ทุกชีวิตปลอดภัยใน Volvo แน่นอนว่าเกือบทุกคนนั้นน่าจะเคยได้ยินสโลแกนของค่ายนี้และเป็นค่ายที่ขึ้นชื่อเรื่องระบบความปลอดภัยทั้ง ตัวถังที่แข็งแรงทดสอบการชนได้คะแนนอันดับต้นๆ และระบบช่วยเหลือที่มากกว่าค่ายอื่นในระดับเดียวกันแบบชัดเจนอีกทั้งเป็นรถยนต์ที่มีความแข็งของตัวถังเยอะมากๆในอดีตถือว่า ทุกชีวิตปลอดภัยจริงๆ และก็ได้สานต่อมาถึงปัจจุบัน แต่แน่นอนว่านอกจากทุกชีวิตจะปลอดภัยแล้ว ตอนนี้เหมือนทุกชีวิตจะเร้าใจอีกด้วยเพราะหลังๆค่ายนี้บอกเลยว่าทำรถออกมาแรงแซงหน้าตัวอื่นแบบชัดเจน แรงม้าแรงบิดมหาศาลมากๆในแต่ละรุ่นเรียกได้ว่าสะใจมาก เหยียบมาหลังติดเบาะ ออกตัวล้อฟรีได้เลยถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก จากรถบ้านๆเป็นสายซิ่งได้ทันที และเช่นเดียวกันในยุคใหม่จากการทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ ทำให้ VOLVO V60 T8 คันนี้ได้พละกำลังมากถึง 407 แรงม้า เมื่อทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้านั้นเอง ทำให้เร่ง 0-100 แค่ 6 วิเท่านั้นถือว่าโหดมากในรุ่นนี้
VOLVO V60 T8 รุ่นนี้เปิดตัวมาด้วยพละกำลังที่บอกว่าจัดจ้าน และยังคงเด่นเรื่องของความปลอดภัยที่จัดเต็มเช่นเดิมทั้งระบบช่วยเหลือรอบคัน อีกทั้งตัวถังอะไรแข็งแรงเช่มเดิมและมาพร้อมกับ Pilot Assist 2 ที่นำหน้าคู่แข่งในเรทราคาเดียวกันด้วย รวมถึงเครื่องยนต์ที่มาพร้อมกับ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 1,969 ซีซี. 4 สูบ รหัส B4204T35 พ่วง Turbocharged และ Supercharged กำลังสูงสุด 320 แรงม้า (PS) ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 440 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 87 แรงม้า รวมพละกำลังสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร จับคู่กับ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Geartronic พร้อมระบบ Plug-in Hybrid แบตเตอรี่ Lithium-ion 11.6 kWh แรงดันไฟฟ้า 270-400 V ขับเคลื่อนล้อหน้า – ล้อหลังขับเคลื่อนด้วย Electric Rear Axel Drive รองรับน้ำมันสูงสุด E10 ทำให้เรื่องของพละกำลังบอกเลยว่าไม่ธรรมดา ออกตัวพุ่งหลังติดเบาะได้เลย ส่วนงานออกแบบฟีเจอร์ต่างๆจัดเต็มดีไซน์สวยเรียบๆ แต่ตกแต่งอะไรเรียบหรูจัดเต็มแบบสไตล์แสกนดิเนเวียจริงๆ รวมถึงความล้ำสมัยทั้งหน้าปัดแบบดิจิทัลทั้งหมด หน้าจอกลางขนาดใหญ่ระบบสัมผัส ไฟหน้า Adaptive LED พร้อมเลี้ยวตามล้อ และ หลังคา Panoramic Sunroof ใส่เข้ามาให้เต็มๆ เรียกได้ว่าจะเอาอะไรจากรถยนต์คันนี้อีกต้องบอกว่าไม่มีแล้วมันสามารถตอบโจทย์ทุกอย่างได้จริงๆ พละกำลัง เครื่องยนต์ เทคโนโลยี งานออกแบบ ฟีเจอร์ และยังมาพร้อมระบบเสียง Harman Kardon Premium Sound, เครื่องเสียง Amplifier 600 watt, ลำโพง 14 ตัว พร้อม Subwoofer และระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth ในราคาคันที่รีวิวนั้นค่าตัวที่ 2.69 ล้านเท่านั้น
- V60 T8 Momentum AWD 2,290,000 บาท
- V60 T8 Inscription AWD 2,690,000 บาท คันที่รีวิว
มาพร้อม Volvo Warranty รับประกันคุณภาพตัวรถ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และ Volvo Assistance บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 1 ปี
EXTERIOR
