รีวิว VIVO V17 หน้าจอ Ultra O Screen กล้อง 4 ตัว 48MP แบต 4,500 mAh !

Vivo ได้ทำการเปิดตัว Vivo V17 แล้วนั้นเองในประเทศไทยครับ ในรุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจในหลายๆจุดเลย และทำราคามาดีเลยแหละ รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่เล็กกว่า V17 Pro ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ครับ และในรุ่น V17 นั้น จะเน้นไปที่การออกแบบใหม่และมีความแตกต่างกันมากขึ้นไม่เหมือนตอน V15 ที่อะไรหลายๆอย่างเหมือนกันไปหมดครับ ในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบเจาะรู Ultra O Screen และ กล้องหลังดีไซน์ใหม่ทั้งหมด แบบตัว L พร้อมกับกล้อง 4 ตัวที่ใช้งานเลนส์หลักเป็น 48 MP มาพร้อมกล้องมุมกว้าง มาโคร และ เก็บระยะ ครับ และการออกแบบดีไซน์อะไรในภาพรวมนั้นก็สวยขึ้นเบาบางขึ้นจากรุ่นเดิมชัดเจนเลย และด้วยสเปคเมื่อเทียบกับราคาแล้วนั้นถือว่าเป็นรุ่นที่ทำได้ดีและภาพถ่ายทั้งหน้าและหลังนั้นทำได้ดีขึ้นจริงๆ

Vivo V17 มาพร้อมกับการออกแบบใหม่ทั้งหมด และก็รวมถึงสเปคที่ปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อยในเรื่องของ CPU ที่นำมาใช้งาน Snapdragon 675 AIE ทำงานร่วมกันกับ RAM 8GB STORAGE 256GB ใช้งานแบบ UFS ด้วยในรุ่นนี้ครับ ส่วนทางด้านหน้าจอนั้นจะเป็นหน้าจอแบบเจาะรู E3 Super AMOLED 6.44 นิ้วความละเอียด FullHD+ มาในชื่อ Ultra O Screen และ ตัวกล้องนั้นมาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว 48MP ใช้งาน Samsung GM2 บอกเลยว่าภาพดีกว่าที่คิดไว้จริงๆครับ / 8MP มุมกว้าง / และ 2MP มาโคร และ จับระยะ ส่วนกล้องหน้าให้เต็มๆมาที่ 32 MP F2.4 แน่นอนว่ากล้องหน้าและหลังมีมาพร้อมโหมดกลางคืนทั้งคู่ครับ ส่วน สแกนนิ้วปรับไปใช้งานบนหน้าจอแล้ว และ รวมถึง ตัวแบตให้มาที่ 4,500 mAh รองรับ 18W ส่วนทางด้านสีนั้นมาพร้อมกัน 2 สีคือสีขาว และ สีน้ำเงิน

VIVO V17  RAM 8GB STORAGE 256GB — เปิดราคาในไทยมาที่  11,999 บาท
สีขาว Glacier Ice White และสีน้ำเงิน Admiral Blue

UNBOX

ตัวกล่องนั้นจะเปลี่ยนแปลงการออกแบบจากรุ่น V15 ชัดเจนเลย ไม่มีรูปเครื่องชัดๆแล้วแต่เป็นเส้นขอบเครื่องพร้อมกับ รูปกล้องที่เป็นรูปจริงแทรกเข้ามา ทั้งด้านหน้าและด้านหลังที่เหมือนจะเน้นส่วนนี้มากๆ ส่วนอุปกรณ์ในกล่องนั้นค่ายนี้ยังคงให้มาครบๆ ทั้งหูฟัง เคส และ ฟิล์มกันรอยครับ และมีหูฟัง แบบ In-Ear ให้มาด้วยเช่นกันครับ

• ตัวเครื่อง VIVO V17
• อะแดปเตอร์ 9V/2A 18W
• สาย USB-C
• เข็มจิ้มถาดซิม
• หูฟัง In-Ear
• เคสใส
• คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
• ตัวเครื่องติดฟิล์มกันรอยมาให้เเล้ว

เคสที่แถมมานั้นจะเป็นแบบ TPU ใสนิ่มความหนาระดับกลางๆครับไม่ได้แข็งหรือหนามากนัก ครอบเครื่องได้ดี มีจุกปิดกันฝุ่น ส่วนด้านล่างที่เป็นช่องชาร์จไฟ การป้องกันนั้นรองรับได้ระดับนึงในส่วนของด้านหน้าและด้านหลังเวลาวางนั้นไม่โดนตัวเลนส์กล้องหรือหน้าจอ แต่ก็ไม่ได้ป้องกันได้เยอะมากนักเพราะไม่ได้นูนออกมาเยอะ และไม่ได้หนา เรียกได้ว่าอาจจะพอดีๆกับเลนส์กล้องเลย ส่วนวัสดุนั้นเป็นแบบสีใสใช้งานนานๆก็มีเหลืองได้ปกติครับ ในส่วนของด้านหน้านั้นจะเป็นเคสที่นูนออกมาทั้ง 4 มุมทำให้เวลาวางคว่ำนั้นจะช่วยให้ไม่โดนหน้าจอ และป้องกันเวลาตกได้นิดหน่อย ถือว่าดีกว่าเรียบๆไปเลยครับ ส่วนในด้านหลังนั้นจะเห็นว่าเคสเกือบจะพอดีกับเลนส์กล้องเลยอันนี้ต้องระวังกันนิดนึงเพราะไม่ได้หนาและนูนออกมาป้องกันมากเท่าไร เวลาวางพื้นไม่เรียบก็อาจจะโดนได้ง่ายพอสมควร

DESIGN

การออกแบบในรุ่นนี้มีการปรับเปลี่ยนในหลายๆจุด ถ้าเทียบกับรุ่นก่อนหน้าครับทั้งเรื่องของตำแหน่งการวางกล้อง หน้าจอ กล้องหน้าทั้งหมดเปลี่ยนไปพอสมควรในงานออกแบบนั้นการที่ปรับมาใช้กล้องหน้าแบบเจาะรู แทนกล้องแบบ Pop-UP เลยทำให้มันมีน้ำหนักที่เบาขึ้น และ บางขึ้นแบบชัดเจนเลย ส่วนใครที่ชอบกล้องหน้าแบบ Pop-Up นั้นยังคงมีรุ่น V17 Pro ให้เลือกครับ ส่วนในรุ่นนี้กล้องหลังดีไซน์ใหม่ก็ดูกลมกลืนพอสมควรแอบชอบมากกว่าสีขาว สีน้ำเงินในรุ่นนี้จะใช้ชื่อ Admiral Blue ซึ่งถ้าเป็นสีน้ำเงินนั้นตรงตัวกล้องจะเป็นสีดำทั้งหมดจะเนียนตากว่าสีขาว

หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ เป็นหน้าจอแบบเจาะรูกล้องหน้า Ultra-O Screen มุมขวาบน ฟิล์มกันรอยอะไรติดมาให้เรียบร้อย กล้องหน้าเล็กพอสมควรครับ และเป็นหน้าจอแบบ E3 รองรับ DCI-P3 ด้วยเช่นกัน

ขอบด้านบนนั้นทำได้บางและแปลกใหม่ เพราะในรุ่นนี้นั้นถือว่าเป็นรุ่นที่มาพร้อมหน้าจอแบบเจาะรู ในมุมขวาเป็นรุ่นแรกๆเลยของค่ายและทำให้ขอบด้านบนนั้นบาง เต็มตามากกว่าแบบติ่งหน้าจอ ส่วนลำโพงเซนเซอร์แฝงอยู่ขอบบนทั้งหมดครับ ส่วนกล้องหน้านั้นเล็กพอสมควรเลยมาพร้อมกับ 32 MP F2.4

ขอบด้านล่างนั้นยังคงมีพื้นที่อยู่พอสมควรเลย มาพร้อมปุ่มควบคุมในหน้าจอ และสามารถใช้งานเต็มหน้าจอได้ครับ

ในขอบเครื่องด้านล่างนั้นมาพร้อมกับ รูหูฟัง 3.5 มม. รูไมค์ และ  USB-C รวมถึงช่องลำโพงหลักของตัวเครื่อง

ในส่วนของขอบด้านขวานั้นจะเป็นปุ่ม Power ลดเสียง เพิ่มเสียง และจะเห็นการเล่นลวดลายขอบเครื่องอยู่นิดๆ

ในด้านบนนั้นรุ่นนี้มี ไมค์ตัดเสียงมาให้ในด้านบน และ เรียบๆไม่มีอะไรครับ จะเห็นความโค้งของฝาหลัง และ มีเล่นเส้นสายของตัวเครื่องทำให้ไม่หนาเกินไปด้วย

ในด้านซ้ายนั้นจะเป็นที่อยู่ของถาดซิมแบบ Triple Slot ครับรองรับทั้ง Nano Sim 2 ช่อง และ Micro-SD พร้อมกันได้เลย และจะเห็นลวดลายของขอบเครื่องมีการเว้าลงไปพอสมควร การออกแบบนี้ทำให้เครื่องดูบางขึ้นด้วย

ในด้านหลังนั้นมาพร้อมกับฝาหลังสีน้ำเงินใหม่ มีการเล่นแสงเงาได้สวยแม้จะไม่ได้มีลวดลายแฝงอยู่ในฝาหลังแต่จะเป็นการเล่นสีแสงแทนครับจะออกเหลือบๆ ฟ้าน้ำเงินสวยงามเหมือนกัน โลโก้ วางแนวนอน พร้อมกล้องมุมซ้ายบนแบบใหม่ และ สแกนนิ้วย้ายไปบนหน้าจอแล้วนั้นเองครับ เพราะในรุ่น V15 ใช้งานด้านหลังแต่รุ่นนี้ไปบนหน้าจอแล้ว

กล้องหลังหลักๆนั้นจะเป็น  เซนเซอร์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 เลนส์หลัก และ ตัว กล้อง Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 รวมถึง กล้อง Bokeh จับระยะ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และ ใส่ กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 พร้อมไฟแฟลช 2 ดวง และมีการเขียนสเปคกล้อง และรายละเอียดนิดหน่อย พร้อมกับ ในสี่เหลี่ยมมีการเล่นลวดลายนิดๆในแนวตั้ง 3 เลนส์

SPEC

• Android 9 Pie  Funtouch OS 9.2
• หน้าจอ E3 Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ แบบเจาะรู Ultra O Screen DCI-P3 500 Nits
• CPU Snapdragon 675 AIE
• RAM 8 GB
• STORAGE  256GB UFS ใส่เมมเพิ่มได้สูงสุด 256GB
• กล้องหลัง 4 ตัว รองรับมุมกว้าง
  • เซนเซอร์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 SS GM2
  • กล้อง Wide Angle 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้อง Macro 4 เซนติเมตร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มี Super Night Selfie รูรับแสง f/2.45
• เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
• USB Type-C
• แบตเตอรี่ 4,500 mAh ชาร์จไว 18W
• มีให้เลือก 2 สี: สีขาว Glacier Ice White และสีน้ำเงิน Admiral Blue

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน Snapdragon 675 AIE พร้อมกับ  Storage UFS 256GB จัดเต็มด้วย RAM 8GB ถือว่าเอาเรื่องครับ แม้ว่าจะใช้งาน 675 แต่พอใช้งานจริงๆมันกลับทำได้ลื่นไหลกว่าค่ายอื่นๆที่ใช้ตัวนี้ และที่น่าตกใจคือเวลาเล่นเกมมันนิ่งมากๆในเรื่องของ FPS และการใช้งานจริงแอบแปลกใจเล็กน้อยครับ ส่วนทางด้านคะแนน UFS นั้นอ่านไปได้ที่ 504 MB/s – เขียนไปได้ที่ 192 MB/s ส่วน DRL L1 แต่ในแอป Netflix ไม่รองรับ HD นะครับ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 228956 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU และ Geekbench นั้นทำไปได้ 509/1593 คะแนน ในภาพรวมนั้นแอบเสียดายว่าไม่ได้ใช้งาน 7 Series แต่ในการสัมผัสใช้งานจริงมันลื่นกว่าที่คิดทั้งการเล่นเกม และ การประมวลผลอะไรหลายๆอย่างที่ลองใช้งานครับ

SYSTEM UI

ทางด้านหน้าตาระบบอะไรนั้นยังคงใช้ Funtouch OS 9.2 based บนตัว Android 9 Pie อยู่นะครับหน้าตายังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักยังคงความเป็น Vivo อยู่พอสมควร และยังมีแอปติดเครื่องมาเยอะอยู่ การใช้งานมีเลขแจ้งเตือนมุมแอพอะไรปกติครับ และไม่มี App Drawer ในการใช้งานทั่วไปครับ แอพจะวางเรียงกันปกติเลย

การดูการแจ้งเตือนนั้นสามารถลากลงมาได้เหมือนรุ่นอื่นๆ แต่ที่แตกต่างนั้นจะเป็นส่วน Quick Setting ที่ค่ายนี้จะเป็นการปัดขึ้นมาจากด้านล่างแตกต่างกับค่ายอื่นๆตรงนี้แหละครับ ส่วนการแบ่งหน้าจออะไรสามารถทำได้สบายๆ

Storage 256 GB จะว่างให้ใช้งาน 240 โดยประมาณครับ และในส่วนของ RAM 8 GB นั้นใช้งานไป 3 GB กว่าเท่านั้นเองถือว่าน้อยพอสมควรเลยตัวระบบของมัน และทางด้านคีย์บอร์ดนั้นใช้งาน Google G Board นั้นเอง

ทางด้าน Gesture มีตัวช่วยเยอะแยะเหมือนเดิมครับ และ สามารถ ปรับปุ่มนำทางได้แล้วแต่ชอบ หรือจะใช้งานแบบเต็มหน้าจอก็ได้เช่นกัน และสามารถใช้ 3 นิ้วลากในการแคปหน้าจออะไรได้ครับ เรื่องของพวก Gesture ยังคงจัดเต็มไม่ได้ตัดออกไปไหนเลยสำหรับค่ายนี้ และยัง โหมดการขับขี่ต่างๆมีมาให้เช่นกัน รวมถึงสายเกม เน้นการปรับแต่งทำให้รองรับการทำงานที่ดีกว่าเดิม รวมถึงมีตัวช่วยในเกมเยอะทั้งเรื่องของการปรับให้ลื่นขึ้น ปิดแจ้งเตือน หรือจะเป็นการปรับแต่งเสียงเวลาคุยในเกมทำให้เสียงเราเหมือนหุ่นยนต์อะไรแบบนั้นได้เลยครับ

JOVI ตัวช่วย AI ก็เข้ามามีบทบาทในการทำงานต่างๆ ในหลายๆแอปมากขึ้น และสามารถเปลี่ยน Effect เวลาชาร์จแบต ทำงานต่างๆ ลายนิ้วมือได้ว่าจะเอารูปแบบไหน จริงๆค่ายนี้เด่นมากๆเรื่องการปรับแต่งในการใช้งานถือว่าเยอะสุดในบรรดามือถือที่ขายแล้วในไทยครับ และหน้าจอตัวนี้รองรับการใช้งานแบบ ความถี่ต่ำทำให้ไม่มีภาพคลื่นเวลาลดแสงเยอะๆ ซึ่งจะทำให้ไม่ปวดตาเวลาใช้งานด้วยนั้นเองครับ

DARK MODE นั้นถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ชอบมากๆๆในค่ายนี้เพราะไม่ค่อยมีค่ายไหนทำกันเท่าไรและโหมดนี้มีผลทั้งในตัวแอปในหารใช้งานรวมถึงหน้าตาทั้งหมดจะเป็นสีดำล้วนๆไม่แสบตาและไม่สว่างด้วยทำให้ใช้งานนานๆได้สบายครับรองรับการใช้งานทั้งหน้าปกติ หรือจะเป็นพวกแอปนอก Facebook Massenger ก็รองรับด้วยใช้สบายขึ้นเยอะ

THEME

การปรับเปลี่ยนธีมก็มีมาให้ครับ สามารถเปลี่ยนได้เยอะแยะเลยแต่หลักๆนั้นจะเป็นการเปลี่ยนหน้าตาของไอคอน และ พื้นหลัง หน้าจอล็อคซะส่วนใหญ่และแอปของทาง Vivo บางแอปที่หน้าตาจะเปลี่ยนตามครับ และก็สามารถเปลี่ยนฟอนต์อะไรได้ถือว่าเปลี่ยนได้เยอะกว่าหลายๆรุ่นในสมัยนี้ เพราะหลังๆหลายๆค่ายจะไปเพียวกันหมดแล้วด้วยนั้นเองทำให้อาจจะเบื่อหน้าตาเดิมๆกันได้ แต่ของทาง Vivo เองนั้นเปลี่ยนได้รวมถึงหน้าตอนโทรเข้าออกด้วยครับ

SCREEN

หน้าจอรุ่นนี้ถือว่าเป็นการพัฒนาเปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิม แต่ที่ตกใจคือออกแบบกล้องหน้าได้เล็กมากๆอาจจะเล็กที่สุดเลยก็ได้ครับ และการไม่ได้ใช้งานกล้องหน้า Pop-Up ทำให้เครื่องบางเบาและแข็งแรงขึ้นด้วย หน้าจอในตัว Vivo V17 นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอเจาะรูเรียกกันว่า Ultra O Screen เป็นการเจาะรูกล้องมุมขวาบนครับ มาในขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วนตัวเครื่องต่อหน้าจอ 91.38% ใหญ่เต็มตา แต่เมื่อเทียบกับรุ่น V15 ก่อนหน้าแล้วนั้นจะแอบเสียดายเพราะในรุ่นนั้นจะเป็นกล้องหน้าแบบ Pop-up ซึ่งทำให้มันเต็มตากว่าจริงๆ  สีสันหน้าจอมาค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ บอกเลยว่าสีจอมีความสดพอสมควรเลยเพราะใช้งาน E3 AMOLED ด้วย รองรับค่าสี DCI-P3 และในแง่ของ หน้าจอเเสงสว่างสู้แสงได้ดี พร้อมความสว่างสูงสุด 500Nits ใช้งานกลางเเจ้งได้สบายๆเรื่องจอนั้นทำได้ดีสัมผัสได้ติดนิ้วเหมือนรุ่นเดิมครับ และมีฟิล์มกันรอยติดมาให้เรียบร้อยจากโรงงาน

ทางด้านมุมมองของหน้าจอนั้นรองรับการใช้งานได้ดีครับ และด้วยการที่ใช้งานหน้าจอ Super AMOLED แล้วนั้นทำให้มันแสดงผลได้ดี ดำสนิท และ ตอบสนองต่อการสัมผัสได้ดีด้วยเช่นกัน ในการทำงานเล่นทั่วไปเล่นเกมก็ตอบสนองได้ดีไม่เจอปัญหาอะไรเลยและไม่หน่วงเลยครับ เรื่องหน้าจอและการสัมผัสนั้นทำได้ดีไม่มีปัญหา รวมถึงมุมมองของหน้าจอก็ไม่ได้เพี้ยนอีกทั้ง สู้แสงได้ดีถือว่าค่ายนี้ยังคงทำหน้าจอในหลายๆตัวได้น่าประทับใจอยู่เหมือนเดิมครับ

FINGERPRINT 

รุ่นนี้ได้ปรับมาใช้งานสแกนนิ้วบนหน้าจอแล้วครับ และ รองรับการทำงานได้ค่อนข้างไวเหมือนกับหลายๆรุ่นของทาง Vivo เลยสามารถเปลี่ยน Effect เวลาสแกนได้ด้วย ถือว่าเป็นค่ายแรกๆที่ใช้งานเทคโนโลยีนี้ครับ เลยทำให้เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเลยเรื่องของการทำงานและความไวในการทำงานนั้นทำได้ดีมากๆ และสามารถเพิ่มหลายๆนิ้วได้ปกติ ตำแหน่งในการใช้งานอยู่ในตำแหน่งกำลังดีครับไม่ได้ สูงหรือต่ำเกินไป แม้จะติดฟิล์มก็สามารถใช้งานได้แน่นอน

ALWAYS ON DISPLAY 

หน้าจอ Always On นั้นก็มีมาให้ครับในรุ่นนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายแบบ ค่ายนี้มีมาให้เลือกเยอะมากกกในการปรับแต่งและสามารถตั้งค่าได้เยอะ แสดงได้ตลอดเวลาเลยรวมถึงมีความชัดเจนและใหญ่มากๆ ในการปรับแต่งนั้นสามารถรองรับการปรับแต่ง 2 ส่วนหลักๆคือ ตัวอักษร สามารถปรับแต่งสี และ ไล่เฉดสีได้แบบในภาพ และ อีกส่วนคือพื้นหลังที่สามารถปรับแต่งได้เยอะมากจริงๆ ทั้ง แบบที่ให้มาหรือจะเป็นการปรับแต่งเองครับ ถือว่าเป็นหน้าจอ Always On ที่สวยและปรับแต่งได้เยอะที่สุดเลยใบบรรดามือถือเรทช่วงนี้ถือว่าทำได้ดีครับ

SOUND

ระบบเสียงทางค่ายนี้ไม่ได้ระบุชิปเสียงอะไรเป็นพิเศษในรุ่นนี้ครับ และด้วยตามเรทราคาของมันเลยอาจจะไม่ได้เน้นมากเท่าไรและรุ่นหลังๆของทาง VIVO เองนั้นเรียกได้ว่าไม่ได้เน้นมากเท่าเมื่อก่อนแล้ว มีใส่มาในแค่รุ่น X หรือ NEX เท่านั้น ทางรุ่น V นั้นเลยไม่มีชิปเสียงพิเศษอะไรแล้วครับ ทางด้านเสียงจากที่ได้ลองนั้นก็สามารถปรับแต่งได้ ทั้งแนวเสียงต่างๆ รอบทิศทางต่างๆครับ เสียงที่ได้ออกมานั้นกำลังขับอะไรกลางๆทั่วไปพอๆกับรุ่น V15 ครับ ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไรเสียงมาในแนวเดียวกัน แต่ถ้าเทียบหูฟังที่ให้มามันดีกว่ารุ่นเดิมเลยทำให้สามารถเก็บเสียงอะไรได้ชัดเจนและเหมือนจะแน่นขึ้นด้วยครับเลยเมื่อเทียบหูฟังในกล่องทั้งคู่ V17 เลยทำให้เราได้ยินเสียงอะไรชัดเจน มีมิติกว่า

ทางด้านหูฟังใช้งานแบบเดียวกับรุ่น NEX 3 เลยในภาพรวมนั้นดีไซน์สวยงามและดูดี และที่ชอบมากๆคือเรื่องของน้ำหนักที่เบามากกก เบาจริงๆครับและใส่สบายและเล็กมาก ถือว่าเป็นทรงหูฟังที่ทำออกมาได้ดีและใส่สบายอีกรุ่นแต่เรื่องของเสียงนั้นธรรมดาครับเสียงจะออกเบสมานิดหน่อยนุ่มๆ เสียงแหลมมากำลังดีชัดเจนแต่ไม่บาดหูครับ แต่เวทีเสียงอะไรก็ทั่วไปไม่ได้เด่นครับใช้งานแก้ขัดได้ มีไมค์พร้อมปุ่มกดมาให้ในตัวหูฟัง และ ใช้งานรู 3.5มม.ปกติครับ ถือว่ายังดีที่ไม่ตัดรูหูฟังไปไหนในรุ่นนี้

SPEAKER 

ลำโพงในรุ่นนี้ถือว่าพัฒนาได้ดีขึ้นจากรุ่นเดิมแต่ถ้าหากมองเทียบคู่แข่งหลายๆตัวมันอาจจะยังไม่ได้โหดสุดครับแต่รู้สึกได้ว่ามันดีกว่าเดิมอยู่เหมือนกัน ในเรื่องของความดังและไม่ได้แหลมจัดอย่างเดียวแบบแต่ก่อนแล้ว ใช้งานทั่วไปดูหนังฟังเพลงอะไรได้สบายครับ แต่ทางด้านของมิติเสียง ความหนักแน่นของเสียงเบสต่างๆเวลาดูหนังยังไม่โหดเท่าไรและไม่ได้มีการปรับแต่งเสียง หรือรองรับ Dolby อะไรในส่วนของลำโพงในรุ่นนี้ด้วยครับ

GAMING 

เรื่องของการเล่นเกมส์บอกเลยว่ารุ่นนี้ไม่ต้องห่วงด้วยผมคะแนนโดยรวมที่ค่อนข้างเยอะ บวกกับชิปเซ็ต Snapdragon 675 AIE ที่เรียกได้ว่าน่าจะเป็นชิประดับกลางที่ดีที่สุดของทาง QualComm เลยก็ว่าได้อีกทั้งทาง Vivo ยังใส่ฟีเจอร์ Multi-Turbo ที่มีทั้ง Game Turbo, Center Turbo, Cooling Turbo และ AI Turbo. มาช่วยทำให้ในเรื่องของการเล่นเกมส์ได้ดีขึ้น ลื่นไหลขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกมส์  ROV ที่สามารถเล่นได้ในโหมด 5 VS 5 ค่า FPS 60 นิ่ง ๆ รวมไปถึงเกมส์ PUBG MOBILE & CALL OF DUTY ก็เล่นได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งยังสามารถควบคุมความร้อนได้ดี บวกกับการตอบสนองในเรื่องของการทัชที่ตอบสนองนิ้วได้ดี บอกเลยว่าสำหรับคอเกมส์ที่ดูรุ่นนี้เอาไว้ไม่ผิดหวังเเน่นอนสามารถลองชมคลิปได้ที่ด้านบน

GPS 

การนำทางต่างๆและใช้งาน GPS ในภาพรวมการใช้งานจริงๆ ไม่เจอหลุดหน่วงอะไรเลยนะ นั้นถือว่าทำได้ดีกว่าเดิมพอสมควรเพราะการที่หันมาใช้งาน Snapdragon แล้วก็อาจจะมีส่วนช่วยในเรื่องนี้ได้ด้วยการจับที่ดีขึ้นกว่าเดิมและไวกว่าเดิมครับในการทดสอบใช้งานจริง และผ่านแอปนั้นทำได้ประทับใจอยู่เหมือนกัน โดยทดสอบในที่ร่มหรือใต้ทางด่วนพวกนี้ เจอทั้งหมด 34 ดวง และ จับได้ 7 ดวง ส่วนที่โล่ง บนรถ กลางแจ้งทำได้ 26 ดวง จากทั้งหมด 41ดวง ครับถือว่าอยู่ในระดับที่ดีพอสมควรเลยแหละ และเทียบกับรุ่น V15 จุดนี้ถือว่าเป็นจุดที่พัฒนาขึ้นชัดเจนจริงๆ

BATTERY 

แบตตัวนี้มาพร้อมกับ 4,500 mAh ที่รองรับการชาร์จไวสูงสุด 18W ครับ จริงๆตัวแบตให้มาเยอะพอสมควรเมื่อเทียบกับ CPU ของมันเลยทำให้การใช้งานในภาพรวมนั้นอึดมากๆ และสามารถใช้งานได้ทั้งวันสบายๆ แต่เสียดายว่าการชาร์จเข้านั้นยังไม่ได้ไวโหดบ้าพลังแบบรุ่นอื่นๆ ในตอนนี้ที่ใส่กันเข้ามาเท่าไรนัก ส่วนการใช้งานนั้นทั้งวัน 13 ชั่วโมง หน้าจอเปิด 5 ชั่วโมง แบตเหลือ 31% ครับ ส่วนการชาร์จเข้านั้นรองรับการชาร์จไว Dual Engine 18W

CAMERA

กล้องหลังมาพร้อมกับ 4 ตัวและการออกแบบแบบใหม่วางเป็นตัว L พร้อมกับ ความละเอียด 48MP ในตัวหลัก และ มีเลนส์มุมกว้าง มาโคร และ วัดระยะมาให้ครับ ส่วนของ Software ก็พัฒนาขึ้นเหมือนกันในโหมดกลางคืนต่างๆ และตัวกล้องก็รู้สึกว่าทำได้ดีขึ้นจริงๆ มาพร้อมกับโหมด (Super Night Camera) ที่ถ่ายกลางคืนได้ดี และ ไม่มีวุ้นเท่าไร ส่วนสเปคกล้องหลังหลักๆนั้นจะเป็น  เซนเซอร์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 Samsung GM2 เลนส์หลัก และ ตัว กล้อง Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 รวมถึง กล้อง Bokeh จับระยะ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และ ใส่ กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 เข้ามาด้วย จากที่ลองต้องบอกว่ากล้องหลังในรุ่นนี้ พัฒนาขึ้นแบบเยอะมากๆ ทั้งความแม่นยำ คุณภาพต่างๆ Software โหดขึ้นจริงนะ และแอบชอบมากกว่ากล้องตอน V17 Pro ด้วยซ้ำ ภาพมันมีมิติดีมากๆอยากให้ลองดูภาพ HDR ที่ทางเราได้ไปถ่าย รถยนต์ย้อนแสงตรงๆบอกเลยว่าทำได้น่าตกใจและคุณภาพดีมากๆเลยครับในครั้งนี้

SUPER NIGHT MODE 

PORTRAIT 

SELFIES

ตัวกล้องหน้านั้นรองรับการถ่ายที่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มาพร้อม รูรับแสง f/2.4 แต่เห็นรูรับแสงแคบอย่าพึ่งตกใจ เพราะในรุ่นนี้ถ่ายกลางคืนได้ใส่ฟีเจอร์ Super Night Selfie  เข้ามาให้ใช้งานกันด้วยครับ และในการถ่ายก็รองรับการถ่ายเหมือนรุ่นอื่นๆ คือมีการแนะนำท่าทางเซลฟี่ ท่าทางการถ่าย รวมถึง แต่งหน้าได้เยอะแยะมากและสามารถใช้งานละลายหลัง พื้นหลังขาวดำได้เหมือนรุ่นอื่นๆเลยของค่ายนี้ครับ ยังคงจัดเต็มเรื่องกล้องหน้ามาให้ และรูรับแสงแคบแต่บอกเลยว่าถ่ายจริงๆมันสว่างดีมากๆเลยนะและมุมมอง คุณภาพ โทนสีผิวใช้ได้เลยดีกว่าที่คิดไว้

ในส่วนของ Night mode สำหรับกล้องหน้าเป็นฟีเจอร์ที่ใส่เข้ามาช่วยถ่ายในที่แสงน้อยแต่เอาจริงๆจากที่ได้ลองนั้นกล้องหน้าเวลาแสงน้อยก็เก็บแสงอะไรได้ดีมากๆอยู่แล้วนะแม้จะเป็นรูรับแสง f2.4 แต่ก็ยังสามารถเก็บแสงได้ดีกว่าที่คิดไว้มากๆ ส่วนตัวลองถ่ายเทียบถ้าไม่มืดสนิทจริงๆจะแทบไม่ต่างเลยแต่ถ้ามืดๆมากๆจะพอเห็นความแตกต่างกัน

VIDEO

งานวีดีโอในรุ่นนี้นั้นจะมีโหมด Ultra Stable เข้ามามันจะทำงานเองเมื่อถ่ายวีดีโอในความละเอียด 1080P 30FPS เท่านั้นนะครับ แน่นอนว่ามันจะทำงานคือการใช้ EIS เข้ามาช่วยทำให้ภาพนั้นนิ่งกว่า ความละเอียดอื่นๆและจากที่ลองก็ถือว่านิ่งพอสมควรเลยครับ แต่ถ้าใช้งานในความละเอียดอื่นๆนั้นจะเห็นเลยว่ามันไม่มีทำงานและสั่นไหวมึนหัวมากๆ แต่ถ้ามองในภาพรวมชอบที่รองรับได้หลากหลายทั้ง 4K 3O FPS / FHD 60FPS / FHD 30FPS นั้นเองและมีกันสั่น EIS เข้ามาช่วยในตัว FHD 30FPS ครับ ถือว่างานดีอยู่ ส่วนสีสันความแม่นยำพอรับได้ รวมถึงความคมชัดในตัว 4K ครับ แน่นอนว่า เรื่องเสียงมีไมค์ตัดเสียงมาให้ ก็ทำได้ดีขึ้นเช่นกันครับ เวลาถ่ายก็ยังได้ยินเสียงคนพูดชัดเจนอยู่เช่นกัน ส่วนกล้องหน้านั้นมุมมองกว้างและหน้าสว่างชัดดีครับชอบในเรื่องของการถ่ายวีดีโอในภาพรวมเลยกล้องหน้าทำได้ดีครับ แต่เวลาแสงน้อย หรือกันสั่นนั้นอาจจะไม่ได้เท่าไร ทั้งหน้าและหลัง แต่ถ้ากลางวันนั้นบอกเลยว่าใช้งานได้สบายๆ

VIVO V17

” ดีไซน์ใหม่จอเจาะรู บางเบาขึ้น พร้อมกับกล้องหลังดีกว่าที่คิด กล้องหน้าก็เอาเรื่อง”

เป็นรุ่นเล็กที่ครั้งนี้แอบติดใจกว่าตัวพี่ซะงั้นหลังจากที่ได้ลองเพราะความบาง ความเบาของมันที่ไม่ต้องมีกล้องหน้าแบบ Pop-Up ใส่เข้ามาทำให้มันสามารถทำขนาดและน้ำหนักให้เบาขึ้นได้ครับ และการที่มาใช้กล้องหน้าแบบเจาะรูก็ถือว่าไม่ได้ใหญ่เลยมองเห็นได้ยากด้วยซ้ำครับ และทางด้าน Software กล้องหน้าหลังกลับทำได้ดีกว่าที่คิดไว้จริงๆ มิติของภาพ คุณภาพ ความแม่นยำของสีสภาพแสงต่างๆนั้นทำได้โหดเลยแหละ และกล้องหน้า ทำหน้าเนียนได้สวยและยังสามารถถ่ายแบบสมจริงได้ด้วยครับไม่ได้หลอกตาเท่าไรแล้ว ทางด้านสเปคให้มาอาจจะไม่ได้แรงมาก แต่เล่นเกมอะไรนั้นนิ่งพอสมควรและได้ความจุ 256GB เลยทีเดียวใช้งานสบายๆครับ ถือว่าเป็นรุ่นที่ให้เรื่องกล้อง หน้าจออะไรมาเอาเรื่องจริงๆในรอบนี้ และแบตก็อึดด้วยครับ แต่ถ้าใครชอบแรงๆโหดๆก็อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์เท่าไร

ข้อดี

• หน้าจอเจาะรูที่เล็กมากๆ มาพร้อมกับจอ Super AMOLED  ที่ใช้งานได้ดี
• รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอ
• แม้จะใช้ Snap 675 แต่ก็เล่นเกมได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆแบบชัดเจน
• Storage UFS ให้จัดเต็มมาที่ 256GB และ RAM 8GB
• กล้องหลัง 4 ตัว 48MP ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้เยอะมาก ทั้งคุณภาพ และ สีสัน
• Software กล้องพัฒนาขึ้นแบบชัดเจนมากๆ
• กล้องหน้า 32MP มุมมองกว้างทำได้ดี และ คุณภาพดีเช่นกัน
• หูฟังที่แถมมาให้คุณภาพที่กว่ารุ่นเดิม
• ตัวเครื่องสวย บาง เบา เป็นผลที่ไม่ได้ใช้กล้อง Pop-Up แล้ว
• การปรับแต่งหน้าตาในการใช้งานได้เยอะและหลากหลาย

ข้อสังเกต 

• CPU นั้นยังไม่ได้ใช้ Snap 7 Series
• การชาร์จเข้ายังสูงสุดแค่ 18W เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
• หน้าตา Funtouch OS ยังไม่คลีนเท่าที่ควร

VIVO V17 เปิดขายกันแล้วนะตอนนี้เลย สามารถเป็นเจ้าของ Vivo V17 ได้แล้ววันนี้ที่ AIS , TRUE , Dtac ในราคาเริ่มต้นเพียง 6,999 บาท เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AIS Shop , Telewiz Shop , True Shop , Dtac Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ 

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

*รูปถ่ายจากกล้องมือถือทุกรูป ไม่มีการปรับแต่ง และ สามารถกดดูไฟล์เต็มแบบต้นฉบับได้นะครับ