Asus ได้ทำการเปิดตัว ROG Phone 2 สำหรับเล่นเกมอย่างเต็มรูปแบบ ที่หน้าจอมี refresh rate ถึง 120Hz 10-bit HDR อีกทั้งยังมี accessory อีกมากมาย และเป็น partner กับนักพัฒนาเกมหลายๆแบรนด์อีกด้วยซึ่งมันได้ถูกออกแบบมาทั้งสำหรับนักเล่นเกมตัวยง ดีไซน์ของมันยังถูกออกแบบให้จับง่ายด้วยมือเดียว โดยมีความกว้าง 78 มิลลิเมตร(7.8เซนติเมตร) เท่านั้น อีกทั้ง Asus ยังปรับหลายๆอย่างให้เหมาะสมกับการใช้ในแนวนอนด้วย ซึ่งในครั้งนี้ได้ปรับเปลี่ยนการออกแบบนิดหน่อยเป็นการพัฒนาขึ้นจากรุ่นเดิมให้มันมีความพรีเมี่ยมมากขึ้น และประสิทธิภาพนั้นทำได้ดีกว่าเดิม มันเป็น Smartphone สายเกมระดับ HighEnd ที่ตอบความต้องการที่จัดเต็มขึ้นทั้งเรื่องของอุปกรณ์เสริม คุณภาพในภาพรวมและตอบโจทย์สาวก ROG เต็มๆเลยและราคาก็น่าเล่นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน เรามาอ่านกันเลยว่าจะเป็นยังไงบ้างสำหรับ ROG Phone รุ่นที่ 2 ในครั้งนี้จะโหดขึ้นแค่ไหนกันมาชมกัน

ROG Phone 2 นั้นมาหน้าจอ AMOLED 6.59 นิ้ว refresh rate ถึง 120Hz โดยสามารถเลือกปรับเป็น 60Hz หรือ 90Hz ก็ได้ และหน้าจอของมันมีความไวถึง 240Hz  และมี Armoury Crate ใน game launcher ที่ทำให้สามารถปรับแต่งการเล่นเกมได้แล้ว ปรับแสงไฟด้านหลังได้ มันยังมี Game Genie ในการเล่นเกมอีกด้วยครับ ด้านหน้าตัวเครื่องยังมีลำโพงคู่ ที่รองรับ DTS:X Ultra  รูแจ็ค 3.5mm มาพร้อมไมค์โครโฟนถึง 4 ตัว  ใช้ชิปเซต Snapdragon 855+ อีกทั้งยัง overclock การ์ดจอ Adreno 640 ให้ประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 15% และ CPU ตัวหลักก็ถูกทำให้เร็วถึง 4% ส่วนแบตเตอรี่นั้นทาง Asus จัดเต็มมาให้ถึง 6,000mAh ถูกเคลมว่าสามารถเล่น PUBG ติดต่อกันได้ถึง 7 ชั่วโมง และยังรองรับ ROG Hyper Charge 30W โดยชาร์จผ่านสาย cable 3A (รองรับ Quick Charge 4.0 ด้วย)ทางด้านของกล้องหลังนั้นจะใช้เทคโนโลยีเดียวกับ Zenfone 6 คือใช้เทคโนโลยี Quad Bayer บนความละเอียด 48MP บนกล้องตัวหลัก และ ตัวรอง ที่เป็นเลนส์กว้าง 125 องศา Ultra wide ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 24MP F2.2 ครับผม

สำหรับรุ่นที่เข้ามาจำหน่ายในไทยนั้นแบบ Official เลยจะมาพร้อมกับ RAM 12GB STORAGE 512 GB จะเป็นความจุที่ขายในไทยนะครับ เปิดราคามาที่ 29,990 บาทไทย และจะแตกต่างกับพวกรุ่น Tencent ทั้งเรื่องวัสดุและระบบภายในครับ และ อุปกรณ์เสริมนั้น ASUS ROG Kunai GamePad II ราคา 3,440 บาทครับ

UNBOX

ตัวกล่องนั้นจะยังคงใช้ดีไซน์แบบ 3 เหลี่ยมอยู่เหมือนเดิมซึ่งก็ถือว่าแปลกตาและสวยงามครับ แต่เรื่องของรายละเอียดข้างในนั้นจะเปลี่ยนไปในการจัดวางอะไรนั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อยข้างในนั้นเป็นแกน 3 ข้างและแต่ละฝั่งก็จะวางมือถือ พัดลม และ พวกกล่องคู่มือ เคสต่างๆครับ ส่วนเรื่องของอุปกรณ์ของตัวเครื่องที่ให้มานั้นครบๆเลยแต่ไม่มีหูฟังมาให้

  • ตัวเครื่อง ROG Phone 2
  • พัดลมระบายความร้อน พร้อม รู 3.5 มม. ในตัวและช่องชาร์จไฟ TYPE-C
  • ยางปิดจุกสำรอง 2 ชิ้น
  • แท่นยางรองสำหรับวางเครื่องติดกับพัดลม 2 ชิ้น
  • ที่ชาร์จไฟ PD หัวแบบ Type-C
  • สายชาร์จไฟ TYPE-C TO TYPE-C
  • เคสพลาสติกแข็ง

ตัวเคสนั้นถือว่าบางมากๆอาจจะไม่ใช่เคสเลยซะทีเดียวเป็นเหมือนกรอบมากกว่าเพราะมันไม่ค่อนจะปกป้องอะไรเท่าไรแค่กันฝาหลังและเลนส์เท่านั้น แต่เรื่องกันกระแทกหรือหน้าจอนั้นต้องบอกว่าไม่สามารถป้องกันได้ดีเท่าไรครับ ส่วนเรื่องของขอบเครื่องนั้นเวลาตกหรือวางก็ต้องระวังกันนิดหน่อย เพราะเคสมันเป็นพลาสติกแข็งบางๆเท่านั้นครับ ส่วนการออกแบบตัวเคสเอาจริงๆมันก็สวยอยู่ดูเข้ากันกับ ROG ของมันจะเน้นสายเกมมิ่ง ลุยๆทึกๆครับ และเว้นตัวโลโก้ และ ชื่อแบรนด์ตรงกล้องอะไรได้ค่อนข้างสวย และตัวเว้นวรรคช่องระบายของมันก็ถือว่าทำได้สวยงามครับ

ROG FAN ในรุ่นนี้ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบ และ ดีไซน์ในด้านหลังรวมถึงตัวไฟก็สวยขึ้นครับมีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งตัวพัดลมเสริมตัวนี้มาให้ในกล่องไม่ต้องซื้อแยกครับเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนของตัวเครื่อง + มีส่วนทำให้เราสามารถชาร์จไฟไปเล่นไปได้แบบที่สายชาร์จไม่เกะกะ ตรงที่จับเพราะสายนั้นจะเสียบเข้ากลางเครื่องทำให้เล่นไปชาร์จไปได้เลย และในครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบทำให้สามารถติดยางตั้งเครื่องได้ และสามารถใช้งานแม้จะใส่เคสที่แถมมาให้ได้ด้วยครับ วัสดุเป็นพลาสติกด้านและมีตะแกรงที่เป็นส่วนของพัดลมแรงพอสมควรเลยครับ ดูดลมเข้าตรงกลางและระบายออกด้านข้าง

สำหรับที่วางเครื่องนั้นมันจะเป็นแผ่นพลาสติกเล็กสามเหลี่ยมซึ่งจะเอาไปติดปลายพัดลมตรงข้างล่างโลโก้ เลยทำให้สามารถวางตั้งได้เลยแบบในภาพ และเมื่อติดไปแล้วจะค่อนข้างแน่นเพราะเป็นกาว และเมื่อตั้งวางแล้วก็มั่นคงใช้ได้เลย แต่ถ้าลมแรงๆนั้นอาจจะไม่ได้ไหวมากครับ แต่ก็วางตั้งสำหรับดูหนัง ดูเกมอะไรได้สบายๆื

DESIGN

ความกล้าออกแบบและโดดเด่นไม่เหมือนใครนั้นยังคงใส่เข้ามาและธีมการออกแบบนั้นกล้าออกแบบเหมือนกับรุ่นแรกและเป็นการต่อยอดจากรุ่นแรก แต่มีความเรียบหรูมากขึ้นใช้วัสดุดีขึ้นและลดพลาสติกน้อยลงไปครับจริงๆ ต้องบอกว่าค่อนข้างแตกต่างกับยี่ห้ออื่นๆมากจริงๆ คือโดดเด่นตามสไตล์ ROG เลยแหละ ตัวเครื่องวัสดุ งานประกอบแรกจับคือดีงามมาก งานดีเนียนสัมผัสได้ถึงความแน่นหนา และ เหมาะมือมากๆ ค่อนข้างออกแบบเอาใจ ผู้ชายเป็นหลักเลยแหละ วัสดุหลักๆเป็นกระจกเงาสีคล้ายๆโครเมียมรมดำ และมีการเล่นกับแสงสะท้อนแสงได้สวยกว่ารุ่นแรก แต่ที่ต้องบอกก่อนเลยว่ามันหนักกว่าเดิม และมีขนาดใหญ่กว่าเดิมนิดหน่อยครับอาจจะไม่เหมาะสำหรับสาวๆเท่าไร แต่ขอบหน้าจอก็สวยบางขึ้น และ สแกนนิ้วบนหน้าจอทำให้ข้างหลังนั้นเรียบและเนียนกว่าเดิมเยอะมากๆ ตรงโลโก้ยังคงมีไฟเช่นเดิมครับ สวยงามและเด่นสามารถปรับแต่งได้หลากหลายเลย

หน้าจอเต็มตาขึ้นและพัฒนาขึ้นแต่ความละเอียดยังไม่ได้เยอะขึ้นเท่าไรครับ เป็นการออกแบบที่นำลำโพงวางคู่หน้าพร้อมยิงตรงมา แน่นอนทำให้ขอบต้องหนากว่าค่ายอื่นๆครับแต่สายเกมมีขอบไว้ดีกว่าขอบบางๆแน่นอน หน้าจอมีขนาด 6.59  นิ้วใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ความละเอียด Full HD+  Refresh rate 120Hz, สัมผัส240Hz รองรับการแสดงผลแบบ HDR 10+ DCI-P3 และใช้กระจก Gorilla Glass 6  ไม่มีติ่งหน้าจอ และ ขอบบางกำลังดีมีที่วางนิ้วมือสำหรับสายเกมครับและดีไซน์ดูดีสวยและไม่สายเกมเยอะแบบรุ่นแรกใช้งานทั่วไปได้สบาย

ในส่วนหน้าจอขอบล่างนั้นก็เล็กกว่าเดิมด้วยเช่นกันและลำโพงนั้น มีขนาดใหญ่เต็มขึ้นและสวยกว่าเดิมสีทองแดงไม่เด่นแบบรุ่นที่แล้วดูสวยขึ้นครับ ส่วนปุ่มควบคุมอะไรก็อยู่บนหน้าจอทั้งหมด

หน้าจอในขอบด้านบนนั้น จะเห็นว่าลดลงกว่ารุ่นแรกและบางลงส่วนลำโพงยังคงดีไซน์พัฒนาจากรุนเดิมแต่ซ่อนสีทองแดงไว้ข้างในแทนครับ และมีขนาดใหญ่เต็มขอบขึ้นกว่าเดิม รวมถึงเซนเซอร์ ไฟแจ้งเตือน กล้องหน้ายังมีครบ

ด้านขวาของตัวเครื่อง เป็น ปุ่มทั้งหมด คือ Power – Vol Up Vol Down และ จะเห็นการเล่นลวดลายขีดๆบนตัวขอบมุม บน และ ล่าง ส่วนนั้นแหละ คือที่เราจะสามารถเอานิ้วแตะและ สั่งงานได้ เช่นยิง หรือ ซูม ในเกมครับ  และ ขอบล่างนั้นเป็นที่อยู่ของเซนเซอร์ บีบขอบเครื่องสั่งงานต่างๆได้ครับแล้วแต่เราจะตั้งเลยว่าจะทำอะไร อันนี้ชอบ !

ด้านซ้ายตัวเครื่อง แน่นอนว่า มีช่องใส่ถาดซิม แบบ Dual nano sim ไม่สามารถเพิ่มเม็มได้ และ ตรงกลางคือทีเด็ด พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อพัดลม  ห้ามเสียบชาร์จตรงฝั่งสีส้มนะครับ และ อุปกรณ์เสริมทั้งหลาย จริงๆจะมียางปิดนะครับ และ มียางสำรองให้ด้วย บอกเลยว่า คิดมาดีและ ทำให้เวลาเล่นไปชาร์จไปสายไม่เกะกะในการเล่นเกมด้วยแหละ เสียบชาร์จได้ด้วยในรูซ้าย

ในส่วนขอบด้านบน เรียบๆเลยไม่มีอะไรเป็นพิเศษ มีแค่รูไมค์สำหรับอัดเสียง ตัดเสียงต่างๆครับและขีดเส้นสัญญาณ แต่จะเห็นเลยว่าตัวเครื่องนั้นหนากว่าเดิมนิดหน่อยครับ แต่การออกแบบนั้นคล้ายๆกันอยู่

ขอบล่างตัวเครื่อง เป็นที่อยู่ของ ช่องชาร์จ TYPE-C อยู่ชิดมุมขวา และ รูหูฟัง 3.5 มม. ด้านซ้ายตัวเครื่องครับผม

ด้านหลัง แน่นอนจะเด่นไปไหน ด้วยโลโก้ ROG เปลี่ยนสีได้ ตัวหนังสือเขียน Republic Of Gamers ชื่อเต็มของ ROG นั้นเอง และ ช่องทองแดงสำหรับการระบายความร้อน ! ค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับมือถือเลย และ สำหรับการเล่นดีไซน์ออกแบบดูแตกต่างเลย กล้องหลัง พร้อมแฟลชที่ดีไซน์ได้ แหวกแนวมากๆครับ ในการออกแบบครั้งนี้พัฒนาขึ้นเรียบและหรูกว่ารุ่นแรกไม่มีการใช้งานพลาสติกแล้วและสีดำเงาสวยงามเข้มขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจน

กล้องตัวนี้ยกมาจาก Zenfone 6 ครับกล้อง ความละเอียดสูงสุด 48MP ใช้เซนเซอร์ IMX586 และเลนส์ตัวที่สองเป็นเลนส์แบบ Ultra-wide angle รองรับมุมกว้างมากถึง 125 องศาความละเอียด 13MP PDAF and laser autofocus พร้อมไฟแฟลช 2 ตัว และในรุ่นนี้ไม่มี OIS นะครับ  ดีไซน์แฟลชได้สวยจริงๆ รวมถึงกรอบกล้องด้วย

SPEC

  • ใช้งาน Android 9 Pie + ROG UI และ Asus UI
  • หน้าจอ AMOLED 6.59 นิ้ว Full HD+ อัตราส่วน 19.5:9 รีเฟรชเรท 120Hz, แสดงผล DCI-P3 100%, HDR 10-bit Gorilla Glass 6 สัมผัส 240Hz
  • Snapdragon 855 Plus (7 nm) + Adreno 640
  • RAM 12GB LPDDR4X
  • STORAGE 512GB UFS 3.0
  • กล้องหลังคู่ เลนส์หลัก 48 MP Sony IMX586 f1.79 + เลนส์มุมกว้าง 13 MP Ultra wide f2.4 Fix
  • กล้องหน้า 24 MP f2.2
  • ลำโพงคู่สเตอริโอด้านหน้า รองรับ Hi-Res 192kHz / 24-bit DAC , ระบบเสียง DTS X Ultra
  • ไมโครโฟน 4 ตัว รองรับการตัดเสียง
  • แบตเตอรี่ 6,000 mAh + Hypercharge 30W, QC4+ และ USB PD
  • USB C 3.0 ทั้งหมด 2 ช่อง , ช่องหูฟัง 3.5
  • สแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ // สแกนใบหน้า
  • ไฟตรงบริเวณโลโก้ด้านหลัง RGB รองรับ Aura Sync
  • ปุ่ม AirTriggers สำหรับเล่นเกมบริเวณขอบเครื่อง

PERFORMANCE 

สำหรับทางด้านคะแนนนั้นตัวนี้แน่นอนไม่ต้องห่วงครับมาด้วยกับ Snapdragon 855+ ที่รองรับการ Overclock สูงสุด มาด้วย RAM 12 GB คะแนนทำไปได้ แตะ 5 แสนได้เลยบางครั้ง ประมาณ 492852 ส่วนหน่วยความจำ UFS3.0 ขนาด 512 GB ไม่ต้องห่วงจุดนี้ ทำคะแนนพุ่งไป 1394 ส่วนคะแนน Geekbench ก็ทำได้ 759 2384 ถือว่าไม่เลวครับสำหรับ คะแนนและความแรง รวมถึงความปลอดภัย DRM L1 ดูหนังอะไรสบายๆครับคมชัดสูงสุด

SYSTEM UI

สำหรับหน้าตาตัวนี้เป็นการใช้หน้าตาการออกแบบทั้งหมดธีมไปทางสายเกมเลยทีเดียวครับ มีสแกนใบหน้าอะไรมาให้ด้วยแต่ยังคงอิงการออกแบบของ ASUS UI มานิดหน่อยครับ มีหน้าหลักมี App drawer มาปกติปัดขึ้นมาได้เลยครับสะดวกดีเหมือนกัน พร้อมกับหน้าจอเปลี่ยนได้ตามสภาพเช่นเปิด X MODE ธีมจะเปลี่ยนเป็นสีแดงรวมถึงมี Animation เปิดกล่องจะเป็นสีแดงและสวยงามเลยในพื้นหลังของตัวนี้ครับ

หน้าตาการใช้งาน Quick setting นั้นก็มีมาให้เหมือนเดิมเข้าได้ง่ายและเป็นธีม ดำส้มครับ เมื่อลากลงมาเพิ่มอีกนั้นจะเป็นการเปิดปิดโหมดต่างๆได้ค่อนข้างเยอะเช่นพวก บีบเครื่อง x-mode แตะขอบเครื่องและอีกมากมายเลย และยังสามารถแบ่งหน้าจอได้ไม่ได้ตัดออกไปไหนครับสำหรับฟีเจอร์พื้นฐานของ Android

ความจำจัดเต็ม 512 GB ใช้ยังไงก็ไม่หมดแน่นอนครับ เหลือใช้จริงค่อนข้างเยอะมากประมาณ 500 เลยทีเดียว ถ้ารวมระบบไปแล้วนะครับ ส่วนเรื่องของ RAM 12GB เหลือๆเลยแหละ เหลือให้ใช้งาน 4 GB โดนประมาณครับ และ คีย์บอร์ดนั้นใช้จากทาง Google นะครับค่อนข้างใช้ดีและแอดมินชอบมากที่สุดเลยในบรรดาทั้งหมดของคีย์บอร์ด

การปรับแต่งเสียงสั่นก็สามารถปรับได้ ความแรงในการสั่นรวมถึงรูปแบบการสั่นพวกนี้ครับ ฟีเจอร์อื่นๆก็มีมาให้เยอะครับไม่ว่าจะเป็น แอปคู่ ระบบบีบตัวเครื่อง ระบบแตะขอบเครื่อง Gesture พวกนี้มีมาให้ครบเลยแหละ และ ความปลอดภัยก็ยังมีสแกนใบหน้าที่ค่อนข้างไวมากๆ สแกนนิ้ว และ อนิเมชั่นสภาพอากาศที่สวยงาม เวลาฝนตกจะสวยเลย

หน้าจอยังมี Always on  มาให้ครับสามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 แบบก่อนเหมือนกับรุ่นเดิมเลยยังไม่มีแทรกอะไรใหม่ๆเข้ามาครับ และส่วนของการปรับหน้าจอได้ว่าจะเอากี่ Hz และ โทนสีอะไรต่างๆครับผม และ Zenmotion นั้นก็เปลี่ยนชื่อแล้วแต่เรื่องของการ ควบคุมได้ทั้งหมด ทั้งวาดตัวอักษร ยกเพื่อรับสายอะไรพวกนี้ครับ แตะเพื่อเปิดหน้าจออะไรก็ทำได้เช่นกันเหมือนเดิมครับแต่ไม่มีเขียน Zen Motion แล้ว

Gesture ทั้งหลายก็มีพวกเคาะหน้าจอ คว่ำจอเพื่อเงียบอะไรพวกนี้ปัดนิ้วไปมาค่อนข้างเยอะมากเลย และ ยังมีพวก AI ตัวช่วยได้อีกในหลายๆจุดครับ และ ระบบบีบตัวเครื่องว่าจะให้ทำอะไร เข้าโหมดมือเดียวเปิดแอป สั่งงานต่างๆแบบเดียวกับรุ่นแรกเลยนั้นเองครับผม และสามารถเลือกได้ว่าตอนปิดหน้าจอ กับ เปิดหน้าจอแล้วจะให้ทำงานยังไง

THEME

 ธีมการออกแบบเปลี่ยนได้ตามสไตล์ครับ แน่นอนว่ารุ่นนี้พิเศษกันหน่อยคือมีส่วนของ ROG โดยเฉพาะครับจะเป็นสายเกมกันเลยมีให้เลือกหลายแบบครับโทนฟ้าขาว  หรือ โทนดำ และ ใครไม่ชอบแบบเกมก็มีหน้าตา ASUS UI มาให้เลยจะไม่เหมือนสายเกมเลยนั้นเอง และเปลี่ยนทั้งของ ICON / พื้นหลัง หน้าจอโทร หน้าจอตอนล็อคอะไรพวกนี้ครับผม และโทนสีแอพในบางแอพที่มากับเครื่องก็มีเปลี่ยนให้ครับ

AURA SYNC RGB

ตัวไฟ Aura Sync นั้นสามารถปรับได้ค่อนข้างหลากหลายและโทรปรับได้เยอะครับ มี Effect ให้เลือกทั้งหมดประมาณ 4 แบบ สามารถปรับได้เหมือนในคอมพิวเตอร์เลยและสามารถรองรับ Aura Sync ร่วมกับพวก คอมพิวเตอร์ Gaming Gears ของ  ROG ได้ด้วยครับ และไฟนั้นสามารถปรับความสว่างและ ความไวของจังหวะการเปลี่ยนสีได้ด้วยเช่นกันครับและปรับสามเสียงเพลงต่างได้แล้วและมีความหลากหลายขึ้นเยอะกว่าเดิมมากครับ 

SCREEN

หน้าจอจัดเต็ม 6.59 นิ้วรองรับ 120Hz FHD+ DCIP3 HDR10+ และ ความไวสัมผัส 240Hz และใช้กระจก Gorilla Glass 6 ครับผม หน้าจอในรุ่นนี้อัพเกรดไปอีกขั้นแล้วจากของเดิมนั้นมันแค่ 90Hz แต่ในรุ่นนี้ได้พัฒนาเป็น 120 Hz บอกเลยว่าทำออกมาสำหรับสายเกม ดีกว่าจอตัวอื่นๆแบบสัมผัสได้เวลาเลื่อนใช้งานต่างๆครับ รวมถึงเวลาสัมผัสนั้นมันติดนิ้วและลื่นไหลมากๆถ้าได้ใช้จอนี้นานๆจะกลับไปใช้จอเดิมๆไม่ได้แน่นอนครับ เพราะมันจะเป็นความหน่วงแบบชัดเจน และภาพมันติดตาไปแล้วกับความเนียนแบบนี้ แต่ในตอนนี้ส่วนของเกมที่รองรับนั้นอาจจะยังมีน้อยเลยอาจจะหาความแตกต่างได้ยากเวลาเล่นเกมครับแต่ ถ้าใช้งานทั่วไปแค่เลื่อนดูภาพหรือ Facebook ก็เจอความแตกต่างแล้วนะ มาที่เรื่องของสีตัวจอรองรับมาตรฐานสีทั้งหมดที่มีได้ สวยสดและสู้แดดได้ดีมากครับ สีดำสวยแต่ถ้ามองเอียงๆอาจจะไม่ได้ดำสนิทมากครับเพราะจอเวลาปิดหน้าจอมันก็ไม่ได้ดำสนิทเรียบไปกับตัวบอดี้เท่าไรด้วย

หน้าจอเมื่อเวลาเอียงนั้นมีในรุ่นนี้ยังคงเป็นจอแบบ AMOLED อันนี้จะออกอมฟ้าๆนิดหน่อยครับ ซึ่งปัญหานี้แอบเจอในรุ่นแรกอยู่แต่รุ่นนี้ถือว่าน้อยลงกว่าเดิมเยอะและถ้าไม่สังเกตอาจจะไม่ได้ต่างกันมากครับ ซึ่งอันนี้ก็ต้องทราบกันไว้มีผลมากไหมก็ไม่มากเท่าไรครับ ไม่ได้ชัดเจนมากนักถ้าไม่ได้วางเทียบกันแต่ตัวจอนั้นแม้จะเป็น OLED ก็ตามแต่ความดำนั้นเวลามองเอียงๆกลับไม่ได้ดำสนิทเท่าไรและเมื่อปิดหน้าจอก็ไม่ได้ดำสนิทเรียบสวยไปกับตัวเครื่องครับอันนี้อาจจะเป็นส่วนพาแนลของหน้าจอที่เลือกใช้เลยทำให้เวลาปิดหน้าจอมันไม่ดำเนียนไปกับขอบๆเครื่องเท่าไรครับผม

FINGERPRINT

การสแกนนิ้วในรุ่นนี้เปลี่ยนมาใช้งานสแกนนิ้วบนหน้าจอแล้วครับทำให้ด้านหลังนั้นออกแบบได้สวยและเรียบขึ้นและในหน้าจอก็ตามสมัยนิยมที่เปลี่ยนมาใช้งานกันหมดแล้ว ในการใช้งานนั้นถือว่าทำได้ไวพอสมควรครับพอๆกับการใช้งานด้านหลังของรุ่นเดิมแต่แอบรู้สึกว่าพอมาอยู่ในหน้าจอนั้นกลับทำได้ไวและเข้าหน้าจอได้ไวกว่ารุ่นเดิมมาก สแกนนิ้วสามารถใช้งานได้ทั้งหน้าจอปิดและเปิดครับสามารถแตะสแกนนิ้วได้เลยไม่ต้องรอ สัญลักษณ์ขึ้นมาครับ และไฟสีสแกนนิ้วนั้นเป็นสีเขียวเหมือนในหลายๆรุ่นก่อนหน้านี้และเป็นแบบ Optical ครับ

SOUND

เสียงตัวนี้ยังดีที่ไม่ได้ตัดรู 3.5มม. ไปไหนและวางตำแหน่งเหมือนกับรุ่นก่อนๆทั้งหมดครับ ทำให้สามารถชาร์จไฟ แล้วเล่นเกมพร้อมกันได้ครับแน่นอนว่าเสียงตัวนี้อาจจะไม่ได้เด่นมานักถ้าเอามาฟังเพลง เสียงที่ได้แรงขับถือว่ามีดีเลยแหละครับเสียงดังและขับได้ดี แต่เรื่องของคุณภาพเสียงเมื่อเรานำมาฟังเพลงก็ค่อนข้างกลางๆไม่ได้เด่นมาก เสียงแหลมมาพอสมควรค่อนข้างไปทางชัดในเรื่องเสียงร้อง แต่พวกรายละเอียดก็มากลางครับ เบสมาพอดีไม่ได้หนักแน่นเท่าไรนัก อยุ่ในระดับกลางๆแต่ดีที่แรงขับมีมาพอสมควรครับ ส่วนถ้าเราเอามาเล่นเกมแน่นอนว่าเสียงดังสะใจ เสียงคนเดินเสียงเท้าชัดเจนดีครับ รองรับ 7.1 และเสียงแยกทิศทางชัดเจนมากๆ รวมถึงเวลายิงปืนหรือเสียง เอฟเฟคต่างๆนั้นได้ยินค่อนข้างดีครับ ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด เสียงพอรับได้ไม่ได้แย่แต่แรงขับนั้นมาดีครับ แต่เมื่อเทียบกับตัวแรกนั้นมันสามารถปรับเปลี่ยนแนวได้หลากหลายขึ้นแต่เรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้แตกต่างกันเท่าไรครับ

SPEAKER 

ลำโพงมาพร้อมคู่หน้าที่วางตำแหน่ง ยิงตรงมาสู่ด้านหน้าครับแน่นอนการวางแบบนี้จะทำให้เวลาเล่นเกมนั้นไม่ไปบังเวลาจับและเสียงแยกซ้ายขวาชัดเจนมากๆ เสียงมีมิติดีมากๆและเสียงดังที่สุดอีกครั้งแน่นอนว่าถ้าหากใครจำกันได้นั้นในรุ่นก่อนก็ทำได้ดังกว่าเดิมมากๆและดังกว่ารุ่นอื่นไปแล้ว และในครั้งนี้ก็ทำได้ดีอีกแล้วเพราะดังกว่ารุ่นอื่นๆเยอะมากที่ลองเทียบคือทั้ง iPhone 11 Pro – XS Max และ บรรดาเรือธง รวมถึงเกมมิ่งทั้งหลายนั้น มาเทียบกับ ROG แล้วนั้นต้องบอกเลยว่าทำได้ดีสมมือถือเกม เสียงดังและแยกชัดเจนไม่พอ ยังมีโหมด Outdoor ทำให้เร่งเสียงขึ้นไปอีกแบบดังมากๆ แต่ถ้าเปิดโหมดนี้เสียงมิติจะไม่ได้มามากนัก ออกไปทางแหลมๆแต่ก็ได้ความดังที่ได้ยินชัดเจนเวลาอยู่นอกสถานที่ได้ดีมากครับ บอกเลยว่าโหด และมีเรื่องของการปรับเสียง DTS ที่รองรับการปรับแต่งเสียง แบบโหมดภายนอก ปรับเสียงเบส เสียงแหลมและเสียงในโหมด ดนตรี อื่นๆค่อนข้างเยอะเลยนั้นเอง

GPS 

GPS ตัวนี้บอกเลยว่าสบายครับจริงๆ ASUS ในเรื่องการนำทางถือว่าดีจากที่แอดมินลองตัวเรือธงก่อนหน้านี้และในตัวนี้จับได้ไวและแม่นดีครับในการทดสอบขับรถและนำทางไม่เจออาการหลุดอะไร อีกทั้งลงในอุโมงค์ต่างๆก็ทำได้ดีครับส่วนในเรื่องจากการทดสอบผ่านแอพนั้นทั้งบนรถและกลางแจ้งทำได้ไม่แตกต่างกันมากครับจับได้ทั้งหมด 18  ดวง จากทั้งหมด 27 และ  25 ดวง ไม่หนีกันมากส่วนเรื่องระยะเวลาหลังจากเปิดแอปประมาณ 1 วิก็เริ่มจับได้ตามภาพแล้วครับผมถือว่าไว้ใจได้และในรุ่นแรกนั้นในส่วนนี้ก็ถือว่าทำได้ดีไม่แตกต่างกันเลยครับ

BATTERY 

ส่วนเรื่องของแบตตัวนี้แอดมินได้ทำการทดสอบ คือเปิดไฟ RGB ข้างหลังตรง โลโก้ และทำงานใช้งานแบบหนักๆไปเลยนำทางทั้งวัน ถ่ายรูป วีดีโอ เปิดเพลง เพื่อที่จะลงว่าใช้งานหนักๆนั้นเป็นยังไง ในเรื่องของตัวแบต 6000 รองรับ PD -QC ซึ่งจากที่แอดมินลงนั้นภาพด้านบนคือการใช้งานแบบปิดไฟข้างหลังเครื่องใช้งานได้ทั้งหมด 14 ชั่วโมงทั้งวันแบบเกือบพอดี แต่ก็ยังรู้สึกว่าแบตตัวนี้ไม่ได้อึดมากครับ จอเปิดไป 4 ชั่วโมงครับผม เอาจริงๆถ้ามองจำนวนแบตมันอาจจะดูเยอะแต่ก็ทำออกมาให้รองรับกับทั้งหน้าจอ 120Hz ที่กินไฟมากๆและไฟข้างหลังรวมถึง CPU ที่มีการ Overclock นั้นเองครับเลยทำให้มันอึดทั้งวันได้แบบสบายๆแต่ก็ไม่ได้อึดเวอร์ถ้าเราใช้งานหนัก และเปิดไฟครับ แต่ถ้าเราปรับหน้าจอ ปิดไฟ และไม่ได้เปิด X-Mode เลยก็อาจจะทำให้แบตนั้นใช้งานได้นานกว่านี้เยอะแน่นอนครับ

GAMING 

สำหรับในเรื่องของการเล่นเกม ROG PHONE 2 จะต้องบอกเลยว่าเป็นมือถือที่เหมาะกับการเล่นเกมมากๆ ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Air Trigger ที่ทำงานได้ดีกว่ารุ่นก่อน เเละสามารถปรับตั้งค่าได้ในหลายระดับ ตอบสนองการใช้งานได้ดีกว่ารุ่นเดิม บอกเลยว่าใครที่เล่นเกม Call Of Duty Mobile , Pubg Mobile , Freefire จะต้องชอบอย่างแน่นอน นอกจากนั้นในรุ่นนี้ในเรื่องของอุณหภูมิต้องบอกเลยว่า Rog Phone 2 ที่มีระบบระบายความร้อนที่ดีมากๆ เเละในรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับหน้าจอเเสดงผล 120Hz ที่สามารถปรับได้ทั้ง 120Hz , 90Hz , 60Hz เล่นเกมลื่นไหลอย่างเเน่นอน ตัวเครื่องหลังจากทดสอบประมาณ 40 นาที ตัวเครื่องมีอุณหภูมิความร้อนสูงสุด 41 องศาเท่านั้น นอกจากนั้นในเรื่องของเเบตหลังจากทดสอบ 40 นาที กินเเบตอยู่ประมาณ 7%

CAMERA

กล้องตัวนี้มาพร้อมตัวหลักแบบเดียวกับ Zenfone 6 เลยนั้นเองครับ เพราะกล้องหลักความละเอียดสูงสุด 48MP ใช้เซนเซอร์ IMX586 และเลนส์ตัวที่สองเป็นเลนส์แบบ Ultra-wide angle รองรับมุมกว้างมากถึง 125 องศาความละเอียด 13MP PDAF and laser autofocus รองรับการถ่ายทั้ง HDR+ / Super Night Mode / Portrait และในเรื่องของการถ่ายวีดีโอรองรับสูงสุด 4K 60fps และ ยังมีระบบ EIS, ส่วนในเรื่องของถ่ายแบบเคลื่อนไหวช้านั้นรองรับ Slo-mo 240fps 120fps ที่ความละเอียด FHD ส่วน 480fps นั้นได้แค่ HD ครับ พร้อมไฟแฟลช 2 ตัว แต่ตัวนี้ไม่มี OIS นะครับการถ่ายนั้นถือว่าโอเคเลยสำหรับสายเกม แต่เรื่องสีนั้นยังมีแปลกๆอยู่บ้างนิดหน่อยในบางสภาพแสงครับ ส่วนโหมดกลางคืนอะไรก็มีมาให้ครบๆเลยสามารถรองรับการถ่ายได้และสวยพอสมควร

SELFIES 

กล้องหน้าในรุ่นนี้ก็รองรับการถ่าย FHD 60FPS ในส่วนของวีดีโอด้วยและในเรื่องของสเปคนั้นได้พัฒนาขึ้นมาจากรุ่นเดิมครับเพิ่มความละเอียดเป็น 24MP มาในรูรับแสง F2.2 รองรับการถ่าย ละลายหลัง หน้าเนียนอะไรครบๆเลย แต่รูรับแสงนั้นจะแคบกว่ารุ่นแรกครับทำให้ถ่ายวีดีโอ หรือ ภาพนิ่งเวลากลางคืนนั้นอาจจะไม่โหดมากนักครับ แต่เท่าที่ลองนั้นก็ถือว่าใช้ได้เลยในการถ่ายนั้นสามารถเห็บขอบภาพได้ดีในการเบลอและแต่งหน้าได้หลากหลายครับ แต่โทนสีของภาพยังมีแปลกๆเหมือนกับกล้องหลังอยู่บ้างในบางสภาพแสงครับ และวีดีโอกล้องหน้าไม่ได้ดีเท่าไรนั้นเอง

VIDEO

สำหรับงาน Video นั้นในรุ่นนี้ถือว่ารองรับได้เยอะและหลากหลายมากๆ ในส่วนกล้องหลังนั้นรองรับ 4K 60Fps สูงสุดครับ และรองรับ FHD ในการถ่ายมุมกว้างแบบ 60Fps และ 30Fps ด้วยถือว่าหลากหลายพอสมควร ส่วนในเรื่องกันสั่นนั้นทำงานแค่ EIS นะครับในรุ่นนี้จะไม่มีOIS ซึ่งถือว่าใช้ได้เลย แต่ถ้าเทียบเรือธงในเรทราคาเดียวกันนั้นต้องบอกว่าอาจจะยังสู้พวกนั้นไม่ได้ แน่นอนว่ารุ่นนี้จะเป็นสายเกมครับ งานวีดีโออาจจะไม่ได้ดีมาก ทั้งกันสั่น และ เสียง แต่ความหลากหลายใช้ได้เลย ในส่วนของกล้องหน้านั้นรองรับ FHD 60Fps /30Fps สูงสุดครับ แต่ไม่มีการเปิดหน้าเนียนอะไรมาให้ ในส่วนของคุณภาพนั้นอาจจะไม่ได้ดีเท่าไรและเวลากลางคืนไม่โหดครับ เอาจริงๆงานวีดีโอรุ่นนี้ไม่เน้นเท่าไรครับ และมุมภาพไม่ได้กว้างมากด้วย

ROG PHONE 2

” มือถือสาย Gaming ตัวจริงระดับ High-End ที่ทำได้ดีและจัดเต็มที่สุดในตอนนี้ ! “

ROG Phone ในรุ่นแรกนั้นถ้าหากใครจำกันได้มันคือตัวเทพ สาย Gaming ที่ดีมากๆอีกรุ่น และในครั้งนี้ต้องบอกว่าทำได้ดีอีกแล้ว เป็นการพัฒนาขึ้นแบบชัดเจนในเรื่องของคุณภาพ ประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่ทำได้ดีมากๆ ทั้งเรื่องของหน้าจอ กล้อง ลำโพงรวมถึงทางด้าน CPU และ ประสิทธิภาพในการเล่นเกม รวมถึง การใส่ฟีเจอร์ ที่จะมาช่วยในเรื่องของการเล่นเกมเยอะมากๆ อีกทั้งดีไซน์มันยังโดดเด่นและสเปคจัดเต็มที่สุดในบรรดามือถือทั้งหมด แต่แน่นอนว่ามันสายเกมสุดๆ ทางด้านการออกแบบอาจจะไม่ได้ถูกใจทุกคน รวมถึง น้ำหนักมากกว่ารุ่นเดิมนิดหน่อย และ เสียดายเรื่องวีดีโอ และ กล้องที่อาจจะไม่ได้โหดเท่าไร และ ความละเอียดหน้าจอยังแค่FHD ครับ และเสียดาย ชาร์จไร้สายและการกันน้ำที่ยุคนี้ควรจะมีมาให้แล้ว แต่ในด้านอื่นๆต้องบอกว่าจัดเต็มที่สุดแล้วครับสำหรับ สมาร์ทโฟนสายเกมในตอนนี้ ! และมันเป็น Gaming Smartphone ที่ระดับ High End อีกตัวที่น่าเล่นและดีที่สุดก็ว่าได้ ถ้าชอบในเรื่องของการออกแบบ และ สายเกมที่เน้นๆ และ ชอบเสริมอุปกรณ์เสริมต่างๆที่มีให้เลือกเยอะมาก !

ข้อดี

  • หน้าจอ 120Hz ทำได้ดีทั้งเรื่องของความลื่นไหลและความสวยงาม
  • ประสิทธิภาพแรงสุดๆและความจุเยอะรวมถึง RAM 12GB
  • แบต 6,000 mAh รองรับใช้งานทั้งวันแบบโหดๆได้สบาย
  • ระบบ Sofitware ลื่นไหลและใช้งานได้ดี
  • เสียงลำโพงทำได้ดีที่สุดในบรรดามือถือทั้งหมด และดังที่สุด
  • ยังคงมีอุปกรณ์เสริมและลูกเล่นเยอะมากๆในสายเกม
  • กล้องหลังภาพนิ่งใช้งานได้ดี มุมกว้าง และ โหมดกลางคืนมาให้ครบ
  • ยังคงมีรู 3.5 มม.

ข้อสังเกต 

  • จอยังเป็นแค่ FHD เท่านั้น และ เวลาปิดจอไม่ดำสนิท
  • ถ้าเน้นกล้อง หรือ วีดีโออาจจะไม่ได้โหดมากนัก
  • ไม่รองรับชาร์จไร้สาย และ ไม่กันน้ำ
  • ไม่มีชิพเสียงอะไรใส่เข้ามาพิเศษ

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

*รูปถ่ายจากกล้องมือถือทุกรูป ไม่มีการปรับแต่ง และ สามารถกดดูไฟล์เต็มแบบต้นฉบับได้นะครับ