รถยนต์ในยุคก่อนๆหรือใครที่ใช้งานรถยุคก่อนอยู่จะพอทราบกันดีเลยว่าการที่จะเปลี่ยนไปใช้งานหน้าจอติดรถยนต์หรือวิทยุที่มาพร้อมกับหน้าจอนั้นจะค่อนข้างหายากมากๆ และถ้ามีก็จะเป็นแบบ Pop-Up ที่หน้าจะจะเลื่อนขึ้นมาเวลาเปิด หรือ ว่าจะเป็นแบบ FIX ตายตัวแต่ก็ต้องเจาะคอนโซลรถยนต์ของเราใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าบางคันอาจจะเจาะไม่ได้หรือว่าพื้นที่ไม่พอ และแน่นอน รถแอดมินเองซึ่งคันนี้เป็นรถยนต์แอดที่กำลังหาเปลี่ยนหน้าจอติดรถอยู่จึงเกิดมาเป็นรีวิวที่ใช้งานจริง ใช้เองจริงๆเลยอยากมาแบ่งปันรีวิวเผื่อใครที่กำลังหาจอติดรถใช้งานกันอยู่ และเป็นแบบช่องเล็ก 1 DIN นั้นเอง ซึ่งแอดจะติดบนรถ Jeep Cherokee XJ 2000 ซึ่งมันมีข้อจำกัดเยอะเหมือนกัน เลยจะมาเล่ากันว่าทำไมแอดถึงเลือกซื้อ SONY AX8100 ตัวนี้ และเหตุผลที่เปลี่ยนเพราะว่าอยากจะใช้งานระบบที่นิ่ง ลื่นๆ และรองรับ Apple Carplay – Android Auto แบบรถยนต์สมัยใหม่ที่ต้องบอกว่ามีแทบทุกคัน เลยจะมาอัปเกรดรถตัวเองกัน
SONY AX8100 ตัวนี้ถือว่าน่าสนใจ ถ้ามองในตลาดไทยมีตัวเลือกแบรนด์หลักๆไม่กี่แบรนด์ ที่ไม่เลือกตัวบรรดาหน้าจอจีนเพราะว่า กังวลเรื่องการรองรับ Android Auto – Carplay พวกนี้ไม่อาจจะไม่สเถียร รวมถึงความทนทานต่อการใช้งานสภาพอากาศและราคาก็ไม่ได้หนีกันมากขนาดนั้นเพราะแบรนด์จีนเราจะเห็นในเรท 13-16K กันแล้ว และทาง SONY จะเด่นๆที่ระบบการรองรับ และตัวเครื่องปรับแต่งได้อิสระ เลื่อนขึ้นลง เข้าออก และเอียงหน้าจอขึ้นลงได้อิสระมากกว่าแบรนด์อื่นๆในระดับเดียวกันครับ รวมถึงเป็นรุ่นปี 2021 ล่าสุดด้วยเช่นกันใน AX8100 ตัวนี้
มาพร้อมกับสเปก หน้าจอ HD ขนาด 8.95 นิ้ว, จอทัชสกรีนแบบป้องกันแสงสะท้อน, ขายึดจอปรับได้ 3 ทิศทาง สามารถติดตั้งได้กับรถหลายประเภท, ช่องเสียบคีย์อลูมิเนียมแบบปัดเงา ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์, รองรับการเชื่อมต่อ 3-Pre-Out สามารถปรับแต่งระบบเสียงได้เต็มรูปแบบ ทำงานร่วมกับซับวูฟเฟอร์, โมโนแอมพลิฟลายเออร์ และแอมพลิฟลายเออร์แบบ 4 แชนแนล และ รองรับการเชื่อต่อสมาร์ตโฟนด้วย Android Auto™, Apple CarPlay™, สามารถโทรออก / รับสาย / ส่งและรับข้อความ รวมถึงการแสดงเส้นทางให้เหมาะกับสภาพการจราจร เพิ่มความสะดวกด้วย WebLink® Cast มากับการประมวลผลเสียงแบบดิจิทัล (DSP) ผู้ขับสามารถปรับแต่งเสียงได้ผ่าน Equalizer 10-band (EQ10) และ Dynamic Stage Organizer (DSO) พร้อมพรีเซ็ต 10 รูปแบบ ตัวระบบรองรับไฟล์เสียง Lossless Audio Codec (FLAC) และสามารถเล่นไฟล์ FLAC ที่มีระดับความลึก 24 บิท และความถี่ในการสุ่มตัวอย่างที่ 48 เฮิรทซ์ ถือว่าสเปกทั้งเรื่องการขับเสียง และการรองรับเพียงพออย่างมาก
PRICE ในราคา 19,990-21,990 บาท ในบางร้านค้า และ เปิดตัวราคา 21,990 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี จากทาง SONY THAILAND นะครับ
UNBOX
ตัวกล่องเองนั้นดีไซน์บอกชัดเจนว่ามีฟีเจอร์การใช้งานอะไรยังกันบ้างพร้อมกับรูปทรงหน้าจอดีไซน์ครบชัดเจนนั้นเองบอกทั้งหมดเลยว่ารองรับอะไรบ้างทั้ง Apple Carplay – Android Auto -HDMI – WEBLINK และบอกสเปกการรองรับเสียงต่างๆ การขับลำโพงขนาดหน้าจอรวมถึงฟีเจอร์เสียงทั้งหลายซึ่งตัวนี้ถือว่าครบมากๆตัวนึงในตลาด
อุปกรณ์ในกล่องเองนั้นให้มาครบในแง่ของวิทยุติดรถยนต์ทั้งหมดอาจจะมีเรื่องของสายไฟค่อนข้างเยอะสำหรับการเชื่อมต่อทั้งแบบ ต่อปกติ หรือจะต่อสายควบคมบนพวงมาลัย และ ฝาครอบต่างๆในการปิดส่วนหลังหน้าจอ และสาย USB-A ที่จะให้มา 2 สายเพราะว่าแล้วแต่รถจะต่อสายยาวแค่ไหนในการเชื่อมต่อ สำหรีบเสียบ มือถือ หรือ USB-Drive ต่างๆนั้นเองครับ ส่วน HDMI ไม่มีสายมาให้นะ และแน่นอนว่ามีคู่มือ และ ไมค์สายสำหรับสั่งงานระบบเสียง และรีโมตควบคุมให้มาครบพร้อมใช้งาน และตัวจอ และ DIN จะแยกจากกันนะครับ สามารถเสียบต่อได้ง่ายเช่นกัน
DESIGN
งานออกแบบตัวหน้าจอเมื่อติดตั้งไปเรียบร้อยนั้นถือว่าดูดีเนียนไปพอสมควร ด้วยความที่หน้าจอตัวนี้สามารถปรับได้อิสระอย่างมากทำให้สามารถขึ้นลง เลื่อนหน้าหลัง และเอียงบนองศาหน้าได้ทำให้สามารถหลบช่องแอร์ด้านบน หรือ ทำให้เนียนไปกับคอนโซลเดิมได้ง่ายโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยน ไม่ต้องเจาะคอนโซลเดิมเลยแม้แต่น้อยครับถือว่าเป็นจุดที่แอดมินเองพยายามหาแนวทางนี้อยู่ ต้องบอกก่อนว่า Jeep จะเป็น 1.5 DIN ซึ่งจะใส่จอ 2DIN ไม่ได้ ต้องเจาะเพิ่มเท่านั้นเลยทำให้ 1DIN แบบนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งาน และแน่นอนว่าใครที่ใช้รุ่นเก่าๆที่อาจจะมีการบังปุ่ม บังแอร์ การติดหน้าจอแบบนี้ดีกว่าแบบ POP-UP ชัดเจนและมีความแข็งแรงกว่ามากเช่นกันส่วนงานออกแบบหน้าจอ ขอบหน้าจอหนากลางๆ ไม่ได้บางหรือหนาเกินไป พร้อมกับวัสดุพลาสติก และ อลูมิเนียมส่วนขอบล่างเข้ามา
เมื่อมาดูปุ่มข้างล่างเราจะเห็นว่าเป็นแบบปุ่มกดทั้งหมด ไม่ใช่ระบบสัมผัสซึ่งส่วนตัวชอบแบบปุ่มกดมากกว่าสามารถกดได้ง่ายโดยที่ไม่ต้องหันมามองรวมถึงด้วยขนาดหน้าจอ และขนาดปุ่มที่ใกล้กันถ้าเป็นสัมผัสนั้นใช้งานยากแน่นอนครับทำแบบปุ่มนี้ใช้งานสะดวกกว่ามาก และยังมีไฟส่องสว่างตามปุ่มปรับได้ 4 ระดับเลยทีเดียว แต่ตรงโลโก้นั้นจะเป็นแค่สีเงินเท่านั้นไม่ได้มีไฟส่องสว่างตรงโลโก้ SONY นะครับ ส่วนปุ่มสั่งงานได้ดี แน่นและดูแข็งแรงพอสมควร เป็นปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ปุ่ม ATT คือปุ่มลดทอนเสียงเวลาให้หรี่เสี่ยงแบบด่วนคล้ายๆ MUTE นั้นเองครับ
หน้าจอขนาดใหญ่มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสแบบ CAPACITIVE แน่นอนว่าจอติดรถยนต์ส่วนใหญ่จะยังคงใช้งานหน้าจอแบบนี้แต่พัฒนาขึ้นมากกว่ายุคก่อนๆเยอะครับสัมผัสเนียนลื่นไหลและติดนิ้วมากกว่าเดิมรวมถึงเป็นหน้าจอแบบด้านทำให้ใช้งานไม่สะท้อนแสง และ ไม่เลอะรอยนิ้วมือด้วยเช่นกันมาพร้อมกับขอบหน้าจอที่มีระดับนูนขึ้นมา
ในแง่ขององศาการเปลี่ยนต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้ปรับได้ดีมากๆทั้งการเอียง เลื่อนหน้าหลัง และ เลื่อนขึ้นลงทำให้มันสามารถรองรับกับรถยนต์หลายๆคันได้ และหลบช่องแอร์ของผมได้ด้วยเช่นกันถือว่าตอบโจทย์ทันที และชอบที่ตัวล็อกนั้นแน่นหนามากๆ ถ้าจะเปลี่ยนมุมเราต้องขันน็อตทั้งหมดไม่สามารถดึงหรือบิดได้เลย เป็นการออกแบบที่เน้นความแข็งแรงเป็นหลักแน่นอนว่าเราคงไม่เปลี่ยนองศาบ่อยๆเวลาขับครับ ทำให้จุดนี้ส่วนตัวชอบมากกว่าตัวอื่นๆที่ปรับได้เลย และการที่ยื่นออกมาทำให้สามารถหลบพวกคอนโซลในรถคันอื่นๆได้ง่ายเช่น Jeep XJ รุ่นก่อนๆหรือ ZJ ครับ
มาดูก่อนที่เราจะติดตั้งเราจะเห็นว่าหน้าจอด้านหลังเก็บงานได้ดีและตัวพอร์ตเชื่อมต่อล็อกได้แน่นและแข็งแรงมากๆ ด้านหลังมีที่เก็บสายUSB เป็นร่องให้เรียบร้อย ถือว่าค่ายนี้เน้นเรื่องนี้มาให้ดีมากๆ หรือจะเสียบตรงจากจอก็ทำได้ด้านข้างเราจะเห็นตัวข้อพับต่างๆที่เลื่อนขึ้นลงได้ตามองศา และตามระดับของตัวน็อตแบบละเอียดเลยทีเดียวครับ
