เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้สำหรับทางค่าย Samsung ลงมาลุยตลาด Smartband มากขึ้นนอกเหนือจากสาย Watch ที่ก็ทำออกมาได้ดีครับ ในครั้งนี้เปิดตัวมาด้วยกัน 2 รุ่น ซึ่งมีในเรทราคาตัวเริ่มต้นที่จับต้องได้ง่าย และ รองรับการวัดชีพจรต่างๆใช้งานทั่วไปได้ในรุ่น FIT-e และ อีกรุ่นคือรุ่นพี่ในเรทราคาที่แพงกว่า FIT ได้หน้าจอสี รวมถึงเซนเซอร์ต่างๆที่ดีกว่ารุ่นเล็กครับรวมถึงการออกแบบอะไรต่างๆนั้นก็ทำได้แตกต่างกันเล็กน้อย แน่นอนว่าออกมาสู้กับ Smartband หลายๆเจ้าที่ออกมาก่อนจริงๆนั้นถือว่าทำสเปคหน้าตา และรวมถึงราคาออกมาได้ดีพอสมควรส่วนในการใช้งานจริงๆนั้นจะเป็นยังไงบ้างก็ต้องลองใช้กันครับ และ อยู่ในเรทราคาที่แตกต่างกันประมาณ 2,000 บาท

SAMSUNG GALAXY FIT – FIT-E นั้นเปิดตัวมาด้วยความสามารถที่เน้นใช้งานทั่วไปได้ค่อนข้างดีครับ ความสามารถหลักๆของมันที่ใกล้เคียงกันนั้นจะเป็นในเรื่องของ กันน้ำ 5 ATM ลงน้ำได้ 50 เมตร มี HeartRate Sensor มาให้ทั้งคู่ และ ใช้งาน Bluetooth 5.0 เช่นกันครับ รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ และ มีการแจ้งเตือนอะไรให้มาครบเหมือนกัน แต่ในส่วนที่แตกต่างกันชัดเจนเลยคงหนีไม่พ้นในเรื่องของหน้าจอ ที่รุ่น FIT จะเป็นหน้าจอสี AMOLED 0.95 นิ้ว แบบสีเต็มรุปแบบ และ สัมผัสหน้าจอได้ แต่ในรุ่น FIT-e นั้น PMOLED 0.74 นิ้ว เป็นแบบขาวดำครับและไม่สามารถสัมผัสได้ ใช้เซนเซอร์ตรวจการเคลื่อนไหวเช่นเวลาเคาะ หรือ แตะขอบเครื่องทั้งหลายนั้นเอง และ เซนเซอร์ในรุ่น FIT นั้นจะมี Accelerometer + Gyroscope แต่ในรุ่น Fit-e จะไม่มี Gyroscope ครับ

  • ในด้านของราคานั้น GALAXY FIT เปิดราคามาที่ 3,290 บาท มาพร้อม ขาว และ ดำ ส่วน GALAXY FIT-e นั้นเปิดราคามาที่ 1,290 บาท มาพร้อมสี ขาว ดำ เหลืองครับ ต่างกันประมาณ 2,000 บาท และต่างกันตามที่แจ้ง

UNBOX

อุปกรณ์ในกล่องนั้นให้มาเหมือนกันมีทั้งคู่มือ และ สายชาร์จ แบบหัว USB-A แน่นอนว่าทั้ง 2 รุ่นนั้นไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้รวมถึงหัวชาร์จ และ ตัวที่เสียบก็คนละแบบกันครับแน่นอนว่าน่าเสียดายจริงๆถ้าทำใช้อันเดียวกันนั้นน่าจะดีกว่าทั้งในเรื่องของอะไหล่และ การเปลี่ยนหรือการใช้งานร่วมกันได้ถ้าเผื่อใช้กันหลากหลายรุ่นในบ้านเดียวกัน

DESIGN 

ในด้านการออกแบบนั้นจะเป็นเอกลักษณ์เดียวกันมาในทรงเหลี่ยมทั้งคู่แต่แตกต่างกันเรื่องของวัสดุ การเสริมขอบต่างๆรวมถึงแนวทางนั้นเหมือนจะแตกต่างกันแบบชัดเจนในรุ่นเล็กสีเหลืองนั้นจะเน้นไปทางออกกำลังกายมากๆและสปอร์ตกว่าใช้วัสดุอะไรเป็นพลาสติกเรียบๆครับ แต่ในรุ่นพี่นั้นจะเน้นความหรูหราขึ้นมาอีกรวมถึงวัสดุขนาดอะไรก็ดีกว่าเดิมและหน้าจอเด่นๆเลยที่แตกต่างกัน รวมถึงตัวที่ชาร์จก็เป็นแบบแม่เหล็กดูดเล็กน้อย แต่รุ่นน้องมันเป็นตัวล็อคปกติครับ ส่วนเรื่องตัวเรือนนั้นตัวเล็กก็จะสามารถถอดเรือนออกมาได้เลยแต่ตัวใหญ่นั้นจะเป็นการแกะสาย 2 ข้าง

หน้าจอนั้นก็แตกต่างกันในรุ่น FIT นั้นจะเป็นหน้าจอระบบสัมผัส สามารถแตะ ปัดซ้ายขวาขึ้นลงได้ หน้าจอ สี AMOLED 0.96 นิ้ว แต่ในรุ่น FIT-e นั้นจะเป็นหน้าจอแบบ POLED ขาวดำ และ ไม่มีระบบสัมผัสครับ ใช้งานโดยการเคาะตัวเรือนตรงไหนก็ได้ครับ ส่วนขนาดหน้าจอเป็น 0.74 นิ้วเท่านั้น ส่วนการมองเห็นนั้นพอๆกันสู้แสงได้ดีทั้งคู่ครับ ในด้านหลังนั้นจะแตกต่างกันอีก เพราะในรุ่น FIT นั้นจะเป็นชาร์จแบบแม่เหล็กดูด แต่ในตัว FIT-e นั้นจะเป็นตัวล็อคปกติต้องเสียบให้เข้าล็อคถึงจะชาร์จได้ครับ ส่วนเซนเซอร์การวัดชีพจรนั้นมีมาให้เหมือนกันแบบเดียวกันครับ

เมื่อมองจากด้านข่างนั้นความหนาไม่ได้แตกต่างกันเท่าไรครับถือว่าใส่ได้ทั้ง ผช และ ผญ ขนาดกำลังดีไม่เทอะทะและไม่เล็กเกินไปส่วนตัวเรือนของ FIT สีขาวนั้นจะเห็นว่าตัวเรือนนั้นจะมีวัสดุที่ดีกว่า และ มีการเล่นลวดลายเล็กน้อย และในด้านซ้ายนั้นจะเป็นปุ่มครับ ส่วนตัว FIT-e นั้นจะไม่มีปุ่มอะไรเลย ซึ่งจะเป็นการใช้งานควบคุมแบบเคาะตัวเรือนเอา และหน้าจอก็ไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยครับสำหรับตัว FIT-e ส่วนตัวสายนั้นจะใกล้เคียงกันตั้งแนวการใส่และวัสดุ

ตัวล็อคนั้นแตกต่างกันเล็กน้อยครับตัวของ FIT นั้นจะเป็นตัวล็อคที่เป็นชิ้นเดียวกับตัวสายเลย และสามารถเก็บสายอะไรได้ไว้ใต้เส้นหลัก แต่ส่วนของ FIT-e นั้นจะเป็นตัวล็อคแบบพลาสติกใสสามารถเลื่อนหมุนอะไรได้นิดหน่อย แต่การเก็บกสายอะไรทั้งหลายนั้นไม่แตกต่างกันครับ และตัวสายของสีขาวนั้นจะล็อคแบบแยกเส้นกันซ้ายขวา แต่ถ้าของ FIT-e นั้นจะเป็นสายเส้นเดียวและตัวเรือนสามารถแกะแงะออกมาได้เลยทั้งหมดครับ ทั้ง 2 รุ่นเปลี่ยนสายได้ครับ

SPEC GALAXY FIT

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 0.95 นิ้ว ความละเอียด 128 × 240 พิกเซล 16 ล้านสี
  • รองรับระบบสัมผัสหน้าจอ
  • หน่วยความจำ RAM 2MB /  ROM 32MB
  • แบตเตอรี่ 120mAh (ใช้งานปกติ 1 สัปดาห์ / โหมดประหยัดพลังงาน 11 วัน)
  • Bluetooth 5.0 BLE
  • เซนเซอร์ Accelerometer + Gyroscope
  • เซนเซอร์ วัดอัตราการเต้นหัวใจ
  • ระบบสั่นแจ้งเตือน รองรับในหลายๆแอพ พร้อมตอบด่วนได้
  • กันน้ำที่ 5ATM ลงน้ำได้ 50 เมตร
  • สีที่วางจำหน่าย ขาว, ดำ, เหลือง
  • น้ำหนัก 23 กรัม

SPEC GALAXY FIT-E

  • หน้าจอ PMOLED ขนาด 0.74 นิ้ว ความละเอียด 128 × 64 พิกเซล แบบขาวดำ
  • ไม่รองรับระบบสัมผัส ใช้การเคาะตัวเครื่อง
  • หน่วยความจำ RAM 128KB /  ROM 4MB
  • แบตเตอรี่ 70mAh (ใช้งานปกติ 1 สัปดาห์ / โหมดประหยัดพลังงาน 13 วัน)
  • Bluetooth 5.0 BLE
  • เซนเซอร์ Accelerometer
  • เซนเซอร์ วัดอัตราการเต้นหัวใจ
  • ระบบสั่นแจ้งเตือน รองรับในหลายๆแอพ
  • กันน้ำที่ 5ATM ลงน้ำได้ 50 เมตร
  • สีที่วางจำหน่าย ขาว, ดำ, เหลือง
  • น้ำหนัก 15 กรัม

SOFTWARE 

ทางด้าน Software ทั้ง 2 รุ่นนั้นจะใช้งาน Wear ของทาง Samsung เหมือนกันครับและสามารถเชื่อมต่อได้ง่ายเลยทั้ง 2 ตัวเมื่อเชื่อมต่อแล้วก็จะสามารถเปลี่ยนหน้าตาได้ทั้ง 2 รุ่นรวมถึงดูสถานะแบต และใช้งานตั้งค่าต่างการแจ้งเตือน เลือกเวลาตั้งปลุก ตั้งการสั่น รวมถึงหน้าจอได้ แต่แน่นอนครับว่าทั้ง2 รุ่นก็จะมีรายละเอียดแตกต่างกัน แต่เรื่องของการเปลี่ยนหน้าตา รวมถึง การตั้งค่าในภาพรวมนั้นยังคงเหมือนกัน และแน่นอนรองรับภาษาไทยทั้งคู่ครับ

จะเห็นค่อนข้างชัดว่าหลักๆหน้าตา Watchface นั้นแตกต่างกันรวมถึงตัวเลือกที่ไม่เหมือนกันแต่ทั้งคู่ก็ถือว่าหน้าตายังน้อยและปรับแต่งได้ค่อนข้างน้อยกว่าคู่แข่งพอสมควรครับและไม่สามารถจัดวางอะไรเองได้ ส่วนการตั้งค่านั้น แตกต่างกันเล็กน้อยในเรื่องของการตั้งการตอบกลับ การตั้งเวลาหน้าจอ รวมถึงการปลุกหน้าจอต่างๆก็แตกต่างกันครับ เพราะในตัว FIT E นั้นจะไม่มีการตั้งค่าหน้าจอมาให้เลย และ การตอบกลับเร่งด่วนก็ไม่มีมาให้นั้นเองครับ

ตัวแอพที่ต้องใช้งานอีกอันนึงก็คือในด้านของ Samsung Health นั้นเองที่จะเป้นตัวสำคัญหลักๆที่จะเชื่อมข้อมูลจาก Galaxy Fit ไปยังสมาร์ทโฟน พร้อมวิเคราะห์ และยังช่วยสรุปข้อมูลให้ผู้ใช้งาน ในแต่ละวัน และยังเก็บข้อมูลและดูได้ง่ายครับ รองรับทั้ง 2 รุ่นและฟีเจอร์ครบเหมือนกันทั้งหมด และ สามารถดูผ่านตัวมือถือได้เลยครับ

ในส่วนการแทรคทั้งหมดนั้นจะรองรับเหมือนกันผ่านแอพ Health นั้นเองครับสามารถใช้งานได้เหมือนกันทั้งคู่รายละเอียดต่างๆรองรับเหมือนกันทั้งหมด และแน่นอนว่าเป็นยี่ห้อที่เลือกกีฬาได้เยอะและครอบคลุมมากๆครับเยอะที่สุดที่เคยลองหรือเจอมาในแบรนด์อื่นๆเลยครับ ส่วนการว่ายน้ำก็จับได้แม่นและจับท่าทางระยะทางได้ค่อนข้างเป๊ะเลย