งานออกแบบภายนอกนั้นยังคงดีไซน์ที่เราคุ้นตาจากรุ่น S90 V90 ดีไซน์ยังคงเป็นไปในแนวทางเดียวกันจนบางทีแอบแยกหน้าตาอะไรยากมากๆ จะแตกต่างกันในเรื่องของขนาด และรูปทรงไฟหน้านิดหน่อยรวมถึงกันชนด้านล่าง แต่ถ้ามองกันดีๆทางด้าน V60 ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ออกแบบมาได้ดูสวยดุดันมากคันนึงด้วยการออกแบบกระโปรงหน้าที่ยาวพอสมควร ทรงรถที่ดูแบน และเตี้ยทำให้มันเป็น รถเอสเตทหรือแวกอนที่ดูดีอันดับต้นๆเลย ทรงของรถนั้นจะใกล้ๆกับ AUDI A4 AVANT และเป็น 2 ค่ายที่ทำรถแนวนี้ได้ลงตัวอย่างมากเลยอันนี้ชอบรูปทรงของคันนี้อย่างมาก ดีไซน์เรียบๆ รูปทรงเตี้ยแบนพร้อมจะทะยานไปได้ทุกเมื่อ ดูไม่ได้สปอร์ตหรือหรูหรามากเกินไปครับคันนี้
จะสังเกตว่าดีไซน์รูปทรงเมื่อมองทั้งคันแล้วก็ถือว่ามีความเตี้ยแบนจริงๆ ทำให้รูปทรงมันดูยาวมากๆแต่ในความจริงแล้วก็ไม่ได้ยาวกว่ารุ่นอื่นๆเท่าไรนัก แต่ก็เป็นงานออกแบบที่ฉลาดเลยทีเดียวเพราะรูปทรงแบบนี้ทำให้รถดูไม่อ้วนและไม่เทอะทะด้วยนั้นเอง และด้วยการที่ได้ล้อ 19 นิ้วใส่เข้ามาทำให้รถดูลงตัวขึ้นเยอะอย่างมาก ไฟหน้ายังคงเอกลักษณ์ของค่ายได้ดีตัวทรงค้อน รวมถึงกระจังหน้าแบบใหม่ที่เราจะเห็นได้ในหลายๆรุ่นของค่ายนี้ ใหญ่เว้าสวยงามพร้อมกับทรงชายล่างของรถที่ดูสปอร์ตพอสมควรเลย ส่วนด้านข้างเราจะเห็นว่ามันเรียบๆไม่ได้มีเส้นสายอะไรเยอะแต่มีความเป็นมัดกล้ามเส้นสายบ่าหลังของตัวรถที่เป็นเอกลักษณ์ในคล้ายๆรุ่นก่อนหน้าพร้อมกับ ความเว้าลึกที่ทำให้เงาอะไรสวยงามและดูดีมากๆ ไม่ต้องเล่นอะไรเยอะแต่ดูผู้ดีดุดันไปในตัว รวมถึงไฟฟท้ายทรงที่เราคุ้นเคยกันในค่ายนนี้เว้าสวยงามพร้อมกับลากยาวไปถึงป้ายทะเบียนสวยงาม พร้อมกับท่อคู่ใหญ่สะใจและเล่นโครเมี่ยมนิดหน่อย ถือว่ารูปทรงรอบคันนั้นไม่มีจุดไหนให้ติจริงๆ มันดูลงตัวไปทั้งหมดแล้วเดิมๆก็สามารถสวยลงตัวได้ไม่ต้องแต่ง
ด้านท้ายนั้นจะเห็นว่ารูปทรงนั้นเป็นเอกลักษณ์ที่เราจะเห็นได้ในหลายๆรุ่นส่วนโค้งเว้าของตัวไฟท้ายบ่าหลังของตัวรถและไฟท้ายที่ลากยาวไปจนถึงหลังคา ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เราคุ้นตากันมานานแต่ก็มีการออกแบบให้สวยงามขึ้นดุดันมากขึ้นเข้ากับเส้นสายฝาท้ายได้ดีดูเส้นสายคม พร้อมกับท่อคู่จริงด้านล่างและชายล่างที่เว้าสีดำและเล่นกับโครเมี่ยมขึ้นมา และแน่นอนว่าฝาท้ายก็รองรับไฟฟ้า และ เตะเปิดได้ด้วย และในภาพเราจะเห็นว่ามีไฟตัดหมอกหลังมาให้ด้วย ทรงรถด้านหลังตรงๆก็มีความสวยและมีบ่าไหล่ชัดเจนทำให้มันดูลงตัวขึ้น และในด้านหน้านั้นจะเห็นว่าทรงไฟหน้าอะไรนั้นสวยงาม เด่นๆด้วยกระจังหน้าที่ใหญ่ชัดเจนพร้อมกับเว้าเข้าไปสวยงาม ที่เด่นๆคือส่วนของกันชนล่างนั้นมีส่วนเว้านูนแบบชัดเจนในช่องดักลมตรงกลาง และข้างๆทำให้เล่นกับแสงได้สวย ดูดุดันกว่าคันอื่นๆชัดเจน
กล้องรอบคันรวมถึงระบบช่วยเหลือคันนี้ยังคงให้มาจัดเต็มไม่ต่างกับรุ่นพี่ XC90,S90 ต่างๆระบบช่วยการขับขี่ กล้องมองมุมมองต่างๆนั้นให้มาเน้นๆซ่อนอยู่ตรงกระจังหน้าตรงโลโก้ และตรงกระจกบานหน้า และตามกระจกมองข้างต่างๆนั้นเอง ในการออกแบบกระจกมองข้างก็มีการเล่นสีดำตัดให้ดูไม่หนา มากเกินไปด้วยและเป็นทรงที่สปอร์ตพอสมควรครับ และอีกจุดที่อาจจะทำให้ทรงคันนี้เด่นคือกระจังหน้าที่ค่อนข้างตั้งชัน ทำให้รถนั้นดูหรูพอสมควรด้วยเช่นกัน และในคันนี้ยังให้ที่ล้างไฟหน้ามาให้ทั้งคู่พร้อมกับเซนเซอร์รอบคันในการตรวจจับระยะเวลามีสิ่งของใกล้ๆด้วยนั้นเอง
และในรุ่น INSCRIPTION นั้นจะเป็นรุ่นท็อปทำให้การตกแต่ง ซึ่งจะตกแต่งด้วยโครเมี่ยมทั้งหมดรวมไปถึงราวหลังคาด้วยแน่นอนว่าใส่เข้ามาแบบเนียนๆไม่ได้สูงอะไรแต่ก็มีความแข็งแรงและใช้งานได้ดี พร้อมกับเสาอากาศครีบฉลามสวยงามสีเดียวกับตัวรถรวมถึงเส้นโครเมี่ยมรอบ ประตูกระจก ทั้งหมดด้วยเช่นกันทำให้มีความหรูหรามากกว่ารุ่นปกติที่เป็นสีดำ และในรุ่นนี้ยังคงได้หลังคากระจกสวยงามบานใหญ่ข้างบน สามารถเปิดได้ในตอนหน้าแบบไฟฟ้ารวมถึงมีม่านบังแดดมาให้ด้วย ซึ่งในรุ่นเริ่มต้นไม่มีมาให้รวมถึงล้อขนาดใหญ่ 19 นิ้ว 8 x 19″ 5-Multi Spoke Black Diamond Cut ยาง ขนาด 235/40 R19 ลายสวยงามและเล่นสีดำ เงินปัดเงาได้สวยเลยทีเดียว
ไฟหน้ายังคงมาพร้อมกับดีไซน์ค้อนเทพเจ้าสายฟ้า Thor Hammer นั้นเองซึ่งเป็นตำนานของชาวไวกิ้งที่อยู่ในแถบสแกนดิเนเวีย ด้วยเช่นกันเป็นทรงไฟหน้าที่เป็นตัว T ที่ใช้งานกันทุกรุ่นในตอนนี้ครับแต่รูปทรงภายในโคมนั้นมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่ซีรีย์ความโค้งมน ความคมก็จะแตกต่างกันไปส่วนของคันนี้ก็ถือว่าสวยงามพร้อมกับ LED ทั้งหมด มาพร้อมไฟ DRL ทรงค้อน และไฟเลี้ยวในตัวรวมถึงไฟหรี่ อีกทั้งมาพร้อมไฟหลักแบบ LED ที่จะเป็นแบบ Active Bending Headlights รวมถึงปรับไปสูงอัตโนมัติ และเปิดช่องไม่ให้แยงตาตามรถคันที่สวนมา แต่น่าเสียดายว่าไม่มีไฟตัดหมอกหน้ามาให้ แต่ถ้าเอาจริงๆนั้นไฟมันสว่างและสบายๆไม่ต้องมีตัดหมอกแล้วในรถยนต์สมัยนี้หลายๆคันก็ไม่มีมาให้แล้วครับ ส่วนทางด้านไฟท้ายทรงที่คุ้นเคยเป็นไฟเส้นสวยงาม ยาวทั้งโคมพร้อมกับไฟเหลี่ยมส่วนล่าง และไฟถอยสีขาว รวมถึงไฟเบรกส่วนด้านบนเป็นไฟถอย ส่วนตัดหมอกหลังมีให้มาฝั่งขวานะครับ ทำให้ส่วนติ่งไฟท้ายข้างในนั้นไม่ได้มีหลอดไฟรวมถึงตัวไฟก็ไม่ได้เต็มโคมซะทีเดียว แต่ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
สำหรับที่ชาร์จไฟนั้นจะอยู่ทางด้านซ้ายของตัวรถ สามารถเปิดได้เมื่อปลดล็อกรถและตัวที่เสียบนั้นจะมีไฟส่องสว่างมาให้ ด้วยรวมถึงเป็นตัวไฟสถานะด้วยซึ่งจะมีสีเขียวเมื่อเราทำการเสียบชาร์จเข้าไป ทางด้านหัวนั้นเป็นแบบ TYPE-2 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้งานกันทั่วไป ค่อนข้างหาง่ายและสามารถใช้ร่วมกันกับรถยุโรปหลายๆค่ายได้ทั้งหมดและหาได้ง่ายมากในตามห้างรวมถึงตามสถานีชาร์จ เพราะหลากหลายและเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่กว่ารุ่น 1 ซึ่งการชาร์จก็จะเพิ่มให้แบตเต็มได้เร็วขึ้นแต่ถ้าไม่มีสถานีชาร์จตัวเครื่องยนต์ก็สามารถปั่นไฟเข้าไปได้ด้วยเช่นกัน
ในยามค่ำคืนนนั้นเส้นสายไฟหน้าไฟท้ายนั้นถือว่าสวยงามพอสมควรเส้นสายไฟหน้าตัว T นั้นสวยงามเมื่อเปิดไฟหรี่พร้อมกับเส้นสายไฟท้ายที่เป็นคล้ายๆ 2 ชุดมาต่อกันรวมถึงต่อเนื่องไปด้านในตรงป้ายทะเบียน พร้อมกับไฟส่องป้ายทะเบียนสีขาวเป็น LED ทั้งหมดถือว่าออกแบบเส้นสายอะไรสวยงามพอสมควร ทั้งไฟหน้าและท้ายและยังคงมีความเข้มของแสงที่ค่อนข้างดีเวลาขับรถในช่วงฝนตกหรือยามค่ำคืนนั้นจะเห็นได้ค่อนข้างชัดด้วยเช่นกัน
ไฟท้ายนั้นต้องบอกว่าเมื่อเปิดใช้งานเต็มๆนั้นเป็น LED ทั้งหมดรวมถึงในฝั่งขวานั้นจะเป็นไฟตัดหมอกด้านหลัง 4 จุด 4 ดวงในภาพที่เป็นส่วนข้างในฝาท้าย ส่วนไฟเบรกนั้นนั้นจะอยู่เหนือไฟถอย ที่เป็นสีขาว และทางด้านไฟเลี้ยวนั้นจะอยู่ส่วนล่างไฟถอย ทางด้านไฟหน้านั้นจะเป็นโคมหลักทั้งหมด ส่วนที่ชิดด้านในนั้นจะเป็นไฟสูงที่เป็น MATRIX LED ทำหน้าที่คอยปรับเองอัตโนมัติ และหลบให้ไม่แยงตา ส่วนนอกเป็นไฟหลักไฟต่ำเลี้ยวตามองศารถ ไฟเลี้ยวจะเป็น T ยาวพร้อมกับไฟหรี่ในตัวและ DRL ที่จะติดตอนกลางวัน ส่วนไฟหน้าในการใช้งานจริงๆระยะที่สามารถมองเห็น และใช้งานได้จริงจากที่ลองขับในเส้นทางเขาใหญ่เวลากลางคืนบอกเลยว่าสบายๆ สามารถเก็บขอบถนนได้ดีและเลี้ยวตามรถ รวมถึงคัทออฟจริงๆไม่ได้คมมากนัก แต่สามารถเก็บส่วนมืดเหนือระยะไฟได้บ้างเป็นข้อดีของไฟแบบนี้เพราะถ้าแบบคัทออฟคมมากๆส่วนเหนือไฟจะมืดสนิทเลยนั้นเอง อันนี้ถือว่าโอเค ส่วนการปรับไฟสูงต่ำอัตโนมัติถือว่าไว และใช้งานได้จริงเป็นการแบ่งช่องตามรถคันข้างหน้า และปรับตามเวลารถสวน ทำให้เราเปิดไฟสูงได้ตลอดเวลาโดยที่ไม่แยงตารถคันข้างหน้า รวมถึงไม่แยงตารถคันที่สวนมาด้วย ถือว่าทำได้ดีมากๆ
ส่วนเวลาปลดล็อคหรือเข้ารถนั้นในรุ่นนี้มีไฟส่องสว่างตรงมือจับมาให้ทั้งหมด 4 บานเลยทีเดียว จะติดเมื่อปลดล็อกรถหรือเปิดประตู แน่นอนว่าจะช่วงส่องว่าตรงพื้นนั้นมีอะไรไหมทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้นรวมถึงฝาท้ายและไฟหน้าต่างๆนั้นไฟติดทั้งหมดเวลาปลดล็อกรถถือว่าเป็นจุดที่ใช้งานได้จริง และอยากให้มีในหลายๆคัน รวมถึงเมื่อเปิดประตูแล้วก็จะมีไฟส่องพื้นมาให้ในส่วนข้างในอีกทำให้ความสว่างเวลาเปิดประตูนั้นมากกว่าเดิมไปด้วยเช่นกัน
INTERIOR
งานออกแบบภายในรุ่นนี้ยังคงแนวธีมงานออกแบบที่ยังคงมีความคล้ายกับรุ่นอื่นๆในค่าย ทั้งในแง่ของความรู้สึก วัสดุ และการใช้งานแน่นอนว่าในรุ่นใหม่ๆจะมีแนวคิดที่จะค่อนข้างเน้นในแง่ของ สัดส่วนงานออกแบบ ผสมเข้ากับเทคโนโลยี และแน่นอนว่าความหรูพรีเมี่ยมแบบเรียบๆตามสไตล์ สแกนดิเนเวียนนั้นเอง จะเห็นทั้งเรื่องของวัสดุไม้สวยงามพร้อมกับโลหะด้านรวมถึง หัวเกียร์คริสตัลสวยงามใสๆที่เราจะเห็นแล้วรู้เลยว่าเป็นรถยนต์ของค่ายไหนนั้นเอง
และโทนห้องโดยสารนั้นให้อารมณ์เหมือนนั่งฟังเพลงอยู่บนโซฟา พื้นไม้ที่บ้านให้ความรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากเลยจริงๆเป็นงานออกแบบที่ต้องบอกว่าเรียบง่ายมากๆแต่ดูดี ใช้งานแล้วสบายตาและวัสดุดีก็อาจจะไม่ได้หวือหวามากนัก หรือมีเส้นสาย แสงสีเยอะแต่มันเป็นความสวยงามแบบผู้ดีเรียบๆเลยก็แล้วแต่แนวกันเลยว่าชอบงานออกแบบยังไง
กุญแจนั้นเป็นทรงที่เราคุ้นเคยกันในหลายๆรุ่นของค่ายนี้แต่จะแตกต่างกันในเรื่องของสีสันนิดหน่อยแต่การใช้งานนั้นเหมือนกันทั้งหมด เราสามารถกดที่ตัวกุญแจได้ในการปลดล็อก หรือ ว่าล็อกรถรวมถึงเปิดฝาท้ายแต่แน่นอนว่าในรุ่นใหม่ๆนั้นจะเป็นการใช้งานระบบ Smart Entry หรือ Keyless ทั้งหมดแล้ว ทำแค่พกตัวกุญแจติดตัวไว้จากนั้นแค่เดินเข้าไปใกล้รถ และเปิดมือจับก็จะสามารถเปิดประตูได้เลย ไม่ต้องกดปุ่มที่มือจับหรืออะไรทั้งนั้น รวมถึงฝาท้ายก็สามารถเตะเปิดได้เลยถือว่าเป็นระบบที่ใช้งานได้ง่าย ไม่ยุ่งยากรวมถึงรองรับทั้ง 4 บานทั้งหมดในการเปิดเงื้อมมือเข้าไปเปิดประตูซึ่งในบางแบรนด์นั้นจะยังไม่รองรับในบานหลังแต่ส่วนใหญ่ในปีนี้น่าจะรองรับระบบนี้แล้ว ทางด้านพวงมาลัยหรือตัวเบาะนั้นไม่ได้มี Welcome Seat อะไรมาให้แต่การขึ้นลงนั้นก็สามารถทำได้ไม่ยาก
