realme ประเทศไทยยังคงเดินหน้าเปิดตัวสมาร์ตโฟนกันอย่างต่อเนื่องและล่าสุดตอนนี้ทางตระกูล C Series ก็ถึงเวลาออกตัวใหม่แล้ว ในครั้งนี้เราได้มาอยู่กับเจ้าตัว realme C25Y น้องเล็กรุ่นใหม่จากทาง realme มาพร้อมกับราคาที่จับต้องได้ และยังคงจุดเด่นแบตแน่นๆเยอะๆ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 18W ด้วยส่วนทางด้านสเปกใช้งาน Unisoc T618 กล้องหลัง 3 ตัว 50MP นอกจากนี้ realme C25Y ไม่เพียงแต่รองรับการปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือที่รวดเร็วเป็นพิเศษ แต่ยังรองรับการจดจำใบหน้าด้วย ซึ่งสามารถปลดล็อกได้ง่ายๆ เพียงคลิกเดียวหรือเหลือบมอง ช่วยให้สะดวกในการปลดล็อก และเพิ่มความปลอดภัยให้กับความเป็นส่วนตัวของคุณในเวลาเดียวกัน และฝาหลังที่ออกแบบลวดลายในการไล่เฉดสีได้อย่างสวยงาม ก็ถือว่าทำราคาและสเปกออกมาตอบโจทย์สาวกได้ดี

realme C25Y มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว หน้าจอสัมผัสแบบ capacitive IPS LCD ความละเอียด 720 x 1600 พิกเซล มีความสว่างสูงสุด 420 นิต ใช้พลังงานจากโปรเซสเซอร์ Unisoc T618 Octa-core ขนาด 12nm และ GPU Mali-G52 ความถี่สูงสุด 850MHz หน่วยความจำสูงสุด 128 GB และ RAM 4 ใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Android 11 + Realme UI R มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว 18W รองรับ 2 ซิมการ์ด และมีช่อง microSD Card แยกให้ นอกจากนี้ยังรองรับการขยายหน่วยความจำได้สูงสุด 256GB ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บเกม รูปภาพ และไฟล์ ต่างๆมากยิ่งขึ้น พร้อมกล้องหลัง AI 3 เลนส์ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล + Macro Lens ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และ B&W Lens หรือเลนส์ขาว/ดำ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถือว่าสเปกภาพรวมเน้นไปที่กล้องหลังและการปรับมาใช้งาน Unisoc ถือว่าน่าสนใจว่าเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานและกล้องจะเป็นยังไงกันบ้างนั้นเอง

PRICE  

  •  2 สี  ได้แก่ สีฟ้า Glacier Blue และ สีดำเทา Metal Grey โดยมีราคาอยู่ที่ 5,999 บาท 

UNBOX

ตัวกล่องในตระกูล C ยังคงสีเหลืองเด่นของแบรนด์ไว้พร้อมกับชื่อรุ่นชัดเจนเหมือนเดิม และอุปกรณ์ในตัวกล่องนั้นให้มาครบ ไม่ได้ตัดออกไปนะ รวมถึง Adaptor 18W พร้อมคู่มือการใช้งาน แต่จะไม่มีเคสมาให้ใช้งานแล้วในรุ่นนี้

  • ตัวเครื่อง realme C25Y
  • สาย Micro-USB
  • Adaptor 18W
  • คู่มือการใช้งาน

DESIGN 

นับเป็นครั้งแรกที่ได้ออกแบบจากแนวคิดความงามของเส้น โดยพื้นผิวของฝาหลังจะประณีตด้วยความงามจากการเรียงตัวของเส้นตรง ตัวเครื่องมาในดีไซน์ฝาหลังไล่เฉดสีเข้ม-อ่อน และหน้าจอรอยบากทรงหยดน้ำ realme C25Y ยังคงใช้ดีไซน์แบบมินิดรอปแบบคลาสสิกของ realme โดยมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 88.7% ตัวเครื่องมีขนาด 164.5 x 76 x 9.1 มม. และน้ำหนัก 200 กรัม และ มีการไล่สีฝาหลังเสริมเข้ามาทำให้มันแตกต่างมากขึ้น

มาพร้อมหน้าจอ LCD Large Display มีวัสดุเป็นกระจกแข็ง ขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว จอแบบโค้งมนดูสวยงามลงตัวรองรับระบบสัมผัสหลายตำแหน่งแบบ Multi-Touch อัตราส่วนของพื้นที่หน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 88.7% เพราะขอบหน้าจอที่เล็กจึงทำให้มีพื้นที่แสดงผลเยอะ ปรับค่าความสว่างได้ถึง 420 nit คมชัดระดับ HD+ มีติ่งหยดน้ำด้านบนสำหรับกล้องหน้า สามารถสู้แสงได้ระดับนึงและงานออกแบบต่างๆนั้นทำได้ดีคล้ายกับรุ่นก่อนๆทั้งหมด

ในส่วนขอบล่างหน้าจอนั้นปุ่มควบคุมนั้นจะอยู่ในหน้าจอ สามารถใช้งานเต็มหน้าจอได้แบบไม่มีปุ่ม ส่วนขอบข้างๆนั้นก็ถือทำได้บางกำลังพอดีค่ะ

ด้านหน้ามีดีไซน์รอยแหว่งแบบทรงหยดน้ำ ในนั้นมีกล้องหน้าความละเอียด 8MP ฝั่งไว้อยู่ รวมถึงขอบลำโพงอยู่เหนือกล้องหน้าดีไซน์ไม่ได้หนีจากเดิมเท่าไรนัก หน้าจอขอบหน้าจอต่างๆนั้นให้อารมณ์แบบเดิมเลยแหละ

ในด้านล่างของตัวเครื่องนั้นเราจะเห็นว่ามาพร้อมกับขอบข้างๆโค้งลงนิดหน่อยพร้อมกับ Micro-USB ซึ่งแอบเสียดายว่ายุคนี้เรายังคงเห็นพอร์ตแบบนี้อยู่ แต่ก็มีตัวไมค์ และช่องเสียบหูฟัง ขนาด 3.5 มม. เสริมเข้ามาให้ในด้านล่างนะ

ในขอบเครื่องด้านข้างขวานั้นจะเป็นที่อยู่ของปุ่ม Power กับ เพิ่ม-ลด เสียง จะเห็นว่าตัวกล้องนั้นมีการนูนขึ้นมาเล็กน้อยและตัวเครื่องก็ทำได้บางเช่นกัน ส่วนสีขอบเครื่องนั้นจะเป็นสีเดียวกัน และงานออกแบบตามขอบไล่สีเช่นเดิม

ในส่วนของด้านบนนั้นไม่มีรูไมค์ตัดเสียงมาให้ ไม่มีลวดลาย ส่วนวัสดุขอบเครื่องทั้งหมดจะเป็นพลาสติกด้าน แต่ฝาหลังนั้นจะยังโค้งมารับมือเหมือนกับรุ่น C25 ก่อนหน้าจับได้ถนัดมือมากขึ้นค่ะ

ในส่วนของด้านซ้ายนั้นจะเห็นว่ามีช่องใส่ถาดซิม เป็นแบบ Triple Slot ฝาหลังนั้นจะโค้งลงมาตรงขอบข้างๆเล็กน้อย จับถือได้ง่ายและเข้ากับมือได้มากกว่า วัสดุโทนสีเดียวกันฝาหลังทั้งหมดพลาสติกเล่นสีเช่นเดียวกันในส่วนขอบเครื่อง

ในส่วนของด้านหลังนั้นมาพร้อมดีไซน์ไล่เฉดสีอย่างสวยงาม โดยพื้นผิวของฝาหลังจะประณีตด้วยความงามจากการเรียงตัวของเส้นตรง พร้อมมีที่สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และวางกล้องหลังแบบสี่เหลียมพร้อมขอบรอบตัวกล้องซึ่งแน่นอนว่าเป็นวัสดุพลาสติกทั้งหมดแบบเดียวกับรุ่นเล็กก่อนหน้าแต่มีการไล่สีเข้ามาให้ดูแตกต่างกับรุ่นก่อนๆถือว่าดีส่วนลำโพงเองนั้นยังคงใส่เข้ามาให้ในฝาหลังเช่นเดิมยังไม่ได้ย้ายไปไว้ตามขอบเครื่องเลยจุดนี้แอบดูน่าเสียดาย

กล้องหลังให้มาทั้งหมด 3 ตัวแน่นอนว่าเป็นครั้งแรกที่ใส่ 50 ล้านพิกเซลเข้ามาให้ในตระกูล C ที่ราคาไม่แรงมากนักและมาพร้อมกับโหมดการถ่ายที่หลากหลายเช่นเดิม สเปกกล้องมาะพร้อมกับ 50MP (f/1.8), กล้องขาว-ดำ B&W ความละเอียด 2MP (f/2.4) และกล้อง Macro 2MP ถือว่าน่าเสียดายไม่มีมุมกว้างมาให้ในรุ่นเล็กสุดของค่ายแบบนี้

SPEC

  • หน้าจอ 6.5 นิ้ว (1600×720พิกเซล) HD+, 65% NTSC colour gamut
  • ชิปประมวลผล UNISOC T618 12 นาโนเมตร
  • ที่ใช้การ์ดจอ Mali-G52
  • RAM LPDDR4X 4GB + ความจำภายใน (eMMC 5.1)  128GB,
  • ใส่ microSD เพิ่มความจำได้
  • ซิมคู่ (nano + nano + microSD)
  • Android 11 ที่ครอบด้วย realme UI R
  • กล้องหลัง 50MP (f/1.8) + กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) + กล้อง B&W 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า 8MP (f/2.0)
  • ปุ่มสแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง
  • ขนาดตัวเครื่อง: 164.5×76×9.1มม.; น้ำหนัก: 200 กรัม
  • ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm
  • รองรับเครือข่าย Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 b/g/n,
  • Bluetooth 5, GPS/AGPS/ GLONASS/ Beidou
  • micro USB
  • แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W และ รองรับ reverse charging

PERFORMANCE 

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากชิปเซ็ต Unisoc T618 ขนาด 12 นาโนเมตร ความเร็ว 1.8GHz พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก ARM Mali-G52 ความถี่สูงสุด 850MHz rihv, ซีพียู Arm Cortex-A75 สัญญาณนาฬิกา 2.0GHz จำนวน 2 ตัว, Arm Cortex-A55 สัญญาณนาฬิกา 2.0GHz จำนวน 6 ตัว Octa Cores 64-bit โดยมี RAM 4GB (LPDDR4X) และหน่วยความจำ 128GB นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบการ์ด 3 ใบ รองรับ 2 นาโนซิมการ์ดและ 1 MicroSD และที่สำคัญยังรองรับการขยายหน่วยความจำได้สูงสุด 256GB ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บเกม รูปภาพ และไฟล์ ต่างๆมากยิ่งขึ้น รวมทั้งรองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 b/g/n, hotspot, Bluetooth 5.0,A2DP, LE, ช่องหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต microUSB 2.0  ทำให้เรื่องของคะแนนนั้นทำไปได้180053 คะแนน และ Geekbench 387 / 1449 คะแนน ส่วนหน่วยความจุ eMMC 5.1 อ่านเขียน 260 / 171 MB/s และ ส่วน NETFLIX นั้นแน่นอนว่าตามระดับเรทราคาทำได้ L3 ต่ำสุดเป็นปกตินะ

SYSTEM UI : REALME UI R 

การปรับมาใช้งาน realme UI R อันนี้แอบน่าสนใจเพราะว่าเราจะไม่คุ้นเลยในเรื่องของหน้าตาหรือแม้แต่แอปที่ให้มาเพราะว่าครั้งนี้เราจะไม่เห็นแอปของ realme ใส่เข้ามาให้เลยแม้แต่น้อย ทั้ง Album หรีอแอปอื่นๆบอกเลยว่าถ้าไม่บอกว่าเป็น realme เราก็จะไม่รู้เลยว่าใช้งานค่ายไหนอยู่ แทบจะเป็น Pure Android แล้วนั้นเองและมาพร้อม Android 11 และ ความลื่นไหล การแจ้งเตือนแน่นอนว่ารู้สึกเลยว่าลื่นกว่าระบบปกติเพราะมันคลีนและเบามากๆ

หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมดเป็นวงกลม และ คลีนขึ้นกว่า realme UI 2 ไปอีก การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปฟันเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็ม รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้

ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีค่ะใช้ง่าย ดีงามเลยแหละ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 128GB นั้นเหลือใช้งานได้ 110 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 2GB  จาก 4 GB ปกติ ซึ่งเราจะเห็นว่าหน้าตาทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนๆทั้งหมดไปเหมือนกับ Google Pixel พวกนั้นเลย

realme UI R ชัดเจนว่าเป็นรุ่นสำหรับตัวเล็กๆเน้นใช้งานทั่วไปลื่นๆ มาพร้อมกับฟีเจอร์นิดหน่อย การยกเครื่องหน้าจอติดต่างๆหรือแม้แต่ Smartmotion ซึ่งจะแตกต่างกับรุ่นก่อนๆทั้งหมด และ เป็นแค่ฟีเจอร์พื้นฐานของ Google

SCREEN 

realme C25Y มาพร้อมหน้าจอแสดงผล LCD ขนาดใหญ่ 6.5 ความคมชัดระดับ HD+  ให้มุมมองที่กว้างขึ้น โดยแสดงข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมทั้งมอบประสบการณ์เกม เสียง และวิดีโอที่ยอดเยี่ยม มีความละเอียด 1600×720 พิกเซล และปรับความสว่างได้สูงสุด 420nits อัตราการรีเฟรช 60 Hz รองรับโหมดถนอมสายตา ปรับระดับแสงหน้าจอ และ Dark Mode  ความสว่างในมุมมองเอียงๆนั้นไม่เท่ากับมองตรงๆเท่าไร แน่นอนว่าดีกว่าจอหลายๆรุ่นของคู่แข่งในระดับเดียวกันอยู่นะ และในรุ่นนี้ได้หน้าจอที่ใหญ่ 6.5 นิ้ว เต็มตาสะใจดีค่ะ ซึ่งหน้าจอไม่ได้หนีจากรุ่น C21 C25 นัก

แต่ในเรื่องของมุมมองหลายๆด้านกันบ้างด้วยการที่เป็นจอ LCD มุมมองบางครั้งอาจจะไม่ได้โหดมาก ถ้าเจอฉากสีดำเยอะๆ และเอียงมองจะออกไปทางสีเทาๆซะมากกว่ากว่าไม่ได้ดำสนิท ส่วนเรื่องความดรอปลงในมุมมองอื่นๆนั้นก็เจอบ้าง ถ้าเป็นโทนสีเข้มจะดรอปลงพอสมควร และความสว่างในมุมมองเอียงๆนั้นไม่เท่ากับมองตรงๆเท่าไร ซึ่งเมื่อเทียบกับเรทราคานี้อาจจะเป็นเรื่องปกติซึ่งแน่นอนว่าดีกว่าจอหลายๆรุ่นของคู่แข่งในระดับเดียวกันอยู่นะ พอใช้งานได้อยู่

FINGERPRINT

การสแกนนิ้วให้มาในด้านหลัง รองรับการใช้งานทำงานได้ไวระดับนึงเป็นปกติ ตำแหน่งใช้งานได้ง่ายและเป็นตำแหน่งพื้นฐานเวลาจับเครื่อง ในตระกูล C ยังคงใช้งานสแกนนิ้วแบบนี้เป็นหลัก และ realme C25Y ยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง ไม่เพียงแต่รองรับการปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือที่รวดเร็วเป็นพิเศษแล้ว แต่ยังรองรับการจดจำใบหน้าด้วย ซึ่งสามารถปลดล็อกได้ง่ายๆ เพียงคลิกเดียวหรือเหลือบมอง ช่วยให้สะดวกในการปลดล็อก และเพิ่มความปลอดภัยให้กับความเป็นส่วนตัวของเราได้ในเวลาเดียวกัน

SOUND 

เสียงนั้นก็เป็นปกติที่ไม่ได้เน้นมากนักเสียงที่ได้ออกมาแอบคล้ายตัวเดิม ไม่ได้เจอจุดแตกต่างอะไรกันมาก เสียงยังคงออกไปทางโทนแหลมสูง ส่วนใน เรื่องของมิติ เวที เสียงมากลางๆ คล้ายๆกับของแบรนด์ realme ในรุ่นก่อนหน้ามากเหมือนเดิม แต่ที่น่าแปลกใจว่าตัวนี้ไม่มีการปรับEQ อะไรแล้ว ถือว่าแตกต่างกับรุ่นอื่นๆ และถ้ามองเทียบเรื่องเสียงกันตรงๆในเรทราคานี้ก็ไม่ได้หนีกันมากนักในแต่ละค่าย พอใช้งานได้เสียงขับกลางๆ ไม่ได้มีตัวไหนเด่นกว่ามากนักและตัวนี้ก็ทำได้พอๆกับรุ่นก่อนเลยนะ แค่เรื่องหน้าตา realme UI R นั้นตัดฟีเจอร์อะไรออกไปค่อนข้างเยอะ

BATTERY 

realme C25Y มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว 18W สามารถประหยัดเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ไปได้เลย และสามารถเพลิดเพลินกับการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการทดสอบของ realme Lab พบว่า realme C25Y สามารถใช้งานได้นาน 48 วันในโหมดสแตนด์บาย ซึ่งนับว่าเหนือกว่ารุ่นเรือธงบางรุ่นอีกด้วย ที่สำคัญ realme C25Y ใช้วิธีการชาร์จแบบ 9V/2A ผ่านตัวรับการชาร์จที่ให้มา ด้วยการชาร์จแบบย้อนกลับแบบพิเศษของ OTG ซึ่งขอบ่นในตัว Micro-USB ที่ใส่เข้ามา แต่เรื่องการจัดการพลังงานนั้นใช้งานได้ ชั่วโมง 12 และหน้าจอเปิด 8 ชั่วโมง รวมถึง มีการใช้งานถ่ายรูปก็ทำได้ดีนะกับ Unisoc ตัวนี้จัดการได้ดีอยู่

GPS

ตัวนี้จากที่ทดสอบจริงๆพบว่านำทางได้แต่ตัวการนำทางอัปเดตดีขึ้น ใช้งานได้ดีเลยแหละในเมืองในการใช้แอปทดสอบนั้นก็จับได้ทั้งหมด 3 ดวง จากทั้งหมด 10 ดวงทั้งบนรถ และ ทางเดินเท้าปกติ ส่วนของกลางแจ้ง จับได้ทั้งหมด 9 ดวง จากทั้งหมด 15 ดวง นะ ถือว่าเป็นจุดที่ทำได้ดีกว่าเดิมแบบชัดเจนและแม่นยำ อัปเดตได้ไวมากใช้นำทางได้ดีในระดับนึ้ เมื่อเทียบกับราคาและการนำทางนั้นสบายๆ สามารถเอาไปใช้งานนำทางทั้งวันได้แบบที่แบตไม่หมดจริงๆเพราะทดสอบนำทางทั้งวันอันนี้เอาไปวิ่ง GRAB สบายๆเลยแหละสำหรับ Unisoc ตัวนี้พอใช้งานได้เลย

CAMERA 

ด้านการถ่ายภาพ realme C25Y เป็นรุ่นแรกในซีรีส์ C ที่มีกล้องความละเอียด 50MP และสามารถใส่ภาพพิกเซลขนาดใหญ่ได้ถึง 8160*6144 มาพร้อมกล้องหลัง AI 3 เลนส์ ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล + Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เลนส์มาโครมีระยะโฟกัส 4 ซม.ช่วยให้เราถ่ายภาพวัตถุระยะใกล้เป็นพิเศษหรือดื่มด่ำกับการถ่ายภาพไมโครเวิร์ลที่สร้างสรรค์มากขึ้น และ เลนส์ B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซลจะช่วยสร้างภาพบุคคลเป็นขาวดำ ให้ค่าแสงที่สูงขึ้นและเพิ่มความเปรียบต่างระหว่างแสงและความมืดของภาพ ในโหมดภาพถ่ายบุคคล การเปิดรับแสง อุณหภูมิสี เฉดสี และพารามิเตอร์อื่นๆ ถือว่าค่อนข้างดีทีเดียว จากที่ทดสอบหลายๆสภาพแสงนั้นทำได้ดีเลยและสีค่อนข้างตรงอยู่สำหรับกล้องหลังตัวนี้ ซึ่งจุดที่แตกต่างน่าจะเป็นโหมดหน้าตากล้องต่างๆนั้นไม่ค่อยเป็น realme เท่าไรแน่นอนว่าการปรับมา realme UI R ทำให้อิง Pure Android มากที่สุด

Exif_JPEG_420
Exif_JPEG_420
Exif_JPEG_420
Exif_JPEG_420
Exif_JPEG_420
Exif_JPEG_420
Exif_JPEG_420
Exif_JPEG_420
Exif_JPEG_420

SELFIES

ในส่วนของกล้องหน้าเซลฟี่ HDR ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.0 สามารถถ่ายเซลฟี่ได้คมชัด แน่นอนว่าเรื่องของกล้องหน้าอาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนักและไม่มีพวกสติกเกอร์ลูกเล่นอะไร แต่พร้อมรองรับฟังก์ชัน AI beauty, HDR Mode, ซึ่งหน้าตาใช้งานนั้นค่อนข้างเรียบง่ายและแตกต่างกับรุ่นอื่น และไม่รองรับ Portrait  กล้องหน้ามีความกว้างกำลังดี ไม่ได้แคบมากเกินไป จัดมุมภาพถ่ายหลายคนได้สบาย ส่วนคุณภาพในแสงน้อยอาจจะไม่ได้เด่นมากนักแต่ถ้าแสงกลางวันนั้นสบาย เพราะว่าสามารถจัดการแสงใบหน้าได้ดีเลยทีเดียวพอๆกับ C25 ก่อนหน้าแต่ Software ปรับได้น้อยลองและไม่รองรับการถ่ายละลายหลังรวมถึงการประมวลผลภาพแตกต่าง

REALME C25Y 

”  น้องเล็ก เน้นที่กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ครั้งแรก พร้อมแบตจุ 5,000 mAh ! “

น้องใหม่ ตัวเล็กล่าสุด ราคาจับต้องได้ และแน่นอนว่ามาพร้อมกับกล้องหลัง 13MP AI 3 ตัวรองรับการถ่ายกลางคืน รองรับการถ่าย มาโคร และ จับระยะถือว่าทำได้ดีเลยค่ะ ส่วนกล้องหน้าก็ใช้งานได้ดีในสภาพแสงจัดๆ รวมถึงเรื่องของแบตเตอรี่และการใช้งานนั้นยังคงจัดเต็ม อึดพร้อมกับรองรับการใช้งานทั้งวันได้สบายๆ อีกทั้งยังขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากชิปเซ็ต Unisoc T618 ทำงานได้ดีมากๆ รวมถึงหน้าตา realme UI R ทำให้ตัวเครื่องนั้นดูดีขึ้นเยอะมากๆ และใช้งานได้หลากหลาย เน้นความเรียบลื่น เพียวมากขึ้นไม่มีแอปของทาง realme ใส่เข้ามาทำให้ระบบไม่หนักและคล้ายกับพวก Pixel เลยนั้นเอง พร้อมการออกแบบฝาหลัง ลายเส้นที่สวยงามด้วยการไล่เฉดสี ดูลงตัวมากค่ะ ซึ่งถ้ามองว่าสเปกที่ได้ Storage มากกว่าเดิม กล้องโหดขึ้นก็ถือว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ดีมากๆ เสียดายแค่พอร์ตเท่านั้นจริงๆนะ

ข้อดี

  • หน้าจอใหญ่ขนาด 6.5 นิ้ว ใช้งานเต็มหน้าจอ สู้แสงได้ดี
  • แบตใหญ่ 5,000 mAh ใช้งานสบายๆ รองรับชาร์จ 18W
  • 18W Quick Charge ตามมาตรฐานในระดับราคานี้ กับ Micro-USB
  • งานออกแบบเน้นความคงทนมากขึ้น ปกป้องรอยนิ้วมือได้ดี เล่นสีฝาหลังได้ดี
  • กล้องหลัง 50MP มากที่สุดในตระกูล C ที่เคยทำมา
  • รองรับสแกนนิ้วในด้านหลัง
  • มาพร้อม realme UI R แปลกตา ระบบคลีนมาก ไม่มีแอปของ realme มาให้เท่าไร
  • ระบบลื่นไหล ใช้งานได้ง่าย และ ติดนิ้วมากขึ้น

ข้อสังเกต

  • ไม่มีเลนส์มุมกว้างใส่เข้ามา
  • ไม่รองรับ Wifi 5Ghz
  • ใช้งาน Micro-USB

สำหรับรีวิวนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน สำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ เพื่อนๆสนใจอยากให้รีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะคะ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review By Aum