ในการออกแบบพอร์ตด้านหลังก็ให้มาครบพร้อมใช้งานรองรับ กล้องหลัง ไมค์ เสียงหน้าหลังและ SubWoofer รวมถึงตัวช่องเสียบถ้ามีการเชื่อมกับพวงมาลัยรถรุ่นนี้ก็สามารถใช้งานได้ด้วยเช่นกันถ้าคันไหนมีการปรับบนพวงมาลัยแต่จุดที่แตกต่างกับค่ายอื่นๆตัวนี้จะไม่ได้ใส่ USB HDMI มาให้ด้านหลังแต่จะใส่เข้ามาให้ใต้หน้าจอเลยนั้นเองซึ่ง USB-A ใต้หน้าจอจะเสียบตรงๆจากหน้าจอเลยก็ได้ หรือว่าจะใช้สายต่อเพิ่มความยาว โยงไปข้างหลังก็ทำได้เช่นกันทาง SONY คิดมาให้แล้วทั้งด้านหน้า หรือจะต่อมาด้านหลังได้ทั้งหมด มีสายมาให้ 2 ความยาวครับ และทางด้าน HDMI สามารถเสียบตรงเข้าจอได้เลยง่ายๆสำหรับใครที่อยากเอาภาพมือถือขึ้นหน้าจอแบบไวๆไม่ยุ่งยากครับตัวนี้
รีโมท SONY AX8100 ตัวนี้ให้มาด้วยเช่นกันแม้จะไม่ค่อยมีคนใช้งานกันเท่าไรแต่ก็สามารถสั่งงานพื้นฐานได้ครบอาจจะเหมาะสำหรับคนนั่งข้างหลัง แต่ด้วยรุ่นใหม่ๆเป็นหน้าจอสัมผัสแล้วอาจจะไม่ค่อยถนัดในการใช้งานมากนัก
SPEC
- Apple CarPlay ร่วมกับ IPhone / Android Auto มือถือแอนดรอยด์
- การเชื่อมต่อ HDMI กับอุปกรณ์เสริมเช่น กล่องแอนดรอยANDROID BOX , TV DIGITALกล่องทีวีดิจิทัลรถยนต์ได้
- จอแสดงผลขนาดใหญ่ 8.95 นิ้ว HD 800 x 480 TFT Active Matrix 400 cd / m2
- “Antiglare” Clear Responsive Touchscreen หน้าจอสัมผัสแบบป้องกันแสงสะท้อน
- ขายึดจอแสดงผลแบบปรับได้ 3 ทิศทาง
- WebLinkฟังก์ชันในการสะท้อนหน้าจอสมาร์ตโฟนไปบนหน้าจอ
- อีควอไลเซอร์ 10 แบนด์ (EQ10)
- ลองรับการเล่นไฟลร์ะดับความละเอียดสูง FLAC – Free Lossless Audio Codec
- RCA PRE-OUT พรีเอาต์ไฟฟ้าแรงสูงจะให้สัญญาณ 5 โวลต์
- กำลังขับลำโพง55 W x 4Ch.
- รองรับ HDMI – USB-A สำหรับการส่งภาพไปหน้าจอ และ เชื่อมต่ออื่นๆ
- ปรีเอ้าท์ 3ชุด
- รองรับกล้องมองหลัง
- มาพร้อมไมค์
- ประกันจากบริษัทโซนีไทย 2ปี
SCREEN
หน้าจอตัวนี้มาพร้อมกับการใช้งานหน้าจอขนาด 8.95 นิ้วถือว่าเป็นขนาดหน้าจอที่ทำได้ดีในการใช้งานทั่วไปบนรถยนต์และถือว่าอยู่ในระดับที่ใหญ่ตัวนึงมาพร้อมกับการใช้งานหน้าจอแบบด้าน และ การสัมผัสแบบ Capacitive นั้นเองซึ่งสัมผัสแบบใช้งานนิ้วจิ้ม หรือว่าเล็บอะไรได้ทั้งหมดจะแตกต่างกับหน้าจอมือถือทั่วไปซึ่งเป็นปกติถ้ามองในระดับเรทราคานี้และเทียบกันในหน้าจอติดรถค่ายอื่นๆ มาพร้อมกับการสู้แสง 400Nits และรองรับใช้งานทั่วไปได้สบาย รวมถึงตัวหน้าจอเองรองรับมุมมองเอียงขึ้นลงได้อิสระ ช่วยหลบแสงสะท้อนได้ระดับนึงในการใช้งานกลางวัน
หน้าจอในมุมมองกลางวันในมุมคนขับนั้นถือว่าจัดการเรื่องแสงสะท้อน และความสว่างรวมถึงแสงสีได้ดีไม่เจออาการดรอปอะไรในแง่ของโทนสีของภาพและในแง่ของแสงสะท้อนเช่นกัน ในภาพคือปรับระดับสูงสุดสามารถสู้แสงกลางวันได้สบายๆในการใช้งานภายในรถ รวมถึงตัวหน้าจอเองติดตั้งบน jeep cherokee มุมมองใช้งานผ่านสามารถเปิด/ปิดระบบแอร์ได้ และ ไม่บังช่องแอร์ภายในตัวรถ และ ในภาพนั้นปรับระดับต่ำสุดเลื่อนลงมาและตั้งหน้าจอระดับชิดด้านในที่สุดนั้นเองทำให้ค่อนข้างเนียนและสวยเมื่อติดตั้งไปบนคอนโซลตัวรถถือว่าผ่านในการใช้งานภาพรวมของจอ
และในยามกลางคืนตัวหน้าจอสามารถหรี่แสงตามระดับไฟหน้ารถ เมื่อเปิดไฟหน้าจอจะสามารถหรี่แสงอัตโนมัติได้ทันทีและหรี่ไปในระดับแสงต่ำที่สุดที่เราตั้งไว้ และทดสอบในการใช้งานจริงเวลากลางคืนนั้นไม่เจอแสงแยงตาหรือว่าสว่างเกินไป ต้องชมว่าตัวหน้าจอสามารถหรี่แสงได้เยอะและมืดกำลังดีในการใช้งานกลางคืนของหน้าจอตัวนี้ไม่ได้แสบตาแบบที่คิดและ มุมมองทั้งหน้าตรงและเอียงในการใช้งานจริงหน้าจอตัวนี้ตอบโจทย์กลางคืนได้สบายเลยนั้นเอง
เรื่องของการปรับแต่งเสียง EQ ก็สามารถรับได้หลากหลายย่านเสียงสูงสุด 10EQ เลยทีเดียวและรองรับ พรีเซ็ตที่ให้มาหรือจะปรับแต่งเองก็ทำได้เช่นกัน และมีการเปิดปิด ซัพ พร้อมกับมีเสียง EXTRA BASS เสริมเข้ามาด้วยเช่นกันและตัวหน้าจอนี้รองรับการใช้งานเป็นกล้องหลังได้ด้วย แต่ตัวกล้องต้องหาเพิ่มหรือแถมมาตามร้านเองนะครับ เมื่อเข้าถอยก็จะรองรับขึ้นภาพมาให้ทันทีเลยนั้นเองสะดวกและทำได้ดี คุณภาพกล้องรองรับ HD ทั่วไปไม่รองรับ AHD นะ
ANDROID AUTO
การใช้งาน Android AUTO นั้นสามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อเสียบสายชาร์จเข้ากับตัวจอติดรถและแน่นอนว่า Android Auto เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการแล้วทำให้ใช้งานได้กับมือถือทุกรุ่นที่เป็น Android แต่ถ้ารุ่นเก่ามากๆอาจจะต้องโหลดแอปใช้งานนะครับ แอป Android Auto หาได้ใน Playstore เลยนั้นเอง ซึ่งสามารถใช้งานได้เลยถือว่ารองรับได้สบายแต่น่าเสียดายว่ารุ่นนี้ใช้งานแบบไร้สายยังไม่ได้ ใช้งานได้แค่แบบสายเท่านั้น ส่วนในแง่ของความลื่นไหล ความนิ่งแบบมีสายใช้งานได้ไวและนิ่งกว่าอยู่แล้วเช่นกันครับ ก็ถือว่าตอบโจทย์ในการใช้งานได้ดี รวมถึงสามารถ ใช้งานคำสั่งเสียง Google Assistant ภาษาไทยได้ และ ใช้งานได้เหมือนรถยนต์รุ่นใหม่ได้ทั้งหมด
APPLE CARPLAY
นอกเหนือจาก Android แน่นอว่าใครที่ใช้งาน iPhone ก็สามารถใช้งานได้เช่นกันใครที่มี iPhone นั้นรองรับการใช้งานทั้งหมดเลยในรุ่นใหม่ๆ และ สามารถใช้งานระบบทั้งหมดได้เหมือนกับบรรดารถยนต์รุ่นใหม่ๆและหน้าตาปรับแต่งหรือมีหน้า Widget ได้สบาย ระบบค่อนข้างติดนิ้วและลื่นไหลไม่ต่างกัน และสามารถใช้คำสั่งเสียงได้ด้วยเช่นกัน
WEBLINK
ทางด้านแอปนั้นมีให้เลือกเพิ่มเติมนอกเหนือจากการใช้งานทั่วไปคือตัว WEBLINK ที่เป็นตัวสื่อสารกับมือถือที่มีแอป WEBLINK ทำให้เราสามารถใช้งานแอปอื่นๆได้เช่น YOUTUBE – CAST SCREEN หรือแม้แต่จะดูไฟล์ในมือถือทั้งภาพนิ่ง และ วีดีโอต่างๆ แต่ทั้งนี้ต้องโหลดในมือถือมาก่อนในชื่อ WEBLINK นะครับแล้วทำการเชื่อมแบบมีสายปกติทั่วไป เมื่อเรียบร้อยบนหน้าจอมือถือและบนหน้าจอติดรถก็จะรองรับการใช้งานภาพรวมได้ทั้งหมดเลย แต่ถ้า CAST SCREEN นั้นอาจจะมีความหน่วงระดับนึง ถ้าใครเน้น CAST เองนั้นแนะนำให้ใช้ HDMI จะดีกว่า
แต่ในการใช้งาน YOUTUBE กลับทำได้ดีกว่าที่คิดสามารถ LOG IN เข้าชื่อตัวเองได้ และดูคลิปทั่วไปได้เลยครับเสียงออกปกติ และ ไม่เจออาการหน่วงอะไรเท่าไรนัก และภาพที่ออกมาได้เต็มจอถือว่ารองรับการใช้งานได้ดีมากๆ แต่น่าเสียดายว่า WEBLINK เองนั้นไม่ได้มีการพัฒนาต่อหรือเพิ่มแอปเองได้เท่าไร ทั้ง Browser หรือ อื่นๆเข้ามา
USB FILE
การอ่านไฟล์ USB จริงๆก็สามารถทำได้และแน่นอนว่าสามารถดูวิดีโอ ไฟล์เพลงได้ แต่ไม่รองรับไฟล์ภาพนะครับแอบเสียดาย และมันแอบมีข้อจำกัดของมันอยู่ในเรื่องไฟล์วิดีโอต้องขนาด HD เท่านั้นไม่รองรับการเปิด FHD 4K ในตัวนี้ รวมถึง การเปิดไฟล์เพลงยังไม่รองรับ 24Bit แต่ถ้า FLAC – HIRES 16BIT นั้นรองรับในการเปิดไฟล์นะครับ ซึ่งตอนนี้อาจจะมีอัปเดตในอนาคตให้รองรับได้เพราะว่ารุ่นนี้พึ่งออกมา และตามสเปกเองนั้นรองรับ FLAC ได้สบายๆ แต่ถ้าไฟล์ที่รองรับก็สามารถเล่นได้แบบลื่นไหล ทั้งวิดีโอ และ เพลง ขับเสียงออกมาได้ดี รายละเอียดดีเทลแน่นมากๆ รวมถึงกำลังขับนั้นสามารถขับได้สบายๆ ทั้งนี้รถแอดเองติด Amp และ ซัฟเพิ่มเติมตัวจอ SONY รองรับได้ชิลๆครับ
ซึ่งในภาพเราลองเปิดไฟล์จาก USB ในไฟล์วิดีโอแบบ HD สามารถเปิดได้แบบไหลลื่นไม่เจออาการหน่วงอะไรครับและภาพที่ออกมาสวยและคมชัดตามระดับของหน้าจอรวมถึงเสียงต่างๆนั้นออกมาทิศทางได้ดีมิติของภาพทำได้สวย
HDMI
HDMI นั้นสามารถรองรับการยิงสัญญาณจากมือถือไปบนหน้าจอได้แบบไม่มีปัญหา ในภาพทดสอบยิงหน้าจอจากมือถือ SONY 1 III ก็สามารถยิงได้แบบลื่นไหล ไม่เจออาการหน่วงอะไรเลยแม้แต่น้อยรวมถึงความคมชัดความสวย และ รองรับการใช้งาน NETFLIX ได้แบบสบายๆซึ่งสามารถยิงภาพออกมาได้ทั้ง ซับไตเติ้ล และ เสียงออกมาครบรวมถึงดูแนวนอนได้ทั้งหน้าจอมือถือ หรือว่าตามแอปดูหนังก็รองรับได้ดี แต่จะสั่งงานผ่านหน้าจอติดรถไม่ได้นั้นเอง
SONY XAV-AX8100
” หน้าจอติดรถ 1 DIN จอใหญ่ ไม่ต้องดัดแปลง + ระบบ ความคงทนที่ไว้ใจได้ “
จุดเด่นหลักๆแน่นอนว่าเป็นหน้าจอติดรถ 1 DIN ที่ราคาทำได้จับต้องง่ายมากๆในตลาดและฟีเจอร์การใช้งานพื้นฐานครบ พร้อมกับได้แบรนด์ SONY และแน่นอนว่าเรื่องความอิสระในการปรับแต่งเองนั้นทำได้ดีและเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ และ ฟีเจอร์ในการใช้งานจริง Android Auto – Apple Carplay ทำได้ลื่นไหลติดนิ้ว และมีความเสถียรในการใช้งานอย่างมาก รวมถึงหน้าจอต่างๆนั้นตอบสนองได้ไวและสามารถสู้แสงได้สบาย รวมถึงสามารถหรี่แสงได้ไม่แยงตาแค่นี้ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานจริงแล้ว แน่นอนว่าเรื่องเสียงสามารถขับเสียงได้สบาย HI-RES ได้ รองรับการเปิดไฟล์ได้อิสระพร้อมกับขับเสียงมีมิติ และ เด่นตามสไตล์ของ SONY พร้อมทั้งฟีเจอร์ช่วยเหลือปรับแต่งเสียงเยอะแยะมาก รวมถึง Extra Bass ด้วยเช่นกัน ทำให้ในงบราคา 19-21K แบบนี้ตัวนี้น่าเล่นมากๆและฟีเจอร์เพียงพออย่างมากในการใช้งาน รวมถึงการที่เป็น 1DIN ทำให้รถยนต์หลายๆคนติดตั้งได้จากช่องเดิมๆและได้หน้าจอใหญ่มาแทน
ข้อดี
- ประสิทธิภาพหน้าจอ คุณภาพหน้าจอทำได้ดี สัมผัสได้ไว
- หน้าจอสามารถสู้แสงได้ดี และ หรี่แสงได้มืดไม่แยงตา
- ระบบทำได้ลื่นไหล และ นิ่ง เน้นเรียบง่าย
- การขับเสียงทำได้ดี รองรับไฟล์ได้หลากหลาย
- รองรับกล้องมองหลัง และ ระบบควบคุมบนพวงมาลัย
- ใช้งาน Apple carplay / Android Auto ได้เสถียร
- HDMI รองรับการต่อภาพจากมือถือได้ลื่นไหล ดู Netflix ได้
- Weblink สามารถรองรับ Youtube ได้ในการเชื่อมกับมือถือ
- ใช้งานขนาด 1DIN ไม่ต้องดัดแปลงคอนโซลรถ
- ตัวหน้าจอสามารถเลื่อนขึ้น ลง เอียง และ เข้าออก ได้อิสระ รวมถึงใช้น็อตที่ในการปรับระยะ
ข้อสังเกต
- ไม่รองรับ Apple Carplay แบบไร้สาย
- พอร์ตเชื่อมต่อเป็น USB-A
- หน้าจอหลักปรับแต่งได้แค่พื้นหลัง
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr