ROG เป็นแบรนด์คอมพิวเตอร์ที่หลายๆคนรู้จักกันอย่างแน่นอนครับ และที่เด่นๆเลยคือเรื่องของ Gaming Notebook ที่ขึ้นชื่อเรื่องของความเทพ และ ดีไซน์งานออกแบบอีกทั้งเรื่องของคุณภาพงานประกอบค่ายนี้บอกเลยว่าอันดับต้นๆ แม้จะแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่าตัวอื่นๆในเครือแต่สิ่งที่ได้มานั้น คุ้มค่า สมราคาทุกๆอย่างไม่ว่าจะเป็นความแข็งแรง ดีไซน์ ความพรีเมี่ยม รวมถึงคุณภาพหน้าจอและส่วนอื่นๆ และล่าสุดนี้ทาง ROG เองได้เปิดตัวขนทัพรุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้งาน AMD Ryzen 5000 Series ทั้งหมด จัดเต็มทุกรุ่นเอามาให้เมืองไทยได้สัมผัสกันเป็นเจ้าแรกๆเลยก็ว่าได้ และครั้งนี้ก็ได้มาสัมผัสกับตัวเทพที่สุดของ ROG STRIX SCAR แล้ว นั้นคือตัว ROG STRIX SCAR 17 ที่เป็นสเปกสูงที่สุด RYZEN 9 5900HX + RTX 3080 เลยทีเดียว และงานออกแบบใหม่ทั้งหมดที่ได้เรื่องของ เส้นสาย AURA RGB เต็มๆและตัวเครื่องดีไซน์แบบใหม่ TRANSLUCENT โปร่งสวยงาม และ เปลี่ยนตัวงานออกแบบส่วนท้ายเครื่องได้ด้วย บอกเลยว่าสมกับราคา
ROG STRIX SCAR 17 มาพร้อมกับ 3 สเปก ครับแต่ที่เรารีวิวจะเป็นที่สุดของรุ่นนี้เลยนั้นเอง ทำให้มันจัดเต็มที่สุดในตอนนี้ มาพร้อมกับ การใช้งาน AMD Ryzen™ 9 5900HX ตัวล่าสุด 3.3 GHz (16M Cache, up to 4.6 GHz) และทางด้านการ์ดจอนั้นใช้งาน NVIDIA® GeForce RTX™ 3080 16GB GDDR6 และจัดเต็มด้วย RAM 16GB x 2 3200MHz – Dual Channel รวมถึงทางด้านหน่วยความจุ 1TB M.2 NVMe™ SSD*2 (Raid 0) และ หน้าจอ 17.3-นิ้วFHD (1920 x 1080) 16:9 ใช้งานหน้าจอแบบ anti-glare display ค่าสี sRGB:100% Adobe:75.35% รองรับ Refresh Rate 300Hz Response Time 3ms และ IPS Adaptive Sync ด้วยเช่นกันครับ อีกทั้งจุดที่เด่นมากๆจะเป็น คีย์บอร์ดออปติคัล เมช ระบบสี RGB ต่อปุ่ม สามารถเปลี่ยนสีได้หลากหลายมากๆ และ ละเอียดมาก รวมถึงเสียงกดปุ่มแบบ แมคคานิคเลยนั้นเอง พร้อมกับ ลำโพง 4 ตัวจัดเต็ม รองรับ DOLBY ATMOS รวมถึง รองรับ WIFI 6 BT 5.1 ครบๆ และ งานออกแบบที่โดดเด่นอย่างมาก และ ระบบระบายความร้อน พัดลมระบายความร้อนแบบใหม่ที่มีใบพัดมากถึง 84 ใบ ฮีทซิงค์ 4 ตัว และ LIQUID METAL SILICONE พิเศษ จาก THERMAL GRIZZLY ที่จะช่วยเรื่องของการระบายความร้อนที่ดีมากขึ้น และรองรับการชาร์จใช้งาน USB-C สะดวกมากๆครับ
ROG STRIX SCAR 17 มาพร้อมกับ 3 รุ่นย่อยครับ เริ่มต้น 69,990 บาท ส่วนตัวที่รีวิวนั้นจะเป็น 94,990 บาท จะมาพร้อมกับ AMD Ryzen™ 9 5900HX + GeForce RTX™ 3080 16GB GDDR6 + RAM 32GB + Storage 1TB + 17.3-inch, FHD, 300Hz 3ms, 100% Srgb+ Windows 10 Home
UNBOX
ตัวกล่องงานออกแบบดีไซน์สวยงามเช่นเดิมมีความอลังการเยอะมากขึ้นแต่ก็เรียบมากขึ้นไปในตัว อุปกรณ์นั้นให้มาพร้อมใช้งานครับ แต่ครั้งนี้ให้ที่ชาร์จมา 1 อันเท่านั้นไม่แน่ใจว่าตัวขายจริงจะมี USB-C ใส่เข้ามาให้ไหมเพราะบางรุ่นของค่ายนี้บางทีให้มา 2 แบบเลยนั้นเอง
- ตัวเครื่อง ROG STRIX SCAR 17
- ที่ชาร์จ 240W
- คู่มือ
- Armor Cap สีเงิน และ สี ใส สำหรับเปลี่ยน
- ROG KEYSTONE 2
- ที่เก็บ ROG KEYSTONE 2
DESIGN
