WD Blue SN570 เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมกันอย่างมาก  ซึ่งตัวนี้ WD Blue SN570 ออกมารองรับการใช้งานสำหรับคนที่เมนบอร์ดเก่า Gen 3 ก็รองรับ ที่ได้คุณภาพที่จัดเต็ม ซึ่งรองรับการอ่านเขียนได้ไวกว่าเดิมสูงสุดถึง 3,500 MB/s และเขียนได้สูงสุดที่ 3,000 MB/s  มาพร้อมกับความจุหลากหลายมากมายเช่นกัน 250-500-1TB เลยทีเดียว และเรื่องของความบางนั้นเด่นมากๆ รองรับใช้กับ Notebook ได้สบายๆ รวมถึงยังคงรองรับการเล่นเกม สำหรับจัดการต่างๆได้ดีเช่นเดิมค่ายนี้

WD Blue SN570 ยังคงรองรับการใช้งานกับ PCle Gen 3 มาใน Form Factor M.2 2280 ค่า Endurance 600 TBW  ในความจุ 1TB อีกทั้ง การรับประกัน 5 ปี มาพร้อมการใช้งานพลังงานน้อยลงกว่าเดิม บางลง และ โปรแกรม WD Dashboard เช่นเดิมเปิด Gaming Mode ได้สบายๆ

PRICE  WD BLUE SN570 1TB  4,990 บาท

UNBOX

ตัวกล่องนั้นใช้โทนสีขาวและน้ำเงิน เป็นหลักเล่นกับการออกแบบสวยงามมากขึ้น ตัดกันลงตัว พร้อมกับบอกชื่อรุ่นความจุชัดเจน ส่วนด้านหลังมีช่องว่างเล็กๆ ให้เห็นตัว SSD  และเมื่อเปิดออกมาแล้วก็จะเจอ SSD วางนอนอยู่ไม่มีน็อตอะไรมาให้นะครับ เป็นตัว SSD อย่างเดียว  มีคู่มือมาให้ บางค่ายอาจจะมีแถมน็อตมาให้ด้วย แต่เสียดายอันนี้ไม่มีมาให้ครับผม ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากงานออกแบบ

DESIGN

การออกแบบโดยรวมนั้น ยังคงธีมสีฟ้า และก็มีการแปะชื่อรุ่นรายละเอียดไว้ในด้านหน้าทั้งหมด ปิดทับด้านหน้าโทนสีน้ำเงิน สมกับชื่อรุ่น การเชื่อมต่อนั้นเป็นแบบ M.2 NVMe PCIe  รองรับทั้ง PC-NOTEBOOK หลายๆตัวได้สบาย ส่วนด้านหลังนั้น เป็นเรียบๆไม่มีชิ้นส่วนอะไรในด้านนี้ เพราะไปอยู่ด้านหน้าทั้งหมดเลยนั้นเอง ยังคงเป็นโทนสีฟ้าทั้งหมดสำหรับด้านหลังครับ ก็ไม่มีอะไรมากในการออกแบบรุ่นนี้

ซึ่งจุดที่น่าสนใจเพราะว่ารุ่นนี้ทำได้บางมากๆ บางและเบากว่าเดิมเพราะว่าตัวชิปพัฒนาเป็นแบบฝั่งเดียวแล้วด้วยเช่นกัน จะช่วยเรื่องของการระบายความร้อนที่ดีขึ้น เบาบางขึ้นใส่ในบรรดา Notebook ได้สบายขึ้นครับ แต่แน่นอนว่าก็รองรับการไปใส่ซิลิโคนหรือ Sink ภายนอกได้ด้วยเช่นกันเพราะว่าไม่มีแผ่นปิดแบบรุ่นก่อนๆแล้ว

พอร์ตเชื่อมต่อหลักเป็น PCle 3.0  เดี๋ยวจะมาลองกันว่าจะเป็นยังไงกันบ้าง ถ้าหากมาใส่ใช้งาน 3.0 แบบนี้ครับ ส่วนด้านหลังก็เป็นสเปกมาตรฐานทั้งหมดไม่ได้มีงานออกแบบอะไรครับ แต่ตัววัสดุต่างๆจะเน้นไปทางสีฟ้าทั้งหมด

SPEC

  • Interface: PCIe 3.0
  • Form Factor: M.2 2280
  • Sequential Read/Write: 1TB: Up to 3,500 MB/s Read and Up to 3,000 MB/s Write
  • 5-Year Limited Warranty

PERFORMANCE

แน่นอนว่าในด้านประสิทธิภาพนั้นตัวนี้ต้องบอกว่าจัดเต็มครับครั้งแรกนั้นก่อนใช้งานให้เข้า Disk Management เพื่อจัดการกับ SSD หลังจากที่ Format แล้ว ความจุที่ใช้ในการทำงานจะอยู่ที่ 931GB ในแง่ของการติดตั้งต้องบอกก่อนว่าดูเมนบอร์ดของแต่ละรุ่นให้ดีว่ารองรับกี่ช่อง และช่องไหนได้ความเร็วสูงสุด ซึ่งตัว WDBlue SN570  ตัวนี้ออกแบบมาเพื่อรุ่นเก่าด้วยเช่นกันนั้นเองครับก็อ่านเขียนได้ไวเหมือนกันนะ แต่จะได้เท่าไรมาดูกัน

  • Intel Core i9 12900K
  • MSI MAG Z690 TOMAHAWK WIFI
  • DDR5 5200MHz 32GB
  • SSD WD Blue SN570

CrystalDiskMark ทำไปได้ถึง 3,234MB/s (Read) และ 3058 MB/s (Write) แน่นอนว่าที่จะทำให้ความเร็วในการอ่านเขียนนั้นทำงานได้ประมาณนี้นะครับ ส่วนด้านขวา CrystalDiskInfo ทำให้เรารู้รายละเอียดของตัว SSD ทั้งการส่งข้อมูล อุณหภูมิ  และข้อมูลต่างๆทั้ง อินเตอร์เฟสต่างๆด้วยครับ ซึ่งความร้อนถ้าเทียบด้วยกันแล้วก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีเลยทีเดียว

การทดสอบ Anvil’s ก็ให้ผมออกมาได้ดีมากๆจะเห็นได้ชัดเจนและเหมือนกับการทดสอบอื่นๆความเร็วแรงนั้นทำได้ดีมากครับถือว่าทำให้โหดเลยแหละในเรื่องของการอ่านเขียนตัวนี้ถือว่าพัฒนามาเยอะและแตกต่างมากถ้าใครใช้ SATA HDD

WD DASHBOARD 

ที่ช่วยเช็กสภาวะ/สุขภาพของไดรฟ์ ซึ่งเราจะสามารถดูได้ละเอียดเลยว่าใช้งานไปเท่าไร ความร้อนเท่าไร สุขภาพมันเป็นยังไงกันบ้าง  และ บอกด้วยว่ารองรับแบบไหนในการเชื่อมต่อและเชื่อมต่อแบบไหนอยู่ ในภาพจะเป็น Gen 3 X4 นะครับที่ใช้งานอยู่ รวมถึงมีสถานะแบบกราฟต่างๆ

WD Blue SN570

แน่นอนว่าเท่าที่ลองมานั้นตัว WD Blue SN570 ใช้เทคโนโลยี PCIe Gen3 รองรับการเกมรุ่นใหม่ในอนาคตได้ และมาพร้อม ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดที่ต่อเนื่องด้วยความเร็วอ่านสูงสุด 3,500 MB/s  ถ้าขยับมาจาก SSD SATA / HDD พวกนี้ครับ พร้อมกับ WD Dashboard ที่ช่วยเช็กสภาวะ/สุขภาพของไดรฟ์ และยังคงมี ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ SSD มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับการเล่นเกมแม้แต่ตอนที่เกมเมอร์กำลังแชทกับเพื่อนหรือสตรีมเกมอยู่ก็ตาม รวมถึงการรับประกัน 5 ปี ทำให้รุ่นนี้ค่อนข้างน่าสนใจและใช้งานได้ดีมากตัวนึงเมื่อเทียบกับสเปกของมัน เรื่องของเกมไปแล้ว มาถึงเรื่องของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อ หรือ การทำภาพที่มีไฟล์ขนาดใหญ่สามารถเรียกขึ้นมาได้อย่างเร็วเลย ดึงไฟล์มาใช้ในการตัดต่อมีความลื่นไหลในการทำงานเป็นอย่างมาก ตัวนี้บอกเลยว่าคุ้มมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือ การเล่นเกม

ข้อดี

  • ความเร็วในการอ่านเขียนที่สูงสุด 3,500MB/s
  • ถ่ายโอนข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วมาก
  • ประกันยาวนานสูงสุดถึง 5 ปี
  • ความร้อนจัดการได้ดีขึ้น กินพลังงานน้อยลง
  • ดีไซน์ได้บางมากกว่าเดิมเยอะมาก

ข้อสังเกต 

  • ความร้อนถ้าใช้งานหนักๆก็เริมสูงได้เช่นกันถ้าไม่มี Heat Sink เสริม

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT