VIVO ได้เปิดตัว V21 5G ในไทยเป็นที่เรียบร้อยยังคงสานต่อเทพกล้องหน้ากันอย่างต่อเนื่องจากรุ่นที่แล้วนั้น ทำกล้องหน้าดีมากๆตัวนึงที่มาพร้อมกับ 44MP ที่รองรับการโฟกัสด้วยเช่นกันถือว่าเป็นกล้องหน้าที่ดีที่สุดในบรรดา Smartphone ที่ขายในไทยก็ไม่เวอร์เกินไป รวมถึงในการพัฒนากล้องหน้าก็เป็นจุดขายหลักๆของค่ายนี้อีกเช่นกันครับ และทาง V21 5G เองนั้นก็พัฒนามาอีกขั้นของกล้อง ใส่ระบบกันสั่นแบบ แมคคานิค OIS เข้ามาในกล้องหน้า รวมถึง กล้องหลังก็ใส่เข้ามา และยังมีแฟลชด้านหน้าแบบ LED จริงๆ 2 ดวงซ้ายขวา บอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ทำให้มันเป็นกล้องหน้าที่ดีมากตัวนึงในตลาดตอนนี้ และใช้งานบอดี้ที่บางเบา และหน้าจอ 90Hz AMOLED จัดเต็ม

VIVO V21 5G มาพร้อมกับ การใช้งาน CPU ตัวใหม่จากค่าย MEDIATEK Dimensity 800U (MT6873V) 7nm และ GPU Mali-G57 รองรับการใช้งาน 5G DUALMODE สบายๆใน CPU ตัวนี้ ส่วนทางด้านหน้าจอใช้งาน หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว (2404 ×1080พิกเซล) Full HD+, ความสว่าง 800nits, HDR 10+, รีเฟรชเรท 90Hz ถือว่าเป็นหน้าจอที่รองรับได้ดีกว่ารุ่นเดิมชัดเจน ส่วน RAM   LPDDR4x 8GB + storage (UFS 2.2) 128GB,256GB ใส่ microSD card เพิ่มได้ มาพร้อมกับกล้องหลัง 64MP ที่มีกันสั่น OIS ด้วยเช่นกัน  กล้องตัวหลัก 64MP (f/1.79), รองรับ OIS กล้อง ultra-wide กว้าง 119 องศา 8MP (f/2.2) กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) แฟลช LED และ ทางด้าน กล้องหน้า 44MP (f/2.0), รองรับ OIS, แฟลช LED คู่, ถ่ายวีดีโอได้ 4K ทำให้เป็นตัวแรกในตลาดที่มาพร้อมกับ 44MP OIS กล้องหน้า และ กล้องหลัง รวมถึงในตลาดมือถือตอนนี้ ในเรทราคาแบบนี้หาได้ยากและทำให้ V21 5G โดดเด่นมากจริงๆ และ ใช้งานแบต 4,000 mAh รองรับการชาร์จไว 33W และตัวเครื่องที่บาง เบามากๆแค่ 7.29 มม. เท่านั้น และหนัก 176 กรัม แน่นอนว่าเบาบางอีกทั้งดีไซน์ยังสวยและทำได้ดีไม่แตกต่างกับรุ่นพี่เลยก็ตาม แต่น่าเสียดายว่ารู 3.5 มม. ได้หายไปแล้วในรุ่นนี้ครับ

Vivo V21 5G เปิดให้จับจองเป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
  • ROM 128GB สี Dusk Blue และ Sunset Dazzle จองได้ตั้งแต่ 10 – 14 พ.ค. 64
  • ROM 128GB สี Arctic White จองได้ตั้งแต่ 10 – 19 พ.ค. 64
  • ROM 256GB สี Dusk Blue และ Sunset Dazzle จองได้ตั้งแต่ 10 – 19 พ.ค. 64

ส่วนทางด้านราคานั้น จะมาพร้อมกับด้วย 2 ราคา สำหรับตัว RAM 8 GB STORAGE 128 GB 12,999 บาท ส่วนตัว RAM 8 GB STORAGE 256 GB 14,999 บาทครับ 

UNBOX

  • ตัวเครื่อง VIVO V21 5G
  • เคสใส TPU
  • ที่ชาร์จ VIVO FLASHCHARGE 2.0 33W
  • สายชาร์จ USB-C
  • หูฟัง In-Ear
  • ตัวแปลง USB-C ไป 3.5 มม.
  • คู่มือ ที่จิ้มซิม