ROG STRIX SCAR 17 รุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบชัดเจนอีกครั้งครับ ทั้งเรื่องของเส้นสายภาพรวม ดีไซน์ปุ่มการวาง Layout หรือจะเป็น Touchpad และ บอดี้ทุกอย่างนั้นเปลี่ยนแปลงใหม่และดูดีขึ้นมากชัดเจน รวมถึงเป็นครั้งแรกของค่ายที่ใช้งานบอดี้ โปร่งแสง หรือ มองเห็นทะลุลงไปส่วนบอร์ดภายในเครื่องของจริงครับ บอกเลยว่าล้ำและดูดีมากจริง ไม่ต้องเส้นสายลวดลายเยอะมาก แต่ดูดีและแตกต่าง รวมถึงเส้นสาย RGB ไฟรอบเครื่อง และ ไฟขอบหน้าจอส่วนล่างจัดเต็ม อีกทั้ง คีย์บอร์ดแบบ แมคคานิค ถือว่าล้ำมาก ส่วนตัวเครื่องบอดี้ความแน่นยังทำได้ดีเช่นเดิม มาพร้อมกับ น้ำหนัก 2.7 กิโล และ หนา 2.75 ซ.ม. ถือว่ากลางๆเมื่อเทียบกับสเปกและรุ่นนี้ที่ไม่ได้ เน้นเรื่องของความบางอะไรมากนัก จะเน้นความแรง เด่นสวยงามเป็นหลัก
จะเห็นเลยว่างานออกแบบนั้นเปลี่ยนแปลงทั้งฝาหลัง การเล่นลายต่างๆรวมถึงเส้นสาย และยังคงใช้งานโลโก้ ROG พร้อมไฟ RGB เช่นเดิมครับ แต่ฝาหลังจะเด่นขึ้นมีการเล่นกับแสงได้ดีจะเห็นข้อความพิเศษเมื่อเจอแสงเงาที่ถูกต้องครับก็เป็นลูกเล่นเล็กๆน้อยๆที่ใส่เข้ามาแต่ไม่ใช่จอแบบ G14 นะ ส่วนบอดี้ข้างในนั้นมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดทั้งการวางปุ่มแบบใหม่ การจัดอะไรใหม่ทั้งหมด รวมถึง Touchpad ใหญ่ขึ้นด้วยเช่นกัน และฝาด้านในนั้นจะเป็น Translucent ที่คล้ายๆโปร่งแสง เห็นถึงบอร์ดภายในด้วยเช่นกัน บอกเลยว่าเป็นการออกแบบที่ล้ำเลยแหละ จุดนี้ค่อนข้างชอบ และ ขอบจอบางพอสมควร แต่น่าเสียดายไม่มีกล้องหน้ามาให้แล้ว รวมถึง บอดี้แบบด้านทั้งหมดแบบนี้ทำให้เรื่องรอยนิ้วมือติดได้ง่ายมากกว่าบอดี้แบบเดิม
ฝาหลังนั้นตรงส่วนของโลโก้ยังคงมีไฟ RGB ใส่เข้ามาให้แต่ครั้งนี้ฝาหลังเน้นความเรียบมากขึ้นแต่จะแฝงความเป็นสายเกมไว้อยู่ลึกๆเมื่อเจอแสงสะท้อนครับ ทำให้เห็นพวกอักษรพิเศษที่ใส่เข้ามาซึ่งต้องหามุมกันหน่อยฝาหลังนั้นจะเป็นแบบด้านทั้งหมดทำให้เวลาจับถือนั้นอาจจะต้องระวังคราบมันของลอยนิ้วมือเล็กน้อยและยังคงใช้วัสดุโลหะทั้งหมด
อีก 1 จุดเล็กๆนั้นจะเห็นได้ว่าสามารถปรับเปลี่ยนหรือถอดเปลี่ยนได้ด้วยเป็นลูกเล่นเล็กๆน้อยๆที่ใส่เข้ามาประจำปีนี้ของค่าย ROG ครับจะถอดเปลี่ยนได้ง่ายๆแค่เลื่อนขวาออกไปมันจะเป็นแม่เหล็กดูดติดเลยนั้นเองครับ เปลี่ยนได้เป็นแบบ สีเดียวกับตัวเครื่อง หรือจะเป็นสีเงิน หรือจะเป็นแบบโปร่งแสงที่จะเห็นบอดี้ข้างในชัดๆแบบฝาด้านในนั้นเองต้องบอกว่ากล้าออกแบบและสวยเลย ส่วนด้านข้างๆนั้นจะเห็นมีช่องระบายความร้อนและเป็นช่องลายเดียวกับฝาหลัง
ฐานเครื่องด้านหลังยังคงใส่ใจในงานออกแบบเช่นเดิมเลยครับ จะเห็นว่ามีการออกแบบยางรองมาให้มีความแตกต่างกับรุ่นอื่นๆรวมถึงช่องระบายความร้อนและการใส่ ตัวอักษรอะไรแทรกเข้ามาในด้านล่างด้วยเช่นกันครับยางรองยกตัวเครื่องนั้นจะเป็นส่วนด้านหน้า 3 ชิ้น และด้านหลังเราจะเห็นชิ้นใหญ่ๆในมุมขวาบน และ ชิ้นแนวนอนในมุมซ้ายบนครับ ส่วนตัวชอบรายละเอียดตรงที่เขียนในมุมขวาบนครับ ทั้งเขียน Back On Top และ เลขรหัสต่างๆถือว่าสวยงามเลยครับ ส่วนในมุมซ้ายบนนั้น จะเขียน For Those Who Dare และจะเห็นช่องระบายอากาศหลายๆที่
เมื่อแกะฝาหลังออกมานั้นจะเห็นว่าการจัดวางอะไรนั้นเป็นระเบียบเช่นเดิมพร้อมกับพัดลม 2 ตัว ช่องระบายออก 4 ทิศทาง พร้อมกับ Heatpipe 5 เส้นพร้อมกับครีบระบายความร้อนที่บางและถี่มากขึ้น และ SSD นั้นให้มา 2 ช่องใช้งานเต็มที่ เพราะว่าทำระบบ RAID 0 นั้นเองคือการรวม SSD ตีบวกเป็น 1 ก้อนทำให้การอ่านเขียนไวมากขึ้นเท่าตัว ส่วน RAM ให้มาเต็ม 2 ช่องเช่นกันทำให้ตัวนี้สูงสุด 32GB ที่ให้มากับเครื่อง แต่รองรับอัพเกรดได้สุดที่ 64GB
จริงๆส่วนที่ชอบมากที่สุดคงเป็นบอดี้แบบโปร่งแสงแบบนี้ครับ Translucent แบบนี้บอกเลยว่าเราจะเห็นได้ในบรรดาฝาหลังมือถือบางรุ่น แต่บางรุ่นก็เป็นลวดลายปลอม แต่ทาง ROG รุ่นนี้เป็นพาแนลเป็นบอร์ดจริงๆเลยครับที่เห็นคือชิ้นส่วนข้างในจริงๆไม่มีหลอก ไม่มีปริ้นมาแปะแน่นอน เราไม่ค่อยเห็นงานออกแบบแบบนี้ในบรรดา Gaming เท่าไรนักต้องบอกว่าน่าสนใจมากๆ และเส้นสาย เฉียงแบ่งนั้นยังคงมีมาให้เป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ครับสวยงามมาก
ขาพับหน้าจออะไรนั้นมีความแข็งแรง สามารถเปิดแบบมือเดียวได้ไม่มีเอียงหรือโยกแม้จะจับมุมเครื่องเดียวก็ไม่มีปัญหา มาพร้อมกับชื่อรุ่นในด้านล่าง แต่น่าเสียดายว่าด้วยงานออกแบบรุ่นนี้ทำให้ไม่มีกล้องหน้ามาให้และไม่มีแถมมาให้ในกล่อง แต่ไม่แน่ใจว่าตัวขายจริงนั้นจะมีมาให้ไหมนะครับ ส่วนขอบหน้าจอบางสะใจมากๆสวยงามเลยทีเดียว และมีการเว้าหน้าจอแบบรุ่นก่อนๆ แต่ครั้งนี้ตีบวกไฟเข้ามาให้ด้วยบอกเลยว่ายามค่ำคืนหน้าจอรุ่นนี้แสงสีสวย
ไฟเส้น RGB นั้นใส่เข้ามาให้เยอะมากและครั้งนี้ใส่ตรงขอบหน้าจอส่วนล่างเข้ามาให้ด้วยครับและสามารถปรับได้ 2 โซนอิสระเลยทีเดียว ส่วนในขอบเครื่องฐานเครื่องเป็นทรงตัว U ครอบคลุมด้านหน้าและด้านข้างครับแต่น่าเสียดายไม่เต็มขอบข้างแบบรุ่นก่อนๆครับแอบเสียดายตรงนี้เล็กน้อย แต่ไฟนั้นแยกโซนได้เยอะมากๆปรับได้อิสระทุกจุดครับ
SPEC
- AMD Ryzen™ 9 5900HX Processor 3.3 GHz (16M Cache, up to 4.6 GHz)
- NVIDIA® GeForce RTX™ 3080 16GB GDDR6
- หน้าจอ 17.3-นิ้ว FHD (1920 x 1080) 16:9 anti-glare displaysRGB:100% Adobe:75.35%
Refresh Rate:300Hz Response Time:3ms IPS-level Adaptive-Sync
-
RAM 32GB เป็น16GB DDR4-3200 SO-DIMM x 2 ตัว Max Capacity : 64GB
- 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD x 2
-
1x 3.5mm Combo Audio Jack1x HDMI 2.0b1x USB 3.2 Gen 2 ไทป์-ซี (Type-C) รองรับจอแสดงผล / รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว (power delivery)3x USB 3.2 Gen 1 Type-A1x RJ45 LAN port
- คีย์บอร์ดออปติคัล เมช ระบบสี RGB ต่อปุ่ม
-
2x 4W speaker with Smart Amp Technology และ ลำโพง 2x 2W tweeter
- Wi-Fi 6(802.11ax)+Bluetooth 5.1 (Dual band)
- DOLBY ATMOS SPEAKER
- 39.5 x 28.2 x 2.34 ~ 2.75 cm (15.55″ x 11.10″ x 0.92″ ~ 1.08″)
- AURA SYNC RGB , ROG KEYSTONE 2 ,
- TRANSLUCENT BODY
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพนั้นในรุ่นนี้มาพร้อมกับ Ryzen 5000 Series รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่รองรับการ Overclock ได้ครับ มีแกนประมวลผล 8 Cores/16 Threads ความเร็วเริ่มต้น 3.30 GHz และบูสต์ได้สูงสุดถึง 4.6 GHz ใช้งานเทคโนโลยี 7nm พร้อมกับ การใช้งาน RTX 3080 16GB GDDR6 เรียกได้ว่าเป็นคู่ที่แรงอันดับต้นๆแล้วในตอนนี้ ส่วนทางด้าน RAM ที่จริงนั้นรองรับ สูงสุด 64GB แต่ตัวเครื่องนั้นจะให้มา 32GB แยกเป็น 16GB DDR4-3200 SO-DIMM 2 ตัวนั้นเอง ส่วนทางด้าน ความจุนั้น จะใส่มาให้ 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD x 2 ซึ่งทำงานแบบ RAID 0 นั้นเองบอกเลยว่าเป็นรุ่นเดียวที่ใช้งานที่แตกต่างกับรุ่นย่อยอื่นๆ บอกเลยว่าเร็วแรงมาก เพราะเป็นการ รวม 2 SSD ตีบวกเข้าด้วยกัน อ่านเขียนพร้อมกันนั้นเอง และใช้งาน Windows 10 Home ให้มาครบๆเลยสำหรับตัวนี้ สเปก สมราคา ไม่ต้องอัพอะไรแล้ว !
PC MARK. คะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆแน่นอนว่า ryzen 9 5900HX ที่มีการ OC ที่ทำให้แรงพอสมควร ไปได้ 7029 คะแนน โหดมากๆ ครับ จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้านทุกอย่าง และ รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้งหมดถือว่าชิลๆและดีกว่าตัว i7 Gen 11 ก่อนหน้า อยู่ด้วยในคะแนนส่วนนี้ครับ ส่วนในการทดสอบนั้นเป็นอุณหภูมิปกติ เช่นเดิมไม่ได้เปิดแอร์ แต่ถ้าเปิดแอร์นั้นจะได้คะแนนประมาณ 7,200 คะแนนครับ แน่นอนว่าถ้าเทียบกับ 4800HS ตัวก่อนหน้านั้นจะยังคงทำได้แตะ 5000 ครับแน่นอนว่าเทพขึ้น
3D MARK
ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงในการทดสอบทั้ง 5 แบบนะครับ ตัว TIMESPY EXTREAM ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 5551 ถือว่าเทพมาก และ PORT ROYAL ในการทดสอบ RAY TRACING นั้นได้ไป 7043 คะแนน ต้องบอกว่าผ่านการทดสอบใช้งานระดับสูงๆของ 3DMark สบายๆ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 4 แบบ ทำความร้อนไปได้ 84 CPU GPU 76 นะครับ และในตัว FIRE STRIKE ทำไปได้ 25041 และ FIRE STRIKE ULTRA 7650 คะแนน ถือว่าแรงสมกับ RTX 3080 ครับจัดเต็มมากเยอะกว่า 3070 หลายพันและเป็นหมื่นคะแนนในหลายๆการทดสอบเรียกได้ว่า ใครสายเกมถ้าจัด 3080 คือสุดมากๆจริงครับ
CINEBENCH R15 R20 // DISK MARK
R15 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงเลยแหละ R15 นั้นทำได้ 2275 cb/ 150 FPS ประมวลผลหนักๆได้แบบสบายมากๆและดีกว่าพวกรุ่นก่อนหน้านี้แบบชัดเจนครับผม ส่วนทางด้าน R20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผลตัวโหดกว่า R15 คะแนนก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน ดีกว่ารุ่นก่อนเยอะมาก และทำได้ดีกว่าตัว i7 อีกด้วยนะ ในตัว R20 นั้นที่ประมวลผลหนักหน่วงกว่าเดิม ทำคะแนน 5307 เลยครับ ดีกว่าพวกรุ่นปกติเยอะเลย และ เช่นเดิมทดสอบในสภาพอากาศปกติไม่มีแอร์ครับ ส่วนตัว SSD M.2 ที่รุ่นนี้มีการทำระบบ RAID 0 ทำให้ตีบวกพลังการอ่านเขียนไวกว่าเดิมเท่าตัวครับ ใช้ SSD สองตัวมาตีบวกกันนั้นเอง นั้นทำการอ่านเขียนไป สูงมากๆ 7050MB/s และ 6001 MB/s ถือว่าแรงมากๆในทั้งเรื่องของการอ่านและการเขียนถือว่าให้ประสิทธิภาพที่เทพ
SCREEN
หน้าจอครั้งนี้จัดเต็มปรับมาใช้งาน 300Hz 3MS แน่นอนว่าถ้าใครเล่นสาย FPS น่าจะเข้าใจกันดี ส่วนในเรื่องของความสว่างก็มามากกว่าเดิม และทำได้สู้แสงดีกว่าเดิมครับและสีที่แม่นยำกว่าเดิมด้วย อีกทั้งยังได้ 100% sRGB และยังรองรับ Adaptive-Sync ทำให้เล่นเกมภาพไม่ฉีกแน่นอน และทำงานนั้นเหลือๆครับอีกทั้ง จอด้านทำให้มันใช้งานได้ดีไม่เจอแสงสะท้อนหรือใช้งานข้างนอกก็ทำได้ดีครับ มาที่เรื่องของสีสันต่างๆนั้นสบายๆจอแบบ IPS FHD นั้นความแม่นยำของตัวสีและมุมมองนั้นทำได้ดีและจากที่ลองมันก็ เล่นเกมได้ ดีคือลื่นเนียนตามากๆครับ และในส่วนของตัดต่อแต่งภาพได้ดีพอสมควรครับไม่มีปัญหาเลย ทำมาเพื่อรองรับสายทำงานแต่งภาพตัดต่อ กราฟิกได้มากขึ้นเพราะมีหลายคนนั้นเอาไปใช้งานด้านนี้กันครับ และทางค่ายก็เอาใจด้านนี้มากขึ้น และ ด้วยความที่มันเน้นพกพามากขึ้นก็ทำให้หลายๆคนเลือกเอาไปใช้งานงานกันหลากหลายมากขึ้นนั้นเองครับตัวเดียวครบๆจบเลย และคุณภาพสีของตัวหน้าจอพร้อมใช้งานทันทีแอดมินเอามาแต่งภาพได้สบายๆเลยครับ
การออกแบบตัวขอบจอทั้งหมดทำได้บางดูสวยงามบางลงเรื่อยๆเลยแหละ แต่ก็ต้องตัดกล้องหน้าไปและถือว่าเป็นการออกแบบที่ลงตัวเพราะต้องการขนาดที่เล็กลงในจอเท่าเดิมครับ ส่วนเรื่องถ้าเป็นแต่ก่อนนั้นมุมมองของจอจริงๆสายเกมจอนั้นอาจจะไม่ได้รองรับมุมมองกว้างเท่าพวกจอเทพๆที่เน้นทำงานกันเท่าไรอยู่แล้วอันนี้ต้องเข้าใจกันไว้ก่อนครับ แต่ตัวจอนี้นั้นเป็นจอแบบ IPS 300Hz ที่ดีมาๆคือมุมมอง พร้อมทำงานและรองรับได้ทุกมุมมอง คือมันเป็นจอเกมที่ดีที่สุดแล้วก็ว่าได้ทั้งรองรับมุมมองที่กว้าง Refresh rate 300Hz และ จากที่ได้ลองสีนั้นค่อนข้างตรงและใช้งานทำงานตัดต่อได้สบายมากๆครับ และ เอียงๆยังไงก็ไม่เจออาการเพี้ยนอะไรของสีเลยครับ ดีกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ชัดเจนแม้การสู้แสงอาจจะไม่ได้โหดมากนั้น แต่จอด้านก็ช่วยในการใช้งานได้ดีขึ้นมากพอสมควรครับและทำงานสบายครับ
KEYBOARD
คีย์บอร์ดในรุ่นนี้เป็นรุ่นที่บอกเลยว่าใช้งานแล้วมีความรู้สึกแตกต่างเพราะอารมณ์แบบ แมคคานิค พวกสายเกมเลยจริงๆมีเสียงลั่นๆนิดหน่อย แต่ก็ไม่ดังมากเกินไปครับ รวมถึงระยะและการตอบสนองทั้งเรื่องของการเล่นเกมหรือใช้งานทั่วไปทำได้ดีมากๆ สวิตช์แป้นพิมพ์เชิงกลแบบออปติคัลของเราทำงานได้เร็วขึ้น เพื่อให้การป้อนข้อมูลมีการตอบสนองที่เร็วและแม่นยำมากขึ้น มาพร้อมกับการวาง Layout แบบใหม่ที่จะย้ายตัว Numpad ขึ้นบนไปจากเดิม และ ย้ายตัว Arrow Key ขึ้นมาอีกแต่อาจจะต้องปรับตัวกันนิดหน่อยครับ เรียกได้ว่าเป็นการจัดตำแหน่งที่จะเน้นในเรื่อง Arrow Key มากๆขึ้นจากเดิมครับ และมาพร้อมกับปุ่มหลัก ในด้านซ้ายบนที่ควบคุมแบบเร่งด่วน รวมถึง รองรับ RGB แยกปุ่มแบบอิสระทั้งหมด ทางด้านระยะแต่ละปุ่ม และ การวางตำแหน่ง ถือว่าทำได้ดีและแม้จะเป็น 17.3 นิ้วแต่ก็จัดวางระยะอะไรได้ดีครับคือมีความแน่นเต็มสัดส่วนและปุ่มใหญ่มากขึ้น ทำให้การเล่นเกมนั้นทำได้ดีด้วย ถือว่าเรื่องของงานออกแบบการจัดวางแบบใหม่ส่วนตัวใช้งานแล้วรู้สึกดีกว่าเดิมชัดเจน
ทางด้านระยะ ปุ่มกดนั้นในการใช้งานนั้นรองรับ ระยะการกดการเดินทาง 1.9มม. พร้อมกับใช้งานแบบ ออปติคอล แมคคานิค ที่จะทำให้การกดนั้นจะเน้นในเรื่องของเสียงที่แอบคล้ายคีย์บอร์ดสายเกมมิ่ง พร้อมกับ การตอบสนอง 0.2MS ถือว่าไวมากในการตอบสนองและการเล่นเกมอันนี้เริ่มรู้สึกแตกต่างกับรุ่นก่อน ในเรื่องของการใช้งานจริงตอบสนองได้แม่นยำและไวจริงๆถ้าใครที่สายเกมพวกนี้เรื่องการตอบสนองอะไรนั้นมีผลและทำได้ดีเลยนะ แต่ที่ชอบจริงๆนั้นระยะความลึกและจังหวะการกดที่ทำออกมาเป็นแบบ แมคคานิคมันจะมีจังหวะของมัน ทำให้รู้สึกเด้งตอบสนองและกดได้ดีชัดเจน ตัวคีย์บอร์ดอันนี้อยากให้ลองกัน
TOUCHPAD
มีขนาดใหญ่ขึ้นชัดเจนและใช้งานได้จริงแล้ว รวมถึงงานอกแบบที่ไม่ได้แยกปุ่มทำให้พื้นที่การใช้งานเต็มมากขึ้นจากเดิมในการทำงานหรือใช้งานนอกสถานที่ แน่นอนว่าแม้สายเกมอาจจะไม่ได้ใช้งานในเรื่องนี้บ่อยมากนักแต่การที่ใส่พื้นที่ขนาดใหญ่มาแบบนี้ย่อมดีกว่าแบบเล็กๆแน่นอนครับ รวมถึงพื้นผิววัสดุนั้นรองรับได้ดีลื่นและติดนิ้ว รวมถึงการกดระยะกดอะไรก็ลึกกำลังดีความแน่นและสัมผัสใช้งานหลายๆนิ้วไม่เจออาการมึนหรือรวนแต่อย่างใดครับในตัวนี้ แต่ที่ชอบคือมันใหญ่มากจริงๆสามารถวางไว้ทั้ง 5 นิ้วได้แบบสบายๆลากเปลี่ยนแอป ใช้งานได้แบบเต็มที่จุดนี้ทำได้ดี
SPEAKER DOLBY ATMOS
ทางด้านลำโพงในรุ่นนี้ให้มาจัดเต็มและเป็นรุ่นแรกๆที่ใส่ระบบเสียงการรองรับ DOLBY ATMOS เข้ามาเสริมทำให้เสียงนั้นเวลาดูหนัง เล่นเกมที่รองรับนั้นมีมิติเสียงรอบทิศทางได้ดีมากๆ เสียงรอบตัวเราจริงๆและด้วยพละกำลังลำโพง 4 ตัวทั้งหมดนี้ทำให้เสียงมีความดัง แน่น เบสมาแน่นและคุณภาพเสียงอันดับต้นๆของบรรดา Gaming Notebook แล้วด้วยเช่นกัน รวมถึงเมื่อเทียบกับราคานั้นต้องบอกว่าสมราคาและค่าย ROG ยังคงเด่นเรื่องนี้มากๆ แต่รอบนี้ยังไม่ได้ใส่พวกชิปเสียง หรือ การองรับ HI-RES ESS อะไรมาให้ในตระกูลนี้นะครับแอบน่าเสียดายนิดๆ
CONNECTOR
พอร์ตเชื่อมต่อนั้นต้องบอกว่าในด้านขวานั้นไม่ได้มีช่องเชื่อมต่ออะไรพิเศษครับ เพราะโดนย้ายไปด้านหลังทั้งหมดและอาจจะเพื่อความสวยงามของบอดี้ที่โชว์บอร์ดข้างในด้วยก็เป็นไปได้ ทำให้ด้านขวานั้นมีแค่ช่อง KEYSTONE 2 เท่านั้นครับ และจะเห็นช่องระบายในด้านหลัง และแถบไฟในด้านหน้า ความหนาพอประมาณในตัวเครื่องรุ่นนี้ครับ
ในด้านซ้ายนั้นเราจะเห็นช่องระบายความร้อนในด้านหลัง พร้อมกับ USB-A 3.2 GEN 1 ทั้ง 2 ช่อง พร้อมกับ รู 3.5 มม. ไมค์ในตัว และแถบไฟในด้านหน้านั้นเองครับ ส่วนขอบเงินๆด้านหลังคือส่วนที่เปลี่ยนแปลงงานออกแบบได้
ส่วนพอร์ตที่เหลือนั้นจะถูกจัดวางไว้ในด้านหลังของตัวเครื่องเรียบร้อยพร้อมกับ ช่องระบายความร้อนในด้านหลัง 2 ฝั่งรวมถึง พอร์ต USB-A 3.2 GEN 1 และ USB 3.2 Gen 2 ไทป์-ซี (Type-C) รองรับจอแสดงผล / รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว (power delivery) และ HDMI 2.0b รวมถึง RJ45 LAN port และ ช่องจ่ายไฟเข้า
AURA RGB !
ทางด้านไฟนั้นต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่งานออกแบบไฟทั้งหลายนั้นแลังการจัดเต็มมากขึ้นไปอีกขั้นครับหลังจากที่รุ่นก่อนก็ทำได้ดีแล้วแต่พอมาเป็นรุ่นนี้การเสริมไฟทั้งขอบหน้าจอส่วนล่าง ขอบเครื่องด้านล่างนั้นทำให้แสงสีจัดจ้านมากๆ และทางด้านแป้นพิมพ์นั้นรองรับการใช้งานแยกไฟเป็นส่วนๆทุกปุ่มแยกอิสระทั้งหมดทำให้หน้าตาสวยงามและดูดี
ทางด้านโปรแกรมการเปลี่ยนบอกเลยว่าใช้งานง่ายและจะเห็นว่าปรับได้เยอะมากๆครับชอบหน้าตา AURA CREATOR ตัวใหม่นี้มากๆครับทั้งเรื่องของ กราฟิกสวยงามเข้าใจง่าย และจะเห็นได้ว่าปรับแสงสีได้เยอะมากจริงๆทั้ง EFFECT และแสงสีของตัวเครื่อง รวมถึงตั้งจังหวะได้ด้วยว่าจะเรียงอะไรยังไงในส่วนของ เส้น timeline ข้างล่าง และในด้านขวาจะเป็นแสงสี การหมุนทิศทางต่างๆ และ ซ้ายมือจะเป็น EFFECT แสงว่าจะเป็นแบบไหนยังไงครับ
ARMOURY CRATE
Armoury Crate เราสามารถปรับแต่งได้ทั้งหมดเลยไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งไฟ AURA Sync ที่ทั้งตัวคีย์บอร์ด การแสดงผลต่างๆหรือซิงค์กับตัวอื่นๆนั้นเอง และพวก Profile ก็มีให้ปรับได้ค่อนข้างเยอะครับ หรือจะเป็นการตั้งค่าแอปเกม ที่จะปรับตามแอปที่เราเลือกเปิดไว้ได้ก็เช่นเดียวกันครับ และตัวนี้นั้นยังมี Mobile Dashboard รองรับกับ Android และ iOS ที่สามารถดูจากมือถือเราได้เลยครับผม
ฟีเจอร์ทั้งหลายนั้นรองรับการทำงานหลากหลายครับ ทั้งเรื่องของการปรับแต่งการใช้งาน ดูสถานะ อุณหภูมิ พัดลมต่างๆสถานะการใช้งาน CPU -GPU รวมถึงสามารถโหลดแอปอื่นๆเพิ่มเติมได้ค่อนข้างเยอะมากครับและมี XSplit มาให้ด้วยในตัวเลยแหละ และยังมีแอปอื่นๆที่เราสามารถโหลดได้ ทั้งบอกทิศทางเสียงต่างๆ ปรับโปรไฟล์สีหน้าจอ รวมไปตัวซอฟต์แวร์ยังสามารถสั่งปิดเปิดปุ่ม Windows, ROG และทัชแพดได้ขณะเล่นเกมด้วยอีกด้วยพวกนี้สามารถตั้งค่าปรับอะไรได้ทั้งหมด รวมถึงการปรับหน้าจอ 3MSทั้งหลายครับเรียกได้ว่าปรับได้เยอะเช่นเดิมเลยตัวนี้
WORKING
การเล่นเกมและในการทำงานนั้นแน่นอนว่าตัวนี้ก็ถือว่าพัฒนามาดีขึ้นครับสำหรับ AMD RYZEN บอกเลยว่าถ้าสายทำงาน สายเรนเดอร์หรือจะเป็นการตัดต่อ ทำภาพ 3มิติ สร้างบ้าน ขึ้นโมเดล ทำงานหลายโปรแกรม ทางค่ายแดง AMD RYZEN ทำได้ประทับใจกว่าอีกค่ายอยู่แล้วครับ ทั้งการจัดการหลายๆโปรแกรม การรัน การประมวลผล และเห็นชัดมากๆในการ เรนเดอร์โมเดลอันนี้แอดมินใช้เองเลยครับ มาพร้อมกับเทคโนโลยี 7nm เช่นเดิม ในตัว RYZEN 9 5900HX OC ด้วยนะ พร้อมกับ RYX3080 และใช้งาน RAM 32GB 1TB SSD RAID 0 ก็ถือว่าไวมากๆในทั้งเรื่องของการอ่านเขียน แต่ทดสอบในการเรนเดอร์การทำงานจริงนั้นจะเป็นอย่างไรกันบ้างลองดูทดสอบกันในหลายๆโปรแกรมสายทำงาน แต่บอกเลยว่าการอ่านเขียนโปรแกรมต่างๆของค่ายนี้ทำได้ดีและเรนเดอร์ไวมาก
LUMION 10
ลูเมียนโปรแกรมในการทำงานเรนเดอร์ตึกเป็นแบบวีดีโอหรือ อนิเมชั่นล้วนๆเลยครับทำให้เราสามารถเรนเดอร์แบบวีดีโอเดินพาชมตึกใส่คนเดิมหรือจะเป็นการใส่สภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงกับภาพที่เราอยากได้มากที่สุดครับ และเป็นการเรนเดอร์ที่ใส่พื้นผิวท้องฟ้าได้ค่อนข้างสมจริงรวมถึงการจัดแสง จึงเป็นโปรแกรมที่เน้นการใช้ CPU แบบหนักหน่วงครับ ในการเรนเดอร์ทดสอบโดยการเรนเดอร์แบบเดียวกับรุ่นอื่นๆ ในความละเอียด 4K เพื่อในการเทียบเวลากับตัวอื่นซึ่งในรุ่นนี้จะใช้เวลาเรนเดอร์ไป 40 นาทีเท่านั้นนถือว่าไวมาก เทียบกับ Ryzen 7 ก่อนหน้าทำเวลาไป 1 ชั่วโมง และไว้กว่า i7 GEN11 มากถึง 10 นาทีบอกเลยว่าการเรนเดอร์การทำงานพวกนี้ ryzen 9 โหดมากครับ
SKETCH UP
ในงานนี้ก็เป็นการทดสอบแบบจัดเต็มเลยคือเรนเดอร์ไฟล์ความละเอียดสูงพร้อมกับใส่ Texture ที่อิงกับแสงและทั้งตัวกระจกเองรวมถึงดีเทลในอาคารก็ถือว่าเป็นการทดสอบได้ดีครับแต่ถ้าอยากหนักกว่านี้แนะนำเลยว่าใส่ต้นไม้และท้องฟ้าอาคารข้างหลังจะรู้เลยว่ามันทำงานไหวไหม ซึ่งจริงๆก็ลองอยู่ต้องบอกว่าไหวสบายครับแต่ความร้อนจะมีขึ้นมากกว่าปกตินิดหน่อย แต่ที่เรนเดอร์ในภาพตัวอย่างนั้นจะทดสอบเทียบกับคอม RTX ทั่วไปครับ เลยได้คร่าวๆว่าตัว GAMING จะเรนเดอร์พวกนี้คือ 110 นาที แต่ถ้าตัวนี้เอามาทำจะได้ภายใน 21 นาทีเท่านั้นเท่ากับประหยัดเวลาไปเยอะมากในการทำงานแต่ละชิ้นงานบอกเลยว่าเอาเรื่องเลยแหละครับไวกว่าตัว 4800HS ประมาณ 25 นาทีเลย
PREMIRE PRO
เรนเดอร์กันหน่อยครับว่า 4K 60 FPS นั้นทำได้ดีแค่ไหนมีเทียบตัว INTEL I7 ด้วยนิดหน่อยครับ ซึ่งในตัวนี้ จะเรนเดอร์ได้ภายใน 15 นาที และเมื่อเทียบกับ Ryzen 7 4800HS ทำไปได้ 26 นาทีครับ แต่ถ้าใช้งาน i7 GEN11 นั้นจะใช้เวลาประมาณ 23 นาที และในการเรนเดอร์คลิปต้องบอกว่ามันมีผลแบบชัดเจนถ้าเราเอาคลิปแต่ละเครื่องมาเทียบกันกับระยะเวลาในการเรนเดอร์ครับโดยทางเราทดสอบในการเรนเดอร์คลิปแบบเดียวกันทั้งหมด ถือว่าจัดการในการทำเวลาค่อนข้างต่างกัน และแม้จะเทียบกับค่ายตัวเองในรหัสใกล้ๆกันแต่เป็นคนละปีก็ยิ่งแตกต่างกันด้วยนะ
GAMING
ที่ลองนั้นในสภาพอากาศที่ไม่ได้เปิดพัดลม ไม่ได้เปิดแอร์ ซึ่งทำให้ได้อุณหภูมิจริงๆในการใช้งานเลยแหละครับสภาพอากาศจริง ซึ่งก็ได้ทำการทดสอบในหลายๆเกมทั้งกราฟิกที่ไม่ได้สวยงามกินสเปก ไปยันกินสเปกโหดๆ ซึ่งทางเรา
ก็ได้เปิดภาพแบบสูงสุด รวมถึง เปิด Monitor FPS /Temp ไว้ตลอดเลยเล่นต่อเนื่องยาวๆครับในแต่ละเกม ซึ่งในรุ่นนี้ปุ่มอะไรพวกนั้นเวลาเล่นเกมรองรับได้ค่อนข้างดี คือตัวแป้นพิมพ์นั้นเล่นได้ง่ายมีที่วางมือและไม่ร้อน เราสามารถวางมือบนตัวคอมพิวเตอร์ได้เลยครับ จัดการความร้อนได้ดีมาตลอดในด้านตรงที่วางมือ เรามาดูกันในหลายๆเกมว่าจะเป็นยังไงกันและตัว RYZEN 9 5900HX OC +RTX 3080จะทำได้ดีแค่ไหน และครั้งนี้มาพร้อมกับ RAM 32GB แล้วด้วยครับ อีกทั้งตัว SSD RAID 0 1TB ให้มาพร้อมกับความเร็วในการอ่านเขียนได้เยอะขึ้นหลายเท่า
จากหลายๆเกมที่แอดมินได้ลองนั้น FPS ทำได้ดีรองรับกับจอ 300Hz ได้บางเกมรันได้สบาย แต่ถ้าเปิดภาพสุดนั้นจะได้ 60-70 FPS ครับเป็นปกตินะ แต่ต้องเข้าใจกันก่อนเลยนะครับหลายๆคนอาจจะมองว่าทำไมความร้อนสูง เพราะ ทุกเกมที่เอามาให้ดูคือปรับภาพสูงสุดทุกเกมนะครับ เอาให้สุดหมดทุกอย่างเลย และไม่ได้เปิดแอร์เล่นนะครับ และทำได้ดีมากส่วนเรื่องความร้อนในสภาพอากาศปกติไม่ได้เปิดแอร์ หรือ เปิดพัดลมอะไรนั้นทำได้ที่ GPU 70-80 ย้ำว่าไม่ใช่ห้องแอร์และเล่นต่อเนื่องกันยาวๆ 2ชม + โดยประมาณครับถือว่าในด้านของความร้อนก็มีพอประมาณในตัว CPU มีแตะ 90 บ้างในบางครั้งครับ ถือว่ามีความร้อนบ้างถ้าเล่นต่อเนื่องนานๆและถ้าเล่นให้ห้องแอร์น่าจะลงต่ำกว่านี้ครับ แต่ถ้าอยากได้ลื่นๆนั้นต้องปรับภาพระดับกลางจะขับได้เกิน 200 Fps นะครับอันนี้ต้องลองปรับกันไป
- Overwatch นั้น ทำไปได้ FPS 70++ อุณหภูมินั้น GPU 79 CPU 95 : EPIC
- APEX ทำไปได้ FPS 178 อุณหภูมินั้น GPU 78 CPU 84 : ULTRA
- PUBG ทำไปได้ FPS 120 อุณหภูมินั้น GPU 79 CPU 83 : ULTRA
- Modern Warfare ทำไปได้ FPS 123 อุณหภูมินั้น GPU 78 CPU 95 : ULTRA
ROG STRIX SCAR 17
” ROG ยังคงโดดเด่นเรื่องงานออกแบบ สเปก คุณภาพ รวมถึงการใช้งานที่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม “
rog strix scar แน่นอนว่าเป็นตระกูลที่อาจจะไม่ได้เน้นเรื่องของความบางเบามากนัก แต่จะออกมาตอบโจทย์สายเกมยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งเรื่องของแสงสีรอบเครื่อง บอดี้แบบสายเกมมิ่งที่แท้จริง รวมถึงลูกเล่นงานออกแบบที่จัดเต็มทำให้มันเป็น Gaming Notebook ที่สุดของสายเล่นเกมทั้งหน้าจอ คีย์บอร์ด งานออกแบบ ลำโพง แสงสี ที่เรียกได้ว่าจัดเต็มที่สุดแล้วในตระกูลนี้ รวมถึงได้ RYZEN 9 5900HX ที่มีการ Overclock ไปอีก และใช้งาน RTX3080 รวมถึง RAM 32GB และ SSD 1TB RAID 0 ต้องบอกว่าจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีกครับ มันที่สุดแล้วในบรรดาสเปกทั้งหมด รวมถึงทั้งลำโพง DOLBY ATMOS และ หน้าจอ 300Hz สีสัน sRGB100% แบบนี้เรียกได้ว่าครบจบทุกอย่างในตัวเองแล้ว รวมถึงงานออกแบบบอดี้แบบโปร่งแสงแบบนี้ทำให้มันโดดเด่นและแตกต่างไปอีกครับ
ข้อดี
- งานออกแบบ คุณภาพงานประกอบ ยังคงทำได้ดี
- หน้าจอ 300Hz รองรับการเล่นเกมได้ดี สีสันสวย สีแม่นยำ
- ประสิทธิภาพคือที่สุด Ryzen 9 5900HX ทำงานได้ดี เล่นเกมได้ดี
- RTX 3080 โหดมากๆในการเล่นเกมและประมวลผลภาพ
- SSD 1TB RAID 0 อ่านเขียนไวหลายเท่าตัวทำงานได้ดี
- ลำโพงรองรับ Dolby Atmos เสียงดีมาก
- RGB รอบเครื่อง แสงสีสวยงามปรับแต่งได้อิสระ
- คีย์บอร์ด แมคคานิค ระยะกดดี ตอบสนองได้ไว เสียงแน่น
- พอร์ตเชื่อมต่อครบพร้อมใช้งาน จัดวางตำแหน่งได้ดี
- ระบายความร้อนอิสระ ทำได้ดีและ ระบาย 4 ทิศทาง
ข้อสังเกต
- บอดี้ติดรอยนิ้วมือหรือคราบมันได้ง่ายมากๆทั้งฝาหลัง และ ฐานรองมือ
- CPU ถ้าเล่นเกมอากาศปกติ อาจจะแตะ 90 ได้ง่าย
- ขนาดและน้ำหนักอาจจะไม่เหมาะแก่การพกพา
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr