Vivo ได้เปิดตัว S1 Pro แล้วไม่นานมานี้เป็นการอัพเกรดอีกครั้ง ต่อยอดจากรุ่น S1 และมีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆจุดทั้งเรื่องของการออกแบบ สเปค และรวมถึงฟีเจอร์ที่ใส่เข้ามาครับ และในตระกูลนี้เด่นๆคงจะเป็นเรื่องของหน้าจอเลยแหละ ในรุ่นนี้ยังคงทำได้ดีและใช้หน้าจอที่ดีมากๆอีกรุ่น ส่วนการออกแบบต้องบอกว่าเป็นการออกแบบที่แปลกตาอีกครั้งแน่นอนว่าเราจะเริ่มเห็นทาง Vivo เริ่มออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆไม่เหมือนใครแล้ว อาจจะเป็นข้อดีเลยแหละที่เริ่มมีการออกแบบดีไซน์ของตัวเอง และ ในส่วนของกล้องนั้นมาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว โดยที่ตัวหลักเป็น 48MP แล้วด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นการเปิดตัวที่น่าสนใจจากทาง Vivo
Vivo S1 Pro นั้นจะเน้นไปที่หน้าจอ กล้องเป็นหลักใครที่สายสเปคแรงๆอาจจะไม่ตอบโจทย์ครับ ในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ (1080 x 2340) ขนาด 6.38 นิ้ว พร้อมรองรับการสแกนนิ้วใต้หน้าจอ มาพร้อมการออกแบบแบบติ่งหน้าจอแบบหยดน้ำ ทางด้านสเปคนั้นใช้งาน Snapdragon 665 Octa-core พร้อมกับ RAM 8GB Storage 128GB EMMC 5.1 และ แบตนั้นให้มาที่ 4,500 mAh รองรับ Dual Engine Fast Charge(9V2A) หรือ 18W นั้นเอง ในเรื่องของกล้องหลังนั้นให้มา 4 ตัว เป็นตัว กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล, f/1.8 และ กล้องมุมกว้างพิเศษ Super wide-angle 8 ล้านพิกเซล, f/2.2 อีกทั้งยังมี Super Macro 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 และ เลนส์ bokeh 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 สำหรับจับระยะ ส่วนในกล้องหน้านั้น จัดเต็มมากๆให้มาที่ 32MP และมีรูรับแสง f/2.0 ถือว่าเรื่องกล้องสเปคมาให้ดีพอสมควรครับในรุ่นนี้
ในไทยนั้น Vivo S1 Pro เปิดมา ทั้งหมด 2 สี : Knight Black (ดำ), Fancy Sky (ฟ้า-ชมพู)
ในราคา 9,999 บาท
UNBOX
ตัวกล่องนั้นจะเป็นการออกแบบคล้ายๆกับรุ่นก่อนหน้าแต่ขยายตัว S ให้ใหญ่ขึ้นเต็มตามากขึ้นและมีลวดลายแตกต่างกันพอสมควร ส่วนอุปกรณ์ในกล่องนั้นค่ายนี้ยังคงให้มาครบๆ ทั้งหูฟัง เคส และ ฟิล์มกันรอยครับ ปกติจะไม่เจอหูฟังเท่าไรแล้วในราคานี้รุ่นอื่นๆ ในบรรดามือถือคู่แข่งบางตัวไม่ได้เน้นในเรื่องของหูฟังครับ แต่รุ่นนี้มีแถมมากให้ด้วย
- ตัวเครื่อง VIVO S1 Pro
- อะแดปเตอร์ 9V/2A 18W
- สาย USB-C
- เข็มจิ้มถาดซิม
- หูฟัง
- เคสใส
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
- ตัวเครื่องติดฟิล์มกันรอยมาให้เเล้ว
เคสที่แถมมานั้นจะเป็นแบบ TPU ใสนิ่มความหนาระดับกลางๆครับไม่ได้แข็งหรือหนามากนัก ครอบรอบเครื่องได้ดี มีจุกกผิดกันฝุ่นในด้านล่างที่เป็นช่องชาร์จไฟ ส่วนการป้องกันนั้นรองรับได้ระดับนึงในส่วนของด้านหน้าและด้านหลังเวลาวางนั้นไม่โดนตัวเลนส์กล้องหรือหน้าจอ แต่ก็ไม่ได้ป้องกันได้เยอะมากนักเพราะไม่ได้นูนออกมาเยอะ และไม่ได้หนามากครับเรียกได้ว่าอาจจะพอดีๆกับเลนส์กล้องเลย ส่วนวัสดุนั้นเป็นแบบสีใสใช้งานนานๆก็มีเหลืองได้ปกติครับในส่วนของด้านหน้านั้นจะเป็นเคสที่นูนออกมาทั้ง 4 มุมทำให้เวลาวางคว่ำนั้นจะช่วยให้ไม่โดนหน้าจอ และป้องกันเวลาตกได้นิดหน่อย ถือว่าดีกว่าเรียบๆไปเลยครับ ส่วนในด้านหลังนั้นจะเห็นว่าเคสเกือบจะพอดีกับเลนส์กล้องเลยอันนี้ต้องระวังกันนิดนึงเพราะไม่ได้หนาและนูนออกมาป้องกันมากเท่าไรเวลาวางพื้นไม่เรียบก็อาจจะโดนได้ง่ายพอสมควร
DESIGN
การออกแบบนั้นพัฒนาขึ้นในเรื่องของความเรียบหรูดูลงตัวมากกว่าเดิม แม้จะไม่ได้มีลวดลายตรงฝาหลังแล้วแต่รูปทรงเพชรนั้นก็ไม่ได้หนีไปไหนครับเพราะมันย้ายไปตรงส่วนกล้องหลังแทนแล้ว เป็นการออกแบบที่ค่อนข้างแปลกใหม่พอสมควรเลยไม่ค่อยเห็นมือถือออกแบบในแนวทางนี้เท่าไรนัก และฝาหลังเรียบๆสีดำแต่ก็มีส่วนเล่นกับแสงได้ดีเช่นกัน วัสดุงานประกอบนั้นใช้งานกระจกครับในส่วนของฝาหลังรุ่นนี้ ผสานการออกแบบ Diamond Design ได้ลงตัวขึ้น
หน้าจอนั้นมาพร้อมกับ ติ่งทรงหยดน้ำแบบ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ 2340 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.38 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 และมีสัดส่วนหน้าจอต่อเครื่องที่ 83.4% และ รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอ และ Always On ครับ
ในส่วนด้านบนนั้นเราจะเห็นติ่งหน้าจอแบบหยดน้ำ มาพร้อมกับขอบลำโพง และเซนเซอร์ รวมถึงกล้องหน้า 32MP F2.0 ก็ใส่เข้ามาได้ในพื้นที่นี้ แต่ไม่สามารถปิดติ่งหน้าจออะไรได้นะครับในรุ่นนี้
ขอบด้านล่างนั้นยังคงมีพื้นที่อยู่พอสมควรเลย มาพร้อมปุ่มควบคุมในหน้าจอ และสามารถใช้งานเต็มหน้าจอได้ครับ
ในด้านซ้ายนั้นจะเป็นแค่ ถาดซิมเท่านั้นครับเป็นถาดแบบ Hybrid Slot รองรับใช้งานได้ปกติ มีซีลกันฝุ่น กันน้ำมาให้ แต่ตัวเครื่องไม่รองรับ IP Rating นะครับ
ด้านล่างนั้นจะเป็น รูลำโพงหลัก พร้อม USB-C และ รูไมค์สำหรับ สนทนาครับ จะเห็นฝาหลังโค้งลงมานิดหน่อย
ในส่วนขอบด้านบนนั้นจะเป็น รูหูฟัง 3.5มม. ยังคงอยู่ไม่ได้ตัดไปไหน และ ที่สำคัญ มีไมค์ตัดเสียงมาให้แล้ว !! อันนี้สำคัญเลยเพราะรุ่นก่อนหน้าไม่มีมาให้และคนบ่นกันเยอะพอสมควรเลยนั้นเองครับ ในด้านขวานั้นจะเป็นปุ่ม Power สีแดงสดใส และ ปุ่มเพิ่ม ลดเสียงครับ บอดี้เป็นสีดำทั้งหมด วัสดุเงาแบบเดียวกับฝาหลังครับ และฝาหลังนั้นเราจะเห็นว่ามันจะโค้งลงมาเล็กน้อยด้วยเช่นกัน ฝาหลังเปลี่ยนดีไซน์ใหม่หมด ออกแบบมาในแนวหรูหรามากขึ้นเรียบร้อยมากขึ้น แต่รูปทรงเพชรไม่ได้ไปไหน โดนปรับเปลี่ยนไปเป็นรุปทรงของกล้องหลังแทนครับ พร้อมกับโลโก้วางแนวนอน เขียนชื่อแบรนด์และ Camera&Music เป็นคำที่ใช้กับ Vivo รุ่นใหม่ๆทั้งหมด และกล้องหลังวางในกรอบ 4 เหลี่ยมสวยงามพอสมควร ในสีดำ แต่ถ้าสีขาวอาจจะดูแปลกๆนิดหน่อย เพราะตัวกล้องนั้นจะเห็นเป็นวงกลมสีดำๆ วางตามมุมครับ อันนี้แล้วแต่คนชอบเลย ทางด้านกล้องหลังนั้นยังคงใช้ดีไซน์แบบรูปทรง เพชร แต่ปรับเปลี่ยนให้สวยและลงตัวขึ้นครับ วางกล้อง 3 มุม และตรงกลาง รวมถึงมีลูกเล่นขีดสีแดงเล็กน้อย ในรุ่นนี้ถ้าสีดำมันก็ดูกลืนไปสวยงามเหมือนกันครับ มาพร้อมกล้องหลัง กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์ กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล,Samsung GM1 f/1.8 / Super wide-angle 8 ล้านพิกเซล, f/2.2 / Super Macro 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 / เลนส์ bokeh 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 และ ไฟแฟลช 1 ดวงแยกออกมาด้านล่างนะครับ กล้องนูนขึ้นมาเล็กน้อย
SPEC
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.38 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล
- Qualcomm Snapdragon 665 Octa-core
- RAM 8GB
- STORAGE 128GB
- ระบบปฎิบัติการ Funtouch OS 9.2 based on Android 9 Pie
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์ กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล,Samsung GM1 f/1.8 / Super wide-angle 8 ล้านพิกเซล, f/2.2 / Super Macro 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 / เลนส์ bokeh 2 ล้านพิกเซล, f/2.4
- กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.0
- รองรับ 2 ซิมการ์ด และช่อง MicroSD ได้สูงสุด 256GB Hybrid Slot
- ระบบเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz + 5GHz, Bluetooth5.0, GPS, USB Type-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับ Dual Engine Fast Charge(9V2A) 18W
- สี : Knight Black (ดำ), Fancy Sky (ฟ้า-ชมพู)
- ราคา : 9,999 บาท
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้มาพร้อมกับ Snapdragon 665 ซึ่งถือว่าใช้งานระดับกลางไปสูงได้ แต่สายเกมเล่นโหดๆอาจจะไม่แนะนำ แต่ใช้งานทั่วไปลื่นไหล และ แบตอึดพอสมควรเลย ทำคะแนนไปได้ Antutu ทำได้คะแนนที่ 178878 และ Geekbench ทำคะแนนได้ 314 / 1368 ส่วนทางด้านหน่วยความจำนั้นใช้งาน UFS ครับ และเรื่องความปลอดภัยทำได้ Divevine L1 ปกติสำหรับค่ายนี้สามารถดู Netflix HD ได้ครับ
SYSTEM UI
ทางด้านหน้าตาระบบอะไรนั้นยังคงใช้ Funtouch OS 9.2 based บนตัว Android 9 Pie อยู่นะครับหน้าตายังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักยังคงความเป็น Vivo อยู่พอสมควรและยังมีแอปติดเครื่องมาเยอะอยู่ การใช้งานมีเลขแจ้งเตือนมุมแอพอะไรปกติครับ และไม่มี App Drawer ในการใช้งานทั่วไปครับ แอพจะวางเรียงกันปกติเลย
การดูการแจ้งเตือนนั้นสามารถลากลงมาได้เหมือนรุ่นอื่นๆ แต่ที่แตกต่างนั้นจะเป็นส่วน Quick Setting ที่ค่ายนี้จะเป็นการปัดขึ้นมาจากด้านล่างแตกต่างกับค่ายอื่นๆตรงนี้แหละครับ ส่วนการแบ่งหน้าจออะไรสามารถทำได้สบายๆ
Storage 128GB จะว่างให้ใช้งาน 112 โดยประมาณครับ และในส่วนของ RAM 8 GB นั้นใช้งานไป 2 GB กว่าเท่านั้นเองถือว่าน้อยพอสมควรเลยตัวระบบของมัน และทางด้านคีย์บอร์ดนั้นใช้งาน Google G Board นั้นเอง
ในส่วนของหน้า Always On นั้นมีให้เลือกปรับแต่งเยอะมากๆ ทั้งหน้าตา สี ละการใช้งานถือว่าปรับแต่งได้เยอะสุดแล้วในบรรดามือถือสมัยนี้ที่เรทราคานี้ครับ และยังปรับ Effect ได้ด้วยว่าจะเคลื่อนไหวแบบไหนในแต่ละส่วนเช่น หน้าตอนชาร์จ ตอนปลดล็อค หรือ ปัดแอพไปมาก็สามารถปรับได้หมดเลย หลายๆค่ายเริ่มไม่ให้ปรับตรงนี้กันแล้ว ส่วนการนำทางนั้นสามารถใช้งานได้หมดไม่ว่าจะเป็นปุ่ม หรือ การนำทางแบบไร้ปุ่ม สามารถใช้ปัดไปมาได้ครับ
โหมดเกมนั้นมีมาให้เช่นเดิมหน้าตาแบบเดียวกับเรือธงของค่ายและสายเกมแบบ iQOO ครับสามารถปรับแต่งได้เยอะพอสมควรเลย และ Gesture นั้นมีให้ใช้งานเยอะเช่นเดิมเลยทั้งแบบหน้าจอปิด หรือจะเป็นการวาดรูปอักษรต่างๆก็มีมาให้ครบๆเลยครับ และ การโคลนแอปอะไรก็มีให้ใช้งานได้ปกติเลย
มีข้อมูลการดูการใช้งานของเราว่าเปิดเครื่องบ่อยแค่ไหนอะไรเข้าแอปอะไรบ้างเป็นต้น เพื่อดูการใช้งานว่าใช้เยอะไหม รวมถึงมีโหมดกลางคืน มาให้ด้วยอันนี้ชอบมากๆเพราะหน้าตาทุกอย่างจะเป็นสีเทาเข้มหรือสีดำทั้งหมดเลยดีมากๆในจุดนี้ครับ และยังมีโหมดการขับขี่มาให้ด้วย สะดวกเวลาขับรถและไม่สามารถจับมือถือได้ ตรงนี้ก็จะเข้ามาช่วยครับผม
THEME
การปรับเปลี่ยนธีมก็มีมาให้ครับ สามารถเปลี่ยนได้เยอะแยะเลยแต่หลักๆนั้นจะเป็นการเปลี่ยนหน้าตาของไอคอน และ พื้นหลัง หน้าจอล็อคซะส่วนใหญ่และแอปของทาง Vivo บางแอปที่หน้าตาจะเปลี่ยนตามครับ และก็สามารถเปลี่ยนฟอนต์อะไรได้ถือว่าเปลี่ยนได้เยอะกว่าหลายๆรุ่นในสมัยนี้ เพราะหลังๆหลายๆค่ายจะไปเพียวกันหมดแล้วด้วยนั้นเองทำให้อาจจะเบื่อหน้าตาเดิมๆกันได้ แต่ของทาง Vivo เองนั้นเปลี่ยนได้รวมถึงหน้าตอนโทรเข้าออกด้วยครับ
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้เป็นหน้าจอแบบ Super Amoled ขนาดกว้าง 6.38 นิ้ว หน้าจอแบบ Halo FullView Display ความละเอียด FHD+ (2340×1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19:3:9 ให้สีสันหน้าจอมาค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ บอกเลยว่าสีจอมีความสดพอสมควรเลย และในรุ่นนี้จุดเด่นของมันเลยคือเจ้าหน้าจอตัวนี้นั้นเองครับ ในแง่ของ หน้าจอเเสงสว่างสู้แสงได้ระดับนึงใช้งานกลางเเจ้งได้สบายๆเลยครับสำหรับในรุ่นนี้ ส่วนติ่งหน้าจอนั้นจะยังคงไม่สามารถปิดติ่งได้ อาจจะมีบดบังเล็กน้อย เเต่ถ้าเข้าใช้งานแอปก็สามารถตั้งค่าได้ว่าต้องการจะปิดหรือใช้งานเต็มจอ ส่วนการสัมผัสถือว่าค่อนข้างลื่นติดนิ้วเลยทีเดียว ถือว่าใครที่เน้นในเรื่องของภาพสวย หน้าจอสวยสู้แดดดีตัวนี้ทำได้ดีแน่นอน
หน้าจอในมุมมองต่างๆนั้นถือว่าเป็นจุดเด่นของมันแน่นอนว่าแม้จะเอียงๆยังไงจอก็ยังคงทำได้ดีและสีไม่ได้ดรอปลงเลยครับยังคงมองเห็นได้ชัดเจนเลยถือว่าหน้าจอในรุ่นนี้ยังคงเป็นตัวชูโรงที่สุดเลยก็ว่าได้และเรื่องของการสัมผัสในการใช้งานก็ทำได้ดีติดนิ้วลื่นพอสมควรตามเรทราคาของมัน และสีดำนั้นดำสนิทเป็นปกติของหน้าจอ AMOLED พวกนี้ครับ ส่วนหน้าจอยังมีฟีเจอร์ช่วยลดการกระพริบในความสว่างต่ำๆ ทำให้ไม่ปวดตาและใช้งานได้นานขึ้น รวมถึงมีฟีเจอร์การตัดแสงอะไรมาให้ปกติครบๆเลยครับ และในตัวนี้ก็ติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้วครบๆเลยสำหรับการใช้งาน แต่เรื่องของการออกแบบถ้าเน้นหน้าจอสุดๆจริงๆถ้าเป็นกล้องหน้าแบบ PopUp มาให้หรือขอบบางกว่านี้คงจะดีเลยครับ
ALWAYS ON DISPLAY
ทางด้าน Always On นั้นบอกเลยว่าค่ายนี้มีมาให้เลือกเยอะมากกกในการปรับแต่งและสามารถตั้งค่าได้เยอะ แสดงได้ตลอดเวลาเลยรวมถึงมีความชัดเจนและใหญ่มากๆ ในการปรับแต่งนั้นสามารถรองรับการปรับแต่ง 2 ส่วนหลักๆคือ ตัวอักษร สามารถปรับแต่งสี และ ไล่เฉดสีได้แบบในภาพ และ อีกส่วนคือพื้นหลังที่สามารถปรับแต่งได้เยอะมากจริงๆ ทั้ง แบบที่ให้มาหรือจะเป็นการปรับแต่งเองครับ ถือว่าเป็นหน้าจอ Always On ที่สวยและปรับแต่งได้เยอะที่สุดเลย
FINGERPRINT
ทางด้านสแกนนิ้วยังคงใช้งานสแกนนิ้วบนหน้าจอครับ รองรับการทำงานได้ค่อนข้างไวเหมือนกับหลายๆรุ่นของทาง Vivo เลยสามารถเปลี่ยน Effect เวลาสแกนได้ด้วย ถือว่าเป็นค่ายแรกๆที่ใช้งานเทคโนโลยีนี้ครับเลยทำให้เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเลยเรื่องของการทำงานและความไวในการทำงานนั้นทำได้ดีมากๆ และสามารถเพิ่มหลายๆนิ้วได้ปกติ และตำแหน่งในการใช้งานอยู่ในตำแหน่งกำลังดีครับไม่ได้ สูงหรือต่ำเกินไป แม้จะติดฟิล์มก็สามารถใช้งานได้แน่นอน
SOUND
รุ่นนี้มีหูฟังสีขาวเเถมหูฟังมาให้แบบเดียวกับรุ่น S1 ก่อนหน้านี้เลยครับและยังมีการปรับแต่งเสียงมาให้เหมือนเดิม แต่เท่าที่ลองเอาหูฟังทดสอบเสียงนั้นจะเหมือนกันกับรุ่น S1 ก่อนหน้าเลยแหละแต่มีการเปลี่ยน CPU ก็เลยอาจจะทำให้เสียง ชิพเสียงที่ติดมากับเครื่องมีการเปลี่ยนค่ายเล็กน้อย แต่เสียงก็ไม่ได้แตกต่างกันครับ เสียงเบสกำลังขับออกมาค่อนข้างดี ฟังสบายๆไม่กระเเทกหูมาก ยังคงเน้นไปทางเสียงแหลม และเน้นไปทางเสียงคนร้องจะเด่นชัด กำลังขับพอดีๆ แต่ไม่ได้เด่นอะไรมากนัก ถ้าเป็นรุ่นก่อนๆของค่ายนี้เรื่องเสียงจะเด่นสุดๆแต่หลังๆมาไม่ค่อยเน้นเท่าไร
ส่วนของตัวหูฟังนั้นยังคงใช้งานการออกแบบที่คุ้นเคยกันในรุ่นกลางๆครับ เป็นแบบใส่สบายไม่ได้ In Ear แต่อย่างใด รูปทรงคล้ายๆของรุ่นก่อนเลยครับ หรืออาจจะเป็นตัวเดิมเลยก็ว่าได้ เน้นใส่สบาย ใส่ออกกำลังได้ ใส่คุยได้แต่เรื่องของการเก็บเสียบ หรือฟังเพลงอาจจะไม่ได้ดีมากนัก เสียงเบสน้อย และเน้นไปทางแหลมใสมากกว่า มีปุุ่มควบคุมมาให้และมีไมค์มาให้ในตัวสายครับ ตัวสายเป็นสีขาวทั้งหมด อาจจะต้องระวังเรื่องความสะอาดกันนิดหน่อยเวลาใช้งาน
SPEAKER
ลำโพงในรุ่นนี้นั้นจะเป็นลำโพงเดี่ยวนะครับและเสียงที่ได้ลองนั้นก็รู้สึกว่าดีขึ้นกว่ารุ่นแรก แต่ถ้าเอามาเทียบตัวอื่นๆในเรทราคา 9-10K นั้นอาจจะด้อยกว่านิดหน่อยในเรื่องของมิติเสียง หรือความกังวาลครับลำโพงของทาง Vivo เองต้องบอกกันเลยว่าไม่ได้เด่นเท่าไรเสียงจะค่อนข้างอึดอัดนิดหน่อยครับไม่ได้เต็มที่เท่าไรเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆจะเห็นเลยว่ามันค่อนข้างอุดอู้ในลำโพงเหมือนไม่ได้เปร่งออกมาสุดเท่าไร ทั้งเรื่องของรายละเอียดเสียง ความดัง และมิติเสียงนั้นเลยทำได้ระดับกลางๆเท่านั้นครับ แต่ความดังอาจจะไม่ได้แตกต่างกันเยอะ แต่มิติเสียง นั้นจะฟังได้ชัดครับ
GPS
ทางด้านการใช้งาน GPS นั้นถือว่าทำได้ดีกว่าเดิมพอสมควรเพราะการที่หันมาใช้งาน Snapdragon แล้วก็อาจจะมีส่วนช่วยในเรื่องนี้ได้ด้วยการจับที่ดีขึ้นกว่าเดิมและไวกว่าเดิมครับ เรื่องของการทำงานนั้นอาจจะทำให้มันดีขึ้นแบบชัดเจนเลย ในการทดสอบใช้งานจริงและผ่านแอปนั้นทำได้ประทับใจอยู่เหมือนกัน โดยทดสอบในที่ร่มหรือใต้ทางด่วนพวกนี้ เจอทั้งหมด 30 ดวง และ จับได้ 10 ดวง ส่วนที่โล่ง บนรถ กลางแจ้งทำได้ 21 ดวง จากทั้งหมด ดวง 45 ครับถือว่าอยู่ในระดับที่ดีพอสมควรเลยแหละ และไม่ค่อยมึนหรือเอ๋อเท่าไรเลยครับเรียกได้ว่าไม่เจอเลยดีกว่าใช้สบายๆครับ
BATTERY
ในเรื่องของแบตแน่นอนว่าในรุ่นนี้ให้แบตมาเยอะ และ ด้วยความที่สเปคตัวเครื่องนั้นไม่ได้แรงจัด เลยทำให้ตัวแบตนั้นอึดมากกกทั้งวันได้แบบสบายจริงๆสามารถพกพาไปทั้งวันได้เลยแบตดีกว่าที่คิดไว้ทั้งเรื่องการจัดการทรัพยากรของมันและ ตัวแบตที่ใหญ่ทำให้ใช้งานทั่วไปทั้งวันได้ รวมถึงใครเล่นเกมก็ยังไม่ได้ลดเยอะมากด้วยครับ ใครที่ชอบแบตอึดๆตัวนี้อาจจะตอบโจทย์เลยแหละ ส่วนการใช้งานนั้นทั้งวัน 10 ชั่วโมง หน้าจอเปิด 6 ชั่วโมง แบตเหลือ 22% ครับ ส่วนการชาร์จเข้านั้นรองรับการชาร์จไว Dual Engine 18W ทำให้ชาร์จได้ 28 % ภายใน 30 นาที และ เต็มภายใน 2 ชั่วโมง 50นาที เมื่อนับจากแบตเหลือ 5% ครับผม
GAMING
สำหรับในเรื่องของการเล่นเกมแน่นอนว่าชิปเซ็ต Snapdragon 665 เป็นชิปรุ่นใหม่ล่าสุดอาจจะทำให้บางเกมส์ยังไม่รองรับกับการเปิดภาพกราฟิกระดับสูงกว่าปกติ อย่างเช่น Pubg Mobile ที่สามารถเปิดสูงสุดได้เพียงเเค่สมดุลเท่านั้น เเต่หลังจากที่ลองหลายเกมส์อย่างเช่น Call Of Duty Mobile , Freefire ถือว่าค่อนข้างลื่นเลยทีเดียวใครที่เล่นเกมส์ที่ได้บอกมาลื่นเเน่นอน เรื่องของการทัชก็ตอบสนองได้ดี ไม่เจออาการทัชหลุด ตัวเครื่องหลังจากทดสอบประมาณ 41 นาที ตัวเครื่องมีอุณหภูมิความร้อนสูงสุด 42 องศาเท่านั้น เเต่เรื่องของการกินแบตอาจจะกินเยอะกว่ารุ่นอื่นหน่อยเพราะเท่าที่ทดสอบ 40 นาที กินเเบตอยู่ประมาณ 10%
CAMERA
กล้องหลังนั้นมาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัวที่รองรับการถ่ายทั้งมุมกว้างพิเศษ มุมปกติ มาโคร และ ละลายหลัง และในส่วนของ Night mode จะมีอัปเดตตามมานะครับ เมื่อได้อัปเดตแล้วจะมาแจ้งกันอีกรอบ แต่มีมาแน่นอนครับ !! กล้องหลังในรุ่นนี้มาพร้อม 48MP พร้อมรูรับแสง F1.8 ส่วนกล้องมุมกว้างพิเศษนั้นจะมาพร้อมกับ Super wide-angle 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 / และ กล้อง มาโคร Super Macro 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 ระยะใกล้ 2.5 เซนติเมตร / เลนส์ bokeh 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 สำหรับจับระยะนั้นเอง ในเรื่องกล้องนั้นจากที่ลองถือว่าใช้ได้เลย แต่ยังมีสีแปลกอยู่บ้างครับ และ กลางคืนนั้นถ้ามี Night Mode น่าจะโหดกว่านี้เยอะเลย รออัปเดตกันได้เลยวันที่ 22 ธันวาคมนี้ครับ
PORTRAIT
SELFIES
กล้องหน้านั้นจัดเต็มมาให้เลยที่ 32MP F2.0 รองรับการถ่ายได้หลากหลายเลยทีเดียว และมีโหมดต่างๆมากมายเข้ามาช่วย ทั้งการปรับแต่งใบหน้า AI Face Beauty ช่วยปรับสภาพผิวและโครงสร้างบนใบหน้า และมีโหมด AR Sticker หรือจะเป็นการแนะนำท่าทางในการถ่ายรูปที่เราคุ้นเคยกันว่าจะให้วางแขนไว้แบบไหนอะไรเป็นต้นครับ ถือว่าช่วยได้เยอะเลย ในการถ่ายหรือจัดท่าทางของรุ่นนี้ มีมาให้เหมือนกันกับกล้องหลังเลยครับ
ในส่วนของหน้าตากล้องนั้นจะคุ้ยเคยกันดีกับรุ่นก่อนหน้า และมีการแนะนำท่าทางการถ่ายรูปว่าจะวางแขนไว้แบบไหนยังไง ทำท่ายังไงได้ จะมีเส้นกรอบคอยบอกว่าควรอยู่ตำแหน่งไหน อีกทั้งยงมีพวกสติกเกอร์อะไรมาให้เล่น และการปรับแต่งใบหน้าด้วยครับ ซึ่งจะมีเหมือนกันเลยทั้งกล้องหน้าและหลัง แต่กล้องหน้ายังไม่เจอการถ่ายแบบ หน้าชัดหลังเบลอนะครับในตอนนี้ไม่แน่ใจว่าอนาคตจะมีอัปเดตอะไรเข้ามาอีกไหมต้องรอติดตามกันครับผม
VIDEO
ในการถ่ายวีดีโอนั้นรุ่นนี้อาจจะไม่ได้เป็นตัวชูโรงเท่าไรเพราะรองรับการถ่ายแค่ FHD 30FPS เท่านั้น ในทั้งมุมกว้าง และ มุมปกติ ครับในส่วนของกล้องหน้าก็รองรับที่ FHD ด้วยเช่นกัน และมีโหมดแต่งหน้าอะไรมาให้ที่ HD ครับ ในเรื่องของคุณภาพนั้นต้องบอกกันตรงๆว่าอาจจะไม่ได้เด่นเท่าไร ทั้งเรื่องของกันสั่นต่างๆ แต่เรื่องของเสียงนั้นขอชมว่า ใส่ไมค์อีกตัวเข้ามาแล้วดีกว่าเดิมเยอะมากครับ ทำให้เสียงคนพูดนั้นชัดเจนและดีกว่าเดิม ส่วนโทนสีอะไรยังไม่ค่อยแม่นมากนัก แต่ที่ชอบคือกล้องหน้านั้นทำโทนสีออกมาได้ดีและหน้าคนนั้นสีค่อนข้างดีเลยแหละ แต่กันสั่นอาจจะไม่ได้ดีเท่าไรครับในส่วนของกล้องหน้า และ กล้องหลังในบางสภาพแสงด้วยเช่นกัน
VIVO S1 PRO
” ดีไซน์ใหม่สวยพรีเมี่ยมขึ้น อัพกล้องดีขึ้น หน้าจอเด่น แบตอึด “
เป็นรุ่นที่สานต่อจากรุ่นแรกปรับปรุงให้ลงตัวขึ้นในแง่ของ กล้องที่เพิ่มเข้ามาและทำได้ดีขึ้น หรือจะเป็นหน้าจอที่เด่นอยู๋แล้วในรุ่นนี้ก็ยังคงทำได้ประทับใจ ส่วนแบตก็ทำได้อึด และยังเปลี่ยนมาใช้งาน Snapdragon 665 แล้วในครั้งนี้ ถือว่าใครที่ชอบหน้าจอ กล้องหน้าพวกนี้ และเน้นแบตอึดๆก็เล็งตัวนี้ได้ไม่ยากเลย แต่ถ้าใครสายเกมแบบโหดสุดนั้นอาจจะไม่เหมาะเท่าไรทั้งเรื่องของความแรงและการปรับภาพที่สูงอาจจะไม่รองรับครับ และงานวีดีโอนั้นไม่ได้เด่นสำหรับรุ่นนี้เลย แต่ถ้าเน้นภาพนิ่ง หรือ ใช้งานทั่วไป จอสวยกล้องหน้าสวยถ่ายง่ายตัวนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอีกรุ่นครับ
ข้อดี
- ดีไซน์สวยงาม ออกแบบได้ดูดีและแตกต่าง
- หน้าจอยังคงทำได้เด่นและสวยงามเหมือนเดิม
- กล้องหลัง จัดเต็มขึ้นรองรับการถ่ายที่ดีขึ้น
- กล้องหน้ายังคงทำได้ดี ทั้งโทนสีและมุมภาพ
- แบตทำได้ดี อึด ใช้งานทั้งวันได้สบายครับ
- ใส่ไมค์ตัดเสียง มาให้แล้ว คุยได้ดีขึ้น อัดวีดีโอเสียงดีขึ้น
- การนำทาง GPS ทำได้ดี แม่นยำขึ้น
ข้อสังเกต
- การถ่ายวีดีโอยังไม่เด่นเท่าไร
- CPU อาจจะไม่เหมาะสำหรับสายเกมหนักๆ
- กล้องหลัง ตัดขอบละลายหลังยังไม่เนียน / รออัปเดตอีกครั้ง พร้อมโหมดกลางคืน
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr
*รูปถ่ายจากกล้องมือถือทุกรูป ไม่มีการปรับแต่ง และ สามารถกดดูไฟล์เต็มแบบต้นฉบับได้นะครับ