GALAXY FIT

ในรุ่น FIT นั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยและแน่นอนว่าหน้าจอสวยและแสดงผลได้ดีกว่ารวมถึงมีปุ่มควบคุมในด้านขวาและหน้าจอก็สามารถสัมผัสได้ครับ ในเรื่องของการใช้งานแน่นอนว่ารุ่นนี้จะทำได้ดีกว่าในตัวเองสามารถตั้งค่า ตั้งหน้าจออะไรได้ เข้าใช้งานโหมดต่างๆได้ด้วยบนตัวนาฬิกาเลยไม่ต้องพึ่งมือถือมากนัก และเลื่อนดูแจ้งเตือนอะไรได้ทั้งหมด และสามารถใช้งานควบคุมเพลงได้ครับจะเป็นการควบคุมผ่านตัวแจ้งเตือน นั้นเองครับ ส่วนตัวออกกำลังก็มาให้ครบเลือกได้ว่าจะว่ายน้ำ วิ่ง ต่างๆก็สามารถเข้าไปผ่านตัวนาฬิกาได้เลย และก็จะจับเวลาแจ้งเตือนอะไรได้ปกติ

แน่นอนว่าเมื่อเป็นหน้าจอสีเวลาแจ้งเตือนมาก็จะบอก โลโก้ APP เป็นสีของแต่ละแอพ และบอกชื่อคนส่งรวมถึงสามารถแตะดูข้อความและตอบกลับแบบด่วนได้ตามข้อความที่เราตั้งค่าได้ครับ ส่วนการแจ้งเตือนเวลาคนโทรมาก็จะสามารถแตะตัดสายอะไรได้ครับรวมถึงบอกชื่อคนที่โทรหรือเบอร์คนที่โทรเข้ามาได้ และแน่นอนว่ารองรับภาษาไทยได้ซึ่งจะเป็นจุดแตกต่างกันหลักๆของระหว่าง 2 รุ่นครับ ส่วนความแม่นยำในการใช้งานทั่ง ชีพจร และอื่นๆนั้นทำได้ดีเหมือนกัน และ ในการแจ้งเตือนก็ทำได้ไวด้วยกันทั้งคู่จากที่ลองมาแต่จะแตกต่างกันแค่ในเรื่องของหน้าตานั้นเอง
ในแง่ของการใส่นั้นทำได้สบายและไม่ได้ติดปัญหาอะไรครับทั้งเรื่องของขนาดและวัสดุของตัวสายสามารถเก็บสายได้แบบเนียบๆไปทางด้านหลังของสายหลักแม้ตอนใส่อาจจะยากนิดนึงถ้าสายมันเหลือเยอะครับ ส่วนตัวเรือนนั้นปุ่มในด้านขวาก็สามารถใช้งานได้ค่อนข้างสะดวกและสั่งงานได้ดีและหน้าจอก็รองรับระบบสัมผัสสั่งงานได้ไม่มีปัญหาเลย แต่ตัวเรือนถ้าสังเกตดีๆนั้นจะไม่ได้โค้งรับข้อมือเท่าไรนักอาจจะไม่ได้กระชับเท่าที่ควรครับ

GALAXY FIT-e

ในตัวของ Galaxy FIT-e นั้นจะเห็นจุดต่างกันหลักๆคือหน้าจอเป็นแบบขาวดำ และการใช้งานนั้นไม่ใช่หน้าจอระบบสัมผัสครับ แต่สามารถแตะควบคุมได้ทุกด้านของเรือนคือง่ายๆมันจะจับแรงสะเทือนของตัวเรือนคล้ายๆจับการเคาะตัวเรือนครับจะค่อนข้างใช้งานค่อนข้างลำบากไปหน่อย คือจะไม่ได้แม่นยำมากนัก บางทีก็แอบเคาะยากหรือบางทีอาจจะไม่ได้แม่นมากนักครับจริงๆถ้าเป็นปุ่มไปเลยน่าจะดีกว่า ส่วนตัว FIT-E นั้นจะมีฟีเจอร์น้อยกว่าคือจะเน้นไปการแสดงผลเป็นหน้าๆมากกว่าไม่สามารถเข้าโหมดวิ่งเลือกโหมดออกกำลังกายอะไรได้ หรือ เข้าใช้งานตั้งค่า ดูข้อมูลลึกได้ครับเพราะควบคุมได้น้อยกว่า จะเน้นไปที่การควบคุมผ่านมือถือ หรือตั้งค่าบนตัวแอพบนมือถือกว่าครับ

ในด้านการแจ้งเตือนของรุ่นนี้จะไม่ได้มีการโชว์ว่าส่งอะไรมาหรือตอบกลับแบบด่วนได้ครับเพราะไม่มีให้เลือกใช้งานและการควบคุมที่น้อยกว่า ส่วนภาษาไทยนั้นรองรับครับเพราะจากที่ลองนั้นเมื่อมีการแจ้งเตือนจากทาง Youtube นั้นก็สามารถแจ้งเตือนภาษาไทยได้เวลามีคนมา Comments ทางช่องของเราก็สามารถอ่านได้เลยครับ แต่ของไลน์นั้นไม่ชึ้นมาให้อ่านนะจากที่ทดลอง แต่ที่ชอบคือการสั่นของมันสั่นค่อนข้างแรงและรู้สึกตัวได้ง่ายมากๆเลยครับ

ในการใส่นั้นไม่ได้ติดปัญหาแม้แต่นอนคือสามารถใช้งานใส่ได้ทั้งวันทั้งตัวสายที่ใส่สบายและตัวเรือนที่มีน้ำหนักเบารวมถึงขนาดไม่ได้ใหญ่มากด้วยนั้นเองแน่นอนทำให้มันค่อนข้างใส่ออกกำลังอะไรได้ปกติครับ ตัวสายก็ล็อคคอ่นข้างแน่นดีมากๆ รวมถึงการเก็บตัวสายก็สามารถซ่อนไว้ข้างหลังแบบเนียนๆ แต่จะติดแค่การควบคุมปุ่มของมันที่อาจจะไม่ได้ดีมากเท่าไรเพราะการเคาะของมันนั้นจะติดค่อนข้างยากไปหน่อยในบางครั้งครับจะไม่เหมือนกับปุ่มหรือสัมผัส

SAMSUNG GALAXY FIT / GALAXY FIT-E

ทั้ง 2 รุ่นนั้นถือว่าเป็น Smartband ที่ทำออกมาได้ดีเมื่อเทียบกับฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ของมันแน่นอนว่าในเรทราคาตัวเริ่มต้นนั้นอาจจะเสียเปรียบในเรื่องของการใช้งานเมื่อเทียบกับตัว miband 4 ครับทั้งเรื่องหน้าจอและการควบคุมแต่ถ้าหากใครใช้งานพวกสินค้าของแบรนด์ Samsung อยู่แล้วนั้นตัวเลือกก็อาจจะเทมารุ่นนี้มากกว่าในการใช้งานเชื่อมต่อที่อาจจะสะดวกกว่า แต่ที่น่าสนใจคือรุ่น FIT นั้นทำออกมาได้ดีเลยแหละทั้งหน้าจอ ดีไซน์การควบคุมรวมถึงการใช้งานฟีเจอร์ทั้งหลากหลายอย่างที่ไม่ต้องพึ่งมือถือมากเกินไปครับ ส่วนตัวเล็กนั้นจะเน้นใส่เก็บข้อมูลมากกว่า แบบไม่ได้สนใจอะไรกับมันมากคือใส่ทิ้งไว้เก็บข้อมูล แต่ถ้าตัวรุ่นพี่นั้นจะเน้นใส่เพื่อใช้งานแบบเต็มที่มากกว่าครับ ส่วนข้อสังเกตหลักๆคงไม่ได้มีอะไรมากแต่จะเป็นพวก การควบคุมของรุ่นเล็ก รวมถึงเรื่องอุปกรณ์เสริมต่างๆที่อาจจะยังน้อยอยู่ และ ไม่มี GPS มาให้อาจจะต้องพกมือถือเวลาไปวิ่งอะไรพวกนี้นั้นเองครับ และไม่สามารถปิดเครื่องได้

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr