 2.0 /Ultra Dark Mode ทางด้านสเปคนั้นจะใช้งาน Snap dragon 830G + RAM 8GB + STORAGE UFS 2.1 256GB และใช้งานแบต 4,000 mAh รองรับการชาร์จไว VOOC 3.0 ถือว่าค่อนข้างจัดเต็มในแง่ของกล้องและเทคโนโลยีการออกแบบการชาร์จ ส่วนหน้าจอนั้นก็ใช้งานหน้าจอแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080) ขนาด 6.5 นิ้ว และ ครอบทับด้วย Gorilla Glass 6 ด้านหน้าและ Gorilla Glass 5 ในด้านหลังเลยครับถือว่าค่อนข้างดีเลยวัสดุของมัน และ ฟีเจอร์ในการถ่ายวีดีโอจัดเต็มมากครับ ทั้ง Ultra Steady / Audio ZOOM / Bokeh Effect Video / และ ไมค์ที่รองรับการอัดเสียงรอบทิศทาง และ ตัดเสียงลม
OPPO Reno2 เปิดราคาในไทยที่ 17,990 บาทมาพร้อม 2 สีครับ สีดำ Luminous Black / สีชมพู Sunset Pink สเปค Snap dragon 730G RAM 8GB Storage 256GB
UNBOX
ตัวกล่องนั้นยังคงมาในลักษณะแนวยาวๆแบบเดิมครับอุปกรณ์ให้มาค่อนข้างจัดเต็มทั้งเรื่องของเคสและฟิล์มติดมาให้เรียบร้อยและมีหูฟังมาให้ครับส่วนตัวชาร์จก็ให้ตัว VOOC 3.0 มาให้เลยในกล่อง แต่ดีไซน์อะไรตัวที่ชาร์จจะแตกต่างกับรุ่น 2F เพราะในรุ่น 2 นี้นั้นจะเล็กและพกพาได้ง่ายกว่าครับ รวมๆนั้นเรียกได้ว่าอุปกรณ์ในกล่องนั้นครบพร้อมใช้ แต่ที่ชอบคือเคสที่แถมนั้นสวยและดูดีมากๆครับ ดูหรูกว่าเดิมเยอะเลย
- ตัวเครื่อง OPPO Reno2
- เคสกึ่งแข็งสีตามตัวเครื่องพร้อมเล่นลวดลายหนัง
- ฟิล์มกันรอย ติดมาเรียบร้อย
- สายชาร์จ USB-C
- Adaptor VOOC 3.0
- หูฟัง 3.5มม.
- ที่จิ้มซิม คู่มือ
DESIGN
ต้องบอกว่าตระกูลนี้นั้นจะค่อนข้างสวยและพรีเมี่ยมจริงๆ การออกแบบ ดีไซน์ต่อยอดจากรุ่นเดิมแต่ลงตัวขึ้น และในโทนสีชมพูนั้นจะออกด้านๆ สามารถเล่นกับแสงสีแบบมุกๆสวยงาม มองในแต่ละมุมก็สะท้อนแตกต่างกันไป และในการวางกล้องตรงกลาง เรียงกันยาวๆ 4 เลนส์สวยงามและ มี O-Dot ป้องกันเลนส์มาให้ในล่างสุดรวมถึง เขียนชื่อแบรนด์อะไรวางตรงกลางแบบที่คุ้นเคยกัน ถือว่าดีไซน์มีเอกลักษณ์ของตัวเองกันมากขึ้นในหลายๆรุ่นของแบรนด์นี้ครับอันนี้ขอชมว่าไม่เหมือนคนอื่นแล้วด้วยถือว่าเป็นตัวของตัวเองแล้วทั้งการออกแบบและพื้นผิวออกแบบ
หน้าจอรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบเต็มตา AMOLED Panoramic Screen 6.5 นิ้ว Full HD+ และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 6 อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93.1% ขอบล่างนั้นจะบางกว่าตัว 2F
ด้านขอบบนหน้าจอนั้นไม่มีอะไรเลย กล้องหน้าเซนเซอร์ ลำโพงได้ถูกซ่อนไปทั้งหมด ขอบด้านบนนั้นจะมีการเว้นช่องลำโพงสำหรับคุยไว้ส่งผ่านมาจากกล้องหน้าที่เลื่อนขึ้นลงได้ และเซนเซอร์ ฝังใต้หน้าจอทั้งหมด
ขอบด้านล่างทำออกมาได้บางมากครับตัวขอบหน้าจอส่วนล่างนั้นทำได้เต็มกว่ารุ่นก่อนหน้าด้วยเช่นกันครับ และการควบคุมนั้นสามารถเลือกใช้งานเป็นแบบเต็มหน้าจอ หรือจะเป็นปุ่มปกติก็สามารถเลือกได้เช่นกัน