บรรยากาศภายในในรุ่นนี้จะมาเป็นโทนสีดำเข้มแต่ก็มีการตัดด้วยวัสดุไม้สีเทาขาว และตัดด้วยสีดำเงารวมถึงมีโลหะอลูมิเนียมสีเงินด้านแทรกเข้ามาด้วยถือว่าส่วนตัวค่อนข้างชอบงานออกแบบค่ายนี้ แน่นอนว่ามันไม่ได้หวือหวาล้ำโลกแบบคันอื่นแต่มันสวยในแบบความรู้สึกพรีเมี่ยม สบายเหมือนนั่งอยู่ในบ้านแบบเรียบๆแต่ลงตัว ที่ชอบมากๆคือหัวเกียร์นั้นสวยและใสมากๆสมกับเป็นคริสตัลสวยงามรวมถึงหน้าจอตรงกลางในการใช้สั่งงานทั้งหมด แต่ขนาดแอบเล็กไปนิดหน่อยในจุดนี้ ส่วนพวงมาลัยหน้าปัดต่างๆนั้นเหมือนกันกับทางของ XC90 หรือรุ่นอื่นๆทั้งหมดและความโปร่งของหลังคาก็ถือว่าทำออกมาได้ดี หลังคากระจกสวยงามพร้อมกับมุมมองที่ดีขึ้นเยอะเลย แม้ตัวรถจะเตี้ยแบนมากก็ตามแต่ไม่ได้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด และแม้จะเป็นสีดำก็ตามครับตัวรถคันนี้ก็ไม่ได้รู้สึกแน่นอะไรมาก
หน้าจอควบคุมหลักของตัวรถยังคงเป็นแนวตั้งทรงเดิมที่เราค่อนข้างคุ้นเคยกันในหลายๆรุ่นของค่ายนี้ แต่ในการใช้งานจริงนั้นขนาดแอบเล็กไปหน่อยในการเปิดใช้งาน Android Auto – Apple Carplay เพราะมันจะไม่ได้แสดงผลแบบเต็มหน้าจอนั้นเองจะแสดงแค่ส่วนล่างแบบที่เห็นในภาพเท่านั้นจริงๆน่าจะขยายไปมากกว่านี้ซักเล็กน้อย ส่วนการควบคุมแอร์ ทุกอย่างนั้นบนหน้าจอทั้งหมด จะมีปุ่มจริงๆแค่การปรับเสียง เปลี่ยนเพลงเท่านั้นในส่วนล่างของหน้าจอและปุ่มปรับโหมดการขับขี่พวกนี้จะยังคงมีมาให้อยู่ รวมถึงตัวหัวเกียร์นั้นจะเป็นคริสตัลสวยงามใช้งานง่ายเช่นกัน และเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้คือในส่วนของการติดเครื่องนั้นจะเป็นแบบการหมุนตัวคำว่า Start Stop นะครับหมุนไปทางขวาและเครื่องยนต์ก็จะติด แต่ถ้าจะดับนั้นก็หมุนไปทางขวาเช่นเดียวกันในส่วนนี้ ถือว่าแปลกใหม่และแตกต่าง
ดีเทลงานต่างๆนั้นถือว่าสวยงามและดูดีพอสมควรลำโพงนั้นแน่นอนว่าใช้งานชุดทั้งหมดจาก Harman/Kardon ทำให้เรื่องของคุณภาพเครื่องเสียงนั้นไว้ใจได้พอสมควร มาพร้อมกับ Harman Kardon Premium Sound, เครื่องเสียง Amplifier 600 watt, ลำโพง 14 ตัว พร้อม Subwoofer ถือว่าคุณภาพเสียงใช้งานได้ดีแน่นอนว่าแม้จะไม่ได้ใช้งาน B&O แบบรุ่น 90 แต่ตัวนี้ถือว่าดีกว่าหลายๆคันในเรทนี้พอสมควร เสียงที่ได้มีมิติแน่นพอสมควรและทิศทางของเสียง เวทีเสียงดีมากๆในการวางตำแหน่งของลำโพงแต่ละจุด รวมถึงด้านหน้าคอนโซล จะเห็นว่าตัวเบาะนั้นมี Memmory Seat มาให้ทั้ง 2 ฝั่งด้วยครับ รวมถึงดูดีเทลในงานออกแบบต่างๆ ลายไม้ และ อลูมิเนียมนั้นถือว่าดูสวยและดูแพงเลยทีเดียวจุดนี้ถือว่าดีเลยแหละ
เบาะในตำแหน่งคู่หน้ายังคงเป็นทรงที่เราคุ้นเคยกันในหลายๆตัว รูปทรงที่โอบล้อมกระชับและซัพพอร์ตได้ดี ตัวเบาะนั้นยังคงเน้นในแง่ของความปลอดภัยที่สุดเวลาเกิดการชน ตัวพนักพิงไม่สามารถปรับได้ก็เพราะเรื่องความปลอดภัยครับ ในแง่ของหนังไม่ได้นุ่มเท่าตัว XC90 แต่ก็ไม่ได้แข็งมากเกินไปถือว่ากำลังโอเค แต่ถ้าให้นั่งนั้นยังแอบชอบนุ่มๆแบบ XC90 มากกว่านิดหน่อย แต่ทรงเบาะนั้นไม่ได้แตกต่างกันมาก เบาะคู่หน้าสามารถปรับได้ เยอะและหลากหลายเท่ากัน ปรับที่รองขาให้ยืดได้ ดันหลังได้อิสระขึ้นลงได้รวมถึง ปรับแบบพื้นฐาน จริงๆถือว่านั่งขับทางไกลสบายพอสมควรในการนั่งอะไรต่างๆ ไม่ได้มีปัญหาแม้จะขับทางไกล พื้นที่เข่า วางแขนอะไรกำลังดี และพื้นที่เหนือ ศรีษะนั้นทำออกมาเหลือๆ สำหรับตัวแอดเองที่สูง 180 แน่นอนว่าการออกแลบมันจะเน้นกระชับพื้นที่จะหุ้มๆรอบตัวเรา เวลาเกิดอุบัติเหตุจะขยับน้อยสุดนั้นเอง
ทางด้านเบาะหลังนั้นในความรู้สึกแรกๆเลย คือตัวเบาะมีความจมลงไปค่อนข้างเยอะมากทำให้เวลานั่งลุกอาจจะลำบากนิดหน่อยในจุดนี้ ส่วนการรองรับแน่นอนว่าไม่มีปัญหา แต่เบาะไม่สามารถปรับเอนได้มากกว่านี้ และอุโมงค์กลางของตัวรถนั้นสูงมากๆทำให้การนั่งตรงกลางอาจจะลำบากพอสมควรและในการขยับพื้นที่ต่างๆ รวมถึง ตัวเบาะอาจจะไม่ได้นุ่มมาหนักแต่ก็พอนั่งกระชับอยู่เช่นกันนั่ง 2 คนจะเป็นตำแหน่งที่ลงตัวและมีที่วางแก้วที่วางแขนพอดี และถ้านั่ง 3 นั้นพื้นที่ยังรองรับได้ แต่คนกลางอาจจะไม่สบายมากนักในจุดนี้ และน่าเสียดายว่าไม่มีม่านบังแดดข้างมาให้ ส่วนพื้นที่วางขานั้นเหลือๆเลยแหละสบายๆ ใช้งานต่างๆ รวมถึงเหนือ ศรีษะเช่นกันไม่มีปัญหาในการนั่งเลยสบายโปร่ง แต่ก็ไม่ได้กว้างสะใจแบบรุ่นใหญ่แค่นั้นในภาพรวมนะ
แอร์แถวหลังนั้นยังคงมีมาให้แต่จะใส่มาตำแหน่งตรงเสาร์ Bซ้ายขวา จะไม่ได้ใส่มาตรงกลางแน่นอนว่าในตำแหน่งนี้จะค่อนข้างได้ผลกว่าสามารถยิงตรงมาสู่คนนั่งหลังได้เลย แต่น่าเสียดายว่าไม่สามารถปรับอุณหภูมิได้ หรือพัดลม ส่วนที่วางแก้วนั้นจะอยู่ตรงกลางระหว่างที่นั่ง สามารถดึงออกมาใช้งานพร้อมกับที่วางของ และฝาเปิดได้สำหรับเก็บของเล็กๆน้อย วางแก้วได้ 2 ใบ ส่วนตรงคอนโซลกลางนั้นไม่มีช่อง USBมาให้นะเป็นแค่ที่จ่ายไฟเท่านั้น และ ช่องเก็บของคอนโซลกลางนั้นแบนมากๆลึกไม่ถึงข้อนิ้วทำให้ในการเก็บอะไรนั้นลำบากพอสมควรเลย
พื้นที่ในการขึ้นลงนั้นถือว่ากว้างพอสมควร และด้วยความที่รถมีความเตี้ยมากๆทำให้ในการขึ้นลงนั้นสะดวกพอสมควรไม่มีปัญหาเลย รวมถึงตัวประตูก็สามารถเปิดได้กว้างขวางพอสมควร สำหรับผู้สูงอายุก็ขึ้นลงได้สบาย
ห้องสัมภาระท้ายคันนี้รองรับความจุมากถึง 529 ลิตร และเมื่อพับจะได้มากถึง 1441 ลิตร แน่นอนว่าสามารถพับได้ค่อนข้างเรียบพอสมควร แต่น่าเสียดายว่าไม่มีปรับเบาะหรือดึงเบาะจากห้องข้างหลัง โดยตัวเบาะนั้นแยกปรับ 60/40 มาตรฐาน ส่วนที่เก็บของนั้นมีมาให้เยอะ และข้างๆมีที่เกี่ยวมาครบ รวมถึงแผงบังสัมภาระท้าย ก็มีมาให้ ส่วนล้ออะไหล่นั้นไม่มีมาให้แล้วนะ เป็นชุดปะยางแทน และ ฝาท้ายไฟฟ้า รองรับเตะเปิดได้เลย ถือว่าในการขนของ และขนาดความกว้างนั้นทำได้ดีเลยทีเดียว จะมีปลั๊กชาร์จแบตไฟฟ้ามาให้
ภายในห้องโดยสารเวลากลางคืนนั้นถือว่าไม่ได้มีความหวือหวา หรือแสงสีอะไรเยอะรวมถึงไม่สามารถปรับแสงอะไรได้เยอะ แต่ก็ยังดีที่ให้ไฟส่องเป็นจุดๆมาให้ซึ่งไฟตรงนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ ในภาพคือปรับเป็นสีม่วงอยู่นั้นเอง มีให้ในด้านหน้า 1 จุด และด้านหลังนั้นซ้ายขวา ทำให้พอมีแสงสีอยู่บ้างแต่พวกไฟเส้นๆสวยๆงามนั้นไม่มีมาให้เลย ทำให้เวลากลางคืนนั้นแสงค่อนข้างน้อยมาก จะมีแค่ไฟส่องเท้าเท่านั้น และตามที่วางแก้ว และขอบประตูที่ใส่ของนั้นเอง ส่วนไฟในเก๋งนั้นสีขาวปกติครับ ส่วนไฟส่องเท้านั้นมีมาให้ ทั้งหน้าหลังเลย
ไฟ AMBIENT นั้นให้มาสามารถเปลี่ยนแสงสีอะไรได้นิดหน่อย แน่นอนว่าต้องมืดมากจริงๆถึงจะพอเห็นแสงสีรายละเอียดของไฟ แต่ข้อดีคือมันสามารถเห็นชัดและเล่นกับหัวเกียร์คริสตัลได้ดีเลยทีเดียวยังพอมีลูกเล่นอยู่ เพราะตัวหัวเกัยร์เองนั้นมีไฟส่องสีขาวของตัวเองอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน ฟีลลิ่งเวลานั่งจะแตกต่างกับค่ายอื่นชัดเจนเลย
PILOT ASSIST II
PILOT ASSIST นั้นถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ต้องบอกว่าค่อนข้างว้าว และนำหน้าคู่แข่งรวมถึงเพิ่มความสะดวกสบายได้ดีเลย มันคือระบบช่วยเหลือได้ดีมากๆแม้จะไม่ใช่ระบบที่ช่วยการขับขี่เต็มๆก็ตาม แต่ก็สามารถช่วยเลี้ยว ตามเลนได้รวมถึงเบรก และชะลอให้เองเวลาเจอรถติด ทำให้ในการขับทางไกลเราสามารถนั่งชิลๆได้จับพวงมาลัยให้รถเลี้ยวเอง ขับเองได้ รวมถึงมีระบบคอยดูรถเวลาตัดหน้า เวลาเบรกอะไรต่างๆได้ดี แต่ข้อจำกัดของมันก็จะต้องใช้งานเวลาถนนมีเส้นเท่านั้น เพราะมันจะอิงตามเส้นของถนนนั้นเอง ถ้ารถเข้ามานิดๆหน่อยๆในการแทรกเลน อาจจะจับไม่ได้ ส่วนระบบช่วยเหลือ เช่นดูเลนเปลี่ยนเลน หรือ ออกนอกเลน ถ้าไม่เปิดไฟเลี้ยวก็จะมีการสั่นเตือน และหักเข้าเลน รวมถึงถ้ามีรถใกล้ชนมันจะหักหลบแบบทันทีให้เลย
CONSUMPTION
อัตราการกินน้ำมันนั้นถือว่าทำได้ดีแน่นอนว่าในรุ่นนี้มี มอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วยในการเร่ง การสิ้นเปลืองทำได้ดีขึ้นมากๆ เราจึงทำสอบในช่วงที่แบตเต็มๆ และช่วงที่แบตหมด เอาจริงถือว่ามีแบตกับไม่มีนั้นแตกต่างกันพอสมควร ทั้งอัตราเร่ง ทั้งการขับขี่ และรวมถึงอัตราสิ้นเปลือง ในการทดสอบในช่วงมีแบต ในเมืองนั้น ทำได้ประมาณ 13.1 กม./ลิตร ส่วนในการขับขี่ทางไกลนั้นทำได้ 15 กม.ลิตร และถ้าใช้แบตหมดแล้วนั้นในการปั่นไฟ และเครื่องล้วนๆทำไปได้ 11 กม./ลิตร ถือว่าถ้าเทียบกับการแบกน้ำหนักตัวถัง และทรงของรถ รวมถึงการนั่ง 4 คนถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว
ENGINE
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 1,969 ซีซี. 4 สูบ รหัส B4204T35 พ่วง Turbo charged และ Super charged กำลังสูงสุด 320 แรงม้า (PS) ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 440 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 87 แรงม้า รวมพละกำลังสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร จับคู่กับ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Geartronic พร้อมระบบ Plug-in Hybrid แบตเตอรี่ Lithium-ion 11.6 kWh แรงดันไฟฟ้า 270-400 V ขับเคลื่อนล้อหน้า – ล้อหลังขับเคลื่อนด้วย Electric Rear Axel Drive รองรับน้ำมันสูงสุด E10 ถือว่าพละกำลังและขับเคลื่อนนั้นถือว่าเหลือๆในการใช้งาน ทั้งการขับ ทางไกลหรือว่าจะเป็นในเมือง รองรับการใช้งานเพราะมอเตอร์ในการขับในเมืองต่างๆนั้นทำให้ประหยัด และอัตราเร่งเวลาแซงนั้นทำได้ดี การส่งพลังขับเคลื่อนนั้นถือว่าทำให้การขับ 4 ล้อนั้นมั่นใจขึ้นมากทั้งการขับทางไกล และเวลาลุยฝนต่างๆ กล้าที่จะใช้ความเร็วแบบมั่นใจได้มากขึ้น
การขับขี่ในรุ่นนี้เครื่องยนต์นั้นตอบสนองได้ดีมากๆ ทั้งในเรื่องของการเร่งแซงในเมือง รวมไปถึงการขับระยะทางไกลๆทำให้การแซง การเปลี่บนเลนต่างๆนั้นไม่ต้องลุ้นอะไรเลยแม้แต่น้อย พละกำลังเมื่อตอนที่มีมอเตอร์อยู่นั้นมหาศาลเพียงพ่อในการเร่ง 0-100 ภายใน 6 วิ และ ไปถึง 160 ได้แบบสบายๆ อีกทั้งในการแซงแบบเหยียบมิด ก็สามารถมาได้ทันใจหลังติดเบาะเลยทีเดียว ถือว่าไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้แล้ว แต้ถ้าเมื่อไหร่ที่มอเตอร์นั้นหมดกำลัง หรือว่าหมดไฟ แน่นอนว่าอัตราเร่งนั้นดรอปลง หรือว่าปลายจะไม่พุ่งเท่าไรเป็นปกติของรถยนต์แนวนี้ แต่ถ้ามองในแง่เครื่องยนต์ล้วนๆก็ไม่ได้อืดแบบชัดเจนอะไร ถือว่ายังสามารถพุ่งได้ แต่แค่ไม่ได้สะใจมากเท่าตอนมีมอเตอร์ นั้นเอง แต่ก็ยังเหยียบมาได้ไม่อืดแบบที่คิดไว้ตอนแรกเครื่องเพียวๆยังพอให้เรี่ยวแรงแซงได้แบบสบายอยู่เช่นเดียวกัน
ช่วงล่างในรุ่นนี้ถือว่ามีความนิ่งและแน่นตามแบบเดิมๆของค่าย มีความนุ่มนั่งสบายอยู่พอสมควร แต่แน่นอนว่าในช่วงความเร็วสูงก็ยังไว้ใจได้ แม้จะไม่ได้แข็งมากเกินไป แต่ถ้าหากมองในช่วง 140 ขึ้นอาจจะมีอาการโยนนิดหน่อยอาจจะไม่มั่นใจมานักเพราะการเซ็ตช่วงล่างมาแบบนี้ก็จะได้อย่างเสียอย่าง แต่จะว่านุ่มขนาดรุ่นพี่มันไหมก็ถือว่าไม่ขนาดนั้น แต่อยู่ระหว่างกลางๆจะตรงกว่าครับในช่วงล่างคันนี้ ขับตรงๆนิ่งสบาย แต่ถ้ามีการโยกเลนบ่อยๆจะเริ่มไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรนัก แต่คนนั่งนั้นนั่งสบายแน่นอนในการเซ็ตช่วงล่างแบบนี้มา แน่นอนว่าการเก็บเสียงนั้นถือว่าทำได้ดีในช่วงความเร็ว 0-140 อันนี้ถือว่านั่งได้แบบสบายนิ่งเงียบอยู่ในระดับที่ขับแล้วยังไม่ได้ยินเสียงลมอะไรเข้ามา อาจจะด้วยรูปทรงของตัวรถด้วยเลยทำให้เป็นข้อได้เปรียบในจุดนี้ ส่วนเสียงเครื่องอะไรไม่ค่อยเข้ามาเท่าไรนัก รวมถึงเสียงจากถนนด้วยเช่นกัน พวงมาลัยคันนี้เซ็ตมากลางๆขับง่าย คมพอประมาณในการควบคุมถือว่าขับง่าย และแม่นยำแม้ช่วงล่างอาจจะไม่ได้อำนวยในการเปลี่ยนเลนโหดๆมากนักก็ตาม ส่วนเบรกจริงๆนั้นหลายๆคนที่ลองอาจจะบอกว่าเบรกแปลกๆก็แอบมีส่วน เพราะถ้าเรามองในมุมมองรถแนวนี้ PHEV EV พวกนี้เบรกมันจะมีการรีเจนพลังงานกลับไปได้ด้วยก่อนที่จะห้ามล้อจริงๆ ซึ่งมันจะมีระยะของมันแต่คันอื่นๆนั้นอาจจะเซ็ตมาได้เนียนเท้ามากกว่า แต่สำหรับคันนี้เลยทำให้มันมีอาการแปลกๆ ถ้าถามว่าเบรกอยู่ไหม จริงๆถือว่าสบายแต่การกะระยะอาจจะต้องปรับตัวกันพอสมควร
VOLVO V60 T8 TWIN ENGINE AWD INSCRIPTION
” รถพ่อบ้านสายซิ่ง แรงเอาเรื่อง ระบบจัดเต็ม ราคาดี “
VOLVO ถือว่ามาเหนือขึ้นเรื่อยๆในการทำรถยนต์ที่มีพละกำลังการขับขี่ที่สะใจมากขึ้น แม้จะดูรูปทรงเรียบๆแต่พร้อมแซง ฉีกหนีทุกคันชนิดที่ว่าอย่าไปเล่นกับเค้าเลย จริงๆตัวรถสามารถหนีหายไปได้ง่ายๆจนตามไม่ทันได้แบบงงๆ เห็นรูปทรงพ่อบ้านแบบนี้แต่สามารถเร่ง 0-100 ได้แค่ 6 วินิดๆและหลังติดเบาะได้เลยทันที ไม่แปลกใจว่าทำไมมันถึงเป็นที่ถูกใจของหลายๆคนถ้าได้ลองครับ รวมถึง ส่วนอื่นๆก็ถือว่าทำได้ดีในแง่ที่มองราคาแล้วมองตัวรถจนถามกับตัวเองว่าจะเอาอะไรอีกจากรถยนต์ในเรทราคานี้ เครื่องยนต์ ความปลอดภัย ฟีเจอร์ เทคโนโลยีที่จัดเต็มแบบนี้ และตัวรถที่ชื่อชั้นแบบนี้ในราคานี้ถือว่าเกินพอแล้ว ทั้งนี้ในหลายๆส่วนค่อนข้างประทับใจรถมันแรงสะใจ แต่ช่วงล่างก็อาจจะเน้นนั่งสบายได้อยู่ แต่การเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้งอาจจะมีไม่มั่นใจได้นิดๆ ถ้าใช้ความเร็วสูงด้วยการเซ็ตช่วงล่างแบบนี้นั้นเอง แต่ถ้าทางตรงๆอย่างที่บอกไปว่าสบายหายห่วง และนิ่งแน่นเอาเรื่อง ฟีเจอร์ความปลอดภัยยังคงเป็นจุดเด่นของค่ายนี้ และนำหน้าค่ายอื่นพอสมควร ถ้าใครกำลังมองหารถครอบครัว ขับสบาย กำลังเหลือๆปลอดภัย คันนี้ลงตัว
สำหรับรีวิวนี้เป็นการทำบทความเกี่ยวกับรถยนต์ หรือ สายยานยนต์ของเรา และถ้าหาก มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ มีข้อเสนอแนะ หรือข้อนำแนะอะไร ยังไงสามารถแจ้งเราได้เสมอเพื่อการปรับปรุงที่ดีขึ้นครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้รีวิวรถรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ จะพยายามจัดหามาให้อ่านกันเยอะๆ ขึ้นเรื่อยๆ ครับ … สำหรับ Techhangout Auto !
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget