สวัสดีครับเพื่อนๆชาว TECHHANGOUT ทุกๆท่านสำหรับรีวิวนี้ก็กลับมาพบกับผม @Maxmoreji อย่างเช่นเคย โดยรีวิวนี้ผมจะมารีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากค่ายเซี่ยวมี่ ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าสมาร์ทรุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของทางเซี่ยวมี่ ที่เป็นสมาร์ทโฟน Pure Android หรือ Google One นั่นเอง สมาร์ทโฟนรุ่นนี้หลังจากที่ผมได้ลองใช้มาประมาณเกือบ 1 อาทิตย์ต้องบอกไว้เลยว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความน่าสนใจอีกหนึ่งรุ่นในเรื่องของความ Pure Android อีกทั้งสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็ยังมาพร้อมกล้องหลังคู่ที่มีความน่าสนใจอีกด้วย เเละไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาชมกันดีกว่าว่าสมาร์ทโฟน Xiaomi Mi A1 สมาร์ทโฟน Andorid One รุ่นแรกของทางเซี่ยวมี่จะมีจุดเด่นจุดด้อยตรงไหน ? เเละจำทำให้เพื่อนๆเสียเงินในกระเป๋าได้หรือเปล่าเรามาชมกันเลยยย !!

UNBOX !!

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง
  • คู่มือ / เข็มจิ่มซิม
  • สายชาร์จ USB C ( สีขาว )
  • หัวชาร์จไฟ 5V – 2A ( สีขาว )
  • สมุดคู่มือ

DESIGN เรื่องของดีไซน์ Xiaomi Mi A1 จะมาพร้อมกับดีไซน์ที่เป็นบอดี้โลหะ โดยดีไซน์ทั่วไปของรุ่นนี้ก็จะคล้ายๆกับ Xiaomi Mi 5x ที่ได้เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ โดยรุ่นนี้ถ้าพูดถึงเรื่องของการดีไซน์ก็อาจจะไปเหมือนกับสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนหลายๆค่าย เเต่ถ้าเรามาพูดถึงเรื่องงานประกอบเซี่ยวมี่ A1 มีงานประกอบที่เเข็งแรงเเละมีความสวยงามน่าใช้งาน มีการงานที่ดีมีบอดี้โลหะที่ไม่บางมากจนเกินไปถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนบางแบรนด์ เอาเป็นว่าถ้าเพื่อนๆได้จับตัวเครื่องจริงเพื่อนๆคงต้องชอบเหมือนผมอย่างแน่นอน ? รุ่นนี้ผมของไม่พูดถึงจุดด้อยของเรื่องดีไซน์นะครับเพราะสำหรับผมไม่มีครับ 🙂

ตัวเครื่องด้านหน้า : มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด FHD

เหนือหน้าจอแสดงผลมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีไฟ LED ไฟบอกสถานะ ( ไฟแจ้งเตือน ) อยู่ทางด้านซ้ายของกล้องหน้า ตรงกลางเป็นลำโพงฟังเสียงสนทนา และ เซนเซอร์วัดแสง

ด้านล่างจอแสดงผลจะมี Recent Apps , ปุ่มโฮม และ ปุ่ม ย้อนกลับ โดยตรงปุ่มใช้งานทั้ง 3 ปุ่มจะมีไฟแจ้งเตือนเวลาใช้

สำหรับตัวเครื่องด้านขวา : มีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และ ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง

สำหรับตัวเครื่องด้านช้าย : มีช่องใส่ซิมการ์ดสองช่อง แบบ Hybrid Slot ต้องเลือกว่าจะใส่ซิมสองหรือจะเพิ่ม Micro-SD Card ความจุสูงสุด 256 GB และรุ่นนี้รองรับการใช้งานแบบ 4G และ 3G

สำหรับตัวเครื่องด้านบน : มีรูไมค์และ iR remote หรือ อินฟาเรดที่เอาไว้ใช้งานสำหรับรีโมทนั่นเอง

สำหรับตัวเครื่องด้านล่าง : มีพอร์ทเชื่อมต่อแบบ USB Type-C มีลำโพงอยู่ทางด้านซ้าย และ ไมโครโฟนสำหรับสนทนา มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม และ รุ่นนี้ไม่ได้รองรับระบบชาร์จไวนะครับแค่การชาร์จไฟแบบ 5V=2A

สำหรับตัวเครื่องด้านหลัง : มาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง F/2.2 26mm และ 12 ล้านพิกเซล 50mm F/2.6 มาพร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF ( Phase Detection Autofocus ) และซูมได้แบบ 2x optical พร้อมไฟแฟลชสองดวงแบบทูโทน

ส่วนด้านล่างก็จะมีคำว่าตรา Xiaomi และคำว่า Android One สลักไว้นั่นเอง

รายละเอียดสเปค Xiaomi Mi A1

  • รันบน Android 7.1.2 รองรับ Android 8.0 (Oreo)
  • หน้าจอ IPS 5.5 นิ้วความละเอียด FHD 1080 x 1920 pixels (~403 ppi pixel density )
  • หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 Octa-Core 2.0 GHz Cortex-A53
  • GPU Adreno 506
  • RAM 4GB LPDDR3
  • ROM 64 GB EMMC 5.1 รองรับ Micro-SD สูงสุด 256GB
  • รองรับการใช้งานแบบ 2 SIM Hybrid Dual SIM (Nano-SIM, dual stand-by)
  • แบตเตอรี่ 3080 mAh ชาร์จไฟ 5V=2A
  • กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล f/2.0
  • กล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล f/2.2 26mm + 12 ล้านพิกเซล f/2.6 50mm , Zoom 2x optical
  • เชนเซอร์ : Accelerometer, Gyro, Proximity, Compass , Fingerprint ( ด้านหลัง )
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band ( 2.4G/5G ) , Bluetooth 4.2 , A2DP , LE
  • ขนาดตัวเครื่อง 155.4 x 75.8 x 7.3 mm.
  • น้ำหนัก 165 กรัม

คุณภาพของเสียง และ หน้าจอแสดงผล

เรื่องหน้าจอเเสดงผลของรุ่นนี้นั่นรุ่นนี้มีความละเอียดอยู่ที่ FullHD มีภาพที่คมชัดและเป็นธรรมชาติพอสมควรเรื่องของความสว่างของหน้าจออยู่ในเกณปกติใช้งานกลางเเจ้งหน้าจอสามารถสู้เเสงได้ในระดับทั่วไป ส่วนเรื่องของคุณภาพเสียงหลังจากที่ลองฟังถ้าผ่านลำโพงหลักของตัวเครื่องความดังของเสียงจะอยู่ในระดับกลางๆ แต่ถ้าจะเจาะเรื่องของรายละเอียดเสียงของลำโพงหลักรุ่นนี้จะมีเสียงที่ทุ่มๆ มีมิติเสียงคล้ายๆกับพวก Xiaomi Redmi Note 4 แต่มีความเบากว่าโดยรวมถือว่ารับได้ ส่วนเรื่องของเสียงผ่านหูฟังก็จัดอยู่ในเเบบปกติฟังได้แต่ถ้าคนที่เน้นเรื่องเสียงผ่านหูฟังก็คงต้องขึ้นอยู่ที่หูฟังของเพื่อนๆเเล้วครับ

ทดสอบใช้งานในการเล่นเกมส์

เรื่องของการเล่นเกมส์รุ่นนี้คนที่เน้นเล่นเกมส์เเบบกราฟฟิกเกมส์ดีๆลื่นๆสามารถเล่นได้สบาย แต่ถ้าถามว่าเล่นเกมส์เป็นอย่าง ? บ้างถ้ายกตัวอย่างๆเกมส์ ROV ที่กำลังฮิตหลังจากที่ผมได้ลองเล่นเกมส์รุ่นนี้ถ้าเปิดค่า FPS จะอยู่ประมาณต่ำสุด 25 สูงสุด 30 ครับเเต่โดยรวมถ้าเกมส์นี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีลื่นไหลๆแต่ที่ทดลองรุ่นนี้ไม่สามารถเปิดเกมส์ ROV แบบ 60 FPS ได้ครับ

ประสิทธิภาพแบตเตอร์รี่

เรื่องของเเบตเตอร์รี่รุ่นนี้หลังจากที่ใช้งานถือว่าอยู่ในเกณระดับโอเค โดยผมสามารถใช้งานได้ทั้งวันโดยใช้งานเเค่เล่น Line , Facebook ต่างๆเเต่ถ้าจะเอามาเล่นเกมส์เรื่องของระยะเวลาจะอยู่ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมงโดยประมาณเเต่โดยรวมถือว่าเรื่องของการจัดการพลังงานของรุ่นนี้ทำออกมาดีครับ

ระบบ GPS

หลังจากที่ลองใช้งานเรื่องของการจับสัญญาณถือว่่าทำออกมาได้ตรงเเละจับได้ไวพอสมควร สำหรับคนที่กลัวว่ารุ่นนี้จะใช้งาน GPS ไม่แม่นไม่ต้องกลัวครับ ( ไม่ได้. . โม้ )

ประสิทธิภาพในการทำงาน

ผลคะแนน AnTuTu Benchmark ก็ออกมาอยู่ที่ประมาณ 62,890 คะแนน ถือว่าอยู่ในระดับดีเลยครับเรื่องของการทำงานก็ลื่นไหลในเเบบของเพีียวแอนดรอย

รุ่นนี้หลังจากการทดสอบก็สามารถรองรับการใช้งาน Multi Touch ได้สูงสุด 10 จุด

Sensor ที่ใส่มาก็มีมาให้ครบครับในส่วนที่จำเป็นในการใช้งาน

หน้าตา Ui และ ฟังก์ชัน

Xiaomi Mi A1 แน่นอนครับว่าจะมาพร้อมกับรอมที่เป็นเพียวแอนดรอย มีความลื่นไหลใช้งานง่ายลูกเล่นมีไม่มาก สำหรับคนที่เคยใช้สมาร์ทโฟนของทางเซี่ยวมี่เเละยังติดกับคำว่า MIUI คงจะต้องเบื่อแน่ๆเพราะเเน่นอนว่ามันไม่มีลูกเล่นอะไรใส่เข้ามาเลย เเละที่สำคัญมันไม่มีคลังธีมสวยๆให้โหลดด้วย สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ต้องเป็นคนที่รักในเพียวแอนดรอยจริงๆ 🙂

ลากลงมาก็จะเเสดงดังภาพสามารถใช้งาน Multi Window ได้โดยการแบ่งแอพเป็นสองหน้าจอเหมือนกับสมาร์ทโฟนที่เป็น Android 7.0 ทั่วไป

มี Google PlayStore เเละมาพร้อมกับ Googlekeyboard ที่ติดตั้งมาเเล้วรุ่นนี้จะมาพร้อมกับความจำตัวเครื่อง ( ROM ) 64GB จะเหลือพื้นที่ให้ใช้ประมาณ 58 GB เเละ RAM 4GB จะเหลือใช้ประมาณ 1.3 GB

คุณภาพกล้องหลัง

Xiaomi Mi A1 แน่นอนมารุ่นนี้จะมาพร้อมกล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 12 + 12 ล้านพิกเซลพูดถึงเรื่องกล้องเเล้วจะเป็นการใช้งานเหมือนกับทาง Xiaomi Mi6 แบบเต็มๆรุ่นถึงจะเป็นเพียวแอนดรอยแต่เรื่องของโหมดเเละรูปแบบหน้าตาของ UI กล้องนั่นจะเป็นของทาง Xiaomi เรื่องของคุณภาพกล้องรุ่นนี้ถือว่ามีคุณภาพกล้องที่ดีพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการเก็บแสง การโฟกัสภาพไม่ว่าจะเป็นที่เเสงน้อยก็ทำออกมาได้ดี เเต่รุ่นนี้อย่างว่าจะมาพร้อมกับรูรับเเสงกล้องอยู่ที่ F/2.2 หลายๆคนอาจคิดว่ารูรับเเสงของรุ่นนี้อาจจะมาสูงเกินไปถ่ายรูปตอนกลางคืนภาพคงมืดน่าดู เเต่ผมว่าหลังจากที่ผมได้ใช้เเละลองถ่ายภาพในที่แสงน้อยรุ่นนี้บอกได้เลยว่าเรื่องของความคมภาพเเละการเก็บแสงทำออกมาได้ดี อีกทั้งภาพที่เราถ่ายออกมาเวลาโดนหลอดไฟก็ไม่มีความฟุ้งอีกด้วย

พูดถึงจุดด้อยของรุ่นนี้นอกจากกล้องที่มีค่ารูรับแสงสูงเเล้ว อีกอย่างหนึ่งที่ทาง Xiaomi ควรปรับปรุงคือเรื่องของโหมดกล้อง

ปรับโหมด Manual ได้น้อยในเรื่องของการถ่าย สปีดชัตเตอร์ ที่ลากได้ยาวเพียง 1/15 วิ
ถ่ายภาพโหมด Portrait บางครั้งมีการกดโฟกัสภาพได้ช้าไปนิดนึง ( เป็นบางครั้ง ) เเต่ข้อดีคือตอนที่เราถ่ายโหมดนี้มันมีการจับใบหน้าเข้ามาช่วยจึงทำให้ลบข้อเสียข้อนี้ไปแต่คุณภาพที่ได้เกือบพอๆกับ Xiaomi Mi6 เลย

ตัวอย่างภาพโหมด Portrait

ตัวอย่างภาพ 

ตัวอย่างภาพถ่ายกลางคืน

ตัวอย่างภาพ HDR

คุณภาพกล้องหน้า

รุ่นนี้มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และมาพร้อมค่า F/2.0 คุณภาพกล้องหน้านั้น ถือว่าทำออกมาได้ดีมีโหมดบิวตี้ให้ได้ปรับมากมายไม่ว่่าจะเป็น หน้าเรียว , ความเนียน รุ่นนี้เรื่องของจุดด้อยกล้องหน้าจะมีเเค่ภาพที่ได้จะขาวซีดๆเเละภาพจะออกเหลืองนิดหน่อย อีกทั้งภาพที่ได้จากกล้องหน้าก็จะเป็นมุมเเคบจร้า

ตัวอย่างกล้องหน้า

ข้อสังเกตุข้อเสีย
  • กล้องหน้ามุมแคบไปนิด
  • ปรับโหมด Manual ของกล้องได้น้อยไปหน่อย
  • ไม่มีระบบชาร์จไว
  • รอมเป็นเพียวแอนดรอยมีลูกเล่นให้เล่นน้อย
  • ลำโพงเสียงมิติยังไม่ได้
ข้อสังเกตุข้อดี
  • แบตเตอร์รี่ดี
  • ดีไซต์สวยทันสมัย
  • กล้องหลังทำออกมาได้ดีในส่วนในที่เเสงน้อยเเละโหมด Portrait
  • ตัวรอมลื่นไหลระบบดีสามารถอัพแอนดรอยได้

ก็จบไว้เพียงเท่านี้ผมบอกได้เลยว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนของ Android One ที่ครบรสอีกรุ่นหนึ่งสำหรับคนที่ชอบในเรื่องของความเพียวแอนดรอยรุ่นนี้จะทำให้เพื่อนๆสมาชิกไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน แต่สำหรับใครที่สนใจก็สามารถไปติดต่อได้ที่ร้าน Tree Mobile MBK กดที่ชื่อร้านได้เลยเเละต้องขอบคุณพี่ตั้มเจ้าของร้านที่หิ้วสมาร์ทโฟนดีๆมาให้ทางเราได้ซื้อมาทำรีวิวกันนะครับ 🙂 สุดท้ายนี้ถ้าใครชอบรีวิวของผมก็ฝากกดถูกใจเเละกดไลค์ Facebook TechHangOut เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะงับ

คลิปรีวิว

By : Maxmoreji