เมื่อเปิดใช้งานกล้องหน้าขึ้นมานั้นรุ่นนี้จะเป็นแบบ Pivot Rising ซึ่งจะเป็นแบบเดียวกับรุ่น 10X Zoom ก่อนหน้าครับส่วนกล้องหน้า 16 MP f/2.0 มาพร้อม AI Beautification และ Soft Front Light ในกล้องหน้าครับ รองรับการ ปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า และ ลำโพงสนทนา มีโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน รวมถึงติดตั้ง Proximity Sensor ที่ติดตั้งไว้ในส่วนตรงนี้ด้วยครับ รองรับการใช้งาน 200,000 ครั้งและใช้เวลา 0.8 วิเท่านั้น
มากันที่ขอบเครื่องด้านบนนั้นจะเห็นว่าเป็นส่วนที่กล้องหน้านั้นจะขึ้นมา และ รูไมค์สำหรับตัดเสียงก็อยู่ตรงส่วนนั้นด้วย และการออกแบบนั้นก็จะแตกต่างกับรุ่นก่อนหน้าครับ และมีความบางมากขึ้นและเรียบกว่าเดิมครับ
ขอบเครื่องด้านขวานั้นจะมี ถาดซิมแบบ Hybrid Slot และตัว ปุ่ม Power อยู่ ยังคงมีขีดสีเขียวเข้ามาในส่วนนี้ทำให้มองเห็นได้ชัดแบบเดียวกับรุ่นก่อนหน้าครับ และยัง รองรับการทำงานเรียกเป็น Google Assistant อีกด้วย
ขอบด้านล่างเครื่อง ส่วนนี้จะเป็นที่อยู่ของช่อง Type-C และ รูไมค์ รวมถึง ลำโพงหลักของตัวเครื่องในด้านนี้ เเละ มีรูเสียงหูฟังแบบ 3.5 มม. ยังมีการออกแบบโค้งอะไรมาให้เหมือนเดิมทำให้ขอบดูไม่ได้หนาเกินไปด้วยนั้นเอง
ขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นจะเป็นที่อยู่ของปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง ส่วนการออกแบบฝาหลังจะโค้งลงมารับกับตัวเครื่องได้ดีครับ
ในส่วนของกล้องหลังนั้นยังคงมีเจ้าเม็ดกลมๆ O-Dot ที่จะป้องกันเลนส์กล้องไม่ให้โดนพื้นและปกป้องรอยขีดข่วนให้ครับแต่จะมาอยู่ตำแหน่งด้านล่างแทนแล้ว และจะเห็นไมค์ตัดเสียงอีกตัวครับ ส่วนกล้องหลังให้มามากถึง 4 ตัว ประกอบด้วยเลนส์หลักเซ็นเซอร์ Sony IMX586 48MP (f/1.7) + เลนส์ซูม 13MP (f/2.4) + เลนส์ Wide Angle 116 องศา 8MP + เลนส์ Mono จับความลึก 2MP และ สามารถใช้งาน Optical ซูมได้ 2X / แบบ Hybrid ได้ 5X / ซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุดถึง 20X
ยังคงจุดเด่นของมันคือการออกแบบ ฝาหลังเรียบไปชิ้นเดียวกันกับเลนส์กล้อง ไม่มีส่วนนูน และให้รูปลักษณ์ที่นุ่มนวลมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้กล้องด้านหลังสี่ตัว ได้จัดให้อยู่ตามแนวแกนกลาง เพื่อสร้างความรู้สึกสมมาตรอีกด้วย และยังคงมีเจ้าเม็ดกลมๆ O-Dot ที่จะป้องกันเลนส์กล้องไม่ให้โดนพื้นและปกป้องรอยขีดข่วนให้ครับ และฝาหลังใช้การออกแบบที่สวยงามในส่วนของสีชมพูนั้นจะชุบแบบสูญญากาศแบบ Nano เพื่อเพิ่มพื้นผิวที่สะท้อนแสงครับ ใช้งานกระจก Gorilla Glass 5 ด้วยครับเอาจริงๆก็ยังคงชอบแนวทางการออกแบบและงานประกอบตระกูลนี้มากๆครับ
SPEC
- ระบบ Android 9 + ColorOS 6.1
- หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080) ขนาด 6.5 นิ้ว Gorilla Glass 6 สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93.1%
- CPU Snap dragon 730G + GPU Adreno 618
- RAM 8GB LPDDR 4x
- STORAGE 256GB UFS 2.1 รองรับ MicroSD card 256GB
- กล้องหลัง Sony IMX586 48MP (f/1.7) + 8MP (f/2.4) + 13MP (f/2.2) + 2MP (f/2.4), OIS + EIS, Ultra Dark Mode
- กล้องหน้า Pivot Rising Camera 16MP + Soft Front Light
- BT 5.0, USB-C
- สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ Hidden Finger print 3.0
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh + VOOC Flash Charge 3.0
- ขนาด / น้ำหนัก 160 x 74.3 x 9.5 มม. / 189 กรัม
- สีดำ Luminous Black / สีชมพู Sunset Pink
PERFORMANCE
ในรุ่นนี้ได้ใช้งาน Snap dragon 730G พร้อมกับใช้งาน RAM 8GB และหน่วยความจุแบบ UFS2.1 ในขนาด 256GB ครับ ในเรื่องของความแรงนั้นทำไปได้สมกับตัว CPU ของมันทำคะแนน Antutu ไปได้ 254558 และในส่วนของ DRM ข้อมูลความปลอดภัยทำได้ L1 ตามมาตรฐานครับ และ UFS ทำความเร็วอ่านเขียนไปได้ 477 และ เขียน 205 และในส่วนของคะแนน Geekbench นั้นทำได้คะแนนในส่วนของ Single Core 526 และ 1486
SOFTWARE UI
หน้าตาระบบรุ่นนี้ Colour OS 6 ร่วมกับ Android 9 การใช้งานทั่วไป แต่หน้าหลักๆนั้นยังคงมีมาคล้ายๆเดิมครับการแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอพอะไรปกติครับไอคอนเป็น ทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับหน้าตาโดยรวมยังคงทำได้ดีแบบเดิมครับเรียบขึ้นเรื่อยๆสวยงามเลยแหละคลีนๆดีครับ
เมื่อปัดนิ้วจากด้านบนลงมาจะเจอ แถบเมนูลัด หน้าตาสวยงามและดูสบายตาขึ้น โดยมีทางลัดสำหรับการตั้งค่าที่เราใข้งานการต่างๆเป็นประจำอย่าง เช่น Wi-Fi, ไฟฉาย , Bluetooth, โหมดเครื่องบิน , NFC , ตัดแสงสีฟ้าบนหน้าจอ , ปรับความสว่างหน้าจอ เป็นต้น ส่วนด้านล่างจะแสดงแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันต่างๆ หากปัดนิ้วลงมาอีกครั้งจะเป็นการขยายเมนู และสามารถใช้งานการแบ่งหน้าจอได้หลากหลายแอพที่รองรับครับผม สามารถใช้งานได้เลย ลาก 3 นิ้วขึ้นไปในแอพที่อย่ากจะแบ่งง่ายๆเลยครับ
แป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่ายและเสถียร ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 256 GB นั้นเหลือใช้งานได้ 224 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 2.92 จาก 8 GB ครับ
ส่วนการโคลนแอพ อะไรทั้งหลายก็มีมาให้ครับผม รวมถึงตัว Game Space มาใหม่อันนี้น่าสนใจยังไงไปดูในหัวข้อ Gaming ได้เลย รวมถึงกล้องหน้าในรุ่นนี้สามารถ เปลี่ยนเสียงได้ด้วย และ ยังมีผู้ช่วยอัจฉริยะมาให้ในการปัดมาด้านขวาในจอหลักจะคอยช่วยในการจัดการแจ้งเตือนอะไรต่างๆ หรือ ดูการใช้งานของเราว่าเน้นอะไรยังไงก็จะเสนอมาให้ใช้งานกันเลย อีกทั้งยังมีโหมดช่วยขับรถมาให้จะดูแลการแจ้งเตือน ขณะขับขี่ ในการตั้งค่าเพิ่มเติมครับ
ในตัวปุ่มนำทางก็รองรับทั้งแบบเต็มจอ หรือใช้งานปุ่ม สลับตำแหน่งอะไรกันได้ครับ ส่วน Smart bar แถบหน้าจอด้านข้างก็ รองรับการแชร์ไฟล์ที่เพิ่งเปิดขึ้นได้ เพิ่มเครื่องมือหรือแอปพลิเคชัน บันทึกหน้าจอในรูปแบบวิดีโอ และ จับภาพหน้าจอ นอกจากนี้ Smart bar ยังมีโฟลเดอร์การจัดการให้เพิ่มรายการโปรดเข้าไปเพื่อดูรายการโปรดได้สบาย Gesture นั้นยังมีมาให้ครบทั้งการวาด การใช้งานท่าทางต่างๆครับ
THEME
สำหรับตัวธีมนั้นก็มีมาให้ใช้งานกันครับสำหรับตัว OPPO ซึ่งแน่นอนว่าก็รองรับการเปลี่ยนค่อนข้างเยอะและมีหลากหลายแบบที่น่ารักและเท่ห์ๆครับ การเปลี่ยนแปลงนั้นหลักๆจะเปลี่ยนที่ตัวไอคอน พื้นหลังส่วนใหญ่แต่หน้าตาในแอพพวกหน้าจอการโทรเข้าออก หรือแอพติดเครื่องนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงตามเท่าไรครับ จะเปลี่ยนแค่หน้าจอหลักเท่านั้น
SCREEN
ในรุ่นนี้หน้าจอแบบ Panoramic Screen Sunlight AMOLED ที่ผลิตจากวัสดุ E1 ให้การตอบสนองรวดเร็วและใช้พลังงานต่ำ แล้วทำให้เรื่องของคุณภาพ การสู้แสง ความสด มิติของภาพหลายๆอย่างนั้นดีงามไปหมดครับ ในเรื่องของหน้าจอเลยเป็นจุดที่ดีงามมากๆ หน้าจอให้ขนาดมาที่ 6.5 นิ้วในความละเอียด FHD+ อัตราส่วนหน้าจอเต็มขึ้นมาที่ 93.1% และรองรับการสแกนนิ้วใต้หน้าจอ รวมถึงใช้งานกระจก Gorilla Glass 6 ด้วยถือว่าจัดหนักจัดเต็มกันเลยครับในเรื่องของการสัมผัสเวลาเล่นเกมหรืออะไรพวกนี้นั้นรองรับได้สบายครับความไวความหน่วงนั้นไม่มีเลยซึ่งถือว่าดีสำหรับใครที่เน้นในเรื่องนี้และการออกแบบของมันเต็มตาและขอบบางกว่ารุ่น Reno2 F แบบชัดเจนเลยครับ
การใช้งานหน้าจอแบบนี้ทำให้รองรับการใช้งานกลางแจ้งได้สบายๆและยังมีโหมดความถี่ต่ำทำให้ไม่ปวดตาเวลาหรี่แสงเยอะๆครับและที่ชอบคือการสัมผัสนั้นทำได้ติดนิ้วและไว หน้าจอนั้นก็รองรับมุมมองได้กว้างมากๆเลยนะและการออกแบบเต็มจอไม่มีติ่งทำให้มันสวยงามเต็มตามากขึ้น ส่วนทางด้านฟีเจอร์ถนอมสายตาก็มีมาให้และปรับปรุงได้ดีกว่าเดิมเยอะเลยนั้นเอง และ เด่นๆคือกินพลังงานน้อยด้วย
HIDDEN FINGER PRINT 3.0
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเป็นแบบ Optical G3 แน่นอนว่าทำได้ดีมากๆในเรื่องของความแม่นยำ ความไวของการแสกนนิ้วครับในรุ่นนี้ได้พัฒนาขึ้นมาอีกโดยเร็วกว่าเดิมและความสว่างของตัวสแกนนิ้วทำได้ดีกว่าเดิม ถือว่าน่าสนใจเลย รุ่นนี้คือไวมากจริงๆในเรื่องของความไวและแม่นยำ แสงไฟที่ส่องขึ้นมาเป็นสีขาวสว่างมากๆครับแตกต่างกับบางรุ่นที่จะเป็นสีเขียว ฟ้าพวกนั้น เพราะใช้ฟิลเตอร์แสงในการแยกแยะลายนิ้วมือและผิวหนังได้ดีกว่าแบบเดิมนั้นเอง ต้องบอกว่าพัฒนาขึ้นแบบชัดเจนอีกจุดนึงเมื่อเทียบกับรุ่นแรกครับ
SOUND
ในเรื่องของคุณภาพเสียงในรุ่นนี้ยังคงมีรูหูฟัง 3.5มม.มาให้ครับและในด้านของ Software นั้นจะรองรับระบบเสียง Dolby atmos แน่นอนว่าทำให้เสียงมันแตกต่างกับรุ่นก่อนๆทั้งหมดเรื่องของกำลังขับอาจจะไม่ได้ต่างกันมาก แต่เรื่องของคุณภาพเสียงนั้นแตกต่างกันแบบรู้สึกได้ครับ เสียงที่ได้ลองฟังจากหูฟังประจำนั้นก็บอกได้ว่าเสียงมันปรับแต่งได้เยอะมีกำลังขับที่มากกว่าด้วยการดันเร่งเสียงของ Dolby Atmos ก็ช่วยได้ครับรวมถึงการจำลองเสียงทิศทางก็ช่วยเวลาดูหนังอะไรได้ด้วยนั้นเอง แต่ก็แอบเสียดายที่ไม่ได้รองรับ Hires เข้ามาครับ เพราะอาจจะไม่ได้เน้นมากนัก เสียงนั้นจะนุ่มๆและเบสมีน้ำหนักพอสมควร แต่เรื่องของรายละเอียดเสียงเวทีเสียงอาจจะไม่ได้กว้างมาก
ส่วนหูฟังที่เเถมจะเป็นหูฟังสีขาวรูปทรงนั้นจะเหมือนกับตัวก่อนหน้าครับ และในด้านของโทนเสียงที่ได้ลองฟังก็อยู่ในระดับที่ฟังสบายเสียงที่ได้จากตัวเครื่องนั้นออกมามีเบสมาดีมาก เสียงย่านต่ำมาแบบนุ่มๆ และ เสียงมิติทำได้ค่อนข้างดี เวทีเสียงนั้นอาจจะไม่ได้กว้างมาก เสียงจะออกนุ่มๆฟังสบายๆเเละโทนเสียงไม่แหลมจนเกินไปครับ แต่ที่ชอบคือทรงแบบนี้มันใส่สบายและเหมาะสำหรับฟังเพลงนานๆหรือคุยโทรศัพท์อะไรพวกนี้ครับ ตัวหูฟังมีไมค์และปุ่มควบคุมมาให้ด้วย แต่ด้วยสีขาวอาจจะต้องรักษากันนิดหน่อยครับเป็นปกติเวลาใช้งาน
OPPO Enco Q1
ในตัวหูฟังถ้าใครไม่ชอบแบบที่มากับเครื่องแน่นอนว่าทาง OPPO ก็ได้เปิดตัว Enqo Q1 หูฟัง Bluetooth ที่มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบไร้สายได้ด้วยครับ และรองรับการใช้งานที่สะดวกและสามารถใช้งานได้ดีมากๆในเรื่องของคุณภาพเสียงนะ และในเรื่องของอายุแบตมันใช้งานได้ 15 ชั่วโมงในการเปิดตัดเสียงรบกวนด้วยถือว่าอึดมากจริงๆ และถ้าปิดนั้นจะใช้งานได้ 22 ชั่วโมง และมี ชารจ์ไวด้วยครับ 10 นาทีใช้งานได้ 2 ชั่วโมงเลย และ ระบบเสียงรองรับแบบ 3D ที่จะรองรับในการฟังเพลง เล่นเกม หรือ ดูหนังนั้นสมจริงมากขึ้นครับ และ ตัวไดรเวอร์ของมันใหญ่พอสมควรที่ 11.8มม. เสียงจากที่ลองนั้นมันทำได้ดีมากนะ จริงๆแบรนด์นี้ทำเรื่องเสียงเทพๆมาเยอะมากแต่ไปในส่วนเครื่องเสียงพวก High End เลยทั้งพวก Blue ray ต่างๆเค้าโหดมากและได้ร่วมพัฒนาหูฟังตัวนี้ด้วยครับถือว่าสมควรเลยว่าทำไมเสียงมันดีจริงๆนะฟังเสียงนุ่มลึกดีมาก เสียงเบสมาดีกระชับและลงลึกไม่บวม และเด่นๆคือรายละเอียดเสียงทำได้ดีและไม่แหลมจัดเกินไปครับ จริงๆถ้าใครเน้นเสียงซื้อตัวนี้มาค่อนข้างจบเลยครับสบายๆคุณภาพมาดีเลย
SPEAKER
เรื่องของเสียงลำโพงในรุ่นนี้ใช้งานลำโพงเเค่ตัวเดียว หลังจากที่ได้ฟังมีเสียงที่ค่อนข้างดังอยู่ในระดับนึงความดังถือว่าใชได้เลยครับเสียงไม่ได้แตกต่างกับตัว Reno2 F มากนักแต่ถ้าเอามาเทียบกันตรงๆนั้นจะได้ยินมิติที่มากกว่าตัว F และเสียงจะนุ่มกว่านิดหน่อยครับ ส่วนลำโพงเวลาเล่นเกม มิติเสียงเรื่องของรายละเอียด ทำได้ดีพอสมควรครับ เเต่ในรุ่นนี้ข้อดีคือลำโพงค่อนข้างดัง จึงสามารถทำให้ได้ยินเสียงภายในเกมอย่างชัดจน เอาเป็นว่าเรื่องเสียงโดยรวมถือว่าดีในเเบบของสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับลำโพงตัวเดียวครับดังแบบไม่แหลมบาดหูเกินไป และมิติดีกว่าตัว F แบบรู้สึกได้
GPS
การนำทางของรุ่นนี้หลังจากที่แอดมินได้ทำการทดสอบนำทางจริงๆ และ ใช้แอพทดสอบ ผลที่ออกมาถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว มีความเเม่นยำพอสมควร สามารถใช้นำทางได้ ส่วนในการใช้แอพทดสอบนั้นก็จับได้ทั้งหมด 29 ดวง จากที่เจอ 35 ดวง ทั้งบนรถ และ ทางเดินเท้าปกติ กลางแจ้งนะครับ และ ในที่ร่มนั้นทำได้ 22 ดวง จาก 37 ดวงนะครับ ถือว่าทำได้ดีและที่ชอบคือมันนิ่งและอัปเดตไวพอสมควรและรุ่นนี้ใช้ Snap dragon 730G ด้วยครับทำให้เรื่องการจับการนำทางนั้นจะค่อนข้างไว้ใจได้เลยไม่ต้องกังวลอะไรมากมายครับ
BATTERY
เรื่องของเเบตเตอรี่ในรุ่นนี้จะมีเเบตเตอรี่มาให้ 4,000 mAh และยังรองรับชาร์จไวอย่าง VOOC Flash Charge 3.0 หลังจากที่ได้ทดสอบชาร์จไฟตั้งเเต่ 5% จนถึง 48 % ใช้เวลา 30 นาที ถือว่าชาร์จเเบตได้ไวมากๆ เลยทีเดียวครับ ชาร์จเต็มร้อยใช้เวลาทั้งหมด 1 ชั่วโมง 25 นาทีเท่านั้น เรื่องของการใช้งานเเบตเตอรี่ แอดมินลองนำมาออกมาใช้งาน โดยการใช้ในเรื่องของการถ่ายภาพบ้าง เปิดเว็ปไซต์ต่างๆบ้าง ดู Facebook หรือ Youtube ออกจากบ้านไปงานเปิดตัวประมาณ 10 โมงเช้า เเบต 100% กลับถึงบ้านประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ เเบตเหลือประมาณ 26 กว่า % โดยรวมถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวครับ หน้าจอเปิดประมาณ 4 ชั่วโมง และ ใช้งานทั้งหมด 12 ชั่วโมงครับ แต่รู้สึกว่าจะหมดไวกว่าตัว F นิดหน่อยครับจากที่ลองใช้งานหลายๆวันในรุ่นนี้ อาจจะเพราะได้ CPU แรงกว่าด้วยนั้นเอง
GAMING
เรื่องของการเล่นเกมในรุ่นนี้ด้วยชิปเซ็ต SNAP 730G หลังจากที่ได้ทดสอบเล่นเกม รุ่นนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว สามารถเล่นเกมได้ลื่นไหล เรื่องของการทัชก็ทำได้ติดมือมากๆ ทัชได้เเม่นยำ เเต่สำหรับใครที่เล่นเกม PUBG รุ่นนี้ ต้องบอกเลยว่าน่าเสียดายมากๆ เพราะในเเพทล่าสุดเปิดภาพได้เพียงเเค่ HD เท่านั้นส่วน FPS ได้เพียงเเค่ระดับสูง ทดสอบเล่นเกมต่อเนื่อง 30 นาทีอุณภูมิสูงสุดเพียง 42 องศาเท่านั้น สำหรับการเล่นเกมในห้องปกติ ส่วนเเบตอาจจะค่อนข้างกินเยอะไปหน่อยเพราะเท่าที่ทดสอบ 30 นาที กินเเบตไป 12%
CAMERA
กล้องให้มาใช้งาน 4 ตัวแต่ที่พิเศษคือเลนส์หลักใช้งาน IMX586 48MP f/1.7+ และกล้องมุมกว้าง 119 องศา 8MP (f/2.2) + Tele Lens 13MP (f/2.4) + Mono Lens 2MP (f/2.4), Ultra Night Mode 2.0 มาให้ครบเลย และยังมีพวก AI Beauty Mode การวิเคราะห์และปรับโทนสีผิวสามารถรองรับได้ถึง4 คนในภาพถ่ายเดียว HDR Mode / Portrait Bokeh เพิ่มลูกเล่นลงในภาพถ่ายด้วย Portrait Bokeh มีให้ทั้งกล้องหน้าและหลังคุณสามารถปรับระดับ ความเบลอ ก่อนถ่ายภาพได้แล้วครับ และ เลนส์มุมกว้าง 116 องศา + Ultra Steady Video นั้นสามารถถ่ายวีดีโอได้ดีมากๆเลย รวมถึงภาพนิ่งโหมดกลางคืนก็รองรับเช่นกันครับ หลังจากที่ลองนั้นต้องบอกว่าเรื่องของคุณภาพกล้องถือว่าทำออกมาได้ดีกว่าที่คิด และคุณภาพนั้นทำได้ดีกว่ารุ่นน้องของมันแบบรู้สึกได้ครับ และ เทเลนั้นทำได้ดีสามารถซูมได้เยอะมากที่ 20X และแบบไม่เสียรายละเอียดที่ 5X นั้นเองที่ขอชมอย่างมากคือโหมด Portrait นั้นทำออกมาได้เนียนสวยและโทนสีผิวใสสวยมากๆแม้จะแสงน้อยหรือครึ้มๆก็ยังทำออกมาได้ดีตัดขอบสวยและไม่ได้หลอกตาเกินไปครับถือว่าสวยจริงๆ และการใส่ Ultra Dark Mode เข้ามาทำให้ถ่ายกลางคืนแบบมืดมากๆได้สว่างพอสมควรเลย
PORTRAIT
ในการถ่าย Portrait นั้นในรุ่นนี้สามารถปรับแต่งได้แบบ Real time เลยนั้นเองครับและปรับระดับความเบลอตอนถ่ายได้แล้วโดยการกดมุมซ้ายบน อีกทั้งยังมี Filter แต่งภาพโทนสีให้เลือกด้วยเช่นกันจากที่ลองต้องบอกว่าโหมดนี้มันค่อนข้างเด่นมากๆทั้งคุณภาพและฟีเจอร์ของมันตัดขอบได้ดีเนียนและคมครับ อีกทั้งระยะการเบลอก็สามารถทำได้เนียนตามใจเราเลยว่าอยากเบลอเยอะ หรือน้อยแต่ถ้าทั่วไปนั้นจะปรับไว้ที่ 60% ครับและการจับโฟกัสหน้าคนอะไรต่างๆนั้นทำได้ดีจริงๆต้องบอกเลยว่าเป็นจุดเด่นหลักๆของรุ่นนี้ในการถ่าย Portrait เลยก็ว่าได้ครับ และ ในตัว Reno 2 นั้นจะพิเศษตรงที่สามารถใช้โหมดนี้ในการถ่ายวีดีโอได้ด้วยจะเป็นยังไงรอชมได้ในส่วนของการถ่ายวีดีโอได้เลย
ULTRA DARK MODE ให้การถ่ายภาพง่ายขึ้นในสภาพแสงน้อยเนื่องจากสามารถรับรายละเอียดที่มองไม่ เห็นด้วยตาเปล่าด้วย NPU 5lux นั้น AI ของกล้องจะเพิ่มความสว่างให้เยอะมากและไม่ต้องถือนานด้วยครับถือว่าเป็นโหมดที่ค่อนข้างช่วยได้เยอะในที่แสงน้อยมากๆครับแต่ยังจัดการ Noise ให้อยู่ในระดับที่พอรับได้เลยแหละเทียบกับสภาพแสงจริงๆ เพราะของจริงมันมืดมากจริงๆครับ และไม่ได้เห็นเยอะแบบในภาพด้วยนะถือว่าใช้ได้เลยแหละครับ
SELFIES
ในการถ่ายกล้องหน้านั้นค่ายนี้ต้องบอกเลยว่าเน้นเรื่องนี้เป็นหลักครับและทำได้สวยด้วยนะสาวๆชอบกันทุกคนกล้องหน้าในรุ่นนี้มาพร้อมกับ ความละเอียด 16MP เป็นกล้องหน้าแบบ Pivot Rising Camera และในรุ่นนี้จะมีไฟ Soft Front Light มาให้ด้วยครับ ส่วนตัวกล้องนั้นเองมาพร้อมกับ AI Beauty และ Portrait โหมดละลายหลังได้สวยงามครับ และ ปรับระดับโบเก้ได้แบบกล้องหลังทั้งหมดเลยถือว่าทำได้ดีมากจริงๆ ในการถ่ายทั้งหน้าและหลัง โดยตัวกล้องนั้น สามารถเลื่อนขึ้นใน 0.8 วินาที เลื่อนขึ้นได้ถึง 200,000 ครั้งเลยทีเดียวครับ และที่สำคัญกล้องหน้านั้นสามารถถ่ายละลายหลังแบบวีดีโอได้ด้วยเป็นฟีเจอร์ที่มีแค่รุ่นนี้เท่านั้นนะครับ ในรุ่น F นั้นจะไม่ได้ฟีเจอร์นี้นะครับ
VIDEO
ในด้านการถ่ายวีดีโอในรุ่นนี้รองรับการถ่ายสูงสุดที่ 4K 30FPS เท่านั้นและรองรับการถ่ายวีดีโอแบบมุมกว้าง FHD 30FPS รวมถึงมีระบบกันสั่น OIS+EIS รวมถึง มีโหมดการถ่ายเข้ามาช่วยเยอะมากทั้ง ไมค์ 3 ตัวคอยตัดเสียง รวมถึงซูมเสียง Audio Zoom และ ยังรองรับบันทึกแบบ 360 องศาด้วยเช่นกันครับ และ มีโหมด Ultra Steady Video / Bokeh Effect Video ให้ใช้งานในกล้องหน้าและหลังด้วยครับ และ กล้องหน้าชอบที่โทนสีผิวนั้นทำได้สวยและมี Beauty Mode ครับ รวมถึงมีไฟแฟลชมาให้ด้วยนะ ถือว่าเรื่องวีดีโอจัดเต็มนำหน้าค่ายอื่นๆไปมากพอสมควรเลยครับ
BOKEH EFFECT VIDEO นาที่ที่ 3.29
ก่อนการถ่ายวิดีโอสามารถปรับพื้นหลังให้เป็นแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ โดยสามารถตั้งก่อนและเห็นก่อน
ถ่ายได้ ซึ่งเอฟเฟ็กต์นี้รองรับทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และรองรับการเบลอพื้นหลังเฉพาะคน 1 คนเท่านั้น
สามารถเน้นวัตถุหลัก สร้างความลึกให้ชัดมากขึ้น เมื่อถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ต่างๆครับถือว่าเป็นโหมดที่ทำได้ดีมากๆ
ULTRA STEADY VIDEO นาทีที่ 0.13
และระบบลดการสั่นไหวนั้นในรุ่นนี้ใส่เข้ามาเป็นรุ่นแรกของทางค่ายเลยครับ ทำให้เวลาเดินถ่าย วิ่ง การวิ่งจ๊อกกิ้ง สกี ขี่จักรยาน มันทำให้ภาพมันนิ่งมากกก เหมือนใช้ไม้กันสั่นเลยครับ ทำงานด้วย ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอิเล็กทรอนิกส์ (EIS)และ ระบบป้องกันผ่านสั่นไหวแบบออพติคอล (OIS) และที่ค่อนข้างชอบคือมันทำงานใน FullHD 60FPS เลยทำให้มันลื่นไหลและนิ่งไปในตัวถือว่าเจ๋งครับเพราะหลายๆตัวนั้นถ้าถ่าย 60FPS จะสั่นไหวมากๆเลยแหละครับ
AUDIO ZOOM นาทีที่ 1.50
ฟังก์ชั่น Audio Zoom สามารถเพิ่มเสียงของวัตถุ เมื่อซูมเข้าได้ เพื่อสามารถสร้างวิดีโอที่มีประสิทธิภาพ
มากขึ้น โดยฟังก์ชั่นนี้มีประโยชน์ โดยเฉพาะเมื่อถ่ายวิดีโอในขณะลมแรงหรือถนนที่มีผู้คนจำนวนมากได้ หรือจะเป็นการซูมเสียงที่อยู่ไกลๆบนเวทีหรือจะเป็นลำโพงที่อยู่ไกลๆอีกทั้งยังรองรับเสียงที่ชัดเจนขึ้นตัดเสียงรอบข้างๆไปได้ชัดมากๆครับ และแอบซูมเสียงคนพูดกันไกลได้ด้วย หรือจะใช้ในการซูมเสียงเวลาดูคอนเสิร์ตได้ด้วยนั้นเองครับ
OPPO RENO 2
“เป็นรุ่นที่ลงตัวทั้ง การถ่ายวีดีโอ และ ภาพนิ่งพร้อมระยะครอบคลุมครบ อีกทั้งยังมาพร้อมดีไซน์ที่สวย “
เอาจริงๆตอนแรกก่อนที่จะได้ลองนั้นไม่คิดว่ามันจะมีกล้องอะไรให้เล่นเยอะมากแต่หลังจากที่ได้ลองนั้นมันทำได้ดีจริงๆทั้งเรื่องของการถ่ายภาพนิ่งที่คลุมทุกระยะ มุมกว่าง เทเล ซูมเยอะๆ หรือจะเป็น มาโครแบบใกล้สุดๆ และ ยังมาพร้อมฟีเจอร์การถ่ายที่หลากหลายทั้ง โหมดกลางคืน โหมดโคตรมืด และ ยังมีการถ่าย Portrait ที่เสริมเข้ามาทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ และ ในด้านวีดีโอก็ยังจัดเต็มทั้งรองรับการถุ่าย 4K 30fps และมี รองรับมุมกว้างใน FHD อีกทั้งเด่นๆเลยคือ การใช้ไมค์ 3 ตัวตัดเสียง และ ซูมเสียง รวมถึงบันทึกเสียง360 องศา และยังมีฟีเจอร์กันสั่นเทพมาอีกด้วยครับต้องบอกว่ามันจัดเต็มครบๆทั้ง ภาพนิ่งและวีดีโอเลยจริงๆนะรุ่นนี้ ส่วนด้านการใช้งานทั่วไปรองรับได้สบายๆครับและตัวคุณภาพงานประกอบวัสดุนั้นทำได้ดีเช่นกันรวมถึงหน้าจอแบบเต็มจอ ไร้ติ่งหน้าจอด้วยในรุ่นนี้ครับ ถือว่าค่อนข้างลงตัวและครบมากๆ ขาดแค่พวกลำโพงนั้นมีมาแค่ตัวเดียว และ กล้องหน้ายังไม่รองรับ 4K เท่านั้นครับ
ข้อดี
- การออกแบบดีไซน์ สวยงาม และ พรีเมี่ยม
- ใช้งานหน้าจอ AMOLED ที่มีคุณภาพ และ สัมผัสที่ไว ขอบบางกว่าเดิม
- วัสดุใช้งาน Gorilla Glass 5 ในด้านหลัง และ Gorilla Glass 6 ในด้านหน้า
- กล้องหลังมาพร้อม 48MP และ มี 4 เลนส์ รองรับมุมกว้าง
- รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Ultra Steady วิ่งถ่ายได้นิ่งๆ
- รองรับการถ่าย Bokeh ในแบบวีดีโอทำได้ดีมากๆ ทั้งหน้าและหลัง
- Ultra dark Mode ทำได้ดี
- ฟีเจอร์การถ่ายวีดีโอ ให้มาค่อนข้างเยอะ ทั้งซูมเสียง เสียงแบบ 360 องศา
- กล้องหน้าทำได้ดี โทนสีสวย และ คมชัด
- Portrait คือจุดเด่นในรุ่นนี้ทำได้ดีมากๆทั้งแบบภาพนิ่งและวีดีโอ
- ชาร์จเข้าที่ไวมากๆจาก VOOC 3.0
- ยังคงมีรู 3.5 มม.
ข้อสังเกต
- ยังไม่รองรับการถ่าย 4K ในกล้องหน้า
- ลำโพงยังเป็นลำโพงเดี่ยว
- แบตไม่ได้อึดมากนัก
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr
*รูปถ่ายจากกล้องมือถือทุกรูป ไม่มีการปรับแต่ง และ สามารถกดดูไฟล์เต็มแบบต้นฉบับได้นะครับ