Samsung ได้ทำการเปิดตัว A Series ยกเครื่องใหม่ทั้งตระกูล และมาแทนที่ Samsung Galaxy J ทั้งหมด แน่นอนว่าครั้งนี้ทำออกมาได้ดีกว่าเดิมและสมราคามากกว่าเดิมแบบเห็นได้ชัด เปิดตัวมารุ่นเริ่มต้นด้วย Samsung Galaxy A10 รุ่นเล็กสุด และ ถัดมาเป็นรุ่น Galaxy A20 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมาแต่ได้ Type-C อีกด้วย ถือว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับค่ายนี้ ทำออกมาสู้กระแสสำหรับมือถือในเรทไม่แพงได้เป็นอย่างดี และ มีกล้องมุมกว้างมาให้เล่นกันอีกด้วยนั้นเอง ครั้งนี้ทั้ง 2 รุ่นนั้นจะเป็นยังไงนั้น จะน่าใช้งานกันไหมไปชมรีวิวกันเลยสำหรับ A10 A20 ครับ

Samsung Galaxy A10 และ A20 นั้นเปิดตัวมาด้วยจุดเด่นที่มีราคาไม่แรงและปรับปรุงอะไรหลายๆอย่างจากแต่ก่อนค่อนข้างมาก มาพร้อมหน้าจอแบบ INFINITY Display แบบหยดน้ำด้วยกันทั้งคู่ และใช้หน้าจอ IPS และ Super AMOLED สำหรับรุ่น A20 แต่มาพร้อมด้วยความละเอียด HD+ เหมือนกันทั้งคู่ และได้ใช้งาน Android 9.0 ทั้งคู่กันเลยพร้อมระบบหน้าตาแบบใหม่จากทาง SAMSUNG ONE UI ต้องบอกว่าเรียบดูดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ

  • Samsung Galaxy A10 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน, สีดำ และสีแดง ราคา 4,490 บาท
  • Samsung Galaxy A20 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน, สีดำ และสีแดง ราคา 5,890 บาท

UNBOX

แกะกล่องกันก่อน ตัวกล่องนั้นมีขนาดเท่ากัน บอกชื่อรุ่นอะไรชัดเจน พร้อมรูป สีตัวเครื่องมาให้ครบเลยแหละและรวมถึงอุปกรณ์ในกล่องนั้นให้มาเหมือนกัน และแน่นอนว่ามีหูฟังมาให้อยู่เช่นเดิมสำหรับค่ายนี้ครับ และ จะมีแตกต่างกันเล็กน้อยในเรื่องของสายชาร์จและตัว Adaptor ชาร์จไฟที่ให้มาไม่เหมือนกันนิดหน่อยครับในทั้ง 2 รุ่นนี้

Samsung Galaxy A10

  • ตัวเครื่อง
  • สายชาร์จ Micro USB
  • ที่ชาร์จ 5V/1A
  • หูฟัง Earbud
  • คู่มือ ที่จิ้มซิม

Samsung Galaxy A20

  • ตัวเครื่อง
  • สายชาร์จ Type-C
  • ที่ชาร์จ 5V/2A
  • หูฟัง Earbud
  • คู่มือ ที่จิ้มซิม

DESIGN

การออกแบบในทั้ง 2 รุ่นนี้ไม่ได้แตกต่างกันมาก ยังคงใช้ดีไซน์ที่คล้ายๆกันทั้งการวางกล้อง รูปทรงอะไรทั้งหมดรวมถึงด้านหน้าจอที่มาพร้อมกับหน้าจอแบบเต็มตาแบบมีติ่งหยดน้ำด้วย ส่วนจำนวนกล้องนั้นก็มีแตกต่างกันไปครับรุ่น A10 นั้นจะเป็นกล้องเดี่ยว ไม่มีสแกนนิ้ว และในตัว A20 นั้นเป็นกล้องคู่ พร้อมสแกนนิ้วในด้านหลัง วัสดุเป็นพลาสติกด้วยกันทั้งคู่ครับ น้ำหนักการจับถืออะไรนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากค่อนข้างเบาและไม่ได้ใหญ่จนเกินไปครับ

หน้าจอในทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นหน้าจอแบบ Infinity V Display แบบติ่งหยดน้ำ หน้าจอในทั้ง 2 รุ่นเป็น HD+ เหมือนกัน แต่ในรุ่น A10 นั้นเป็นจอ IPS LCD HD+ ความละเอียด 1520×720 พิกเซล ขนาด 6.2 นิ้ว และ ในรุ่น A20 นั้นเป็นจอ SUPER AMOLED  HD+ ความละเอียด 1520×720 พิกเซล ขนาด 6.4 นิ้ว แตกต่างกันเล็กน้อยครับ

ในส่วนหน้าจอส่วนด้านบนนั้น เป็นหน้าจอแบบติ่งหยดน้ำรูปตัว V เป็นที่อยู่ของกล้องหน้า และเซนเซอร์ต่างๆรวมถึงการแทรกลำโพงอยู่ตรงขอบเครื่อง ตรงเหนือกล้องหน้าเหมือนกันทั้ง2 รุ่นครับในการออกแบบตรงส่วนนี้

ในส่วนของหน้าจอขอบล่างนั้น จะเป็นที่อยู่ของปุ่มควบคุมแบบเดียวกันทั้ง 2 รุ่น และในส่วนขอบหน้าจอนั้นด้านล่างจะมีความหนามากกว่าส่วนอื่นๆเล็กน้อยและทั้ง 2 รุ่นนี้นั้นมีขอบด้านล่างที่ขนาดเท่าๆกันครับ

ส่วนขอบเครื่องด้านล่างนั้น จะเริ่มแตกต่างกันหลักๆเลยครับ สีแดงคือ A20 นั้นขอบล่างจะเป็น ลำโพงหลัก รูไมค์ และ ช่อง USB Type-C และ รูหูฟัง 3.5 มม. ส่วนในรุ่นเล็กนั้นจะเป็น รูไมค์ รูMicro-USB และ รูหูฟัง 3.5 มม.

ขอบเครื่องด้านบน นั้นไม่มีอะไรแตกต่างกันครับ เป็นรูไมค์ทั้งคู่ แต่วางในตำแหน่งที่แตกต่างกันไป และมีความโค้งรับมือที่แตกต่างกันไปเล็กน้อยในส่วนของฝาหลัง ซึ่งของ A20 นั้นจะทำได้บางและโค้งรับมือได้ดีกว่านิดหน่อย

ขอบเครื่องด้านขวา นั้นเป็นที่อยู่ของปุ่ม เพิ่ม ลดเสียง และ ปุ่ม Power  ที่เป็นวัสดุแบบเดียวกันกับเครื่องทั้งหมดครับ

ส่วนขอบเครื่องด้านซ้าย นั้นเป็นที่อยู่ของ ถาดซิมที่รองรับ Triple Slot ที่รองรับทั้ง 2 ซิมและ 1 สำหรับเพิ่มความจุ Micro-SD นั้นเองครับอยู่ในตำแหน่งเดียวกันทั้ง 2 รุ่น

ในส่วนของฝาหลังนั้นมีพื้นผิววัสดุที่คล้ายกัน แต่มีการเล่นรายละเอียดที่แตกต่างกันเล็กน้อยครับ ของทาง A20 นั้นจะทำคล้ายๆกระจกเงา แต่ทาง A10 นั้นเหมือนมีเม็ดๆสีแทรกไปตรงฝาหลังทำให้สะท้อนกันคนละแบบเล็กน้อย ส่วนด้านการวางกล้องอะไรนั้นเหมือนกันแต่ต่างกันที่จำนวนกล้อง รวมถึง ลำโพงของรุ่น A10 นั้นจะอยู่ด้านหลัง และไม่มีสแกนนิ้ว แต่ของ A20 นั้นเป็น สแกนนิ้วและมีกล้อง 2 ตัวที่แตกต่างกันกับรุ่นเล็กครับ

กล้องหลังในรุ่นนี้ จะมีความแตกต่างกันไปทั้งเรื่องของ จำนวนกล้องที่ A20 มาพร้อมกล้องหลัง 2 ตัวรองรับมุมกว้าง และ มีสแกนนิ้วมือในด้านหลัง และ ในกล้องหลัง A10 นั้นมาพร้อมกล้องหลังตัวเดียว และ ไม่มีสแกนนิ้วนั้นเองครับ

SPEC

SAMSUNG GALAXY A10

  • หน้าจอ IPS ขนาด 6.2 นิ้ว ติ่งหน้าจอแบบ V Cut ความละเอียด HD+ 720 x 1520 pixels (271 ppi)
  • Android 9.0 Pie
  • Exynos 7884 Octa
  • GPU Mali-G71 MP2
  • RAM 2GB SOTRAGE 32GB รองรับ MicroSD 512GB
  • Wi-Fi 802.11 b/g/n
  • Bluetooth 5.0
  • microUSB 2.0
  • เซ็นเซอร์ Accelerometer, proximity,
  • แบตเตอรี่ความจุ 3,400 mAh
  • กล้องความละเอียด 13MP F1.9
  • กล้องหน้าความละเอียด 5MP F2.0 บันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD 30FPS

SAMSUNG GALAXY A20

  • หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ติ่งหน้าจอแบบ V Cut ความละเอียด HD+ 720 x 1560 pixels (268 ppi)
  • Android 9.0 Pie
  • Exynos 7884 Octa
  • GPU Mali-G71 MP2
  • RAM 3GB, STORAGE 32GB รองรับ MicroSD 512GB
  • Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.2, NFC
  • microUSB 2.0
  • เซนเซอร์ Fingerprint (rear-mounted), accelerometer, proximity, compass
  • แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh
  • กล้องคู่ความละเอียด 13MP F1.9 + 5MP F2.2 (Ultra Wide)
  • กล้องหน้าความละเอียด 8MP F2.0 บันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD 30FPS

PERFORMANCE 

ทางด้านประสิทธิภาพของทั้ง 2 รุ่นนี้ มาพร้อมกับ Exynos 7884 เหมือนกันแต่แตกต่างกันที่ RAM นิดหน่อย และหน่วยความจำนั้นเป็น EMMC 5.1 เท่ากันครับ ส่วนในเรื่องของ การรองรับ Wifi 5Ghz  นั้นไม่รองรับทั้งคู่ครับ และในเรื่องคะแนน Antutu นั้นค่อนข้างใกล้ๆกันครับไม่ต่างกันเท่าไรเพราะได้ CPU ตัวเดียวกัน และอีกจุดที่แตกต่างกันมากๆคงจะเป็นเรื่องของ Sensor ที่รองรับแตกต่างกันมากพอสมควรครับ โดยรุ่น A20 นั้นจะให้มาครบครันกว่ามาก

SOFTWARE 

One UI พร้อม Android9  การจัดวางอุณหภูมิอะไรก็ไปอยู่มุมซ้ายสวยงามเลยครับ ส่วนหน้าตารวมๆก็เรียบสวยขึ้นนะอันนี้แอบชอบครับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และในรุ่นเริ่มต้นทั้ง 2 รุ่นได้ใช้งานกันด้วยถือว่าเป็นจุดที่ดีอีกจุดของรุ่นนี้

 

 

SCREEN 

หน้าจอทั้ง 2 รุ่นนี้ ต้องขอชมการออกแบบก่อนเลยเพราะทำได้ค่อนข้างบางเต็มตาดีครับสำหรับหน้าจอแบบใหม่ ส่วนคุณภาพแตกต่างกันแบบค่อนข้างชัดเจนทั้งในเรื่องของมุมมองหรือความสดของหน้าจอรวมถึงตัวสีสันต่างๆครับ แน่นอนว่ามันเป็นจอคนละชนิดกัน หน้าจอของ A10 นั้นมาพร้อมกับ IPS LCD  แต่ของ A20 นั้นเป็นหน้าจอแบบ SUPER AMOLED เลยนั้นเองแน่นอนว่าตัว A20 นั้นทำออกมาได้ดีกว่าชัดเจนทั้งในเรื่องของสีตัวหน้าจอที่รองรับได้ดีมากกว่า ทั้งมิติแสงสี ที่แสดงผลออกมาครอบคลุมกว่ารวมถึง ความสว่างในการสู้แสงแดดที่ดีกว่าแบบชัดเจน ส่วนในตัว A10 นั้นก็ทำได้ดีตามเรทราคาของมันครับ สีต่างๆนั้นอาจจะดรอปลงเล็กน้อย และสู้แสงไม่ได้ดีมากนักครับ

มุมมองเมื่อมองเอียงๆแล้วนั้นข้อดีของ SUPER AMOLED นั้นทำให้สีนั้นไม่เพี้ยนและไม่ดรอปลง รวมถึงพวกสีเข้มสีดำนั้นจะดำสนิทมากกว่าพวกจอ LCD นั้นเองครับ จะเห็นได้ว่าของ A10 นั้นถ้ามองด้านข้างจะดูเพี้ยนเล็กน้อยและในส่วนของสีดำนั้นอาจจะไม่ได้สนิทมากครับแต่ก็ตามรุ่นของมันเพราะมันเป็นน้องเล็กสุดเลยในตระกูลของ GALAXY A แต่ที่ชอบคือการสัมผัสและใช้งานนั้นถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีทั้ง 2 รุ่นไม่หน่วงและสัมผัสได้ไวอยู่พอสมควรเลย

SOUND

ในเรื่องของเสียงกันบ้างทั้ง 2 รุ่นนี้มาพร้อมกับรูหูฟัง 3.5 มม. เหมือนกัน และรองรับเสียง Dolby Atmos ทั้งคู่ในการฟังผ่านหูฟัง รวมถึงรองรับการปรับแต่งเสียงเหมือนกันทั้งคู่ครับจากทีได้ลองฟังรวมนั้นก็ออกไปทางโทนเสียงทีเด่นในเรื่องของเสียงร้อง มิติเสียงกลางๆ แต่เสียงเบสหรือเสียงต่ำนั้นมาน้อยมากๆ เสียงแหลมจัดในบางจังหวะ  ถือว่าเรืองเสียงผ่านหูฟังนั้นกลางๆไม่ได้เด่นเท่าไรในเรทนี้เป็นเรื่องปกติ แต่ดีที่ระบบปรับแต่งเสียงนั้นมาให้เยอะพอสมควร

SPEAKER 

ทางด้านลำโพงนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากในเรื่องของเสียงแต่การวางตำแหน่งนั้นจะเป็นจุดสำคัญที่แตกต่างกันครับทางของ A10 นั้นจะวางอยู่ข้างหลังฝาหลังครับส่วนของ A20 นั้นจะวางอยู่ตรงขอบล่างของตัวเครื่องเหมือนรุ่นปกติทั่วไปเสียงที่ได้นั้นค่อนข้างฟังได้ชัดเจน แต่ไม่ได้ดังสะใจครับเสียงออกแหลมๆมากกว่าและ เน้นเสียงเรียกเข้าจะชัดเจน แต่ถ้าเอามาดูหนัง ฟังเพลงนั้นเสียงอาจจะไม่ได้เหมาะเท่าไรครับสำหรับ 2 รุ่นนี้ ระดับเสียงให้ความดังเท่าๆกันทั้งคู่

GPS

การทดสอบ GPS นั้นแน่นอนว่าในรุ่นล่างๆหรือราคาไม่แพงนั้นอาจจะไม่ได้เด่นมากนักครับ จากที่ทดสอบพรอมกันทั้งคู่นั้นจากการทดสอบ ในร่มและกลางแจ้งนะครับ ถือว่าหลังจากเปิดแอพและใช้งานนั้นใช้ระยะเวลานานพอสมควรในการจับครั้งแรก แต่เมื่อจับได้แล้วก็ค่อนข้างนิ่ง แม้จะไม่ได้เยอะมากแต่ก็พอใช้งานได้ครับ และจากที่ได้ลองใช้งานจริงๆก็พอไหวครับ คือนำทางได้โอเคในเมืองแต่ถ้า ใต้ทางด่วนอะไรพวกนี้อาจจะมีมึนๆหรือ หายไปต้องรอจับใหม่นิดหน่อยครับจากที่ทดสอบกันนั้นก็ถือว่าหันหัวได้ไวในตัว A20 ครับและนำทางได้ดีกว่า A10 เพราะตัวนี้ไม่มี Orientation Sensor และ Gyro อะไรพวกนี้ครับ ทำให้ไม่สามารถหันซ้ายขวาอะไรได้ในการเปิดแบบเข็มทิศ

CAMERA 

ในเรื่องของกล้องหลังนั้นก็แตกต่างกันแบบชัดเจนครับ ในรุ่น A10 มาพร้อมกับกล้องเดี่ยว 13MP F1.9 ถือว่ารูรับแสงกว้างมากๆตัวนึงในเรทราคานี้เลยแหละ ส่วนตัว A20 นั้นจะโหดขึ้นมาหน่อยมาพร้อมกล้องหลัง 2 ตัวที่รองรับเลนส์มุมกว้าง ซึ่งตัวหลักนั้น 13MP F1.9 เหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่ ตัวเลนส์มุมกว้าง 5MP F2.2 (Ultra Wide) รองรับมุม 120 องศาเลยทีเดียว และยังรองรับการถ่าย LiveFocus ด้วย ซึ่งในรุ่น A10 นั้นไม่มี ส่วนของโหมดโปรนั้นมีมาให้เหมือนกันแต่ไม่สามารถปรับอะไรได้ครับ ปรับได้แค่ ISO WB และ EV เท่านั้น

SAMSUNG GALAXY A10

SAMSUNG GALAXY A20 

SELFIES 

สำหรับสายถ่ายรูปกล้องหน้าทั้ง 2 รุ่นนี้มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ตัว A20 มาพร้อมความละเอียด 8 MP F2.0 แต่ตัว A10 นั้นมาพร้อมกับ 5MP F2.0 ความละเอียดนั้นแตกต่างกัน แต่เมื่อลองใช้งานจริงมุมมองก็แตกต่างกันด้วยตัวของ A20 นั้นก็จะมีมุมมองที่เก็บได้กว้างกว่าตัว A10 แบบชัดเจนในภาพจะเห็นได้เลยครับ รวมถึงความคมชัดและโทนสีนั้นของ A20 เหมือนจะทำได้ดีกว่าด้วยนั้นเอง ส่วนของ A20 นั้นจะมีอมแดงๆเล็กน้อยและรองรับ Live Focus

SAMSUNG GALAXY A10

SAMSUNG GALAXY A20 

SAMSUNG GALAXY A10 A20 

” เป็นรุ่นเล็กที่ทำออกมาถือว่าดีกว่าแต่ก่อนเยอะมากสู้ แบรนด์จีนได้สูสีขึ้น “

เป็นรุ่นที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดี เมื่อเรามองย้อนกลับไปรุ่นแรกๆพวก J พวกนั้นต้องบอกว่ารุ่นพวกนี้ทำออกมาดีจนน่าตกใจเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ทั้งหน้าจอ การออกแบบ กล้อง พอร์ตเชื่อมต่อ รวมถึงการรองรับอะไรหลายๆอย่างและที่สำคัญมาพร้อม ONE UI ซะด้วยครับถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างดี และ แบรนด์นี้ยังคงมีจุดแข็งเรื่อง การบริการอะไรอีกมากมายที่งความคุ้นเคยของคนที่เคยใช้งานมาก่อนก็ทำให้มองรุ่นพวกนี้ได้สบายในการเป็นตัวเลือกที่จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ในงบไม่แพง และสู้กับแบรนด์จีนได้สบายมากกว่าเดิม แต่ก็มีข้อสังเกตบางจุดนิดหน่อยในรุ่น A10 แต่ถ้ารับได้ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับสำหรับรุ่นนี้ และในตัว A20 ทำออกมาค่อนข้างครบครันต่อการใช้งานพอสมควรเลยนะ

ข้อดี

  • หน้าจอออกแบบได้เต็มตา สวย ขอบบาง
  • มาพร้อม Android 9.0 และ One UI ลื่นไหลพอสมควร
  • มาพร้อมกล้องมุมกว้างถ่ายสนุกใน A20
  • มาพร้อม USB-C ในรุ่น A20
  • กล้องหลังคุณภาพใช้งานได้ สมราคา
  • ลำโพงเสียงดังพอๆกันในทั้ง 2 รุ่นได้ยินชัดเจน
  • มีหูฟัง มาให้ในกล่องทั้งคู่
  • มี สแกนใบหน้ามาให้ทั้ง คู่
  • เป็นการพัฒนาขึ้นเยอะมากจากรุ่น J แต่ก่อน

ข้อสังเกต

  • ยังไม่รองรับ Wifi 5Ghz
  • A10 ยังขาดเซนเซอร์หลายๆตัว
  • กล้องหน้ายังไม่ค่อยดีนัก

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

*รูปถ่ายจากกล้องมือถือทุกรูป ไม่มีการปรับแต่ง และ สามารถกดดูไฟล์เต็มแบบต้นฉบับได้นะครับ