สวัสดีเพื่อนๆชาว Techhangout ทุกๆท่านครับ ก็กลับมาพบกับผมอีกครั้ง แน่นอนว่าผมต้องมีรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่างแน่นอน แต่สมาร์ทโฟนรุ่นนี้อาจจะใช้เวลาทำนานไปนิด เพราะว่าติดรีวิวสมาร์ทโฟนหลายตัว แต่ไม่เป็นไรครับทำช้าดีกว่าไม่ทำ ( ล้อเล่นนะครับ 555 ) สำหรับสมาร์ทโฟนที่ผมจะมาเเนะนำเป็นสมาร์ทโฟนที่เรียกได้ว่า เป็นรุ่นแรกที่เราได้รีวิวสำหรับแบรนด์นี้ สมาร์ทโฟนค่ายนี้ในหลายๆปีที่ผ่าน ก็ได้ทำยอดขายในประเทศไทยได้เป็นล้านเครื่อง เเละ ยังขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพเเละความคุ้มค่า สมาร์ทโฟนแบรนด์ที่ผมพูดถึงก็คือแบรนด์ Wiko นั่นเอง สำหรับสมาร์ทโฟนที่ผมจะมารีวิวในครั้งนี้อาจจะเหมาะสำหรับคนที่งบน้อย แต่อยากได้สมาร์ทโฟนที่คุ้มค่า เเละ ตอบโจทย์ในการใช้งาน สมาร์ทโฟนที่ผมนำมาเเนะนำคือรุ่น Wiko View นั่นเองเเล้วเรามาชมกันดีกว่าว่าในรุ่นนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ? เราไปชมพร้อมๆกันเลย :p
UNBOX !!
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง
- คู่มือ
- สายชาร์จ
- หัวชาร์จไฟ
- หูฟัง 3.5 มม
- เคสใส และ ฟิล์มใส
DESIGN มาพร้อมกับดีไซน์ที่กระทัดรัดสามารถจับได้อย่างพอดีมือ ตัวเครื่องค่อนข้างเบาและบาง ถึงเเม้ว่าจะมีหน้าจอขนาดใหญ่แต่ก็สามารถใช้งานมือเดียวได้อย่างสะดวก
ตัวเครื่องด้านหน้า : มาพร้อมหน้าจอแสดงผลชนิด IPS LCD ขนาด 5.7 นิ้ว อัตราส่วนแบบ 18 : 9 ความละเอียด HD+ มาพร้อมกับกระจกกันรอย Corning Gorilla และ ครอบทับด้วยกระจกแบบ 2.5 D
เหนือหน้าจอแสดงผลมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มีลำโพงฟังเสียงสนทนาวางอยู่ตำแหน่งใกล้ๆกัน และ มีไฟแฟลช LED
ด้านล่างภายในจอแสดงผลจะมี Recent Apps , ปุ่มโฮม และ ปุ่มย้อนกลับ โดยเวลาที่เราดู Youtube หรือว่าเล่นเกมส์มันจะทำการซ่อนไปเองอัตโนมัติ
สำหรับตัวเครื่องด้านขวา : มีปุ่มเพิ่ม/ ลดเสียง และ ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง
สำหรับตัวเครื่องด้านช้าย : ไม่มีอะไรครับ 🙂
สำหรับตัวเครื่องด้านบน : มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม
สำหรับตัวเครื่องด้านล่าง : มีพอร์ทเชื่อมต่อแบบ Micro-USB และ ไมโครโฟนสำหรับสนทนา
สำหรับตัวเครื่องด้านหลัง : พลิกมาดูด้านหลังตัวเครื่องตัวเครื่องจะเป็นโลหะ เรื่องรูปทรงมีความสวยงาม
สามารถแกะฝาหลังใส่ซิมการ์ดได้สองซิมการ์ด มีช่องสำหรับใส่ microSD Card ที่แยกออกมา รุ่นนี้ยังรองรับการใช้งาน 4G LTE + 3G ได้อีกด้วย
ถัดมาด้านบนจะเห็นไมค์ สำหรับตัดเสียงรบกวน ถัดลงมาจะเป็นกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และ ไฟแฟลช ถัดลงมาจากกล้องจะเห็น ระบบสแกนนิ้ว (Finger Print)
ถัดลงมาก็จะมีคำว่า Wiko มีลำโพงหลักที่เอาไว้สำหรับเสียงเพลงครับผม
รายละเอียด Wiko View
- จอชนิด IPS ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด HD+ ( 720 x 1440 P ) อัตราส่วน 18 : 9 ครอบทับกระจก 2.5D
- รันระบบปฏิบัติการ Android 7.1 (Nougat)
- CPU Qualcomm Snapdragon 425 Quad Core ความเร็ว 1.4 GHz Cortex-A53
- GPU Adreno 308
- RAM 3GB
- ROM 16 GB Upto 128 GB
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.0 พร้อม พร้อม Selfie Flash
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080P แบบ 30fps
- ระบบสแกนลายนิ้วมือ (Finger Print)
- แบตเตอรี่ 2,900 mAh
- Wi-Fi 802.11 b/g/n
- Bluetooth 4.2
- มีวิทยุ FM
- ขนาดตัวเครื่อง 151.5 × 73.1 × 8.7 มม
- น้ำหนัก 160 กรัม
คุณภาพของเสียง และ หน้าจอแสดงผล
เรื่องหน้าจอเเสดงผล Wiko View มีหน้าจอแสดงผลที่ค่อนข้างดีเลยครับ สีสันสวยงามไม่ดูสดมากจนไป สีสันดูสวยงามเเละเป็นธรรมชาติ ในส่วนเรื่องของเสียงผ่านลำโพงหลัก ยังมีข้อติอยู่ครับลำโพงยังมีระดับเสียงที่เบาถึงเเม้จะเปิดสุด มิติเสียงยังออกมาไม่ดีแยกเสียงค่อนข้างยาก เเต่ก็อยู่ในเกณที่รับได้ครับ
ทดสอบใช้งานในการเล่นเกมส์
ต่อไปเรื่องของการเล่นเกมส์โดยรุ่น Wiko View หลังจากที่ได้นำมาทดสอบถือว่าสามารถเล่นเกมส์ได้อย่างสบายในกราฟิกเกมส์ที่ไม่สูงมาก ส่วนคนที่เน้นเรื่องเล่นเกมส์จริงๆรุ่นนี้ยังไม่เหมาะเท่าไรครับ ส่วนในการทดสอบเกมส์ ROV ค่า FPS ที่ได้จะอยู่ประมาณ 25 – 30 FPS ครับ ( อยู่ที่เน็ตด้วยนะครับ ) ส่วนในเกมส์อื่นๆผมได้อัดคลิปทดสอบเเล้วสามารถกดรับชมได้เลย
ชมคลิปทดสอบเกมส์
ประสิทธิภาพในการทำงาน
ผลคะแนน AnTuTu Benchmark ก็ออกมาอยู่ที่ประมาณ 33,846 คะแนน รุ่นนี้หลังจากการทดสอบก็สามารถรองรับการใช้งาน Multi Touch ได้สูงสุด 5 จุด หน่วยความจำชนิด EMMC 5.1 และ มีเชนเซอร์ต่างๆดังต่อไปนี้
- Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
- Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
- Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ (คล้ายตัววัดระดับน้ำ)
- Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
- Gyroscope Sensor เซนเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
- Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก
หน้าตาระบบ และ ฟังก์ชัน
โดย Wiko View รันบน Android 7.1.2 มีหน้าตา UI ที่เรียบง่ายสวยงามมีเอกลักษณ์ และยังคงมีหน้า App drawer ที่สามารถเลือกดูแอพต่างๆได้ทั้งหมด มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง Smart Gesture ที่สามารถวาดเป็นตัวอักษรในขณะหน้าจอดับ เพื่อเรียกเปิดแอพขึ้นมาใช้งานได้ มีฟีเจอร์ บันทึกหน้าจอ หรือ Capture หน้าจอ แบบง่ายๆเพียงใช้ปลายนิ้ว 3 นิ้ว ลากที่หน้าจอ จากด้านบนลงด้านล่าง ก็สามารถบันทึกภาพหน้าจอได้แบบง่ายๆโดยไม่ต้องไปกดปุ่ม ลดเสียงหรือพาวเวอร์พร้อมกัน และยังสามารถ Capture หน้าจอ แบบยาวๆได้อีกด้วยครับ
และสามารถลากจอลงมาจากด้านบนจะเห็นตัว Notification นั้น มี quick setting ให้ใช้งาน สามารถเลือกและ ปรับ แสงสว่างจอได้มีตัวปิดเปิด Wifi , ข้อมูลมือถือ , ไฟฉาย , โหมดเครื่องบิน เป็นต้น เหมือนกับสมาร์ทโฟนทั่วไป
แน่นอนว่าในรุ่นนี้ยังสามารถตั้งค่าปลดล็อคด้วย PIN หรือ รหัสผ่านอีกทั้งยังสามารถใช้ลายนิ้วมือทำการปลดล็อคตัวเครื่องได้อีกด้วย
สามารถใช้งาน Multi window ได้หรือให้เข้าใจง่ายๆก็คือ มันเป็นฟังก์ชันการใช้งานสองแอปพลิเคชันได้ในเวลาเดียวกันนั่นเอง ในส่วนเรื่องของระบบยังมีข้อติอยู่นิดหน่อย อาจจะเป็นเพราะสเปคที่ใส่มาอาจจะทำให้เครื่องมีอาการหน่วงบ้างเป็นบางครั้งครับ
คุณภาพกล้องหลัง
กล้องหลังของ Wiko View จะมาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล สามารถซูมภาพแบบออพติคอลได้สูงสุด 4x รองรับการบันทึกวีดีโอได้ความละเอียด 1080p แบบ 30fps ได้ครับ
มีโหมดถ่ายภาพต่างๆอย่าง โหมด Super Pixel ที่จะเพิ่มความละเอียดของจาก 13 ล้านพิกเซลให้ เป็น 52 ล้านพิกเซล , โหมด Beauty ปรับใบหน้าสวยใสได้ในหลายระดับ , โหมด Professional เลือกปรับ ค่า อุณหภูมิ ( ความเข้มสี ) EV , ISO, White Balance , Focus และ ความคมชัด , โหมด Panorama , โหมด Night ถ่ายภาพกลางคืน , โหมด QR code , โหมด Time-Lapse , โหมด ถ่ายภาพบุคคล Portrait ในส่วนของจุดด้อยในเรื่องกล้องของรุ่นนี้หลังจากที่ได้ลองถ่ายจะมีดังต่อไปนี้ครับ
- Portrait เป็นการถ่ายภาพโดยใช้ในส่วนของซอฟท์แวร์เข้ามาช่วยภาพที่ได้ยังทำออกมาได้มีดีเท่าที่ควร
- ในรุ่นนี้ถึงจะมีโหมด Professional มาเเต่ก็ไม่สามารถปรับตั้งค่าการถ่ายภาพ ปรับความเร็วชัตเตอร์ได้
- เวลาถ่ายภาพในที่เเสงน้อยภาพที่ได้ยังออกมาไม่คมเเละเบลอง่าย
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
คุณภาพกล้องหน้า
Wiko View จะมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมค่า F/2.0 เรื่องกล้องหน้ารุ่นนี้ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นในเรทราคา 4,990 บาทที่กล้องหน้าดี งามมาก ๆ ในรุ่นนี้ยังมีไฟแฟลช LED มาช่วยเวลาที่ถ่ายภาพในที่เเสงไม่พอ มีลูกเล่น Smile shot เพียงแค่ยิ้มก็จะสามารถถ่ายภาพได้ มีโหมดการถ่ายภาพแบบ Portrait , Beauty , Panorama เรียกได้ว่าใส่มาครบเลยในรุ่นนี้ ในส่วนจุดด้อยของกล้องหน้าในสิ่งที่เห็นหลังใช้งานก็จะมี
- กล้องถ่ายภาพในที่แสงน้อยภาพที่ได้ยังติด Noise มาเยอะเท่าที่ควร อาจจะมาพร้อมไฟแฟลชเเต่ก็ช่วยได้เเค่ในระดับหนึ่ง
- การถ่าย Portrait ก็ยังเหมือนกล้องหลังถึงจะใช้ซอฟท์แวร์ช่วยก็ยังทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
สรุปข้อเสียที่ควรปรับปรุง
- กล้องหลังในที่แสงน้อยยังมี Noise อยู่
- เสียงลำโพงเบาไปนิด มิติเสียงยังไม่ชัดเจน
- ตำแหน่งลำโพงอยู่ด้านหลังเวลาวางเครื่องเเละมีการเเจ้งเตือนหรือสายเรียกเข้าจะไม่ได้ยินเสียง
- ระบบยังมีหน่วงๆบ้างแต่อาจจะเป็นที่สเปคที่ใส่มา
- กล้องโหมด Pro ปรับความเร็วชัตเตอร์เองไม่ได้ โหมด Portrait ทั้งหน้าเเละหลังยังทำออกมาได้ไม่สวย
สรุปข้อดี
- แบตเตอร์รี่ดี
- ดีไซต์สวยทันสมัย
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซลและกล้องหลัง13 ล้านพิกเซลถ้ารูปออกมาได้สวยงามสมราคา
- หน้าจอ 5.7 นิ้ว อัตราส่วน 18 : 9 ในราคาถูกที่สุดในท้องตลาด ได้หน้าจอใหญ่แต่อยู่ในตัวเครื่องที่สามารถใช้งานมือเดียวได้
- สามารถใช้งานได้สองซิม + เพิ่ม microSD ได้
ก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้เเล้วกันนะครับ โดยรวมความรู้สึกที่ได้ใช้งานในช่วงรีวิว Wiko View รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่คนงบน้อยหรือหาให้คุณพ่อคุณเเม่ใช้งานได้สบาย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ดีเลยครับ เเละสำหรับคนที่สนใจก็สามารถไปหาซื้อได้ในราคา 4,990 บาท ตามตัวเเทนจำหน่ายใกล้บ้านสมาชิกได้เลย เเละสุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ Wiko Thailand ที่ส่งเครื่องสมาร์ทโฟนดีๆมาให้ทีมงาม Techhangout ได้มาทำรีวิวให้สมาชิกได้อ่านกันด้วยนะครับ
Review By : Maxmoreji