จะเห็นว่าตัวเคสนั้นมีการปกป้องได้ดีพอสมควรในเรื่องเลนส์กล้องและหน้าจอ แต่อาจจะไม่ได้สูงหนาขึ้นมามากนักแต่ก็ถือว่าพ้นระยะเวลาวางคว่ำหรือใช้งานได้ดีพอสมควรเลย สำหรับเคสที่แถมมาให้ในกล่องรุ่นนี้ ขอบเครื่องมีการเพิ่มความหนาเข้ามาให้ทำให้เรื่องของการปกป้องเวลาตกอะไรทำได้ดีเลยแหละ ส่วนตัวพอร์ตมีจุกปิดกันฝุ่นมาให้อีกครั้งนึงแอบเกะกะนิดๆครับทั้งที่รุ่นก่อนหน้าได้ตัดออกไป แต่ถ้าในแง่ของการใช้งานอาจจะดูกันฝุ่นดีกว่าแบบทั่วไป

DESIGN

ทางด้านงานออกแบบนั้นต้องบอกว่าน่าสนใจรุ่นนี้ยังคงอิงดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ดีทีเดียว เพราะว่ามาพร้อมกับ กล้องขนาดใหญ่ด้านบนและตัวเล็กด้านล่าง รวมถึงดีไซน์จะไปอิงทั้งรุ่นก่อนหน้าหรือแม้แต่รุ่นพี่ X60 Pro เลยก็ตามครับทำให้เป็นตัวเองค่อนข้างสูงเลยแหละ มาพร้อมกับสีใหม่ Sunset Dazzle แนวคิดจากภาพของเมฆสีแดงที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ท่ามกลางแสงอันสวยงามของดวงอาทิตย์ยามเย็นที่กำลังจะตกลงมาบรรจบกับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ แต่ก็เล่นแสงสีได้สวยและเด่นมากจริงๆครับ รวมถึงมีความบางมาก และเบามากจริงๆทำน้ำหนักได้ บาง  เบามากๆแค่ 7.29 มม. เท่านั้น และหนัก 176 กรัม ถือว่าเป็นมือถือ 5G ที่บางและสวยมากๆตัวนึงในตอนนี้

หน้าจอตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบติ่งตรงกลาง ใช้งานขนาด 6.44 นิ้ว ใช้งานหน้าจอ AMOLED FHD+  ให้สีสันสดใส คมชัดสมจริง ความสว่าง 500 nits และ HBM 800nits อัตราส่วนคอนทราสต์ 6000000: 1 รองรับ HDR 10+ และรองรับการปกป้องดวงตา SGS รวมถึงมาพร้อมกับ Refresh rate 90Hz ลื่นไหลเลยทีเดียวครับ

อีกจุดเด่นนึงที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือขอบหน้าจอส่วนบนที่ไม่ได้มีแค่กล้องหน้า แต่ยังมาพร้อมกับไฟแฟลช 2 ดวง ซ้าย ขวา ตามภาพบอกเลยว่าจัดเต็มจริงๆ ซ่อนได้เนียนตาและสวยจริงๆ ถ้าไม่ได้เปิดใช้งานแทบจะมองไม่ออกเลยว่ามีไฟอยู่ด้านบนครับ รวมถึงมีลำโพง และ เซนเซอร์แฝงไว้ทั้งหมดและทำขอบได้บาง ถือว่าออกแบบได้ดี และกล้องหน้า 44ล้านพิกเซล ที่ใส่กันสั่นแบบ OIS เข้ามาอีกบอกเลยว่าทำได้ขนาดแบบนี้ถือว่าโหดมากๆเลยทีเดียวครับตัวนี้

ขอบหน้าจอส่วนล่างนั้นมีขนาดใหญ่กว่าทุกด้านเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติครับ แต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้สบายๆไม่หนาเกินไป และปุ่มควคุมหน้าจอรองรับการใช้งานได้ปกติ รวมถึงใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้ด้วยเช่นกัน

ขอบหน้าจอส่วนบนตัวเครื่องจะเห็นว่ามันมีความบางมากๆ และขอบเหลี่ยมชัดเจน ตัดด้วยบอดี้แบบเงาพร้อมรูไมค์ตัดเสียงใส่เข้ามาให้ จะเห็นว่ากล้องหลังนั้นแอบนูนเล็กน้อยครับ แต่ก็ไม่ได้เยอะน่าเกลียดอะไรในรุ่นนี้ครับ

ขอบเครื่องในฝั่งขวานั้นจะเป็น ปุ่ม POWER ที่มีการออกแบบที่พื้นผิวแตกต่างกันนิดหน่อยรวมถึงปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียงครับ แน่นอนว่า งานออกแบบเน้นความเรียบหรูชัดเจน ขอบสีเงินเงาสวยงามพร้อมกับความเหลี่ยมสันทั้งหน้าหลัง

แน่นอนว่าทางด้านซ้ายนั้นเราจะเห็นว่าไม่มีแม้แต่ถาดซิมอะไรใส่เข้ามาทำให้ฝั่งนี้เรียบไปทั้งหมดครับออกแบบได้สวยและหรูหรา แม้จะใช้งานวัสดุแบบพลาสติกแต่ก็ทำงานประกอบ คุณภาพความแน่นได้เนียนมือและดูดีมากจริงๆ

ขอบเครื่องในด้านล่าง ไม่มีรู 3.5 มม. แล้วนะ แต่ก็ยังให้ตัวแปลงมาในกล่อง รวมถึงลำโพงหลักในด้านล่าง และ รู USB-C ใส่เข้ามาพร้อมกับ รูไมค์หลัก และ ถาดซิมแบบ Hybrid Slot ในด้านล่างรองรับการใช้งานได้ปกติครับ

ฝาหลังแบบด้าน พร้อมกับความเรียบทั้งหมดไม่มีส่วนโค้ง ใช้งานวัสดุกระจกในด้านหลัง ด้วยเทคโนโลยี AG Matte Glass เพิ่มความสวยงาม หรูหรา ให้กับตัวเครื่อง พร้อมทั้งให้คุณสัมผัสถึงความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ด้วยพื้นผิวที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ช่วยป้องกันโทรศัพท์ของคุณจากรอยนิ้วมือ และมาพร้อมกับสี Sunset Dazzle : ภาพของเมฆสีแดงที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ท่ามกลางแสงอันสวยงามของดวงอาทิตย์ยามเย็นที่กำลังจะตกลงมาบรรจบกับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ และต้องบอกว่าสีสวยจริงๆสามารถสะท้อนแสงได้หลากหลายมุมมากๆจริง และ เดิมๆจะเป็นสี ฟ้าม่วงๆแต่ถ้าเจอแสงก็จะมีโทนร้อนขึ้นมาทั้งโทนสีเหลืองเข้มต่างๆแล้วแต่สภาพแสงที่เราเจอบอกเลยว่าล้ำสวย

ออกแบบตัวกล้องด้านหลังแบบ Dual Tone Step จัดวางตัวกล้องได้อย่างมีมิติ และดูสง่างาม (สเต็ปขั้นแรก พื้นสีดำซึ่งเป็นตำแหน่งวางตัวกล้อง ขั้นที่สองพื้นเป็นสีเดียวกับฝาหลัง มีกรอบล้อมรอบทำให้ดูมีมิติ ขั้นที่สามคือฝาหลังที่ใช้ครอบแบตเตอรี่) ทำให้กล้องหลังดูสวยเด่นและดีไซน์ต่อเนื่องจากรุ่นพี่ รวมถึงรุ่นที่แล้วได้ดีมากๆจุดนี้ขอชม VIVO ครับ และตัวเลนส์หลักขนาดใหญ่มี OIS ใส่เข้ามาด้วยนะโหดจริงๆ มาพร้อมกับสเปก กล้องตัวหลัก 64MP (f/1.79), รองรับ OIS กันสั่น และ กล้อง ultra-wide กว้าง 119 องศา 8MP (f/2.2) กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) แฟลช LED รองรับการใช้งานได้อิสระ รวมถึงโหมดการถ่ายที่เยอะและจัดเต็มมากๆตัวนึงในการถ่ายรูป

SPEC

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว (2404 ×1080พิกเซล) Full HD+, ความสว่าง 800nits, HDR 10+, รีเฟรชเรท 90Hz
  • ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 800U (MT6873V) 7nm
  • GPU Mali-G57
  • RAM LPDDR4x 8GB + storage (UFS 2.2) 128GB, ใส่ microSD card เพิ่มได้
  • ซิมคู่แบบ Hybrid (nano + nano / microSD)
  • Android 11 ที่ครอบด้วย Funtouch OS 11.1
  • กล้องหล้ง กล้องตัวหลัก 64MP (f/1.79), รองรับ OIS กล้อง ultra-wide กว้าง 119 องศา 8MP (f/2.2) กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) แฟลช LED
  • กล้องหน้า 44MP (f/2.0), รองรับ OIS, แฟลช LED คู่, ถ่ายวิดิโอได้ 4K
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
  • ไม่มีรูหูฟัง 3.5มม.
  • ขนาดตัวเครื่อง : 159.68×73.90×7.29มม. (สี Dusk Blue)/ 7.39มม. (สี Sunset Dazzle);
  • น้ำหนัก: 176กรัม(สี Dusk Blue)/ 177กรัม (สี Sunset Dazzle)
  • รองรับเครือข่าย 5G SA/ NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.1, GPS/GLONASS/Beidou
  • USB Type-C แบตเตอรี่ 4,000 mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 33W

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน MTK DIMENSITY 800U 5G  พร้อมกับ  Storage UFS 2.2 ในความจุ 128GB จัดเต็มด้วย RAM 8GB ส่วนทางด้านคะแนน UFS นั้นอ่านไปได้ที่ 965MB/s – เขียนไปได้ที่ 470MB/s อ่านใกล้เคียงเดิม แต่เขียนดีขึ้นเท่าตัวจากการปรับมาใช้ 2.2 ครับ ส่วน ส่วน DRL L1 ในแอป Netflix รองรับ HD นะครับ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 365713 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU และ Geekbench นั้นทำไปได้ 443 /1572 คะแนน คะแนนภาพรวมนั้นดีขึ้นแน่นอนและใช้งานลื่นไหลเล่นเกมได้ดีกว่าเดิมแบบรู้สึกได้จริงๆ และการเขียนที่ไวขึ้นส่งผลการทำงานต่างๆในตัวเครื่องได้ดีขึ้นด้วยเช่นกันครับ บนพื้นฐานระบบ Funtouch OS 11.1

SYSTEM UI

ทางด้านหน้าตาระบบอะไรนั้นใช้ Funtouch OS 11.1 บนตัว Android 11 แล้วบอกเลยว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างครับทั้งหน้าตาการตั้งค่า Quick Setting มันไปอยู่ตำแหน่งที่ควรจะเป็นแล้วในด้านบนแน่นอนว่าหากเทียบกับ OS 10 ก่อนหน้าถือว่ามีหลายๆจุดต่างที่หน้าตั้งค่าตามที่แจ้งไปและฟีเจอร์ตามระบบ 11 นั้นเองครับ

การดูการแจ้งเตือนนั้นสามารถลากลงมาได้เหมือนรุ่นอื่นๆ ส่วนการตั้งค่าหลังจากรุ่นก่อนๆค่ายนี้จะเป็นการปัดขึ้นมาจากด้านล่าง แต่ครั้งนี้เลื่อนลงมาจากด้านบนแบบรุ่นอื่นๆแล้วเหมือนคนอื่นซะทีครับถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนหลักๆ ส่วนการแบ่งหน้าจออะไรสามารถทำได้สบายๆ และหน้าตามีการเปลี่ยนแปลงจากตอน OS10 อยู่พอสมควรเลยแหละครับ

Storage 128GB จะว่างให้ใช้งาน 110 โดยประมาณ และในส่วนของ RAM 8 GB นั้นใช้งานไป 4.03 GB ถือว่าเหลือสมควรเลยตัวระบบของมัน และทางด้านคีย์บอร์ดนั้นใช้งาน Google G Board นั้นเองครับเป็นมาตรฐานรุ่นนี้

อีกส่วนที่น่าสนใจของแบรนด์นี้ถือว่าเป็นการปรับแต่งที่หลากหลายมากๆในการใช้งานครับทั้งตัว Animationเปลี่ยนได้หลากหลายมากๆครับทั้ง หน้าตาตอนชาร์จ หน้าตาสแกนใบหน้า การปลดล็อก การปิดหน้าจอ และอีกมากมาย

ทางด้านหน้าจอตัวนี้สามารถปรับใช้งาน Always On Display ได้รวมถึงเปลี่ยนหน้าตาอะไรได้ด้วยถือว่าสวยงาม และ มาพร้อมกับหน้าจอแบบ 90Hz ทำให้การใช้งานนั้นมีความลื่นไหล และติดนิ้วมากขึ้นและมีความสวยสู้แสงได้สบายเลยทีเดียว เป็นจุดที่เปลี่ยนและพัฒนาขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับ V20 ก่อนหน้าและความสวยอะไรก็ทำได้ดีขึ้นด้วย

มาพร้อมกับ Gesture แน่นอนว่ารองรับเหมือนกันทั้งแคปหน้าจอ รวมถึงการเตือนเวลายกหรือจะเป็น Smart Feature ทั้งหมดและปุ่มการนำทางนั้นสามารถเปลี่ยนได้ด้วยทั้งรูปแบบ และ การจัดวางหรือเต็มจอ รวมถึงการแจ้งเตือนต่างๆนั้นก็ดูแล้วปรับได้ว่าแจ้งอะไรอย่างไร หน้าจอล็อกแจ้งแบบไหนบ้าง เป็นแบบเดียวกับ Android 11

SCREEN

หน้าจอในรุ่นนี้ถือว่าเป็นจุดนึงที่รู้สึกได้เลยว่ามีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นความลื่นไหล การสัมผัสหน้าจอ รวมถึง ความสว่างการสู้แสงที่ดีขึ้นทั้งการเทียบกับรุ่น V20 V20 Pro 5G ก็ตาม หน้าจอรุ่นนี้พัฒนาขึ้นชัดเจนดีกว่า V ทุกรุ่นที่เคยทำมาด้วยเช่นกันครับ แต่งานออกแบบยังคงเป็นแบบติ่งหน้าจอเหมือนเดิมน่าเสียดายว่าน่าจะทำแบบเจาะรูได้แล้วในยุคสมัยนี้ครับ แต่ทางสเปกนั้นไม่ธรรมดาเป้น หน้าจอ E3 AMOLED ช่วยปกป้องดวงตา สีสันคมชัดสมจริง หน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.44 นิ้ว ให้สีสันสดใส คมชัดสมจริง ความสว่าง 500 nits / HBM 800nits อัตราส่วนคอนทราสต์ 6000000: 1 รองรับ HDR 10+ และรองรับการปกป้องดวงตา SGS และมาพร้อมกับฟิล์มกันรอยติดตั้งมาเรียบร้อย หน้าจอสีดี สู้แสง มุมมองตรงๆชัดสวยและการสัมผัสติดนิ้วได้ดีแม้จะเป็น 60Hz และถ้าเปิด 90Hz ก็จะเนียนขึ้นไปอีกรวมถึงในแง่ของขนาดกำลังดีไม่เล็กและไม่ได้ใหญ่เกินไปสำหรับตัวนี้ จากที่รุ่นก่อนเราบ่นกันไปว่า Nits น้อยลงสู้แสงไม่ดี แต่ครั้งนี้พัฒนาขึ้น 800Nits รองรับได้ดีขึ้นแบบชัดเจนครับ

สำหรับในมุมมองในด้านอื่นๆนั้นก็ถือว่ายังทำได้ดีอยู่เหมือนกันครับ ทั้งในแง่ของการใช้งานทั่วไปและในการดูหนังต่างๆมุมมองรองรับได้สบายๆ ตัวหน้าจอนั้นมีฟิล์มกันรอยติดมาให้แล้วนิดหน่อยครับ และหน้าจอที่ลองนั้นสู้แสงได้กำลังดีและมีสีสันสวยงามครับ และที่ชอบคือการสัมผัสทัชอะไรก็ทำได้ดีเลยแหละไม่ต่างกับรุ่นก่อนๆครับ ถือว่าเรื่องสัมผัสค่ายนี้ทำได้ดีนะ มิติของภาพอะไรสวยและกว้างแต่ความสดจัดจ้านอาจจะไม่ได้เยอะมากแต่ก็สามารถปรับได้นิดหน่อยแต่สีจะเน้นความธรรมชาติและไม่เวอร์มากเกินไป ในจอรุ่นนี้ ถ้าใครชอบหน้าจอสวยและมีการสัมผัสดีแนะนำเลย ทำให้ภาพรวมถ้าถามว่าจุดเด่นอีกจุดคือหน้าจอที่ ลื่นไหลขึ้น สู้แสงดีกว่าเดิม รวมถึงดีกว่า V20 Pro เลยทีเดียวครับ

FINGERPRINT

รุ่นนี้ได้ใช้งานสแกนนิ้วบนหน้าจอสานต่อจากรุ่นก่อนๆครับ และ รองรับการทำงานได้ค่อนข้างไวเหมือนกับหลายๆรุ่นของทาง Vivo เลยสามารถเปลี่ยน Effect เวลาสแกนได้ด้วย ถือว่าเป็นค่ายแรกๆที่ใช้งานเทคโนโลยีนี้ครับ เลยทำให้เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเลยเรื่องของการทำงานและความไวในการทำงานนั้นทำได้ดีมากๆ และสามารถเพิ่มหลายๆนิ้วได้ปกติ ตำแหน่งการใช้งานอยู่ในตำแหน่งกำลังดีครับไม่ได้ สูงหรือต่ำเกินไป แม้จะติดฟิล์มก็สามารถใช้งานได้สบายๆรวมถึงการสแกนใบหน้าก็รองรับการใช้งานเหมือนเดิมด้วยเช่นกัน สแกนได้ไวแต่น่าเสียดายไฟแฟลชคู่หน้า น่าจะเซ็ทออกมาใช้งานยามกลางคืนได้น่าจะช่วยทำให้สแกนใบหน้าเวลามืดมากๆได้ดีกว่านี้ แต่ก็มีการเพิ่มแสงจอให้เองอยู่

5G DUALMODE

ตัวนี้รองรับการใช้งาน 5G ในตัวเครื่องเลยครับ ถือว่ารองรับได้สบายๆในการใช้งานเพราะว่า เริ่มมี 5G เสริมอะไรเข้ามาเยอะขึ้นในไทยหลายๆค่ายเครือข่ายก็ครอบคลุมมากขึ้นด้วยเช่นกัน และตัวนี้ใช้งาน MTK Dimensity 800U ตัวนี้รองรับ 5G  Dual Mode ได้สบายๆในการใช้งานในเมืองทำให้ความเร็วสูงขึ้น เสถียรมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวเครื่อง NSA / SA ทั้ง 2 โหมดเลยนั้นเอง และที่ลองใช้งานซิม 5G ก็รองรับแล้วพร้อมใช้งานตั้งแต่แกะกล่องครับ

5G ในการใช้งานทดสอบนั้นแน่นอนว่าความเร็วก็จะมาตรฐาน 300+ แน่นอนครับแต่ถ้าใจกลางเมืองหรือตามสถานที่ไหนที่ไม่ได้มีความหนาแน่นอะไรก็จะวิ่งได้แตะ 900+ ได้เลยเป็นความเร็วที่เหนือกว่า 4G ชัดเจนซึ่งการใช้งานนั้นส่งผลทั้งเรื่องของการดูหนัง Streaming ทั้งหลายไม่ว่าเป็นการฟังเพลง ดูหนัง ที่สมัยนี้ความละเอียดอะไรก็มาขึ้นเรื่อยๆ ก็จะสามารถดูได้โดยที่ไม่มีอาการหน่วงหรือติดขัดแต่อย่างใด รวมถึงความเสถียรเวลาใช้งานยาวๆด้วยเช่นกัน

SOUND 

ไม่มีรู 3.5 มม. มาให้แล้วครับ และทางด้านรูปทรงนั้นจะเป็นหูฟังแบบเดียวกับ V20 แบบ Earbuds ทรงธรรมดาเลย ทำให้เสียงในรุ่นนี้จะไม่สามารถคุมเสียงได้แบบ In-Ear แน่นอน ทางด้านรุ่นนี้ เสียงในตัวนี้ถ้าฟังจากตัวเครื่องนั้นกำลังขับอะไรนั้นถือว่ากลางๆครับ ไม่ได้เด่นมากนักต้องบอกว่าน่าเสียดายเพราะในรุ่นก่อนๆนั้นเสียงจะเน้นมากๆแต่หลังๆเหมือนจะหายไปแล้ว กำลังขับ เสียงกำลังดี โทนเสียงยังคงเน้นในเรื่องของรายละเอียดเด่นกว่านิดหน่อยและ เสียงเบสมาแบบน้อยๆครับ ไม่ได้เยอะอะไรมาก และเสียงผ่านตัวแปลง 3.5 มม. นั้นยังคงมีความใกล้เคียงกับรุ่น V20

ในเรื่องเสียงของทางหูฟังที่แถมมานั้นเสียงจะไม่แน่นเหมือนกับรุ่นก่อนๆหรือแบบ In-Ear แล้ว แต่ข้อดีที่ใส่เข้ามาในหูฟังทรงแบบนี้นั้นคือมันทำให้ใส่ได้สบายขึ้นใส่ออกกำลังได้ง่ายขึ้นและใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วยเวลาใส่และไม่อึดอัดอาจจะเป็นข้อดีของใครหลายๆคนที่ชอบอะไรแนวนี้ครับ แต่เรื่องเสียงแน่นอนมันเก็บเสียงอะไรได้ไม่เท่าตัวก่อนแล้วด้วย เสียงที่ได้จากหูตัวนี้จะเน้นเสียงแหลมเด่น เสียงร้องชัดครับเวลาคุยโทรศัพท์นั้นชัดเจนได้ยินดี แต่เสียงย่านต่ำหรือเบสนั้นอาจจะไม่ได้แน่นสะใจมากเท่าไรครับ เวทีเสียงกลางๆไปทางแคบนิดนึง แต่ก็ถือว่าไม่ได้แย่ถ้าเทียบกับหูฟังรุ่นอื่นๆในเรทราคาที่เป็นของแถมมากับเครื่องแน่นอนว่าทำได้ดีกว่าหลายๆตัวที่เป็นทรงนี้นะครับในหลายๆย่านก็ทำได้ดี

GPS 

MTK นั้นพัฒนาขึ้นมาจนในยุคนี้หลายๆด้านกลับทำได้เด่นชัดเจนและดีด้วยนะ 1 ในนั้นคือเครื่องของการใช้งานในการนำทางจริงๆนั้นไม่เจอหลุดหน่วงอะไรนั้นถือว่าทำได้ดีกว่าเดิมพอสมควร MTK ยุค 5G แล้วก็อาจจะมีส่วนช่วยในเรื่องนี้ได้ด้วยการจับที่ดีขึ้นกว่าเดิมและไวกว่าเดิมครับ ในการทดสอบใช้งานจริง และผ่านแอปนั้นทำได้ประทับใจอยู่เหมือนกัน โดยทดสอบในที่ร่มหรือใต้ทางด่วนพวกนี้ เจอทั้งหมด 55 ดวง และ จับได้ 25 ดวง ส่วนที่โล่ง บนรถ กลางแจ้งทำได้ 26 ดวง จากทั้งหมด 51 ดวง ครับถือว่าอยู่ในระดับที่ดีพอสมควรเลยแหละ และเทียบกับรุ่น V20 จุดนี้ถือว่าเป็นจุดที่ทำได้ดีเทียบกับ Snap ได้สบายๆ อย่างที่แจ้งไปตอน V20 รุ่นนั้นก็ถือว่าทำได้ดีเช่นเดียวกันด้วย

BATTERY 

แบตตัวนี้มาพร้อมกับ 4,000 mAh เท่ากับรุ่น V20 ก่อนหน้าและในเรื่องของการรองรับชาร์จไวสูงสุดยังคงเท่าเดิมคือ 33W จริงๆตัวแบตให้มาเยอะพอสมควรแล้วนะเมื่อเทียบกับ CPU ของมันเลยทำให้การใช้งานในภาพรวมนั้นอึดมากๆ และยิ่งได้ใช้งานรองรับการชาร์จเข้าแบบไวมากๆเข้ามา ทำให้ชาร์จแบตจาก 5-100 ได้ไม่นานเลยทางเราเลยขอทดสอบด้วยเลยว่าใช้งานเวลาการชาร์จได้ 1.30 ชั่วโมง ครับ และในส่วนการใช้งานนั้นทั้งวัน 14 ชั่วโมง หน้าจอเปิด 7 ชั่วโมง ใช้งานหนักมาก แบตเหลือ 17% ครับ ถือว่าใช้งานทั้งวันได้แบบสบายๆมีเล่นเกม ดูหนังยาวๆครับและเปิดใช้งานทั่วไปถือว่าตอบโจทย์สำหรับสายใช้งานทั่วไป เล่นเกมได้ดีมากและชาร์จเข้าไวเอาเรื่อง แต่ถ้าถามอาจจะ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจาก VIVO V20 มากนัก ทั้งความจุ และ การชาร์จไว แต่เพียงพอแล้วไหมก็ต้องบอกว่าพอ

64MP OIS CAMERA 

กล้องหลังที่มีระบบกันสั่น OIS ใส่เข้ามาให้ในมือถือเรทราคาแบบนี้ถ้าเป็นสมัยก่อนต้องบอกว่ายาก ถ้ามองย้อนกลับไป มือถือที่มาพร้อมกล้องหน้า OIS ตัวแรกจะเป็น HTC 10 และก็เงียบหายไป จนมาถึงรุ่นนี้ที่มาพร้อมกับ OIS ทั้งกล้องหน้าและหลัง และคุณภาพจัดเต็มในงบหมื่นต้นๆ ทำให้มันกลายเป็นกล้องที่โหดมากๆตัวนึงในบรรดาสมาร์ตโฟนคู่แข่ง รวมถึงฟีเจอร์การถ่ายอะไรนั้นไม่ธรรมดาจัดเต็มครบๆเลยทีเดียวครับ ทางด้านกล้องหลังนั้นมาพร้อมกับ  กล้องตัวหลัก 64MP (f/1.79), รองรับ OIS กล้อง ultra-wide กว้าง 120 องศา 8MP (f/2.2) กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) แฟลช LED และโหมดการถ่าย รูปแบบศิลปะ artistic styles ให้คุณได้เลือกใช้รูปแบบมากมายในการถ่ายภาพ การใช้งาน เทคโนโลยีกันสั่น OIS แบบ 4 แกน โหดเลยทีเดียวครับ ทางด้านโหมดอื่นๆก็มาครบทั้งการถ่าย กลางคืน NightMode และ Portrait Light Effect ต่างๆ หรือแม้จะเป็นโทนสีกลางคืนที่รองรับการปรับ CyberPunk และ Double Exposure ที่เป็นการซ้อนภาพก็ถือว่าเป็นลูกเล่นที่น่าสนใจในการสร้างสรรค์ภาพครับ

SELFIE 44MP + OIS

กล้องหน้า 44MP F2.0 ที่รองรับระบบกันสั่น OIS รวมถึงยังใส่ใช้งานระบบ EYE AF ทำให้การถ่ายกล้องหน้ารุ่นนี้มีความล้ำและใช้งานได้ดีแซงเรือธงหลายๆค่ายด้วยซ้ำไปครับ รวมถึงมีไฟแฟลชกล้องหน้ามาให้แบบแฟลชจริงๆอีกด้วยนะถือว่าครบ และ โหมดการถ่ายที่เยอะมากๆเลยตัวนึงในตอนนี้  กล้องหน้ามาพร้อมกับฟิลเตอร์ใหม่ ให้คุณสร้างสรรค์ภาพเซลฟี่ได้หลากหลาย บ่งบอกสไตล์ความเป็นคุณ เอฟเฟกต์ใบหน้าสำหรับเด็ก ให้คุณได้ย้อนกลับไปในช่วงวัยเด็กแห่งความทรงจำอีกครั้ง และโหมด Group Selfies ปรับศรีษะของบุคคลในภาพเล็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ ให้คุณเก็บได้ทุกรายละเอียด หมดกังวลเรื่องการถ่ายเซลฟี่กลุ่มอีกต่อไป หรือ Double Exposure รวมภาพถ่ายสองภาพเป็นหนึ่งเดียว และ โหมดถ่าย Portrait ยังคงจัดเต็มเช่นเดิม ทั้งแสงสี และ ปรับแต่งใบหน้า

SUPER NIGHT SELFIE

การถ่ายกลางคืนหรือแสงน้อยมากๆนั้นจริงๆ ตัวนี้น่าจะทำได้ดีที่สุดแล้วในมือถือที่ขายในตลาดเมืองไทยตอนนี้ครับ มาพร้อมกับเทคโนโลยี ISOCELL Plus 2G เทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรม เซนเซอร์รับภาพที่มีการอัพเกรดเพิ่มประสิทธิภาพของการรับแสง และความสว่างที่ดียิ่งขึ้น และ โหมดกลางคืน รวมถึง การเซลฟี่ความงามยามค่ำคืนในโหมด Dual Selfie Spotlight ที่ช่วยปรับแสงสว่างให้กับใบหน้าได้ง่ายๆ และไฟแฟลชเข้ามาช่วยแบบเต็มๆครับ ทำให้แม้จะมืดแต่ภาพออกมาสว่างเหมือนกลางวันเลยทีเดียวบอกเลยว่าโหด และสว่างมากจริงๆครับภาพที่ได้

 

VIVO V21 5G 

” ตำแหน่งกล้องหน้าที่ดีที่สุด ในตลาดมือถือตอนนี้ VIVO ยังคงทำได้ดีที่สุดเช่นเดิม “

เป็นสิ่งที่ไม่เวอร์เกินไปและแอดกล้าพูดเลยว่า ถ้าใครถามกล้องหน้าที่ดีที่สุดในมือถือ เทียบกับเรือธงแพงๆก็ตามรุ่นนี้ทำได้ดีที่สุด เกินหน้าเรือธงของค่าย หรือแม้แต่ค่ายอื่นๆทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสเปค 44MP และการใส่กันสั่นของจริง OIS เข้ามา หรือแม้จะเป็นระบบ EYE AF และ ที่เด่นคือ สกินโทนของสีผิวต่างๆทำได้ดี ความเนียนในการปรับแต่งใบหน้าทั้งหมด รวมถึง Software ที่ฉลาดและออกแบบมาดี ทำให้กล้องหน้ามันที่สุดแล้วในตอนนี้ รวมถึงกล้องหลัง OIS 64MP ก็ไม่ธรรมดา รวมถึงโหมดการถ่ายเช่นกัน อีกทั้งหน้าจอที่พัฒนาขึ้น 90Hz AMOLED และการสัมผัสที่ดี สู้แสงที่ดีขึ้น อีกทั้ง MTK DIMENSITY 800U 5G ก็ทำได้ประทับใจในการรองรับและประสิทธิภาพทำให้ภาพรวมถ้าเน้นใช้งานกล้องหน้าหลัง เน้นใช้งาน 5G และอยากได้เครื่องบาง เบา ดีไซน์สวยตัวนี้ตอบโจทย์มากๆแน่นอน

ข้อดี

  • งานออกแบบ บาง เบา และวัสดุงานประกอบทำได้เนียนและดูดี
  • กล้องหน้าที่โหดที่สุดในตลาดมือถือตอนนี้ วีดีโอ 4K ได้ด้วย
  • OIS ในกล้องหน้าพร้อม AF + ไฟแฟลช 2 ดวง
  • OIS ในกล้องหลัง 64MP และ คุณภาพกล้องหลังไม่ธรรมดา
  • ฟีเจอร์การถ่ายทำได้ดีและเยอะมากทั้งหน้าและหลัง
  • หน้าจอ AMOLED 90Hz ทำได้ลื่นไหล เนียนตามากขึ้น
  • กันสั่น วีดีโอทำได้ดีอย่างมาก ทั้งหน้าและหลัง
  • ระบบ Funtouch OS11.1 หน้าตาดีขึ้น ลื่นไหลดีขึ้น
  • ประสิทธิภาพ MTK DIMENSITY 800U ทำได้ดี และประหยัดแบต
  • รองรับ 5G DualMode ได้สบาย ไม่กินพลังงาน

ข้อสังเกต

  • ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม. แล้ว
  • แบต 4,000 mAh และ ชาร์จไว 33W เท่ากับรุ่นก่อนๆ
  • ยังเป็นลำโพงเดี่ยว

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr